WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.960 รู้กันไหมคะว่าในอดีตเคยมีโรคระบาด ครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Black Death 00:00:03.960 --> 00:00:05.560 และทำให้คนตายไป 00:00:05.560 --> 00:00:07.600 เกินหนึ่งร้อยล้านคนค่ะ 00:00:07.600 --> 00:00:09.460 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:09.460 --> 00:00:11.635 ในตอนที่วิวกำลังอัดคลิปนี้อยู่นะคะ 00:00:11.640 --> 00:00:14.520 มีเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เหตุการณ์นึงเพิ่งจะเกิดขึ้นค่ะ 00:00:14.520 --> 00:00:16.880 ก็คือ WHO หรือว่าองค์การอนามัยโลกนะคะ 00:00:16.880 --> 00:00:18.120 เพิ่งจะประกาศให้ 00:00:18.120 --> 00:00:21.460 COVID-19 หรือว่าไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เนี่ยนะคะ 00:00:21.460 --> 00:00:24.740 เป็นโรคระบาดที่เรียกได้ว่าระบาดไปทั่วโลกค่ะ 00:00:24.740 --> 00:00:28.700 ดังนั้นค่ะ จากเหตุการณ์นี้ทำให้วิว นึกถึงเหตุการณ์นึงในอดีต 00:00:28.700 --> 00:00:30.860 นั่นก็คือเหตุการณ์ Black Death นั่นเองค่ะ 00:00:30.860 --> 00:00:33.900 เพราะว่าเป็นเหตุการณ์โรคระบาด ที่กระจายไปทั่วโลกเหมือนกันนะคะ 00:00:33.900 --> 00:00:38.900 และที่สำคัญเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่มี คนตายจำนวนเยอะมากๆๆๆเลยทีเดียวค่ะ 00:00:38.900 --> 00:00:40.460 ดังนั้นวิวก็เลยคิดว่า 00:00:40.460 --> 00:00:44.380 การศึกษาประวัติศาสตร์ในอดีตเนี่ย มันก็ช่วยให้เราเข้าใจปัจจุบันได้มากขึ้น 00:00:44.380 --> 00:00:46.580 วันนี้วิวก็เลยอยากชวนทุกคนมาคุยเรื่อง 00:00:46.580 --> 00:00:47.935 Black Death กันค่ะ 00:00:47.935 --> 00:00:50.215 แต่ก่อนที่เราจะไปฟังเรื่อง Black Death กันเนี่ยนะคะ 00:00:50.360 --> 00:00:54.100 ใครที่ชื่นชอบที่จะฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระไปพร้อมกันเนี่ย 00:00:54.100 --> 00:00:56.320 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ 00:00:56.320 --> 00:00:59.020 เพราะว่าแต่ละช่องทางเนี่ย เนื้อหาก็ไม่เหมือนกันเลยนะคะ 00:00:59.020 --> 00:01:01.400 เอาล่ะ พอแล้วเลิกโฆษณา เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ 00:01:01.400 --> 00:01:05.120 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราว ที่ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 00:01:05.120 --> 00:01:07.000 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:10.860 --> 00:01:13.960 Black Death หรือว่าความตายสีดำเนี่ยนะคะก็คือ 00:01:13.960 --> 00:01:18.620 การระบาดของกาฬโรคซึ่งเป็นโรคระบาด ร้ายแรงมากๆนะคะ ในช่วงเวลานึงค่ะ 00:01:18.820 --> 00:01:20.480 ซึ่งถามว่าโรคนี้เกิดจากอะไร 00:01:20.480 --> 00:01:22.015 ก็ต้องบอกว่าเกิดจากเห็บค่ะ 00:01:22.020 --> 00:01:25.280 แล้วก็เป็นเห็บที่อาศัยอยู่ใน สัตว์ประเภทสัตว์ฟันแทะนะคะ 00:01:25.280 --> 00:01:27.800 ประเภทพวกหนู กระรอก อะไรประมาณอย่างนี้ค่ะ 00:01:27.800 --> 00:01:30.120 โดยในสมัยแรกๆนะคะที่กาฬโรคระบาดเนี่ย 00:01:30.120 --> 00:01:31.760 เขาก็ไม่ได้เรียกมันว่า Black Death หรอกค่ะ 00:01:31.760 --> 00:01:35.320 เพราะว่าคำว่า Black Death เนี่ย เป็นคำที่เกิดขึ้นในสมัยหลังนะคะ 00:01:35.320 --> 00:01:36.980 ช่วงประมาณศตวรรษที่ 16 ค่ะ 00:01:36.980 --> 00:01:40.520 มีนักประวัติศาสตร์ชาว สแกนดิเวียคนนึงใช้คำนี้ขึ้นมาค่ะ 00:01:40.520 --> 00:01:42.780 แต่คำนี้ก็ยังไม่ได้ฮิตในยุคสมัยนั้นนะคะ 00:01:42.780 --> 00:01:44.220 มาฮิตอีกรอบนึงในช่วง 00:01:44.220 --> 00:01:45.660 ศตวรรษที่ 19 ค่ะ 00:01:45.660 --> 00:01:47.920 เมื่อเกิดโรคระบาดครั้งใหม่ขึ้นมา 00:01:47.920 --> 00:01:50.400 คนก็กลับไปศึกษาเรื่อง Black Death กันนะคะ 00:01:50.400 --> 00:01:53.580 ว่าแบบเออ ตอนนี้เราก็มีโรคระบาด ตอนนั้นจะเป็นยังไงนะ 00:01:53.580 --> 00:01:55.700 เหมือนกับที่วิวทำคลิปนี้เป๊ะเลยก็คือ 00:01:55.700 --> 00:01:58.100 ตอนนี้เรามีโรคระบาด ดังนั้นเราก็ควรจะไป 00:01:58.100 --> 00:02:00.020 ศึกษาโรคระบาดในอดีตนะคะ 00:02:00.020 --> 00:02:01.860 คนในช่วงศตวรรษที่ 19 ค่ะ 00:02:01.860 --> 00:02:04.240 ก็เลยฮิตคำว่า Black Death ขึ้นมานะคะแล้วก็ 00:02:04.240 --> 00:02:07.020 เรียกเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า Black Death ตั้งแต่นั้นมาค่ะ 00:02:07.020 --> 00:02:09.260 ทีนี้พูดกันมาว่า Black Death 00:02:09.260 --> 00:02:12.680 เอ่อ Black Death นี่มีอาการยังไง แล้วมันน่ากลัวขนาดไหน 00:02:12.680 --> 00:02:14.220 ก็ต้องบอกว่าน่ากลัวมากๆค่ะ 00:02:14.220 --> 00:02:17.900 เพราะว่าในยุคสมัยนั้นนะคะ คนที่รับเชื้อเข้าไปเนี่ย ตายได้ภายใน 00:02:17.900 --> 00:02:19.780 5-6 วันเลยทีเดียวนะคะ 00:02:19.780 --> 00:02:22.240 คือคนที่ได้รับเชื้อเข้าไปจากการโดนเห็บกัดเนี่ย 00:02:22.240 --> 00:02:24.180 ก็จะมีอาการดังนี้ค่ะ 00:02:24.180 --> 00:02:26.480 อย่างแรกเลยนะคะก็คือเป็นไข้แน่นอนค่ะ 00:02:26.480 --> 00:02:28.060 แล้วก็ปวดเนื้อปวดตัวนะคะ 00:02:28.060 --> 00:02:31.320 รู้สึกว่าสู้แสงจ้าไม่ได้ เวียนหัว อะไรต่างๆค่ะ 00:02:31.320 --> 00:02:34.340 หลังจากนั้นนะคะ อาการที่ชัดเจนที่สุดก็คือ 00:02:34.340 --> 00:02:36.740 ต่อมน้ำเหลืองของเขามันก็จะโตขึ้นมาค่ะ 00:02:36.740 --> 00:02:38.780 ขนาดเท่าไข่ไก่เลยทีเดียวนะ 00:02:38.780 --> 00:02:40.560 หลังจากนั้นถามว่ามันหยุดหรือยัง 00:02:40.560 --> 00:02:43.180 มันก็ยังไม่หยุดค่ะ มันก็จะโตขึ้นเรื่อยๆๆๆ 00:02:43.180 --> 00:02:45.800 จนกระทั่งในที่สุดมันก็จะแตกออกมาค่ะ 00:02:45.860 --> 00:02:50.020 ซึ่งถ้ารักษาประคองอาการกันดีๆเนี่ยนะคะ ก็จะสามารถหายได้ใน 10 วันค่ะ 00:02:50.020 --> 00:02:51.560 แต่อย่างไรก็ตามนะคะ 00:02:51.560 --> 00:02:55.420 คนในสมัยนั้นน่ะ เทคโนโลยีไม่ถึงด้วย ความรู้ก็ไม่ถึง อะไรต่างๆ 00:02:55.420 --> 00:02:57.000 คนก็เลยมักจะหมดแรง 00:02:57.000 --> 00:02:59.500 แล้วก็ตายไปภายใน 5-6 วันนี่เองค่ะ 00:02:59.500 --> 00:03:01.960 ด้วยอาการ หนึ่งคือเหนื่อยล้าก่อนเลย 00:03:01.960 --> 00:03:03.200 คือสู้ไม่ไหวแล้วนะคะ 00:03:03.200 --> 00:03:06.100 สองนะคะก็คือหัวใจล้มเหลวค่ะ 00:03:06.100 --> 00:03:08.760 และสามก็คือเลือดออกที่อวัยวะภายในค่ะ 00:03:08.760 --> 00:03:12.920 ซึ่งถ้าใครเล่นเกม Plague Inc. นี่จะรู้ว่า นี่เป็นคอมโบที่ทำให้คนตายเร็วมากนะคะ 00:03:12.920 --> 00:03:14.220 ซึ่งวิวใช้ประจำเลยนะ 00:03:14.220 --> 00:03:16.520 ทีนี้ถามว่าแล้วมันระบาดกันได้ยังไงนะคะ 00:03:16.520 --> 00:03:19.320 ก็ต้องบอกกาฬโรคเนี่ย มันไม่ได้ระบาดครั้งเดียวในโลกค่ะ 00:03:19.320 --> 00:03:21.220 มันระบาดมาหลายครั้งมากๆนะคะ 00:03:21.220 --> 00:03:24.600 ซึ่งนักประวัติศาสตร์ส่วนมากก็จะ แบ่งการระบาดออกเป็นทั้งหมด 00:03:24.600 --> 00:03:26.160 3 ช่วงเวลาด้วยกันค่ะ 00:03:26.160 --> 00:03:29.360 ในช่วงเวลาแรกเนี่ยนะคะ เกิดขึ้นในช่วงยุคกลางตอนต้นค่ะ 00:03:29.360 --> 00:03:32.060 ที่บริเวณอาณาจักรโรมันตะวันออกนะคะ 00:03:32.060 --> 00:03:35.160 ก็คือศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงคอนสแตนติโนเปิลนั่นเองนะคะ 00:03:35.160 --> 00:03:37.100 ทีนี้ถามว่าเริ่มมาจากไหน 00:03:37.100 --> 00:03:40.140 เขาก็เชื่อกันว่าเชื้อโรคตัวนี้ เริ่มมาจากที่ประเทศจีนนะคะ 00:03:40.140 --> 00:03:43.500 อย่างไรก็ตาม กรุงคอนสแตนติโนเปิล ไม่ได้รับมาโดยตรงจากจีนค่ะ 00:03:43.500 --> 00:03:46.320 เขารับมาผ่านการค้าขายกับประเทศอียิปต์นะคะ 00:03:46.320 --> 00:03:47.740 คือกรุงคอนสแตนติโนเปิลเนี่ย 00:03:47.745 --> 00:03:50.845 มีการนำเข้าพวกธัญพืชต่างๆจากอียิปต์ค่ะ 00:03:50.845 --> 00:03:52.960 ทีนี้ตอนที่นำเข้าเข้ามาเนี่ย 00:03:52.960 --> 00:03:56.680 มันก็จะต้องมีพวกหนูพวกอะไร ที่มีเห็บเนี่ยติดตัวมาด้วยใช่ไหมคะ 00:03:56.680 --> 00:03:59.380 แล้วก็มาบึ้มที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลนะคะ 00:03:59.380 --> 00:04:02.560 เพราะว่าเป็นเมืองใหญ่ที่มีหนู อยู่ปริมาณเยอะมากๆเลยค่ะ 00:04:02.560 --> 00:04:06.220 นักประวัติศาสตร์คาดการณ์กันว่า ในช่วงพีกของโรคนี้เนี่ย 00:04:06.225 --> 00:04:09.355 มีคนในกรุงคอนสแตนติโนเปิลตายไปวันละ 00:04:09.360 --> 00:04:11.400 10,000 คนเลยทีเดียวค่ะ 00:04:11.400 --> 00:04:15.400 และแน่นอนว่ามันก็จะต้องกระจายจาก กรุงคอนสแตนติโนเปิลไปทั่วยุโรปนะคะ 00:04:15.400 --> 00:04:17.040 เขาคาดการณ์กันว่า 00:04:17.040 --> 00:04:20.020 จากเหตุการณ์นี้ทำให้คนในยุโรปตายไปประมาณ 00:04:20.020 --> 00:04:22.160 หนึ่งร้อยล้านคนเลยทีเดียว 00:04:22.160 --> 00:04:26.520 และถือว่าเป็นประชากรประมาณ 50% ของคนยุโรปทั้งหมดค่ะ 00:04:26.520 --> 00:04:29.060 ในช่วงปีค.ศ. 541 ถึงปีค.ศ. 700 นะคะ 00:04:29.060 --> 00:04:31.020 และนี่ก็คือการระบาดในช่วงแรกค่ะ 00:04:31.020 --> 00:04:34.980 ผ่านมันไปอย่างเร็วๆเนอะเพราะว่า เราจะไปโฟกัสกันที่การระบาดในครั้งที่สอง 00:04:34.980 --> 00:04:37.480 ที่ถือว่าเป็นการระบาดครั้งใหญ่มากๆ 00:04:37.480 --> 00:04:41.480 ในสมัยนั้นเนี่ยถึงขั้นเรียกว่า The Great Plague หรือว่าการระบาดครั้งใหญ่เลยนะ 00:04:41.480 --> 00:04:43.000 ซึ่งการระบาดครั้งนี้ก็คือ 00:04:43.000 --> 00:04:47.540 การระบาดที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดได้รับการ ขนานนามว่าเป็น Black Death นั่นเองค่ะ 00:04:47.540 --> 00:04:51.355 การระบาดครั้งนี้นะคะเกิดขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 14 - 17 ค่ะ 00:04:51.360 --> 00:04:54.780 ก็แน่นอนนะคะ ต้นกำเนิดก็ยังเริ่มมาจากที่ประเทศจีนค่ะ 00:04:54.780 --> 00:04:56.895 คือเขาเชื่อกันว่ามันเกิดขึ้นที่ 00:04:56.900 --> 00:05:00.800 มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนนะคะ ในปีค.ศ. 1334 นั่นเอง 00:05:00.800 --> 00:05:03.740 จากการระบาดครั้งนี้ทำให้ คนในมณฑลหูเป่ยเนี่ยนะคะ 00:05:03.740 --> 00:05:07.620 ตายไปถึง 90% ของประชากรทั้งหมดค่ะ 00:05:07.620 --> 00:05:09.920 ก็ตายไปประมาณห้าล้านคนเลยทีเดียวนะคะ 00:05:09.920 --> 00:05:11.720 เขาก็สันนิษฐานกันว่าเกิดจาก 00:05:11.720 --> 00:05:13.200 ภัยพิบัติธรรมชาติค่ะ 00:05:13.200 --> 00:05:17.120 ในช่วงนั้นอาจจะมีน้ำท่วม มีแผ่นดินไหว มีความแห้งแล้งอะไรต่างๆ 00:05:17.120 --> 00:05:20.460 ทำให้สัตว์ประเภทหนูซึ่งมันซุกซ่อนตัวอยู่เนี่ย 00:05:20.460 --> 00:05:22.335 เกิดออกมารวมตัวกันค่ะ 00:05:22.340 --> 00:05:24.880 พอออกมารวมตัวกัน แน่นอนว่าก็จะต้องพา 00:05:24.880 --> 00:05:27.720 เห็บ ซึ่งเป็นที่มาของโรคมาด้วยนะคะ 00:05:27.720 --> 00:05:29.340 ทีนี้พอคนในมณฑลหูเป่ยติดนะคะ 00:05:29.340 --> 00:05:32.740 แน่นอนว่ามันก็จะต้องแพร่กระจายไปที่อื่นอีกค่ะ 00:05:32.740 --> 00:05:34.295 ถามว่าแพร่กระจายไปผ่านอะไร 00:05:34.300 --> 00:05:37.840 ก็ผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้านั่นเองนะคะ 00:05:37.840 --> 00:05:39.900 ทีนี้มันก็แพร่กระจายจากจีนใช่ไหมคะ 00:05:39.900 --> 00:05:41.880 ไปตามทางก็ไปบริเวณรัสเซีย 00:05:41.880 --> 00:05:44.940 ไปบริเวณเอเชียใต้หรือว่าอินเดียนะคะ 00:05:44.940 --> 00:05:48.180 หลังจากนั้นค่ะ เมื่อมาถึงอินเดียแล้วก็จะต้องไปถึงที่ 00:05:48.180 --> 00:05:49.840 ตะวันออกกลางนั่นเองนะคะ 00:05:49.840 --> 00:05:54.340 หลังจากที่ค่อยๆเดินทางจากจีนมาในช่วง ปีค.ศ. 1334 เรื่อยมาเรื่อยๆเนี่ยนะคะ 00:05:54.340 --> 00:05:55.620 ในปีค.ศ. 1347 ค่ะ 00:05:55.620 --> 00:05:57.660 สังเกตว่าใช้เวลาร่วมสิบปีเลยเนี่ยนะ 00:05:57.660 --> 00:05:59.960 มันก็มาถึงกรุงคอนสแตนติโนเปิลค่ะ 00:05:59.960 --> 00:06:04.520 และในกรุงคอนสแตนติโนเปิลก็ยังเป็น เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากอยู่นะคะ 00:06:04.520 --> 00:06:08.140 บวกกับว่าเป็นเมืองท่าการค้า ที่มีการค้าขายทางเรือค่ะ 00:06:08.140 --> 00:06:11.940 ดังนั้นจากเดิมที่มันแพร่กระจายกัน ผ่านทางบกเนี่ยนะคะ 00:06:11.940 --> 00:06:14.880 มันก็กลายเป็นแพร่กระจายทางเรือไปด้วยค่ะ 00:06:14.880 --> 00:06:18.300 ทำให้โรคระบาดนี้นะคะ เดินทางเข้าไปในยุโรปในที่สุดค่ะ 00:06:18.300 --> 00:06:20.380 หลังจากที่เข้าไปในยุโรปแล้วเนี่ยนะคะ 00:06:20.380 --> 00:06:23.080 เขาก็บอกว่ามีเหตุการณ์นึงซึ่งน่ากลัวมากๆค่ะ 00:06:23.080 --> 00:06:25.955 ก็คือที่เมืองท่าของเมืองซิซิลีเนี่ยนะคะ 00:06:25.960 --> 00:06:29.160 เกิดอยู่ดีๆก็มีเรือ 12 ลำค่ะแล่นเข้ามาเทียบท่า 00:06:29.160 --> 00:06:32.400 และในเรือนั้นเนี่ยนะคะเรียกได้ว่า เป็นคนตายเกือบหมดเลย 00:06:32.400 --> 00:06:34.100 คือมีคนเหลืออยู่น้อยมากๆ 00:06:34.100 --> 00:06:38.055 แต่ว่าก็เป็นคนที่เหลืออยู่ตัวเปื่อยๆอะ คือเรียกได้ว่าป่วยใกล้ตายแล้วนะคะ 00:06:38.060 --> 00:06:41.740 ดังนั้นเมื่อเรือ 12 ลำนี้ที่บรรทุกศพติดเชื้อมาเต็มที่ 00:06:41.740 --> 00:06:43.540 บวกกับคนป่วยมาเต็มที่เนี่ย 00:06:43.540 --> 00:06:45.160 จอดที่เมืองซิซิลีค่ะ 00:06:45.160 --> 00:06:47.200 โรคมันก็เลยแพร่กระจายในที่สุดนะคะ 00:06:47.200 --> 00:06:49.660 และนี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่เขาสันนิษฐานกันว่า 00:06:49.660 --> 00:06:51.900 ทำให้โรคนี้แพร่กระจายเข้าไปใน 00:06:51.900 --> 00:06:54.300 ยุโรปตะวันตกในที่สุดนะคะ 00:06:54.300 --> 00:06:55.640 หลังจากเหตุการณ์นั้นค่ะ 00:06:55.640 --> 00:06:57.560 การระบาดก็เกิดขึ้นรวดเร็วขึ้นนะคะ 00:06:57.560 --> 00:07:00.240 คือในช่วงเดือนมกราคม ปีค.ศ. 1348 นะคะ 00:07:00.240 --> 00:07:02.340 โรคระบาดนี้ก็เข้าไปที่อิตาลีค่ะ 00:07:02.340 --> 00:07:04.980 ก็เข้าไปที่เมืองฟลอเรนซ์ เมืองปิซา เมืองเวนิส 00:07:04.980 --> 00:07:08.400 ชื่อคุ้นขนาดนี้แปลว่าเป็น เมืองที่เจริญรุ่งเรืองจากการค้าขายค่ะ 00:07:08.400 --> 00:07:10.800 หลังจากนั้นมันก็เลยแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเลยนะคะ 00:07:10.800 --> 00:07:16.020 ก็แพร่กระจายไปที่ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ สก็อตแลนด์อะไรต่างๆ ไปตามปีเรื่อยๆค่ะ 00:07:16.020 --> 00:07:18.680 ทีนี้ถามว่าการระบาดครั้งนั้น ยิ่งใหญ่ขนาดไหนนะคะ 00:07:18.680 --> 00:07:22.840 ก็ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่ขนาดที่ ประชากรสองในสามของอิตาลีเนี่ย 00:07:22.840 --> 00:07:24.160 ตายเรียบเลยค่ะ 00:07:24.160 --> 00:07:26.800 ซึ่งเราจะรู้เรื่องโรคระบาดนี้ ได้อย่างดีเยี่ยมเลยนะคะ 00:07:26.800 --> 00:07:28.500 จากผู้ชายชาวฟลอเรนซ์คนนึงค่ะ 00:07:28.500 --> 00:07:30.040 ชื่อว่าคุณ Giovanni Boccaccio 00:07:30.040 --> 00:07:33.940 เขาจดบันทึกเรื่องราวโรคระบาดครั้งนี้ ไว้อย่างละเอียดยิบเลยนะคะ 00:07:33.940 --> 00:07:37.800 ทีนี้โรคระบาดนี่ก็ระบาดไปเรื่อยๆนะคะ จนกระทั่งปีค.ศ. 1350 ค่ะ 00:07:37.800 --> 00:07:39.780 โรคก็เหมือนจะเบาบางลงค่ะ 00:07:39.780 --> 00:07:44.280 แต่ว่าถึงจุดนี้ ชาวยุโรปเนี่ยนะคะ ก็ตายไปถึง 25 ล้านคนแล้วทีเดียว 00:07:44.280 --> 00:07:47.120 แต่ถามว่าบอกว่าเบาลงเนี่ย มันหยุดระบาดไหมนะคะ 00:07:47.120 --> 00:07:48.840 ก็ต้องบอกว่าจริงๆมันไม่ได้หยุดระบาดค่ะ 00:07:48.840 --> 00:07:51.160 มันก็ยังระบาดกลับมา กลับมา กลับมา 00:07:51.160 --> 00:07:54.840 คือต้องบอกว่าโรคระบาดครั้งนั้น เป็นการระบาดที่ต่อเนื่องยาวนานมากๆ 00:07:54.840 --> 00:07:57.380 หลายครั้งมันเหมือนจะดีขึ้นตอนช่วงหน้าหนาว 00:07:57.380 --> 00:07:59.560 เหมือนแบบอ๊ะ เข้าหน้าหนาวแล้วโรคระบาดจะหยุด 00:07:59.560 --> 00:08:03.020 แต่ว่าพอหมดหน้าหนาวเนี่ยนะคะ โรคระบาดเหล่านี้ก็กลับมาอีกรอบค่ะ 00:08:03.020 --> 00:08:05.200 ก็ติดซ้ำๆๆๆไปอย่างนั้นนะคะ 00:08:05.200 --> 00:08:07.480 จะเห็นว่ามันเป็นการระบาดที่ระบาดต่อเนื่อง 00:08:07.480 --> 00:08:10.480 ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 - 17 เลยทีเดียวนะทุกคน 00:08:10.480 --> 00:08:14.060 ทีนี้เราอย่าเพิ่งไปถึงตรงนั้นเลยค่ะ กลับมาที่การระบาดครั้งใหญ่ของเราก่อนดีกว่า 00:08:14.060 --> 00:08:15.600 วิวอาจจะไม่ได้อยากเจาะลึกว่า 00:08:15.600 --> 00:08:17.940 มันมีเส้นทางการระบาดอะไรยังไงนะคะ 00:08:17.940 --> 00:08:21.180 แต่อยากให้ดูเอฟเฟกต์ของ การระบาดทางนั้นมากกว่าค่ะว่า 00:08:21.180 --> 00:08:24.520 มันส่งผลกระทบอะไรต่อ มนุษยชาติของเราบ้างนะคะ 00:08:24.520 --> 00:08:28.920 ถามว่าการระบาดในช่วง Black Death กับ โรคระบาดในสมัยปัจจุบันนี้มันแตกต่างกันยังไง 00:08:28.920 --> 00:08:30.940 มีสองจุดค่ะที่แตกต่างกันมากๆ ก็คือ 00:08:30.940 --> 00:08:32.100 จำนวนคนตาย กับ 00:08:32.100 --> 00:08:34.000 ความเร็วของการแพร่กระจายนั่นเอง 00:08:34.000 --> 00:08:36.795 คือในสมัยก่อนนะคะ จะเห็นว่ามีโรคระบาดขึ้นมาทีนึงเนี่ย 00:08:36.800 --> 00:08:39.080 คนตายห้าล้าน คนตายสิบล้าน 00:08:39.080 --> 00:08:41.200 เพราะว่าเทคโนโลยีมันยังไม่ถึงไงคะ 00:08:41.200 --> 00:08:43.460 ดังนั้นมันก็ไม่ได้มีการป้องกันโรคที่ดีพอค่ะ 00:08:43.460 --> 00:08:47.240 ทำให้มีโรคระบาดขึ้นมาครั้งนึงเนี่ย คนตายจำนวนเยอะมากเลยนะคะ 00:08:47.240 --> 00:08:49.240 และอีกจุดที่ต่างกันก็คือ 00:08:49.240 --> 00:08:50.795 ความเร็วของการระบาดค่ะ 00:08:50.800 --> 00:08:53.780 จะเห็นว่าตอนที่วิวพูดปีๆๆมาเนี่ย 00:08:53.780 --> 00:08:55.840 กว่าจะข้ามจากประเทศนึงไปอีกประเทศนึงเนี่ย 00:08:55.840 --> 00:09:00.020 บางทีมันใช้เวลาเป็นปี เป็นปี เป็นสิบปี ยี่สิบปีเลยนะคะ ถามว่าทำไม 00:09:00.020 --> 00:09:03.220 เพราะว่าในยุคสมัยนั้นค่ะ คนยังไม่ค่อยได้เดินทางข้ามเมือง 00:09:03.220 --> 00:09:04.905 เดินทางไปที่ต่างๆค่ะ 00:09:04.905 --> 00:09:07.340 จะมีก็มีแค่พวกพ่อค้า มีพวกอะไร 00:09:07.340 --> 00:09:11.140 ดังนั้นการระบาดนี่ก็เลยข้ามเมือง ได้ช้ามากๆเลยทีเดียวค่ะ 00:09:11.460 --> 00:09:14.380 ปัญหาอีกอย่างนึงนะคะที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นเนี่ยก็คือ 00:09:14.380 --> 00:09:17.000 คนเรายังไม่ได้ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ขึ้นมานะคะ 00:09:17.000 --> 00:09:20.135 ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าสาเหตุที่มาของโรคนี่คืออะไร 00:09:20.140 --> 00:09:22.220 แบคทีเรียคืออะไร ยังไม่รู้จักค่ะ 00:09:22.220 --> 00:09:24.800 คนก็เลยสันนิษฐานกันไปต่างๆนานานะคะว่า 00:09:24.800 --> 00:09:26.160 เอ๊ โรคนี้เกิดจากอะไร 00:09:26.160 --> 00:09:29.280 บางคนก็บอกว่าเกิดจากการเรียงตัวของดาวเคราะห์ 00:09:29.280 --> 00:09:32.680 ทำให้เกิดเคราะห์ร้ายอะไรต่างๆ โรคระบาดก็เลยเกิดขึ้น 00:09:32.680 --> 00:09:34.920 บางคนก็บอกว่าโอ๊ย สงสัยอากาศไม่ดี 00:09:34.920 --> 00:09:36.880 คือเขาใช้คำว่า bad air ประมาณนี้นะ 00:09:36.880 --> 00:09:38.320 ส่วนบางคนหนักกว่านั้นอีกนะคะ 00:09:38.320 --> 00:09:40.700 ก็เป็นช่วงยุคกลางอะนะ นับถือพระเจ้าอยู่แล้ว 00:09:40.700 --> 00:09:43.280 ก็บอกว่านี่แหละ พระเจ้าลงโทษพวกเรา 00:09:43.280 --> 00:09:45.140 พวกเราจะต้องไถ่บาปนะคะ 00:09:45.140 --> 00:09:46.880 คนก็เลยออกมาไถ่บาปกันเต็มเลย 00:09:46.880 --> 00:09:48.040 ถามว่าไถ่ยังไง 00:09:48.040 --> 00:09:51.860 คนในยุคนั้นนะคะก็คล้ายๆกับตอนต้น ของเทวาซาตาน Angels & Demons 00:09:51.860 --> 00:09:54.580 ก็คือต้องทรมานตัวเองในที่สาธารณะนะคะ 00:09:54.580 --> 00:09:57.515 ด้วยการเอาแส้มาแล้วก็ฟาดตัวเองเปรี๊ยะๆๆๆ 00:09:57.520 --> 00:09:59.760 เป็นการไถ่บาปให้กับพระเจ้าค่ะ 00:09:59.760 --> 00:10:01.920 ไม่ใช่แค่เรื่องสาเหตุนะคะที่เดากันมั่ว 00:10:01.920 --> 00:10:04.000 เรื่องการติดต่อนี่ก็เดากันมั่วเหมือนกัน 00:10:04.000 --> 00:10:05.400 เดากันไปถึงขนาดที่ว่า 00:10:05.400 --> 00:10:07.780 สงสัยว่าถ้าเรามองตาคนป่วยเนี่ยนะ 00:10:07.780 --> 00:10:09.400 เราจะติดต่อกันไหมนะ 00:10:09.400 --> 00:10:12.100 หรือบางคนก็บอกว่าโอ๊ย มันจะต้องติดต่อจากคนที่ 00:10:12.100 --> 00:10:13.840 ใส่รองเท้าหัวแหลมแน่ๆเลย 00:10:13.840 --> 00:10:16.800 ถ้าแกใส่รองเท้าหัวแหลมเนี่ย แกจะเป็นตัวแพร่เชื้อ 00:10:16.800 --> 00:10:19.600 บางคนก็บอกว่าเนี่ยนะ ถ้าขยับตัวเยอะๆเนี่ย 00:10:19.600 --> 00:10:23.395 โรคมันก็จะกำเริบอีก ดังนั้นฉันต้อง นอนอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ขยับตัว 00:10:23.400 --> 00:10:25.900 ส่วนวิธีการรักษานี่บอกเลยว่าแฟนตาซีกว่าอีกค่ะ 00:10:25.900 --> 00:10:27.900 คือจินตนาการกันหนักมากนะ บอกว่า 00:10:27.900 --> 00:10:30.200 ให้กินพวกแร่ต่างๆเนี่ยเอามาบด 00:10:30.200 --> 00:10:33.080 หรือว่าบางคนก็บอกว่าให้เอาเนื้อนกพิราบเนี่ยนะ 00:10:33.080 --> 00:10:35.800 เอามาขัดถูตามตัว มันก็จะทำให้หาย 00:10:36.220 --> 00:10:37.620 ซึ่งก็... 00:10:37.620 --> 00:10:40.780 บางคนก็บอกว่าต่อมน้ำเหลือง ที่มันโตขึ้นมาเนี่ย จะต้องเจาะทิ้ง 00:10:40.780 --> 00:10:43.280 ให้มันแตกบึ้มออกมาไวๆ จะได้หายไวๆนะคะ 00:10:43.280 --> 00:10:45.400 ส่วนบางคนหนักกว่านั้นอีกค่ะก็บอกว่า 00:10:45.405 --> 00:10:48.115 ต้องเอาตัวไปแช่อยู่ในน้ำส้มสายชูนะ 00:10:48.120 --> 00:10:49.360 มันก็จะทำให้หายไว 00:10:49.360 --> 00:10:52.840 ก็เรียกได้ว่ามีทฤษฎีต่างๆออกมา มากมายเต็มไปหมดเลยค่ะ 00:10:52.840 --> 00:10:57.260 แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ทฤษฎีต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วทำร้ายตัวเองที่เป็นคนป่วยนะคะ 00:10:57.260 --> 00:11:00.280 แต่ทฤษฎีที่ไปทำร้ายคนอื่นก็มีเหมือนกัน 00:11:00.280 --> 00:11:02.065 มันมีการโทษกันต่างๆนานาว่า 00:11:02.065 --> 00:11:05.680 เนี่ยนะ โรคมันจะต้องเกิดมาจาก กลุ่มคนแบบพวกแกแน่ๆเลย 00:11:05.680 --> 00:11:08.260 ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะต้องซวยนะคะก็คือ 00:11:08.260 --> 00:11:10.580 พวกชนชายขอบต่างๆค่ะ 00:11:10.580 --> 00:11:12.320 ไม่ว่าจะเป็นพวกยิว ก็จะแบบ 00:11:12.320 --> 00:11:15.040 โรคนี้มันจะต้องเกิดจากไอ้พวกชาวยิวแน่นอน 00:11:15.040 --> 00:11:17.880 หรือว่าพวกผู้หญิงโสเภณีเนี่ย ก็จะโดนเหมือนกันประมาณว่า 00:11:17.880 --> 00:11:21.060 แหม ไอ้ผู้หญิงโสเภณี พวกนี้นี่แหละที่เป็นคนทำให้ติด 00:11:21.060 --> 00:11:23.420 ก็คือมีข่าวลือต่างๆเกิดขึ้นมากมายนะคะ 00:11:23.420 --> 00:11:27.940 ทุกครั้งที่เรายังไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง เราก็จะคิดนู่นคิดนี่แล้วก็ลือกันไป 00:11:27.940 --> 00:11:30.480 เหมือนตอนที่โรคเอดส์เกิดขึ้นแรกๆก็จะเห็นว่า 00:11:30.480 --> 00:11:32.840 มีข่าวลือเกิดขึ้นเยอะมากนะคะ เช่นแบบ 00:11:32.840 --> 00:11:35.760 ถ้ากินข้าวจานเดียวกันจะติดโรค อะไรประมาณนี้ 00:11:35.760 --> 00:11:37.660 แต่ว่าเมื่อเทคโนโลยีมันพัฒนามา 00:11:37.660 --> 00:11:40.600 เราเข้าใจโรคมากขึ้น เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆหายไปเองนะคะ 00:11:40.600 --> 00:11:42.120 ฟังตอนนี้อาจจะไม่เมกเซนส์ 00:11:42.120 --> 00:11:43.860 แต่นึกสภาพสมัยยุคกลาง 00:11:43.860 --> 00:11:46.460 ตอนที่เรายังไม่มีกล้องจุลทรรศน์ เราไม่รู้จักแบคทีเรีย 00:11:46.460 --> 00:11:49.980 ก็ไม่แปลกเลยที่คนในสมัยนั้น จะจินตนาการไปแบบนี้ค่ะ 00:11:49.980 --> 00:11:51.820 ทีนี้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นอีก 00:11:51.820 --> 00:11:53.940 พอคนมันจะตายวันตายพรุ่งแบบ 00:11:53.940 --> 00:11:56.360 คนตายไปแล้ว 90% ของประเทศอย่างนี้ 00:11:56.360 --> 00:11:58.635 คนมันก็เลยรู้สึกว่าเออ อยู่ไปก็เท่านั้นน่ะ 00:11:58.640 --> 00:12:00.540 ฉันทำตามใจชอบฉันดีกว่า 00:12:00.540 --> 00:12:04.520 คนก็เลยละทิ้งพวกศีลธรรมอะไรต่างๆ ทิ้งหมดเลยนะคะ อยากทำอะไรก็ทำ 00:12:04.520 --> 00:12:06.180 อยากไปขโมยของก็ขโมย 00:12:06.180 --> 00:12:08.460 อยากมีอะไรกันในที่สาธารณะก็มี 00:12:08.460 --> 00:12:11.240 บางคนนี่ก็กินเหล้าแล้วก็เมาตลอดเวลาเลยนะคะ 00:12:11.240 --> 00:12:13.220 ถามว่าเวลาทำผิด มีใครมาจับไหม 00:12:13.220 --> 00:12:17.360 ก็ไม่มีไง เพราะว่าพวกผู้รักษากฎหมายเนี่ย ก็ติดโรคแล้วก็ตายไปกันหมดแล้ว 00:12:17.360 --> 00:12:21.420 นอกจากนี้อีกเอฟเฟกต์นึงที่หนักมากๆเลย ก็คือเรื่องของศาสนาคริสต์นั่นเอง 00:12:21.420 --> 00:12:24.780 เราจะรู้กันได้นะคะว่าในช่วงยุคกลางเนี่ย ศาสนาคริสต์ถือว่าเป็นแบบ 00:12:24.780 --> 00:12:27.515 จุดศูนย์กลางของชีวิตทุกคนในสมัยนั้นเลยนะ 00:12:27.520 --> 00:12:29.420 เขาเชื่อในพระเจ้ากันมากๆค่ะ 00:12:29.420 --> 00:12:31.740 ทีนี้เกิดโรคระบาดใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมา 00:12:31.740 --> 00:12:35.500 เขาก็รู้สึกว่าทำไมพระเจ้าไม่ช่วยเราเลยล่ะ พระเจ้ามีจริงรึเปล่านะคะ 00:12:35.500 --> 00:12:38.580 ดังนั้นหลายๆคนก็เลย เลิกนับถือพระเจ้าซะอย่างนั้นเลย 00:12:38.585 --> 00:12:40.795 และเขาบอกว่าการระบาดของโรคครั้งนี้ 00:12:40.800 --> 00:12:43.060 คือหนึ่งในสาเหตุเลยนะคะที่ทำให้ 00:12:43.060 --> 00:12:44.540 ยุคกลางเนี่ยสิ้นสุดค่ะ 00:12:44.540 --> 00:12:46.220 คือคนไม่เชื่อในพระเจ้าอีกต่อไปแล้ว 00:12:46.220 --> 00:12:49.580 ก็เลยเกิดการปฏิรูปศาสนา ในช่วงเวลาต่อมานั่นเองค่ะ 00:12:49.580 --> 00:12:52.520 นอกจากนี้นะคะ คนบางคนในยุคนั้น ก็พยายามเอาตัวรอดค่ะ 00:12:52.520 --> 00:12:56.560 ด้วยการเอาตัวเองออกไปจากที่ชุมชน ประมาณว่าฉันไม่อยู่ตรงนั้นแล้วจ้า 00:12:56.560 --> 00:12:59.320 ไปอยู่แบบกักตัวเองอยู่คนเดียว เพื่อที่จะได้ไม่ติดโรค 00:12:59.320 --> 00:13:02.540 บางคนนี่ก็สถาบันครอบครัว แตกกระสานซ่านเซ็นเลยทีเดียว 00:13:02.540 --> 00:13:05.240 เพราะว่าทุกคนในครอบครัวเนี่ย ฉันไม่สนใจญาติฉันละ 00:13:05.240 --> 00:13:06.915 ฉันจะต้องเอาตัวฉันให้รอดก่อน 00:13:06.920 --> 00:13:09.060 และบางคนที่มีญาติติดเนี่ย 00:13:09.060 --> 00:13:10.660 ก็เอาญาติเนี่ยไปขังไว้นะคะ 00:13:10.660 --> 00:13:12.940 แล้วก็พยายามไม่บอกใครว่าเป็นโรค 00:13:12.940 --> 00:13:14.520 เพราะว่ากลัวจะโดนคนรังเกียจ 00:13:14.520 --> 00:13:18.020 นอกจากนี้นะคะ อีกเรื่องนึงที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องใหญ่มากๆในยุคนั้นเลยค่ะ 00:13:18.020 --> 00:13:19.700 ก็คือเรื่องของศพนั่นเอง 00:13:19.700 --> 00:13:22.620 เพราะว่าคนตายเยอะขนาดนี้ คิดว่าฝังกันทันไหม 00:13:22.620 --> 00:13:25.880 คือคนที่ยังรอดอยู่ก็มีทั้งป่วย ทั้งไม่ป่วย ทั้งอะไรต่างๆ 00:13:25.880 --> 00:13:27.585 มีทั้งกล้าออกมา ทั้งไม่กล้าออกมา 00:13:27.585 --> 00:13:29.920 ดังนั้นแน่นอนว่าฝังศพกันไม่ทันค่ะ 00:13:29.920 --> 00:13:33.180 ก็เลยจะเกิดเหตุการณ์ที่มี การรวบศพหลายๆๆๆศพเนี่ยนะคะ 00:13:33.180 --> 00:13:36.460 แล้วก็เอาไปฝังรวมเป็นหลุมเดียวกันเนี่ย เกิดขึ้นเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ 00:13:36.460 --> 00:13:40.360 นอกจากนี้นะคะ บอกเลยว่ามีศัพท์คำนึงค่ะ ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้นี่แหละ 00:13:40.360 --> 00:13:42.680 ก็คือศัพท์คำว่า Quarantine นะคะ 00:13:42.680 --> 00:13:45.440 ซึ่งแปลว่า การกักกัน การกักตัว นั่นเองค่ะ 00:13:45.440 --> 00:13:49.160 คือในยุโรปเนี่ย แน่นอนว่าเขาก็จะต้อง มีความพยายามในการจำกัดโรคใช่ไหม 00:13:49.160 --> 00:13:50.700 หลังๆเนี่ยเขาเริ่มรู้แล้วว่า 00:13:50.700 --> 00:13:53.120 เฮ้ย โรคมันมากับเรือ มันมากับคนป่วยอะไรอย่างนี้ 00:13:53.120 --> 00:13:55.800 เขาก็เลยมีการกักเรือไว้ค่ะ ประมาณว่า 00:13:55.800 --> 00:13:57.800 เฮ้ย ถ้าเรือเดินทางมาถึงท่าเรือนะ 00:13:57.800 --> 00:13:59.860 ห้ามเรือเข้าจอดที่ท่าเรือ 00:13:59.860 --> 00:14:04.020 ต้องจอดอยู่ข้างนอกเป็นระยะเวลา ทั้งหมด 40 วัน เอาให้ปลอดโรคก่อน 00:14:04.020 --> 00:14:08.040 ซึ่งคำว่า 40 ในภาษาอิตาเลียน มันดันเป็นคำว่า Quaranta ค่ะ 00:14:08.040 --> 00:14:11.140 ดังนั้นคำว่า Quaranta นะคะ ก็เลยพัฒนาจนกลายมาเป็นคำว่า 00:14:11.140 --> 00:14:13.660 Quarantine ที่แปลว่าการกักตัวนั่นเองนะคะ 00:14:13.660 --> 00:14:16.780 ส่วนอีกอย่างนึงที่ทุกคนจะคุ้นกัน จากคำว่า Black Death ก็คือ 00:14:16.780 --> 00:14:17.600 หน้ากากนะคะ 00:14:17.600 --> 00:14:21.620 ที่คนที่เป็นพวกหมอ ที่เป็นคนมีหน้าที่ จัดการผู้ป่วยเนี่ยจะชอบใส่กัน 00:14:21.620 --> 00:14:24.720 ก็คือหน้ากากสีดำๆ ที่มีจะงอยปากเป็นรูปนกค่ะ 00:14:24.720 --> 00:14:29.540 ต้องบอกว่าอันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในยุคแรกๆ ที่เขาเริ่มระบาดกันในช่วงศตวรรษที่ 14 นะ 00:14:29.540 --> 00:14:32.380 แต่เพิ่งจะมาเกิดในช่วงศตวรรษที่ 16 - 17 นะคะ 00:14:32.380 --> 00:14:34.640 ซึ่งถามว่าทำไมจะต้องเป็นรูปนกเนี่ย 00:14:34.640 --> 00:14:37.815 ก็เพราะว่าพวกคนที่จะต้องเข้าไป จัดการกับคนป่วยอะไรต่างๆ 00:14:37.820 --> 00:14:39.300 เค้าก็ยังไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น 00:14:39.300 --> 00:14:43.480 เค้าเชื่อว่าโรคพวกนี้มันติดจาก bad air ไง คืออากาศที่แย่ 00:14:43.480 --> 00:14:46.160 ถ้าเราสูดดมเอาโรคนี้เข้าไป เราอาจจะติดก็ได้นะ 00:14:46.160 --> 00:14:49.320 ดังนั้นก็เลยต้องทำหน้ากากนะคะ ให้มีจะงอยยาวๆออกมาค่ะ 00:14:49.320 --> 00:14:53.035 แล้วก็เอาพวกเครื่องหอมหรือ เอาสมุนไพรอะไรต่างๆยัดเข้าไปนะคะ 00:14:53.040 --> 00:14:54.780 เพื่อหนึ่งค่ะ คือดับกลิ่น 00:14:54.780 --> 00:14:58.760 กับสองคือเพื่อกรองอากาศนะคะ ให้อากาศมันบริสุทธิ์ขึ้นนั่นเองค่ะ 00:14:58.760 --> 00:15:02.040 นอกจากนี้นะคะ ขออนุญาตย้อนกลับ ไปที่ศตวรรษที่ 14 อีกครั้งนึงค่ะ 00:15:02.040 --> 00:15:03.820 จะบอกว่าเขาสันนิษฐานกันว่า 00:15:03.820 --> 00:15:07.895 การระบาด Black Death ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประเทศไทยของเราด้วยนะคะ 00:15:07.900 --> 00:15:11.360 เพราะว่าในช่วงศตวรรษที่ 14 เนี่ย ตรงกับยุคสมัยของใครรู้ไหม 00:15:11.360 --> 00:15:12.740 ตรงกับยุคสมัย 00:15:12.740 --> 00:15:15.060 ก่อนกรุงศรีอยุธยาตั้งขึ้นค่ะ 00:15:15.060 --> 00:15:18.200 ซึ่งในตอนนั้นเนี่ยถ้าใครเรียน ประวัติศาสตร์ไทยมาก็จะรู้ว่า 00:15:18.200 --> 00:15:20.600 สาเหตุที่มีการตั้งกรุงศรีอยุธยาขึ้นเนี่ย 00:15:20.600 --> 00:15:24.200 เพราะว่าพระเจ้าอู่ทอง อพยพหนีโรคระบาดมานะคะ 00:15:24.200 --> 00:15:26.560 มาตั้งเมืองอยู่บริเวณบึงพระรามใช่ไหม 00:15:26.560 --> 00:15:28.460 ทีนี้เค้าก็สันนิษฐานกันว่า 00:15:28.460 --> 00:15:31.600 มันอาจจะเป็น Black Death ที่แพร่เชื้อมาจากประเทศจีนก็ได้นะคะ 00:15:31.600 --> 00:15:34.280 ดังนั้น เป็นไปได้มากๆเลยที่พระเจ้าอู่ทอง 00:15:34.280 --> 00:15:36.140 ย้ายเมืองหนีกาฬโรคนี่ล่ะค่ะ 00:15:36.140 --> 00:15:39.420 และทั้งหมดนี้นะคะก็คือการระบาดใน phase ที่สองค่ะ 00:15:39.420 --> 00:15:41.120 มาถึง phase ที่สามกันดีกว่า 00:15:41.120 --> 00:15:43.740 เอาจริงๆจะบอกว่า phase ที่สามก็แบ่งยากนิดนึงนะ 00:15:43.740 --> 00:15:46.060 เพราะว่าหลังจากการระบาดใน phase ที่สองเนี่ย 00:15:46.060 --> 00:15:48.000 ที่วิวบอกว่าเริ่มจากศตวรรษที่ 14 00:15:48.000 --> 00:15:49.580 ก็ไล่ลงมาถึงศตวรรษที่ 17 00:15:49.580 --> 00:15:53.860 ไล่ลงมาเรื่อยๆ มันก็เหมือนไม่ได้มี ช่วงที่มันหยุดพักจริงๆจังๆขนาดนั้นค่ะ 00:15:53.860 --> 00:15:56.240 อย่างในช่วงปีค.ศ. 1665 - 1666 เนี่ย 00:15:56.240 --> 00:15:59.115 ก็มีการระบาดครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นในลอนดอนนะคะ 00:15:59.120 --> 00:16:03.700 ซึ่งตอนนั้นเนี่ยทำให้ประชากรชาวลอนดอน ตายไปถึง 70% เลยทีเดียวนะคะ 00:16:03.700 --> 00:16:06.120 จากที่มีประชากร 450,000 คนในเมือง 00:16:06.120 --> 00:16:07.740 ก็เหลือแค่ 60,000 คนนะคะ 00:16:07.740 --> 00:16:09.620 ก็ตายไปเยอะมากนะทุกคน 00:16:09.620 --> 00:16:12.000 ส่วน phase ที่สามเนี่ยถามว่าเขานับกันตอนไหน 00:16:12.000 --> 00:16:15.360 ส่วนมากนี่เขาจะนับกันอยู่ในช่วง ศตวรรษที่ 19 - 20 อะนะ 00:16:15.360 --> 00:16:19.800 แล้วก็นับว่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยนะคะ ที่มีการระบาดครั้งยิ่งใหญ่แบบระดับโลกเลย 00:16:19.800 --> 00:16:21.360 ซึ่งถามว่าเริ่มต้นขึ้นที่ไหน 00:16:21.360 --> 00:16:22.640 ก็ประเทศจีนอีกแล้วค่ะ 00:16:22.640 --> 00:16:25.455 ที่มณฑลยูนนานนะคะ ในปีค.ศ. 1855 นั่นเอง 00:16:25.460 --> 00:16:28.480 คราวนี้มีคนตายไปทั้งหมดประมาณ 12 ล้านคนค่ะ 00:16:28.480 --> 00:16:31.800 แต่ว่าข้อนึงที่แตกต่างจากคราวก่อนๆก็คือ 00:16:31.800 --> 00:16:36.100 ในศตวรรษที่ 17 เนี่ยเรามีการค้นพบ กล้องจุลทรรศน์แล้วก็แบคทีเรียเรียบร้อยแล้ว 00:16:36.100 --> 00:16:37.420 ดังนั้นเรารู้แล้วนะว่า 00:16:37.420 --> 00:16:39.260 เฮ้ย มันมีสิ่งที่เรียกว่าแบคทีเรียอยู่ 00:16:39.260 --> 00:16:41.080 มันก็ให้เกิดโรคนู้นโรคนี้นะ 00:16:41.080 --> 00:16:43.940 ดังนั้นนะคะก็เลยมีแพทย์ชาวฝรั่งเศสคนนึงค่ะ 00:16:43.940 --> 00:16:46.760 ชื่อว่า Alexandre Emile Jean Yersin นะคะ 00:16:46.760 --> 00:16:51.540 เค้าค้นพบแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของ กาฬโรคนะคะในปีค.ศ. 1894 ค่ะ 00:16:51.540 --> 00:16:53.780 ดังนั้นการค้นพบของเขาเนี่ยก็นำไปสู่ 00:16:53.780 --> 00:16:55.820 การผลิตวัคซีนอะไรต่างๆขึ้นมา 00:16:55.820 --> 00:16:56.900 เพื่อรักษาโรคนี้นะคะ 00:16:56.900 --> 00:16:59.660 ในปีค.ศ. 1897 ในที่สุดค่ะ 00:16:59.660 --> 00:17:02.320 ในปัจจุบันเนี่ยนะคะ กาฬโรคสามารถรักษาให้หายได้ค่ะ 00:17:02.320 --> 00:17:04.000 ถ้าตรวจพบได้อย่างรวดเร็วนะ 00:17:04.000 --> 00:17:07.780 แล้วก็เอาจริงๆในสมัยปัจจุบันเนี่ย เราไม่ค่อยค้นพบการระบาดของโรคนี้แล้วนะ 00:17:07.780 --> 00:17:09.460 แต่ถามว่ามีไหม ก็ยังมีค่ะ 00:17:09.460 --> 00:17:13.540 อย่างรอบล่าสุดตอนปีค.ศ. 2009 เนี่ย ก็มีการระบาดของโรคนี้กลับมาอีกครั้งนะคะ 00:17:13.540 --> 00:17:15.280 ในมณฑลชิงไห่ ประเทศจีนค่ะ 00:17:15.280 --> 00:17:18.065 แต่ว่ารอบนี้ก็มีคนตายไปแค่ ทั้งหมด 9 คนด้วยกันนะคะ 00:17:18.065 --> 00:17:20.140 เพราะว่าเทคโนโลยีมันพัฒนาไปแล้วน่ะนะ 00:17:20.140 --> 00:17:21.780 ส่วนในไทยเนี่ย นอกจากที่ 00:17:21.780 --> 00:17:24.200 เขาสันนิษฐานกันตอนต้นอยุธยาเนี่ยนะคะ 00:17:24.200 --> 00:17:25.680 ก็ยังมีมาเรื่อยๆค่ะ 00:17:25.680 --> 00:17:27.800 อย่างตอนในสมัยช่วงรัชกาลที่ 5 เนี่ยนะคะ 00:17:27.800 --> 00:17:30.600 ก็มีบันทึกไว้ว่ามันมีการระบาดที่ซัวเถานะ 00:17:30.600 --> 00:17:33.200 ดังนั้นไทยก็เลยมีการออกกฎประมาณว่า 00:17:33.200 --> 00:17:36.020 ถ้ามีเรือเดินทางมาจากซัวเถา ห้ามจอดเทียบท่าที่ไทย 00:17:36.020 --> 00:17:38.240 แต่การระบาดอย่างเป็นทางการในไทยเนี่ย 00:17:38.240 --> 00:17:40.820 เกิดขึ้นในปีค.ศ. 1904 ค่ะ 00:17:40.820 --> 00:17:41.780 ถามว่าเกิดที่ไหน 00:17:41.780 --> 00:17:44.280 เกิดขึ้นที่โกดังสินค้าตรงกรุงธนบุรีนะคะ 00:17:44.280 --> 00:17:46.140 ก็มาจากพ่อค้าชาวอินเดียค่ะ 00:17:46.140 --> 00:17:48.580 ซึ่งเขาเดินทางไปค้าขายที่บอมเบย์มา 00:17:48.580 --> 00:17:51.320 พอไปค้าขายที่นั่นก็แพร่มาสู่ประเทศไทยค่ะ 00:17:51.320 --> 00:17:54.160 และแน่นอนว่ามันก็จะต้อง แพร่กระจายจากกรุงธนบุรีนะคะ 00:17:54.160 --> 00:17:55.280 ไปทั่วไปหมดเลยค่ะ 00:17:55.280 --> 00:17:56.380 แต่ว่าในครั้งนั้นเนี่ย 00:17:56.380 --> 00:17:58.775 ไม่ได้มีการบันทึกนะคะว่าเสียชีวิตไปเท่าไหร่ 00:17:58.780 --> 00:18:01.360 หลังจากครั้งนั้นก็ยังมีการระบาด มาอีกหลายครั้งนะคะ 00:18:01.360 --> 00:18:05.220 ไม่ว่าจะเป็นปีค.ศ. 1913 นี่ก็มีการระบาดที่นครปฐมค่ะ 00:18:05.220 --> 00:18:07.960 รอบนั้นเนี่ยมีคนตายไปทั้งหมด 300 คนด้วยกันนะคะ 00:18:07.960 --> 00:18:11.080 หลังจากปีค.ศ. 1913 ก็มาระบาดอีกครั้งนึงค่ะก็คือ 00:18:11.080 --> 00:18:13.300 ในปีค.ศ. 1952 นั่นเอง 00:18:13.300 --> 00:18:15.980 และครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ที่มีการบันทึกไว้ว่า 00:18:15.980 --> 00:18:18.200 มีโรคนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยค่ะ 00:18:18.200 --> 00:18:21.380 ก็มีคนป่วยแค่ 2 คน แล้วก็ตายไป 1 คนด้วยกันนะคะ 00:18:21.380 --> 00:18:25.340 และทั้งหมดนี้นะคะก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ Black Death ที่วิวรวบรวมมาฝากทุกคนค่ะ 00:18:25.340 --> 00:18:26.920 หลายๆครั้งเราจะเห็นว่า 00:18:26.920 --> 00:18:30.060 คนเนี่ยบอกว่าเราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อที่เราจะได้เห็นปัจจุบัน 00:18:30.060 --> 00:18:32.900 เอาจริงๆเราในปัจจุบันที่ อยู่ท่ามกลางโรค COVID-19 00:18:32.900 --> 00:18:34.240 เราก็จะเห็นว่า 00:18:34.240 --> 00:18:37.520 เฮ้ย มันดูเป็นไปได้ไหมที่มันจะหาย มันจะเป็นยังไง เป็นอะไรต่อไป 00:18:37.520 --> 00:18:39.180 แต่ถ้าเราดูแพตเทิร์นกันดีๆเนี่ย 00:18:39.180 --> 00:18:42.580 เราก็จะเห็นว่าเออ โรคระบาดในอดีต กับโรคระบาดในปัจจุบันเนี่ย 00:18:42.580 --> 00:18:44.820 มันมีแพตเทิร์นที่ใกล้เคียงกันมากๆค่ะ 00:18:44.820 --> 00:18:48.520 ก็คือเริ่มจากตอนที่ไม่เข้าใจ จนในที่สุดก็สามารถรักษาหายได้ 00:18:48.520 --> 00:18:50.460 แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างไปก็คือ 00:18:50.460 --> 00:18:53.280 ปัจจัยต่างๆภายนอกที่มันแตกต่างกันไปค่ะ 00:18:53.280 --> 00:18:57.180 ในสมัยโบราณเนี่ยมันอาจจะมี เทคโนโลยีอะไรต่างๆทางการแพทย์ที่แย่กว่า 00:18:57.180 --> 00:19:00.180 ทำให้การรักษาเกิดขึ้นช้ากว่า 00:19:00.180 --> 00:19:01.640 ทำให้คนตายมากกว่า 00:19:01.640 --> 00:19:03.280 ปัจจุบันอาจจะรักษาได้เร็วกว่า 00:19:03.280 --> 00:19:06.220 แต่สิ่งที่แตกต่างไปก็คือ ปัจจุบันเนี่ยเรามีการเดินทาง 00:19:06.220 --> 00:19:09.820 ดังนั้นนี่ก็คือจุดที่แตกต่างกัน ระหว่างอดีตกับปัจจุบันนั่นเองค่ะ 00:19:09.820 --> 00:19:12.800 เป็นยังไงบ้างคะดูคลิปนี้กันไปแล้ว มีความคิดเห็นอะไรยังไงบ้าง 00:19:12.800 --> 00:19:16.120 เชื่อว่าวิวเนี่ยพูดข้ามๆไป อาจจะข้ามไปหลายประเด็นมากๆ 00:19:16.120 --> 00:19:18.520 และหลายคนน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าวิวมากๆเลยนะคะ 00:19:18.520 --> 00:19:21.435 ดังนั้นสามารถคอมเมนต์ เพิ่มเติมให้วิวด้านล่างได้เลยค่ะ 00:19:21.440 --> 00:19:23.420 ส่วนใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะอย่าลืม 00:19:23.420 --> 00:19:26.720 กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 00:19:26.720 --> 00:19:28.560 สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน 00:19:28.560 --> 00:19:30.060 บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ 00:19:30.160 --> 00:19:32.040 อะ คลิปนี้อาจจะมึนๆนิดนึงนะคะทุกคน 00:19:32.040 --> 00:19:35.780 ถ้าใครตามโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทั้งหมดทุกช่องทางของวิวเนี่ยจะเห็นว่า 00:19:35.780 --> 00:19:38.960 คลิปนี้เป็นคลิปที่ประกอบไปด้วย วิบากกรรมจำนวนมากตั้งแต่ 00:19:38.960 --> 00:19:42.180 หนึ่ง จะอัดคลิปปุ๊บ ข้างบ้านเชิดสิงโตนะคะ 00:19:42.180 --> 00:19:44.060 หลังจากนั้นก็อัดขึ้นมาได้แล้ว 00:19:44.060 --> 00:19:45.620 สิ่งที่เกิดขึ้นคือลืมเปิดไมค์ค่ะ 00:19:45.620 --> 00:19:50.000 วิวยืนพูดคนเดียวอยู่หน้ากล้องแบบไม่มีไมค์ อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงด้วยกันนะคะทุกคน 00:19:50.000 --> 00:19:52.740 ถ้ามีอะไรมึนๆไปบ้างก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะ 00:19:52.740 --> 00:19:54.380 สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะ 00:19:54.380 --> 00:19:56.180 บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ