WEBVTT 00:00:01.329 --> 00:00:05.717 เหตุความรุนแรงสุดช็อคของการสลายผู้ชุมนุม โดยตำรวจที่เมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี 00:00:06.329 --> 00:00:09.212 ซึ่งเป็นผลจากการที่ตำรวจ ยิงนาย ไมเคิล บราวน์ (Michael Brown) 00:00:09.302 --> 00:00:13.064 ชี้ให้เห็นว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ ทางการทหารที่ล้ำสมัย 00:00:13.094 --> 00:00:15.623 ออกแบบเพื่อใช้ในสนามรบ 00:00:15.623 --> 00:00:17.375 เริ่มมีการนำไปใช้ 00:00:17.445 --> 00:00:20.277 ตามสถานีตำรวจในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา 00:00:20.277 --> 00:00:22.500 แม้ว่ามันยากที่จะสังเกตเห็น 00:00:22.500 --> 00:00:26.047 สิ่งเดียวกันก็กำลังเกิดขึ้นกับกล้องวงจรปิด NOTE Paragraph 00:00:26.047 --> 00:00:28.707 กล้องวงจรปิดสำหรับฝูงชน แบบที่สำนักความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ใช้ 00:00:28.707 --> 00:00:31.665 ช่วยให้สถานีตำรวจท้องถิ่นได้ข้อมูลมหาศาล 00:00:31.665 --> 00:00:35.232 เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพวกเราทุกคน 00:00:35.232 --> 00:00:39.284 ในแบบที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน NOTE Paragraph 00:00:39.284 --> 00:00:42.760 ข้อมูลตำแหน่ง ก็อาจเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างมาก 00:00:42.760 --> 00:00:45.391 เช่นถ้าคุณขับรถไปตามที่ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา 00:00:45.391 --> 00:00:47.314 มันสามารถเผยว่าคุณไปหาจิตแพทย์ 00:00:47.314 --> 00:00:49.782 ไปเข้ากลุ่มผู้ติดสุรานิรนาม 00:00:49.782 --> 00:00:52.603 คุณไปโบสถ์ หรือว่าคุณไม่ได้ไปโบสถ์ 00:00:52.603 --> 00:00:54.329 และเมื่อใดที่ข้อมูลของคุณ 00:00:54.329 --> 00:00:57.824 ถูกนำมารวมเข้ากับ ข้อมูลของคนอื่นๆ 00:00:57.824 --> 00:01:00.398 รัฐบาลจะสามารถเห็นภาพที่มีรายละเอียด 00:01:00.398 --> 00:01:03.114 ว่าประชาชนมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร NOTE Paragraph 00:01:03.114 --> 00:01:05.589 ข้อมูลเหล่านี้เคยเป็นข้อมูลส่วนตัว 00:01:05.589 --> 00:01:07.282 แต่ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ 00:01:07.282 --> 00:01:11.610 รัฐบาลจึงรู้เรื่องมากเกินไป ในสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ลับตา 00:01:11.610 --> 00:01:15.998 ตำรวจจะตัดสินว่า คุณเป็นคนแบบไหน 00:01:15.998 --> 00:01:19.169 จากข้อมูลเหล่านี้ NOTE Paragraph 00:01:19.169 --> 00:01:23.816 หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งผลักดันให้เกิดการสอดแนมมวลชน 00:01:23.816 --> 00:01:26.774 คือระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ ซึ่งดูเหมือนไร้พิษภัย 00:01:26.774 --> 00:01:28.469 ถ้าคุณยังไม่เคยเห็น 00:01:28.469 --> 00:01:31.657 อาจจะเป็นเพราะว่า คุณไม่รู้ว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร 00:01:31.657 --> 00:01:33.032 มันมีอยู่ทุกที่ 00:01:33.032 --> 00:01:36.104 ติดตั้งอยู่ตามถนน หรือบนรถตำรวจ 00:01:36.104 --> 00:01:40.533 เครื่องอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ถ่ายภาพของรถทุกคันที่วิ่งผ่าน 00:01:40.533 --> 00:01:44.148 และเปลี่ยนรูปของป้ายทะเบียน เป็นตัวหนังสือที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ 00:01:44.158 --> 00:01:47.560 เพื่อจะตรวจสอบเทียบกับ รายการรถที่กำลังตามหา 00:01:47.560 --> 00:01:50.845 ซึ่งอาจเป็นรถที่นำไปใช้ก่ออาชญากรรม NOTE Paragraph 00:01:50.845 --> 00:01:52.972 แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้น 00:01:52.992 --> 00:01:55.692 สถานีตำรวจท้องถิ่นต่างๆ กำลังรวบรวมข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ 00:01:55.722 --> 00:01:58.252 ไม่ได้แค่เก็บข้อมูลของบุคคลต้องสงสัย 00:01:58.282 --> 00:02:01.084 แต่ป้ายทะเบียนของรถทุกคนที่วิ่งผ่าน 00:02:01.084 --> 00:02:05.053 ผลก็คือการเก็บข้อมูลของพลเรือน ที่มีขนาดใหญ่มหึมา 00:02:05.053 --> 00:02:07.294 ว่าชาวอเมริกันเดินทางไปไหน 00:02:07.294 --> 00:02:08.902 คุณทราบไหม ว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น NOTE Paragraph 00:02:09.822 --> 00:02:13.228 เมื่อ ไมค์ คาซท์ ละคาเบ ขอให้สถานีตำรวจท้องถิ่น 00:02:13.228 --> 00:02:16.657 ให้ข้อมูลการอ่านป้ายทะเบียนรถของเขา 00:02:16.657 --> 00:02:18.335 นี่คือข้อมูลที่พวกเขามี 00:02:18.335 --> 00:02:21.477 ยิ่งไปกว่าวันที่ เวลา และสถานที่ 00:02:21.477 --> 00:02:24.508 สถานีตำรวจได้ถ่ายรูป ซึ่งชี้ว่า 00:02:24.508 --> 00:02:27.898 เขากำลังเดินทางไปไหน และมักไปกับใคร 00:02:27.898 --> 00:02:31.720 รูปที่สองจากข้างบน เป็นรูปของไมค์ และลูกสาวของเขาสองคน 00:02:31.720 --> 00:02:35.552 กำลังลงจากรถ บนถนนหน้าบ้านตัวเอง 00:02:35.552 --> 00:02:38.340 รัฐบาลมีรูปภาพเช่นนี้เป็นร้อยๆ ภาพ 00:02:38.340 --> 00:02:41.111 ภาพของไมค์ในขณะที่เขาทำกิจวัตรประจำวัน 00:02:41.111 --> 00:02:43.295 และถ้าคุณขับรถในสหรัฐอเมริกา 00:02:43.295 --> 00:02:46.028 ฉันพนันได้เลยว่า เขามีรูปถ่ายของคุณ 00:02:46.028 --> 00:02:48.946 แบบเดียวกันนี้ เกี่ยวกับสิ่งคุณกำลังทำในชีวิตประจำวัน NOTE Paragraph 00:02:48.946 --> 00:02:50.987 ไมค์ไม่ได้ทำอะไรผิด 00:02:50.987 --> 00:02:54.942 แล้วทำไมรัฐบาลจึงต้อง คอยเก็บข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ 00:02:54.942 --> 00:02:56.721 เหตุผลที่สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้น ก็คือ 00:02:56.721 --> 00:03:00.072 ค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูลนั้นน้อยนิด 00:03:00.072 --> 00:03:02.584 สถานีตำรวจจึงไม่ลบข้อมูลทิ้ง 00:03:02.584 --> 00:03:06.366 เพียงแค่เผื่อไว้ในกรณี ที่อาจจะเป็นประโยชน์สักวันหนึ่ง 00:03:06.366 --> 00:03:08.866 แต่ประเด็นไม่ใช่แค่ว่า สถานีตำรวจหนึ่งแห่ง 00:03:08.866 --> 00:03:11.487 กำลังรวบรวมข้อมูลเหล่านี้แยกกัน 00:03:11.487 --> 00:03:14.246 หรือ หลายสถานีตำรวจร่วมกันทำ 00:03:14.246 --> 00:03:16.743 ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลกลาง 00:03:16.743 --> 00:03:20.361 ก็กำลังเก็บข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เหล่านี้ 00:03:20.361 --> 00:03:23.682 และรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ 00:03:23.682 --> 00:03:25.338 ที่ทำให้พบข้อมูลที่ค้นหา จำนวนมหาศาล 00:03:25.338 --> 00:03:27.456 ที่แสดงว่าชาวอเมริกาเดินทางไปที่ไหนบ้าง 00:03:27.806 --> 00:03:30.964 เอกสารนี้ออกโดย สำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ 00:03:30.964 --> 00:03:33.729 ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายหน่วยงาน ที่สนใจต่อเรื่องนี้ 00:03:33.729 --> 00:03:38.166 เป็นหนึ่งในหลายที่ที่เปิดเผย ถึงการมีตัวตนของฐานข้อมูลนี้ 00:03:38.166 --> 00:03:40.735 ในขณะเดียวกัน ที่นครนิวยอร์ค 00:03:40.735 --> 00:03:44.677 ตำรวจขับรถที่ติดตั้ง เครื่องอ่านป้ายทะเบียน 00:03:44.677 --> 00:03:48.851 ผ่านมัสยิตเพื่อที่จะ ทราบว่าใครไปที่นั่นบ้าง NOTE Paragraph 00:03:48.851 --> 00:03:52.689 การใช้เทคโนโลยีในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้จำกัดอยู่ที่สหรัฐฯ เท่านั้น 00:03:52.689 --> 00:03:55.724 ในอังกฤษ กรมตำรวจ 00:03:55.724 --> 00:03:59.868 ได้ใส่ชื่อจอน แคทวัย 80 ปี ในรายชื่อทะเบียนรถบุคคลต้องสงสัย 00:03:59.868 --> 00:04:04.145 เพราะเขาอยู่ในการประท้วงทางการเมือง ที่ถูกต้องตามกฎหมายหลายครั้ง 00:04:04.145 --> 00:04:08.771 ทั้งๆ ที่ เขาชอบไปนั่งอยู่ตามม้านั่ง และวาดภาพผู้ไปชุมนุม NOTE Paragraph 00:04:08.771 --> 00:04:12.293 การอ่านป้ายทะเบียนไม่ได้เป็น เทคโนลียีการสอดแนมมวลชนแค่หนึ่งเดียว 00:04:12.293 --> 00:04:14.449 ที่มีการนำไปใช้โดยผู้บังคับใช้กฎหมาย 00:04:14.449 --> 00:04:17.461 เทคนิคเก็บข้อมูล จากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ 00:04:17.461 --> 00:04:20.713 ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่า ใครกำลังใช้ 00:04:20.713 --> 00:04:22.998 จากเสาส่งหนึ่งแห่งหรือมากกว่านั้น ณ เวลาขณะนั้น 00:04:22.998 --> 00:04:25.030 เทคนิคนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าจะเปิดเผย 00:04:25.030 --> 00:04:29.309 ตำแหน่งของคนเป็นหมื่นๆ และเป็นแสนๆ คน 00:04:29.309 --> 00:04:32.549 และด้วยการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า สติงเรย์ (StingRay) 00:04:32.549 --> 00:04:35.185 ผู้บังคับใช้กฎหมายสามารถส่งสัญญาณติดตาม 00:04:35.185 --> 00:04:39.550 เข้าไปในบ้านที่อยู่อาศัยเพื่อ หาตำแหน่งโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในนั้น 00:04:39.550 --> 00:04:41.812 และถ้าเขาไม่ทราบว่าบ้านหลังไหน เป็นหลังเป้าหมาย 00:04:41.812 --> 00:04:43.998 เขาก็จะใช้เทคโนโลยีนี้ 00:04:43.998 --> 00:04:47.424 ค้นหาไปทั่วพื้นที่รอบๆ NOTE Paragraph 00:04:47.424 --> 00:04:52.060 เหมือนกับที่ตำรวจที่เฟอร์กูสันมี อาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย 00:04:52.060 --> 00:04:55.042 สถานีตำรวจทั่วสหรัฐฯ ก็มีใช้เช่นเดียวกัน 00:04:55.042 --> 00:04:57.377 อุปกรณ์สอดแนมล้ำยุค 00:04:57.377 --> 00:04:59.408 แค่คุณไม่เห็นมัน 00:04:59.408 --> 00:05:01.793 ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ NOTE Paragraph 00:05:01.793 --> 00:05:04.344 คำถามคือ เราจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง 00:05:04.344 --> 00:05:07.654 ฉันคิดว่านี่เป็นการการคุกคาม เสรีภาพของพลเรือนอย่างร้ายแรง 00:05:07.654 --> 00:05:12.016 ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นแล้วว่า เมื่อใดที่ตำรวจมีข้อมูลขนาดใหญ่ 00:05:12.016 --> 00:05:14.095 ที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้บริสุทธิ์ 00:05:14.095 --> 00:05:18.411 อาจมีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เพื่อแบล็กเมล์ หรือผลประโยชน์ทางการเมือง 00:05:18.411 --> 00:05:20.670 หรืออาจเพียงเพื่อความสุขจากการแอบมอง NOTE Paragraph 00:05:20.670 --> 00:05:23.012 โชคดีที่มีมาตรการที่เราทำได้ 00:05:23.012 --> 00:05:26.742 สถานีตำรวจท้องถิ่น สามารถถูกกำกับดูแลโดยสภาเทศบาล 00:05:26.742 --> 00:05:29.664 ซึ่งจะผ่านกฎหมายที่เรียกร้องให้ตำรวจ 00:05:29.664 --> 00:05:32.586 ลบข้อมูลของประชาชนผู้บริสุทธิ์ทิ้งไป 00:05:32.586 --> 00:05:35.748 โดยยอมให้การใช้เทคโนโลยี ที่ถูกกฎหมายยังคงดำเนินการต่อไปได้ 00:05:35.748 --> 00:05:37.423 ขอบคุณค่ะ 00:05:37.423 --> 00:05:40.814 (เสียงปรบมือ)