1
00:00:06,912 --> 00:00:11,532
มีวิตามินชนิดหนึ่งที่สามารถ
ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

2
00:00:11,532 --> 00:00:15,522
การกินช็อกโกแลตลดความเครียดในเด็กนักเรียน

3
00:00:15,522 --> 00:00:20,222
ยาชนิดใหม่ยืดอายุผู้ป่วยที่เป็นโรคหายาก

4
00:00:20,222 --> 00:00:23,187
มีการนำเสนอ
พาดหัวข่าวสุขภาพเช่นนี้ในทุก ๆ วัน

5
00:00:23,187 --> 00:00:26,307
ซึ่งบางครั้งก็มีข้อสรุป
ที่ตรงข้ามกันในแต่ละแหล่ง

6
00:00:26,307 --> 00:00:30,137
อาจมีความไม่เกี่ยวข้องกันระหว่าง
การพาดข่าวหัวกว้าง ๆ เพื่อดึงความสนใจ

7
00:00:30,137 --> 00:00:32,797
กับผลลัพธ์ที่มักเฉพาะเจาะจง
และเป็นก้าวเล็ก ๆ

8
00:00:32,797 --> 00:00:34,817
ของงานวิจัยทางการแพทย์ในตัวข่าว

9
00:00:34,817 --> 00:00:39,357
แล้วคุณจะป้องกันการถูกทำให้เข้าใจผิด
จากพาดหัวยั่วให้อ่านเหล่านี้ได้อย่างไร?

10
00:00:39,357 --> 00:00:42,467
วิธีที่ดีที่สุดในการประเมิน
ความน่าเชื่อถือของพาดหัว

11
00:00:42,467 --> 00:00:45,807
คือการเข้าไปดูงานวิจัยต้นฉบับที่ใช้อ้างถึง

12
00:00:45,807 --> 00:00:48,217
เราได้จำลองสถานการณ์งานวิจัยสมมุติ

13
00:00:48,217 --> 00:00:50,507
สำหรับ 3 พาดหัวต่อไปนี้

14
00:00:50,507 --> 00:00:53,357
ให้ดูต่อไปสำหรับคำอธิบายของตัวอย่างแรก

15
00:00:53,357 --> 00:00:56,447
จากนั้นกดหยุด
ที่พาดหัวเพื่อตอบคำถาม

16
00:00:56,447 --> 00:00:58,517
นี่เป็นเพียงสถานการณ์ง่าย ๆ

17
00:00:58,517 --> 00:01:02,827
งานวิจัยจริงจะมีปัจจัยเยอะกว่ามาก
รวมถึงที่มาที่ไปของปัจจัยเหล่านั้น

18
00:01:02,827 --> 00:01:04,837
แต่เพื่อจุดประสงค์สำหรับการฝึก

19
00:01:04,837 --> 00:01:08,287
ให้สมมุติว่าคุณมีข้อมูล
ที่จำเป็นเพียงพอแล้ว

20
00:01:11,038 --> 00:01:14,233
เรามาเริ่มจากการพิจารณา
ผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิต

21
00:01:14,233 --> 00:01:17,028
ของวิตามินชนิดหนึ่งที่ชื่อ เฮลเทียม

22
00:01:17,028 --> 00:01:19,868
งานวิจัยนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่าง
ที่ได้รับเฮลเทียม

23
00:01:19,868 --> 00:01:24,086
มีระดับคอเลสเตอรอลที่ดี
สูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับยาหลอก

24
00:01:24,086 --> 00:01:29,936
ระดับของพวกเขาใกล้เคียงกับระดับของ
กลุ่มคนที่มีคอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

25
00:01:29,936 --> 00:01:34,586
งานวิจัยก่อนหน้าชี้ว่ากลุ่มคนที่มี
คอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

26
00:01:34,586 --> 00:01:37,486
มีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำกว่า

27
00:01:37,486 --> 00:01:40,241
งั้นสิ่งที่พาดหัวนี้ชวนให้เข้าใจผิดคืออะไร

28
00:01:40,241 --> 00:01:43,301
"เฮลเทียมลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ"

29
00:01:44,311 --> 00:01:48,791
ปัญหาของพาดหัวนี้คือ
ที่จริงแล้วงานวิจัยนี้ไม่ได้สำรวจ


30
00:01:48,791 --> 00:01:51,481
ว่าเฮลเทียมลดความเสี่ยงโรคหัวใจหรือไม่

31
00:01:51,481 --> 00:01:53,611
แต่เพียงสำรวจผลกระทบของเฮลเทียม

32
00:01:53,611 --> 00:01:56,771
ต่อระดับของคอเลสเตอรอลประเภทหนึ่งเท่านั้น

33
00:01:56,771 --> 00:01:59,881
ความจริงที่ว่าผู้มีระดับ
คอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

34
00:01:59,881 --> 00:02:01,961
มีความเสี่ยงต่อหัวใจวายต่ำกว่านั้น

35
00:02:01,961 --> 00:02:07,671
ไม่ได้แปลว่าจะเป็นจริงเช่นเดียวกันกับผู้ที่
เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลนี้โดยใช้เฮลเทียม

36
00:02:07,671 --> 00:02:10,141
ในเมื่อคุณได้ไขปริศนา
กรณีเฮลเทียมแล้ว

37
00:02:10,141 --> 00:02:13,581
ลองเผชิญกับความลึกลับน่าหลงใหลนี้ดู

38
00:02:13,581 --> 00:02:17,321
ความสัมพันธ์ระหว่าง
การกินช็อกโกแลตกับความเครียด

39
00:02:17,321 --> 00:02:20,281
สมมุติว่างานวิจัยนี้
มีการสำรวจนักเรียน 10 คน

40
00:02:20,281 --> 00:02:23,531
ครึ่งหนึ่งเริ่มบริโภคช็อกโกแลต
เป็นประจำทุกวัน

41
00:02:23,531 --> 00:02:25,141
ส่วนอีกครึ่งงดบริโภค

42
00:02:25,141 --> 00:02:28,691
ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง
ทุกคนใช้ตารางเรียนเดียวกัน

43
00:02:28,691 --> 00:02:30,171
เมื่อจบการสำรวจ

44
00:02:30,171 --> 00:02:35,451
พบว่านักเรียนที่ได้กินช็อกโกแลต
เครียดน้อยกว่านักเรียนที่ไม่ได้กิน

45
00:02:35,451 --> 00:02:37,301
พาดหัวนี้ผิดตรงไหน

46
00:02:37,301 --> 00:02:41,371
"การกินช็อกโกแลต
ลดความเครียดในเด็กนักเรียน"

47
00:02:43,408 --> 00:02:48,638
มันน้อยเกินไปที่จะสรุปเกี่ยวกับนักเรียน
อย่างกว้าง ๆ โดยใช้ตัวอย่างเพียงแค่ 10 คน

48
00:02:48,638 --> 00:02:53,894
นั่นเพราะยิ่งผู้เข้าร่วมในตัวอย่างสุ่มน้อย
โอกาสก็จะยิ่งต่ำที่ตัวอย่างเหล่านั้น

49
00:02:53,894 --> 00:02:57,934
จะเป็นตัวแทนของประชากรเป้าหมาย
ทั้งหมดได้อย่างใกล้เคียง

50
00:02:57,934 --> 00:03:02,734
เช่น หากประชากรทั้งหมดของนักเรียน
เป็นเพศชายครึ่งหนึ่งหญิงครึ่งหนึ่ง

51
00:03:02,734 --> 00:03:04,784
โอกาสที่จะสุ่มได้ตัวอย่าง 10 คน

52
00:03:04,784 --> 00:03:08,279
ที่โน้มไปทางเพศชาย 70% เพศหญิง 30%


53
00:03:08,279 --> 00:03:10,139
มีประมาณ 12%

54
00:03:10,144 --> 00:03:15,693
ในตัวอย่าง 100 คน โอกาสจะต่ำกว่า 0.0025%


55
00:03:15,693 --> 00:03:17,525
และในตัวอย่าง 1000 คน

56
00:03:17,525 --> 00:03:22,795
โอกาสจะต่ำกว่า 6×10^-36 %

57
00:03:22,795 --> 00:03:25,137
ในทำนองเดียวกัน ยิ่งผู้เข้าร่วมน้อย


58
00:03:25,137 --> 00:03:29,340
ผลลัพธ์ของตัวอย่างแต่ละคนก็ยิ่ง
ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์โดยรวมมาก

59
00:03:29,340 --> 00:03:32,555
และจึงอาจทำให้แนวโน้ม
ในภาพรวมเพี้ยนไป

60
00:03:32,555 --> 00:03:33,350
ถึงกระนั้น

61
00:03:33,350 --> 00:03:37,230
ก็มีเหตุผลที่ดีหลายเหตุผล
ให้นักวิทยาศาสตร์ทำวิจัยขนาดเล็ก

62
00:03:37,230 --> 00:03:39,029
โดยเริ่มจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก

63
00:03:39,029 --> 00:03:42,039
พวกเขาสามารถประเมินได้ว่า
ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าพอหรือไม่

64
00:03:42,039 --> 00:03:45,139
ที่จะทำวิจัยที่ครบถ้วนมากขึ้น
ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตาม

65
00:03:45,139 --> 00:03:48,609
และบางวิจัยก็ต้องการ
กลุ่มตัวอย่างที่เฉพาะมาก ๆ

66
00:03:48,609 --> 00:03:51,999
ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะหา
ตัวอย่างเหล่านั้นเป็นจำนวนมาก

67
00:03:51,999 --> 00:03:54,329
สิ่งสำคัญคือ การทำซ้ำได้

68
00:03:54,329 --> 00:03:57,629
หากบทความหนึ่งทำการสรุป
จากงานวิจัยขนาดเล็กชิ้นเดียว

69
00:03:57,629 --> 00:03:59,649
ข้อสรุปนั้นอาจน่าเคลือบแคลง


70
00:03:59,649 --> 00:04:02,959
แต่หากมีการใช้งานวิจัยหลายชิ้น
ที่ได้ผลลัพธ์คล้ายกัน

71
00:04:02,959 --> 00:04:04,699
ข้อสรุปนั้นก็น่าเชื่อถือมากขึ้น


72
00:04:04,699 --> 00:04:06,904
เรายังเหลืออีกหนึ่งปริศนา

73
00:04:06,904 --> 00:04:08,164
ในสถานการณ์นี้

74
00:04:08,169 --> 00:04:11,899
งานวิจัยหนึ่งทดสอบผลของยาชนิดใหม่
สำหรับโรคหายากร้ายแรง

75
00:04:11,899 --> 00:04:14,156
ในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย 2,000 คน

76
00:04:14,156 --> 00:04:17,636
พบว่าผู้ที่เริ่มรับยาชนิดใหม่นี้
หลังวินิจฉัยโรค

77
00:04:17,636 --> 00:04:21,052
มีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอก

78
00:04:21,052 --> 00:04:23,642
คราวนี้คำถามต่างออกไปเล็กน้อย

79
00:04:23,642 --> 00:04:28,012
ยังมีอีกอย่างที่คุณควรต้องรู้
ก่อนจะตัดสินพาดหัว

80
00:04:28,012 --> 00:04:33,619
"ยาชนิดใหม่ยืดอายุผู้ป่วยที่เป็นโรคหายาก"
นี่สมเหตุสมผลหรือไม่?

81
00:04:34,902 --> 00:04:36,472
ก่อนที่จะตัดสิน

82
00:04:36,472 --> 00:04:40,792
คุณควรต้องรู้ว่ายานี้ยืดชีวิต
ผู้ป่วยได้ยาวขึ้นแค่ไหน

83
00:04:40,792 --> 00:04:43,163
บางครั้ง งานวิจัยอาจได้ผลลัพธ์ที่


84
00:04:43,163 --> 00:04:48,243
แม้จะถูกต้องในทางวิทยาศาสตร์
แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญในโลกความเป็นจริง

85
00:04:48,243 --> 00:04:52,941
เช่น การทดลองทางการแพทย์ของจริงครั้งหนึ่ง
ของยาต้านมะเร็งตับอ่อน

86
00:04:52,941 --> 00:04:56,903
พบว่าอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 10 วัน

87
00:04:57,463 --> 00:05:00,276
ครั้งต่อไปที่คุณพบพาดหัว
ทางการแพทย์ที่น่าตื่นตา

88
00:05:00,276 --> 00:05:03,434
ให้ดูไปที่งานวิจัยที่ใช้อ้างถึงด้วย

89
00:05:04,026 --> 00:05:06,956
ถึงแม้งานวิจัยตัวเต็ม
ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอ่าน

90
00:05:06,956 --> 00:05:09,986
คุณก็ยังสามารถหาสรุปแบบแผนการทดลอง

91
00:05:09,986 --> 00:05:13,176
และผลการทดลองได้ในบทคัดย่อ
ซึ่งเปิดให้อ่านได้ฟรี

92
00:05:13,176 --> 00:05:16,266
หรือกระทั่งในตัวข่าวนั่นเอง

93
00:05:16,356 --> 00:05:19,670
มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็น
งานวิจัยครอบคลุมเนื้อหาในข่าวนั้น

94
00:05:19,670 --> 00:05:23,426
และมันก็สำคัญเช่นกันที่ต้องเข้าใจ
สิ่งที่พบในงานวิจัยนั้น ๆ