Return to Video

วิกฤติผู้ลี้ภัยคือบททดสอบของความเป็นมนุษย์

  • 0:01 - 0:04
    ผมจะพูดกับคุณ
    เกี่ยวกับวิกฤติผู้ลี้ภัยทั่วโลก
  • 0:04 - 0:08
    เป้าหมายของผมก็คือ
    การแสดงให้คุณเห็นว่าวิกฤตินี้
  • 0:08 - 0:11
    สามารถจัดการได้ ไม่ใช่แก้ไขไม่ได้
  • 0:12 - 0:17
    และเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่า
    มันเป็นเรื่องของเราและเกี่ยวข้องกับเรา
  • 0:17 - 0:21
    พอ ๆ กับที่เป็นเรื่องที่เหล่าผู้ลี้ภัย
    กำลังเผชิญอยู่โดยตรง
  • 0:21 - 0:24
    สำหรับผมแล้ว นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่
    ภาระทางหน้าที่การงาน
  • 0:24 - 0:29
    เพราะผมดูแลองค์กร NGO
    ที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นทั่วโลก
  • 0:29 - 0:30
    มันเป็นเรื่องในระดับบุคคล
  • 0:31 - 0:33
    ผมชอบภาพนี้
  • 0:34 - 0:36
    ผู้ชายรูปหล่อที่อยู่ด้านขวา
  • 0:36 - 0:37
    นั่นไม่ใช่ผมนะครับ
  • 0:38 - 0:41
    นั่น ราฟ คุณพ่อของผม
    ที่ลอนดอน ปี ค.ศ. 1940
  • 0:41 - 0:43
    กับคุณพ่อของเขาชื่อซามูเอล
  • 0:44 - 0:46
    พวกเขาเป็นผู้ลี้ภัยชายยิวจากเบลเยี่ยม
  • 0:46 - 0:49
    พวกเขาหนีภัยสงครามตอนที่กองทัพนาซีบุก
  • 0:51 - 0:52
    ผมชอบรูปนี้เช่นกัน
  • 0:52 - 0:55
    เป็นรูปกลุ่มเด็ก ๆ ผู้ลี้ภัย
  • 0:55 - 0:58
    จากโปแลนด์ที่เพิ่งไปถึงเกาะอังกฤษ
    ในปี ค.ศ. 1946
  • 0:59 - 1:02
    คนที่อยู่ตรงกลางนั่นคือแม่ของผม มาเรียน
  • 1:03 - 1:06
    เธอถูกส่งมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
  • 1:06 - 1:07
    ในประเทศใหม่
  • 1:07 - 1:08
    ด้วยตัวเองของเธอเอง
  • 1:08 - 1:10
    ในตอนที่เธออายุ 12 ปี
  • 1:11 - 1:13
    ผมรู้ว่า
  • 1:13 - 1:16
    หากอังกฤษไม่รับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ
  • 1:16 - 1:17
    ในช่วง 1940
  • 1:18 - 1:21
    ผมคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แน่ ๆ
  • 1:22 - 1:26
    แม้จะล่วงเลยมา 70 ปี
    วัฏจักรได้เวียนบรรจบครบวง
  • 1:27 - 1:30
    เสียงเกิดก่อเป็นกำแพง
  • 1:30 - 1:32
    วาทะทางการเมืองเต็มไปด้วยความชัง
  • 1:32 - 1:36
    คุณค่าและหลักมนุษยธรรม
    ตกเป็นประเด็นร้อน
  • 1:37 - 1:41
    ในประเทศต่าง ๆ ที่เมื่อ 70 ปีก่อน
    บอกว่า พอเสียที
  • 1:41 - 1:45
    กับเหยื่อสงคราม
    ผู้ไร้สัญชาติและไร้ความหวัง
  • 1:47 - 1:49
    ปีที่แล้ว ทุกนาที
  • 1:50 - 1:54
    คนอีก 24 คน ต้องพลัดถิ่น
    จากบ้านของพวกเขา
  • 1:54 - 1:56
    เนื่องจากความขัดเเย้ง ความรุนแรง
    และการถูกข่มเหง
  • 1:57 - 2:00
    การถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีอีกครั้งในซีเรีย
  • 2:00 - 2:03
    การออกอาละวาดของกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน
  • 2:03 - 2:09
    เด็กหญิงถูกขับไล่จากโรงเรียน
    ในภาคอีสานของไนจีเรีย โดย โบโก ฮาราม
  • 2:10 - 2:13
    พวกเขานี้ไม่ใช่คนที่ย้ายไปต่างประเทศ
  • 2:13 - 2:15
    เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
  • 2:15 - 2:17
    แต่พวกเขาหนีเอาชีวิตรอด
  • 2:19 - 2:20
    โศกนาฏกรรมที่แท้จริงก็คือ
  • 2:22 - 2:27
    ผู้ลี้ภัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
    ไม่อาจมาพูดกับคุณที่นี่ในวันนี้ได้
  • 2:27 - 2:29
    พวกคุณหลาย ๆ คนคงรู้จักภาพนี้
  • 2:30 - 2:32
    ที่แสดงให้เห็นถึงร่างไร้วิญญาณ
  • 2:32 - 2:35
    ของอลัน เคอร์ดิ เด็กชายห้าขวบ
  • 2:35 - 2:39
    ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่เสียชีวิต
    ในทะเลเมดิเตอเรเนียน ปี ค.ศ. 2015
  • 2:39 - 2:43
    พร้อมคนอีก 3,700 คน
    ที่พยายามจะไปให้ถึงยุโรป
  • 2:44 - 2:46
    ถัดมาในปี ค.ศ. 2016
  • 2:47 - 2:49
    คน 5,000 คน เสียชีวิต
  • 2:51 - 2:52
    มันสายเกินไปสำหรับพวกเขา
  • 2:53 - 2:56
    แต่มันยังไม่สายเกินไป
    สำหรับคนอีกหลายล้านคน
  • 2:56 - 2:58
    มันยังไม่สายเกินไปสำหรับคนอย่างเฟรดริก
  • 2:59 - 3:02
    ผมพบเขาในค่ายผู้ลี้ภัยนารูกูซู
    ประเทศแทนซาเนีย
  • 3:02 - 3:03
    เขามาจากประเทศบุรุนดี
  • 3:04 - 3:06
    เขาต้องการทราบว่า
    จะไปเรียนต่อจนจบหลักสูตรได้ที่ไหน
  • 3:06 - 3:09
    เขาเรียนมาแล้ว 11 ปี
    ต้องการเรียนปีที่ 12 อีกปีเดียว
  • 3:09 - 3:14
    เขาบอกผมว่า
    "ผมภาวนาว่าชีวิตของผม
  • 3:14 - 3:15
    จะไม่จบลงในค่ายนี้"
  • 3:16 - 3:18
    และมันยังไม่สายเกินไปสำหรับเฮลัด
  • 3:19 - 3:22
    พ่อแม่ของเธอเป็นผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์
  • 3:22 - 3:25
    ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายยาร์มูค นอกกรุงดามัสกัส
  • 3:25 - 3:27
    เธอคนในครอบครัวผู้ลี้ภัย
  • 3:27 - 3:30
    และตอนนี้เธอเองก็เป็นผู้ลี้ภัย
    ในเลบานอน
  • 3:31 - 3:34
    เธอทำงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยคนอื่น
    ให้คณะกรรมการช่วยเหลือนานาชาติ
  • 3:35 - 3:38
    ทว่าเธอไม่มีความมั่นคง
  • 3:38 - 3:40
    เกี่ยวกับอนาคตของเธอเลยสักนิด
  • 3:40 - 3:42
    ว่ามันอยู่ที่ไหนหรือหน้าตาเป็นอย่างไร
  • 3:42 - 3:46
    การบรรยายนี้
    เกี่ยวกับเฟรดริก เกี่ยวกับเฮลัด
  • 3:46 - 3:48
    และคนอีกหลายล้านที่เหมือนกับพวกเขา
  • 3:48 - 3:50
    ทำไมพวกเขาถึงต้องพลัดถิ่น
  • 3:50 - 3:55
    รอดชีวิตได้อย่างไร ต้องการความช่วยเหลือแบบไหน
    และความรับผิดชอบของเราคืออะไร
  • 3:56 - 3:57
    ผมเชื่อว่า
  • 3:58 - 4:01
    คำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21
  • 4:02 - 4:05
    เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของเรา
    ที่มีต่อคนที่เราไม่รู้จัก
  • 4:05 - 4:09
    "คุณ" ในอนาคตเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของคุณ
  • 4:09 - 4:10
    ที่มีต่อคนที่คุณไม่รู้จัก
  • 4:10 - 4:12
    คุณรู้ดีกว่าใคร
  • 4:12 - 4:16
    ว่าโลกนี้เชื่อมต่อกันมากขึ้นกว่าที่เคย
  • 4:17 - 4:18
    ทว่าภัยที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม
  • 4:18 - 4:21
    กลับเป็นการแบ่งแยกที่กลืนกินพวกเรา
  • 4:22 - 4:24
    และไม่มีบททดสอบไหนแล้ว
  • 4:24 - 4:26
    ที่จะดีไปกว่าการที่เราปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัย
  • 4:27 - 4:30
    นี่คือข้อเท็จจริงครับ คน 65 ล้านคน
  • 4:30 - 4:33
    ต้องพลัดถิ่นออกจากบ้านเนื่องจาก
    ความรุนแรงและการถูกข่มเหงเมื่อปีก่อน
  • 4:33 - 4:35
    ถ้าหากคิดเป็นประเทศ
  • 4:35 - 4:38
    นั่นคงจะเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่
    เป็นอันดับที่ 21ของโลก
  • 4:39 - 4:44
    คนประมาณ 40 ล้านคนเหล่านี้
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิด
  • 4:44 - 4:45
    แต่ 25 ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัย
  • 4:45 - 4:48
    นั่นหมายความว่า พวกเขาข้ามพรมเเดน
    ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
  • 4:49 - 4:53
    พวกเขาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศที่ยากจน
  • 4:53 - 4:56
    ค่อนข้างยากจน หรือมีรายได้ปานกลางถึงต่ำ
    อย่างเช่น เลบานอน
  • 4:56 - 4:57
    ที่ซึ่งเป็นที่เฮลัดอาศัยอยู่ในตอนนี้
  • 4:59 - 5:03
    ในประเทศเลบานอน ทุก ๆ สี่คนคือผู้ลี้ภัย
  • 5:04 - 5:07
    คิดเป็นหนึ่งในสี่ของจำนวนประชากรทั้งหมด
  • 5:07 - 5:09
    และผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
  • 5:09 - 5:11
    ระยะเวลาเฉลี่ยของการพลัดถิ่น
  • 5:11 - 5:12
    คือ 10 ปี
  • 5:13 - 5:18
    ผมไปยังค่ายผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    ทางตะวันออกของเคนย่า
  • 5:18 - 5:19
    ชื่อว่า ดาดับ
  • 5:19 - 5:21
    มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1991 - 92
  • 5:21 - 5:25
    ในฐานะ "ค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราว" สำหรับ
    ชาวโซมาลีที่หนีภัยสงครามกลางเมือง
  • 5:26 - 5:27
    ผมพบ ซิโล
  • 5:28 - 5:31
    และถามซิโลอย่างซื่อ ๆ ว่า
  • 5:31 - 5:33
    "เคยคิดว่าจะได้กลับไปบ้านที่โซมาลีไหม"
  • 5:34 - 5:36
    แล้วเธอก็บอกว่า "หมายความว่าอย่างไรกัน
    กลับบ้านเนี่ยนะ
  • 5:36 - 5:38
    ฉันเกิดที่นี่"
  • 5:39 - 5:41
    และเมื่อผมถามฝ่ายบริหารของค่าย
  • 5:41 - 5:45
    ว่าในบรรดาคน 330,000 คนในค่ายนี้
    มีคนเกิดที่นี่กี่คน
  • 5:45 - 5:46
    พวกเขาให้คำตอบผมว่า
  • 5:47 - 5:49
    100,000 คน
  • 5:50 - 5:52
    นี่แหละครับ ความหมายของคำว่า
    การพลัดถิ่นระยะยาว
  • 5:53 - 5:56
    ต้นสายปลายเหตุของปัญหา
    หยั่งลึกลงไปเกี่ยวกับเรื่อง
  • 5:56 - 5:58
    ประเทศอ่อนแอที่ไม่อาจ
    ช่วยเหลือประชากรของตัวเองได้
  • 5:59 - 6:01
    ระบบการเมืองระหว่างประเทศ
  • 6:01 - 6:04
    ที่ย่ำแย่ลงกว่าช่วงไหน ๆ
    ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945
  • 6:04 - 6:08
    และความแตกต่างด้านศาสนา การปกครอง
    การปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก
  • 6:08 - 6:11
    ในโลกของชาวมุสลิมกลุ่มหลัก
  • 6:13 - 6:16
    นี่คือความท้าทายระยะยาวหลายชั่วอายุคน
  • 6:16 - 6:19
    นี่คือสาเหตุที่ผมบอกว่าวิกฤติผู้ลี้ภัย
    เป็นเรื่องต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องชั่วคราว
  • 6:20 - 6:25
    มันซับซ้อน และเมื่อปัญหานั้น
    ใหญ่โต กินเวลานาน และซับซ้อน
  • 6:25 - 6:27
    คนก็มักคิดกันว่าเราทำอะไรไม่ได้หรอก
  • 6:28 - 6:30
    เมื่อสันตปาปาฟรานซิสเยือนแลมเบอดูซ่า
  • 6:31 - 6:33
    ใกล้กับชายฝั่งอิตาลีในปี ค.ศ. 2014
  • 6:33 - 6:36
    ท่านกล่าวว่าพวกเราทุกคนและประชากรโลก
  • 6:36 - 6:40
    ตกเป็นผู้ต้องหาที่ท่านนิยามว่า
    "โลกาภิวัตน์แห่งความนิ่งดูดาย"
  • 6:41 - 6:42
    ช่างเป็นวลีที่ตามหลอกหลอน
  • 6:42 - 6:45
    มันสื่อว่า
    หัวใจของเราแข็งกระด้างราวกับหิน
  • 6:47 - 6:48
    ไม่รู้สิครับ คุณคิดว่าอย่างไรกันบ้าง
  • 6:48 - 6:52
    คุณมีสิทธิเถียงกับสันตปาปาหรือเปล่า
    แม้จะเป็นในงานสัมนา TED ก็เหอะ
  • 6:53 - 6:54
    แต่ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง
  • 6:54 - 6:56
    ผมคิดว่าคนต้องการ
    ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
  • 6:56 - 7:00
    พวกเขาแค่ไม่รู้ว่า
    มันจะมีทางแก้วิกฤตินี้ได้หรือเปล่า
  • 7:00 - 7:02
    และผมอยากจะบอกคุณในวันนี้ว่า
  • 7:02 - 7:05
    ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่จริง
    ทางแก้ก็มีอยู่จริงได้เช่นกัน
  • 7:06 - 7:07
    ทางที่หนึ่ง
  • 7:07 - 7:11
    ผู้ลี้ภัยเหล่านี้จำเป็นต้องทำงาน
    ในประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่
  • 7:11 - 7:14
    และประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้น
    ต้องการการสนับสนุนทางเศรษฐกิจอย่างมาก
  • 7:14 - 7:16
    ในยูกันดาปี ค.ศ. 2014 พวกเขาศึกษาพบว่า
  • 7:17 - 7:20
    80% ของผู้ลี้ภัยในเมืองหลวงแคมปาลา
  • 7:20 - 7:22
    ไม่ต้องรับความช่วยเหลือด้านมนุษยชน
    เพราะพวกเขามีงาน
  • 7:22 - 7:24
    พวกเขาได้รับการสนับสนุนให้งาน
  • 7:24 - 7:26
    ทางออกที่สอง
  • 7:26 - 7:30
    การศึกษาสำหรับเด็ก
    คือสิ่งจำเป็น ไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย
  • 7:30 - 7:32
    เมื่อคุณต้องพลัดถิ่นเป็นเวลานาน ๆ
  • 7:33 - 7:38
    สถานะของเด็กฟื้นฟูกลับมาได้ หากได้รับ
    ความช่วยเหลือทางสังคมและจิตใจ
  • 7:38 - 7:39
    ควบคู่ไปกับทักษะ
    ในการการอ่านเขียนและคำนวณ
  • 7:39 - 7:41
    ผมได้เห็นมาด้วยตาของตัวเอง
  • 7:43 - 7:46
    ทว่าครึ่งหนึ่งของเด็กผู้ลี้ภัยทั้งโลก
    ที่อยู่ในวัยประถมศึกษา
  • 7:46 - 7:48
    ไม่ได้รับการศึกษาเลยแม้แต่น้อย
  • 7:48 - 7:51
    และสามให้สี่ของเด็กมัธยม
    ไม่ได้รับการศึกษาเลยเเม้แต่น้อย
  • 7:51 - 7:53
    มันบ้าไปแล้ว
  • 7:54 - 7:56
    ทางออกที่สาม
  • 7:56 - 8:00
    ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่อยู่ในย่านชุมชน
    ในตัวเมือง ไม่ใช่ในค่าย
  • 8:00 - 8:02
    คุณหรือผมต้องการอะไร
    ถ้าหากเราเป็นผู้ลี้ภัยในเมือง
  • 8:02 - 8:05
    เราต้องการเงิน
    เพื่อจ่ายค่าเช่าบ้านหรือซื้อเสื้อผ้า
  • 8:05 - 8:08
    อนาคตของระบบด้านมนุษยธรรม
  • 8:09 - 8:10
    หรือส่วนสำคัญของมัน
  • 8:10 - 8:13
    คือการมอบเม็ดเงินให้พวกเขา
    เพื่อให้โอกาสกับผู้ลี้ภัย
  • 8:13 - 8:15
    นั่นจะเป็นการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
  • 8:15 - 8:17
    และทางออกที่สี่
  • 8:17 - 8:20
    ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียง
    แต่เราจำเป็นต้องพูดถึงมัน
  • 8:20 - 8:23
    ผู้ลี้ภัยที่ได้รับความเสี่ยงที่สุด
    สมควรได้รับการเริ่มต้นใหม่
  • 8:23 - 8:25
    และชีวิตใหม่ในประเทศใหม่
  • 8:26 - 8:27
    รวมถึงในประเทศตะวันตก
  • 8:28 - 8:32
    ตัวเลขหลักแสน ไม่ถึงหลักล้าน
    อาจดูไม่ค่อยมากเท่าไร
  • 8:32 - 8:35
    แต่มีนัยที่สำคัญมาก
  • 8:36 - 8:39
    ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะกีดกันผู้ลี้ภัย
  • 8:39 - 8:40
    แบบที่คณะบริหารงานของทรัมป์เสนอ
  • 8:40 - 8:44
    แต่เวลาที่เราต้องโอบกอด
    ผู้ที่เป็นเหยื่อของความโหดร้าย
  • 8:44 - 8:45
    และจำไว้นะครับว่า
  • 8:45 - 8:48
    (เสียงปรบมือ)
  • 8:52 - 8:56
    หากใครมาถามคุณว่า "พวกเขาถูกตรวจสอบ
    มาอย่างเหมาะสมหรือเปล่า"
  • 8:56 - 8:59
    นั่นเป็นคำถามที่สมเหตุสมผล
    และเป็นคำถามที่ควรถาม
  • 9:00 - 9:04
    ความจริงก็คือ ผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามา
    เพื่อลงหลักปักฐาน
  • 9:04 - 9:08
    ถูกตรวจสอบมามากกว่าคนกลุ่มไหน
    ที่เดินทางเข้ามาในประเทศของพวกเรา
  • 9:08 - 9:10
    ดังนั้น ในขณะที่มันสมเหตุสมผล
    ที่จะถามคำถามนั้น
  • 9:10 - 9:14
    มันไม่สมเหตุสมผลที่จะบอกว่า
    ผู้ลี้ภัยกับผู้ก่อการร้ายคือสิ่งเดียวกัน
  • 9:15 - 9:16
    ทีนี้ สิ่งที่เกิด --
  • 9:16 - 9:20
    (เสียงปรบมือ)
  • 9:20 - 9:23
    เมื่อผู้ลี้ภัยไม่มีงานทำก็คือ
  • 9:23 - 9:25
    พวกเขาไม่สามารถส่งลูกเข้าโรงเรียนได้
  • 9:25 - 9:28
    พวกเขาไม่มีเม็ดเงิน พวกเขาไม่อาจ
    สร้างโอกาสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • 9:28 - 9:30
    สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพวกเขาเสี่ยงเดินทาง
  • 9:30 - 9:35
    ผมไปที่เลสบอส เกาะแสนสวยในประเทศกรีก
    เมื่อสองปีก่อน
  • 9:35 - 9:37
    มันเป็นบ้านของคน 90,000 คน
  • 9:37 - 9:41
    ในหนึ่งปี ผู้ลี้ภัย 500,000 คน
    เดินทางผ่านเกาะเเห่งนี้
  • 9:41 - 9:43
    และผมอยากจะให้ได้เห็นสิ่งที่ผมเห็น
  • 9:43 - 9:46
    เมื่อผมขับรถข้ามไปยังตอนเหนือของเกาะ
  • 9:46 - 9:50
    กองเสื้อชูชีพของผู้ที่รอดมาถึงชายฝั่ง
  • 9:51 - 9:52
    และเมื่อผมมองดูให้ละเอียด
  • 9:52 - 9:55
    มันมีเสื้อชูชีพเล็ก ๆ สำหรับเด็กด้วย
  • 9:55 - 9:56
    สีเหลืองนั่น
  • 9:56 - 9:58
    ผมถ่ายภาพนี้มา
  • 9:58 - 10:02
    คุณอาจไม่เห็นตัวหนังสือตรงนี้
    แต่ผมจะอ่านให้คุณฟังครับ
  • 10:02 - 10:05
    "คำเตือน: เสื้อนี้ไม่ป้องกันการจมน้ำ"
  • 10:06 - 10:07
    ในศตวรรษที่ 21
  • 10:08 - 10:11
    เด็ก ๆ ได้รับเสื้อชูชีพ
  • 10:11 - 10:13
    เพื่อเดินทางไปยุโรปอย่างปลอดภัย
  • 10:13 - 10:16
    แม้ว่าเสื้อชูชีพเหล่านั้น
    จะไม่ช่วยชีวิตพวกเขาได้
  • 10:16 - 10:19
    หากพวกเขาพลัดตกจากเรือ
    ที่พาพวกเขาไปยังที่หมาย
  • 10:21 - 10:24
    นี่ไม่เป็นเพียงแค่วิกฤติ มันคือบททดสอบ
  • 10:26 - 10:29
    มันคือบททดสอบที่อารยธรรมทั้งหลาย
    ได้เผชิญผ่านมาหลายยุคสมัย
  • 10:30 - 10:31
    มันคือบททดสอบความเป็นมนุษย์
  • 10:32 - 10:34
    มันคือบททดสอบพวกเราในโลกตะวันตก
  • 10:34 - 10:37
    ถึงตัวตนและจุดยืนของเรา
  • 10:39 - 10:42
    มันคือบททดสอบนิสัยใจคอของเรา
    ไม่ใช่แค่นโยบายของเรา
  • 10:43 - 10:45
    และเรื่องผู้ลี้ภัยก็เป็นประเด็นสำคัญ
  • 10:45 - 10:47
    พวกเขาดั้นด้นมาจากเเดนไกล
  • 10:48 - 10:50
    พวกเขาผ่านเรื่องราวน่าหดหู่
  • 10:50 - 10:52
    พวกเขามักนับถือศาสนาที่ต่างจากเรา
  • 10:52 - 10:55
    นั้นคือเหตุผล
    ว่าทำไมเราควรให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
  • 10:55 - 10:57
    ไม่ใช่เหตุผลที่จะปฏิเสธพวกเขา
  • 10:57 - 11:01
    มันคือเหตุผลที่เราช่วยพวกเขา
    เพราะมันบ่งบอกความเป็นเรา
  • 11:02 - 11:04
    มันเผยให้เห็นคุณค่าของเรา
  • 11:05 - 11:10
    ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับความเอื้อเฟื้อ
    คือเสาหลักของอารยธรรม
  • 11:11 - 11:14
    ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจนั้นมาเป็นการกระทำ
  • 11:14 - 11:16
    และใช้ชีวิตของเราบนหลักศีลธรรมพื้นฐาน
  • 11:17 - 11:19
    ในสมัยปัจจุบันนี้ เราไม่มีข้ออ้าง
  • 11:19 - 11:23
    เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพูดว่า
    เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่จูบา ในซูดานใต้
  • 11:23 - 11:25
    หรืออะเลปโป ประเทศซีเรีย
  • 11:25 - 11:28
    มันอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเรา
  • 11:28 - 11:29
    ที่อยู่ในมือของเรา
  • 11:29 - 11:32
    ความไม่รู้ไม่ใช่ข้ออ้างเลย
  • 11:32 - 11:36
    หากเราช่วยเขาไม่ได้ก็แสดงว่า
    เราไม่มีหลักนำทางศีลธรรมเลย
  • 11:37 - 11:40
    มันยังแสดงให้เห็นอีกว่า
    ว่าเราเข้าใจประวัติศาสตร์ของเราหรือไม่
  • 11:41 - 11:43
    สาเหตุที่ผู้ลี้ภัยมีสิทธิทั่วโลก
  • 11:43 - 11:46
    ก็เพราะความเป็นผู้นำที่ไม่ธรรมดา
    ของชาวโลกตะวันตก
  • 11:46 - 11:49
    ทั้งรัฐบุรุษและสตรี
    ยุคภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
  • 11:49 - 11:51
    ที่ทำให้มันกลายเป็นสิทธิสากล
  • 11:52 - 11:55
    การเพิกเฉยต่อการปกป้องผู้ลี้ภัย
    ก็เท่ากับเราละทิ้งอดีตของเรา
  • 11:56 - 11:58
    นี่ยังเป็น --
  • 11:58 - 11:59
    (เสียงปรบมือ)
  • 11:59 - 12:03
    การเผยถึงพลังของประชาธิปไตย
  • 12:03 - 12:06
    ในฐานะที่พำนักที่ไกลจากเผด็จการ
  • 12:06 - 12:08
    คุณได้ยินนักการเมืองมากี่คนแล้วที่พูดว่า
  • 12:09 - 12:13
    "เราเชื่อในพลังจากสิ่งที่เราทำ
    ไม่ใช่พลังของเราที่จะทำการใด ๆ "
  • 12:14 - 12:17
    ซึ่งหมายถึงคือจุดยืนของเรา
    สำคัญยิ่งกว่าลูกระเบิดที่เราทิ้ง
  • 12:18 - 12:20
    ผู้ลี้ภัยแสวงหาที่พึ่งพิง
  • 12:21 - 12:25
    มองว่าโลกตะวันตก
    เป็นแดนสวรรค์ที่ให้ความหวัง
  • 12:27 - 12:29
    ชาวรัสเซีย ชาวอิหร่าน
  • 12:29 - 12:32
    ชาวจีน ชาวเอริเทรีย ชาวคิวบา
  • 12:32 - 12:34
    พวกเขาเข้ามายังโลกตะวันตก
    เพื่อความปลอดภัย
  • 12:35 - 12:37
    เรากลับผลักไสเพราะเห็นเขาเป็นภัยคุกคาม
  • 12:38 - 12:40
    และมันได้เผยถึงตัวตนอีกอย่างของเรา
  • 12:40 - 12:43
    ว่าเราจะลดอัตตายอมรับ
    ความผิดพลาดของตัวเราเองไหม
  • 12:43 - 12:45
    ผมไม่ใช่คนหนึ่ง
  • 12:45 - 12:49
    ที่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างในโลก
    มีเกิดจากน้ำมือของชาวโลกตะวันตก
  • 12:49 - 12:50
    มันไม่ใช่แบบนั้น
  • 12:50 - 12:52
    แต่เมื่อเราทำผิดพลาด
    เราควรรู้ว่าเราทำผิด
  • 12:53 - 12:55
    มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
    ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • 12:55 - 12:58
    ซึ่งรับผู้ลี้ภัยมากกว่าประเทศอื่น
  • 12:58 - 13:01
    รับผู้ลี้ภัยจากเวียดนาม
    มากกว่าประเทศใด ๆ
  • 13:02 - 13:03
    มันบอกเล่าประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้น
  • 13:04 - 13:07
    แต่มันยังมีประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
    ในอิรักและอัฟกานิสถาน
  • 13:08 - 13:11
    คุณไม่สามารถชดเชย
    นโยบายการต่างประเทศที่ผิดพลาดได้
  • 13:11 - 13:13
    ด้วยวิถีแห่งมนุษยธรรม
  • 13:13 - 13:17
    แต่เมื่อคุณทำบางอย่างเสียหาย
    คุณก็มีหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือซ่อมแซม
  • 13:17 - 13:19
    และนั่นเป็นหน้าที่ของพวกเรา ตอนนี้
  • 13:22 - 13:24
    คุณจำตอนต้นของการบรรยายนี้ได้ไหม
  • 13:24 - 13:26
    ผมบอกว่าผมต้องการอธิบายว่า
    วิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัย
  • 13:26 - 13:28
    สามารถจัดการได้ ไม่ใช่แก้ไขไม่ได้
  • 13:29 - 13:32
    จริงอยู่ ผมต้องการให้คุณคิดใหม่
  • 13:32 - 13:34
    แต่ก็อยากให้คุณลงมือทำด้วย
  • 13:36 - 13:38
    หากคุณเป็นนายจ้าง
  • 13:38 - 13:39
    รับผู้ลี้ภัยเข้าทำงาน
  • 13:40 - 13:43
    หากคุณโดนโน้มน้าวจากการโต้เถียง
  • 13:43 - 13:45
    อธิบายชี้แจงความเชื่อเก่า ๆ นั้น
  • 13:45 - 13:47
    ให้ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน
    เมื่อพวกเขากล่าวถึงมัน
  • 13:48 - 13:51
    หากคุณมีเงิน บริจาคให้กับองค์กร
  • 13:51 - 13:53
    ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ลี้ภัยทั่วโลก
  • 13:54 - 13:55
    หากคุณเป็นพลเมือง
  • 13:56 - 13:58
    ให้คะแนนเสียงกับนักการเมือง
  • 13:58 - 14:02
    ที่จะนำแนวทางการแก้ปัญหาที่ผมพูดถึง
    มาปฏิบัติให้เกิดผลจริง
  • 14:02 - 14:06
    (เสียงปรบมือ)
  • 14:06 - 14:08
    หน้าที่ที่เรามีต่อคนที่ไม่รู้จัก
  • 14:08 - 14:10
    แสดงตัวตนของมันออกมา
  • 14:10 - 14:13
    ในแบบที่ไม่เอิกเริกแต่ยิ่งใหญ่
  • 14:13 - 14:15
    เรียบง่ายแต่น่าเชิดชู
  • 14:16 - 14:17
    ในปี ค.ศ. 1942
  • 14:19 - 14:21
    คุณป้าและคุณยายของผม
    อาศัยอยู่ในกรุงบรัสเซล
  • 14:21 - 14:22
    ภายใต้การปกครองของเยอรมัน
  • 14:24 - 14:26
    ท่านได้รับคำสั่งจากกองกำลังนาซี
  • 14:26 - 14:30
    ให้ไปรวมตัวกันที่สถานีรถไฟบรัสเซล
  • 14:32 - 14:35
    คุณยายของผมฉุกคิดขึ้นว่า
    ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล
  • 14:37 - 14:39
    ท่านร้องขอญาติ ๆ
  • 14:39 - 14:41
    ไม่ให้ไปที่สถานีรถไฟบรัสเซล
  • 14:42 - 14:44
    ญาติของท่านบอกว่า
  • 14:45 - 14:48
    "ถ้าหากเราไม่ไป หากเราไม่ทำตามคำสั่ง
  • 14:48 - 14:50
    เราก็ต้องเดือดร้อนแน่"
  • 14:51 - 14:53
    คุณคงรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
  • 14:53 - 14:55
    กับบรรดาญาติที่เดินทาง
    ไปที่สถานีรถไฟบรัสเซล
  • 14:56 - 14:57
    พวกเขาไม่ได้เจอกันอีกเลย
  • 14:58 - 15:00
    แต่คุณยายและป้าของผม
  • 15:01 - 15:03
    พวกท่านไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ
  • 15:03 - 15:05
    ตอนใต้ของบรัสเซล
  • 15:06 - 15:09
    ที่ซึ่งพวกเขาเคยไปพักผ่อนเมื่อสิบปีที่แล้ว
  • 15:09 - 15:13
    พวกเขาไปที่บ้านของชาวนาคาธอลิก
    ในพื้นที่คนหนึ่ง
  • 15:13 - 15:15
    ชื่อ เมอซิเออร์ มัวริส
  • 15:16 - 15:18
    และขอร้องให้เขารับพวกท่านไว้
  • 15:19 - 15:21
    ชาวนาคนนั้นตกลง
  • 15:21 - 15:22
    และเมื่อสงครามสิ้นสุด
  • 15:23 - 15:27
    ชาวยิว 17 คน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้น
  • 15:28 - 15:30
    ตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น ผมขอป้าของผมว่า
  • 15:30 - 15:32
    "ป้าพาผมไปพบกับ เมอซิเออร์ มัวริส ได้ไหม"
  • 15:33 - 15:37
    ท่านตอบว่า "ได้สิ
    เขายังมีชีวิตอยู่ ไปเยี่ยมเขากัน"
  • 15:37 - 15:38
    มันคงเป็นช่วงราว ๆ ยุค 83 หรือ 84
  • 15:39 - 15:41
    เราเดินทางไปพบเขา
  • 15:41 - 15:44
    และตามประสาเด็กวัยรุ่น
  • 15:44 - 15:45
    เมื่อผมพบเขา
  • 15:45 - 15:48
    สุภาพบุรุษผมสีดอกเลาคนนั้น
  • 15:48 - 15:50
    ผมพูดกับเขาว่า
  • 15:51 - 15:52
    "ทำไมคุณถึงทำแบบนั้นล่ะ
  • 15:53 - 15:56
    ทำไมคุณถึงยอมเสี่ยง"
  • 15:57 - 15:59
    เขามองผมแล้วก็ยักไหล่
  • 15:59 - 16:01
    และตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า
  • 16:01 - 16:03
    "On doit"
  • 16:03 - 16:04
    "เราต้องทำ"
  • 16:04 - 16:07
    มันอยู่ในจิตวิญญาณของเขา
  • 16:07 - 16:08
    มันเป็นไปตามธรรมชาติ
  • 16:08 - 16:13
    ประเด็นที่ผมอยากจะบอกก็คือ มันควร
    เป็นธรรมชาติและจิตวิญญาณของเราเช่นกัน
  • 16:13 - 16:14
    บอกตัวเองครับ
  • 16:15 - 16:18
    วิกฤติผู้ลี้ภัยนี้จัดการได้
  • 16:18 - 16:19
    ไม่ใช่เรื่องที่เเก้ไขไม่ได้
  • 16:19 - 16:21
    เราทุก ๆ คน
  • 16:21 - 16:25
    มีส่วนต้องช่วยรับผิดชอบ
  • 16:25 - 16:29
    เพราะนี่คือการกู้ตัวตนและคุณค่าของเรา
  • 16:29 - 16:32
    เช่นเดียวกับการกู้ชีวิตของเหล่าผู้ลี้ภัย
  • 16:32 - 16:34
    ขอบคุณมากครับ
  • 16:34 - 16:37
    (เสียงปรบมือ)
  • 16:45 - 16:48
    บรูโน กิอัสซานิ: ขอบคุณครับ เดวิด
    เดวิด มิลิแบนด์: ขอบคุณครับ
  • 16:48 - 16:50
    บรูโน: เป็นคำแนะนำที่หนักแน่นมากครับ
  • 16:50 - 16:53
    การเรียกร้องให้ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ
    ก็หนักแน่นมาก ๆ เช่นกัน
  • 16:53 - 16:55
    แต่ผมรู้สึกไม่สบายใจกับแนวคิดหนึ่ง
  • 16:55 - 16:59
    จากคำพูดของคุณที่ว่า "ความเป็นผู้นำ
    ที่ไม่ธรรมดาของชาวโลกตะวันตก"
  • 16:59 - 17:01
    ซึ่งเมื่อประมาณ 60 กว่าปีก่อน
  • 17:01 - 17:03
    นำมาซึ่งการสนทนาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
  • 17:03 - 17:06
    และข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย ฯลฯ
  • 17:07 - 17:10
    ความเป็นผู้นำนั้น
    เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ร้าย
  • 17:10 - 17:14
    และเกิดขึ้นในกรอบการตกลงทางการเมือง
  • 17:14 - 17:16
    ตอนนี้เรามีความเห็นทางการเมือง
    ที่แตกต่างกัน
  • 17:16 - 17:19
    เรามีความคิดที่ต่างกันมาก
    ในเรื่องปัญหาผู้ลี้ภัย
  • 17:19 - 17:21
    ทีนี้ ความเป็นผู้นำในปัจจุบันควรมาจากไหน
  • 17:21 - 17:24
    เดวิด: ครับ คุณมีสิทธิ์ที่จะพูดว่า
  • 17:24 - 17:26
    ความเป็นผู้นำที่ก่อกำเนิดขึ้นในยามสงคราม
  • 17:27 - 17:29
    มีอารมณ์ จังหวะจะโคน
  • 17:29 - 17:30
    และทัศนคติ
  • 17:30 - 17:33
    ที่ต่างไปจากความเป็นผู้นำ
    ที่ก่อกำเนิดขึ้นในยามสันติ
  • 17:34 - 17:37
    ฉะนั้น คำตอบของผมก็คือ
    ความเป็นผู้นำต้องมาจากระดับพื้นฐาน
  • 17:37 - 17:39
    ไม่ใช่จากส่วนบน
  • 17:39 - 17:42
    ผมต้องการบอกว่า หัวข้อหลัก ๆ
    ในงานสัมนาสัปดาห์นี้
  • 17:42 - 17:46
    เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำให้อำนาจ
    มีความเป็นประชาธิปไตย
  • 17:46 - 17:48
    เราก็ต้องรักษา
    ความเป็นประชาธิปไตยของเรา
  • 17:48 - 17:51
    แต่เราก็ต้องนำความเป็น
    ประชาธิปไตยของเราออกมาใช้งาน
  • 17:51 - 17:53
    และเมื่อคนพูดกับผมว่า
  • 17:53 - 17:54
    "มีคนที่ต่อต้านแนวคิดเรื่องผู้ลี้ภัย"
  • 17:54 - 17:56
    สิ่งที่ผมตอบกลับไปหาก็คือ
  • 17:56 - 17:58
    "ไม่ครับ นั่นเป็นขั้วความเห็น
  • 17:58 - 17:59
    และในตอนนี้
  • 17:59 - 18:01
    ผู้ที่หวาดกลัวกำลังเสียงดัง
  • 18:01 - 18:03
    กว่าคนที่เห็นด้วย"
  • 18:03 - 18:07
    ฉะนั้นคำตอบของผมก็คือ
    เราจะสนับสนุน กระตุ้น
  • 18:07 - 18:08
    และให้ความมั่นใจกับความเป็นผู้นำ
  • 18:08 - 18:10
    เมื่อเราเดินหน้าไปด้วยกัน
  • 18:10 - 18:14
    ผมคิดว่าเมื่อคุณมีหน้าที่
    มองหาความเป็นผู้นำ
  • 18:14 - 18:15
    คุณต้องมองลึกลงไปข้างใน
  • 18:15 - 18:17
    ผลักดันคนในสังคมของคุณ
  • 18:17 - 18:20
    เพื่อพยายามสร้างเงื่อนไข
    เพื่อการลงหลักปักฐานในหลาย ๆ รูปแบบ
  • 18:20 - 18:22
    บรูโน: ขอบคุณครับ เดวิด
    ขอบคุณที่มาที่ TED นะครับ
  • 18:22 - 18:26
    (เสียงปรบมือ)
Title:
วิกฤติผู้ลี้ภัยคือบททดสอบของความเป็นมนุษย์
Speaker:
เดวิด มิลิแบนด์ (David Miliband)
Description:

คนหกสิบห้าล้านคนต้องพลัดถิ่นจากบ้านของพวกเขาเนื่องจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ในปี ค.ศ. 2016 มันไม่ได้เป็นเพียงวิกฤติ แต่เป็นบททดสอบตัวตนและจุดยืนของเรา เดวิด มิลิแบนด์ กล่าว และเราทุกคนก็มีส่วนที่จะต้องร่วมรับผิดชอบและหาทางช่วยเหลือในการแก้ปัญหานี้ ในการบรรยายที่พลาดไม่ได้ มิลิแบนด์เสนอวิธีการที่เจาะจงและเป็นรูปธรรมสำหรับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและเปลี่ยนความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับความเอื้อเฟื้อให้เกิดเป็นการกระทำ

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:38

Thai subtitles

Revisions