WEBVTT 00:00:00.708 --> 00:00:01.976 [โอลิเวอร์ เจฟเฟอร์] NOTE Paragraph 00:00:02.000 --> 00:00:03.833 [ชีวิตบนโลกที่น่ายินดี] NOTE Paragraph 00:00:05.333 --> 00:00:06.601 สวัสดี! 00:00:06.625 --> 00:00:09.601 ผมมั่นใจว่า เมื่อผมพูดจบประโยคนี้ 00:00:09.625 --> 00:00:11.101 ดูจากรูปแบบที่ผมสื่อสารน่ะนะ 00:00:11.125 --> 00:00:13.976 คุณจะรู้ได้ทันทีว่า ผมมาจากสถานที่ที่มีชื่อว่า 00:00:14.000 --> 00:00:15.268 "ดาวโลก" 00:00:15.292 --> 00:00:17.018 โลกนั้นเจ๋งสุดๆ 00:00:17.042 --> 00:00:18.875 เป็นบ้านของ "เรา" 00:00:20.125 --> 00:00:21.393 และพวกเชื้อโรค 00:00:21.417 --> 00:00:23.726 ไอ้พวกที่ควรจะถอยได้แล้ว 00:00:23.750 --> 00:00:26.726 เพราะโลกไม่ได้เป็นบ้านของ พวกมันเท่านั้น NOTE Paragraph 00:00:26.750 --> 00:00:29.393 ดาวดวงนี้ยังมี รถ กะหล่ำดาว 00:00:29.417 --> 00:00:32.018 พวกปลาแปลกๆ ที่มีโคมไฟส่วนตัว 00:00:32.042 --> 00:00:33.518 งานศิลป์ กองไฟ 00:00:33.542 --> 00:00:34.809 ถังดับเพลิง 00:00:34.857 --> 00:00:36.958 กฎหมาย นกพิราบ เบียร์สักขวด 00:00:36.958 --> 00:00:38.226 เลม่อน และหลอดไฟ 00:00:38.250 --> 00:00:39.893 ปิโน นัวร์ และพาราเซตามอล 00:00:39.917 --> 00:00:42.476 ผี ยุง นกฟลามิงโก ดอกไม้ 00:00:42.500 --> 00:00:44.059 อูคูเลเล่ ลิฟต์ และแมว 00:00:44.083 --> 00:00:45.559 วิดีโอแมว อินเตอร์เน็ต 00:00:45.583 --> 00:00:47.351 คานเหล็ก ตึก และถ่ายไฟฉาย 00:00:47.375 --> 00:00:49.851 ความคิดที่น่าสนใจทัั้งหลาย ทุกชีวิตบนโลก 00:00:49.875 --> 00:00:51.518 และอื่นๆ อีกมหาศาล 00:00:51.542 --> 00:00:54.059 ทุกอย่างที่เรารู้จัก และที่ไม่เคยพบเห็น 00:00:54.083 --> 00:00:56.059 เป็นสถานที่ที่ผมชอบนะ จริงๆ แล้ว 00:00:56.083 --> 00:00:57.643 ทรงกลม เล็กๆ นี้ 00:00:57.667 --> 00:01:00.208 ลอยอยู่ในส่วนหนึ่งของจักรวาล อันแสนหนาวเย็นและเดียวดาย 00:01:01.375 --> 00:01:04.434 อ้อ ผมพูดสำเนียงเบลฟาสต์น่ะ ซึ่งก็คือ... 00:01:04.458 --> 00:01:05.726 ตรงนี้ 00:01:05.750 --> 00:01:07.000 แถวนี้ๆ แหละ NOTE Paragraph 00:01:07.875 --> 00:01:10.226 คุณ อาจ คิด ว่า คุณรู้จักดาวโลกดีพอ 00:01:10.250 --> 00:01:11.518 เพราะคุณอยู่ที่นี่อยู่แล้ว 00:01:11.542 --> 00:01:12.809 แต่ในความเป็นจริง 00:01:12.833 --> 00:01:15.500 คุณอาจไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องราว ที่แสนธรรมดาของดาวดวงนี้ 00:01:15.524 --> 00:01:16.934 ผมเคยคิดว่าผมรู้จักโลกดี 00:01:16.958 --> 00:01:18.393 ผมคิดว่าผมก็เชียวชาญอยู่นะ 00:01:18.417 --> 00:01:20.267 จนวันนึง ผมต้องอธิบาย เรื่องราวทั้งหมด 00:01:20.267 --> 00:01:22.851 เกี่ยวกับโลก และความเป็นไปต่างๆ 00:01:22.875 --> 00:01:25.518 ให้กับใครบางคนที่ไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน 00:01:25.542 --> 00:01:26.809 ไม่ใช่อย่างที่คิดครับ 00:01:26.833 --> 00:01:29.018 ถึงแม้ว่าพ่อผมมักจะพูดว่า 00:01:29.042 --> 00:01:31.059 สิ่งที่ยืนยันว่ามีมนุษย์ต่าวดาว อยู่ข้างนอกนั่น 00:01:31.083 --> 00:01:33.476 คือการที่พวกเขาไม่คิดจะติดต่อเรา ให้ลำบากเปล่าๆ 00:01:33.500 --> 00:01:37.143 อันที่จริง เป็นลูกชายผมที่เพิ่งเกิด คือคนที่ผมพยายามจะอธิบายให้ฟัง 00:01:37.167 --> 00:01:38.809 พวกเราไม่เคยเป็นพ่อแม่มาก่อน 00:01:38.833 --> 00:01:40.101 ผมและภรรยา 00:01:40.125 --> 00:01:43.726 ผมเลยปฏิบัติต่อเขาเหมือนแขก เมื่อเขามาถึงบ้านเป็นครั้งแรก 00:01:43.750 --> 00:01:45.018 โดยพาเขาเดินชมรอบๆ บ้าน 00:01:45.042 --> 00:01:46.643 นี่บ้านของลูกนะ 00:01:46.667 --> 00:01:48.351 ห้องนี้เราใช้ทำกับข้าว 00:01:48.375 --> 00:01:51.684 ห้องนี้เราไว้เก็บคอเล็กชั่นเก้าอี้ อะไรประมาณนี้ 00:01:51.708 --> 00:01:52.976 ก็แปลกใหม่ดีนะ 00:01:53.000 --> 00:01:55.684 การที่ได้อธิบายว่าดาวที่เราอยู่ เป็นยังไงให้เด็กทารกฟัง 00:01:55.708 --> 00:01:56.976 ภายหลังความสนุกสนานเฮฮา 00:01:57.000 --> 00:02:00.184 เมื่อคุณตระหนักว่า มนุษย์ตัวน้อยนี้แทบไม่รู้อะไรเลย 00:02:00.208 --> 00:02:03.226 และตัวคุณเองก็แทบจะไม่รู้อะไรเช่นกัน 00:02:03.250 --> 00:02:06.393 การเล่าเรื่องราวของโลกทั้งดวงกลาย เป็นงานที่หินไม่เบา 00:02:06.417 --> 00:02:07.809 แต่สุดท้าย ผมก็ลองสักตั้ง NOTE Paragraph 00:02:07.833 --> 00:02:10.893 ช่วงสัปดาห์แรกๆ ผมเดินสำรวจโลกภายนอก 00:02:10.917 --> 00:02:13.226 และบอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอ 00:02:13.250 --> 00:02:16.393 ผมเริ่มจดบันทึก เรื่องราวน่าขันที่ผมเล่าให้ลูกชายฟัง 00:02:16.417 --> 00:02:18.726 บันทึกเหล่านั้นค่อยๆ กลายมาเป็นจดหมาย 00:02:18.750 --> 00:02:21.059 ที่จะส่งถึงเขา เมื่อเขาโตพอที่จะอ่านมัน 00:02:21.083 --> 00:02:22.559 และจดหมายนั้นก็กลายเป็นหนังสือ 00:02:22.583 --> 00:02:25.268 เกี่ยวกับหลักการพื้นฐาน และการเป็นมนุษย์ 00:02:25.292 --> 00:02:27.852 ที่อยู่บนโลกในศตวรรษที่ 21 00:02:27.852 --> 00:02:30.726 บางอย่างที่เห็นชัดเจนอยู่แล้ว 00:02:30.750 --> 00:02:32.684 เช่น โลกประกอบด้วยสองส่วน 00:02:32.708 --> 00:02:35.101 ผืนดิน และผืนน้ำ 00:02:35.125 --> 00:02:38.393 บางสิ่งที่เราไม่ค่อยได้สนใจ จนกว่าจะเริ่มคิดเกี่ยวกับมัน 00:02:38.417 --> 00:02:40.184 อย่าง "เวลา" 00:02:40.208 --> 00:02:43.208 บางครั้งสิ่งต่างๆ บนโลก ก็ดำเนินไปอย่างช้าๆ 00:02:44.042 --> 00:02:46.601 แต่หลายครั้ง ก็หมุนไปอย่างรวดเร็ว 00:02:46.625 --> 00:02:49.375 ฉะนั้น จงใช้เวลาให้ดี เพราะมันจะหายไปก่อนที่คุณจะรู้ตัว 00:02:50.417 --> 00:02:51.976 หรือ "ผู้คน" 00:02:52.000 --> 00:02:55.559 ผู้คนมาในรูปร่าง ขนาด และสี ที่แตกต่างกัน 00:02:55.583 --> 00:02:56.976 เราอาจดูต่างกัน 00:02:57.000 --> 00:02:59.101 มีนิสัยต่างกัน และมีเสียงที่ต่างกันก็จริง 00:02:59.125 --> 00:03:00.393 แต่อย่าโดนหลอกล่ะ 00:03:00.417 --> 00:03:01.684 เราทุกคนก็เป็นคนเหมือนกัน NOTE Paragraph 00:03:01.708 --> 00:03:04.934 และนั่นทำให้ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะยอมรับ ว่าจากสถานที่ต่างๆ ในจักรวาล 00:03:04.958 --> 00:03:06.226 ผู้คนอาศัยบนโลกเท่านั้น 00:03:06.250 --> 00:03:07.851 "อยู่ได้" แค่บนโลกเท่านั้น 00:03:07.875 --> 00:03:10.059 และถึงแม้จะอยู่ได้แค่บนพื้นที่แห้ง ส่วนเล็กๆ 00:03:10.083 --> 00:03:12.934 ซึ่งมีขนาดนิดเดียวบนผิวโลก 00:03:12.958 --> 00:03:14.934 ที่มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้จริงๆ 00:03:14.958 --> 00:03:17.309 และนี่คือพื้นที่เล็กๆ ที่พวกเรา บีบรวมกันอยู่ 00:03:17.333 --> 00:03:20.143 เราอาจหลงลืมไป เวลาเรามองอะไรใกล้ๆ อย่าง พื้นดิน 00:03:20.167 --> 00:03:22.518 ก้อนหิน ใบไม้ ถนนคอนกรีต 00:03:22.542 --> 00:03:25.684 ว่าเรามีพื้นที่จำกัดเพียงใด สำหรับการสำรวจ 00:03:25.708 --> 00:03:27.627 หากมองผ่านดวงตาคู่หนึ่ง ใกล้กับพื้น 00:03:27.627 --> 00:03:30.684 เส้นขอบฟ้าก็ดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุด 00:03:30.708 --> 00:03:32.782 จริงๆ แล้ว ก็ไม่ใช่ทุกวัน 00:03:32.782 --> 00:03:35.018 ที่เราจะมาพิจารณาว่าเราอยู่ ตรงไหนบนทรงกลมนี้ 00:03:35.042 --> 00:03:37.018 และทรงกลมนี้อยู่ตรงไหนของอวกาศ NOTE Paragraph 00:03:37.042 --> 00:03:39.976 ผมไม่ได้อยากเล่าเรื่องเดิมๆ เกี่ยวกับนานาประเทศให้ลูกผมฟัง 00:03:40.000 --> 00:03:42.893 เรื่องราวที่เราถูกสอนมา ตอนผมโตมาในไอร์แลนด์เหนือ 00:03:42.917 --> 00:03:44.768 ว่าเรามาจากพื้นที่เล็กๆ 00:03:44.792 --> 00:03:47.143 ซึ่งทำให้เรามองข้ามชีวิตอื่นๆ นอกเหนือไปจากเรื่องของเรา 00:03:47.167 --> 00:03:50.809 ผมอยากลองทำความเข้าใจความรู้สึก ของการมองโลกของเรา 00:03:50.833 --> 00:03:53.184 เป็นหนึ่งระบบ และเป็นวัตถุหนึ่งเดียว 00:03:53.208 --> 00:03:54.643 แขวนอยู่กลางอวกาศ 00:03:54.667 --> 00:03:55.934 เพื่อที่จะเข้าใจมุมมองนี้ 00:03:55.958 --> 00:03:58.434 ผมได้เปลี่ยนจากการ วาดภาพลงหนังสือ 00:03:58.458 --> 00:03:59.976 เป็นการสร้างวัตถุสามมิติบนถนน 00:04:00.000 --> 00:04:01.809 และผมต้องการระยะประมาณ 200 ฟุต 00:04:01.833 --> 00:04:03.268 หรือหนึ่งช่วงตึกในนิวยอร์ค 00:04:03.292 --> 00:04:05.559 เพื่อสร้างรูปจำลองของดวงจันทร์ 00:04:05.583 --> 00:04:07.809 โลก และ พวกเรา NOTE Paragraph 00:04:07.833 --> 00:04:11.024 โครงการนี้จัดขึ้นที่ ฮายไลน์พาร์ก นิวยอร์ค 00:04:11.048 --> 00:04:12.268 ฤดูหนาวที่แล้ว 00:04:12.292 --> 00:04:15.309 ในโอกาศฉลองครบรอบ 50 ปี อะพอลโล 11 ไปดวงจันทร์ 00:04:15.333 --> 00:04:16.684 ภายหลังการติดตั้ง 00:04:16.708 --> 00:04:19.226 ผมและลูกชาย สวมหมวกนักบินอวกาศ 00:04:19.250 --> 00:04:22.184 และทะยานสู้อวกาศเหมือนยาน อะพอลโล 11 เมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว 00:04:22.208 --> 00:04:24.018 ไปยังดวงจันทร์ 00:04:24.042 --> 00:04:25.309 เราโคจรรอบๆ 00:04:25.333 --> 00:04:27.809 และมองกับมาดู "เรา" 00:04:27.833 --> 00:04:29.309 สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ 00:04:29.333 --> 00:04:31.809 เราดูเหงาๆ ในอวกาศอันมืดมิด 00:04:31.833 --> 00:04:33.559 ทั้งๆที่ผมแค่แกล้งเดินทางนะ 00:04:33.583 --> 00:04:35.101 ดวงจันทร์เป็นเพียงวัตถุเดียว 00:04:35.125 --> 00:04:37.351 ที่ถึงจะไกล แต่ก็ใกล้กับเรามากที่สุด 00:04:37.375 --> 00:04:39.268 และด้วยขนาดของโครงการนี้ 00:04:39.292 --> 00:04:41.309 ที่ลูกโลกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ขนาด 10 ฟุต 00:04:41.333 --> 00:04:43.893 ดาวอังคาร ดาวเคราะห์ดวงถัดไป คงจะมีขนาดเท่าลูกบอลโยคะ 00:04:43.917 --> 00:04:46.434 และอยู่ไกลออกไปอีกหลายไมล์ NOTE Paragraph 00:04:46.458 --> 00:04:48.643 แม้ว่าเส้นเขตแดน จะมองไม่เห็นจากอวกาศ 00:04:48.667 --> 00:04:49.976 แต่บนลูกโลกของผม 00:04:50.000 --> 00:04:51.572 เราวาดเส้นเขตแดนไว้ทุกเส้น 00:04:51.596 --> 00:04:54.601 แต่แทนที่จะเขียนชื่อประเทศ บนผืนดินนั้น 00:04:54.625 --> 00:04:56.476 ผมกลับเขียนลงไปซ้ำๆ ว่า 00:04:56.500 --> 00:04:59.268 "มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ มีคนอาศัยอยู่ที่นี่" 00:04:59.292 --> 00:05:01.684 "มีคน อาศัยอยู่ ที่นี่" 00:05:01.708 --> 00:05:04.184 และบนดวงจันทร์ ผมเขียนลงไปว่า 00:05:04.208 --> 00:05:05.976 "ไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่" 00:05:06.000 --> 00:05:07.601 หลายครั้ง สิ่งที่เห็นๆ กันอยู่ 00:05:07.625 --> 00:05:10.684 ก็ไม่ได้เป็นที่น่าสังเกตเท่าไหร่ จนกว่าคุณจะคิดถึงมันจริงๆ NOTE Paragraph 00:05:10.708 --> 00:05:13.184 การมองภาพใหญ่จากระยะที่ไกลมากๆ 00:05:13.208 --> 00:05:14.643 เปลี่ยนมุมมองไปโดยสิ้นเชิง 00:05:14.667 --> 00:05:16.893 เหมือนกันที่นักบินอวกาศ หลายคนได้สัมผัส 00:05:16.917 --> 00:05:19.309 และดวงตาของมนุษย์ ก็ได้มองโลกของเรา 00:05:19.333 --> 00:05:21.184 จากจุดที่ไกลที่สุดแล้ว คือดวงจันทร์ 00:05:21.208 --> 00:05:22.476 คงอีกไกลมากอยู่ 00:05:22.500 --> 00:05:24.934 กว่าที่เราจะไปถึง ขอบของระบบสุริยะจักรวาล 00:05:24.958 --> 00:05:28.351 รวมไปถึง ดวงดาว หรือหมู่ดาวอื่นๆ 00:05:28.375 --> 00:05:31.518 จริงๆ แล้ว มีเพียงจุดเดียวเท่านั้น ในจักรวาล 00:05:31.542 --> 00:05:34.393 ที่เรารู้ได้ว่ามีอยู่ ท่ามกลางหมู่ดาวทั้งมวล 00:05:34.417 --> 00:05:36.684 และการมีอยู่นั้นก็คือ 00:05:36.708 --> 00:05:39.059 ตรงนี้ บนดาวโลก 00:05:39.083 --> 00:05:41.703 ภาพของหมู่ดาว ที่เราได้สร้างขึ้นมา 00:05:41.727 --> 00:05:45.144 จะมีความหมายเมื่อมองจาก "ข้างล่างนี้" เท่านั้น 00:05:46.500 --> 00:05:48.684 เรื่องราวจะมีความหมาย ก็เฉพาะบนโลก 00:05:48.708 --> 00:05:51.184 และก็มีเพียงบางสิ่ง ซึ่งมีความหมายสำหรับพวกเรา 00:05:51.208 --> 00:05:52.559 สำหรับผู้คนทั้งหลาย 00:05:52.583 --> 00:05:55.268 "เรา" เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบเล่าเรื่อง 00:05:55.292 --> 00:05:56.893 เราเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ที่เราเล่า 00:05:56.917 --> 00:05:59.143 และเราก็เป็นเรื่องราว ที่ถูกเล่าขาน NOTE Paragraph 00:05:59.167 --> 00:06:03.018 ลองคิดดูเล่นๆ เกี่ยวกับ เรื่องราวของอารยธรรมมนุษย์บนโลก 00:06:03.042 --> 00:06:05.601 ที่บอกเล่า ธรรมชาติของมนุษย์ ความเฉลียวฉลาด งดงาม 00:06:05.625 --> 00:06:07.934 ความเอื้อเฟื้อ และเอาใจใส่ ซึ่งเป็นธรรมชาติของเผ่าพันธ์เรา 00:06:07.958 --> 00:06:10.768 รวมไปถึง การสนใจตนเอง และความอ่อนแอ ไม่มั่นคง 00:06:10.792 --> 00:06:12.601 และการสู้อย่างไม่ถอย ในการปกป้องชีวิต 00:06:12.625 --> 00:06:15.559 มนุษย์อย่างพวกเราต่างปกป้องเปลวไฟ แห่งการดำรงอยู่ของตัวเราเอง 00:06:15.583 --> 00:06:18.268 จากธรรมชาติดั้งเดิมอันยิ่งใหญ่ เกินกว่าเราจะควบคุม 00:06:18.292 --> 00:06:20.268 บางสิ่งที่ทรงอานุภาพ 00:06:20.292 --> 00:06:23.292 ถึงอย่างนั้น มนุษย์ก็ยังคงจ้องมอง เฟลวไฟแห่งชีวิตอย่างไม่ลดละ 00:06:24.458 --> 00:06:26.059 "ด้วยความรู้ 'ทั้งหมด' ที่เรามี" 00:06:26.083 --> 00:06:27.351 ถ้อยคำนี้ 00:06:27.375 --> 00:06:30.143 หมายถึง องค์ความรู้ทั้งมวล 00:06:30.167 --> 00:06:31.601 แต่ถ้าลองพูดอีกแบบ 00:06:31.625 --> 00:06:33.559 "ด้วยความรู้ทั้งหมดที่ 'เรา' มี" 00:06:33.583 --> 00:06:36.393 นั่นหมายถึง เราไม่รู้อะไรเลย 00:06:36.417 --> 00:06:40.518 สิ่งนี้คือความงามที่เปราะบาง ของบทละครแห่งอาระธรรมของเรา 00:06:40.542 --> 00:06:42.851 เราเป็นทั้งผู้แสดงและผู้ชม ของโรงละครแห่งจักรวาล 00:06:42.875 --> 00:06:44.518 ที่ทำให้โลก มีความหมายสำหรับเรา 00:06:44.542 --> 00:06:46.684 แต่ไม่มีค่าอะไรสำหรับใครที่ไหน 00:06:46.708 --> 00:06:48.976 บางทีอาจไม่มีความหมาย มากขนาดนั้นที่นี่เหมือนกัน NOTE Paragraph 00:06:49.000 --> 00:06:51.684 หากเราฉุกคิดถึงความสัมพันธ์ ระหว่างเรา กับเรือของเรา 00:06:51.708 --> 00:06:52.976 ผมหมายถึงโลกของเราน่ะ 00:06:53.000 --> 00:06:55.875 มันอาจเป็นเพียงเรื่องราวของ ความไม่แยแส และความละโมบ 00:06:57.208 --> 00:06:59.226 เหมือนกับเรื่องราวของ เฟาส์โต 00:06:59.250 --> 00:07:01.143 ชายที่เชื่อว่าตนครอบครองทุกสิ่ง 00:07:01.167 --> 00:07:03.726 และตระเวนไปทั่วเพื่อสำรวจ ว่าอะไรเป็นของตัวเองบ้าง 00:07:03.750 --> 00:07:06.101 เขาอ้างอย่างหน้าตาเฉย ว่าเป็นเจ้าของดอกไม้ 00:07:06.125 --> 00:07:08.684 แกะ ต้นไม้ และท้องทุ่ง 00:07:08.708 --> 00:07:11.059 ทะเลสาบ และภูเขา ที่ดูยากจะพิชิต 00:07:11.083 --> 00:07:13.101 แต่พวกมันก็ต้องยอมจำนนแต่โดยดี 00:07:13.125 --> 00:07:15.309 แต่เมื่อถึงตอนที่เขา พยายามเป็นเจ้าของผืนทะเล 00:07:15.333 --> 00:07:17.768 ความโลภก็ได้นำพาหายนะมาสู่ตัวเขา 00:07:17.792 --> 00:07:19.851 ด้วยความยะโส 00:07:19.875 --> 00:07:22.851 เขาปีนข้ามกราบเรือ เพื่อแสดงให้ทะเลเห็นว่า ใครใหญ่ 00:07:22.875 --> 00:07:24.601 แต่เขาไม่รู้ว่า 00:07:24.625 --> 00:07:27.458 เขาจะหลุดเข้าไปใต้ท้องคลื่น และจมลงก้นสมุทร 00:07:28.333 --> 00:07:30.090 แม้ท้องทะเลจะรู้สึกเสียใจ 00:07:30.090 --> 00:07:31.750 แต่ท้องทะเลก็คือท้องทะเล 00:07:32.917 --> 00:07:35.393 และสำหรับสิ่งต่างๆ ที่ได้ถูกแสดงความเป็นเจ้าของ 00:07:35.417 --> 00:07:38.458 เรื่องน่าสลดของเฟาส์โต ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับพวกเขา NOTE Paragraph 00:07:39.583 --> 00:07:43.351 หากมนุษย์คิดว่า ตนนั้นสำคัญสำหรับจักรวาล 00:07:43.375 --> 00:07:45.018 เราจะไม่มีอะไรเลย 00:07:45.042 --> 00:07:46.601 ถ้าไม่ใช่บนดาวโลกดวงนี้ 00:07:46.625 --> 00:07:49.059 "โลก" จะยังคงหมุนต่อไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข 00:07:49.083 --> 00:07:51.101 โดยไม่ต้องสนใจการมีอยู่ของมนุษย์ NOTE Paragraph 00:07:51.125 --> 00:07:53.375 บนดาวดวงนี้ มีผู้คนอาศัยอยู่ 00:07:54.292 --> 00:07:55.643 เราใช้ชีวิตไปในแต่ละวัน 00:07:55.667 --> 00:07:57.726 บางครั้งเราแหงนมองขึ้นไป และเหม่อมองออกไป 00:07:57.750 --> 00:08:00.703 ส่วนใหญ่เราก้มลงมา และมองเข้าไป 00:08:00.703 --> 00:08:03.287 เราแหงนมองท้องฟ้ายามราตรี และวาดเส้นต่อแสงสว่างเหล่านั้น 00:08:03.287 --> 00:08:06.726 เพราะเราพยายามที่จะสร้างความเข้าใจบางอย่างขึ้นจากความวุ่นวายนั้น 00:08:06.750 --> 00:08:10.268 หันกลับลงมา เราขีดเส้นแบ่งดินแดน ที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง 00:08:10.292 --> 00:08:11.559 และดินแดนที่ไม่ใช่ของเรา 00:08:11.583 --> 00:08:14.393 จริงๆ แล้วเราหลงลืมไปว่า ทั้งเส้นที่เชื่อมดวงดาว 00:08:14.417 --> 00:08:16.184 และเส้นที่ขีดแบ่งเขตแดน 00:08:16.208 --> 00:08:18.518 นั้นมีอยู่แค่ในความคิดของเรา 00:08:18.542 --> 00:08:21.018 มันก็เป็นเพียงเรื่องราว 00:08:21.042 --> 00:08:23.393 เราดำเนินชีวิตตามกิจวัตรประจำวัน 00:08:23.417 --> 00:08:25.476 ตามเรื่องราวที่เราเชื่อถือ มากที่สุด 00:08:25.500 --> 00:08:27.977 และทุกวันนี้ เรื่องราวก็กำลังเปลี่ยนไป ในทุกขณะที่เราเขียน NOTE Paragraph 00:08:28.001 --> 00:08:30.143 มีความหวาดกลัวอยู่มากมาย ในเรื่องราวในปัจจุบัน 00:08:30.167 --> 00:08:31.434 และเมื่อไม่นานมานี้ 00:08:31.458 --> 00:08:33.643 เรื่องราวที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุด 00:08:33.667 --> 00:08:34.934 คือ ความขมขื่น 00:08:34.958 --> 00:08:38.101 ของชีวิตที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควร ทั้งสำหรับตัวเราเองและในสังคม 00:08:38.125 --> 00:08:41.434 แต่การได้เห็นสิ่งดีๆจากสิ่งร้ายๆ ก็สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมาก 00:08:41.458 --> 00:08:44.226 การที่ผู้คนทั่วโลกเริ่มตาสว่าง 00:08:44.250 --> 00:08:47.726 และตระหนักว่า ความเชื่อมโยงกันระหว่างเรา 00:08:47.750 --> 00:08:49.893 เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่เรามี NOTE Paragraph 00:08:49.917 --> 00:08:51.184 แต่เมื่อมองย้อนกลับไป 00:08:51.208 --> 00:08:52.643 สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ 00:08:52.667 --> 00:08:55.684 เราใช้เวลาน้อยมาก ในการยินดีกับเรื่องราวที่แสนยิ่งใหญ่ 00:08:55.708 --> 00:08:57.643 ที่เป็นจริงเสมอมา สำหรับพวกเรา 00:08:57.667 --> 00:08:59.393 เรื่องที่เราอาศัยอยู่บนโลก 00:08:59.417 --> 00:09:00.684 เรื่องที่เรามีชีวิตอยู่ 00:09:00.708 --> 00:09:02.268 เรื่องที่เรายังไม่ตาย 00:09:02.292 --> 00:09:05.226 1.5 ล้านปีที่หลังจาก มนุษย์ค้นพบกล่องไม้ขีด 00:09:05.250 --> 00:09:08.184 เราก็ยังไม่ถึงกับเผาบ้านเราไปจนสิ้น 00:09:08.208 --> 00:09:09.476 ยังอยู่ 00:09:09.500 --> 00:09:11.726 การที่เราจะอยู่ตรงนี้ นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ 00:09:11.750 --> 00:09:13.018 แต่เราก็อยู่ตรงนี้ 00:09:13.042 --> 00:09:14.351 มีทั้งเรื่องร้ายและดี NOTE Paragraph 00:09:14.375 --> 00:09:16.768 ไม่เคยมีคนอาศัยอยู่บนโลก มากขนาดนี้มาก่อน 00:09:16.792 --> 00:09:18.226 ใช้ทรัพยากรมากขึ้น 00:09:18.250 --> 00:09:20.768 และสิ่งที่ชัดเจนก็คือ ระบบเก่าๆ 00:09:20.792 --> 00:09:22.726 ที่เราสร้างขึ้นเพื่อตัวเราเอง 00:09:22.750 --> 00:09:24.018 นั้นล้าสมัยไปแล้ว 00:09:24.042 --> 00:09:25.976 และเราต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่ 00:09:26.000 --> 00:09:27.434 ถ้าไม่ใช่เพราะเชื้อโรคร้าย 00:09:27.458 --> 00:09:30.559 ไม่ช้าก็เร็ว เฟลวไฟแห่งมนุษยชาติ อาจทำให้เราหายใจไม่ออก 00:09:30.583 --> 00:09:33.643 เราได้เห็นวงล้อระบบอุตสาหกรรม หยุดชะงัก 00:09:33.667 --> 00:09:35.726 เครื่องจักรแห่งความก้าวหน้า ที่เงียบลง 00:09:35.750 --> 00:09:38.143 เรามีโอกาสมากมาย 00:09:38.167 --> 00:09:40.059 ที่จะกดปุ่มเริ่มต้นใหม่ 00:09:40.083 --> 00:09:41.934 เพื่อเลือกเส้นทางที่ต่างไปจากเดิม NOTE Paragraph 00:09:41.958 --> 00:09:44.434 เรา อยู่ตรงนี้ บนโลก 00:09:44.458 --> 00:09:47.059 และชีวิตบนโลกนั่นน่าอัศจรรย์ 00:09:47.083 --> 00:09:48.351 โลกที่แม้จะดูกว้างใหญ่ 00:09:48.375 --> 00:09:50.226 แต่พวกเรามากมาย ก็อาศัยอยู่ทุกหนทุกแห่ง 00:09:50.250 --> 00:09:52.809 7.5 ล้านคน จากสถิติล่าสุด 00:09:52.833 --> 00:09:55.601 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆวัน 00:09:55.625 --> 00:09:56.893 ถึงอย่างนั้น 00:09:56.917 --> 00:09:58.643 ก็ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคน 00:09:58.667 --> 00:10:00.560 หากเราแบ่งปันกันคนละเล็กละน้อย 00:10:01.000 --> 00:10:02.684 เพราะฉะนั้น ได้โปรด 00:10:02.708 --> 00:10:03.958 เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ NOTE Paragraph 00:10:04.745 --> 00:10:06.768 หากคุณลองคิดในอีกมุม 00:10:06.792 --> 00:10:09.018 หากโลกเป็นเพียง "สถานที่เดียว" ที่ผู้คนอาศัยอยู่ 00:10:09.042 --> 00:10:12.250 โลกก็คงเป็นสถานที่ ที่เดียวดายน้อยที่สุดในจักรวาลเป็นแน่ 00:10:13.375 --> 00:10:15.601 มีคนมากมายที่ พร้อมจะมอบความรักให้คุณ 00:10:15.625 --> 00:10:17.684 และมีคนอีกมากมาย ที่พร้อมจะให้คุณรัก 00:10:17.708 --> 00:10:19.809 เรา ต้องการ กันและกัน 00:10:19.833 --> 00:10:21.750 และเราก็ได้รู้ซึ้งแล้ว ในตอนนี้ NOTE Paragraph 00:10:22.958 --> 00:10:24.208 หลับฝันดีครับ