0:00:09.036,0:00:14.106 คุณคงลำบากแน่ หากจะมองหา[br]เคอนิกส์แบร์กบนแผนที่ยุคใหม่ 0:00:14.106,0:00:17.415 แต่จุดหนึ่งที่น่าสนใจ[br]ในภูมิศาสตร์ของมัน 0:00:17.415,0:00:22.205 ได้ทำให้มันเป็นหนึ่งในเมืองที่มี[br]ชื่อเสียงที่สุดในโลกคณิตศาสตร์ 0:00:22.205,0:00:26.214 เมืองเยอรมันยุคกลาง[br]ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำพรีเกิล 0:00:26.214,0:00:28.875 ณ ใจกลางมีเกาะขนาดใหญ่[br]สองเกาะ 0:00:28.875,0:00:33.124 เกาะทั้งสองนี้เชื่อมต่อถึงกัน[br]และยังเชื่อมต่อกับฝั่งแม่น้ำ 0:00:33.124,0:00:35.884 ด้วยสะพานทั้งเจ็ด 0:00:35.884,0:00:41.296 นักคณิตศาสตร์ คาร์ล ก็อตลีบพ์ อีเลอ[br]ผู้ต่อมาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองใกล้ ๆ 0:00:41.296,0:00:44.395 หมกมุ่นอยู่กับเกาะและสะพานเหล่านี้ 0:00:44.395,0:00:47.205 เขาคิดย้อนทวนถึงปัญหาอยู่ข้อเดียว 0:00:47.205,0:00:51.095 ต้องใช้เส้นทางไหนดีจึงจะ[br]ข้ามสะพานได้ครบทั้งเจ็ด 0:00:51.095,0:00:55.136 โดยที่ไม่ข้ามซ้ำสะพานเดิม 0:00:55.136,0:00:56.946 ลองหยุดคิดกันดูสักครู่ 0:00:56.946,0:00:57.936 7 0:00:57.936,0:00:58.947 6 0:00:58.947,0:00:59.916 5 0:00:59.916,0:01:00.847 4 0:01:00.847,0:01:01.956 3 0:01:01.956,0:01:02.886 2 0:01:02.886,0:01:03.996 1 0:01:03.996,0:01:05.076 ยอมแพ้แล้วหรือ 0:01:05.076,0:01:06.198 ก็น่าอยู่หรอก 0:01:06.198,0:01:07.513 เพราะมันเป็นไปไม่ได้ 0:01:07.513,0:01:12.636 แต่ความเพียรอธิบายสาเหตุ ทำให้[br]นักคณิตศาสตร์คนดัง ลีออนฮาร์ด ออยเลอร์ 0:01:12.636,0:01:15.997 สรรค์สร้างคณิตศาสตร์สาขาใหม่ 0:01:15.997,0:01:18.648 คาร์ลเขียนจดหมายถึงออยเลอร์[br]ให้ช่วยไขปริศนา 0:01:18.648,0:01:23.367 ครั้งแรกออยเลอร์ละเลยคำถามนี้[br]เพราะไม่ใช่เรื่องของคณิตศาสตร์ 0:01:23.367,0:01:25.136 แต่ยิ่งเขาครุ่นคิดถึงมันมากเท่าไร 0:01:25.136,0:01:28.977 ก็ยิ่งดูเหมือนว่ามีอะไรสักอย่างอยู่ดี 0:01:28.977,0:01:32.906 คำตอบที่เขาค้นพบ[br]เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรขาคณิตชนิดหนึ่ง 0:01:32.906,0:01:38.258 ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อน เขาเรียกมันว่า[br]เรขาคณิตของตำแหน่ง 0:01:38.258,0:01:41.897 ปัจจุบันคือทฤษฎีกราฟ 0:01:41.897,0:01:43.443 ข้อสังเกตแรกของออยเลอร์ 0:01:43.443,0:01:48.507 คือเส้นทางที่เลือกระหว่างการเข้าไปใน[br]เกาะหรือฝั่งแม่น้ำและการออกจากที่นั่น 0:01:48.507,0:01:50.578 อันที่จริงแล้วไม่ได้สำคัญนัก 0:01:50.578,0:01:54.427 ฉะนั้นจึงสามารถลดรูปแผนที่ให้ง่ายขึ้น[br]โดยให้แต่ละผืนดินจากทั้งสี่แห่ง 0:01:54.427,0:01:56.627 ถูกแทนที่ด้วยจุดเดียว 0:01:56.627,0:01:59.297 ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่า โนด 0:01:59.297,0:02:04.198 ด้วยเส้น หรือ เอ็ดจ์ เชื่อมระหว่างโนด[br]เพื่อเป็นตัวแทนของสะพาน 0:02:04.198,0:02:09.619 และกราฟที่ง่ายขึ้นนี้ช่วยให้เรา[br]นับดีกรีของแต่ละโนดได้ง่ายดาย 0:02:09.619,0:02:13.219 ดีกรี คือจำนวนสะพานที่แต่ละ[br]ผืนดินสัมผัส 0:02:13.219,0:02:14.598 ทำไมดีกรีจึงสำคัญน่ะหรือ 0:02:14.598,0:02:16.828 ก็เพราะตามกฎของคำท้า 0:02:16.828,0:02:20.678 เมื่อนักเดินทางไปถึง[br]ผืนดินหนึ่งด้วยสะพานหนึ่งแล้ว 0:02:20.678,0:02:23.800 พวกเขาต้องออกจากผืนดินนั้น[br]โดยใช้สะพานอื่น 0:02:23.800,0:02:28.168 ซึ่งก็คือ สะพานที่เข้าและออก[br]จากแต่ละโนดในเส้นทางใดก็ได้ 0:02:28.168,0:02:30.587 แต่ต้องมีเป็นคู่ ๆ ที่แตกต่างกัน 0:02:30.587,0:02:34.239 หมายความว่าจำนวนสะพาน[br]ที่สัมผัสแต่ละผืนดินที่เดินผ่าน 0:02:34.239,0:02:36.368 ต้องเป็นจำนวนคู่ 0:02:36.368,0:02:40.029 มีเพียงข้อยกเว้นที่เป็นไปได้[br]คือ ตำแหน่งของจุดเริ่มต้น 0:02:40.029,0:02:42.267 และจุดที่สิ้นสุดการเดิน 0:02:42.267,0:02:47.218 เมื่อมองไปที่กราฟ เป็นที่ชัดแจ้ง[br]ว่า ทั้งสี่โนด มีดีกรีเป็นจำนวนคี่ 0:02:47.218,0:02:49.187 ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางใด 0:02:49.187,0:02:53.440 เมื่อถึงจุดหนึ่ง จะต้องมีสะพาน [br]สักแห่งที่ถูกข้ามซ้ำสองครั้ง 0:02:53.440,0:02:57.709 ออยเลอร์ได้ใช้บทพิสูจน์นี้[br]สร้างทฤษฎีทั่วไปขึ้นมา 0:02:57.709,0:03:01.721 ซึ่งประยุกต์ใช้กับกราฟที่มี[br]ตั้งแต่สองโนดขึ้นไปทั้งหมด 0:03:01.721,0:03:05.790 เส้นทางออยเลอร์ ซึ่งเดินผ่าน[br]แต่ละเอ็ดจ์เพียงครั้งเดียว 0:03:05.790,0:03:09.159 มีเพียงหนึ่งในสองกรณีต่อไปนี้[br]เท่านั้นที่เป็นไปได้ 0:03:09.159,0:03:13.769 กรณีแรก คือ เมื่อมีโนดที่มีดีกรี[br]จำนวนคี่อยู่สองโนดพอดี 0:03:13.769,0:03:16.310 หมายถึงโนดที่เหลือทั้งหมดมี[br]ดีกรีจำนวนคู่ 0:03:16.310,0:03:19.659 ในกรณีนี้ จุดเริ่มต้นคือ[br]หนึ่งในสองโนดที่มีดีกรีจำนวนคี่ 0:03:19.659,0:03:21.770 และจุดสิ้นสุดคือ[br]อีกโนดที่มีดีกรีจำนวนคี่ 0:03:21.770,0:03:26.091 กรณีที่สอง คือ เมื่อโนดทั้งหมด[br]มีดีกรีเป็นจำนวนคู่ 0:03:26.091,0:03:31.231 ในกรณีนี้ เส้นทางออยเลอร์จะ[br]เริ่มต้นและสิ้นสุดในตำแหน่งเดียวกัน 0:03:31.231,0:03:34.758 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า[br]วงจรออยเลอร์ 0:03:34.758,0:03:38.460 แล้วเราจะสร้างเส้นทางออยเลอร์[br]ในเคอนิกส์แบร์กได้อย่างไร 0:03:38.460,0:03:39.302 มันง่ายมาก 0:03:39.302,0:03:41.402 แค่เอาสะพานไหนก็ได้ออก[br]ไปสักหนึ่งสะพาน 0:03:41.402,0:03:46.080 และปรากฏว่าประวัติศาสตร์[br]ได้สร้างเส้นทางออยเลอร์ของมันเอง 0:03:46.080,0:03:50.198 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพอากาศ[br]โซเวียตทำลายสะพานเมืองไปสองแห่ง 0:03:50.198,0:03:53.531 ทำให้เส้นทางออยเลอร์[br]เป็นไปได้อย่างง่ายดาย 0:03:53.531,0:03:57.291 ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้ว นั่นอาจจะ[br]ไม่ใช่ความตั้งใจของพวกเขาหรอก 0:03:57.291,0:04:00.781 การทิ้งระเบิดครั้งนั้นแทบจะกวาด[br]เคอนิกส์แบร์กออกจากแผนที่ไปเลย 0:04:00.781,0:04:04.910 และได้สร้างใหม่ขึ้นในภายหลัง[br]เป็นเมืองคาลินินกราดแห่งรัสเซีย 0:04:04.910,0:04:09.083 ดังนั้น แม้ว่าอาจไม่มีเคอนิกส์แบร์ก[br]กับสะพานทั้งเจ็ดอีกต่อไปแล้ว 0:04:09.083,0:04:13.361 แต่จะเป็นที่จดจำไปชั่วประวัติศาสตร์[br]เพียงเพราะปริศนาหนึ่งที่ดูแสนธรรมดา 0:04:13.361,0:04:17.662 ซึ่งนำไปสู่การกำเนิด[br]คณิตศาสตร์สาขาใหม่