เจ้าลิงผู้ควบคุมหุ่นยนต์...จริงๆนะ!
-
0:00 - 0:03รูปแบบของประสาทวิทยาศาสตร์ที่ผมและเพื่อนร่วมงานทำงานอยู่
-
0:03 - 0:05คล้ายกับนักพยากรณ์อากาศ
-
0:05 - 0:09เราจะเฝ้าติดตามพายุเสมอ
-
0:09 - 0:14เราต้องการจะเห็นและตรวจวัดพายุ พูดอีกอย่างคือพายุในสมอง
-
0:14 - 0:17พวกเราทุกคนพูดถึงการระดมสมองในชีวิตประวันของเรา
-
0:17 - 0:20แต่พวกเราไม่เคยเห็นหรือได้ยินสมองของเราเลย
-
0:20 - 0:22ดังนั้น ผมจึงชอบที่จะเริ่มต้นการพูดของผม
-
0:22 - 0:25ด้วยการนำมันมาคุณให้รู้จัก
-
0:25 - 0:28จริงๆ แล้ว นี่คือครั้งแรกที่เราบันทึกเซลล์ประสาทมากกว่าหนึ่งเซลล์
-
0:28 - 0:30เราบันทึกถึงหนึ่งร้อยเซลล์สมองพร้อม ๆ กัน
-
0:30 - 0:33เราสามารถวัดสัญญาณจากปฏิกิริยาทางไฟฟ้า
-
0:33 - 0:35ของร้อยเซลล์นี้จากสัตว์ตัวเดียว
-
0:35 - 0:37และนี่คือภาพแรกที่เราได้
-
0:37 - 0:39ในช่วง 10 วินาทีแรกของการบันทึก
-
0:39 - 0:43ซึ่งตอนนี้เราได้บันทึกเสี้ยวหนึ่งของความคิด
-
0:43 - 0:46ดังที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าพวกเรานี้
-
0:46 - 0:47ผมบอกนักศึกษาเสมอว่า
-
0:47 - 0:51เราสามารถเรียกนักประสาทวิทยาว่าเป็นนักดาราศาสตร์ประเภทหนึ่งได้เหมือนกันนะ
-
0:51 - 0:52เพราะว่าพวกเราทำงานกับระบบ
-
0:52 - 0:55ที่จำนวนเซลล์นั้นเทียบได้กับ
-
0:55 - 0:58จำนวนกาแล็กซีที่มีอยู่ในจักรวาลเลยทีเดียว
-
0:58 - 1:01และจากหลายพันล้านเซลล์ประสาท
-
1:01 - 1:04เราบันทึกได้เพียงแค่หนึ่งร้อยเซลล์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
-
1:04 - 1:06ขณะนี้เรากำลังพยายามบันทึกเซลล์เป็นหลักพัน
-
1:06 - 1:11และเราหวังว่าจะเข้าใจบางอย่างในระดับพื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์
-
1:11 - 1:13เพราะว่า คุณอาจยังไม่รู้ว่า
-
1:13 - 1:18ทุกสิ่งที่เราใช้นิยามธรรมชาติของมนุษย์ ล้วนมาจากพายุเหล่านี้
-
1:18 - 1:23มาจากพายุเหล่านี้ซึ่งม้วนตัวผ่านขุนเขาและหุบเหวในสมองของเรา
-
1:23 - 1:27กำหนดความทรงจำของเรา ความเชื่อของเรา
-
1:27 - 1:30ความรู้สึกของเรา และแผนการของเราสำหรับอนาคต
-
1:30 - 1:32ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยทำ
-
1:32 - 1:37ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ทุกคนเคยทำ กำลังทำ และจะทำ
-
1:37 - 1:42จำเป็นจะต้องใช้เซลล์ประสาทจำนวนมากทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพายุดังกล่าวขึ้นมา
-
1:42 - 1:45และเสียงของพายุสมอง ถ้าคุณไม่เคยได้ยินมาก่อน
-
1:45 - 1:48เป็นแบบนี้
-
1:48 - 1:51คุณช่วยเร่งระดับเสียงให้ดังขึ้นด้วยครับ
-
1:51 - 1:58ลูกชายผมบอกว่าเหมือน "กำลังอบป็อบคอร์นพร้อมๆกับฟังสถานีวิทยุ AM ที่จูนสัญญาณไม่ดี"
-
1:58 - 1:59นี่คือสมองของเรา
-
1:59 - 2:03นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณนำสัญญาณไฟฟ้าจากพายุสมองป้อนใส่ลำโพง
-
2:03 - 2:06และคุณลองฟังเสียงของเซลล์สมองร้อยเซลล์กำลังส่งสัญญาณ
-
2:06 - 2:10สมองของคุณจะมีเสียงเป็นแบบนี้ หรือไม่ว่าสมองของผม หรือสมองของใครๆ ก็ตาม
-
2:10 - 2:14และสิ่งที่เราต้องการทำในฐานะที่เป็นนักประสาทวิทยา ณ ขณะนี้
-
2:14 - 2:19ก็คือการนั่งลงฟังเสียงซิมโฟนี่ ซิมโฟนี่ของสมองเหล่านี้
-
2:19 - 2:23และพยายามถอดรหัสข้อความที่ซ่อนอยู่ในเสียงนี้
-
2:23 - 2:26เมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว
-
2:26 - 2:29เราได้สร้างสิ่งที่เราเรียกว่า ส่วนต่อเชื่อมระหว่างสมองและเครื่องจักร
-
2:29 - 2:31และที่คุณเห็นอยู่นี้คือแผนผังแสดงการทำงานของอุปกรณ์ดังกล่าว
-
2:31 - 2:37แนวคิดก็คือ เราใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากพายุเหล่านี้
-
2:37 - 2:40และลองดูว่า ในเวลาเดียวกันกับที่
-
2:40 - 2:45พายุนี้เคลื่อนออกจากสมองไปสู่ขาหรือแขนของสัตว์ที่เราทดลอง
-
2:45 - 2:48ซึ่งคือประมาณครึ่งวินาที
-
2:48 - 2:50เราอยากรู้ว่าเราจะสามารถตรวจจับสัญญาณ
-
2:50 - 2:54ถอดรหัสข้อความที่ซ่อนอยู่
-
2:54 - 2:56แปลงมันให้อยู่ในรูปคำสั่งแบบดิจิตอล
-
2:56 - 2:58และส่งคำสั่งนี้ไปยังอุปกรณ์ที่เราสร้างขึ้น
-
2:58 - 3:04ซึ่งจะขับเคลื่อนมอเตอร์ตามคำสั่งที่ได้รับจากสมองแบบเรียลไทม์
-
3:04 - 3:08และเราจะประเมินความสามารถในถอดรหัสของเรา
-
3:08 - 3:11เทียบกับการทำงานของร่างกาย
-
3:11 - 3:14และถ้าเราสามารถจะป้อนกลับ
-
3:14 - 3:20สัญญาณรับรู้ด้านการสัมผัสจากแขนกลนี้
-
3:20 - 3:22ซึ่งตอนนี้ถูกควบคุมด้วยสมอง
-
3:22 - 3:23กลับไปยังสมอง
-
3:23 - 3:25สมองจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
-
3:25 - 3:30ต่อข้อความที่ได้รับจากแขนกล
-
3:30 - 3:33และนั่นคือสิ่งที่เราทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
-
3:33 - 3:36เราเริ่มทดลองกับลิงมีชื่อเสียงตัวหนึ่งชื่อว่า ออโรร่า
-
3:36 - 3:38ซึ่งทำให้มันมีชื่อเสียงโด่งดังในสาขานี้ในเวลาต่อมา
-
3:38 - 3:40ออโรร่าชอบเล่นวีดิโอเกมส์
-
3:40 - 3:42อย่างที่คุณเห็น
-
3:42 - 3:47มันชอบใช้จอยสติ๊กเหมือนพวกเรา เหมือนพวกเด็กๆ เวลาเล่นเกมส์
-
3:47 - 3:51และสมกับที่เป็นไพรเมต มันพยายามโกงก่อนที่มันจะตอบได้ถูกต้อง
-
3:51 - 3:56สิ่งที่มันทำก็คือ ก่อนที่รูปเป้าหมายที่มันจะต้องแตะด้วยลูกศรซึ่ง
-
3:56 - 3:58ควบคุมด้วยจอยสติ๊กจะปรากฏบนหน้าจอ
-
3:58 - 4:02ออโรร่าพยายามจะค้นหาเป้าหมาย ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน
-
4:02 - 4:04ทำไมมันทำอย่างนั้น...
-
4:04 - 4:07เพราะว่าทุกครั้งที่มันแตะเป้าหมายด้วยลูกศรได้อย่างถูกต้อง
-
4:07 - 4:10มันจะได้รับรางวัลเป็นน้ำส้มบราซิลหนึ่งหยด
-
4:10 - 4:13ผมบอกคุณได้เลยครับว่า คุณจะให้ลิงตัวไหน ทำอะไรให้คุณก็ได้
-
4:13 - 4:16ถ้าคุณให้รางวัลมันด้วยน้ำส้มบราซิล
-
4:16 - 4:19จริง ๆ แล้ว มันใช้ได้กับไพรเมตทุกประเภทเลยนะ
-
4:19 - 4:20ลองคิดดูครับ
-
4:20 - 4:24ขณะที่ออโรร่ากำลังเล่นเกมส์นี้อยู่ อย่างที่คุณเห็น
-
4:24 - 4:26มันพยายามเป็นพันๆ ครั้งต่อวัน
-
4:26 - 4:30และมันทำได้ถูกต้อง 97 เปอร์เซ็นต์และได้รับน้ำส้ม 350 มิลลิลิตร
-
4:30 - 4:33เราบันทึกพายุสมองที่ถูกสร้างขึ้นในศีรษะของมัน
-
4:33 - 4:35และส่งข้อมูลนี้ไปยังแขนกล
-
4:35 - 4:39ซึ่งพยายามเรียนรู้ที่จะเคลื่อนที่แบบที่ออโรร่าทำ
-
4:39 - 4:43เนื่องจากแนวคิดของเราคือเปิดส่วนต่อเชื่อม
ระหว่างสมอง-เครื่องจักรไว้ -
4:43 - 4:47และให้ออโรร่าเล่นเกมส์ในความคิดเท่านั้น
-
4:47 - 4:50โดยไม่ให้มันใช้ร่างกาย
-
4:50 - 4:53พายุสมองของมันจะควบคุมแขนกล
-
4:53 - 4:56ที่จะใช้เลื่อนลูกศรไปยังเป้าหมายและแตะเป้าหมาย
-
4:56 - 4:59และสิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจมากก็คือ
ออโรร่าทำเหมือนกับที่เราสาธยายเมื่อกี้เป๊ะเลยครับ -
4:59 - 5:03มันเล่นเกมส์โดยไม่เคลื่อนไหวร่างกาย
-
5:03 - 5:05ดังนั้น การเคลื่อนที่ของลูกศรที่คุณเห็นในขณะนี้
-
5:05 - 5:08คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ ที่มันเริ่มเรียนรู้
-
5:08 - 5:10นี่คือช่วงแรกที่มันเริ่มเรียนรู้
-
5:10 - 5:17ความต้องการในสมองถูกปลดปล่อยเป็นอิสระจากขอบเขตร่างกายของไพรเมต
-
5:17 - 5:21และสมองสามารถตอบสนองต่อสิ่งภายนอกได้
-
5:21 - 5:24ด้วยการควบคุมแขนกล
-
5:24 - 5:29ออโรร่าก็ยังคงเล่นเกมส์ต่อไป มันยังคงค้นหาเป้าหมายต่อไป
-
5:29 - 5:32และได้รับรางวัลเป็นน้ำส้มที่มันชื่นชอบต่อไป
-
5:32 - 5:39มันทำเช่นนั้น เพราะว่า ณ ขณะนั้นมันได้รับแขนอันใหม่
-
5:39 - 5:42ส่วนแขนกลที่คุณเห็นอยู่นี้ คือ 30 วันให้หลัง
-
5:42 - 5:45จากวิดีโอแรกที่ผมได้เปิดให้ดู
-
5:45 - 5:47มันอยู่ภายใต้การควบคุมของสมองของออโรร่า
-
5:47 - 5:51และมันสามารถเลื่อนลูกศรไปที่เป้าหมาย
-
5:51 - 5:55และออโรร่ารู้แล้วว่ามันสามารถเล่นเกมส์ได้โดยใช้แขนกล
-
5:55 - 6:00แต่มันก็ไม่ได้สูญเสียความสามารถในการใช้แขนจริงของมันทำตามใจชอบ
-
6:00 - 6:04มันสามารถเกาหลังของมัน เกาพวกเรา และเล่นเกมส์อื่นได้
-
6:04 - 6:06ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ
-
6:06 - 6:10สมองของออโรร่าสามารถรวมเอาแขนกลนี้
-
6:10 - 6:13เข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของมันได้
-
6:13 - 6:16ภาพตัวเองในสมองของออโรร่า ณ ขณะนี้
-
6:16 - 6:20ได้ถูกขยายออกให้มีแขนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 อัน
-
6:20 - 6:23นี่คือสิ่งที่เราได้ทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
-
6:23 - 6:26อีก 10 ปีต่อมา
-
6:26 - 6:31เมื่อปีก่อน เราค้นพบว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้แขนกลแต่อย่างใด
-
6:31 - 6:36คุณสามารถสร้างร่างกายเสมือน ตัวอวตาร ตัวแทนของลิง
-
6:36 - 6:40และใช้มันโต้ตอบกับลิงของเรา
-
6:40 - 6:45หรือคุณสามารถฝึกลิงเพื่อให้
-
6:45 - 6:48มันคิดว่านั้นเป็นตัวแทนของมันในโลกเสมือน
-
6:48 - 6:53และใช้สมองของมันควบคุมการเคลื่อนที่ของแขนขาของอวตาร
-
6:53 - 6:56และสิ่งที่เราได้ทำนั้นแท้จริงแล้วก็คือการฝึกหัดสัตว์
-
6:56 - 6:59ให้เรียนรู้วิธีในการควบคุมตัวอวตาร
-
6:59 - 7:03และสำรวจตรวจสอบวัตถุที่ปรากฏอยู่ในโลกเสมือน
-
7:03 - 7:05และวัตถุเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนกัน
-
7:05 - 7:09แต่เมื่ออวตารสัมผัสกับพื้นผิวของวัตถุเหล่านี้
-
7:09 - 7:16วัตถุนั้นก็จะส่งสัญญาณไฟฟ้าที่บ่งบอกลักษณะพื้นผิวของวัตถุนั้น
-
7:16 - 7:20กลับไปยังสมองของลิงโดยตรง
-
7:20 - 7:25เป็นการบอกสมองให้รู้ว่าอวตารกำลังสัมผัสอะไรอยู่
-
7:25 - 7:30และภายใน 4 สัปดาห์ สมองจะเรียนรู้การจัดการกับความรู้สึกใหม่นี้
-
7:30 - 7:36และผนวกเอาวิธีการรับรู้แบบใหม่นี้เข้าไว้ เหมือนเป็นประสาทสัมผัสอันใหม่
-
7:36 - 7:38และเมื่อถึงจุดนี้ คุณก็ได้ให้อิสรภาพแก่สมองอย่างแท้จริง
-
7:38 - 7:43เพราะว่าคุณสามารถใช้สมองส่งคำสั่งไปควบคุมการเคลือนที่ของอวตารได้
-
7:43 - 7:48และการตอบสนองที่ได้รับมาจากอวตารก็จะถูกประมวลผลในสมอง
-
7:48 - 7:50โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผิวหนังแต่อย่างใด
-
7:50 - 7:53และสิ่งที่คุณเห็นอยู่นี้ คือ โครงร่างของภาระกิจของเรา
-
7:53 - 7:57คุณจะเห็นสัตว์สัมผัสเป้าหมายสามอันนี้
-
7:57 - 8:01และมันจะต้องเลือกอันใดอันหนึ่งเพราะมีแค่อันเดียวเท่านั้นที่มีรางวัล
-
8:01 - 8:03น้ำส้มที่มันต้องการ
-
8:03 - 8:09และมันจะต้องเลือกโดยการสัมผัสด้วยแขนเสมือน
ซึ่งเป็นแขนที่ไม่มีอยู่จริงบนตัวมัน -
8:09 - 8:11และนั่นคือสิ่งที่พวกมันทำ
-
8:11 - 8:14นี่คือการปลดปล่อยสมองอย่างสมบูรณ์
-
8:14 - 8:19จากข้อจำกัดทางร่างกายและการเคลื่อนไหวในภาระกิจแบบนี้
-
8:19 - 8:23สัตว์สามารถควบคุมอวตารให้สัมผัสกับเป้าหมายได้
-
8:23 - 8:28และมันยังสามารถรับรู้ลักษณะของผิวสัมผัสได้จากสัญญาณไฟฟ้าที่ถูกส่งกลับไปยังสมองโดยตรง
-
8:28 - 8:32และสมองสามารถแยกแยะได้ว่าผิวสัมผัสอันไหนที่มีรางวัลซ่อนอยู่
-
8:32 - 8:36คำอธิบายที่คุณเห็นในคลิปนี้ไม่ได้ถูกแสดงให้ลิงเห็น
-
8:36 - 8:39และถึงยังไง มันก็อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกอยู่แล้ว
-
8:39 - 8:44คำอธิบายเหล่านี้ เราใส่เข้าไปเพื่อบอกให้คุณรู้ว่า
เป้าหมายที่ถูกต้องจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ -
8:44 - 8:48และลิงก็สามารถหามันเจอได้จากความรู้สึกที่แตกต่างขณะสัมผัส
-
8:48 - 8:51และพวกมันก็สามารถกดลงไปและเลือก
-
8:51 - 8:54เมื่อเรามองดูที่สมองของสัตว์เหล่านี้
-
8:54 - 8:57คุณจะเห็นการเรียงตัวของเซลล์ 125 เซลล์ในภาพด้านบน
-
8:57 - 9:02แสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกิจกรรมของสมอง หรือพายุสมอง
-
9:02 - 9:04ของเซลล์ประสาทเหล่านี้ในสมอง
-
9:04 - 9:06เมื่อสัตว์ใช้จอยสติ๊ก
-
9:06 - 9:08และนั่นเป็นภาพที่นักประสาทวิทยาทุกคนรู้
-
9:08 - 9:13การเรียงตัวแบบพื้นฐานแสดงให้เห็นว่าเซลล์เหล่านี้กำลังสร้างรหัส
สำหรับการเคลื่อนที่ทุกๆ ทิศทางที่เป็นไปได้ -
9:13 - 9:19ภาพด้านล่างคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายหยุดเคลื่อนที่
-
9:19 - 9:25และสัตว์เริ่มควบคุมแขนกลหรืออวตารในคอมพิวเตอร์
-
9:25 - 9:28ด้วยความเร็วพอๆ กับการรีเซ็ตเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
-
9:28 - 9:34กิจกรรมของสมองย้ายมาเริ่มตอบสนองต่อเครื่องมือใหม่นี้
-
9:34 - 9:39ราวกับว่ามันคือส่วนหนึ่งของร่างกายของลิงตัวนั้น
-
9:39 - 9:44สมองก็มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน
ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เราสามารถจะวัดได้ -
9:44 - 9:48สิ่งที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นว่าความรู้สึกของตัวตนเรา
-
9:48 - 9:52ไม่ได้สิ้นสุดลงที่เซลล์ผิวหนังชั้นนอกของร่างกายเราเท่านั้น
-
9:52 - 9:58แต่มันจบลงที่ปลายทางของอิเล็คตรอนในอุปกรณ์
ที่เราควบคุมได้ด้วยสมองของเรา -
9:58 - 10:02ไวโอลินของเรา รถยนต์ของเรา จักรยานของเรา
ลูกฟุตบอลของเรา เสื้อผ้าของเรา -
10:02 - 10:09สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดถูกรวมเข้ากับร่างกาย
ด้วยระบบอันทรงพลัง น่าทึ่งและปรับเปลี่ยนได้ที่เรียกว่าสมอง -
10:09 - 10:11แล้วเราจะขยายมันออกไปได้ไกลแค่ไหน?
-
10:11 - 10:15ในการทดลองเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราทำการทดลองแบบสุดโต่ง
-
10:15 - 10:18เราให้สัตว์วิ่งบนเครื่องลู่วิ่งออกกำลังกาย
-
10:18 - 10:20ที่มหาวิทยาลัยดุ๊ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
-
10:20 - 10:23ให้มันสร้างพายุสมองที่จำเป็นสำหรับการเคลื่อนที่
-
10:23 - 10:27และเรามีหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์
-
10:27 - 10:29อยู่ที่ห้องทดลอง ATR เมื่องเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
-
10:29 - 10:35ที่ซึ่งไฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งมันจะถูกควบคุมด้วยสมอง
-
10:35 - 10:38สมองมนุษย์ หรือ สมองของไพรเมต
-
10:38 - 10:43สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือกิจกรรมสมองที่สร้างการเคลื่อนที่ในลิง
-
10:43 - 10:47ถูกส่งไปยังญี่ปุ่นและทำให้หุ่นยนต์ก้าวเดิน
-
10:47 - 10:51ขณะเดียวกันแต่ละก้าวของหุ่นยนต์นี้ก็ถูกส่งกลับไปยังมหาลัยดุ๊ก
-
10:51 - 10:56เพื่อให้เจ้าลิงเห็นขาของหุ่นยนต์ที่กำลังก้าวเดินอยู่ตรงหน้ามัน
-
10:56 - 11:00เพื่อที่ว่าเจ้าลิงจะได้รับรางวัล
ไม่ใช่สำหรับสิ่งที่ร่างกายของมันกำลังทำ -
11:00 - 11:05แต่สำหรับทุกๆ ก้าวเดินที่ถูกต้องของหุ่นยนต์ที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง
-
11:05 - 11:07ซึ่งถูกควบคุมโดยสมองของมัน
-
11:07 - 11:15ที่ตลกก็คือสัญญาณเดินทางไปกลับรอบโลกใช้เวลา 20 มิลลิวินาที
-
11:15 - 11:19ซึ่งสั้นกว่าระยะเวลาที่พายุสมองเดินทางออกจากหัวของลิง
-
11:19 - 11:23ไปยังกล้ามเนื้อของมันเอง
-
11:23 - 11:29เจ้าลิงตัวนี้ได้ขับเคลื่อนหุ่นยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมันถึง 6 เท่า
จากคนละซีกโลก -
11:29 - 11:35นี่คือการทดลองอันหนึ่งที่หุ่นยนต์สามารถเดินได้เอง
-
11:35 - 11:40นี่คือฝันที่เป็นจริงของ CB1 ในญี่ปุ่น
-
11:40 - 11:44ภายใต้การควบคุมของสมองของไพรเมต
-
11:44 - 11:46แล้ว...เราทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร?
-
11:46 - 11:48เราสามารถจะทำอะไรได้จากผลงานวิจัยทั้งหมดนี้
-
11:48 - 11:54นอกจากความใคร่รู้เกี่ยวกับอาณาจักรอันทรงพลัง
ที่อยู่ระหว่างหูของเรา? -
11:54 - 11:59ไอเดียก็คือเราต้องการนำความรู้และเทคโนโลยีที่ได้
-
11:59 - 12:04มาใช้แก้ไขปัญหาทางประสาทวิทยาสำคัญอันหนึ่งที่โลกเผชิญอยู่
-
12:04 - 12:09ผู้คนหลายล้านได้สูญเสียความสามารถในการเปลี่ยนพายุสมอง
-
12:09 - 12:11ให้เกิดเป็นการเคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่
-
12:11 - 12:16แม้ว่าสมองของพวกเขาจะยังสามารถสร้างพายุ
และรหัสสำหรับการเคลื่อนที่ -
12:16 - 12:21แต่สัญญาณเหล่านั้นไม่สามารถวิ่งข้ามกำแพง
ที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง -
12:21 - 12:24ดังนั้น แนวคิดของเราก็คือการสร้างเส้นทางลัด
-
12:24 - 12:28ด้วยการใช้ส่วนต่อเชื่อมสมอง-เครื่องจักรเพื่ออ่านสัญญาณ
-
12:28 - 12:32พายุสมองที่แสดงถึงความต้องการจะเคลื่อนที่อีกครั้ง
-
12:32 - 12:36วิ่งข้ามรอยแผลบาดเจ็บ โดยเทคนิคไมโครเอ็นจิเนียริ่ง
-
12:36 - 12:43และส่งสัญญาณไปยังร่างกายใหม่ที่เรียกว่า
เอ็กโซสเกลเลตัน (exoskeleton) -
12:43 - 12:49ซึ่งเป็นชุดหุ่นยนต์ที่จะทำหน้าที่เป็นร่างกายใหม่สำหรับคนไข้กลุ่มนี้
-
12:49 - 12:53และภาพที่คุณเห็นนี้เป็นผลงานขององค์กรหนึ่ง
-
12:53 - 12:57เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ชื่อ
วอล์ค อะเกน โปรเจค (Walk Again Project) -
12:57 - 13:00ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักวิทยาศาสตร์จากยุโรป
-
13:00 - 13:01อเมริกาและบราซิล
-
13:01 - 13:06ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาร่างกายใหม่นี้ขึ้นมา
-
13:06 - 13:09ร่างกายที่เราเชื่อว่าด้วยกลไกเดียวกันกับ
-
13:09 - 13:15ที่ทำให้ออโรร่าและเจ้าลิงตัวอื่นๆ สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ
ผ่านส่วนต่อเชื่อมสมอง-เครื่องจักรได้ -
13:15 - 13:21กลไกที่ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ
ที่เราประดิษฐ์ขึ้นในชีวิตประจำวันของเราได้ -
13:21 - 13:24เราหวังว่า กลไกเดียวกันนี้จะช่วยให้คนไข้กลุ่มนี้
-
13:24 - 13:28ไม่เพียงแต่จะสามารถจินตนาการการเคลื่อนที่ที่พวกเขาต้องการ
-
13:28 - 13:31เปลี่ยนมันเป็นการเคลื่อนที่ของร่างกายใหม่จริงๆ
-
13:31 - 13:38แต่สมองจะสามารถผนวกเอาร่างกายใหม่นี้เข้ามา
อยู่ภายใต้การควบคุมได้เหมือนกับร่างกายเดิม -
13:38 - 13:42เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีคนบอกผมว่า
-
13:42 - 13:47สิ่งที่ว่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น มันไม่มีทางเป็นไปได้
-
13:47 - 13:49และในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผมบอกคุณได้เลยว่า
-
13:49 - 13:52ผมเติบโตขึ้นมาในพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิลในยุค 60
-
13:52 - 13:58ได้นั่งดูคนบ้ากลุ่มหนึ่งบอกพวกเราว่า
พวกเขาจะเดินทางไปดวงจันทร์ -
13:58 - 13:59ตอนนั้นผมอายุ 5 ขวบ
-
13:59 - 14:03ผมไม่เข้าใจว่าทำไมนาซ่าไม่จ้างกัปตันเคิร์กกับสป๊อคมาทำงานนี้
-
14:03 - 14:06เพราะพวกเขาน่าจะถนัดมากๆ
-
14:06 - 14:09แต่เพราะว่าการได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเมื่อยังเด็ก
-
14:09 - 14:12ทำให้ผมเชื่อในสิ่งที่คุณย่าของผมบอกกับผม
-
14:12 - 14:14ว่า "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือ สิ่งที่เป็นไปได้
-
14:14 - 14:18ซึ่งคนบางคนไม่ได้ทุ่มเทความพยายามลงไปอย่างเพียงพอ
ที่จะทำให้มันเกิดขึ้น" -
14:18 - 14:22พวกเขาบอกผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนบางคน
กลับมาเดินอีกครั้ง -
14:22 - 14:25ผมกำลังจะทำตามคำแนะนำของคุณย่าของผม
-
14:25 - 14:26ขอบคุณครับ
-
14:26 - 14:34(เสียงปรบมือ)
- Title:
- เจ้าลิงผู้ควบคุมหุ่นยนต์...จริงๆนะ!
- Speaker:
- มิเกล นิโคเลลิส (Miguel Nicolelis)
- Description:
-
เราจะสามารถใช้สมองของเราควบคุมเครื่องจักรโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ร่างกายได้ไหม? มิเกล นิโคเลลิส พูดถึงการทดลองอันน่าทึ่งที่ทำให้เจ้าลิงในสหรัฐสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวอวตารของลิง และมันยังสามารถควบคุมหุ่นยนต์ที่อยู่อีกซีกโลกในญี่ปุ่นด้วยพลังความคิดของมัน งานวิจัยนี้มีความหมายยิ่งใหญ่ต่อกลุ่มคนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และมนุษยชาติทุกคน
(Filmed at TEDMED 2012.) - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 14:55
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kanawat Senanan accepted Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kanawat Senanan commented on Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for A monkey that controls a robot with its thoughts. No, really. |
Kanawat Senanan
A perfect translation! I did enjoy the read-through review krab. Thank you.