WEBVTT 00:00:00.913 --> 00:00:03.110 ผมเป็นประสาทศัลยแพทย์ 00:00:03.134 --> 00:00:07.462 และผมมาในวันนี้เพื่อบอกคุณว่า คนอย่างผมต้องการให้คุณช่วย 00:00:08.119 --> 00:00:10.143 อีกสักครู่ ผมจะบอกว่าต้องทำอย่างไร NOTE Paragraph 00:00:10.167 --> 00:00:14.287 แต่อย่างแรก ผมขอเริ่มด้วยการบอกคุณ เกี่ยวกับคนไข้ของผมคนหนึ่ง 00:00:14.311 --> 00:00:16.954 เธอเป็นหญิงอายุราว ๆ 50 ปี 00:00:16.978 --> 00:00:19.025 โดยทั่วไปเธอมีรูปร่างที่ดี 00:00:19.049 --> 00:00:21.437 แต่เธอเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล มาสองสามครั้งแล้ว 00:00:21.461 --> 00:00:24.688 เพื่อรับการรักษามะเร็งเต้านม 00:00:25.768 --> 00:00:28.641 ขณะนั้นเธอมีอาการปลิ้นของหมอนรองกระดูกคอ 00:00:28.665 --> 00:00:32.339 ทำให้เธอมีอาการปวดร้าวกระจาย 00:00:32.363 --> 00:00:34.307 ไปที่แขนขวา 00:00:35.061 --> 00:00:37.823 เมื่อดูผลการตรวจ MRI ก่อนที่จะให้คำปรึกษา 00:00:37.847 --> 00:00:39.616 ผมตัดสินใจเสนอให้ผ่าตัด 00:00:40.411 --> 00:00:44.852 ในปัจจุบัน การผ่าตัดที่คอในลักษณะนี้ ได้มาตรฐานและรวดเร็ว 00:00:45.279 --> 00:00:46.890 แต่ก็มีความเสี่ยง 00:00:46.914 --> 00:00:49.064 คุณเจาะเข้าไปตรงนี้ 00:00:49.088 --> 00:00:51.945 ผ่าเข้าไปอย่างระมัดระวังผ่านหลอดลม 00:00:51.969 --> 00:00:53.307 หลอดอาหาร 00:00:53.331 --> 00:00:56.568 และพยายามไม่ตัดโดน หลอดเลือดแดงหลักของคอด้านใน NOTE Paragraph 00:00:56.592 --> 00:00:57.815 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:00:57.815 --> 00:01:00.067 จากนั้นก็เอากล้องจุลทรรศน์ส่องเข้าไป 00:01:00.081 --> 00:01:02.514 และนำหมอนรองกระดูกและส่วนที่ปลิ้นออก อย่างระมัดระวัง 00:01:02.538 --> 00:01:03.728 ในช่องทางเส้นประสาท 00:01:03.752 --> 00:01:05.871 โดยไม่ทำให้ไขสันหลัง และเส้นประสาทเสียหาย 00:01:05.895 --> 00:01:08.209 ซึ่งอยู่ข้างใต้แค่เพียงไม่กี่มิลลิเมตร 00:01:08.625 --> 00:01:11.085 กรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ ไขสันหลังได้รับความเสียหาย 00:01:11.109 --> 00:01:15.267 ซึ่งอาจทำให้เป็นอัมพาตจากคอลงมา NOTE Paragraph 00:01:16.673 --> 00:01:19.205 เมื่ออธิบายเรื่องนี้กับคนไข้ เธอนิ่งเงียบไป 00:01:19.229 --> 00:01:20.436 และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง 00:01:20.460 --> 00:01:24.244 เธอก็พูดคำที่ชี้ขาดอย่างยิ่ง สำหรับผมและเธอ 00:01:25.887 --> 00:01:29.371 "คุณหมอคะ นี่จำเป็นจริง ๆ หรือคะ?" NOTE Paragraph 00:01:29.395 --> 00:01:30.883 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:01:32.101 --> 00:01:35.034 และคุณรู้ไหมว่าผมตระหนักได้ถึงอะไร ณ ตรงนั้น ตอนนั้น 00:01:35.418 --> 00:01:36.568 มันไม่จำเป็น 00:01:37.561 --> 00:01:40.585 นั้นทำให้เมื่อผมได้คนไข้ ที่เหมือนผู้หญิงคนนี้มา 00:01:40.609 --> 00:01:43.085 ผมมีแนวโน้มแนะนำให้ไม่ผ่าตัด 00:01:43.665 --> 00:01:45.798 ดังนั้น อะไรทำให้ผมตอบเช่นนี้ในตอนนั้น? 00:01:47.153 --> 00:01:48.805 ครับ คุณก็เห็น 00:01:48.829 --> 00:01:51.065 ส่วนที่ปลิ้นออกมานี้นำออกง่ายมาก 00:01:51.089 --> 00:01:54.780 ผมสามารถมองเห็นตัวเอง ดึงมันออกมาจากช่องผ่านเส้นประสาท 00:01:54.804 --> 00:01:57.280 ก่อนที่เธอจะเข้ามาในห้องตรวจเสียอีก 00:01:57.907 --> 00:02:00.907 ผมต้องยอมรับ ผมอยากผ่าตัดเธอ 00:02:01.359 --> 00:02:03.232 ผมรักการผ่าตัด 00:02:03.256 --> 00:02:06.873 การผ่าตัด ไม่ว่าจะยังไง มันก็เป็นส่วนที่สนุกที่สุดในงานของผม NOTE Paragraph 00:02:06.897 --> 00:02:09.531 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:02:10.538 --> 00:02:12.728 ผมคิดว่าคุณเข้าใจความรู้สึกนี้นะ 00:02:12.752 --> 00:02:16.633 เพื่อนบ้านของผมที่เป็นสถาปนิกบอกว่า เขารักที่จะแค่นั่งวาดรูปเฉย ๆ 00:02:16.657 --> 00:02:18.093 และออกแบบบ้าน 00:02:18.117 --> 00:02:19.490 เขาชอบทำแบบนั้นทั้งวัน 00:02:19.514 --> 00:02:23.406 มากกว่าพูดคุยกับลูกค้า ที่จ่ายเงินสำหรับบ้านหลังนั้น 00:02:23.430 --> 00:02:26.374 ซึ่งลูกค้าอาจจะบอกเขาให้จำกัดในสิ่งที่จะทำ 00:02:27.073 --> 00:02:28.348 ก็เหมือนกับสถาปนิก 00:02:28.372 --> 00:02:31.358 ศัลยแพทย์ต้องมองเข้าไปในดวงตาของผู้ป่วย 00:02:31.382 --> 00:02:32.847 และพร้อมกับผู้ป่วย 00:02:32.871 --> 00:02:36.865 ทั้งสองต้องตัดสินใจว่าอะไรดีที่สุด สำหรับผู้ป่วยที่จะได้รับการผ่าตัด 00:02:38.264 --> 00:02:39.684 นั่นอาจจะฟังดูง่าย 00:02:39.708 --> 00:02:42.329 แต่ขอให้มาดูสถิติบางอย่างกัน NOTE Paragraph 00:02:44.009 --> 00:02:47.107 ต่อมทอลซิลเป็นก้อนนูน อยู่ในด้านหลังของคอ 00:02:47.419 --> 00:02:49.569 มันสามารถผ่าตัดนำออกไปได้ 00:02:49.593 --> 00:02:51.649 และนั่นเรียกกันว่า การตัดต่อมทอนซิล 00:02:51.673 --> 00:02:55.974 แผนภูมินี้แสดงอัตราการตัดต่อมทอนซิล ในประเทศนอร์เวย์ 00:02:55.998 --> 00:02:57.427 ในเขตต่าง ๆ 00:02:57.451 --> 00:03:01.133 สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีโอกาสแค่ 2 ครั้ง 00:03:01.157 --> 00:03:04.688 ที่ลูกของคุณ เพราะว่านี่เป็นเรื่องของเด็กนะ 00:03:04.712 --> 00:03:08.250 จะได้ผ่าตัดต่อมทอนซิลในเขตฟินน์มาร์ก มากกว่าในเขตทรอนด์เฮม 00:03:08.862 --> 00:03:11.613 ตัวชี้วัดในทั้งสองเขตนั้นเหมือนกัน 00:03:12.196 --> 00:03:14.452 มันควรจะไม่มีความแตกต่างกัน แต่มันมีครับ NOTE Paragraph 00:03:14.759 --> 00:03:16.211 นี่เป็นอีกแผนภูมิหนึ่ง 00:03:16.235 --> 00:03:18.403 หมอนรองกระดูกช่วยทำให้เข่ามั่นคง 00:03:18.427 --> 00:03:20.683 แต่มันอาจฉีกหรือขาดเป็นชิ้น ๆ อย่างรุนแรงได้ 00:03:20.707 --> 00:03:23.107 โดยอย่างยิ่งขณะเล่นกีฬา เช่น ฟุตบอล 00:03:23.625 --> 00:03:26.861 ที่คุณเห็นตรงนี้เป็นอัตราการผ่าตัด สำหรับอาการนี้ 00:03:27.354 --> 00:03:31.125 และคุณก็เห็นว่าอัตราการผ่าตัดใน เขตเมอร์อุกรุมสดาล 00:03:31.149 --> 00:03:34.834 เป็น 5 เท่า ของการผ่าตัดในเขตสตาวังเงร์ 00:03:35.427 --> 00:03:36.775 5 เท่า 00:03:37.133 --> 00:03:38.418 เป็นไปได้อย่างไรครับ? 00:03:38.442 --> 00:03:40.424 นักฟุตบอลในเขตเมอร์อุกรุมสดาล 00:03:40.448 --> 00:03:42.599 เล่นสกปรกกว่าที่อื่น ๆ ในประเทศหรือ? NOTE Paragraph 00:03:42.623 --> 00:03:44.265 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:44.815 --> 00:03:45.965 ไม่น่าจะใช่ 00:03:47.109 --> 00:03:49.268 ตอนนี้ผมได้เพิ่มข้อมูลแล้ว 00:03:49.292 --> 00:03:51.442 สิ่งที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้ คือ กระบวนการที่เกิดขึ้น 00:03:51.466 --> 00:03:53.498 ในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งเป็นสีฟ้าอ่อน 00:03:53.522 --> 00:03:56.506 คลินิกเอกชนเป็นสีเขียวอ่อน 00:03:56.530 --> 00:03:59.880 มีกระบวนการนี้เกิดขึ้นมากในคลินิกเอกชน 00:03:59.904 --> 00:04:01.837 ในเขตเมอร์อุกรุมสดาล ใช่ไหมครับ? 00:04:02.363 --> 00:04:03.736 เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงอะไร? 00:04:03.760 --> 00:04:07.696 แรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ ในการรักษาผู้ป่วย 00:04:08.522 --> 00:04:09.672 ยังมีมากกว่านี้อีก NOTE Paragraph 00:04:11.577 --> 00:04:15.340 การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างของผลการรักษา 00:04:15.364 --> 00:04:18.815 ระหว่างการบำบัดทางกายภาพอย่างสม่ำเสมอ และการผ่าตัดหัวเข่า 00:04:18.839 --> 00:04:20.363 ไม่แตกต่างกันเลย 00:04:20.387 --> 00:04:24.142 หมายความว่ากระบวนการที่เกิดขึ้น 00:04:24.166 --> 00:04:26.372 บนแผนภูมิที่เพิ่งแสดงให้ดูนั้น 00:04:26.396 --> 00:04:29.047 สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้กระทั่งในเขตสตาวังเงร์ 00:04:29.785 --> 00:04:32.222 ดังนั้น สิ่งที่ผมกำลังพยายามบอกคุณ ตรงนี้คืออะไร? 00:04:32.246 --> 00:04:37.371 ถึงแม้ว่าตัวบ่งชี้ส่วนใหญ่ สำหรับการรักษาในโลกนั้น 00:04:37.395 --> 00:04:38.561 ได้มาตรฐาน 00:04:38.585 --> 00:04:42.879 ยังมีตัวแปรที่ไม่จำเป็นต่อการตัดสินใจ ในการรักษาอีกมากมาย 00:04:42.903 --> 00:04:44.736 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกตะวันตก 00:04:45.572 --> 00:04:48.748 บางคนไม่ได้รับการรักษา ตามที่พวกเขาควรจะได้ 00:04:49.493 --> 00:04:52.146 แต่พวกคุณส่วนใหญ่แล้ว 00:04:52.150 --> 00:04:54.249 กลับได้รับการรักษาที่มากเกินไป NOTE Paragraph 00:04:56.649 --> 00:04:59.434 "คุณหมอ นี่มันจำเป็นจริง ๆ หรือ?" 00:04:59.458 --> 00:05:02.450 ผมเคยได้ยินคำถามนั้นแค่ครั้งเดียว ในอาชีพของผม 00:05:02.474 --> 00:05:06.332 เพื่อนร่วมงานของผมบอกว่า พวกเขาไม่เคยได้ยินคำนี้จากผู้ป่วยเลย 00:05:07.431 --> 00:05:09.185 และในทางกลับกัน 00:05:09.209 --> 00:05:11.764 คุณคิดว่า คุณจะได้คำตอบ "ไม่จำเป็น" จากแพทย์บ่อยมากขนาดไหน 00:05:11.788 --> 00:05:13.588 ถ้าคุณถามคำถามแบบนี้? 00:05:14.487 --> 00:05:16.196 นักวิจัยได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว 00:05:16.220 --> 00:05:18.973 และพวกเขาก็ได้ผลที่เท่า ๆ ออกมาว่า อัตราคำตอบ "ไม่จำเป็น" 00:05:18.997 --> 00:05:20.164 ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน 00:05:20.188 --> 00:05:21.895 นั้นคือ 30 เปอร์เซ็นต์ 00:05:21.919 --> 00:05:25.886 หมายความว่า 3 ใน 10 ครั้งนั้น 00:05:25.910 --> 00:05:29.449 แพทย์ของคุณจะสั่งยาหรือแนะนำบางอย่าง 00:05:29.473 --> 00:05:32.147 ที่ไม่จำเป็นเลย 00:05:34.545 --> 00:05:37.434 และคุณรู้ไหมว่าพวกเขาอ้างเหตุผลอะไร? 00:05:38.117 --> 00:05:39.267 แรงกดดันจากผู้ป่วย 00:05:40.832 --> 00:05:42.165 กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คุณ 00:05:42.943 --> 00:05:44.943 คุณต้องการให้ทำอะไรสักอย่าง NOTE Paragraph 00:05:46.665 --> 00:05:49.061 เพื่อนผมคนหนึ่งมาหาผม เพื่อขอคำแนะนำทางแพทย์ 00:05:49.085 --> 00:05:50.237 เขาเป็นนักกีฬา 00:05:50.261 --> 00:05:53.815 เขาเล่นสกีข้ามประเทศมามาก ในช่วงฤดูหนาว 00:05:53.839 --> 00:05:55.545 เขาวิ่งในฤดูร้อน 00:05:55.569 --> 00:05:59.569 และครั้งนี้ เขามีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง เมื่อไรก็ตามที่เขาวิ่งออกกำลังกาย 00:05:59.593 --> 00:06:01.786 มันปวดมากจนเขาต้องหยุดวิ่ง 00:06:03.053 --> 00:06:06.357 ผมได้ทำการตรวจ ผมถามเขาอย่างละเอียด 00:06:06.381 --> 00:06:09.515 และสิ่งที่พบก็คือ เขาน่าจะเป็น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม 00:06:09.539 --> 00:06:11.606 ตรงส่วนล่างของกระดูกสันหลัง 00:06:12.087 --> 00:06:14.450 เมื่อใดก็ตามที่มันตึง มันจะเจ็บ 00:06:16.165 --> 00:06:18.513 เขาได้ลองไปว่ายน้ำ แทนการวิ่งออกกำลังกายแล้ว 00:06:18.513 --> 00:06:20.062 แต่ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นทำได้อีก 00:06:20.062 --> 00:06:22.196 ผมจึงบอกเขาไปว่า "คุณต้องรู้จักตัวเลือกให้มากขึ้น 00:06:22.220 --> 00:06:23.537 เมื่อมันเกี่ยวกับการฝึก 00:06:23.561 --> 00:06:25.164 กิจกรรมบางอย่างดีสำหรับคุณ 00:06:25.188 --> 00:06:26.418 แต่บางอย่างก็ไม่" 00:06:27.665 --> 00:06:28.957 คำตอบของเขาคือ 00:06:29.919 --> 00:06:31.719 “ผมอยากตรวจ MRI ดูที่หลังของผม” 00:06:33.776 --> 00:06:35.155 "ทำไมคุณถึงอยากตรวจ MRI ล่ะ?” 00:06:36.236 --> 00:06:39.036 “ผมสามารถทำได้ฟรี เพราะมีประกันจากที่ทำงาน” 00:06:39.807 --> 00:06:42.926 "ไม่เอาหน่า" ผมบอก ถึงอย่างไรก็เขาเป็นเพื่อนผม 00:06:42.950 --> 00:06:44.832 "นั่นไม่ใช่เหตุผลจริง ๆ สักหน่อย" 00:06:44.856 --> 00:06:49.356 "คือ ผมคิดว่ามันน่าจะดี ที่เห็นว่าตรงนั้นมันแย่ขนาดไหน" 00:06:51.094 --> 00:06:54.039 "คุณเริ่มคิดไปถึงการตวรจ MRI ตั้งแต่เมื่อไร?" ผมบอก NOTE Paragraph 00:06:54.063 --> 00:06:56.113 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:06:56.137 --> 00:06:57.589 "เชื่อผมเถอะ 00:06:58.026 --> 00:07:00.086 คุณไม่จำเป็นต้องตรวจ MRI หรอก" 00:07:00.780 --> 00:07:02.533 "ถ้างั้น" เขาบอก 00:07:02.557 --> 00:07:05.478 และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อว่า "มันอาจจะเป็นมะเร็งก็ได้ไง" NOTE Paragraph 00:07:05.869 --> 00:07:08.073 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:07:08.097 --> 00:07:09.897 ก็แน่นอนครับ เขาได้ตรวจ MRI 00:07:10.907 --> 00:07:12.541 และด้วยประกันจากที่ทำงาน 00:07:12.565 --> 00:07:14.605 เขาก็ได้ไปพบกับเพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่ง 00:07:14.615 --> 00:07:16.776 ซึ่งบอกเขาเกี่ยวกับ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม 00:07:16.780 --> 00:07:18.196 และบอกว่าทำอะไรกับมันไม่ได้ 00:07:18.220 --> 00:07:21.605 นอกจากเขาควรจะว่ายน้ำต่อไป และเลิกวิ่งออกกำลังกายเสีย 00:07:24.196 --> 00:07:26.260 หลังจากนั้นไม่นานนัก ผมพบเขาอีกครั้ง และเขาก็บอกว่า 00:07:26.284 --> 00:07:28.237 "อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร" NOTE Paragraph 00:07:28.712 --> 00:07:30.331 แต่ผมขอถามคุณสักหน่อย 00:07:30.355 --> 00:07:34.474 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนในห้องนี้ ที่มีอาการแบบเดียวกัน ได้รับการตรวจ MRI? 00:07:34.498 --> 00:07:37.188 และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนในนอร์เวย์ 00:07:37.212 --> 00:07:40.822 ได้รับการตรวจ MRI เพราะอาการปวดหลังเป็นครั้งคราว? 00:07:42.061 --> 00:07:45.673 คิวที่รอตรวจ MRI ก็จะยาวขึ้น เป็น 4 เท่า หรืออาจมากกว่านั้น 00:07:46.180 --> 00:07:48.945 และคุณก็จะไปแย่งที่ในคิวนั้น 00:07:48.969 --> 00:07:51.302 ไปจากคนที่เป็นมะเร็งจริง ๆ 00:07:51.919 --> 00:07:55.491 ดังนั้นบางครั้งแพทย์ที่ดีก็อาจบอกปฏิเสธได้ 00:07:55.515 --> 00:07:59.864 แต่คนไข้ที่มีเหตุผลบางครั้งก็ปฏิเสธ 00:07:59.864 --> 00:08:02.678 โอกาสที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัย หรือการรักษาด้วยเหมือนกัน NOTE Paragraph 00:08:04.782 --> 00:08:08.083 "คุณหมอ นี่มันจำเป็นจริง ๆ หรือ?" 00:08:08.472 --> 00:08:11.789 ผมรู้ว่าคำถามนี้ อาจเป็นคำถามที่ยากที่จะถาม 00:08:12.377 --> 00:08:14.276 ที่จริงถ้าคุณกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน 00:08:14.300 --> 00:08:16.653 คำถามนี้ถือว่าหยาบคายมากเลยนะ NOTE Paragraph 00:08:16.677 --> 00:08:17.799 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:08:17.823 --> 00:08:20.269 หากแพทย์ได้ตัดสินใจไปแล้ว ว่าจะทำอย่างไรกับคุณ 00:08:20.293 --> 00:08:21.627 นั่นก็เพราะคุณนั่นแหละ 00:08:23.544 --> 00:08:25.843 เพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป 00:08:25.843 --> 00:08:30.184 เคยถูกส่งไปสถานพักฟื้นผู้ป่วยวัณโรค ในขณะที่เธอยังเป็นเด็ก 00:08:30.208 --> 00:08:31.367 นานถึง 6 เดือน 00:08:31.391 --> 00:08:33.248 มันเป็นบาดแผลที่เลวร้ายสำหรับเธอ 00:08:33.703 --> 00:08:36.044 ภายหลังเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอกลับพบว่า 00:08:36.068 --> 00:08:39.609 การทดสอบวัณโรคของเธอนั้น มีผลเป็นลบมาตลอด 00:08:40.363 --> 00:08:44.012 แพทย์ได้ส่งเธอไปที่นั่นโดยไม่มีสาเหตุใด ๆ เลย นอกจากความสงสัยที่ผิด ๆ 00:08:44.419 --> 00:08:48.823 ไม่มีใครกล้า หรือกระทั่งคิด เผชิญหน้ากับแพทย์ในเรื่องนี้ 00:08:49.268 --> 00:08:50.668 แม้กระทั่งผู้ปกครองของเธอ NOTE Paragraph 00:08:51.506 --> 00:08:54.752 ในปัจจุบัน รัฐมนตรีสาธารณสุขนอร์เวย์ 00:08:54.776 --> 00:08:58.156 พูดถึงการบริการดูแลสุขภาพผู้ป่วย 00:08:58.680 --> 00:09:03.086 ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เกี่ยวกับสิ่งที่ควรจะทำ 00:09:04.340 --> 00:09:06.181 นี่เป็นความก้าวหน้าที่ใหญ่ยิ่ง 00:09:06.205 --> 00:09:09.586 แต่มันก็นำความรับผิดชอบมาให้ท่านมากขึ้น 00:09:09.919 --> 00:09:12.836 คุณจำเป็นต้องอยู่แถวหน้ากับแพทย์ของคุณ 00:09:12.860 --> 00:09:15.007 และเริ่มต้นช่วยกันตัดสินใจว่าจะไปทางไหน NOTE Paragraph 00:09:15.420 --> 00:09:18.983 ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณ อยู่ในห้องตรวจกับแพทย์ 00:09:19.007 --> 00:09:20.896 ผมอยากให้คุณถามว่า 00:09:20.920 --> 00:09:23.983 "คุณหมอ นี่มันจำเป็นจริง ๆ หรือ?" 00:09:24.315 --> 00:09:26.624 และในกรณีผู้ป่วยหญิงของผม 00:09:26.648 --> 00:09:28.958 คำตอบก็คือ ไม่จำเป็น 00:09:28.982 --> 00:09:31.649 แต่ควรมีเหตุที่สมควรแก่การผ่าตัด NOTE Paragraph 00:09:32.165 --> 00:09:36.886 "ถ้างั้นคุณหมอ การผ่าตัด มีความเสี่ยงอะไรที่พ่วงมาด้วย?” 00:09:37.488 --> 00:09:42.942 คือ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย จะมีอาการเจ็บปวดที่เลวร้ายยิ่งขึ้น 00:09:43.427 --> 00:09:45.141 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย 00:09:45.165 --> 00:09:48.180 จะมีการติดเชื้อที่แผล หรืออาจมีการตกเลือดอีกครั้ง 00:09:48.204 --> 00:09:50.604 ซึ่งทำให้ต้องมีการผ่าตัดอีกครั้ง 00:09:52.069 --> 00:09:55.656 0.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย จะประสบกับเสียงแหบอย่างถาวรอีกด้วย 00:09:55.680 --> 00:09:57.474 และคนไม่กี่คน แต่ถึงแม้จะไม่กี่คน 00:09:57.498 --> 00:10:01.867 ก็จะประสบกับประสิทธิภาพของแขนหรือขาที่ลดลง NOTE Paragraph 00:10:03.163 --> 00:10:05.615 “คุณหมอ ถ้างั้นมีทางเลือกอื่นอีกไหม?” 00:10:06.131 --> 00:10:09.509 มีครับ การพักผ่อนและการกายภาพบำบัดทาง สักระยะหนึ่ง 00:10:09.533 --> 00:10:11.559 อาจทำให้คุณหายได้อย่างสมบูรณ์ NOTE Paragraph 00:10:13.105 --> 00:10:15.835 “และจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย?” 00:10:15.859 --> 00:10:17.034 ผมไม่แนะนำนะครับ 00:10:17.058 --> 00:10:20.089 แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีโอกาสอีกเล็กน้อย ที่คุณจะหายป่วย 00:10:21.002 --> 00:10:22.152 4 คำถาม 00:10:22.780 --> 00:10:24.297 คำถามง่าย ๆ 00:10:24.321 --> 00:10:28.678 ถือว่าเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยคุณ 00:10:28.702 --> 00:10:30.313 นี่มันจำเป็นจริง ๆ หรือ? 00:10:30.337 --> 00:10:32.130 มีความเสี่ยงอะไรบ้าง? 00:10:32.154 --> 00:10:33.710 มีทางเลือกอื่นไหม? 00:10:33.734 --> 00:10:36.894 จะเกิดอะไร ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย? 00:10:37.334 --> 00:10:41.381 ถามคำถามเหล่านี้ เมื่อแพทย์ของคุณ อยากส่งคุณไปตรวจ MRI 00:10:41.405 --> 00:10:43.698 เมื่อเขาสั่งยาปฏิชีวนะ 00:10:43.722 --> 00:10:45.825 หรือแนะนำให้ผ่าตัด NOTE Paragraph 00:10:46.282 --> 00:10:47.990 สิ่งที่เรารู้จากงานวิจัย 00:10:48.014 --> 00:10:51.204 คือ 1 ใน 5 ของคุณ หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ 00:10:51.228 --> 00:10:53.759 จะเปลี่ยนแปลงความคิดว่าควรจะทำอะไร 00:10:54.624 --> 00:10:57.966 และเมื่อทำสิ่งนั้น คุณจะไม่เพียงแค่ทำให้ชีวิตของคุณ 00:10:57.990 --> 00:11:01.552 ง่ายขึ้นมาก หรืออาจดีขึ้นด้วยซ้ำ 00:11:01.556 --> 00:11:04.472 แต่จะทำให้ภาคส่วนของการดูแลสุขภาพทั้งหมดนั้น 00:11:04.496 --> 00:11:06.746 ได้รับประโยชน์จากการตัดสินใจของคุณด้วย NOTE Paragraph 00:11:07.354 --> 00:11:08.536 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:11:08.560 --> 00:11:12.246 (เสียงปรบมือ)