[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:08.48,0:00:11.42,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งหนึ่งที่เจ๋งที่สุดที่ฉันเจอ\Nเกี่ยวกับวงจรก็คือ Dialogue: 0,0:00:11.78,0:00:18.44,Default,,0000,0000,0000,,วงจรสามารถเป็นศิลปะได้ ถ้าสร้างสรรค์\Nก็จะได้ไอเดียสร้างสรรค์จากการใช้วงจร Dialogue: 0,0:00:20.30,0:00:24.70,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้นหากมีไอเดีย ก็ใช้เทคโนโลยีช่วย\Nทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริง Dialogue: 0,0:00:26.86,0:00:32.34,Default,,0000,0000,0000,,ทุกข้อมูลที่นำเข้าและนำออกจากคอมพิวเตอร์\Nนับเป็นข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ Dialogue: 0,0:00:32.34,0:00:37.24,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งนำเสนอผ่านการปิดและเปิด\Nของสัญญาณไฟฟ้า Dialogue: 0,0:00:37.24,0:00:39.06,Default,,0000,0000,0000,,หรือเลขหนึ่งกับศูนย์ Dialogue: 0,0:00:39.40,0:00:46.36,Default,,0000,0000,0000,,หากจะประมวลผลข้อมูลที่รับเข้าไป\Nก่อนส่งข้อมูลนั้นออกมา Dialogue: 0,0:00:46.36,0:00:49.92,Default,,0000,0000,0000,,คอมพิวเตอร์ต้องดัดแปลง\Nและรวมสัญญาณนำเข้านั้น Dialogue: 0,0:00:50.54,0:00:58.52,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคอมพิวเตอร์ต้องใช้องค์ประกอบทางไฟฟ้าเล็ก ๆ\Nซึ่งอยู่ด้วยกันในรูปแบบเพื่อสร้างวงจร Dialogue: 0,0:01:03.04,0:01:08.46,Default,,0000,0000,0000,,มาดูกันครับว่าวงจรสามารถดัดแปลงและประมวล\Nผลข้อมูลที่ถูกนำเสนอด้วยเลขหนึ่งกับศูนย์ยังไง Dialogue: 0,0:01:09.46,0:01:12.28,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวงจรอย่างง่าย Dialogue: 0,0:01:12.28,0:01:15.82,Default,,0000,0000,0000,,มันใช้สัญญาณไฟฟ้าดูว่าปิดหรือเปิด\Nก่อนจะสลับ Dialogue: 0,0:01:15.82,0:01:20.58,Default,,0000,0000,0000,,หากคุณให้สัญญาณ 1 ไป\Nวงจรจะให้ 0 Dialogue: 0,0:01:20.58,0:01:23.62,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณให้ 0 กับวงจร\Nมันจะให้ 1 กับคุณ Dialogue: 0,0:01:23.63,0:01:29.68,Default,,0000,0000,0000,,สัญญาณที่เข้าไปไม่เหมือนสัญญาณที่ออกมา\Nเราเลยเรียกมันว่าวงจร Not Dialogue: 0,0:01:30.04,0:01:36.58,Default,,0000,0000,0000,,วงจรที่ซับซ้อนกว่าสามารถรับและรวมได้หลายสัญญาณ\Nและมอบผลลัพธ์ที่ต่างออกไปให้คุณ Dialogue: 0,0:01:36.58,0:01:43.48,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่างนี้ วงจรจะใช้สองสัญญาณ\Nแต่ละอันจะเป็น 1 หรือ 0 Dialogue: 0,0:01:43.88,0:01:49.58,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าอันใดอันหนึ่งเป็น 0 ผลลัพธ์ก็จะเป็น 0 Dialogue: 0,0:01:49.58,0:01:52.72,Default,,0000,0000,0000,,วงจรนี้จะเป็น 1 ได้ Dialogue: 0,0:01:52.78,0:02:00.76,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อสัญญาณที่หนึ่งและสัญญาณที่สอง\Nเป็น 1 เหมือนกัน เราจึงเรียกว่าวงจร And Dialogue: 0,0:02:01.22,0:02:06.60,Default,,0000,0000,0000,,จะมีวงจรเล็ก ๆ แบบนี้มากมาย\Nที่ช่วยคำนวณตรรกะอย่างง่าย Dialogue: 0,0:02:06.60,0:02:13.40,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเชื่อมวงจรเหล่านี้เข้าด้วยกัน ก็สร้างวงจร\Nที่ซับซ้อนขึ้น จนคำนวณอะไรที่ซับซ้อนขึ้นได้ Dialogue: 0,0:02:13.94,0:02:19.76,Default,,0000,0000,0000,,เช่นเมื่อทำวงจรที่เพิ่มสองบิทเข้าด้วยกัน\Nเรียกว่า แอดเดอร์ Dialogue: 0,0:02:19.84,0:02:27.04,Default,,0000,0000,0000,,วงจรนี้คำนวณจากสองบิท แต่ละอันจะเป็น 1 หรือ 0\Nแล้วนำมารวมกันเพื่อคำนวณผลลัพธ์ Dialogue: 0,0:02:27.35,0:02:29.83,Default,,0000,0000,0000,,ผลลัพธ์อาจเป็น 0 บวก 0 ได้ 0 Dialogue: 0,0:02:30.34,0:02:34.34,Default,,0000,0000,0000,,0 บวก 1 ได้ 1\Nหรือ 1 บวก 1 ได้ 2 Dialogue: 0,0:02:34.36,0:02:39.44,Default,,0000,0000,0000,,ต้องต่อสายไฟออกมาสองเส้นเพื่อแทนหน่วยเลขฐานสอง\Nสองหน่วยในการเสนอผลลัพธ์ Dialogue: 0,0:02:40.06,0:02:44.50,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อมีหนึ่งแอดเดอร์เพื่อเพิ่มข้อมูลสองบิท Dialogue: 0,0:02:44.50,0:02:50.34,Default,,0000,0000,0000,,ก็ใส่แอดเดอร์เข้าไปอีกหลาย ๆ อันได้\Nเพื่อคำนวณตัวเลขที่มากกว่านั้นมาก Dialogue: 0,0:02:51.17,0:02:56.23,Default,,0000,0000,0000,,เช่นแอดเดอร์ 8-บิท\Nจะบวกเลข 25 และ 50 แบบนี้ Dialogue: 0,0:02:57.26,0:03:03.73,Default,,0000,0000,0000,,แต่ละเลขนำเสนอด้วย 8 บิท\Nทำให้มีสัญญาณไฟฟ้าที่ต่างกัน 16 สัญญาณเข้าวงจร Dialogue: 0,0:03:04.92,0:03:10.76,Default,,0000,0000,0000,,ในวงจรสำหรับแอดเดอร์ 8 บิทมีแอดเดอร์เล็ก ๆ อีกมาก\Nซึ่งพอมารวมกันแล้วก็คำนวณผลลัพธ์ได้ Dialogue: 0,0:03:12.50,0:03:17.34,Default,,0000,0000,0000,,วงจรไฟฟ้าที่ต่างกันสามารถ\Nคำนวณแบบง่ายอื่น ๆ ได้เช่น ลบ คูณ Dialogue: 0,0:03:17.34,0:03:24.72,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริงข้อมูลทั้งที่คอมพิวเตอร์ประมวล \Nก็เป็นเพียงการทำงานเล็ก ๆ มารวมกัน Dialogue: 0,0:03:24.72,0:03:30.52,Default,,0000,0000,0000,,แต่ละการทำงานที่คอมพิวเตอร์ทำนั้น\Nเรียบง่ายมากจนมนุษย์เองก็ทำได้ Dialogue: 0,0:03:30.52,0:03:34.10,Default,,0000,0000,0000,,แต่วงจรในคอมพิวเตอร์นั้นไวกว่ามาก Dialogue: 0,0:03:34.82,0:03:38.66,Default,,0000,0000,0000,,วงจรสมัยก่อนทั้งใหญ่และเทอะทะ Dialogue: 0,0:03:38.66,0:03:44.78,Default,,0000,0000,0000,,แอดเดอร์ 8 บิทอาจใหญ่เท่าตู้เย็น\Nใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะคำนวณง่าย ๆ ได้ Dialogue: 0,0:03:45.10,0:03:50.06,Default,,0000,0000,0000,,วงจรคอมพิวเตอร์ปัจจุบันมีจนาวจิ๋ว\Nและไวกว่ามาก Dialogue: 0,0:03:50.58,0:03:53.20,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมเล็กกว่าแล้วยังไวกว่า Dialogue: 0,0:03:53.20,0:03:58.14,Default,,0000,0000,0000,,เพราะยิ่งวงจรเล็ก\Nสัญญาณไฟฟ้ายิ่งไม่ต้องเดินทางไกล Dialogue: 0,0:03:58.36,0:04:04.34,Default,,0000,0000,0000,,สัญญาณไฟฟ้าเดินทางไวพอกับแสง\Nวงจรยุคนี้จึงคำนวณหลักพันล้านได้ใน 1 วินาที Dialogue: 0,0:04:05.32,0:04:10.72,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเล่นเกม บันทึกวีดีโอ\Nหรือ สำรวจจักรวาล Dialogue: 0,0:04:11.86,0:04:18.02,Default,,0000,0000,0000,,ทุกสิ่งที่คุณใช้เทคโนโลยีทำ \Nต้องประมวลผลมากมายอย่างรวดเร็ว Dialogue: 0,0:04:18.86,0:04:24.90,Default,,0000,0000,0000,,เบื้องหลังความซับซ้อนนี้คือ\Nวงจรจิ๋วมากมายที่เปลี่ยนสัญญาณฐานสอง Dialogue: 0,0:04:24.90,0:04:27.72,Default,,0000,0000,0000,,เป็นเว็บไซต์ วีดีโอ เพลงและเกมส์ Dialogue: 0,0:04:27.72,0:04:31.96,Default,,0000,0000,0000,,วงจรพวกนี้ยังช่วยเราถอดรหัสดีเอ็นเอ\Nเพื่อวินิจฉัยและรักษาโรคด้วย Dialogue: 0,0:04:31.96,0:04:34.92,Default,,0000,0000,0000,,แล้วคุณล่ะ\Nอยากใช้วงจรพวกนี้ทำอะไร