[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:00.93,0:00:04.06,Default,,0000,0000,0000,,ทุกๆ วันเราเจอปัญหาอย่าง\Nการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ Dialogue: 0,0:00:04.06,0:00:05.49,Default,,0000,0000,0000,,หรือความปลอดภัยของวัคซีน Dialogue: 0,0:00:05.49,0:00:08.53,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคำถามที่เราต้องตอบนั้น Dialogue: 0,0:00:08.53,0:00:11.99,Default,,0000,0000,0000,,ต้องพึ่งพาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาก Dialogue: 0,0:00:11.99,0:00:14.87,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์บอกเราว่าโลกของเราร้อนขึ้น Dialogue: 0,0:00:14.87,0:00:17.41,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์บอกเราว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย Dialogue: 0,0:00:17.41,0:00:19.46,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาพูดถูก Dialogue: 0,0:00:19.46,0:00:21.43,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมเราต้องเชื่อวิทยาศาสตร์ด้วย Dialogue: 0,0:00:21.43,0:00:24.90,Default,,0000,0000,0000,,อันที่จริง พวกเราหลายคนไม่เชื่อวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:00:24.90,0:00:27.07,Default,,0000,0000,0000,,ความคิดเห็นจากการทำการสำรวจ\Nแสดงให้เห็นเสมอว่า Dialogue: 0,0:00:27.07,0:00:30.08,Default,,0000,0000,0000,,คนอเมริกันจำนวนมากทีเดียว Dialogue: 0,0:00:30.08,0:00:33.62,Default,,0000,0000,0000,,ที่ไม่เชื่อว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป\Nเพราะการกระทำของมนุษย์ Dialogue: 0,0:00:33.62,0:00:36.56,Default,,0000,0000,0000,,ไม่คิดว่ามี วิวัฒนาการ\Nที่เกิดจากการคัดเลือกทางธรรมชาติ Dialogue: 0,0:00:36.56,0:00:40.46,Default,,0000,0000,0000,,และไม่ได้คล้อยตามว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย Dialogue: 0,0:00:40.46,0:00:44.10,Default,,0000,0000,0000,,แล้วทำไมเราต้องเชื่อวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:00:44.10,0:00:47.71,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ชอบ\Nที่จะพูดถึงวิทยาศาสตร์ว่าเป็นความเชื่อ Dialogue: 0,0:00:47.71,0:00:50.29,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริง พวกเขามักทำให้เห็นความต่างระหว่าง\Nวิทยาศาสตร์และความศรัทธา Dialogue: 0,0:00:50.29,0:00:53.26,Default,,0000,0000,0000,,และพวกเขาอาจบอกว่า \Nความเชื่ออยู่ในขอบเขตของความศรัทธา Dialogue: 0,0:00:53.26,0:00:57.04,Default,,0000,0000,0000,,และความศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่ต่าง\Nและห่างออกไปจากวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:00:57.04,0:01:00.19,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาจะพูดแน่ๆ ว่าศาสนา\Nนั้นอยู่บนรากฐานของความศรัทธา Dialogue: 0,0:01:00.19,0:01:03.88,Default,,0000,0000,0000,,หรือบางทีจะขอใช้แคลคูลัสของปาสกัล\Nเป็นเดิมพัน Dialogue: 0,0:01:03.88,0:01:06.56,Default,,0000,0000,0000,,เบลส ปาสกัล (Blaise Pascal) \Nนักคณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 17 Dialogue: 0,0:01:06.56,0:01:09.37,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ซึ่งพยายามที่จะนำการให้เหตุผล\Nทางวิทยาศาสตร์ไปใช้กับคำถามที่ว่า Dialogue: 0,0:01:09.37,0:01:11.24,Default,,0000,0000,0000,,เขาควรเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ Dialogue: 0,0:01:11.24,0:01:13.85,Default,,0000,0000,0000,,และเดิมพันของเขาก็คือ Dialogue: 0,0:01:13.85,0:01:16.40,Default,,0000,0000,0000,,เอาล่ะ ถ้าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง Dialogue: 0,0:01:16.40,0:01:18.42,Default,,0000,0000,0000,,แต่ฉันตัดสินใจที่จะเชื่อในพระเจ้า Dialogue: 0,0:01:18.42,0:01:20.40,Default,,0000,0000,0000,,ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรมาก Dialogue: 0,0:01:20.40,0:01:22.01,Default,,0000,0000,0000,,บางทีก็แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงตอนวันอาทิตย์ Dialogue: 0,0:01:22.01,0:01:23.00,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงหัวเราะ) Dialogue: 0,0:01:23.00,0:01:26.38,Default,,0000,0000,0000,,แต่ถ้าพระองค์มีอยู่จริง แล้วผมไม่เชื่อ Dialogue: 0,0:01:26.38,0:01:28.40,Default,,0000,0000,0000,,ทีนี้ล่ะ ผมเจอปัญหาใหญ่แน่ Dialogue: 0,0:01:28.40,0:01:31.44,Default,,0000,0000,0000,,ปาสกัลก็เลยบอกว่า เราควรที่จะเชื่อในพระเจ้า Dialogue: 0,0:01:31.44,0:01:33.61,Default,,0000,0000,0000,,หรืออย่างหนึ่งที่ศาสตราจารย์ของฉันบอก Dialogue: 0,0:01:33.61,0:01:35.84,Default,,0000,0000,0000,,"เขายึดหลักเกาะเกี่ยวกับความศรัทธา" Dialogue: 0,0:01:35.84,0:01:37.77,Default,,0000,0000,0000,,เขาทำการกระโจนออกไปด้วยความศรัทธา Dialogue: 0,0:01:37.77,0:01:42.30,Default,,0000,0000,0000,,ทิ้งวิทยาศาสตร์และหลักความเชื่อเรื่องเหตุผล\Nไว้ข้างหลัง Dialogue: 0,0:01:42.30,0:01:44.99,Default,,0000,0000,0000,,ทีนี้ความจริงนั้นมันยาก สำหรับเราส่วนใหญ่ Dialogue: 0,0:01:44.99,0:01:48.13,Default,,0000,0000,0000,,ข้อกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่\Nเป็นการกระโจนด้วยศรัทธา Dialogue: 0,0:01:48.13,0:01:52.51,Default,,0000,0000,0000,,พวกเราไม่สามารถตัดสินข้อกล่าวอ้าง\Nทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ Dialogue: 0,0:01:52.51,0:01:55.35,Default,,0000,0000,0000,,และแน่นอน มันจริงเช่นกัน\Nสำหรับนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ Dialogue: 0,0:01:55.35,0:01:57.68,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อมันเป็นเรื่องที่นอกเหนือความเชี่ยวชาญ Dialogue: 0,0:01:57.68,0:02:00.20,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้าคุณคิดถึงมัน \Nนักธรณีวิทยาไม่สามารถบอกคุณได้ Dialogue: 0,0:02:00.20,0:02:01.95,Default,,0000,0000,0000,,ว่าวัคซีนปลอดภัยหรือเปล่า Dialogue: 0,0:02:01.95,0:02:04.95,Default,,0000,0000,0000,,นักเคมีส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ\Nในทฤษฎีวิวัฒนาการ Dialogue: 0,0:02:04.95,0:02:07.21,Default,,0000,0000,0000,,นักฟิสิกส์ไม่สามารถบอกคุณได้ Dialogue: 0,0:02:07.21,0:02:08.65,Default,,0000,0000,0000,,เว้นเสียแต่ว่าเป็นข้อกล่าวอ้างบางข้อ Dialogue: 0,0:02:08.65,0:02:12.01,Default,,0000,0000,0000,,ว่ายาสูบทำให้เกิดมะเร็งหรือเปล่า Dialogue: 0,0:02:12.01,0:02:14.46,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้าแม้แต่นักวิทยาศาสตร์เอง Dialogue: 0,0:02:14.46,0:02:15.73,Default,,0000,0000,0000,,ยังจะต้องมีการกระโจนด้วยศรัทธา Dialogue: 0,0:02:15.73,0:02:17.66,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อออกไปนอกองค์ความรู้ของพวกเขา Dialogue: 0,0:02:17.66,0:02:21.58,Default,,0000,0000,0000,,แล้วทำไมพวกเขาถึงยอมรับ\Nข้อกล่าวอ้างของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ Dialogue: 0,0:02:21.58,0:02:23.88,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมพวกเขาจึงเชื่อข้อกล่าวอ้างของกันและกัน Dialogue: 0,0:02:23.88,0:02:27.17,Default,,0000,0000,0000,,และเราควรที่จะเชื่อข้อกล่าวอ้างพวกนั้นหรือ Dialogue: 0,0:02:27.17,0:02:29.95,Default,,0000,0000,0000,,ที่ฉันอยากจะแย้งคือ ใช่ เราควรค่ะ Dialogue: 0,0:02:29.95,0:02:32.83,Default,,0000,0000,0000,,แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ว่า\Nพวกเราส่วนใหญ่คิดอย่างนั้น Dialogue: 0,0:02:32.83,0:02:35.16,Default,,0000,0000,0000,,พวกเราส่วนใหญ่ถูกสอนมาในโรงเรียน\Nว่าเหตุผลที่เราควรเชื่อในวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:02:35.16,0:02:38.57,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่าด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:02:38.57,0:02:41.49,Default,,0000,0000,0000,,เราถูกสอนว่า นักวิทยาศาสตร์ทำตามขั้นตอน Dialogue: 0,0:02:41.49,0:02:43.84,Default,,0000,0000,0000,,และวิธีการนี้รับรอง Dialogue: 0,0:02:43.84,0:02:45.84,Default,,0000,0000,0000,,ความจริงให้กับข้อกล่าวอ้างของพวกเขา Dialogue: 0,0:02:45.84,0:02:49.26,Default,,0000,0000,0000,,วิธีการที่พวกเราส่วนใหญ่\Nถูกสอนมาในโรงเรียน Dialogue: 0,0:02:49.26,0:02:50.84,Default,,0000,0000,0000,,พวกเราเรียกมันว่าวิธีการตามตำราก็ได้ Dialogue: 0,0:02:50.84,0:02:53.62,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นวิธีแบบนิรนัยจากสมมติฐาน\N(hypothetical deductive method) Dialogue: 0,0:02:53.62,0:02:56.71,Default,,0000,0000,0000,,ตามแบบจำลองมาตรฐาน ตามแบบจำลองตำรา Dialogue: 0,0:02:56.71,0:02:59.67,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์พัฒนาสมมติฐาน\Nพวกเขาอนุมาน Dialogue: 0,0:02:59.67,0:03:02.13,Default,,0000,0000,0000,,ผลที่จะตามมาของสมมติฐานนั้น Dialogue: 0,0:03:02.13,0:03:03.84,Default,,0000,0000,0000,,และจากนั้นพวกเขาก็ออกไปในโลก\Nและบอกว่า Dialogue: 0,0:03:03.84,0:03:06.22,Default,,0000,0000,0000,,"เอาล่ะ สิ่งที่เกิดตามมานั้นมันจริงหรือเปล่า" Dialogue: 0,0:03:06.22,0:03:09.55,Default,,0000,0000,0000,,เราทำการสำรวจ\Nว่ามันเกิดขึ้นในโลกปกติได้ไหม Dialogue: 0,0:03:09.55,0:03:12.15,Default,,0000,0000,0000,,และถ้ามันจริง\Nนักวิทยาศาสตร์ก็จะบอกว่า Dialogue: 0,0:03:12.15,0:03:15.00,Default,,0000,0000,0000,,"ยอดเลย เรารู้ว่าสมมติฐานนี้ถูกต้อง" Dialogue: 0,0:03:15.00,0:03:17.18,Default,,0000,0000,0000,,มีตัวอย่างที่โด่งดังมากมาย\Nในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:03:17.18,0:03:20.06,Default,,0000,0000,0000,,ที่นักวิทยาศาสตร์ทำแบบนี้เป๊ะๆ Dialogue: 0,0:03:20.06,0:03:22.12,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่งในตัวอย่างที่โด่งดังที่สุด Dialogue: 0,0:03:22.12,0:03:24.33,Default,,0000,0000,0000,,มาจากผลงานของอัลเบิร์ต ไอสไตน์ Dialogue: 0,0:03:24.33,0:03:26.86,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อไอสไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป Dialogue: 0,0:03:26.86,0:03:29.17,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่งในผลที่เกิดขึ้นต่อมาจากทฤษฎีของเขา Dialogue: 0,0:03:29.17,0:03:32.01,Default,,0000,0000,0000,,คืออวกาศ-เวลา ไม่ได้เป็นแค่ห้วงว่างเปล่า Dialogue: 0,0:03:32.01,0:03:33.92,Default,,0000,0000,0000,,แต่แท้จริงแล้วมันมีโครงสร้าง Dialogue: 0,0:03:33.92,0:03:35.52,Default,,0000,0000,0000,,และโครงสร้างนั้นก็ถูกดัด Dialogue: 0,0:03:35.52,0:03:38.90,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อมีวัตถุขนาดยักษ์อย่างดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:03:38.90,0:03:41.65,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ถ้าทฤษฎีนี้เป็นจริงแล้ว \Nมันหมายความว่า Dialogue: 0,0:03:41.65,0:03:43.18,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อแสงเดินทางผ่านดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:03:43.18,0:03:45.34,Default,,0000,0000,0000,,ควรที่จะถูกดัดให้โค้งไปรอบมัน Dialogue: 0,0:03:45.34,0:03:47.74,Default,,0000,0000,0000,,มันค่อนข้างจะเป็นการคาดคะเนที่น่าตกใจ Dialogue: 0,0:03:47.74,0:03:49.73,Default,,0000,0000,0000,,และมันก็กินเวลาสองสามปี\Nก่อนที่นักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:03:49.73,0:03:51.01,Default,,0000,0000,0000,,จะสามารถที่จะทดสอบมันได้ Dialogue: 0,0:03:51.01,0:03:53.52,Default,,0000,0000,0000,,แต่พวกเขาทำการทดสอบในปี 1919 Dialogue: 0,0:03:53.52,0:03:55.97,Default,,0000,0000,0000,,และดูเสียก่อน \Nกลายเป็นว่ามันเป็นความจริงซะด้วย Dialogue: 0,0:03:55.97,0:03:59.13,Default,,0000,0000,0000,,แสงดาวถูกดัดให้โค้งจริงๆ\Nเมื่อมันเดินทางรอบดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:03:59.13,0:04:01.62,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นการยืนยันที่ยิ่งใหญ่ของทฤษฎีนี้ Dialogue: 0,0:04:01.62,0:04:03.43,Default,,0000,0000,0000,,มันได้รับการพิจารณาว่าเป็นข้อพิสูจน์ความจริง Dialogue: 0,0:04:03.43,0:04:04.74,Default,,0000,0000,0000,,ของความคิดใหม่แสนสุดโต่ง Dialogue: 0,0:04:04.74,0:04:06.59,Default,,0000,0000,0000,,และมันถูกเขียนถึงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ Dialogue: 0,0:04:06.59,0:04:09.13,Default,,0000,0000,0000,,ทั่วโลก Dialogue: 0,0:04:09.13,0:04:11.48,Default,,0000,0000,0000,,ทีนี้ บางครั้งทฤษฎีหรือแบบจำลองนี้ Dialogue: 0,0:04:11.48,0:04:14.91,Default,,0000,0000,0000,,ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแบบจำลองแบบกฎของการอนุมาน\N(deductive-nomological model) Dialogue: 0,0:04:14.91,0:04:18.30,Default,,0000,0000,0000,,โดยหลักแล้ว เพราะทางวิชาการ\Nชอบที่จะทำสิ่งที่ซับซ้อน Dialogue: 0,0:04:18.30,0:04:23.56,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันก็ยังเป็นเพราะในกรณีที่สมบูรณ์ \Nมันเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ Dialogue: 0,0:04:23.56,0:04:26.06,Default,,0000,0000,0000,,คำว่า โนโมโลจิคัล (nomological)\Nหมายถึง เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์ Dialogue: 0,0:04:26.06,0:04:29.48,Default,,0000,0000,0000,,และในกรณีที่สมบูรณ์ สมมติฐานไม่ได้เป็นแค่ความคิด Dialogue: 0,0:04:29.48,0:04:31.81,Default,,0000,0000,0000,,โดยสมบูรณ์แล้ว มันคือกฎแห่งธรรมชาติ Dialogue: 0,0:04:31.81,0:04:34.10,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมมันถึงสำคัญ ที่วามันเป็นกฎแห่งธรรมชาติ Dialogue: 0,0:04:34.10,0:04:36.83,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่า ถ้ามันเป็นกฎแล้ว \Nมันก็ไม่สามารถที่จะถูกฝ่าฝืนได้ Dialogue: 0,0:04:36.83,0:04:38.93,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามันเป็นกฎแล้วมันจะเป็นจริงเสมอ Dialogue: 0,0:04:38.93,0:04:40.18,Default,,0000,0000,0000,,ในทุกเวลาและทุกสถานที่ Dialogue: 0,0:04:40.18,0:04:42.38,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร Dialogue: 0,0:04:42.38,0:04:45.61,Default,,0000,0000,0000,,และที่คุณทุกคนก็รู้อย่างน้อยหนึ่งตัวอย่าง\Nของกฎที่โด่งดัง Dialogue: 0,0:04:45.61,0:04:49.37,Default,,0000,0000,0000,,สมการที่โด่งดังของไอสไตน์ E=MC2 Dialogue: 0,0:04:49.37,0:04:51.17,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งบอกเราว่าความสัมพันธ์ Dialogue: 0,0:04:51.17,0:04:53.36,Default,,0000,0000,0000,,ระหว่างพลังงานและมวลคืออะไร Dialogue: 0,0:04:53.36,0:04:57.36,Default,,0000,0000,0000,,และความสัมพันธ์นั้นก็จริงไม่ว่าจะอย่างไร Dialogue: 0,0:04:57.36,0:05:01.01,Default,,0000,0000,0000,,ทีนี้ มันกลายเป็นว่า แบบจำลองนี้มีปัญหา\Nอยู่สองสามอย่าง Dialogue: 0,0:05:01.01,0:05:04.64,Default,,0000,0000,0000,,ปัญหาหลักคือมันผิด Dialogue: 0,0:05:04.64,0:05:08.15,Default,,0000,0000,0000,,มันก็แค่ไม่จริง (เสียงหัวเราะ) Dialogue: 0,0:05:08.15,0:05:10.87,Default,,0000,0000,0000,,และฉันกำลังที่จะบรรยายเกี่ยวกับอีกสามเหตุผล\Nว่าทำไมมันผิด Dialogue: 0,0:05:10.87,0:05:13.55,Default,,0000,0000,0000,,เหตุผลแรกคือเหตุผลทางตรรกะ Dialogue: 0,0:05:13.55,0:05:17.06,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นปัญหาแห่งความคิดผิดๆ\Nเกี่ยวกับการยืนยันผลที่ตามมา Dialogue: 0,0:05:17.06,0:05:19.89,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นอีกหนึ่งความคิดผิดๆ \Nเป็นการพูดอย่างนักวิชาการ Dialogue: 0,0:05:19.89,0:05:22.56,Default,,0000,0000,0000,,ว่าทฤษฎีที่ผิดสามารถให้การคาดเดาที่ถูกได้ Dialogue: 0,0:05:22.56,0:05:24.56,Default,,0000,0000,0000,,แค่เพียงเพราะการคาดเดาออกมาถูก Dialogue: 0,0:05:24.56,0:05:27.78,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ได้พิสูจน์ด้วยตรรกะจริงๆ ว่าทฤษฎีนั้นถูกต้อง Dialogue: 0,0:05:27.78,0:05:31.71,Default,,0000,0000,0000,,และฉันมีตัวอย่างด้วยเช่นกัน\Nอีกครั้ง จากประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:05:31.71,0:05:34.40,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือรูปภาพของจักรวาลของปโตเลมี Dialogue: 0,0:05:34.40,0:05:36.26,Default,,0000,0000,0000,,ที่มีโลกอยู่ศูนย์กลางจักรวาล Dialogue: 0,0:05:36.26,0:05:38.86,Default,,0000,0000,0000,,และดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์อื่นๆ\Nโคจรไปรอบๆ มัน Dialogue: 0,0:05:38.86,0:05:40.89,Default,,0000,0000,0000,,แบบจำลองแบบปโตเลมีได้รับความเชื่อถือ Dialogue: 0,0:05:40.89,0:05:44.14,Default,,0000,0000,0000,,โดยคนฉลาดมากมาย เป็นเวลาหลายศตวรรษ Dialogue: 0,0:05:44.14,0:05:45.88,Default,,0000,0000,0000,,เพราะอะไรล่ะ Dialogue: 0,0:05:45.88,0:05:49.32,Default,,0000,0000,0000,,คำตอบก็คือ เพราะว่ามันทำการคาดคะเนมากมาย\Nที่ผลออกมาเป็นจริง Dialogue: 0,0:05:49.32,0:05:51.33,Default,,0000,0000,0000,,ระบบแบบปโตเลมีทำให้นักดาราศาสตร์ Dialogue: 0,0:05:51.33,0:05:54.08,Default,,0000,0000,0000,,ทำการคาดคะเนการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์\Nได้อย่างแม่นยำ Dialogue: 0,0:05:54.08,0:05:56.60,Default,,0000,0000,0000,,อันที่จริง ตอนแรกคาดคะเนได้แม่นยำมากกว่า Dialogue: 0,0:05:56.60,0:06:00.92,Default,,0000,0000,0000,,ทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส ซึ่งตอนนี้เราบอกได้ว่ามันจริง Dialogue: 0,0:06:00.92,0:06:03.91,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นหนึ่งปัญหาของแบบจำลองตามตำรา Dialogue: 0,0:06:03.91,0:06:06.30,Default,,0000,0000,0000,,ปัญหาที่สองเป็นปัญหาทางในทางปฏิบัติ Dialogue: 0,0:06:06.30,0:06:09.54,Default,,0000,0000,0000,,และมันเป็นปัญหาของสมมติฐานเสริม Dialogue: 0,0:06:09.54,0:06:12.37,Default,,0000,0000,0000,,สมมติฐานเสริมเป็นการสันนิษฐาน Dialogue: 0,0:06:12.37,0:06:14.15,Default,,0000,0000,0000,,ที่นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างขึ้น Dialogue: 0,0:06:14.15,0:06:17.19,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งพวกเขาอาจจะหรือไม่ตระหนัก\Nว่าพวกเขากระทำ Dialogue: 0,0:06:17.19,0:06:19.85,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่างสำคัญของสิ่งนี้ Dialogue: 0,0:06:19.85,0:06:21.94,Default,,0000,0000,0000,,มาจากแบบจำลองโคเปอร์นิคัส Dialogue: 0,0:06:21.94,0:06:25.14,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว มาแทนที่ระบบแบบปโตเลมี Dialogue: 0,0:06:25.14,0:06:27.18,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อนิโคลัส โคเปอร์นิคัส กล่าวว่า Dialogue: 0,0:06:27.18,0:06:29.83,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริงโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล Dialogue: 0,0:06:29.83,0:06:31.74,Default,,0000,0000,0000,,ดวงอาทิตย์อยู่ศูนย์กลางระบบสุริยจักรวาล Dialogue: 0,0:06:31.74,0:06:33.13,Default,,0000,0000,0000,,โลกโคจรไปรอบๆ ดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:06:33.13,0:06:36.86,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เอาล่ะ นิโคลัส ถ้านั่นมันจริง Dialogue: 0,0:06:36.86,0:06:38.62,Default,,0000,0000,0000,,เราก็ควรที่จะสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว Dialogue: 0,0:06:38.62,0:06:40.58,Default,,0000,0000,0000,,ของโลกรอบๆ ด้วยอาทิตย์ได้สิ Dialogue: 0,0:06:40.58,0:06:42.63,Default,,0000,0000,0000,,และสไลด์นี้เป็นภาพของแนวคิด Dialogue: 0,0:06:42.63,0:06:44.44,Default,,0000,0000,0000,,ที่เรียกว่า การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว \N(stellar parallax) Dialogue: 0,0:06:44.44,0:06:48.26,Default,,0000,0000,0000,,และนักดาราศาสตร์บอกว่า ถ้าโลกกำลังเคลื่อนที่ Dialogue: 0,0:06:48.26,0:06:51.46,Default,,0000,0000,0000,,และเรามองไปยังดาวที่เด่นชัด เช่น ซิริอัส Dialogue: 0,0:06:51.46,0:06:53.88,Default,,0000,0000,0000,,ฉันรู้ว่าฉันอยู่ในแมนฮัตตัน\Nคุณก็เลยไม่เห็นดาว Dialogue: 0,0:06:53.88,0:06:57.61,Default,,0000,0000,0000,,แต่ลองนึกดูว่าคุณออกไปอยู่ในชนบท\Nลองคิดว่าคุณเลือกชีวิตไกลกรุง Dialogue: 0,0:06:57.61,0:07:00.48,Default,,0000,0000,0000,,และเรามองดวงดาวในเดือนธันวาคม \Nเราเห็นดาวดวงนั้น Dialogue: 0,0:07:00.48,0:07:03.24,Default,,0000,0000,0000,,บนพื้นหลังที่มีดาวที่ห่างออกไป Dialogue: 0,0:07:03.24,0:07:06.19,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าพวกเราทำการสังเกตหกเดือนหลังจากนี้ Dialogue: 0,0:07:06.19,0:07:10.01,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อโลกได้เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งในเดือนมิถุนายน Dialogue: 0,0:07:10.01,0:07:14.10,Default,,0000,0000,0000,,เรามองไปยังดาวดวงเดิม และเราเห็นมัน\Nบนพื้นหลังที่ต่างออกไป Dialogue: 0,0:07:14.10,0:07:18.29,Default,,0000,0000,0000,,ความแตกต่างนั้น องศาที่แตกต่างนั้น\Nคือ การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว Dialogue: 0,0:07:18.29,0:07:21.15,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น การคาดการโดยแบบจำลองโคเปอร์นิคัส Dialogue: 0,0:07:21.15,0:07:23.71,Default,,0000,0000,0000,,นักดาราศาสตร์มองหา \Nการเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว Dialogue: 0,0:07:23.71,0:07:28.69,Default,,0000,0000,0000,,และพวกเขาไม่พบอะไร ไม่พบอะไรเลย Dialogue: 0,0:07:28.69,0:07:32.56,Default,,0000,0000,0000,,และคนมากมายเถียงว่า\Nนี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ว่าแบบจำลองโคเปอร์นิคัสเป็นเท็จ Dialogue: 0,0:07:32.56,0:07:34.05,Default,,0000,0000,0000,,แล้วมันเกิดอะไรขึ้น Dialogue: 0,0:07:34.05,0:07:36.73,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเราเข้าใจปัญหาหลังจากที่มันเกิดขึ้นแล้ว\Nเราสามารถบอกได้ว่านักดาราศาสตร์ Dialogue: 0,0:07:36.73,0:07:39.28,Default,,0000,0000,0000,,ได้ตั้งสองสมมติฐานเสริม ซึ่งทั้งสองข้อนั้น Dialogue: 0,0:07:39.28,0:07:41.94,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้เราบอกได้ว่ามันไม่ถูก Dialogue: 0,0:07:41.94,0:07:45.58,Default,,0000,0000,0000,,อย่างแรกคือข้อสมมติเกี่ยวกับขนาดของวงโคจรโลก Dialogue: 0,0:07:45.58,0:07:48.61,Default,,0000,0000,0000,,นักดาราศาสตร์เคยคาดไว้ว่าวงโคจรของโลกนั้นใหญ่ Dialogue: 0,0:07:48.61,0:07:50.95,Default,,0000,0000,0000,,เป็นสัดส่วนกับระยะห่างจากดวงดาว Dialogue: 0,0:07:50.95,0:07:53.41,Default,,0000,0000,0000,,วันนี้เราจะเขียนภาพเป็นแบบนี้มากกว่า Dialogue: 0,0:07:53.41,0:07:54.76,Default,,0000,0000,0000,,มันมาจากนาซ่า Dialogue: 0,0:07:54.76,0:07:57.18,Default,,0000,0000,0000,,และคุณเห็นวงโคจรของโลกว่ามันค่อนข้างเล็ก Dialogue: 0,0:07:57.18,0:08:00.17,Default,,0000,0000,0000,,อันที่จริง มันเล็กกว่าที่แสดงให้เห็นตรงนี้ Dialogue: 0,0:08:00.17,0:08:01.71,Default,,0000,0000,0000,,การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาวนั้น Dialogue: 0,0:08:01.71,0:08:05.30,Default,,0000,0000,0000,,เล็กมากๆ และอันที่จริง ยากที่จะตรวจจับได้ Dialogue: 0,0:08:05.30,0:08:07.27,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นนำไปสู่เหตุผลที่สอง Dialogue: 0,0:08:07.27,0:08:09.13,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมการคาดคะเนถึงไม่ได้ผล Dialogue: 0,0:08:09.13,0:08:11.04,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่านักวิทยาศาสตร์ยังเข้าใจว่า Dialogue: 0,0:08:11.04,0:08:14.06,Default,,0000,0000,0000,,กล้องโทรทัศน์ที่พวกเขามีนั้นไวพอ Dialogue: 0,0:08:14.06,0:08:15.96,Default,,0000,0000,0000,,ที่จะตรวจจับการเหลื่อมตำแหน่งได้ Dialogue: 0,0:08:15.96,0:08:17.97,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นกลายเป็นว่าไม่เป็นความจริง Dialogue: 0,0:08:17.97,0:08:20.51,Default,,0000,0000,0000,,ไม่จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 Dialogue: 0,0:08:20.51,0:08:22.19,Default,,0000,0000,0000,,ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถที่จะตรวจจับ Dialogue: 0,0:08:22.19,0:08:23.73,Default,,0000,0000,0000,,การเหลื่อมตำแหน่งของดาวได้ Dialogue: 0,0:08:23.73,0:08:26.37,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น มันมีปัญหาที่สามเช่นกัน Dialogue: 0,0:08:26.37,0:08:29.15,Default,,0000,0000,0000,,ปัญหาที่สามเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริง Dialogue: 0,0:08:29.15,0:08:31.97,Default,,0000,0000,0000,,ที่ว่า วิทยาศาสตร์มากมาย\Nไม่ได้เป็นไปตามแบบจำลองตำรา Dialogue: 0,0:08:31.97,0:08:34.24,Default,,0000,0000,0000,,วิทยาศาสตร์มากมายไม่ใช่การนิรนัยเลย Dialogue: 0,0:08:34.24,0:08:36.01,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นการอุปนัย Dialogue: 0,0:08:36.01,0:08:38.52,Default,,0000,0000,0000,,และที่เราบอกว่า นักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:08:38.52,0:08:40.75,Default,,0000,0000,0000,,ไม่จำเป็นจะต้องเริ่มต้นด้วยทฤษฎีและสมมติฐาน Dialogue: 0,0:08:40.75,0:08:42.62,Default,,0000,0000,0000,,บ่อยครั้ง พวกเขาเริ่มจากการสังเกต Dialogue: 0,0:08:42.62,0:08:45.03,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก Dialogue: 0,0:08:45.03,0:08:47.60,Default,,0000,0000,0000,,และตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดนั้น Dialogue: 0,0:08:47.60,0:08:50.67,Default,,0000,0000,0000,,คืองานจากนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดที่เคยมี\Nชาร์ล ดาวิน Dialogue: 0,0:08:50.67,0:08:53.83,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อดาวิน ได้เดินทางไปกับเรือบีเกิลเมื่อยังหนุ่ม Dialogue: 0,0:08:53.83,0:08:57.44,Default,,0000,0000,0000,,เขาไม่ได้มีสมมติฐาน เขาไม่ได้มีทฤษฎี Dialogue: 0,0:08:57.44,0:09:00.51,Default,,0000,0000,0000,,เขาแค่รู้ว่าเขาต้องการจะมีอาชีพ\Nเป็นนักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:09:00.51,0:09:02.52,Default,,0000,0000,0000,,และเขาก็เริ่มเก็บข้อมูล Dialogue: 0,0:09:02.52,0:09:05.25,Default,,0000,0000,0000,,โดยหลักๆ แล้ว เขารู้ว่าเขาเกลียดการแพทย์ Dialogue: 0,0:09:05.25,0:09:07.07,Default,,0000,0000,0000,,เพราะการเห็นเลือดทำให้เขารู้สึกไม่ดี Dialogue: 0,0:09:07.07,0:09:09.34,Default,,0000,0000,0000,,เขาต้องหาอาชีพทางเลือกอื่น Dialogue: 0,0:09:09.34,0:09:11.47,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นเขาจึงเริ่มเก็บข้อมูล Dialogue: 0,0:09:11.47,0:09:14.64,Default,,0000,0000,0000,,และเขาเก็บสิ่งต่างๆ มากมาย\Nรวมทั้งนกฟินช์ Dialogue: 0,0:09:14.64,0:09:16.84,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเขาเก็บนกเหล่านี้\Nเขาโยนมันเข้าไปในถุง Dialogue: 0,0:09:16.84,0:09:19.18,Default,,0000,0000,0000,,และเขาไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำอะไร Dialogue: 0,0:09:19.18,0:09:21.47,Default,,0000,0000,0000,,หลายปีผ่านไปในลอนดอน Dialogue: 0,0:09:21.47,0:09:23.70,Default,,0000,0000,0000,,ดาวินดูข้อมูลของเขาอีกครั้ง Dialogue: 0,0:09:23.70,0:09:26.15,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเริ่มที่จะพัฒนาคำอธิบาย Dialogue: 0,0:09:26.15,0:09:29.45,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นคำอธิบายนั่นก็คือ\Nทฤษฎีของการคัดเลือกโดยธรรมชาติ Dialogue: 0,0:09:29.45,0:09:31.51,Default,,0000,0000,0000,,นอกเหนือจากวิทยาศาสตร์อุปนัย Dialogue: 0,0:09:31.51,0:09:34.45,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์ยังข้องเกี่ยว\Nกับการสร้างแบบจำลองบ่อยๆ Dialogue: 0,0:09:34.45,0:09:36.78,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการจะทำในชีวิต Dialogue: 0,0:09:36.78,0:09:39.05,Default,,0000,0000,0000,,ก็คือได้อธิบายเหตุของสิ่งต่างๆ Dialogue: 0,0:09:39.05,0:09:40.57,Default,,0000,0000,0000,,และเราทำอย่างนั้นได้อย่างไร Dialogue: 0,0:09:40.57,0:09:42.82,Default,,0000,0000,0000,,ทางหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือสร้างแบบจำลอง Dialogue: 0,0:09:42.82,0:09:44.56,Default,,0000,0000,0000,,และทดสองความคิด Dialogue: 0,0:09:44.56,0:09:46.49,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือภาพของแฮนรี่ คาร์เดล Dialogue: 0,0:09:46.49,0:09:49.36,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ซึ่งเป็นนักธรณีวิทยาชาวสกอตในศตวรรษที่ 19 Dialogue: 0,0:09:49.36,0:09:50.79,Default,,0000,0000,0000,,คุณสามารถบอกได้ว่าเขาเป็นชาวสกอต\Nจากชุดที่เขาใส่ Dialogue: 0,0:09:50.79,0:09:53.18,Default,,0000,0000,0000,,หมวกคนล่ากวางและรองเท้าบูทเวลิงตัน Dialogue: 0,0:09:53.18,0:09:55.33,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงหัวเราะ) Dialogue: 0,0:09:55.33,0:09:56.90,Default,,0000,0000,0000,,และคาร์เดลต้องการที่จะหาคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า Dialogue: 0,0:09:56.90,0:09:58.67,Default,,0000,0000,0000,,ภูเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร Dialogue: 0,0:09:58.67,0:10:00.18,Default,,0000,0000,0000,,และหนึ่งในสิ่งที่เขาสังเกตเห็น Dialogue: 0,0:10:00.18,0:10:02.76,Default,,0000,0000,0000,,คือถ้าคุณดูภูเขา อย่างเทือกเขาแอปพาเลเชีย\N(Appalachians) Dialogue: 0,0:10:02.76,0:10:04.39,Default,,0000,0000,0000,,คุณมักพบว่าหินในนั้น Dialogue: 0,0:10:04.39,0:10:05.86,Default,,0000,0000,0000,,โค้งงอ Dialogue: 0,0:10:05.86,0:10:07.51,Default,,0000,0000,0000,,และพวกมันโค้งงอในแบบจำเพาะ Dialogue: 0,0:10:07.51,0:10:08.95,Default,,0000,0000,0000,,ที่แนะเขาว่า Dialogue: 0,0:10:08.95,0:10:11.90,Default,,0000,0000,0000,,พวกมันถูกบีบอัดจากด้านข้าง Dialogue: 0,0:10:11.90,0:10:13.99,Default,,0000,0000,0000,,และความคิดนี้ต่อมาได้มีบทบาทที่สำคัญ Dialogue: 0,0:10:13.99,0:10:16.41,Default,,0000,0000,0000,,ในการอภิปรายในเรื่องการเคลื่อนตัวของทวีป Dialogue: 0,0:10:16.41,0:10:18.92,Default,,0000,0000,0000,,เขาสร้างแบบจำลองนี้ เครื่องมือแสนประหลาด Dialogue: 0,0:10:18.92,0:10:21.07,Default,,0000,0000,0000,,ที่มีคานและไม้ และนี่คือรถเข็นล้อเดียวของเขา Dialogue: 0,0:10:21.07,0:10:23.51,Default,,0000,0000,0000,,ตะกร้า และค้อนยักษ์ Dialogue: 0,0:10:23.51,0:10:25.41,Default,,0000,0000,0000,,ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงใส่บูทเวลลิงตัน Dialogue: 0,0:10:25.41,0:10:26.98,Default,,0000,0000,0000,,บางทีมันอาจจะกำลังฝนตก Dialogue: 0,0:10:26.98,0:10:30.07,Default,,0000,0000,0000,,และเขาสร้างแบบจำลองทางกายภาพนี้เพื่อที่จะ Dialogue: 0,0:10:30.07,0:10:34.04,Default,,0000,0000,0000,,แสดงว่า อันที่จริงคุณสามารถสร้าง Dialogue: 0,0:10:34.04,0:10:36.71,Default,,0000,0000,0000,,แบบร่างในหิน หรืออย่างน้อย ในกรณีนี้ ในตม Dialogue: 0,0:10:36.71,0:10:38.94,Default,,0000,0000,0000,,ที่มองดูเหมือนภูเขา Dialogue: 0,0:10:38.94,0:10:40.78,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณอัดมันจากด้านข้าง Dialogue: 0,0:10:40.78,0:10:44.40,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับสาเหตุการกำเนิดภูเขา Dialogue: 0,0:10:44.40,0:10:47.45,Default,,0000,0000,0000,,ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่\Nชอบที่จะทำงานจากข้างใน Dialogue: 0,0:10:47.45,0:10:49.88,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้สร้างแบบจำลองทางกายภาพ Dialogue: 0,0:10:49.88,0:10:52.24,Default,,0000,0000,0000,,มากเท่ากับการสร้างภาพจำลองคอมพิวเตอร์ Dialogue: 0,0:10:52.24,0:10:55.08,Default,,0000,0000,0000,,แต่ภาพจำลองคอมพิวเตอร์เป็นแบบจำลองอย่างหนึ่ง Dialogue: 0,0:10:55.08,0:10:56.94,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นแบบจำลองที่สร้างขึ้นด้วยคณิตศาสตร์ Dialogue: 0,0:10:56.94,0:11:00.18,Default,,0000,0000,0000,,และเหมือนกับแบบจำลองทางกายภาพ\Nยุคศตวรรษที่ 19 Dialogue: 0,0:11:00.18,0:11:03.95,Default,,0000,0000,0000,,มันสำคัญมากสำหรับการคิดถึงสาเหตุ Dialogue: 0,0:11:03.95,0:11:06.57,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นหนึ่งในคำถามข้อใหญ่ที่เกี่ยวกับ\Nการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ Dialogue: 0,0:11:06.57,0:11:08.37,Default,,0000,0000,0000,,เรามีหลักฐานมากมาย Dialogue: 0,0:11:08.37,0:11:10.25,Default,,0000,0000,0000,,ที่โลกอุ่นขึ้น Dialogue: 0,0:11:10.25,0:11:12.72,Default,,0000,0000,0000,,สไลด์นี้ เส้นสีดำแสดง Dialogue: 0,0:11:12.72,0:11:14.84,Default,,0000,0000,0000,,การวัดที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำ Dialogue: 0,0:11:14.84,0:11:16.80,Default,,0000,0000,0000,,ในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา Dialogue: 0,0:11:16.80,0:11:18.21,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิของโลก Dialogue: 0,0:11:18.21,0:11:19.84,Default,,0000,0000,0000,,เพิ่มขึ้นอย่างคงที่ Dialogue: 0,0:11:19.84,0:11:22.69,Default,,0000,0000,0000,,และคุณสามารถเห็นได้ว่าใน 50 ปีที่ผ่านมา Dialogue: 0,0:11:22.69,0:11:24.45,Default,,0000,0000,0000,,มันมีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก Dialogue: 0,0:11:24.45,0:11:26.79,Default,,0000,0000,0000,,ถึงเกือบหนึ่งองศาเซลเซียส Dialogue: 0,0:11:26.79,0:11:29.17,Default,,0000,0000,0000,,หรือเกือบสององศาฟาเรนไฮด์ Dialogue: 0,0:11:29.17,0:11:31.60,Default,,0000,0000,0000,,แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ Dialogue: 0,0:11:31.60,0:11:33.94,Default,,0000,0000,0000,,เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรที่ทำให้ Dialogue: 0,0:11:33.94,0:11:35.46,Default,,0000,0000,0000,,เกิดอากาศที่อุ่นขึ้นอย่างที่เราเห็น Dialogue: 0,0:11:35.46,0:11:37.17,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างแบบจำลองของมัน Dialogue: 0,0:11:37.17,0:11:39.54,Default,,0000,0000,0000,,โดยใช้ภาพจำลองคอมพิวเตอร์ Dialogue: 0,0:11:39.54,0:11:42.33,Default,,0000,0000,0000,,ภาพนี้แสดงให้เห็นภาพจำลองคอมพิวเตอร์ Dialogue: 0,0:11:42.33,0:11:44.45,Default,,0000,0000,0000,,ที่มองไปยังตัวแปลต่างๆ Dialogue: 0,0:11:44.45,0:11:47.06,Default,,0000,0000,0000,,ที่เรารู้ว่าสามารถส่งผลกระทบต่อภูมิอากาศโลก Dialogue: 0,0:11:47.06,0:11:49.81,Default,,0000,0000,0000,,อนุภาคซัลเฟตจากมลภาวะทางอากาศ Dialogue: 0,0:11:49.81,0:11:52.78,Default,,0000,0000,0000,,ฝุ่นภูเขาไฟจากการระเบิดของภูเขาไฟ Dialogue: 0,0:11:52.78,0:11:55.01,Default,,0000,0000,0000,,การเปลี่ยนแปลงของรังสีสุริยะ Dialogue: 0,0:11:55.01,0:11:57.39,Default,,0000,0000,0000,,และแน่นอน ก๊าซเรือนกระจก Dialogue: 0,0:11:57.39,0:11:59.21,Default,,0000,0000,0000,,และพวกเขาถามคำถาม Dialogue: 0,0:11:59.21,0:12:02.90,Default,,0000,0000,0000,,ว่าตัวแปรชุดไหนที่ใส่เข้ามาในแบบจำลอง Dialogue: 0,0:12:02.90,0:12:05.88,Default,,0000,0000,0000,,แล้วจะเลียนแบบสิ่งที่เราเห็นในชีวิตจริงได้ Dialogue: 0,0:12:05.88,0:12:07.90,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือชีวิตจริงในสีดำ Dialogue: 0,0:12:07.90,0:12:10.18,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือแบบจำลองในสีเทาอ่อน Dialogue: 0,0:12:10.18,0:12:11.74,Default,,0000,0000,0000,,และคำตอบก็คือ Dialogue: 0,0:12:11.74,0:12:16.13,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่างที่ประกอบด้วย มันคือคำตอบ E บน SAT นั่น Dialogue: 0,0:12:16.13,0:12:18.27,Default,,0000,0000,0000,,ทั้งหมดพวกนั้น Dialogue: 0,0:12:18.27,0:12:19.77,Default,,0000,0000,0000,,ทางเดียวที่เราสามารถจะเลียนแบบ Dialogue: 0,0:12:19.77,0:12:21.60,Default,,0000,0000,0000,,การวัดอุณหภูมิที่สังเกตเห็น Dialogue: 0,0:12:21.60,0:12:23.58,Default,,0000,0000,0000,,คือด้วยการนำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเข้ามารวมกัน Dialogue: 0,0:12:23.58,0:12:25.72,Default,,0000,0000,0000,,รวมไปถึงก๊าซเรือนกระจก Dialogue: 0,0:12:25.72,0:12:28.27,Default,,0000,0000,0000,,และโดยเฉพาะถ้าคุณเห็นว่าการเพิ่มขึ้น Dialogue: 0,0:12:28.27,0:12:30.15,Default,,0000,0000,0000,,ของการติดตามก๊าซเรือนกระจก Dialogue: 0,0:12:30.15,0:12:32.36,Default,,0000,0000,0000,,การเพิ่มขึ้นอย่างมากมายของอุณหภูมิ Dialogue: 0,0:12:32.36,0:12:33.84,Default,,0000,0000,0000,,ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา Dialogue: 0,0:12:33.84,0:12:36.27,Default,,0000,0000,0000,,และนี่เป็นเหตุที่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ\Nบอกว่า Dialogue: 0,0:12:36.27,0:12:39.38,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่ใช่แค่เรารู้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ\Nกำลังเกิดขึ้น Dialogue: 0,0:12:39.38,0:12:42.15,Default,,0000,0000,0000,,เรารู้ว่า ก๊าซเรือนกระจกเป็นส่วนใหญ่ Dialogue: 0,0:12:42.15,0:12:44.88,Default,,0000,0000,0000,,ของเหตุผลว่าทำไม Dialogue: 0,0:12:44.88,0:12:47.27,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น เพราะมันมีสิ่งต่างๆ มากมาย Dialogue: 0,0:12:47.27,0:12:48.76,Default,,0000,0000,0000,,ที่นักวิทยาศาสตร์ทำ Dialogue: 0,0:12:48.76,0:12:52.24,Default,,0000,0000,0000,,นักปรัชญา พอล ฟีเยอร์เบน \N(Paul Feyeraben ) กล่าวไว้ว่า Dialogue: 0,0:12:52.24,0:12:53.87,Default,,0000,0000,0000,,"หลักการทางวิทยาศาสตร์เดียว Dialogue: 0,0:12:53.87,0:12:57.85,Default,,0000,0000,0000,,ที่ไม่ได้หยุดยั้งการพัฒนาคือ: ยังไงก็ได้" Dialogue: 0,0:12:57.85,0:13:00.46,Default,,0000,0000,0000,,คำพูดนี้มักถูกอ้างถึงอย่างผิดบริบท Dialogue: 0,0:13:00.46,0:13:02.58,Default,,0000,0000,0000,,เพราะฟีเยอร์เบนไม่ได้พูดจริงๆ Dialogue: 0,0:13:02.58,0:13:04.53,Default,,0000,0000,0000,,ว่าในวิทยาศาสตร์ จะยังไงก็ได้ Dialogue: 0,0:13:04.53,0:13:05.88,Default,,0000,0000,0000,,ที่เขาพูดคือ Dialogue: 0,0:13:05.88,0:13:07.90,Default,,0000,0000,0000,,จริงๆ ก็คือ Dialogue: 0,0:13:07.90,0:13:09.99,Default,,0000,0000,0000,,"ถ้าคุณต้องให้ผมพูด Dialogue: 0,0:13:09.99,0:13:11.64,Default,,0000,0000,0000,,ว่าอะไรคือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:13:11.64,0:13:15.26,Default,,0000,0000,0000,,ผมต้องบอกว่า ยังไงก็ได้" Dialogue: 0,0:13:15.26,0:13:16.34,Default,,0000,0000,0000,,ที่เขาพยายายามจะพูด Dialogue: 0,0:13:16.34,0:13:18.91,Default,,0000,0000,0000,,คือนักวิทยาศาสตร์ทำอะไรมากมาย Dialogue: 0,0:13:18.91,0:13:21.22,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์มีความคิดสร้างสรรค์ Dialogue: 0,0:13:21.22,0:13:23.33,Default,,0000,0000,0000,,แต่แล้วนี่มันก็ดันปัญหากลับ Dialogue: 0,0:13:23.33,0:13:26.80,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าวิทยาศาสตร์ไม่ได้ใช้วิธีการเดียว Dialogue: 0,0:13:26.80,0:13:28.70,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเขาจะตัดสินได้อย่างไร Dialogue: 0,0:13:28.70,0:13:30.16,Default,,0000,0000,0000,,ว่าอะไรถูกอะไรผิด Dialogue: 0,0:13:30.16,0:13:32.05,Default,,0000,0000,0000,,และใครจะเป็นผู้ตัดสิน Dialogue: 0,0:13:32.05,0:13:34.13,Default,,0000,0000,0000,,และคำตอบก็คือ นักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ตัดสิน Dialogue: 0,0:13:34.13,0:13:37.01,Default,,0000,0000,0000,,และพวกเขาตัดสินโดยตัดสินจากหลักฐาน Dialogue: 0,0:13:37.01,0:13:40.42,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์เก็บหลักฐานในวิธีการต่างๆ Dialogue: 0,0:13:40.42,0:13:42.04,Default,,0000,0000,0000,,แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาเก็บมัน Dialogue: 0,0:13:42.04,0:13:44.62,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาจะต้องไตร่ตรองมันอย่างถี่ถ้วน Dialogue: 0,0:13:44.62,0:13:47.18,Default,,0000,0000,0000,,และมันก็นำนักสังคมวิทยา\Nโรเบิร์ต เมอร์ตัน (Robert Merton) Dialogue: 0,0:13:47.18,0:13:49.36,Default,,0000,0000,0000,,ไปสู่ความสนใจในคำถามว่านักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:13:49.36,0:13:51.04,Default,,0000,0000,0000,,ไตร่ตรองข้อมูลและหลักฐานอย่างไร Dialogue: 0,0:13:51.04,0:13:53.85,Default,,0000,0000,0000,,และเขาบอกว่า พวกเขาทำมันในแบบที่เขาเรียกว่า Dialogue: 0,0:13:53.85,0:13:55.77,Default,,0000,0000,0000,,"กังขาอย่างมีระเบียบ" Dialogue: 0,0:13:55.77,0:13:57.65,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นเขาหมายถึงว่ามันเป็นระเบียบ Dialogue: 0,0:13:57.65,0:13:59.13,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่าพวกเขาทำมันเป็นกลุ่ม Dialogue: 0,0:13:59.13,0:14:00.76,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาทำมันอย่างเป็นหมวดหมู่ Dialogue: 0,0:14:00.76,0:14:03.57,Default,,0000,0000,0000,,และกังขาสงสัย เพราะพวกเขาทำมันจากตำแหน่ง\N Dialogue: 0,0:14:03.57,0:14:05.03,Default,,0000,0000,0000,,ของความไม่เชื่อ Dialogue: 0,0:14:05.03,0:14:06.99,Default,,0000,0000,0000,,มันบอกว่า ภาระของการพิสูจน์ Dialogue: 0,0:14:06.99,0:14:09.47,Default,,0000,0000,0000,,อยู่บนคนที่มีข้อถือสิทธิ์ใหม่ Dialogue: 0,0:14:09.47,0:14:12.61,Default,,0000,0000,0000,,และในกรณีนี้\Nวิทยาศาสตร์คือการสำรวจอย่างมีเงื่อนไข Dialogue: 0,0:14:12.61,0:14:15.19,Default,,0000,0000,0000,,มันค่อนข้างยากที่จะคะยั้นยะคอสังคมวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:14:15.19,0:14:18.90,Default,,0000,0000,0000,,ให้บอกว่า "ใช่ เรารู้บางอย่าง มันเป็นความจริง" Dialogue: 0,0:14:18.90,0:14:21.39,Default,,0000,0000,0000,,ถึงแม้ว่าแนวคิดของกระบวนทัศน์นั้นเปลี่ยนไป Dialogue: 0,0:14:21.39,0:14:22.99,Default,,0000,0000,0000,,จะเป็นที่นิยม Dialogue: 0,0:14:22.99,0:14:24.27,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่เราพบแท้จริงแล้ว Dialogue: 0,0:14:24.27,0:14:27.06,Default,,0000,0000,0000,,คือการเปลี่ยนแปลงหลักในการคิดอย่างวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:14:27.06,0:14:30.78,Default,,0000,0000,0000,,ค่อนข้างหาได้ยากในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:14:30.78,0:14:34.34,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นในที่สุด นั่นนำเราไปยังอีกหนึ่งแนวคิด Dialogue: 0,0:14:34.34,0:14:38.05,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าวิทยาศาสตร์ตัดสินหลักฐานโดยรวม Dialogue: 0,0:14:38.05,0:14:40.61,Default,,0000,0000,0000,,มันได้นำนักประวัติศาสตร์ให้มาจดจ้องกับคำถาม Dialogue: 0,0:14:40.61,0:14:42.03,Default,,0000,0000,0000,,ของมหาชน Dialogue: 0,0:14:42.03,0:14:43.93,Default,,0000,0000,0000,,และการบอกว่า ที่สุดแล้วนั้น Dialogue: 0,0:14:43.93,0:14:45.86,Default,,0000,0000,0000,,วิทยาศาสตร์คืออะไร Dialogue: 0,0:14:45.86,0:14:47.53,Default,,0000,0000,0000,,ความรู้ทางวิทยาศาสตร์คืออะไร Dialogue: 0,0:14:47.53,0:14:50.91,Default,,0000,0000,0000,,ความเห็นที่เป็นเอกฉันท์\Nของผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:14:50.91,0:14:53.06,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ซึ่งใช้กระบวนการการใคร่ครวญอย่างเป็นระเบียบ Dialogue: 0,0:14:53.06,0:14:55.37,Default,,0000,0000,0000,,การไตร่ตรองครั้งแล้วครั้งเล่า Dialogue: 0,0:14:55.37,0:14:56.61,Default,,0000,0000,0000,,ได้ตัดสินหลักฐาน Dialogue: 0,0:14:56.61,0:14:59.41,Default,,0000,0000,0000,,และได้บทสรุปเกี่ยวกับมัน Dialogue: 0,0:14:59.41,0:15:01.88,Default,,0000,0000,0000,,ว่าจะเป็นใช่หรือไม่ Dialogue: 0,0:15:01.88,0:15:03.61,Default,,0000,0000,0000,,เราสามารถคิดถึงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:15:03.61,0:15:05.66,Default,,0000,0000,0000,,เป็นความใคร่ครวญของผู้เชี่ยวชาญ Dialogue: 0,0:15:05.66,0:15:07.43,Default,,0000,0000,0000,,เรายังสามารถคิดถึงวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:15:07.43,0:15:09.01,Default,,0000,0000,0000,,เป็นดั่งลูกขุน Dialogue: 0,0:15:09.01,0:15:11.52,Default,,0000,0000,0000,,เว้นแต่ว่ามันเป็นลูกขุนชนิดพิเศษ Dialogue: 0,0:15:11.52,0:15:13.63,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่ใช่ลูกขุนของเพื่อนคุณ Dialogue: 0,0:15:13.63,0:15:15.52,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นลูกขุนของพวกบ้าวิชา Dialogue: 0,0:15:15.52,0:15:19.16,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นลูกขุนของชายหญิงผู้เป็น ดร. Dialogue: 0,0:15:19.16,0:15:21.60,Default,,0000,0000,0000,,และไม่เหมือนกับลูกขุนทั่วไป Dialogue: 0,0:15:21.60,0:15:23.29,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมีแค่สองตัวเลือก Dialogue: 0,0:15:23.29,0:15:25.98,Default,,0000,0000,0000,,คือ ผิด หรือ ไม่ผิด Dialogue: 0,0:15:25.98,0:15:29.38,Default,,0000,0000,0000,,ลูกขุนวิทยาศาสตร์มีตัวเลือกมากมาย Dialogue: 0,0:15:29.38,0:15:32.16,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกว่า ใช่ บางทีมันจริง Dialogue: 0,0:15:32.16,0:15:34.74,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกได้ว่า ไม่ มันผิด Dialogue: 0,0:15:34.74,0:15:37.28,Default,,0000,0000,0000,,หรือพวกเขาจะบอกก็ได้ว่า อืม มันอาจจะจริง Dialogue: 0,0:15:37.28,0:15:40.32,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราต้องทำการศึกษาอีก\Nและต้องเก็บหลักฐานเพิ่ม Dialogue: 0,0:15:40.32,0:15:41.94,Default,,0000,0000,0000,,หรือพวกเขาอาจบอกว่า มันอาจจะจริง Dialogue: 0,0:15:41.94,0:15:43.64,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราไม่รู้ว่าจะตอบคำถามได้อย่างไร Dialogue: 0,0:15:43.64,0:15:44.95,Default,,0000,0000,0000,,และเรากำลังที่จะมองข้ามมันไป Dialogue: 0,0:15:44.95,0:15:47.87,Default,,0000,0000,0000,,และบางทีเราอาจกลับมาพูดถึงทีหลัง Dialogue: 0,0:15:47.87,0:15:51.88,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า "ความดึงดัน" Dialogue: 0,0:15:51.88,0:15:54.48,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันนำเราไปยังปัญหาสุดท้าย Dialogue: 0,0:15:54.48,0:15:57.42,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าวิทยาศาสตร์เป็นอย่างที่นักวิทยาศาสตร์บอกแล้ว Dialogue: 0,0:15:57.42,0:15:59.96,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่ว่านั่นน่าสนใจสำหรับผู้รู้หรอกหรือ Dialogue: 0,0:15:59.96,0:16:01.02,Default,,0000,0000,0000,,แล้วไม่ใช่ว่าเราทุกคนถูกสอนที่โรงเรียนหรือ Dialogue: 0,0:16:01.02,0:16:04.25,Default,,0000,0000,0000,,ว่าการดึงดูดผู้รู้\Nเป็นการหลอกลวงอย่างมีตรรกะ Dialogue: 0,0:16:04.25,0:16:07.28,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือปฏิทรรศน์ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ Dialogue: 0,0:16:07.28,0:16:09.55,Default,,0000,0000,0000,,ปฏิทรรศน์ของบทสรุปที่ฉันคิดว่านักประวัติศาสตร์ Dialogue: 0,0:16:09.55,0:16:12.15,Default,,0000,0000,0000,,และนักปรัชญาและนักสังคมวิทยาได้เผชิญ Dialogue: 0,0:16:12.15,0:16:15.66,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริงแล้ววิทยาศาสตร์เป็นตัวดึงดูดความสนใจของผู้รู้ Dialogue: 0,0:16:15.66,0:16:19.43,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันไม่ใช่ผู้รู้ของปัจเจกชน Dialogue: 0,0:16:19.43,0:16:21.83,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าบุคคลนั้นจะฉลาดแค่ไหน Dialogue: 0,0:16:21.83,0:16:25.70,Default,,0000,0000,0000,,เป็นพลาโต หรือโสเครติส หรือไอสไตน์ Dialogue: 0,0:16:25.70,0:16:28.81,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นผู้รู้แห่งสังคมรวม Dialogue: 0,0:16:28.81,0:16:31.80,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจคิดถึงมันว่าเป็นความรู้ของกลุ่มคน Dialogue: 0,0:16:31.80,0:16:35.92,Default,,0000,0000,0000,,แต่เป็นกลุ่มคนชนิดพิเศษ Dialogue: 0,0:16:35.92,0:16:37.81,Default,,0000,0000,0000,,วิทยาศาสตร์เป็นที่สนใจของผู้รู้ Dialogue: 0,0:16:37.81,0:16:39.86,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคลใด Dialogue: 0,0:16:39.86,0:16:42.45,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าบุคคลนั้นจะฉลาดแค่ไหนก็ตาม Dialogue: 0,0:16:42.45,0:16:44.20,Default,,0000,0000,0000,,มันขึ้นอยู่กับความรู้ที่สั่งสมมา Dialogue: 0,0:16:44.20,0:16:46.84,Default,,0000,0000,0000,,ศาสตร์สหสาขา และการศึกษาต่อยอด Dialogue: 0,0:16:46.84,0:16:48.74,Default,,0000,0000,0000,,ของบรรดานักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งได้ศึกษา Dialogue: 0,0:16:48.74,0:16:51.46,Default,,0000,0000,0000,,ปัญหาเฉพาะมากมาย Dialogue: 0,0:16:51.46,0:16:54.25,Default,,0000,0000,0000,,นักวิทยาศาสตร์เหมือนมีวัฒนธรรม\Nการไม่เชื่อแบบสั่งสม Dialogue: 0,0:16:54.25,0:16:56.45,Default,,0000,0000,0000,,วัฒนธรรม "ไหนล่ะ" ที่ว่านี้ Dialogue: 0,0:16:56.45,0:16:58.40,Default,,0000,0000,0000,,ถูกแสดงให้เห็นโดยผู้หญิงคนนี้ Dialogue: 0,0:16:58.40,0:17:01.48,Default,,0000,0000,0000,,ที่แสดงหลักฐานให้ผู้ร่วมงานเห็น Dialogue: 0,0:17:01.48,0:17:03.34,Default,,0000,0000,0000,,แน่ล่ะ คนเหล่านี้ไม่ได้ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:17:03.34,0:17:05.33,Default,,0000,0000,0000,,เพราะพวกเขาดูร่าเริงเกินไป Dialogue: 0,0:17:05.33,0:17:09.34,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงหัวเราะ) Dialogue: 0,0:17:09.34,0:17:13.66,Default,,0000,0000,0000,,เอาล่ะ นั่นนำฉันมาถึงเรื่องสุดท้าย Dialogue: 0,0:17:13.66,0:17:16.31,Default,,0000,0000,0000,,พวกเราส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า Dialogue: 0,0:17:16.31,0:17:17.72,Default,,0000,0000,0000,,พวกเราส่วนใหญ่เชื่อใจรถของเรา Dialogue: 0,0:17:17.72,0:17:19.26,Default,,0000,0000,0000,,ลองมาดูว่าฉันคิดยังไง ฉันอยู่ในแมนฮัตตัน Dialogue: 0,0:17:19.26,0:17:20.56,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นการเปรียบเทียบที่แย่มาก Dialogue: 0,0:17:20.56,0:17:23.38,Default,,0000,0000,0000,,แต่ชาวอเมริกันส่วนมากที่ไม่ชอบแมนฮัตตัน Dialogue: 0,0:17:23.38,0:17:25.12,Default,,0000,0000,0000,,ตื่นขึ้นมาตอนเช้าและขึ้นรถ Dialogue: 0,0:17:25.12,0:17:27.65,Default,,0000,0000,0000,,และทำการสตาร์ทรถ และรถก็ทำงานได้ Dialogue: 0,0:17:27.65,0:17:29.65,Default,,0000,0000,0000,,และพวกมันก็ทำงานดีซะด้วย Dialogue: 0,0:17:29.65,0:17:32.36,Default,,0000,0000,0000,,รถยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่เคยพังเลย Dialogue: 0,0:17:32.36,0:17:35.15,Default,,0000,0000,0000,,แล้วทำไมล่ะ ทำไมรถถึงทำงานดีนัก Dialogue: 0,0:17:35.15,0:17:37.65,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่ว่ามันเป็นเพราะอัฉริยะ เฮนรี ฟอร์ด Dialogue: 0,0:17:37.65,0:17:40.74,Default,,0000,0000,0000,,หรือ คาร์ล เบนซ์ หรือ อีลอน มัสค์ Dialogue: 0,0:17:40.74,0:17:42.88,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นเพราะรถสมัยใหม่ Dialogue: 0,0:17:42.88,0:17:47.92,Default,,0000,0000,0000,,เป็นผลผลิตของการศึกษามากกว่าร้อยปี Dialogue: 0,0:17:47.92,0:17:49.51,Default,,0000,0000,0000,,โดยคนมากมาย Dialogue: 0,0:17:49.51,0:17:50.84,Default,,0000,0000,0000,,นับร้อยนับพันคน Dialogue: 0,0:17:50.84,0:17:52.96,Default,,0000,0000,0000,,รถยนต์รุ่นใหม่ๆ Dialogue: 0,0:17:52.96,0:17:55.74,Default,,0000,0000,0000,,จากการศึกษาที่สั่งสม ความรู้ และประสบการณ์ Dialogue: 0,0:17:55.74,0:17:58.09,Default,,0000,0000,0000,,ของบุรุษและสตรีผู้ซึ่งได้ทำการศึกษา Dialogue: 0,0:17:58.09,0:17:59.70,Default,,0000,0000,0000,,เกี่ยวกับรถยนต์ Dialogue: 0,0:17:59.70,0:18:02.62,Default,,0000,0000,0000,,และความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีคือผลลัพธ์ Dialogue: 0,0:18:02.62,0:18:05.30,Default,,0000,0000,0000,,ของความพยายามที่สะสมมา Dialogue: 0,0:18:05.30,0:18:08.16,Default,,0000,0000,0000,,เราได้รับประโยขน์ ไม่ใช่แค่จากอัฉริยะอย่างเบนซ์ Dialogue: 0,0:18:08.16,0:18:09.22,Default,,0000,0000,0000,,หรือฟอร์ด หรือ มัสค์ Dialogue: 0,0:18:09.22,0:18:11.99,Default,,0000,0000,0000,,แต่เป็นจากสติปัญญา\Nและการทำงานอย่างจริงจังที่สั่งสมมา Dialogue: 0,0:18:11.99,0:18:14.24,Default,,0000,0000,0000,,ของทุกคนที่ได้ทำงาน Dialogue: 0,0:18:14.24,0:18:15.91,Default,,0000,0000,0000,,เกี่ยวกับรถสมัยใหม่ Dialogue: 0,0:18:15.91,0:18:17.96,Default,,0000,0000,0000,,และมันก็เป็นจริงเช่นเดียวกันในวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:18:17.96,0:18:20.80,Default,,0000,0000,0000,,เพียงแต่วิทยาศาสตร์นั้นแก่กว่าเสียอีก Dialogue: 0,0:18:20.80,0:18:23.38,Default,,0000,0000,0000,,พื้นฐานความเชื่อของเราในวิทยาศาสตร์นั้น\Nแท้จริงแล้วเหมือนกันกับ Dialogue: 0,0:18:23.38,0:18:26.05,Default,,0000,0000,0000,,พื้นฐานความเชื่อของเราที่มีต่อเทคโนโลยี Dialogue: 0,0:18:26.05,0:18:30.04,Default,,0000,0000,0000,,และเหมือนกันกับพื้นฐานความเชื่อในทุกสิ่ง Dialogue: 0,0:18:30.04,0:18:32.32,Default,,0000,0000,0000,,เป็นต้นว่า ประสบการณ์ Dialogue: 0,0:18:32.32,0:18:34.16,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันมิอาจเป็นความเชื่ออย่างมืดบอด Dialogue: 0,0:18:34.16,0:18:36.92,Default,,0000,0000,0000,,มากไปกว่าที่เราเชื่อสิ่งอื่นๆ อย่างหน้ามืดตามัว Dialogue: 0,0:18:36.92,0:18:39.76,Default,,0000,0000,0000,,ความเชื่อของเราที่มีต่อวิทยาศาสตร์ \Nเช่นตัววิทยาศาสตร์เอง Dialogue: 0,0:18:39.76,0:18:41.68,Default,,0000,0000,0000,,ควรที่จะตั้งอยู่บนหลักฐาน Dialogue: 0,0:18:41.68,0:18:43.18,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นหมายความว่านักวิทยาศาสตร์ Dialogue: 0,0:18:43.18,0:18:45.22,Default,,0000,0000,0000,,จะต้องกลายเป็นนักสื่อสารที่ดีขึ้น Dialogue: 0,0:18:45.22,0:18:48.11,Default,,0000,0000,0000,,พวกเขาจะต้องอธิบายให้เราฟัง \Nไม่ใช่แค่ในสิ่งที่เขาเข้าใจ Dialogue: 0,0:18:48.11,0:18:49.84,Default,,0000,0000,0000,,แต่ต้องอธิบายว่าพวกเขาเข้าใจอย่างไรด้วย Dialogue: 0,0:18:49.84,0:18:53.73,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นหมายความว่าพวกเขา\Nจะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี Dialogue: 0,0:18:53.73,0:18:55.15,Default,,0000,0000,0000,,ขอบคุณมากๆ ค่ะ Dialogue: 0,0:18:55.15,0:18:57.45,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงปรบมือ)