WEBVTT 00:00:00.989 --> 00:00:04.261 ผมอยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับนวัตกรรมทางสังคม 00:00:04.261 --> 00:00:07.609 และกิจการเพื่อสังคม 00:00:07.609 --> 00:00:10.773 ผมบังเอิญมีลูกแฝดสาม 00:00:10.773 --> 00:00:13.118 พวกเขายังเล็กอยู่ครับ เพิ่งจะห้าขวบ 00:00:13.118 --> 00:00:14.187 เวลาที่ผมบอกใคร เขาจะถามย้ำว่า จริงเหรอ กี่คนนะ 00:00:14.187 --> 00:00:17.508 เวลาที่ผมบอกใคร เขาจะถามย้ำว่า จริงเหรอ กี่คนนะ 00:00:17.508 --> 00:00:18.952 นี่รูปของพวกเด็กๆครับ 00:00:18.952 --> 00:00:22.997 คนซ้ายคือเสจ แอนนาลิซ่า แล้วก็ไรเดอร์ 00:00:22.997 --> 00:00:27.903 นอกจากนั้น เผอิญผมเป็นเกย์ 00:00:27.903 --> 00:00:30.393 การเป็นเกย์ และการเป็นพ่อให้ลูกแฝดสามคนนั้น 00:00:30.393 --> 00:00:32.969 เป็นกิจการและนวัตกรรมทางสังคมที่สุด 00:00:32.969 --> 00:00:35.297 เท่าที่ผมเคยทำมา NOTE Paragraph 00:00:35.297 --> 00:00:39.771 (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:00:39.771 --> 00:00:42.809 แต่นวัตกรรมทางสังคมที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังนั้น 00:00:42.809 --> 00:00:44.301 เกี่ยวกับการกุศลครับ 00:00:44.301 --> 00:00:47.305 ผมอยากพูดถึงความคิดที่เราถูกสอน 00:00:47.305 --> 00:00:49.598 เกี่ยวกับการให้ การกุศล 00:00:49.598 --> 00:00:51.558 และองค์กรไม่แสวงหากำไร (NPO) 00:00:51.558 --> 00:00:55.222 ที่กำลังกัดกร่อนความเชื่อที่เรารัก 00:00:55.222 --> 00:00:59.226 และทำให้เราท้อถอย กับความพยายามที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ NOTE Paragraph 00:00:59.226 --> 00:01:01.639 ผมขอถามก่อนว่า คุณเชื่อหรือไม่ 00:01:01.639 --> 00:01:04.784 ว่าองค์กร NPO เหล่านั้น มีบทบาทสำคัญ 00:01:04.784 --> 00:01:07.167 ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ 00:01:07.167 --> 00:01:10.625 คนส่วนใหญ่บอกว่า ธุรกิจจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ 00:01:10.625 --> 00:01:13.664 และธุรกิจเพื่อสังคม จะจัดการทุกอย่างที่เหลือเอง 00:01:13.664 --> 00:01:16.102 ตัวผมเองก็เชื่อว่าธุรกิจ 00:01:16.102 --> 00:01:19.263 จะทำให้มวลมนุษย์ชนส่วนใหญ่ ก้าวไปข้างหน้า 00:01:19.263 --> 00:01:23.398 แต่การก้าวหน้าแบบนั้น มักทิ้งคนประมาณ 10% หรือมากกว่า 00:01:23.398 --> 00:01:27.870 ซึ่งเป็นคนที่ด้อยโอกาสที่สุด หรือโชคไม่ดีไว้ข้างหลัง 00:01:27.870 --> 00:01:29.399 และธุรกิจเพื่อสังคมล้วนต้องการตลาด 00:01:29.399 --> 00:01:31.801 และเรายังมีปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถ 00:01:31.801 --> 00:01:35.134 ใช้เงินเพื่อสร้างตลาดได้ 00:01:35.134 --> 00:01:38.475 ผมเป็นกรรมการบริหารให้ศูนย์ผู้พิการแต่กำเนิด 00:01:38.475 --> 00:01:40.710 และผู้คนเหล่านี้ต้องการเสียงหัวเราะ 00:01:40.710 --> 00:01:44.768 ต้องการความเห็นอกเห็นใจ และต้องการความรัก 00:01:44.768 --> 00:01:48.314 คุณจะแปรความรู้สึกเหล่านั้นเป็นเงินได้ยังไง 00:01:48.314 --> 00:01:50.560 นี่คือพื้นที่ ที่ NPO 00:01:50.560 --> 00:01:52.904 และ มูลนิธิต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม 00:01:52.904 --> 00:01:56.595 เพราะการทำงานเพื่อคนอื่นนั้น เป็นตลาดแห่งความรัก 00:01:56.595 --> 00:01:59.016 เป็นตลาดสำหรับคนที่ 00:01:59.016 --> 00:02:01.856 ไม่มีตลาดการค้าใดๆ ให้เข้าถึง 00:02:01.856 --> 00:02:04.587 ดังนั้น ถ้าเราต้องการ อย่างที่ ฟูลเลอร์ บัคมินส์เตอร์ กล่าวไว้ว่า 00:02:04.587 --> 00:02:06.976 โลกที่เหมาะกับทุกๆคน 00:02:06.976 --> 00:02:09.480 ที่ไม่มีใครถูกลืม 00:02:09.480 --> 00:02:11.642 ต้องเป็นที่ที่ NPO 00:02:11.642 --> 00:02:14.184 เป็นส่วนสำคัญของการพูดคุยกัน NOTE Paragraph 00:02:14.184 --> 00:02:16.888 แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น 00:02:16.888 --> 00:02:18.517 ทำไมองค์กรด้านมะเร็งเต้านม 00:02:18.517 --> 00:02:21.244 ยังไม่สามารถรักษามะเร็งเต้านมได้ 00:02:21.244 --> 00:02:23.312 ทำไมองค์กรเพื่อคนไร้ที่อยู่อาศัย 00:02:23.312 --> 00:02:26.241 ไม่สามารถหยุดการเร่ร่อนในเมืองใหญ่ได้ 00:02:26.241 --> 00:02:29.592 ทำไมอัตราความยากจน ถึงหยุดคาอยู่ที่ 12 % 00:02:29.592 --> 00:02:33.478 ของประชากรในอเมริกามานานกว่า 40 ปีแล้ว NOTE Paragraph 00:02:33.478 --> 00:02:36.600 คำตอบคือ ปัญหาสังคมเหล่านี้ 00:02:36.600 --> 00:02:38.814 เป็นปัญหาที่มีขนาดใหญ่มาก 00:02:38.814 --> 00:02:41.702 แต่องค์กรเราเล็กจิ๋ว เมื่อเทียบกับปัญหาเหล่านั้น 00:02:41.702 --> 00:02:45.265 และเรามีความเชื่อที่ทำให้มันเล็กอยู่อย่างนั้น 00:02:45.265 --> 00:02:46.585 เรามีกฏเกณฑ์อยู่สองชุด 00:02:46.585 --> 00:02:48.531 ชุดหนึ่งสำหรับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 00:02:48.531 --> 00:02:51.546 และอีกชุดหนึ่งสำหรับเศรษฐกิจแบบที่เหลือในโลก 00:02:51.546 --> 00:02:54.014 มันเป็นการแบ่งแยกปิดกั้น 00:02:54.014 --> 00:02:56.958 องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรใน 5 ด้าน 00:02:56.958 --> 00:02:59.350 อย่างแรกคือการให้เงินชดเชย NOTE Paragraph 00:02:59.350 --> 00:03:02.262 ในองค์กรแสวงหาผลกำไร ยิ่งคุณสร้างคุณค่ามากเท่าใหร่ 00:03:02.262 --> 00:03:04.153 คุณก็ยิ่งทำเงินได้มากเท่านั้น 00:03:04.153 --> 00:03:06.105 แต่เราไม่ชอบให้ NPO ใช้เงิน 00:03:06.105 --> 00:03:09.975 เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนสร้างคุณค่า ในการช่วยเหลือสังคมมากขึ้น 00:03:09.975 --> 00:03:12.775 เรามีความเชื่อต่อต้านว่า 00:03:12.775 --> 00:03:16.182 คนเราอาจช่วยคนอื่น เพื่อหวังเงินมหาศาล 00:03:16.182 --> 00:03:18.185 มันน่าสนใจที่เราไม่มีความเชื่อที่จะต่อต้านว่า 00:03:18.185 --> 00:03:21.944 คนกำลังทำเงินมหาศาล โดยไม่ต้องช่วยใคร 00:03:21.944 --> 00:03:24.220 ถ้าคุณต้องการหาเงิน 50 ล้านดอลลาร์ 00:03:24.220 --> 00:03:26.550 โดยขายวีดีโอเกมส์รุนแรงให้เด็ก ก็ทำได้เลย 00:03:26.550 --> 00:03:28.538 เราจะถ่ายคุณขึ้นปก Wired Magazine ให้ 00:03:28.538 --> 00:03:30.545 แต่ถ้าคุณต้องการหาเงินครึ่งล้าน 00:03:30.545 --> 00:03:31.904 เพื่อรักษาโรคมาเลเรียในเด็ก 00:03:31.904 --> 00:03:39.821 คุณจะถูกมองว่าเป็นเชื้อโรคเสียเอง (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:03:39.821 --> 00:03:42.781 และเรามองว่านี่เป็นเรื่องระบบศีลธรรม 00:03:42.781 --> 00:03:44.918 แต่เราไม่ทันได้นึกว่าระบบความคิดนี้ 00:03:44.918 --> 00:03:48.022 จะส่งผลข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งก็คือ 00:03:48.022 --> 00:03:51.657 มันทำให้เราต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง 00:03:51.657 --> 00:03:55.029 ระหว่างการทำเพื่อตัวคุณและครอบครัว 00:03:55.029 --> 00:03:57.702 หรือทำความดีเพื่อโลกใบนี้ 00:03:57.702 --> 00:04:00.654 ป้อนให้กับบัณฑิต ที่จบใหม่จากสถาบันชั้นนำ 00:04:00.654 --> 00:04:02.731 และส่งคนเป็นหมื่นคน 00:04:02.731 --> 00:04:05.326 คนที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในองค์กร NPO 00:04:05.326 --> 00:04:07.973 แต่ส่งพวกเขาตรงไปหาองค์กรแสวงผลกำไรทั้งหลาย 00:04:07.973 --> 00:04:12.674 เพราะพวกเขาไม่ยินดีที่จะเสียสละตนเอง ในเชิงเศรษฐกิจในระยะยาว 00:04:12.674 --> 00:04:16.161 นิตยสาร Bussinessweek ได้ทำสำรวจผลตอบแทน 00:04:16.161 --> 00:04:19.271 ของผู้บริหาร ที่จบจากมหาวิทยาลัยมา 10 ปีแล้ว 00:04:19.271 --> 00:04:22.164 และผลตอบแทนของผู้ที่จบเอกบริหาร จากมหา'ลัยสแตนฟอร์ด 00:04:22.164 --> 00:04:26.855 ขณะที่เขาอายุ 38 นั้น อยู่ที่ 400,000 ดอลลาร์ รวมโบนัสแล้ว 00:04:26.855 --> 00:04:28.903 ส่วนในปีเดียวกันนั้น เงินเดือนเฉลี่ย 00:04:28.903 --> 00:04:32.119 ของผู้บริหาร องค์กรการกุศลด้านการแพทย์ ที่มีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ 00:04:32.119 --> 00:04:37.437 อยู่ที่ 232,000 ดอลลาร์ และ 84,000 ดอลลาร์ สำหรับองค์กรเพื่อยุติความหิวโหย 00:04:37.437 --> 00:04:39.301 ดังนั้น มันจึงไม่มีทางเป็นไปได้เลย ที่เราจะเอาคนที่ 00:04:39.301 --> 00:04:43.503 มีความสามารถพอจะหาเงินได้ 400,000 เหรียญ ที่จะยอมเสียสละ 316,000 เหรียญทุกๆปี 00:04:43.503 --> 00:04:47.615 เพื่อเป็นผู้บริหารองค์กรเพื่อยุติความหิวโหย NOTE Paragraph 00:04:47.615 --> 00:04:51.106 บางคนอาจจะบอกว่า "ก็เพราะพวกเด็กบริหาร งกเงินเองนี่นา" 00:04:51.106 --> 00:04:53.658 มันก็ไม่ใช้อย่างนั้นเสมอไป พวกเขาอาจจะฉลาด 00:04:53.658 --> 00:04:56.042 มันถูกกว่า ถ้าเขาจะบริจาคเงิน 00:04:56.042 --> 00:04:59.730 100,000 ดอลลาร์ ทุกๆปีให้กับองค์กรเพื่อความหิวโหย 00:04:59.730 --> 00:05:01.814 ยกเว้นภาษีได้อีก 50,000 เหรียญ 00:05:01.814 --> 00:05:06.133 ก็ยังมีเงินได้สูงกว่าทำงานในองค์กรการกุศล ราว 270,000 เหรียญต่อปี 00:05:06.133 --> 00:05:08.748 แล้วยังถูกเรียกขานว่า เป็นคนใจบุญสุนทาน 00:05:08.748 --> 00:05:10.587 เพราะเขาบริจาคหนึ่งแสนเหรียญให้การกุศล 00:05:10.587 --> 00:05:12.612 ได้นั่งเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิ 00:05:12.612 --> 00:05:14.789 เผลอๆ คอยแนะนำ ผู้บริหารที่น่าสงสาร 00:05:14.789 --> 00:05:18.303 ที่ตัดสินใจมาเป็นผู้บริหารขององค์กรเพื่อยุติความหิวโหย 00:05:18.303 --> 00:05:21.984 แล้วเขาก็มีอำนาจ และมีแรงผลักดันแบบนี้ ไปตลอดชีวิตการทำงาน 00:05:21.984 --> 00:05:25.618 และยังมีคำชื่นชม รอพวกเขาอยู่อีกด้วย NOTE Paragraph 00:05:25.618 --> 00:05:29.328 การแบ่งแยกอีกแบบหนึ่ง เกิดขึ้นในวงการโฆษณาและการตลาด 00:05:29.328 --> 00:05:32.833 เราบอกคนในกลุ่มแสวงหาผลกำไรว่าให้ "ใช้เงิน ใช้เงิน ใช้เงิน" ในการโฆษณา 00:05:32.833 --> 00:05:36.398 ใช้จนกระทั่งเงินเหรียญสุดท้ายหมดคุณประโยชน์ลง" 00:05:36.398 --> 00:05:39.937 แต่ในทางกลับกัน เราไม่อยากเห็นเงินบริจาคของเรา ถูกใช้เพื่อโฆษณา 00:05:39.937 --> 00:05:43.711 ความคิดเราคือ "ถ้าคุณขอรับบริจาคชั่วโมงโฆษณา 00:05:43.711 --> 00:05:46.517 ได้ออกอากาศตอนตีสี่ ผมก็โอเคนะ" 00:05:46.517 --> 00:05:49.068 แต่ผมไม่อยากให้เงินบริจาคของผม ถูกนำไปใช้ซื้อโฆษณา 00:05:49.068 --> 00:05:51.316 ผมอยากให้เงินไปถึงผู้ที่ยากไร้" 00:05:51.316 --> 00:05:53.008 ประหนึ่งว่าเงินที่โยนไปในโฆษณา 00:05:53.008 --> 00:05:55.852 ไม่สามารถดึงเงินจำนวนมากกว่ากลับมาได้ 00:05:55.852 --> 00:05:57.633 เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังขาดแคลน NOTE Paragraph 00:05:57.633 --> 00:05:59.968 ในปี 1990 บริษัทของผมได้สร้าง 00:05:59.968 --> 00:06:03.072 โครงการเดินทางด้วยจักรยานทางไกล เพื่อรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ 00:06:03.072 --> 00:06:07.564 และการเดินทางไกลสามวันในระยะ 60 ไมล์ เพื่อรณรงค์ต่่อต้านมะเร็งเต้านม 00:06:07.564 --> 00:06:10.924 และในช่วงเวลา 9 ปีที่ผ่านมา 00:06:10.924 --> 00:06:15.987 เราได้เห็นคนธรรมดา 182,000 คน ที่เข้ามา ร่วมทำวีรกรรมเหล่านี้กับพวกเรา 00:06:15.987 --> 00:06:20.427 และพวกเขาได้ระดมทุน จำนวน 581 ล้านดอลลาร์ 00:06:20.427 --> 00:06:25.424 พวกเขาระดมทุนได้มาก และรวดเร็ว 00:06:25.424 --> 00:06:27.238 กว่างานอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ 00:06:27.238 --> 00:06:30.056 ด้วยความคิดที่ว่า ทุกคนเหนื่อยหน่าย 00:06:30.056 --> 00:06:32.882 กับการถูกขอให้ทำเท่าที่ทำได้ เพื่อสังคม 00:06:32.882 --> 00:06:35.280 พวกเขาต้องการค้นหา 00:06:35.280 --> 00:06:37.472 ศักยภาพที่แท้จริงที่เขาทำได้ 00:06:37.472 --> 00:06:40.616 เพื่ออุดมการณ์ที่เขาสนใจ 00:06:40.616 --> 00:06:43.792 แต่พวกเขาต้องได้รับการชักชวน 00:06:43.792 --> 00:06:45.391 เราได้คนจำนวนมากมายมาเข้าร่วม 00:06:45.391 --> 00:06:47.694 โดยซื้อโฆษณาเต็มหน้า ในนสพ. เดอะนิวยอร์คไทม์ 00:06:47.694 --> 00:06:51.123 ในนสพ. เดอะ บอสตัน โกลบ และช่วงเวลาไพรม์ไทม์ในทีวีและวิทยุ 00:06:51.123 --> 00:06:52.925 คุณคิดว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน 00:06:52.925 --> 00:06:56.434 ถ้าเราทำแต่แจกใบปลิวในร้านซักรีด NOTE Paragraph 00:06:56.434 --> 00:06:59.636 ยอดการบริจาคในอเมริกานั้นค้างอยู่ที่ 00:06:59.636 --> 00:07:04.027 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ตั้งแต่เราเริ่มวัดกันในช่วงปี 1970 00:07:04.027 --> 00:07:06.327 มันเป็นความจริงที่สำคัญมาก เพราะมันบอกเราว่า 00:07:06.327 --> 00:07:08.831 ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 00:07:08.831 --> 00:07:12.183 ไม่เคยแย่งส่วนแบ่งการตลาด 00:07:12.183 --> 00:07:14.895 มาจากองค์กรแสวงหาผลกำไรได้เลย 00:07:14.895 --> 00:07:17.047 แล้วคุณลองคิดดูว่า องค์กรหนึ่ง 00:07:17.047 --> 00:07:20.239 จะแย่งส่วนแบ่งการตลาด มาจากอีกองค์กรหนึ่งได้อย่างไร 00:07:20.239 --> 00:07:23.224 ถ้าองค์กรนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการตลาด 00:07:23.224 --> 00:07:24.940 ถ้าเราบอกบริษัทอุปโภคบริโภคว่า 00:07:24.940 --> 00:07:27.759 "คุณสามารถโฆษณาสรรพคุณทุกอย่างได้" 00:07:27.759 --> 00:07:30.933 แต่บอก NPO ว่า "คุณไม่สามารถโฆษณาความดีของคุณได้นะ" 00:07:30.933 --> 00:07:34.559 คุณคิดว่าเงินของลูกค้าจะไหลไปทางไหน NOTE Paragraph 00:07:34.559 --> 00:07:37.856 เรื่องที่สามคือเรื่องความเสี่ยง 00:07:37.856 --> 00:07:42.128 ในการทดลองใช้วิธีใหม่ในการหารายได้ 00:07:42.128 --> 00:07:45.507 เพราะ ดิสนีย์ สามารถทำหนัง มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ที่เจ๊งได้ 00:07:45.507 --> 00:07:48.355 โดยไม่มีใครเรียกอัยการให้สอบสวน 00:07:48.355 --> 00:07:51.675 แต่ถ้าคุณบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญเพื่อการกุศล 00:07:51.675 --> 00:07:54.783 แลัวมันไม่สร้างผลตอบแทน 75% ให้กับองค์กร 00:07:54.783 --> 00:07:56.576 ภายในช่วง 12 เดือนแรก 00:07:56.576 --> 00:07:59.396 คุณก็จะถูกเรียกมาสอบสวน 00:07:59.396 --> 00:08:02.287 ดังนั้น NPO จึงลังเลอย่างมาก ในการลองทำอะไรที่กล้าหาญ 00:08:02.287 --> 00:08:05.807 ทำอะไรที่แตกต่าง หรือระดมทุนขนาดใหญ่ 00:08:05.807 --> 00:08:07.805 เพราะกลัวว่า ถ้างานนั้นล้มเหลว ชื่อเสียงของพวกเขา 00:08:07.805 --> 00:08:09.710 จะถูกลากจมโคลนไปด้วย 00:08:09.710 --> 00:08:11.621 คุณทราบดีว่า เมื่อคุณห้ามการล้มเหลว 00:08:11.621 --> 00:08:13.432 คุณก็ทำลายความคิดสร้างสรรค์ไปด้วย 00:08:13.432 --> 00:08:16.348 เมื่อคุณทำลายความคิดสร้างสรรค์ คุณก็ไม่สามารถหาเงินเพิ่มได้ 00:08:16.348 --> 00:08:18.404 พอรายได้ไม่เพิ่ม คุณก็โตไม่ได้ 00:08:18.404 --> 00:08:23.235 พอคุณโตไม่ได้ คุณก็แก้ปัญหาใหญ่ในสังคมไม่ได้ NOTE Paragraph 00:08:23.235 --> 00:08:25.944 การแบ่งแยกด้านที่สี่คือ เรื่องเวลา 00:08:25.944 --> 00:08:29.923 ทำไมอเมซอนอยู่ได้หกปี โดยไม่คืนเงินให้นักลงทุน 00:08:29.923 --> 00:08:31.571 แล้วทุกคนก็อดทนรอ 00:08:31.571 --> 00:08:34.157 พวกเขารู้ว่า มีเป้าหมายระยะยาวรออยู่ 00:08:34.157 --> 00:08:36.078 นั่นคือการเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด 00:08:36.078 --> 00:08:38.904 แต่ถ้าองค์กรการกุศลฝันว่า 00:08:38.904 --> 00:08:42.779 จะสร้่างองค์กรขนาดใหญ่ ใช้เวลาหกปี 00:08:42.779 --> 00:08:44.659 จะไม่มีเงินซักแดงตกถึงผู้ยากไร้ 00:08:44.659 --> 00:08:46.844 เงินทั้งหมดจะถูกใช้เพื่อการขยายองค์กร 00:08:46.844 --> 00:08:50.151 เราคงเห็นคนโดนตรึงไม้กางเขนประจานแน่ NOTE Paragraph 00:08:50.151 --> 00:08:52.072 และด้านสุดท้ายก็คือเรื่องกำไร 00:08:52.072 --> 00:08:54.735 สำหรับองค์กรที่ทำกำไรแล้ว พวกเขาคืนกำไรให้กับผู้คน 00:08:54.735 --> 00:08:57.114 เพื่อดึงดูดแหล่งเงินทุน มาส่งเสริมความคิดใหม่ๆ 00:08:57.114 --> 00:09:00.471 แต่องค์กรการกุศลทั้งหลาย ไม่สามารถจ่ายกำไรให้กับทุกคนได้ 00:09:00.471 --> 00:09:04.972 ดังนั้นองค์กรที่แสวงผลกำไรจึงผูกขาดตลาด ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านไว้ 00:09:04.972 --> 00:09:07.348 ส่วน NPO ก็อดอยาก ไร้หนทางเติบโต 00:09:07.348 --> 00:09:10.316 ไร้ความเสี่ยง แต่ไร้ความคิดใหม่ๆ ต่อไป NOTE Paragraph 00:09:10.316 --> 00:09:13.581 พอเอาทั้ง 5 ด้านมารวมกัน คุณก็ไม่สามารถใช้เงิน 00:09:13.581 --> 00:09:15.982 เพื่อดึงคนเก่งๆ มาจากองค์กรที่แสวงหาผลกำไร 00:09:15.982 --> 00:09:17.922 โฆษณาที่ทำก็เล็กกว่า 00:09:17.922 --> 00:09:20.539 ที่องค์กรที่แสวงหาผลกำไร ใช้หาลูกค้าใหม่ๆ 00:09:20.539 --> 00:09:23.308 คุณไม่สามารถเสี่ยง เพื่อดึงลูกค้าเหล่านั้น 00:09:23.308 --> 00:09:25.448 แบบที่องค์กรแสวงหาผลกำไรเสี่ยงได้ 00:09:25.448 --> 00:09:27.204 คุณมีเวลาหาลูกค้าน้อยกว่า 00:09:27.204 --> 00:09:28.622 ที่องค์กรแสวงหาผลกำไรมี 00:09:28.622 --> 00:09:31.399 และคุณไม่มีตลาดหุ้น เพื่อหาทุน 00:09:31.399 --> 00:09:33.582 ถึงแม้ว่าคุณหาเงินก้อนแรกมาได้ 00:09:33.582 --> 00:09:35.502 และคุณเพิ่งวางหมากให้ NPO 00:09:35.502 --> 00:09:38.657 เสียเปรียบองค์กรแสวงหาผลกำไรอย่างยิ่งยวด 00:09:38.657 --> 00:09:41.361 ในทุกๆ ระดับ 00:09:41.361 --> 00:09:44.843 ถ้าสงสัยว่ากฎที่แตกต่างนี้ มีผลกระทบอย่างไร 00:09:44.843 --> 00:09:46.573 ลองดูสถิติที่น่าเห็นใจนี้ 00:09:46.573 --> 00:09:49.163 ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2009 00:09:49.163 --> 00:09:51.434 มีองค์กรไม่แสวงผลกำไร 00:09:51.434 --> 00:09:55.122 ที่ก้าวข้ามเส้นรายได้ 50 ล้านดอลลาร์ไปได้ 00:09:55.122 --> 00:09:57.274 มีทั้งหมด 144 องค์กร 00:09:57.274 --> 00:09:59.479 ขณะที่จำนวนขององค์กรแสวงหาผลกำไร 00:09:59.479 --> 00:10:02.739 มีอยู่ 46,136 องค์กร 00:10:02.739 --> 00:10:06.171 เพราะฉะนั้น เรากำลังต่อกรกับ ปัญหาทางสังคมขนาดใหญ่มหึมา 00:10:06.171 --> 00:10:08.613 แต่องค์กรเราไม่สามารถขยายตัวได้เลย 00:10:08.613 --> 00:10:12.588 ที่ทำได้กลับเป็นองค์กรอย่าง โคคาโคล่า หรือ เบอร์เกอร์คิง NOTE Paragraph 00:10:12.588 --> 00:10:15.542 แล้วทำไมเราจึงมีแนวคิดแบบนี้ 00:10:15.542 --> 00:10:20.016 ก็ แบบเดียวกับหลักการอื่นๆ ที่เราคลั่งไคล้กันในอเมริกา 00:10:20.016 --> 00:10:23.135 ความคิดเหล่านี้มาจาก ความเชื่อของพวกเคร่งศาสนา (Puritan) 00:10:23.135 --> 00:10:26.485 พวกเขาอพยพมาด้วยเหตุผลทางศาสนา หรืออย่างน้อยเขาก็บอกเช่นนั้น 00:10:26.485 --> 00:10:29.799 แต่พวกเขามาที่นี่เพื่อหาเงินจำนวนมากด้วย 00:10:29.799 --> 00:10:31.942 พวกเขารักพระเจ้า แต่พวกเขาก็เป็น 00:10:31.942 --> 00:10:34.399 นักลงทุนที่จริงจังด้วย 00:10:34.399 --> 00:10:37.978 และพวกเขามักถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกที่ มีแนวโน้มขูดรีดกำไร 00:10:37.978 --> 00:10:40.217 เมื่อเทียบกับผู้มาตั้งรกรากกลุ่มอื่นๆ 00:10:40.217 --> 00:10:43.273 แต่ในขนะเดียวกัน พวกเคร่งศาสนา ก็เป็น พวกลัทธิคาลวินด้วย 00:10:43.273 --> 00:10:45.947 พวกเขาถูกสอนให้เกลียดตัวเอง 00:10:45.947 --> 00:10:48.978 พวกเขาถูกสอนว่า การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน 00:10:48.978 --> 00:10:52.339 เป็นเส้นทางสู่นรกตลอดกาล 00:10:52.339 --> 00:10:54.611 ซึ่งมันขัดแย้งกัน ถูกไหม 00:10:54.611 --> 00:10:57.347 พวกเขาเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว 00:10:57.347 --> 00:11:01.103 แต่การสร้างเนื้อสร้างตัวนั้น จะพาลงนรกโดยตรงเลย 00:11:01.103 --> 00:11:03.044 พวกเขาทำอย่างไรกับเรื่องนี้ NOTE Paragraph 00:11:03.044 --> 00:11:04.996 การกุศล กลายเป็นคำตอบของพวกเขา 00:11:04.996 --> 00:11:07.173 มันกลายเป็นที่พึ่งทางใจด้านเศรษฐกิจ 00:11:07.173 --> 00:11:10.602 ให้เขาได้ไถ่บาป จากการค้ากำไรของพวกเขา 00:11:10.602 --> 00:11:14.079 ห้าเซนต์ต่อหนึ่งดอลลาร์ 00:11:14.079 --> 00:11:15.836 คุณจะทำเงินเพื่อการกุศลได้อย่่างไร 00:11:15.836 --> 00:11:18.953 ในเมื่อการกุศล เป็นแค่การไถ่บาป จากการหาเงิน 00:11:18.953 --> 00:11:23.063 เงินกระตุ้น จึงไม่ถือเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยเหลือผู้อื่น 00:11:23.063 --> 00:11:26.159 เพื่อที่เขาจะได้สบายใจ ในการหาเงินสำหรับตัวเอง 00:11:26.159 --> 00:11:29.338 ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรมาขัดขวาง 00:11:29.338 --> 00:11:34.615 เพื่อบอกว่า "การทำงานที่ไม่ก่อให้เกิดผล แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย" NOTE Paragraph 00:11:34.615 --> 00:11:38.804 อุดมคติที่มีมาแต่เดิมกำลังถูกตรวจสอบ โดยคำถามที่อันตรายคำถามนี้ 00:11:38.804 --> 00:11:43.052 ซึ่งก็คือ "เงินบริจาคของฉันกี่เปอร์เซ็นต์กัน ที่กลายเป็นค่าใช้จ่ายประกอบการ 00:11:43.052 --> 00:11:44.933 มีหลายปัญหาเกี่ยวกับคำถามนี้ 00:11:44.933 --> 00:11:46.780 แต่ผมจะขอเน้นแค่สองเรื่อง 00:11:46.780 --> 00:11:51.237 อย่างแรก มันทำให้เรารู้สึกว่าค่าประกอบการนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ดี 00:11:51.237 --> 00:11:54.658 ว่ามันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอุดมการณ์หลัก 00:11:54.658 --> 00:11:59.644 แต่มันใช่ครับ โดยเฉพาะถ้ามันทำให้เราเติบโตได้ 00:11:59.644 --> 00:12:02.405 ความคิดนี้ที่ฟังต่อๆกันมา ไม่ว่าอย่างไรก็ดี 00:12:02.405 --> 00:12:03.754 กลายเป็นปฎิปักษ์กับอุดมการณ์ 00:12:03.754 --> 00:12:06.692 ก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือ 00:12:06.692 --> 00:12:09.964 องค์กรถูกบังคับให้ทำงานต่อไป โดยลดค่าใช้จ่าย 00:12:09.964 --> 00:12:11.744 ที่ต้องใช้ในการเติบโต 00:12:11.744 --> 00:12:14.894 เพียงเพื่อให้ค่าประกอบการนั้นอยู่ในระดับต่ำ NOTE Paragraph 00:12:14.894 --> 00:12:17.109 เราถูกสอนว่า องค์กรการกุศลควรใช้เงิน 00:12:17.109 --> 00:12:20.255 ให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ สำหรับค่าประกอบการ เช่นการระดมทุน 00:12:20.255 --> 00:12:23.653 ด้วยทฤษฏีที่ว่า ยิ่งคุณใช้เงินในการระดมทุนน้อยเท่าไหร่ 00:12:23.653 --> 00:12:26.861 ยิ่งมีเงินเหลือมากพอเพื่ออุดมการณ์หลัก 00:12:26.861 --> 00:12:29.702 มันก็จริงถ้าเราอยู่ในโลกที่รันทด 00:12:29.702 --> 00:12:32.647 ซึ่งหมายความว่าขนมพายชิ้นนี้ ไม่สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ 00:12:32.647 --> 00:12:36.509 แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่การลงทุนในเรื่องการระดมทุนนั้น 00:12:36.509 --> 00:12:39.807 ทำให้ระดมทุนได้มากขึ้น และทำให้พายชิ้นนี้ใหญ่ขึ้นได้ 00:12:39.807 --> 00:12:41.777 แปลว่าเราเข้าใจตรงข้ามกับความเป็นจริง 00:12:41.777 --> 00:12:44.691 และเราควรใช้เงินมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง 00:12:44.691 --> 00:12:47.065 ในการระดมทุน เพราะการระดมทุนเป็นกิจกรรมเดียว 00:12:47.065 --> 00:12:49.733 ที่สามารถเพิ่มเงินเหล่านั้นเป็นทวีคูณ 00:12:49.733 --> 00:12:54.230 เพื่อนำไปใช้กับอุดมการณ์ที่เราใส่ใจ ซะมากมายเหลือเกิน NOTE Paragraph 00:12:54.230 --> 00:12:56.616 ผมขอยกสองตัวอย่าง อันแรกคือ เราเริ่มโครงการขี่จักรยานเพื่อโรคเอดส์ 00:12:56.616 --> 00:13:00.425 ด้วยเงินลงทุนประมาณ 50,000 ดอลลาร์ ในส่วนทรัพย์สินเสี่ยง 00:13:00.425 --> 00:13:05.149 ภายในช่วงเวลา 9 ปี เราสามารถทำเงินได้เป็น 1,982 เท่า 00:13:05.149 --> 00:13:10.933 เงินต้นนั้นกลายเป็นยอด 108 ล้านเหรียญ หลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเอดส์แล้ว 00:13:10.933 --> 00:13:12.744 เราปล่อยโครงการเพื่อมะเร็งเต้านม เป็นเวลาสามวัน 00:13:12.744 --> 00:13:16.849 โดยมีเงินลงทุนเริ่มต้น 350,000 ดอลลาร์ ในส่วนทรัพย์สินเสี่ยง 00:13:16.849 --> 00:13:21.190 ภายในเวลาห้าปี เราหาเงินได้เพิ่มอีก 554 เท่า 00:13:21.190 --> 00:13:24.795 กลายเป็นยอด 194 ล้านเหรียญ หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว 00:13:24.795 --> 00:13:26.775 เพื่อการวิจัยด้านมะเร็งเต้านม 00:13:26.775 --> 00:13:30.027 ทีนี้ถ้าคุณเป็นคนใจบุญที่สนใจเรื่องมะเร็งเต้านม 00:13:30.027 --> 00:13:31.373 อะไรดูสมเหตุสมผลกว่ากัน 00:13:31.373 --> 00:13:35.273 ระหว่างออกไปหานักวิจัยที่ดีที่่สุดในโลก 00:13:35.273 --> 00:13:38.347 แล้วเอาเงิน 350,000 ดอลลาร์ ให้เธอใช้ทำวิจัย 00:13:38.347 --> 00:13:42.114 เทียบกับการมอบเงิน 350,000 ดอลลาร์ ให้ฝ่ายระดมทุน 00:13:42.114 --> 00:13:47.340 เพื่อให้มันทวีคูณ เป็น 194 ล้านดอลลาร์ เพื่อการวิจัยมะเร็งเต้านม NOTE Paragraph 00:13:47.340 --> 00:13:50.565 ปี 2002 เป็นปีที่เราประสบความสำเร็จมากที่สุด 00:13:50.565 --> 00:13:54.007 ในปีนั้นปีเดียว เราหาเงินให้มะเร็งเต้านม 00:13:54.007 --> 00:13:57.853 ได้ 71 ล้านเหรียญหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว 00:13:57.853 --> 00:14:00.197 แล้วเราก็ต้องปิดกิจการลง 00:14:00.197 --> 00:14:03.309 อย่างกระทันหัน และอย่างน่าเสียใจ NOTE Paragraph 00:14:03.309 --> 00:14:08.012 ทำไม ก็เพราะว่าผู้ให้การสนับสนุน เลิกสนับสนุนเรา 00:14:08.012 --> 00:14:09.863 พวกเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วม 00:14:09.863 --> 00:14:12.834 เพราะเราถูกสื่อประณาม 00:14:12.834 --> 00:14:16.044 เรื่องการนำเงิน 40% จากยอดรวมไปใช้หาพนักงาน 00:14:16.044 --> 00:14:19.427 กับการบริการลูกค้า และการสร้างประสบการณ์ที่สวยงามอื่นๆ 00:14:19.427 --> 00:14:22.692 มันไม่มีคำศัพท์ทางบัญชีที่ถูกบัญญัติมา เพื่อใช้อธิบายถึง 00:14:22.692 --> 00:14:25.494 ลักษณะการลงทุนเพื่อการเติบโตและอนาคต 00:14:25.494 --> 00:14:30.467 นอกจากหัวบัญชี ว่าเป็น "ค่าใช้จ่ายในการประกอบการ" 00:14:30.467 --> 00:14:35.823 ในวันหนึ่ง พนักงานเจ๋งๆ ของเราทั้ง 350 คน 00:14:35.823 --> 00:14:40.179 จึงตกงาน 00:14:40.179 --> 00:14:43.818 เพราะพวกถูกระบุว่าเป็นค่าประกอบการ 00:14:43.818 --> 00:14:46.110 ผู้สนับสนุนของเราลองไปจัดงานเองดู 00:14:46.110 --> 00:14:47.471 ผลคือค่าประกอบการกลับสูงขึ้น 00:14:47.471 --> 00:14:49.988 รายได้สนับสนุนการวิจัยกลับลดลง 00:14:49.988 --> 00:14:55.984 คิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ หรือ 60 ล้านดอลลาร์ต่อปี NOTE Paragraph 00:14:55.984 --> 00:14:58.536 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราสับสน 00:14:58.536 --> 00:15:03.217 ระหว่างจริยธรรม และความมัธยัสถ์ 00:15:03.217 --> 00:15:06.221 เราถูกสอนว่า การขายขนมปัง มีค่าประกอบการเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ 00:15:06.221 --> 00:15:10.946 นั้นเหมาะสมกว่า องค์กรเพื่อการกุศลที่จะมีค่าประกอบการ 40% 00:15:10.946 --> 00:15:13.538 แต่เรามองข้ามความจริงที่สำคัญที่สุดไป 00:15:13.538 --> 00:15:17.507 นั่นคือ ขนาดขององค์กร หรือขนาดของชิ้นพายทั้งสอง 00:15:17.507 --> 00:15:22.313 ใครจะสนว่าธุรกิจเบเกอรี่เล็กๆ บวกค่าการประกอบการแค่ 5% 00:15:22.313 --> 00:15:25.169 แต่ถ้าการขายขนมปัง ทำให้องค์กรมีรายได้แค่ 71 ดอลลาร์ 00:15:25.169 --> 00:15:27.217 เพราะมันไม่ต้องลงทุนเพื่อขยายกิจการ 00:15:27.217 --> 00:15:29.468 แล้วองค์การที่เชี่ยวชาญด้านระดมทุน 00:15:29.468 --> 00:15:32.295 หารายได้ได้ 71 ล้านดอลลาร์ เพราะเขามีความสามารถพอล่ะ 00:15:32.295 --> 00:15:34.392 ทีนี้ พายชิ้นไหนกันที่เราจะเลือก และพายชิ้นไหน 00:15:34.392 --> 00:15:38.247 ที่ผู้คนที่หิวโหยจะเลือก NOTE Paragraph 00:15:38.247 --> 00:15:41.991 นี่คือผลกระทบในภาพกว้างครับ 00:15:41.991 --> 00:15:45.327 ผมบอกว่ายอดเงินบริจาคคิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในสหรัฐฯ 00:15:45.327 --> 00:15:48.064 คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี 00:15:48.064 --> 00:15:51.593 แต่มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น 00:15:51.593 --> 00:15:53.544 ที่บริจาคให้องค์กรด้านสุขภาพ และบริการด้านมนุษยชนอื่นๆ 00:15:53.544 --> 00:15:57.220 ที่เหลืออยู่กับองค์กรเพื่อศาสนา การศึกษา และการวิจัยในโรงพยาบาล 00:15:57.220 --> 00:16:00.142 และเงิน 60 ล้านดอลาร์นั้น เรียกได้ว่าเกือบจะไม่พอ 00:16:00.142 --> 00:16:02.349 กับการจัดการปัญหาเหล่านั้น 00:16:02.349 --> 00:16:04.493 แต่ถ้าเราจะสามารถทำให้การบริจาคนี้ 00:16:04.493 --> 00:16:09.750 ที่คิดเป็น 2 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว 00:16:09.750 --> 00:16:13.234 กลายเป็น 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ด้วยการลงทุนเพื่อความเติบโตนั้น 00:16:13.234 --> 00:16:17.036 จะทำให้มีเงินเพิ่ม 150 ล้านดอลลาร์ต่อปี 00:16:17.036 --> 00:16:19.827 และถ้าเงินเพิ่มส่วนใหญ่นั้น 00:16:19.827 --> 00:16:21.527 แบ่งไปด้านสุขภาพและมนุษยชน 00:16:21.527 --> 00:16:24.708 เพราะเราสนับสนุนทั้งสองนั้น ให้ลงทุนด้านการเติบโต 00:16:24.708 --> 00:16:29.313 หมายความว่าส่วนงานนั้น จะเติบโตเป็นสามเท่า 00:16:29.313 --> 00:16:30.676 เรากำลังพูดถึงขนาดที่ใหญ่ขึ้น 00:16:30.676 --> 00:16:34.279 และเรากำลังพูดถึงความเป็นไปได้ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ 00:16:34.279 --> 00:16:36.591 แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นด้วยการบังคับ 00:16:36.591 --> 00:16:39.277 ให้องค์กรเหล่านี้ลดตัวเองลงมา 00:16:39.277 --> 00:16:44.774 เพื่อรักษาค่าประกอบการให้ต่ำเข้าไว้ NOTE Paragraph 00:16:44.774 --> 00:16:48.297 คนยุคเราคงไม่อยากให้คนรุ่นหลัง มาอ่านบันทึกแล้วพบว่า 00:16:48.297 --> 00:16:50.962 "เราได้รักษาค่าประกอบการ ขององค์กรการกุศลให้ต่ำเข้าไว้" 00:16:50.962 --> 00:16:59.048 (หัวเราะ) (เสียงปรบมือ) 00:16:59.049 --> 00:17:01.279 เราอยากให้คนรุ่นหลังรู้ว่า เราเปลี่ยนโลกอย่างไรบ้าง 00:17:01.279 --> 00:17:02.924 และเราจะทำเช่นนั้นได้ 00:17:02.924 --> 00:17:05.990 ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ 00:17:05.990 --> 00:17:08.035 เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้เมื่อคุณพูดถึงการกุศล 00:17:08.035 --> 00:17:10.276 อย่าถามว่าค่าประกอบการคิดเป็นเท่าใหร่ 00:17:10.276 --> 00:17:12.495 แต่ถามถึงขนาดความฝันของพวกเค้า 00:17:12.495 --> 00:17:16.406 ความฝันแบบบริษัทแอปเปิล กูเกิล หรือ อเมซอน 00:17:16.406 --> 00:17:18.305 ถามถึงวิธีวัดความก้าวหน้าของความฝัน 00:17:18.305 --> 00:17:21.214 และสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อทำให้ความฝันนั้นเป็นจริง 00:17:21.214 --> 00:17:23.064 ไม่ว่าค่าประกอบการจะสูงแค่ไหน 00:17:23.064 --> 00:17:27.882 ใครจะสนใจเรื่องค่าประกอบการ ตราบใดที่ปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไข 00:17:27.882 --> 00:17:31.331 ถ้าเราสามารถเปิดใจ 00:17:31.331 --> 00:17:35.051 เปิดความคิดได้ขนาดนั้น เหล่า NPO ก็สามารถ 00:17:35.051 --> 00:17:39.287 มีบทบาทในการเปลี่ยนโลก ให้กับประชากรทุกคน 00:17:39.287 --> 00:17:45.421 คนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด 00:17:45.421 --> 00:17:50.485 และถ้านั่นจะเป็นมรดกที่เราจะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง 00:17:50.485 --> 00:17:53.085 ว่าเราได้แสดงความรับผิดชอบ 00:17:53.085 --> 00:17:56.077 ต่อความคิดที่เรารับตกทอดมา 00:17:56.077 --> 00:17:58.917 แล้วมาใตร่ตรอง ปรับปรุงใหม่ 00:17:58.917 --> 00:18:02.716 เราได้คิดหนทางใหม่ ที่มนุษยชาติจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ 00:18:02.716 --> 00:18:06.317 เพื่อพวกเราทุกๆ คนตลอดไป 00:18:06.317 --> 00:18:11.117 ผมว่า เราควรให้เด็กๆ เป็นคนสรุป ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร 00:18:11.117 --> 00:18:12.537 แอนนาลิซ่า: นั่นก็จะเป็น 00:18:12.537 --> 00:18:14.985 เสจ: นวัตกรรมทางสังคม 00:18:14.985 --> 00:18:16.886 ไรเดอร์: ที่แท้จริง NOTE Paragraph 00:18:16.886 --> 00:18:20.382 แดน: ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ NOTE Paragraph 00:18:20.382 --> 00:18:29.518 (เสียงปรบมือ) 00:18:29.518 --> 00:18:33.518 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)