1 00:00:00,989 --> 00:00:04,261 ผมอยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับนวัตกรรมทางสังคม 2 00:00:04,261 --> 00:00:07,609 และกิจการเพื่อสังคม 3 00:00:07,609 --> 00:00:10,773 ผมบังเอิญมีลูกแฝดสาม 4 00:00:10,773 --> 00:00:13,118 พวกเขายังเล็กอยู่ครับ เพิ่งจะห้าขวบ 5 00:00:13,118 --> 00:00:14,187 เวลาที่ผมบอกใคร เขาจะถามย้ำว่า จริงเหรอ กี่คนนะ 6 00:00:14,187 --> 00:00:17,508 เวลาที่ผมบอกใคร เขาจะถามย้ำว่า จริงเหรอ กี่คนนะ 7 00:00:17,508 --> 00:00:18,952 นี่รูปของพวกเด็กๆครับ 8 00:00:18,952 --> 00:00:22,997 คนซ้ายคือเสจ แอนนาลิซ่า แล้วก็ไรเดอร์ 9 00:00:22,997 --> 00:00:27,903 นอกจากนั้น เผอิญผมเป็นเกย์ 10 00:00:27,903 --> 00:00:30,393 การเป็นเกย์ และการเป็นพ่อให้ลูกแฝดสามคนนั้น 11 00:00:30,393 --> 00:00:32,969 เป็นกิจการและนวัตกรรมทางสังคมที่สุด 12 00:00:32,969 --> 00:00:35,297 เท่าที่ผมเคยทำมา 13 00:00:35,297 --> 00:00:39,771 (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) 14 00:00:39,771 --> 00:00:42,809 แต่นวัตกรรมทางสังคมที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังนั้น 15 00:00:42,809 --> 00:00:44,301 เกี่ยวกับการกุศลครับ 16 00:00:44,301 --> 00:00:47,305 ผมอยากพูดถึงความคิดที่เราถูกสอน 17 00:00:47,305 --> 00:00:49,598 เกี่ยวกับการให้ การกุศล 18 00:00:49,598 --> 00:00:51,558 และองค์กรไม่แสวงหากำไร (NPO) 19 00:00:51,558 --> 00:00:55,222 ที่กำลังกัดกร่อนความเชื่อที่เรารัก 20 00:00:55,222 --> 00:00:59,226 และทำให้เราท้อถอย กับความพยายามที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ 21 00:00:59,226 --> 00:01:01,639 ผมขอถามก่อนว่า คุณเชื่อหรือไม่ 22 00:01:01,639 --> 00:01:04,784 ว่าองค์กร NPO เหล่านั้น มีบทบาทสำคัญ 23 00:01:04,784 --> 00:01:07,167 ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ 24 00:01:07,167 --> 00:01:10,625 คนส่วนใหญ่บอกว่า ธุรกิจจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ 25 00:01:10,625 --> 00:01:13,664 และธุรกิจเพื่อสังคม จะจัดการทุกอย่างที่เหลือเอง 26 00:01:13,664 --> 00:01:16,102 ตัวผมเองก็เชื่อว่าธุรกิจ 27 00:01:16,102 --> 00:01:19,263 จะทำให้มวลมนุษย์ชนส่วนใหญ่ ก้าวไปข้างหน้า 28 00:01:19,263 --> 00:01:23,398 แต่การก้าวหน้าแบบนั้น มักทิ้งคนประมาณ 10% หรือมากกว่า 29 00:01:23,398 --> 00:01:27,870 ซึ่งเป็นคนที่ด้อยโอกาสที่สุด หรือโชคไม่ดีไว้ข้างหลัง 30 00:01:27,870 --> 00:01:29,399 และธุรกิจเพื่อสังคมล้วนต้องการตลาด 31 00:01:29,399 --> 00:01:31,801 และเรายังมีปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถ 32 00:01:31,801 --> 00:01:35,134 ใช้เงินเพื่อสร้างตลาดได้ 33 00:01:35,134 --> 00:01:38,475 ผมเป็นกรรมการบริหารให้ศูนย์ผู้พิการแต่กำเนิด 34 00:01:38,475 --> 00:01:40,710 และผู้คนเหล่านี้ต้องการเสียงหัวเราะ 35 00:01:40,710 --> 00:01:44,768 ต้องการความเห็นอกเห็นใจ และต้องการความรัก 36 00:01:44,768 --> 00:01:48,314 คุณจะแปรความรู้สึกเหล่านั้นเป็นเงินได้ยังไง 37 00:01:48,314 --> 00:01:50,560 นี่คือพื้นที่ ที่ NPO 38 00:01:50,560 --> 00:01:52,904 และ มูลนิธิต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม 39 00:01:52,904 --> 00:01:56,595 เพราะการทำงานเพื่อคนอื่นนั้น เป็นตลาดแห่งความรัก 40 00:01:56,595 --> 00:01:59,016 เป็นตลาดสำหรับคนที่ 41 00:01:59,016 --> 00:02:01,856 ไม่มีตลาดการค้าใดๆ ให้เข้าถึง 42 00:02:01,856 --> 00:02:04,587 ดังนั้น ถ้าเราต้องการ อย่างที่ ฟูลเลอร์ บัคมินส์เตอร์ กล่าวไว้ว่า 43 00:02:04,587 --> 00:02:06,976 โลกที่เหมาะกับทุกๆคน 44 00:02:06,976 --> 00:02:09,480 ที่ไม่มีใครถูกลืม 45 00:02:09,480 --> 00:02:11,642 ต้องเป็นที่ที่ NPO 46 00:02:11,642 --> 00:02:14,184 เป็นส่วนสำคัญของการพูดคุยกัน 47 00:02:14,184 --> 00:02:16,888 แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น 48 00:02:16,888 --> 00:02:18,517 ทำไมองค์กรด้านมะเร็งเต้านม 49 00:02:18,517 --> 00:02:21,244 ยังไม่สามารถรักษามะเร็งเต้านมได้ 50 00:02:21,244 --> 00:02:23,312 ทำไมองค์กรเพื่อคนไร้ที่อยู่อาศัย 51 00:02:23,312 --> 00:02:26,241 ไม่สามารถหยุดการเร่ร่อนในเมืองใหญ่ได้ 52 00:02:26,241 --> 00:02:29,592 ทำไมอัตราความยากจน ถึงหยุดคาอยู่ที่ 12 % 53 00:02:29,592 --> 00:02:33,478 ของประชากรในอเมริกามานานกว่า 40 ปีแล้ว 54 00:02:33,478 --> 00:02:36,600 คำตอบคือ ปัญหาสังคมเหล่านี้ 55 00:02:36,600 --> 00:02:38,814 เป็นปัญหาที่มีขนาดใหญ่มาก 56 00:02:38,814 --> 00:02:41,702 แต่องค์กรเราเล็กจิ๋ว เมื่อเทียบกับปัญหาเหล่านั้น 57 00:02:41,702 --> 00:02:45,265 และเรามีความเชื่อที่ทำให้มันเล็กอยู่อย่างนั้น 58 00:02:45,265 --> 00:02:46,585 เรามีกฏเกณฑ์อยู่สองชุด 59 00:02:46,585 --> 00:02:48,531 ชุดหนึ่งสำหรับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 60 00:02:48,531 --> 00:02:51,546 และอีกชุดหนึ่งสำหรับเศรษฐกิจแบบที่เหลือในโลก 61 00:02:51,546 --> 00:02:54,014 มันเป็นการแบ่งแยกปิดกั้น 62 00:02:54,014 --> 00:02:56,958 องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรใน 5 ด้าน 63 00:02:56,958 --> 00:02:59,350 อย่างแรกคือการให้เงินชดเชย 64 00:02:59,350 --> 00:03:02,262 ในองค์กรแสวงหาผลกำไร ยิ่งคุณสร้างคุณค่ามากเท่าใหร่ 65 00:03:02,262 --> 00:03:04,153 คุณก็ยิ่งทำเงินได้มากเท่านั้น 66 00:03:04,153 --> 00:03:06,105 แต่เราไม่ชอบให้ NPO ใช้เงิน 67 00:03:06,105 --> 00:03:09,975 เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนสร้างคุณค่า ในการช่วยเหลือสังคมมากขึ้น 68 00:03:09,975 --> 00:03:12,775 เรามีความเชื่อต่อต้านว่า 69 00:03:12,775 --> 00:03:16,182 คนเราอาจช่วยคนอื่น เพื่อหวังเงินมหาศาล 70 00:03:16,182 --> 00:03:18,185 มันน่าสนใจที่เราไม่มีความเชื่อที่จะต่อต้านว่า 71 00:03:18,185 --> 00:03:21,944 คนกำลังทำเงินมหาศาล โดยไม่ต้องช่วยใคร 72 00:03:21,944 --> 00:03:24,220 ถ้าคุณต้องการหาเงิน 50 ล้านดอลลาร์ 73 00:03:24,220 --> 00:03:26,550 โดยขายวีดีโอเกมส์รุนแรงให้เด็ก ก็ทำได้เลย 74 00:03:26,550 --> 00:03:28,538 เราจะถ่ายคุณขึ้นปก Wired Magazine ให้ 75 00:03:28,538 --> 00:03:30,545 แต่ถ้าคุณต้องการหาเงินครึ่งล้าน 76 00:03:30,545 --> 00:03:31,904 เพื่อรักษาโรคมาเลเรียในเด็ก 77 00:03:31,904 --> 00:03:39,821 คุณจะถูกมองว่าเป็นเชื้อโรคเสียเอง (เสียงปรบมือ) 78 00:03:39,821 --> 00:03:42,781 และเรามองว่านี่เป็นเรื่องระบบศีลธรรม 79 00:03:42,781 --> 00:03:44,918 แต่เราไม่ทันได้นึกว่าระบบความคิดนี้ 80 00:03:44,918 --> 00:03:48,022 จะส่งผลข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งก็คือ 81 00:03:48,022 --> 00:03:51,657 มันทำให้เราต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง 82 00:03:51,657 --> 00:03:55,029 ระหว่างการทำเพื่อตัวคุณและครอบครัว 83 00:03:55,029 --> 00:03:57,702 หรือทำความดีเพื่อโลกใบนี้ 84 00:03:57,702 --> 00:04:00,654 ป้อนให้กับบัณฑิต ที่จบใหม่จากสถาบันชั้นนำ 85 00:04:00,654 --> 00:04:02,731 และส่งคนเป็นหมื่นคน 86 00:04:02,731 --> 00:04:05,326 คนที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในองค์กร NPO 87 00:04:05,326 --> 00:04:07,973 แต่ส่งพวกเขาตรงไปหาองค์กรแสวงผลกำไรทั้งหลาย 88 00:04:07,973 --> 00:04:12,674 เพราะพวกเขาไม่ยินดีที่จะเสียสละตนเอง ในเชิงเศรษฐกิจในระยะยาว 89 00:04:12,674 --> 00:04:16,161 นิตยสาร Bussinessweek ได้ทำสำรวจผลตอบแทน 90 00:04:16,161 --> 00:04:19,271 ของผู้บริหาร ที่จบจากมหาวิทยาลัยมา 10 ปีแล้ว 91 00:04:19,271 --> 00:04:22,164 และผลตอบแทนของผู้ที่จบเอกบริหาร จากมหา'ลัยสแตนฟอร์ด 92 00:04:22,164 --> 00:04:26,855 ขณะที่เขาอายุ 38 นั้น อยู่ที่ 400,000 ดอลลาร์ รวมโบนัสแล้ว 93 00:04:26,855 --> 00:04:28,903 ส่วนในปีเดียวกันนั้น เงินเดือนเฉลี่ย 94 00:04:28,903 --> 00:04:32,119 ของผู้บริหาร องค์กรการกุศลด้านการแพทย์ ที่มีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ 95 00:04:32,119 --> 00:04:37,437 อยู่ที่ 232,000 ดอลลาร์ และ 84,000 ดอลลาร์ สำหรับองค์กรเพื่อยุติความหิวโหย 96 00:04:37,437 --> 00:04:39,301 ดังนั้น มันจึงไม่มีทางเป็นไปได้เลย ที่เราจะเอาคนที่ 97 00:04:39,301 --> 00:04:43,503 มีความสามารถพอจะหาเงินได้ 400,000 เหรียญ ที่จะยอมเสียสละ 316,000 เหรียญทุกๆปี 98 00:04:43,503 --> 00:04:47,615 เพื่อเป็นผู้บริหารองค์กรเพื่อยุติความหิวโหย 99 00:04:47,615 --> 00:04:51,106 บางคนอาจจะบอกว่า "ก็เพราะพวกเด็กบริหาร งกเงินเองนี่นา" 100 00:04:51,106 --> 00:04:53,658 มันก็ไม่ใช้อย่างนั้นเสมอไป พวกเขาอาจจะฉลาด 101 00:04:53,658 --> 00:04:56,042 มันถูกกว่า ถ้าเขาจะบริจาคเงิน 102 00:04:56,042 --> 00:04:59,730 100,000 ดอลลาร์ ทุกๆปีให้กับองค์กรเพื่อความหิวโหย 103 00:04:59,730 --> 00:05:01,814 ยกเว้นภาษีได้อีก 50,000 เหรียญ 104 00:05:01,814 --> 00:05:06,133 ก็ยังมีเงินได้สูงกว่าทำงานในองค์กรการกุศล ราว 270,000 เหรียญต่อปี 105 00:05:06,133 --> 00:05:08,748 แล้วยังถูกเรียกขานว่า เป็นคนใจบุญสุนทาน 106 00:05:08,748 --> 00:05:10,587 เพราะเขาบริจาคหนึ่งแสนเหรียญให้การกุศล 107 00:05:10,587 --> 00:05:12,612 ได้นั่งเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิ 108 00:05:12,612 --> 00:05:14,789 เผลอๆ คอยแนะนำ ผู้บริหารที่น่าสงสาร 109 00:05:14,789 --> 00:05:18,303 ที่ตัดสินใจมาเป็นผู้บริหารขององค์กรเพื่อยุติความหิวโหย 110 00:05:18,303 --> 00:05:21,984 แล้วเขาก็มีอำนาจ และมีแรงผลักดันแบบนี้ ไปตลอดชีวิตการทำงาน 111 00:05:21,984 --> 00:05:25,618 และยังมีคำชื่นชม รอพวกเขาอยู่อีกด้วย 112 00:05:25,618 --> 00:05:29,328 การแบ่งแยกอีกแบบหนึ่ง เกิดขึ้นในวงการโฆษณาและการตลาด 113 00:05:29,328 --> 00:05:32,833 เราบอกคนในกลุ่มแสวงหาผลกำไรว่าให้ "ใช้เงิน ใช้เงิน ใช้เงิน" ในการโฆษณา 114 00:05:32,833 --> 00:05:36,398 ใช้จนกระทั่งเงินเหรียญสุดท้ายหมดคุณประโยชน์ลง" 115 00:05:36,398 --> 00:05:39,937 แต่ในทางกลับกัน เราไม่อยากเห็นเงินบริจาคของเรา ถูกใช้เพื่อโฆษณา 116 00:05:39,937 --> 00:05:43,711 ความคิดเราคือ "ถ้าคุณขอรับบริจาคชั่วโมงโฆษณา 117 00:05:43,711 --> 00:05:46,517 ได้ออกอากาศตอนตีสี่ ผมก็โอเคนะ" 118 00:05:46,517 --> 00:05:49,068 แต่ผมไม่อยากให้เงินบริจาคของผม ถูกนำไปใช้ซื้อโฆษณา 119 00:05:49,068 --> 00:05:51,316 ผมอยากให้เงินไปถึงผู้ที่ยากไร้" 120 00:05:51,316 --> 00:05:53,008 ประหนึ่งว่าเงินที่โยนไปในโฆษณา 121 00:05:53,008 --> 00:05:55,852 ไม่สามารถดึงเงินจำนวนมากกว่ากลับมาได้ 122 00:05:55,852 --> 00:05:57,633 เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังขาดแคลน 123 00:05:57,633 --> 00:05:59,968 ในปี 1990 บริษัทของผมได้สร้าง 124 00:05:59,968 --> 00:06:03,072 โครงการเดินทางด้วยจักรยานทางไกล เพื่อรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ 125 00:06:03,072 --> 00:06:07,564 และการเดินทางไกลสามวันในระยะ 60 ไมล์ เพื่อรณรงค์ต่่อต้านมะเร็งเต้านม 126 00:06:07,564 --> 00:06:10,924 และในช่วงเวลา 9 ปีที่ผ่านมา 127 00:06:10,924 --> 00:06:15,987 เราได้เห็นคนธรรมดา 182,000 คน ที่เข้ามา ร่วมทำวีรกรรมเหล่านี้กับพวกเรา 128 00:06:15,987 --> 00:06:20,427 และพวกเขาได้ระดมทุน จำนวน 581 ล้านดอลลาร์ 129 00:06:20,427 --> 00:06:25,424 พวกเขาระดมทุนได้มาก และรวดเร็ว 130 00:06:25,424 --> 00:06:27,238 กว่างานอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ 131 00:06:27,238 --> 00:06:30,056 ด้วยความคิดที่ว่า ทุกคนเหนื่อยหน่าย 132 00:06:30,056 --> 00:06:32,882 กับการถูกขอให้ทำเท่าที่ทำได้ เพื่อสังคม 133 00:06:32,882 --> 00:06:35,280 พวกเขาต้องการค้นหา 134 00:06:35,280 --> 00:06:37,472 ศักยภาพที่แท้จริงที่เขาทำได้ 135 00:06:37,472 --> 00:06:40,616 เพื่ออุดมการณ์ที่เขาสนใจ 136 00:06:40,616 --> 00:06:43,792 แต่พวกเขาต้องได้รับการชักชวน 137 00:06:43,792 --> 00:06:45,391 เราได้คนจำนวนมากมายมาเข้าร่วม 138 00:06:45,391 --> 00:06:47,694 โดยซื้อโฆษณาเต็มหน้า ในนสพ. เดอะนิวยอร์คไทม์ 139 00:06:47,694 --> 00:06:51,123 ในนสพ. เดอะ บอสตัน โกลบ และช่วงเวลาไพรม์ไทม์ในทีวีและวิทยุ 140 00:06:51,123 --> 00:06:52,925 คุณคิดว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน 141 00:06:52,925 --> 00:06:56,434 ถ้าเราทำแต่แจกใบปลิวในร้านซักรีด 142 00:06:56,434 --> 00:06:59,636 ยอดการบริจาคในอเมริกานั้นค้างอยู่ที่ 143 00:06:59,636 --> 00:07:04,027 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ตั้งแต่เราเริ่มวัดกันในช่วงปี 1970 144 00:07:04,027 --> 00:07:06,327 มันเป็นความจริงที่สำคัญมาก เพราะมันบอกเราว่า 145 00:07:06,327 --> 00:07:08,831 ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 146 00:07:08,831 --> 00:07:12,183 ไม่เคยแย่งส่วนแบ่งการตลาด 147 00:07:12,183 --> 00:07:14,895 มาจากองค์กรแสวงหาผลกำไรได้เลย 148 00:07:14,895 --> 00:07:17,047 แล้วคุณลองคิดดูว่า องค์กรหนึ่ง 149 00:07:17,047 --> 00:07:20,239 จะแย่งส่วนแบ่งการตลาด มาจากอีกองค์กรหนึ่งได้อย่างไร 150 00:07:20,239 --> 00:07:23,224 ถ้าองค์กรนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการตลาด 151 00:07:23,224 --> 00:07:24,940 ถ้าเราบอกบริษัทอุปโภคบริโภคว่า 152 00:07:24,940 --> 00:07:27,759 "คุณสามารถโฆษณาสรรพคุณทุกอย่างได้" 153 00:07:27,759 --> 00:07:30,933 แต่บอก NPO ว่า "คุณไม่สามารถโฆษณาความดีของคุณได้นะ" 154 00:07:30,933 --> 00:07:34,559 คุณคิดว่าเงินของลูกค้าจะไหลไปทางไหน 155 00:07:34,559 --> 00:07:37,856 เรื่องที่สามคือเรื่องความเสี่ยง 156 00:07:37,856 --> 00:07:42,128 ในการทดลองใช้วิธีใหม่ในการหารายได้ 157 00:07:42,128 --> 00:07:45,507 เพราะ ดิสนีย์ สามารถทำหนัง มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ที่เจ๊งได้ 158 00:07:45,507 --> 00:07:48,355 โดยไม่มีใครเรียกอัยการให้สอบสวน 159 00:07:48,355 --> 00:07:51,675 แต่ถ้าคุณบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญเพื่อการกุศล 160 00:07:51,675 --> 00:07:54,783 แลัวมันไม่สร้างผลตอบแทน 75% ให้กับองค์กร 161 00:07:54,783 --> 00:07:56,576 ภายในช่วง 12 เดือนแรก 162 00:07:56,576 --> 00:07:59,396 คุณก็จะถูกเรียกมาสอบสวน 163 00:07:59,396 --> 00:08:02,287 ดังนั้น NPO จึงลังเลอย่างมาก ในการลองทำอะไรที่กล้าหาญ 164 00:08:02,287 --> 00:08:05,807 ทำอะไรที่แตกต่าง หรือระดมทุนขนาดใหญ่ 165 00:08:05,807 --> 00:08:07,805 เพราะกลัวว่า ถ้างานนั้นล้มเหลว ชื่อเสียงของพวกเขา 166 00:08:07,805 --> 00:08:09,710 จะถูกลากจมโคลนไปด้วย 167 00:08:09,710 --> 00:08:11,621 คุณทราบดีว่า เมื่อคุณห้ามการล้มเหลว 168 00:08:11,621 --> 00:08:13,432 คุณก็ทำลายความคิดสร้างสรรค์ไปด้วย 169 00:08:13,432 --> 00:08:16,348 เมื่อคุณทำลายความคิดสร้างสรรค์ คุณก็ไม่สามารถหาเงินเพิ่มได้ 170 00:08:16,348 --> 00:08:18,404 พอรายได้ไม่เพิ่ม คุณก็โตไม่ได้ 171 00:08:18,404 --> 00:08:23,235 พอคุณโตไม่ได้ คุณก็แก้ปัญหาใหญ่ในสังคมไม่ได้ 172 00:08:23,235 --> 00:08:25,944 การแบ่งแยกด้านที่สี่คือ เรื่องเวลา 173 00:08:25,944 --> 00:08:29,923 ทำไมอเมซอนอยู่ได้หกปี โดยไม่คืนเงินให้นักลงทุน 174 00:08:29,923 --> 00:08:31,571 แล้วทุกคนก็อดทนรอ 175 00:08:31,571 --> 00:08:34,157 พวกเขารู้ว่า มีเป้าหมายระยะยาวรออยู่ 176 00:08:34,157 --> 00:08:36,078 นั่นคือการเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด 177 00:08:36,078 --> 00:08:38,904 แต่ถ้าองค์กรการกุศลฝันว่า 178 00:08:38,904 --> 00:08:42,779 จะสร้่างองค์กรขนาดใหญ่ ใช้เวลาหกปี 179 00:08:42,779 --> 00:08:44,659 จะไม่มีเงินซักแดงตกถึงผู้ยากไร้ 180 00:08:44,659 --> 00:08:46,844 เงินทั้งหมดจะถูกใช้เพื่อการขยายองค์กร 181 00:08:46,844 --> 00:08:50,151 เราคงเห็นคนโดนตรึงไม้กางเขนประจานแน่ 182 00:08:50,151 --> 00:08:52,072 และด้านสุดท้ายก็คือเรื่องกำไร 183 00:08:52,072 --> 00:08:54,735 สำหรับองค์กรที่ทำกำไรแล้ว พวกเขาคืนกำไรให้กับผู้คน 184 00:08:54,735 --> 00:08:57,114 เพื่อดึงดูดแหล่งเงินทุน มาส่งเสริมความคิดใหม่ๆ 185 00:08:57,114 --> 00:09:00,471 แต่องค์กรการกุศลทั้งหลาย ไม่สามารถจ่ายกำไรให้กับทุกคนได้ 186 00:09:00,471 --> 00:09:04,972 ดังนั้นองค์กรที่แสวงผลกำไรจึงผูกขาดตลาด ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านไว้ 187 00:09:04,972 --> 00:09:07,348 ส่วน NPO ก็อดอยาก ไร้หนทางเติบโต 188 00:09:07,348 --> 00:09:10,316 ไร้ความเสี่ยง แต่ไร้ความคิดใหม่ๆ ต่อไป 189 00:09:10,316 --> 00:09:13,581 พอเอาทั้ง 5 ด้านมารวมกัน คุณก็ไม่สามารถใช้เงิน 190 00:09:13,581 --> 00:09:15,982 เพื่อดึงคนเก่งๆ มาจากองค์กรที่แสวงหาผลกำไร 191 00:09:15,982 --> 00:09:17,922 โฆษณาที่ทำก็เล็กกว่า 192 00:09:17,922 --> 00:09:20,539 ที่องค์กรที่แสวงหาผลกำไร ใช้หาลูกค้าใหม่ๆ 193 00:09:20,539 --> 00:09:23,308 คุณไม่สามารถเสี่ยง เพื่อดึงลูกค้าเหล่านั้น 194 00:09:23,308 --> 00:09:25,448 แบบที่องค์กรแสวงหาผลกำไรเสี่ยงได้ 195 00:09:25,448 --> 00:09:27,204 คุณมีเวลาหาลูกค้าน้อยกว่า 196 00:09:27,204 --> 00:09:28,622 ที่องค์กรแสวงหาผลกำไรมี 197 00:09:28,622 --> 00:09:31,399 และคุณไม่มีตลาดหุ้น เพื่อหาทุน 198 00:09:31,399 --> 00:09:33,582 ถึงแม้ว่าคุณหาเงินก้อนแรกมาได้ 199 00:09:33,582 --> 00:09:35,502 และคุณเพิ่งวางหมากให้ NPO 200 00:09:35,502 --> 00:09:38,657 เสียเปรียบองค์กรแสวงหาผลกำไรอย่างยิ่งยวด 201 00:09:38,657 --> 00:09:41,361 ในทุกๆ ระดับ 202 00:09:41,361 --> 00:09:44,843 ถ้าสงสัยว่ากฎที่แตกต่างนี้ มีผลกระทบอย่างไร 203 00:09:44,843 --> 00:09:46,573 ลองดูสถิติที่น่าเห็นใจนี้ 204 00:09:46,573 --> 00:09:49,163 ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2009 205 00:09:49,163 --> 00:09:51,434 มีองค์กรไม่แสวงผลกำไร 206 00:09:51,434 --> 00:09:55,122 ที่ก้าวข้ามเส้นรายได้ 50 ล้านดอลลาร์ไปได้ 207 00:09:55,122 --> 00:09:57,274 มีทั้งหมด 144 องค์กร 208 00:09:57,274 --> 00:09:59,479 ขณะที่จำนวนขององค์กรแสวงหาผลกำไร 209 00:09:59,479 --> 00:10:02,739 มีอยู่ 46,136 องค์กร 210 00:10:02,739 --> 00:10:06,171 เพราะฉะนั้น เรากำลังต่อกรกับ ปัญหาทางสังคมขนาดใหญ่มหึมา 211 00:10:06,171 --> 00:10:08,613 แต่องค์กรเราไม่สามารถขยายตัวได้เลย 212 00:10:08,613 --> 00:10:12,588 ที่ทำได้กลับเป็นองค์กรอย่าง โคคาโคล่า หรือ เบอร์เกอร์คิง 213 00:10:12,588 --> 00:10:15,542 แล้วทำไมเราจึงมีแนวคิดแบบนี้ 214 00:10:15,542 --> 00:10:20,016 ก็ แบบเดียวกับหลักการอื่นๆ ที่เราคลั่งไคล้กันในอเมริกา 215 00:10:20,016 --> 00:10:23,135 ความคิดเหล่านี้มาจาก ความเชื่อของพวกเคร่งศาสนา (Puritan) 216 00:10:23,135 --> 00:10:26,485 พวกเขาอพยพมาด้วยเหตุผลทางศาสนา หรืออย่างน้อยเขาก็บอกเช่นนั้น 217 00:10:26,485 --> 00:10:29,799 แต่พวกเขามาที่นี่เพื่อหาเงินจำนวนมากด้วย 218 00:10:29,799 --> 00:10:31,942 พวกเขารักพระเจ้า แต่พวกเขาก็เป็น 219 00:10:31,942 --> 00:10:34,399 นักลงทุนที่จริงจังด้วย 220 00:10:34,399 --> 00:10:37,978 และพวกเขามักถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกที่ มีแนวโน้มขูดรีดกำไร 221 00:10:37,978 --> 00:10:40,217 เมื่อเทียบกับผู้มาตั้งรกรากกลุ่มอื่นๆ 222 00:10:40,217 --> 00:10:43,273 แต่ในขนะเดียวกัน พวกเคร่งศาสนา ก็เป็น พวกลัทธิคาลวินด้วย 223 00:10:43,273 --> 00:10:45,947 พวกเขาถูกสอนให้เกลียดตัวเอง 224 00:10:45,947 --> 00:10:48,978 พวกเขาถูกสอนว่า การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน 225 00:10:48,978 --> 00:10:52,339 เป็นเส้นทางสู่นรกตลอดกาล 226 00:10:52,339 --> 00:10:54,611 ซึ่งมันขัดแย้งกัน ถูกไหม 227 00:10:54,611 --> 00:10:57,347 พวกเขาเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว 228 00:10:57,347 --> 00:11:01,103 แต่การสร้างเนื้อสร้างตัวนั้น จะพาลงนรกโดยตรงเลย 229 00:11:01,103 --> 00:11:03,044 พวกเขาทำอย่างไรกับเรื่องนี้ 230 00:11:03,044 --> 00:11:04,996 การกุศล กลายเป็นคำตอบของพวกเขา 231 00:11:04,996 --> 00:11:07,173 มันกลายเป็นที่พึ่งทางใจด้านเศรษฐกิจ 232 00:11:07,173 --> 00:11:10,602 ให้เขาได้ไถ่บาป จากการค้ากำไรของพวกเขา 233 00:11:10,602 --> 00:11:14,079 ห้าเซนต์ต่อหนึ่งดอลลาร์ 234 00:11:14,079 --> 00:11:15,836 คุณจะทำเงินเพื่อการกุศลได้อย่่างไร 235 00:11:15,836 --> 00:11:18,953 ในเมื่อการกุศล เป็นแค่การไถ่บาป จากการหาเงิน 236 00:11:18,953 --> 00:11:23,063 เงินกระตุ้น จึงไม่ถือเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยเหลือผู้อื่น 237 00:11:23,063 --> 00:11:26,159 เพื่อที่เขาจะได้สบายใจ ในการหาเงินสำหรับตัวเอง 238 00:11:26,159 --> 00:11:29,338 ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรมาขัดขวาง 239 00:11:29,338 --> 00:11:34,615 เพื่อบอกว่า "การทำงานที่ไม่ก่อให้เกิดผล แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย" 240 00:11:34,615 --> 00:11:38,804 อุดมคติที่มีมาแต่เดิมกำลังถูกตรวจสอบ โดยคำถามที่อันตรายคำถามนี้ 241 00:11:38,804 --> 00:11:43,052 ซึ่งก็คือ "เงินบริจาคของฉันกี่เปอร์เซ็นต์กัน ที่กลายเป็นค่าใช้จ่ายประกอบการ 242 00:11:43,052 --> 00:11:44,933 มีหลายปัญหาเกี่ยวกับคำถามนี้ 243 00:11:44,933 --> 00:11:46,780 แต่ผมจะขอเน้นแค่สองเรื่อง 244 00:11:46,780 --> 00:11:51,237 อย่างแรก มันทำให้เรารู้สึกว่าค่าประกอบการนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ดี 245 00:11:51,237 --> 00:11:54,658 ว่ามันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอุดมการณ์หลัก 246 00:11:54,658 --> 00:11:59,644 แต่มันใช่ครับ โดยเฉพาะถ้ามันทำให้เราเติบโตได้ 247 00:11:59,644 --> 00:12:02,405 ความคิดนี้ที่ฟังต่อๆกันมา ไม่ว่าอย่างไรก็ดี 248 00:12:02,405 --> 00:12:03,754 กลายเป็นปฎิปักษ์กับอุดมการณ์ 249 00:12:03,754 --> 00:12:06,692 ก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือ 250 00:12:06,692 --> 00:12:09,964 องค์กรถูกบังคับให้ทำงานต่อไป โดยลดค่าใช้จ่าย 251 00:12:09,964 --> 00:12:11,744 ที่ต้องใช้ในการเติบโต 252 00:12:11,744 --> 00:12:14,894 เพียงเพื่อให้ค่าประกอบการนั้นอยู่ในระดับต่ำ 253 00:12:14,894 --> 00:12:17,109 เราถูกสอนว่า องค์กรการกุศลควรใช้เงิน 254 00:12:17,109 --> 00:12:20,255 ให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ สำหรับค่าประกอบการ เช่นการระดมทุน 255 00:12:20,255 --> 00:12:23,653 ด้วยทฤษฏีที่ว่า ยิ่งคุณใช้เงินในการระดมทุนน้อยเท่าไหร่ 256 00:12:23,653 --> 00:12:26,861 ยิ่งมีเงินเหลือมากพอเพื่ออุดมการณ์หลัก 257 00:12:26,861 --> 00:12:29,702 มันก็จริงถ้าเราอยู่ในโลกที่รันทด 258 00:12:29,702 --> 00:12:32,647 ซึ่งหมายความว่าขนมพายชิ้นนี้ ไม่สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ 259 00:12:32,647 --> 00:12:36,509 แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่การลงทุนในเรื่องการระดมทุนนั้น 260 00:12:36,509 --> 00:12:39,807 ทำให้ระดมทุนได้มากขึ้น และทำให้พายชิ้นนี้ใหญ่ขึ้นได้ 261 00:12:39,807 --> 00:12:41,777 แปลว่าเราเข้าใจตรงข้ามกับความเป็นจริง 262 00:12:41,777 --> 00:12:44,691 และเราควรใช้เงินมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง 263 00:12:44,691 --> 00:12:47,065 ในการระดมทุน เพราะการระดมทุนเป็นกิจกรรมเดียว 264 00:12:47,065 --> 00:12:49,733 ที่สามารถเพิ่มเงินเหล่านั้นเป็นทวีคูณ 265 00:12:49,733 --> 00:12:54,230 เพื่อนำไปใช้กับอุดมการณ์ที่เราใส่ใจ ซะมากมายเหลือเกิน 266 00:12:54,230 --> 00:12:56,616 ผมขอยกสองตัวอย่าง อันแรกคือ เราเริ่มโครงการขี่จักรยานเพื่อโรคเอดส์ 267 00:12:56,616 --> 00:13:00,425 ด้วยเงินลงทุนประมาณ 50,000 ดอลลาร์ ในส่วนทรัพย์สินเสี่ยง 268 00:13:00,425 --> 00:13:05,149 ภายในช่วงเวลา 9 ปี เราสามารถทำเงินได้เป็น 1,982 เท่า 269 00:13:05,149 --> 00:13:10,933 เงินต้นนั้นกลายเป็นยอด 108 ล้านเหรียญ หลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเอดส์แล้ว 270 00:13:10,933 --> 00:13:12,744 เราปล่อยโครงการเพื่อมะเร็งเต้านม เป็นเวลาสามวัน 271 00:13:12,744 --> 00:13:16,849 โดยมีเงินลงทุนเริ่มต้น 350,000 ดอลลาร์ ในส่วนทรัพย์สินเสี่ยง 272 00:13:16,849 --> 00:13:21,190 ภายในเวลาห้าปี เราหาเงินได้เพิ่มอีก 554 เท่า 273 00:13:21,190 --> 00:13:24,795 กลายเป็นยอด 194 ล้านเหรียญ หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว 274 00:13:24,795 --> 00:13:26,775 เพื่อการวิจัยด้านมะเร็งเต้านม 275 00:13:26,775 --> 00:13:30,027 ทีนี้ถ้าคุณเป็นคนใจบุญที่สนใจเรื่องมะเร็งเต้านม 276 00:13:30,027 --> 00:13:31,373 อะไรดูสมเหตุสมผลกว่ากัน 277 00:13:31,373 --> 00:13:35,273 ระหว่างออกไปหานักวิจัยที่ดีที่่สุดในโลก 278 00:13:35,273 --> 00:13:38,347 แล้วเอาเงิน 350,000 ดอลลาร์ ให้เธอใช้ทำวิจัย 279 00:13:38,347 --> 00:13:42,114 เทียบกับการมอบเงิน 350,000 ดอลลาร์ ให้ฝ่ายระดมทุน 280 00:13:42,114 --> 00:13:47,340 เพื่อให้มันทวีคูณ เป็น 194 ล้านดอลลาร์ เพื่อการวิจัยมะเร็งเต้านม 281 00:13:47,340 --> 00:13:50,565 ปี 2002 เป็นปีที่เราประสบความสำเร็จมากที่สุด 282 00:13:50,565 --> 00:13:54,007 ในปีนั้นปีเดียว เราหาเงินให้มะเร็งเต้านม 283 00:13:54,007 --> 00:13:57,853 ได้ 71 ล้านเหรียญหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว 284 00:13:57,853 --> 00:14:00,197 แล้วเราก็ต้องปิดกิจการลง 285 00:14:00,197 --> 00:14:03,309 อย่างกระทันหัน และอย่างน่าเสียใจ 286 00:14:03,309 --> 00:14:08,012 ทำไม ก็เพราะว่าผู้ให้การสนับสนุน เลิกสนับสนุนเรา 287 00:14:08,012 --> 00:14:09,863 พวกเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วม 288 00:14:09,863 --> 00:14:12,834 เพราะเราถูกสื่อประณาม 289 00:14:12,834 --> 00:14:16,044 เรื่องการนำเงิน 40% จากยอดรวมไปใช้หาพนักงาน 290 00:14:16,044 --> 00:14:19,427 กับการบริการลูกค้า และการสร้างประสบการณ์ที่สวยงามอื่นๆ 291 00:14:19,427 --> 00:14:22,692 มันไม่มีคำศัพท์ทางบัญชีที่ถูกบัญญัติมา เพื่อใช้อธิบายถึง 292 00:14:22,692 --> 00:14:25,494 ลักษณะการลงทุนเพื่อการเติบโตและอนาคต 293 00:14:25,494 --> 00:14:30,467 นอกจากหัวบัญชี ว่าเป็น "ค่าใช้จ่ายในการประกอบการ" 294 00:14:30,467 --> 00:14:35,823 ในวันหนึ่ง พนักงานเจ๋งๆ ของเราทั้ง 350 คน 295 00:14:35,823 --> 00:14:40,179 จึงตกงาน 296 00:14:40,179 --> 00:14:43,818 เพราะพวกถูกระบุว่าเป็นค่าประกอบการ 297 00:14:43,818 --> 00:14:46,110 ผู้สนับสนุนของเราลองไปจัดงานเองดู 298 00:14:46,110 --> 00:14:47,471 ผลคือค่าประกอบการกลับสูงขึ้น 299 00:14:47,471 --> 00:14:49,988 รายได้สนับสนุนการวิจัยกลับลดลง 300 00:14:49,988 --> 00:14:55,984 คิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ หรือ 60 ล้านดอลลาร์ต่อปี 301 00:14:55,984 --> 00:14:58,536 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราสับสน 302 00:14:58,536 --> 00:15:03,217 ระหว่างจริยธรรม และความมัธยัสถ์ 303 00:15:03,217 --> 00:15:06,221 เราถูกสอนว่า การขายขนมปัง มีค่าประกอบการเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ 304 00:15:06,221 --> 00:15:10,946 นั้นเหมาะสมกว่า องค์กรเพื่อการกุศลที่จะมีค่าประกอบการ 40% 305 00:15:10,946 --> 00:15:13,538 แต่เรามองข้ามความจริงที่สำคัญที่สุดไป 306 00:15:13,538 --> 00:15:17,507 นั่นคือ ขนาดขององค์กร หรือขนาดของชิ้นพายทั้งสอง 307 00:15:17,507 --> 00:15:22,313 ใครจะสนว่าธุรกิจเบเกอรี่เล็กๆ บวกค่าการประกอบการแค่ 5% 308 00:15:22,313 --> 00:15:25,169 แต่ถ้าการขายขนมปัง ทำให้องค์กรมีรายได้แค่ 71 ดอลลาร์ 309 00:15:25,169 --> 00:15:27,217 เพราะมันไม่ต้องลงทุนเพื่อขยายกิจการ 310 00:15:27,217 --> 00:15:29,468 แล้วองค์การที่เชี่ยวชาญด้านระดมทุน 311 00:15:29,468 --> 00:15:32,295 หารายได้ได้ 71 ล้านดอลลาร์ เพราะเขามีความสามารถพอล่ะ 312 00:15:32,295 --> 00:15:34,392 ทีนี้ พายชิ้นไหนกันที่เราจะเลือก และพายชิ้นไหน 313 00:15:34,392 --> 00:15:38,247 ที่ผู้คนที่หิวโหยจะเลือก 314 00:15:38,247 --> 00:15:41,991 นี่คือผลกระทบในภาพกว้างครับ 315 00:15:41,991 --> 00:15:45,327 ผมบอกว่ายอดเงินบริจาคคิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในสหรัฐฯ 316 00:15:45,327 --> 00:15:48,064 คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี 317 00:15:48,064 --> 00:15:51,593 แต่มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น 318 00:15:51,593 --> 00:15:53,544 ที่บริจาคให้องค์กรด้านสุขภาพ และบริการด้านมนุษยชนอื่นๆ 319 00:15:53,544 --> 00:15:57,220 ที่เหลืออยู่กับองค์กรเพื่อศาสนา การศึกษา และการวิจัยในโรงพยาบาล 320 00:15:57,220 --> 00:16:00,142 และเงิน 60 ล้านดอลาร์นั้น เรียกได้ว่าเกือบจะไม่พอ 321 00:16:00,142 --> 00:16:02,349 กับการจัดการปัญหาเหล่านั้น 322 00:16:02,349 --> 00:16:04,493 แต่ถ้าเราจะสามารถทำให้การบริจาคนี้ 323 00:16:04,493 --> 00:16:09,750 ที่คิดเป็น 2 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว 324 00:16:09,750 --> 00:16:13,234 กลายเป็น 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ด้วยการลงทุนเพื่อความเติบโตนั้น 325 00:16:13,234 --> 00:16:17,036 จะทำให้มีเงินเพิ่ม 150 ล้านดอลลาร์ต่อปี 326 00:16:17,036 --> 00:16:19,827 และถ้าเงินเพิ่มส่วนใหญ่นั้น 327 00:16:19,827 --> 00:16:21,527 แบ่งไปด้านสุขภาพและมนุษยชน 328 00:16:21,527 --> 00:16:24,708 เพราะเราสนับสนุนทั้งสองนั้น ให้ลงทุนด้านการเติบโต 329 00:16:24,708 --> 00:16:29,313 หมายความว่าส่วนงานนั้น จะเติบโตเป็นสามเท่า 330 00:16:29,313 --> 00:16:30,676 เรากำลังพูดถึงขนาดที่ใหญ่ขึ้น 331 00:16:30,676 --> 00:16:34,279 และเรากำลังพูดถึงความเป็นไปได้ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ 332 00:16:34,279 --> 00:16:36,591 แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นด้วยการบังคับ 333 00:16:36,591 --> 00:16:39,277 ให้องค์กรเหล่านี้ลดตัวเองลงมา 334 00:16:39,277 --> 00:16:44,774 เพื่อรักษาค่าประกอบการให้ต่ำเข้าไว้ 335 00:16:44,774 --> 00:16:48,297 คนยุคเราคงไม่อยากให้คนรุ่นหลัง มาอ่านบันทึกแล้วพบว่า 336 00:16:48,297 --> 00:16:50,962 "เราได้รักษาค่าประกอบการ ขององค์กรการกุศลให้ต่ำเข้าไว้" 337 00:16:50,962 --> 00:16:59,048 (หัวเราะ) (เสียงปรบมือ) 338 00:16:59,049 --> 00:17:01,279 เราอยากให้คนรุ่นหลังรู้ว่า เราเปลี่ยนโลกอย่างไรบ้าง 339 00:17:01,279 --> 00:17:02,924 และเราจะทำเช่นนั้นได้ 340 00:17:02,924 --> 00:17:05,990 ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ 341 00:17:05,990 --> 00:17:08,035 เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้เมื่อคุณพูดถึงการกุศล 342 00:17:08,035 --> 00:17:10,276 อย่าถามว่าค่าประกอบการคิดเป็นเท่าใหร่ 343 00:17:10,276 --> 00:17:12,495 แต่ถามถึงขนาดความฝันของพวกเค้า 344 00:17:12,495 --> 00:17:16,406 ความฝันแบบบริษัทแอปเปิล กูเกิล หรือ อเมซอน 345 00:17:16,406 --> 00:17:18,305 ถามถึงวิธีวัดความก้าวหน้าของความฝัน 346 00:17:18,305 --> 00:17:21,214 และสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อทำให้ความฝันนั้นเป็นจริง 347 00:17:21,214 --> 00:17:23,064 ไม่ว่าค่าประกอบการจะสูงแค่ไหน 348 00:17:23,064 --> 00:17:27,882 ใครจะสนใจเรื่องค่าประกอบการ ตราบใดที่ปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไข 349 00:17:27,882 --> 00:17:31,331 ถ้าเราสามารถเปิดใจ 350 00:17:31,331 --> 00:17:35,051 เปิดความคิดได้ขนาดนั้น เหล่า NPO ก็สามารถ 351 00:17:35,051 --> 00:17:39,287 มีบทบาทในการเปลี่ยนโลก ให้กับประชากรทุกคน 352 00:17:39,287 --> 00:17:45,421 คนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด 353 00:17:45,421 --> 00:17:50,485 และถ้านั่นจะเป็นมรดกที่เราจะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง 354 00:17:50,485 --> 00:17:53,085 ว่าเราได้แสดงความรับผิดชอบ 355 00:17:53,085 --> 00:17:56,077 ต่อความคิดที่เรารับตกทอดมา 356 00:17:56,077 --> 00:17:58,917 แล้วมาใตร่ตรอง ปรับปรุงใหม่ 357 00:17:58,917 --> 00:18:02,716 เราได้คิดหนทางใหม่ ที่มนุษยชาติจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ 358 00:18:02,716 --> 00:18:06,317 เพื่อพวกเราทุกๆ คนตลอดไป 359 00:18:06,317 --> 00:18:11,117 ผมว่า เราควรให้เด็กๆ เป็นคนสรุป ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร 360 00:18:11,117 --> 00:18:12,537 แอนนาลิซ่า: นั่นก็จะเป็น 361 00:18:12,537 --> 00:18:14,985 เสจ: นวัตกรรมทางสังคม 362 00:18:14,985 --> 00:18:16,886 ไรเดอร์: ที่แท้จริง 363 00:18:16,886 --> 00:18:20,382 แดน: ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ 364 00:18:20,382 --> 00:18:29,518 (เสียงปรบมือ) 365 00:18:29,518 --> 00:18:33,518 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)