ฟรานซ์ เดอ วาลล์: พฤติกรรมศีลธรรมในสัตว์
-
0:00 - 0:02ผมเกิดที่เมืองเดน บอช (Den Bosch)
-
0:02 - 0:05ที่ซึ่งจิตรกรนามเฮียโรนีมุส บอช
(Hieronymus Bosch) ตั้งชื่อตนตามชื่อเมืองๆนี้ -
0:05 - 0:07และนั้นก็ทำให้ผมชื่นชอบศิลปินท่านนี้เรื่อยมา
-
0:07 - 0:10ศิลปินท่านนี้มีชีวิตและสร้างผลงาน
อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 15 -
0:10 - 0:12สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเขาเกี่ยวกับเรื่องของศีลธรรม
-
0:12 - 0:15ก็คือในเวลาที่เขามีชีวิตอยู่นั้น
อิทธิพลทางศาสนาค่อยๆเสื่อมลง -
0:15 - 0:17ผมคิดว่า เขาเองก็คงสงสัยอยู่เหมือนกัน
-
0:17 - 0:19ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสังคม
-
0:19 - 0:22หากสังคมไร้เสียซึ่งศาสนาหรือ
มีความเชื่อทางศาสนาเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย -
0:22 - 0:25แรงบันดาลใจนี้เป็นที่มาของภาพวาดอันโด่งดังของเขา
ที่ชื่อว่า "The Garden of Earthly Delights" -
0:25 - 0:27บางคนก็ได้ตีความภาพดังกล่าวว่า
-
0:27 - 0:29คือสภาวะของมนุษยชาติก่อนจะถึงจุดดับ
-
0:29 - 0:32หรือสภาวะของมนุษย์ชาติที่ไม่มีวันถึงจุดดับเลย
-
0:32 - 0:34ภาพวาดก็คงทำให้เราท่านสงสัยเหมือนกันว่า
-
0:34 - 0:37ถ้าหากบรรพบุรุษไม่ได้ลิ้มรสผลไม้แห่งความรู้แจ้ง
มนุษย์ชาติจะเป็นอย่างไรนะ -
0:37 - 0:40คุณธรรมอย่างที่เรารู้จักกันจะเป็นอย่างไร
-
0:40 - 0:42สมัยที่ผมยังเป็นเด็กนักเรียน
-
0:42 - 0:44ผมเคยไปที่สวนที่พิเศษมากๆอีกแห่งหนึ่ง
-
0:44 - 0:47สวนสัตว์แห่งหนึ่งที่เมืองอานเฮม
-
0:47 - 0:49ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่พวกเราเลี้ยงซิมแปนซีเอาใว้
-
0:49 - 0:51และนี่ก็คือรูปผมสมัยเด็กๆ ถ่ายกับลูกซิมแปนซี
-
0:51 - 0:54(หัวเราะ)
-
0:54 - 0:56ผมได้ค้นพบว่า
-
0:56 - 0:59ซิมแปนซีเป็นสัตว์ที่กระหายอำนาจมากๆ
ผมเคยเขียนหนังสือเล่าถึงเรื่องนี้ด้วย -
0:59 - 1:02ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง
งานวิจัยต่างๆที่เน้นศึกษาพฤติกรรมสัตว์ป่า -
1:02 - 1:04ส่วนใหญ่นั้นมุ่งเน้นไปที่ความก้าวร้าว
และการแข่งขันกันเอง -
1:04 - 1:06ผมได้เคยชี้ประเด็นนี้เอาไว้ว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
-
1:06 - 1:08ที่รวมถึงมนุษยชาติด้วยนั้น
-
1:08 - 1:10ในก้นบึ้งของจิตใจ พวกเราชื่นชอบการแข่งขัน
-
1:10 - 1:12เราเป็นพวกก้าวร้าว
-
1:12 - 1:15โดยพื้นฐานแล้ว เราต่างก็มุ่งแสวงหา
ผลประโยชน์ให้ตัวเอง -
1:15 - 1:17นี่คืองานเปิดตัวหนังสือของผม
-
1:17 - 1:19ผมไม่ค่อยมั่นใจนักว่าพวกลิง
อ่านหนังสือรู้เรื่องแค่ไหน -
1:19 - 1:23แต่ก็มั่นใจว่าพวกลิงมันชอบหนังสือเล่มนั้นมาก
-
1:24 - 1:26หลังจากนั้น เมื่อผมได้เริ่ม
-
1:26 - 1:28จับงานที่มุ่งศึกษาเรื่องอำนาจและการปกครอง
-
1:28 - 1:30ความก้าวร้าว และเรื่องอื่นๆ
-
1:30 - 1:33ผมก็ได้พบว่า ซิมแปนซีก็มีพฤติกรรม
ประนีประนอมกันหลังการต่อสู้ -
1:33 - 1:36อย่างที่คุณเห็นในรูป คือลิงตัวผู้สองตัว
ที่เพิ่งห้ำหั่นกันมาไม่นาน -
1:36 - 1:39สุดท้ายลิงทั้งสองตัวได้ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้
และตัวหนึ่งก็ยื่นมือส่งออกไปยังอีกฝ่าย -
1:39 - 1:42หลังจากผมถ่ายรูปนี้ไม่กี่วินาที
พวกมันก็ปีนลงมาที่โคนต้นไม้ -
1:42 - 1:44หลังจากนั้นก็ตรงเข้าไปจูบและสวมกอดกันและกัน
-
1:44 - 1:46นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แล้ว
-
1:46 - 1:49เพราะในเวลาอย่างนี้ ทุกอย่างน่าจะมุ่งไปที่
การแข่งขันและความก้าวร้าวเท่านั้น -
1:49 - 1:51ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงมากๆ
-
1:51 - 1:53เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ
ใครจะชนะ ใครจะแพ้ -
1:53 - 1:55แล้วทำไมจะต้องคืนดีกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย?
-
1:55 - 1:57พฤติกรรมลักษณะนี้จึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงมากๆ
-
1:57 - 2:00ส่วนนี่คือสิ่งที่โบโนโบชอบทำ ลิงพวกนี้
ใช้การร่วมเพศเป็นเครื่องมือสำหรับแทบทุกเรื่อง -
2:00 - 2:02แม้กระทั่งการกลับมาปรองดองกันหลังการต่อสู้
-
2:02 - 2:04แต่หลักการค่อนข้างจะเหมือนกัน
-
2:04 - 2:06หลักการที่พวกคุณมี
-
2:06 - 2:08ต่อความสัมพันธ์ที่มีค่า
-
2:08 - 2:10ซึ่งถูกทำลายลงโดยความขัดแย้ง
-
2:10 - 2:12ดังนั้น คุณควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน
-
2:12 - 2:14ดังนั้น ภาพรวมอาณาจักรสัตว์ของผม
-
2:14 - 2:16ซึ่งรวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วย
-
2:16 - 2:18ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นั้นมา
-
2:18 - 2:20เราจึงเกิดภาพลักษณ์เหล่านั้นขึ้น
-
2:20 - 2:22ในทางรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์
-
2:22 - 2:24ปรัชญาต่อเหตุการณ์เหล่านั้น
-
2:24 - 2:26ที่คนนั้นเปรียบเหมือนหมาป่าต่ออีกคน
-
2:26 - 2:29และลึกลงไปในธรรมชาติของพวกเรา
แท้จริงแล้วช่างน่าสะอิดสะเอียน -
2:29 - 2:32แล้วผมว่ามันไม่ค่อยจะยุติธรรมต่อหมาป่า
เท่าไหร่นักหากเราไปมอบภาพลักษณ์เหล่านั้นให้ -
2:32 - 2:34เพราะจริงๆแล้ว หมาป่านั้น
-
2:34 - 2:36เป็นสัตว์ที่ร่วมมือกันดีมาก
-
2:36 - 2:38นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณถึงเลี้ยงสุนัขที่บ้าน
-
2:38 - 2:40สุนัขมีคุณลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
-
2:40 - 2:42แล้วมันก็ดูไม่ค่อยยุติธรรมต่อมนุษยธรรมเท่าไหร่
-
2:42 - 2:46เพราะมนุษยธรรมนั้นมีมากกว่าความร่วมมือ
และความเข้าอกเข้าใจกัน -
2:46 - 2:48มากกว่าคุณค่าที่เรานิยามให้มัน
-
2:48 - 2:50ดังนั้น ผมก็เริ่มสนใจเรื่องพวกนี้ขึ้นเรื่อยๆ
-
2:50 - 2:52แล้วก็ศึกษาในกลุ่มสัตว์ประเภทอื่น
-
2:52 - 2:54และภาพนี้ คือ เสาหลักแห่งศีลธรรม
-
2:54 - 2:58หากพวกคุณถามใครๆว่า "ความมีศีลธรรม
ตัดสินมาจากอะไร" -
2:58 - 3:00ก็มักจะนึกถึงสองปัจจัยนี้ขึ้นมา
-
3:00 - 3:02หนึ่ง คือการพึ่งพาอาศัยกัน
-
3:02 - 3:05รวมไปถึงความรู้สึกถึงความยุติธรรม
ความรู้สึกถึงความเท่าเทียม -
3:05 - 3:07และอีกปัจจัยนึง ก็คือความเข้าอกเข้าใจ
และความเห็นใจกัน -
3:07 - 3:10และความมีศีลธรรมของมนุษย์มากกว่าสิ่งเหล่านั้น
-
3:10 - 3:12แต่ถ้าหากคุณลองเอาเสาหลักสองอันนั้นออกไป
-
3:12 - 3:14คงไม่มีอะไรเหลืออยู่นักเท่าไหร่
-
3:14 - 3:16และมันคงจะต้องสำคัญมากจริงๆ
-
3:16 - 3:18ผมจะยกตัวอย่างสักนิดให้คุณดู
-
3:18 - 3:20นี่เป็นวิดีโอเก่าจาก ศูนย์ศึกษาไพรเมตแห่งเยิร์คคีส์
(Yerkes) -
3:20 - 3:23ที่ซึ่งฝึกให้เหล่าชิมแปนซีร่วมมือกัน
-
3:23 - 3:26แล้วนั่นมันก็เกือบร้อยปีมาแล้ว
-
3:26 - 3:29ที่เราทำการทดลองศึกษาเกี่ยวกับความร่วมมือกัน
-
3:29 - 3:32ที่คุณดูอยู่นี่คือลูกชิมแปนซีที่มีกล่องอยู่กล่องหนึ่ง
-
3:32 - 3:35และกล่องนี้ก็หนักเกินไปสำหรับลูกชิมป์
เพียงตัวเดียวที่จะดึงมัน -
3:35 - 3:37และแน่นอน ในกล่องนั้น มีอาหารอยู่
-
3:37 - 3:39ไม่งั้นพวกมันคงไม่ดึงแรงขนาดนี้
-
3:39 - 3:41แล้วพวกมันก็ดึงกล่องเข้ามาได้
-
3:41 - 3:43เห็นไหมว่าพวกมันพร้อมเพรียง
เป็นจังหวะเดียวกันเลย -
3:43 - 3:46จะเห็นว่าเมื่อพวกลูกลิงทำงานร่วมกัน
พวกมันดึงกล่องในช่วงเวลาเดียวกัน -
3:46 - 3:49นี่ค่อนข้างเป็นความฉลาดล้ำกว่าสัตว์พวกอื่น
-
3:49 - 3:51เพราะสัตว์อื่นคงทำเช่นนี้ไม่ได้
-
3:51 - 3:53แล้วคุณจะพบภาพที่น่าสนใจมากกว่านี้
-
3:53 - 3:56เพราะทีนี้เมื่อลูกชิมป์ตัวหนึ่งถูกป้อนอาหารแล้ว
-
3:56 - 3:58ดังนั้นมันจึงไม่สนใจ
-
3:58 - 4:01ในงานนี้อีกต่อไป
-
4:01 - 4:04(เสียงหัวเราะ)
-
4:08 - 4:13(เสียงหัวเราะ)
-
4:19 - 4:22(เสียงหัวเราะ)
-
4:35 - 4:38มาดูกันว่า เกิดอะไรขึ้นในตอนจบ
-
4:41 - 4:43(เสียงหัวเราะ)
-
4:52 - 4:54อีกตัวมันเอาอาหารไปหมดเลย
-
4:54 - 4:57(เสียงหัวเราะ)
-
4:57 - 4:59ดังนั้น เรื่องนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่สองส่วน
-
4:59 - 5:01หนึ่ง คือ ชิมป์ทางขวามือ
-
5:01 - 5:03เข้าใจดีว่าตัวมันเองต้องการผู้ร่วมงาน
-
5:03 - 5:05แล้วก็เข้าใจถึงความจำเป็นของการร่วมมือกัน
-
5:05 - 5:08แต่อีกตัวที่เป็นผู้ร่วมงานก็เต็มใจจะช่วยเหลือ
-
5:08 - 5:10แม้ว่ามันไม่ได้สนใจในอาหารเท่าไหร่นัก
-
5:10 - 5:13ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นั่นอาจเกี่ยวกับเรื่อง
การพึ่งพาอาศัยกัน -
5:13 - 5:15แล้วก็มีหลักฐานอีกหลายอย่างใน
กลุ่มสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์อื่นๆ -
5:15 - 5:17ว่าพวกมันตอบแทนความช่วยเหลือกัน
-
5:17 - 5:19ดังนั้น มันก็จะได้รับการตอบแทนคืน
ความช่วยเหลือกลับมา -
5:19 - 5:21เช่นกันในอนาคต
-
5:21 - 5:23และนั่นคือวิธีที่สิ่งเหล่านี้ดำเนินไป
-
5:23 - 5:25เราลองทดสอบในช้างเช่นเดียวกัน
-
5:25 - 5:28นี่คือช้าง ค่อนข้างอันตรายนะครับ
-
5:28 - 5:30แล้วอีกปัญหาเกี่ยวกับช้างคือ
-
5:30 - 5:32คุณไม่รู้จะหาอุปกรณ์อะไร
-
5:32 - 5:34ที่จะหนักเกินไปสำหรับให้ช้างตัวนึงออกแรงลาก
-
5:34 - 5:36แต่ถึงแม้คุณจะสร้างมันได้
-
5:36 - 5:38แต่ผมว่ามันยังดูง่อนแง่นเกินไปนะ
-
5:38 - 5:40แล้วในกรณีนี้ สิ่งที่เราทำคือ
-
5:40 - 5:43เราได้ทำการศึกษาเหล่านี้ที่ประเทศไทย
ให้แก่ จอร์จ พล็อตนิค (Josh Plotnik) -
5:43 - 5:46เรามีอุปกรณ์ที่ผูกด้วยเชือก เชือกเส้นเดียว
-
5:46 - 5:48และหากคุณดึงอีกด้านนึงของเชือก
-
5:48 - 5:50เชือกจะหายไปจากอีกด้านนึง
-
5:50 - 5:53ดังนั้น ช้างสองตัวต้องหยิบมันขึ้นมาพร้อมกันและดึง
-
5:53 - 5:55มิฉะนั้น ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
-
5:55 - 5:57แล้วเชือกก็จะหายไป
-
5:57 - 5:59ในเทปแรกนี้คุณจะเห็นว่า
-
5:59 - 6:01ช้างสองตัวที่ปล่อยออกไปพร้อมกัน
-
6:01 - 6:03ไปถึงที่อุปกรณ์
-
6:03 - 6:06อุปกรณ์นั่นอยู่ทางซ้ายพร้อมด้วยอาหาร
-
6:06 - 6:09มันเดินมาด้วยกัน ถึงพร้อมกัน
-
6:09 - 6:11พวกมันหยิบเชือกขึ้นพร้อมกันแล้วดึงพร้อมกัน
-
6:11 - 6:14นี่ดูค่อนข้างง่ายสำหรับพวกมัน
-
6:15 - 6:17นั่น มันมาแล้ว
-
6:24 - 6:26และนั่นคือวิธีที่พวกมันดึงกล่องเข้ามา
-
6:26 - 6:28แต่เราจะลองทำให้มันยากขึ้น
-
6:28 - 6:30เพราะจุดประสงค์หลักของการทดลองนี้
-
6:30 - 6:32คือการดูว่าพวกมันเข้าใจถึงการ่วมมือกัน
ได้ดีขนาดไหน -
6:32 - 6:35พวกมันจะเข้าใจได้เท่ากันกับพวกชิมป์ไหม?
-
6:35 - 6:37เราจึงทดลองในขั้นต่อไป
-
6:37 - 6:39โดยการปล่อยช้างออกมาก่อนตัวหนึ่ง
-
6:39 - 6:41และช้างนี่จำเป็นต้องฉลาดพอ
-
6:41 - 6:43ที่จะหยุดรอตรงนั้น และไม่ดึงเชือกนั่น
-
6:43 - 6:46เพราะหากว่ามันดึงเชือกแล้วเชือกก็จะหายไป
และถือเป็นอันจบการทดสอบ -
6:46 - 6:48แล้วช้างตัวนี้ก็ทำอะไรบ้างอย่างที่ผิดกฎ
-
6:48 - 6:50ที่เราไม่ได้สอนมันมาก่อน
-
6:50 - 6:52แต่มันก็แสดงให้เห็นความเข้าใจที่พวกมันมี
-
6:52 - 6:55เพราะมันวางเท้าใหญ่ๆของมันลงบนเชือก
-
6:55 - 6:57ยืนที่ตรงนั้นและรอช้างอีกตัวหนึ่ง
-
6:57 - 7:00แล้วให้ช้างอีกตัวออกแรงทำงานทั้งหมด
-
7:00 - 7:03นี่เรียกว่า กินแรง นะครับ
-
7:03 - 7:05(เสียงหัวเราะ)
-
7:05 - 7:08แต่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดที่พวกมันมี
-
7:08 - 7:11พวกมันได้พัฒนาเทคนิคอื่นๆอีกหลายอย่าง
-
7:11 - 7:14ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากเรา
-
7:14 - 7:19นั่น ช้างอีกตัวมาแล้ว
-
7:19 - 7:22แล้วมันก็กำลังดึง
-
7:38 - 7:41นี่ดูอีกตัวสิ แน่นอนมันยังไม่ลืมที่จะกินอาหารเลย
-
7:41 - 7:45(เสียงหัวเราะ)
-
7:45 - 7:47นี่เรียกว่าความร่วมมือกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของการพึ่งพาอาศัย -
7:47 - 7:49แล้ว ความเข้าอกเข้าใจกันล่ะ
-
7:49 - 7:51การรับรู้ถึงความเข้าอกเข้าใจกัน
เป็นหัวข้อหลักของงานวิจัยขณะนั้น -
7:51 - 7:53และความเข้าอกเข้าใจก็มีสองระดับ
-
7:53 - 7:56ระดับหนึ่งคือ การรับรู้ถึงมัน
ซึ่งเป็นนิยามโดยปกติอยู่แล้ว -
7:56 - 7:58ซึ่งก็คือ ความสามารถในการรับรู้เข้าใจ
และแบ่งปันความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง -
7:58 - 7:59และอีกระดับนึง คือ ส่วนที่เกี่ยวข้อง
กับอารมณ์ความรู้สึก -
7:59 - 8:01ดังนั้น
-
8:01 - 8:02ความเข้าอกเข้าใจกันโดยมี 2 ช่องทางในการสื่อสาร
-
8:02 - 8:04ช่องทางแรกคือ ทางร่างกาย
-
8:04 - 8:06หากคุณคุยกับคนที่โศกเศร้า
-
8:06 - 8:09คุณก็จะได้รับความรู้สึกเศร้า
และท่าทางเศร้าสร้อยนั้นมา -
8:09 - 8:11และมันก็เกิดขึ้นก่อนคุณจะรู้ตัวเสียอีก
-
8:11 - 8:14และนั่นคือ การสื่อสารผ่านร่างกาย
ของความอกเข้าความใจในอารมณ์ -
8:14 - 8:16ซึ่งมีในสัตว์หลายๆชนิด
-
8:16 - 8:18สุนัขทั่วไปก็มีเช่นกัน
-
8:18 - 8:20นั่นเป็นเหตุว่าทำไมมนุษย์ถึงได้เลี้ยง
สัตว์เลือดอุ่นไว้ในบ้าน -
8:20 - 8:22แต่ไม่ใช่เต่าหรืองู หรืออะไรพวกนั้น
-
8:22 - 8:24สัตว์ที่ไม่รู้จักถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
-
8:24 - 8:26แล้วก็มีช่องทางของกระบวนการคิด
-
8:26 - 8:28ซึ่งคล้ายกับการเอาตัวเองไปอยู่ในมุมมองของผู้อื่น
-
8:28 - 8:30มันมีอยู่อย่างจำกัดมาก
-
8:30 - 8:32ในสัตว์ไม่กี่ชนิด ผมคิดว่าช้างและลิง
สามารถทำสิ่งนั้นได้ -
8:32 - 8:35แต่ก็มีสัตว์ไม่กี่ชนิดสามารถทำได้เช่นกัน
-
8:35 - 8:37ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
-
8:37 - 8:39ซึ่งเป็นกระบวนการของการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น
-
8:39 - 8:41ที่เกิดขึ้นมาช้านานในอาณาจักรสัตว์
-
8:41 - 8:43และในสังคมมนุษย์ แน่นอนครับ
เราได้ทำการศึกษามัน -
8:43 - 8:45นั่นคือ การหาวติดต่อ
-
8:45 - 8:47มนุษย์มักจะหาวเมื่อคนอื่นหาว
-
8:47 - 8:49มันมีความเชื่อมโยงกับการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น
-
8:49 - 8:51มันเกิดการกระตุ้นที่บริเวณเดียวกันของสมอง
-
8:51 - 8:53แล้วเราก็รู้ว่าคนที่มีอาการหาวติดต่อมากๆนั้น
-
8:53 - 8:55ค่อนข้างมีความเห็นใจเข้าใจผู้อื่นสูง
-
8:55 - 8:57คนที่มีความผิดปกติกับการเข้าใจผู้อื่น
เช่นเด็กออทิสติก -
8:57 - 8:59พวกเขาจะไม่เกิดการหาวติดต่อ
-
8:59 - 9:01มันจึงเชื่อมโยงกัน
-
9:01 - 9:04เราได้ศึกษาในชิมแปนซีด้วยการให้พวกมัน
ดูตัวการ์ตูนลิงที่มีเฉพาะส่วนหัว -
9:04 - 9:06นี่ครับ มันเป็นแบบด้านซ้ายบน
-
9:06 - 9:08ภาพหัวการ์ตูนจะหาว
-
9:08 - 9:10แล้วนั่น เจ้าชิมแปนซีกำลังดูอยู่
-
9:10 - 9:13ชิมแปนซีตัวจริงกำลังดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์
-
9:13 - 9:16ซึ่งเรากำลังเปิดให้ดู
-
9:20 - 9:22(เสียงหัวเราะ)
-
9:22 - 9:24แล้วก็เกิด "หาวติดต่อ"
-
9:24 - 9:26บางที่คุณอาจจะคุ้นเคยบ้างว่า --
-
9:26 - 9:29แล้วคุณอาจจะเริ่มหาวแล้วก็ได้
-
9:29 - 9:32นี่เป็นสิ่งที่เราแบ่งปันกันกับสัตว์ประเภทอื่น
-
9:32 - 9:35มันเชื่อมต่อกับทั้งร่างกายอย่างพร้อมเพรียงกัน
-
9:35 - 9:37นั่นมันซ่อนอยู่ภายใต้ความเข้าใจผู้อื่น
-
9:37 - 9:40และพบได้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแทบทุกชนิด
-
9:40 - 9:43ตอนนี้เรายังศึกษาการแสดงออกที่ซับซ้อนมากขึ้น
นี่คือการปลอบโยน -
9:43 - 9:46นี่คือชิมแปนซีตัวผู้ ที่เพิ่งแพ้ในการต่อสู้
และมันกำลังกรีดร้อง -
9:46 - 9:48และลิงตัวที่เด็กกว่าเข้ามาหาและโอบแขนรอบๆมัน
-
9:48 - 9:50และทำให้มันสงบลง
-
9:50 - 9:53นั่นคือการปลอบโยน มันคล้ายมากกับ
การปลอบโยนในมนุษย์ -
9:53 - 9:56และพฤติกรรมการปลอบโยนนี้
-
9:56 - 9:58ถูกขับเคลื่อนโดยความเห็นอกเห็นใจ
-
9:58 - 10:01จริงๆ แล้ววิธีที่จะศึกษาเรื่องความเห็นใจ
ในเด็กที่เป็นมนุษย์นั้น -
10:01 - 10:03คือการสั่งให้คนในครอบครัวทำท่าทางเศร้าสร้อย
-
10:03 - 10:05และจากนั้นพวกเขาก็สังเกตว่าเด็กจะทำอย่างไร
-
10:05 - 10:07ดังนั้นมันจึงเกี่ยวข้องกับการเห็นอกเห็นใจ
-
10:07 - 10:10และนั่นคือการแสดงออกที่เราศึกษา
-
10:10 - 10:13เมื่อเร็วๆนี้เรายังได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่คุณอาจเคยได้ยิน
-
10:13 - 10:16เกี่ยวกับความเผื่อแผ่ในชิมแปนซี
-
10:16 - 10:18ที่ซึ่งคำถามคือ ชิมแปนซีห่วงใย
-
10:18 - 10:20ความเป็นอยู่ของลิงตัวอื่นๆ ไหม
-
10:20 - 10:22และนานนับทศวรรษ เราคิดเองว่า
-
10:22 - 10:24มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้
-
10:24 - 10:27มีเพียงแค่มนุษย์ที่ห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของคนอื่นๆ
-
10:27 - 10:29ทีนี้เราทำการทดลองที่ง่ายมากๆ
-
10:29 - 10:32เราทดลองกับชิมแปนซีที่อาศัยอยู่ในลอว์เรนซ์วิลล์ (Lawrenceville)
-
10:32 - 10:34ที่สถานีทดลองภาคสนามที่เยิร์คคีส์
-
10:34 - 10:36และนั่นคือวิถีชีวิตของมัน
-
10:36 - 10:39เราเอาพวกมันเข้ามาในห้อง
และทำการทดลองกับพวกมัน -
10:39 - 10:41ในกรณีนี้ เราเอาชิมแปนซีสองตัวไว้ในห้องติดๆกัน
-
10:41 - 10:44และมีถังอยู่ใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยเหรียญ
และเหรียญเหล่านั้นมีความหมายต่างกัน -
10:44 - 10:47เหรียญแบบหนึ่งจะให้อาหารแต่กับลิงตัวที่เลือก
-
10:47 - 10:49และอีกเหรียญหนึ่งจะให้อาหารกับทั้งสองตัว
-
10:49 - 10:52นี่คือการศึกษาที่เราทำพร้อมด้วย วิคกี้ ฮอร์เนอร์
(Vicky Horner) -
10:53 - 10:55และในกรณีนี้คุณมีเหรียญสองสี
-
10:55 - 10:57พวกเขามีถังที่เต็มไปด้วยเหรียญ
-
10:57 - 11:00และพวกมันจะต้องเลือกหนึ่งในสองสี
-
11:00 - 11:03คุณจะเห็นว่าผลมันออกมาอย่างไร
-
11:03 - 11:06ถ้าลิงเลือกตัวเลือกที่เห็นแก่ตัว
-
11:06 - 11:09ซึ่งคือเหรียญสีแดงในกรณีนี
-
11:09 - 11:11มันต้องเอาเหรียญให้กับเรา
-
11:11 - 11:14เราหยิบเหรียญขึ้น วางบนโต๊ะ
ที่ซึ่งอาหารสองชิ้นจะถูกให้เป็นรางวัล -
11:14 - 11:17แต่ในกรณีนี้ตัวทางขวาตัวเดียวเท่านั้นจะได้อาหาร
-
11:17 - 11:19ตัวทางด้านซ้ายเดินหนีเพราะมันรู้ผลอยู่แล้ว
-
11:19 - 11:22ว่าการทดสอบนี้ไม่ดีสำหรับเธอ
-
11:22 - 11:24อันถัดไปเป็นเหรียญแห่งการแบ่งปัน
-
11:24 - 11:27ลิงตัวที่มีหน้าที่เลือก
นี่ถึงตอนที่น่าสนใจแล้วครับ -
11:27 - 11:29สำหรับตัวที่เป็นผู้เลือก
-
11:29 - 11:31มันไม่สำคัญเลยว่ามันจะเลือกสีอะไร
-
11:31 - 11:34ตอนนี้มันให้เหรียญแห่งการแบ่งปัน
และลิงทั้งสองตัวก็จะได้อาหาร -
11:34 - 11:37ลิงตัวที่เป็นผู้เลือกจะได้อาหารเสมอ
-
11:37 - 11:39มันไม่สำคัญว่ามันเลือกสีอะไร
-
11:39 - 11:41ดังนั้นมันควรจะเลือกแบบสุ่ม
-
11:41 - 11:43แต่สิ่งที่เราพบ
-
11:43 - 11:45คือพวกมันชอบเหรียญแห่งการแบ่งปัน
-
11:45 - 11:48นี่คือเส้น 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นความคาดหวัง
จากการเลือกแบบสุ่ม -
11:48 - 11:51และถ้าเพื่อนของมันเพ่งความสนใจ
ไปที่มันเป็นพิเศษ มันจะเลือกมากขึ้น -
11:51 - 11:54แต่ถ้าเพื่อนกดดันมันมากๆ
-
11:54 - 11:57เช่นถ้าเพื่อนเริ่มพ่นน้ำ และข่มขู่มัน
-
11:57 - 12:00ผลการเลือกจะแย่ลง
-
12:00 - 12:02เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆว่า
-
12:02 - 12:04"ถ้าแกไม่ทำตัวดีๆ วันนี้ฉันจะไม่เผื่อแผ่กับแก"
-
12:04 - 12:06และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีลิงอีกตัวอยู่
-
12:06 - 12:08เมื่อไม่มีลิงอีกตัวนั่งอยู่ตรงนั้น
-
12:08 - 12:10ดังนั้นเราพบว่าชิมแปนซีนั้นห่วงใย
-
12:10 - 12:12ความเป็นอยู่ของลิงตัวอื่นๆ
-
12:12 - 12:15โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเป็นลิงที่เป็นสมาชิก
ของฝูงเดียวกัน -
12:15 - 12:18การทดลองสุดท้ายที่ผมอยากจะเล่าให้คุณฟัง
-
12:18 - 12:20คือการศึกษาเรื่องความยุติธรรม
-
12:20 - 12:23และมันได้กลายเป็นการศึกษาที่โด่งดัง
-
12:23 - 12:25และตอนนี้ก็มีการศึกษาลักษณะเดียวกัน
อีกมากมาย -
12:25 - 12:27หลังจากการศึกษาของเราเมื่อ 10 ปีก่อน
-
12:27 - 12:29มันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
-
12:29 - 12:31เราทำการศึกษากับลิงคาปูชิน (capuchin)
-
12:31 - 12:34และผมจะแสดงให้คุณเห็นถึงการทดลองที่เราได้ทำ
-
12:34 - 12:37ซึ่งบัดนี้มันได้ถูกนำไปทดลองกับสุนัขและนก
-
12:37 - 12:39และกับชิมแปนซี
-
12:39 - 12:43แต่การทดลองนี้ซึ่งเราร่วมทำกับซาร่าห์ บรอสแนน (Sarah Brosnan) เราเริ่มทดลองกับลิงคาปูชิน
-
12:43 - 12:45สิ่งที่เราได้ทำ
-
12:45 - 12:47คือเราเอาลิงคาปูชินสองตัวไว้ในกรงติดๆกัน
-
12:47 - 12:49และเช่นกัน สัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
มันรู้จักกัน -
12:49 - 12:52เราเอามันออกมาจากฝูง และใส่ไว้ในห้องทดสอบ
-
12:52 - 12:54และเรากำหนดงานง่ายๆ
-
12:54 - 12:56ซึ่งพวกมันต้องทำ
-
12:56 - 12:59และถ้าคุณให้แตงกวาเป็นรางวัลสำหรับงานที่ทำ
-
12:59 - 13:01ลิงทั้งสองตัวที่อยู่ติดๆกัน
-
13:01 - 13:03พวกมันเต็มอกเต็มใจจะทำงานนี้ 25 ครั้ง
ติดต่อกันเลย -
13:03 - 13:07ดังนั้น แตงกวา แม้ว่ามันเป็นเพียงแค่น้ำ
ในความคิดของผม -
13:07 - 13:10แต่พวกมันก็พอใจแล้วกับแค่แตงกวา
-
13:10 - 13:13ทีนี้ ถ้าคุณเอาองุ่นให้ลิงตัวหนึ่ง
-
13:13 - 13:15ซึ่งเป็นอาหารที่ชื่นชอบของลิงคาปูชิน
-
13:15 - 13:18ซึ่งราคาในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็แพงกว่าด้วย
-
13:18 - 13:21ดังนั้นถ้าคุณให้องุ่นกับพวกมัน
นั่นเป็นอาหารที่ดีกว่ามาก -
13:21 - 13:24นั่นแปลว่าคุณสร้างความไม่เท่าเทียมระหว่างพวกมัน
-
13:24 - 13:26ดั้งนั้น นั่นคือการทดลองที่เราทำ
-
13:26 - 13:29เมื่อเร็วๆนี้ เราบันทึกวิดีโอลิงคู่ใหม่
ที่ไม่เคยทำงานนี้มาก่อน -
13:29 - 13:31เราคิดว่าบางทีเราอาจได้การตอบสนองที่รุนแรงกว่า
-
13:31 - 13:33และปรากฏว่าเราคิดถูก
-
13:33 - 13:35ลิงตัวทางซ้าย คือลิงที่ได้แตงกวา
-
13:35 - 13:38ลิงตัวทางขวา คือตัวที่ได้องุ่น
-
13:38 - 13:40ตัวที่ได้แตงกวา
-
13:40 - 13:42โปรดสังเกตว่าแตงกวาชิ้นแรกนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย
-
13:42 - 13:45มันกินแตงกวาชิ้นแรก
-
13:45 - 13:48แต่เมื่อมันเห็นลิงอีกตัวได้องุ่น
คุณจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น -
13:48 - 13:51มันให้ก้อนหินกับเรา นั่นคืองานที่เราให้ทำ
-
13:51 - 13:54เราให้แตงกวาชิ้นหนึ่งแกมัน และมันก็กิน
-
13:54 - 13:57ลิงอีกตัวต้องให้ก้อนหินกับเรา
-
13:57 - 14:00และนั่นคือสืงที่มันทำ
-
14:00 - 14:03และมันได้องุ่นเป็นรางวัล และมันก็กิน
-
14:03 - 14:05อีกตัวหนึ่งมองเห็น
-
14:05 - 14:07มันให้ก้อนหินกับเราอีก
-
14:07 - 14:10และก็ได้แตงกวาอีก
-
14:12 - 14:27(เสียงหัวเราะ)
-
14:27 - 14:30มันทดสอบก้อนหินกับกำแพงดู
-
14:30 - 14:32มันต้องเอาก้อนหินให้เรา
-
14:32 - 14:35และมันก็ได้แตงกวาอีก
-
14:37 - 14:41(เสียงหัวเราะ)
-
14:43 - 14:47นี่มันคือการประท้วงตามวอลล์สตรีทดีๆนี่เอง
-
14:47 - 14:50(เสียงหัวเราะ)
-
14:50 - 14:53(เสียงปรบมือ)
-
14:53 - 14:55ผมจะเล่าให้ฟัง
-
14:55 - 14:57ผมยังเหลืออีกสองนาที ให้ผมเล่าเรื่องตลกๆ
ให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ -
14:57 - 14:59การศึกษานี้เป็นที่โด่งดัง
-
14:59 - 15:01และเราได้รับคำวิจารณ์มากมาย
-
15:01 - 15:03นักมานุษยวิทยา นักเศรษฐศาสตร์
-
15:03 - 15:05นักปราชญ์
-
15:05 - 15:07พวกเขาไม่ชอบมันเอาเสียเลย
-
15:07 - 15:10ผมเชื่อว่า นั่นเป็นเพราะพวกเขามีความคิดอยู่ในใจ
-
15:10 - 15:12ว่าความยุติธรรมนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน
-
15:12 - 15:14และสัตว์ไม่มีทางรับรู้ถึงมัน
-
15:14 - 15:16และนักการกุศลคนหนึ่งเขียนมาหาเรา
-
15:16 - 15:19ว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่าลิงไม่มีทางรับรู้ถึงความยุติธรรม
-
15:19 - 15:22เพราะความยุติธรรมนั้นถูกสร้างขึ้นมา
ระหว่างยุคปฏิวัติฝรั่งเศส -
15:22 - 15:24(เสียงหัวเราะ)
-
15:24 - 15:27ส่วนอีกคนเขียนมาเสียยาวยืด
-
15:27 - 15:31ว่าเขาจะเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับความยุติธรรม
-
15:31 - 15:33ก็ต่อเมื่อลิงตัวที่ได้องุ่นจะต้องปฏิเสธองุ่นนั้น
-
15:33 - 15:35ที่ตลกก็คือ ซาราห์ บรอสแนน
-
15:35 - 15:37ผู้ซึ่งทำการทดลองนี้ในชิมแปนซี
-
15:37 - 15:39ทำการทดลองกับชิมแปนซีสองคู่
-
15:39 - 15:42และปรากฎว่าลิงตัวที่ต้องได้องุ่นจะปฏิเสธองุ่นนั้น
-
15:42 - 15:44จนกว่าลิงอีกตัวจะได้องุ่นด้วย
-
15:44 - 15:47ดังนั้นเราจึงเข้าใกล้มากแล้วสำหรับสิ่ง
ที่มนุษย์เรียกว่าความยุติธรรม -
15:47 - 15:51และผมคิดว่านักปราชญ์ควรคิดทบทวนปรัชญา
ของพวกเขาอีกสักพัก -
15:51 - 15:53ดังนั้น ผมจะกล่าวสรุป
-
15:53 - 15:55ผมเชื่อว่าศีลธรรมนั้นมีวิวัฒนาการ
-
15:55 - 15:57ผมคิดว่าศีลธรรมนั้นเป็นอะไร
มากกว่าสิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ -
15:57 - 16:00แต่มันคงเกิดขึ้นไม่ได้หากขาด
ส่วนประกอบเหล่านี้ -
16:00 - 16:02องค์ประกอบที่เราพบในลิงพันธุ์อื่นๆ
-
16:02 - 16:04ซึ่งนั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจ การปลอบโยน
-
16:04 - 16:07การช่วยเหลือกันและกัน
และความรู้สึกถึงความยุติธรรม -
16:07 - 16:10และดังนั้นเราจึงศึกษาในเรื่องนี้
-
16:10 - 16:13เพื่อที่จะหาว่าเราสามารถสร้างศีลธรรมได้
จากจุดเริ่มต้น -
16:13 - 16:15โดยไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้าหรือศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง
-
16:15 - 16:18และเพื่อหาว่าเราสามารถไปถึงศีลธรรม
ที่มีวิวัฒนาการแล้วได้หรือไม่ -
16:18 - 16:21ขอบคุณที่รับฟังครับ
-
16:21 - 16:30(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ฟรานซ์ เดอ วาลล์: พฤติกรรมศีลธรรมในสัตว์
- Speaker:
- ฟรานซ์ เดอ วาลล์ (Frans de Waal)
- Description:
-
ความเห็นอกเห็นใจ การร่วมมือกัน ความยุติธรรม การช่วยเหลือกันและกัน อีกทั้งความห่วงใยความเป็นอยู่ของผู้อื่น ดูเหมือนจะเป็นคุณสมบัติเฉพาะของมนุษย์เท่านั้น แต่ฟรานซ์ เดอ วาลล์ แบ่งปันวิดีโออันน่าทึ่งของการทดลองทางพฤติกรรมของสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่า มีพฤติกรรมด้านศีลธรรมมากแค่ไหนที่ทั้งคนและสัตว์ต่างมีเช่นเดียวกัน
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:31
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna commented on Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Paravee Asava-Anan accepted Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Paravee Asava-Anan edited Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Moral behavior in animals | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for Moral behavior in animals |
Unnawut Leepaisalsuwanna
Great work! Thank you very much for translating and reviewing. I made very few typo corrections and I think it's ready to be published! Thank you again krub.