1 00:00:06,391 --> 00:00:10,752 เขาบอกว่า ถ้ากำแพงสามารถพูดได้ ตึกรามบ้านช่องก็คงจะมีเรื่องราวมาบอกเล่า 2 00:00:10,752 --> 00:00:15,843 แต่คงจะมีสิ่งปลูกสร้างไม่มาก ที่จะบอกเล่าเรื่องราวด้วยเสียงอันหลากหลาย 3 00:00:15,843 --> 00:00:19,384 ได้เฉกเช่น ฮายา โซฟีอา (Hagia Sophia) หรือ ปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ 4 00:00:19,384 --> 00:00:21,815 ด้วยเหตุที่มันตั้งอยู่บนเส้นทางเชื่อม ระหว่างทวีปและวัฒนธรรม 5 00:00:21,815 --> 00:00:25,510 มันได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่ชื่อของเมืองที่มันตั้งอยู่ 6 00:00:25,510 --> 00:00:27,990 ไปจนถึงโครงสร้าง และจุดประสงค์การใช้งานของมัน 7 00:00:27,990 --> 00:00:30,692 และวันนี้ องค์ประกอบจากแต่ละยุคก็พร้อมแล้ว 8 00:00:30,692 --> 00:00:34,011 ที่จะบอกเล่าเรื่องราวแก่ผู้มาเยือนที่พร้อมจะรับฟัง 9 00:00:34,011 --> 00:00:38,403 ก่อนที่คุณจะย่างเข้ามาใน ฮายา โซฟีอา ป้อมปราการโบราณ 10 00:00:38,403 --> 00:00:41,393 ก็บอกใบ้ถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของรอบๆ เมือง 11 00:00:41,393 --> 00:00:46,357 ที่ถูกก่อสร้างขึ้นในยุคไบแซนไทน์ โดยชาวอาณานิคมกรีก 657 ปีก่อนคริสตกาล 12 00:00:46,357 --> 00:00:50,811 และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ออกัสต้า อันโทเนีย ในยุคโรมันใหม่ และคอนสเตนติโนเปิล 13 00:00:50,811 --> 00:00:54,398 เมื่อมันถูกยึดครอง ยึดคืน ทำลาย และสร้างใหม่ 14 00:00:54,398 --> 00:00:59,740 โดยผู้ปกครองชาวกรีก เปอร์เซีย และโรมัน ตลอดหลายศตวรรษต่อมา 15 00:00:59,740 --> 00:01:04,396 และภายในกำแพงเหล่านี้นี่เอง ที่ เมกาลี เอคลีเซีย (Megale Ekklesia) หรือโบสถ์ใหญ่ แรก 16 00:01:04,396 --> 00:01:06,494 ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่สี่ 17 00:01:06,494 --> 00:01:08,746 ถึงแม้ว่ามันจะถูกเผาทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง ในการก่อจราจลไม่นานหลังจากนั้น 18 00:01:08,746 --> 00:01:11,822 มันก็เป็นสถานที่ สำหรับโครงสร้างหลัก ทางศาสนาในบริเวณนั้น 19 00:01:11,822 --> 00:01:13,963 เป็นเวลาอีกหลายศตวรรษต่อมา 20 00:01:13,963 --> 00:01:16,470 ใกล้ทางเข้า หินอ่อนที่กองอยู่ 21 00:01:16,470 --> 00:01:19,127 เป็นร่องรอยสุดท้ายที่เหลืออยู่จากโบสถ์หลังที่สอง 22 00:01:19,127 --> 00:01:24,306 มันถูกสร้างใน ค.ศ. 415 และถูกทำลายลง ระหว่างการจลาจลนิกา (Nika riots) ใน ค.ศ. 532 23 00:01:24,306 --> 00:01:26,326 เมื่อผู้คนที่โมโหโกรธาที่การแข่งรถม้า 24 00:01:26,326 --> 00:01:29,593 เกือบที่จะโค่นอำนาจจักรพรรดิ์จัสติเนียน ที่หนึ่ง 25 00:01:29,593 --> 00:01:31,718 แม้ว่าเกือบที่จะประคองอำนาจเอาไว้ไม่ไหว 26 00:01:31,718 --> 00:01:35,059 จักรพรรดิ์จัดการสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ ให้ใหญ่กว่าเดิม 27 00:01:35,059 --> 00:01:39,819 และอีกห้าปีต่อมา สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โตที่คุณเห็น ก็ถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ 28 00:01:39,819 --> 00:01:42,966 เมื่อคุณย่างเข้าไปข้างใน หินที่เป็นโครงสร้างและกำแพง 29 00:01:42,966 --> 00:01:46,573 พึมพัมถึงเรื่องราวของบ้านเกิดของพวกมัน ในอียิปและซีเรีย 30 00:01:46,573 --> 00:01:51,860 ในขณะที่เสาถูกนำมาจากโบสถ์แห่งอาร์ทิมิส เรียกความทรงจำจากอดีตที่เก่าแก่กว่า 31 00:01:51,860 --> 00:01:55,226 ร่องรอยจารึกที่ถูกสลักไว้โดยชาวไวกิง สุดยอดองครักษ์ของจักรพรรดิ์ 32 00:01:55,226 --> 00:01:57,641 เต็มไปด้วยเรื่องราว จากเกาะทางตอนเหนือที่ห่างไกล 33 00:01:57,641 --> 00:02:02,696 แต่ความสนใจของคุณจะตกอยู่ที่โดมยักษ์ ที่เป็นตัวแทนสรวงสวรรค์ 34 00:02:02,696 --> 00:02:06,954 ด้วยความสูงกว่า 50 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร 35 00:02:06,954 --> 00:02:09,589 และรายล้อมด้วยหน้าต่างรอบๆ ฐานของมัน 36 00:02:09,589 --> 00:02:12,348 โดมสีทองเป็นดั่งระย้าจากสวรรค์ 37 00:02:12,348 --> 00:02:15,013 แสงส่องสะท้อนผ่านเข้ามาทางข้างใน 38 00:02:15,013 --> 00:02:19,253 ภายใต้สัญลักษณ์อันสง่าหรู และเสาโครินเทียที่แข็งแรงมั่นคง 39 00:02:19,253 --> 00:02:22,914 ที่นำมาจากเลบานอน หลังจากโดมแรกถูกทำลายลงบางส่วน 40 00:02:22,914 --> 00:02:25,651 เนื่องจากแผ่นดินไหวใน ค.ศ. 558 41 00:02:25,651 --> 00:02:27,691 ย้ำเตือนเบาๆ ให้คุณนึกถึงความเปราะบางของมัน 42 00:02:27,691 --> 00:02:31,278 และความชำนาญเชิงวิศวกรรมที่แสนจะน่าทึ่ง 43 00:02:31,278 --> 00:02:34,337 ถ้าภาพเดียวแทนคำพูดได้นับพันคำ 44 00:02:34,337 --> 00:02:37,416 กระเบื้องโมเสกจากสองสามศตวรรษต่อมา บอกเรื่องราวไว้มากกว่าใคร 45 00:02:37,416 --> 00:02:39,890 ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ พระคัมภีร์ศาสนาคริสต์เท่านั้น 46 00:02:39,890 --> 00:02:42,964 แต่ยังเกี่ยวกับจักรพรรดิ์ไบแซนไทน์ ผู้ที่มอบหน้าที่ให้กับพวกมัน 47 00:02:42,964 --> 00:02:45,438 ที่มักถูกพรรณาบรรยายไปพร้อมๆ กับพระคริสต์ 48 00:02:45,438 --> 00:02:47,481 แต่ภายใต้เสียงที่ดังและชัดเจน 49 00:02:47,481 --> 00:02:51,845 เราสามารถได้ยินเสียงก้องโหยหวนของ ความเสียหายและโมเสกและสัญลักษณ์ที่หายไป 50 00:02:51,845 --> 00:02:56,131 มันถูกดูหมิ่นและปล้นระหว่างการยึดครองโดยละติน ในสงครามครูเสตครั้งที่สี่ 51 00:02:56,131 --> 00:02:59,933 ภายในพื้นนี้ รอยสลักสุสานของเอนริโก ดันโดโล 52 00:02:59,933 --> 00:03:02,382 ผู้ปกครองเวเนเชียนผู้บัญชาการรบ 53 00:03:02,382 --> 00:03:08,109 เป็นสิ่งย้ำเตือนถาวรของ 57 ปี ที่ ฮายา โซฟีอา เป็นโบสถ์โรมันคาธอลิก 54 00:03:08,109 --> 00:03:13,009 ก่อนที่จะกลับไปยังรากเหง้าออโธดอกซ์ของมัน เมื่อไบเซนไทน์เข้ามายึดครองอีกครั้ง 55 00:03:13,009 --> 00:03:15,227 แต่มันก็เป็นโบสถ์อยู่ไม่นาน 56 00:03:15,227 --> 00:03:19,873 เมื่อครูเสตทำให้อาณาจักรเสื่อมถอย ใน ค.ศ. 1453 คอนสเตนติโนเปิลก็ตกเป็นของออโตมัน 57 00:03:19,873 --> 00:03:22,452 และต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อิสตัลบูล 58 00:03:22,452 --> 00:03:24,828 หลังจากยอมให้ทหารของพระองค์ ทำการปล้นสะดมอยู่สามวัน 59 00:03:24,828 --> 00:03:27,474 สุลต่านเมห์เหม็ดที่สอง ได้เข้าไปยังตัวอาคาร 60 00:03:27,474 --> 00:03:30,579 แม้ว่ามันจะถูกทำลายอย่างหนัก ความสง่างามของมันก็หาได้สูญหายไปไม่ 61 00:03:30,579 --> 00:03:33,866 ในสายตาของสุลต่านหนุ่ม ผู้ที่อุทิศมันให้กับพระอัลเลาะห์ในทันที 62 00:03:33,866 --> 00:03:37,326 โดยมีโองการว่ามันจะเป็นสุเหร่าหลวง 63 00:03:37,326 --> 00:03:39,462 หออะซานทั้งสี่ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษต่อมา 64 00:03:39,462 --> 00:03:41,571 เป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของยุคนี้ 65 00:03:41,571 --> 00:03:45,669 ที่ทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนทางสถาปัตยกรรม เพิ่มเติมจากภารกิจทางศาสนาของมัน 66 00:03:45,669 --> 00:03:47,128 แต่ยังมีอะไรอย่างอื่นอีก 67 00:03:47,128 --> 00:03:50,750 เชิงเทียนหรูหราเกี่ยวข้องกับการยึดครองฮังการี โดยสุไลมาน 68 00:03:50,750 --> 00:03:53,283 ในขณะที่แผ่นอักษรประดิษฐ์ขนาดยักษ์ ที่ห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน 69 00:03:53,283 --> 00:03:57,625 ย้ำเตือนผู้มาเยี่ยมชมให้นึกถึงกาหลีบสี่ท่านแรก ที่ติดตามโมฮัมหมัด 70 00:03:57,625 --> 00:04:02,666 แม้ว่าตัวอาคารที่คุณเห็นในปัจจุบัน จะดูเหมือนสุเหร่า ตอนนี้มันเป็นพิพิธภัณฑ์ 71 00:04:02,666 --> 00:04:06,698 ได้มีการตัดสินใจในปี ค.ศ. 1935 โดย คามาล อะทาเทิร์ค (Kemal Ataturk) 72 00:04:06,698 --> 00:04:08,798 ประธานาธิบดีคนแรกของตุรกียุคใหม่ 73 00:04:08,798 --> 00:04:11,608 หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรออโตมัน 74 00:04:11,608 --> 00:04:15,158 การแยกมันออกจากทางศาสนานี้เอง 75 00:04:15,158 --> 00:04:17,863 ที่ทำให้มีการรื้อพรมที่ซ่อนงานตกแต่งพื้นหินอ่อน 76 00:04:17,863 --> 00:04:20,639 และปูนขาวที่บดบังโมเสกคริสเตียนออกไป 77 00:04:20,639 --> 00:04:24,614 งานบูรณะที่ยังดำเนินการอยู่ ได้ทำให้เสียงต่างๆ มากมาย 78 00:04:24,614 --> 00:04:26,490 ในประวัติศาสตร์อันยาวนาวของ ฮายา โซฟีอา 79 00:04:26,490 --> 00:04:29,336 เป็นที่ได้ยินอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปหลายศตวรรษ 80 00:04:29,336 --> 00:04:31,071 แต่ความขัดแย้งก็ยังคงอยู่ 81 00:04:31,071 --> 00:04:34,471 โมเสกที่ถูกซ่อนไว้ร้องออกมา จากตัวอักษรประดิษฐ์อิสลามที่อยู่เบื้องล่าง 82 00:04:34,471 --> 00:04:38,966 ชิ้นส่วนอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยไม่ทำลายส่วนอื่นๆ 83 00:04:38,966 --> 00:04:42,653 ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงร่ำร้อง จากทั้งสังคมชาวมุสลิมและคริสต์ 84 00:04:42,653 --> 00:04:45,930 ให้ตัวอาคารกลับคืนสู่วัตถุประสงค์ ตามเดิมของศาสนาครั้งก่อน 85 00:04:45,930 --> 00:04:49,203 เรื่องราวของปรัชญาจากทวยเทพ อาจยังไม่เป็นที่สิ้นสุด 86 00:04:49,203 --> 00:04:52,624 แต่เราก็ได้แต่เพียงหวังว่า เสียงทั้งหลายที่สถิตย์อยู่ที่นั่น 87 00:04:52,624 --> 00:04:55,704 จะยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวในส่วนของพวกมัน ไปตราบนานเท่านาน