1 00:00:06,728 --> 00:00:11,616 ชาร์ลส์ ดาร์วิน, ไมเคิล จอร์แดน และโยดา มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง 2 00:00:11,616 --> 00:00:16,623 พวกเขาหัวล้านเหมือนกับบุคคลสำคัญมากมาย ในประวัติศาสตร์หรือในนิยาย 3 00:00:16,623 --> 00:00:19,034 ในบางกรณีพวกเขาเลือกที่จะหัวล้านเอง 4 00:00:19,034 --> 00:00:23,151 โดมกลมๆที่เปล่งประกายเป็นสัญลักษณ์ ของความฉลาดเป็นเวลาหลายศตวรรษ 5 00:00:23,151 --> 00:00:28,644 ถึงกระนั้นก็ตาม คนหัวล้านมากมายยังคง หวังว่าผมของพวกเขาจะกลับคืนมา 6 00:00:28,644 --> 00:00:30,662 นักวิทยาศาสตร์ได้ไตร่ตรองอยู่นานว่า 7 00:00:30,662 --> 00:00:35,322 "ทำไมบางคนเสียเส้นผมไปและทำอย่างไร พวกเราจะทำให้เส้นผมกลับคืนมา" 8 00:00:35,322 --> 00:00:41,643 คนที่มีผมเต็มศีรษะ มีผม ประมาณ 100,000 ถึง 150,000 เส้นบนหนังศึรษะ 9 00:00:41,643 --> 00:00:45,566 และนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสองประเด็น เกี่ยวกับเจ้าพุ่มหนาแน่นนี้ 10 00:00:45,566 --> 00:00:50,194 ประการแรก เส้นผมอุยที่พวกเราเห็น เกิดขึ้นมาจากเคราติน 11 00:00:50,194 --> 00:00:54,745 โปรตีนที่เหลือจากเซลล์ตาย ที่ถูกดันขึ้นไป 12 00:00:54,745 --> 00:00:57,319 ขณะที่เซลล์ใหม่เติบโตข้างใต้มัน 13 00:00:57,319 --> 00:01:00,119 ประการที่สอง โครงสร้างที่ทำให้ เกิดการเติบโตของเส้นผม 14 00:01:00,119 --> 00:01:02,076 เรียกว่า ปุ่มรากผม 15 00:01:02,076 --> 00:01:06,572 เครือข่ายอวัยวะซับซ้อนที่ ถูกสร้างขึ้นก่อนพวกเราเกิด 16 00:01:06,572 --> 00:01:10,260 และทำให้เส้นผมเกิดขึ้นมา ในวัฏจักรที่ไม่รู้จบ 17 00:01:10,260 --> 00:01:12,483 วัฏจักรนี้มี 3 ระยะหลักๆ 18 00:01:12,483 --> 00:01:15,728 ระยะแรกคือ อนาเจน เป็นระยะเติบโต 19 00:01:15,728 --> 00:01:20,741 กว่า 90% ของปุ่มรากผมอยู่ในระยะนี้ 20 00:01:20,741 --> 00:01:24,980 ทำให้พวกมันดันเส้นผมขึ้นมา ในอัตรา 1 เซนติเมตรต่อเดือน 21 00:01:24,980 --> 00:01:29,573 อนาเจนสามารถอยู่ได้เป็นเวลาสองถึงเจ็ดปี ขึ้นอยู่กับยีนของคุณ 22 00:01:29,573 --> 00:01:31,371 หลังจากระยะเวลาการเติบโตนี้ 23 00:01:31,371 --> 00:01:36,316 สัญญาณภายในผิวหนังจะบอกปุ่มรากผม ให้เข้าสู่ระยะใหม่ 24 00:01:36,316 --> 00:01:39,819 ที่รู้จักกันในชื่อ คาทาเจน (catagen) หรือระยะถดถอย 25 00:01:39,819 --> 00:01:44,413 ทำให้ปุ่มรากผมหดตัวเหลือส่วนสั้นๆ ของความยาวดั้งเดิมของมัน 26 00:01:44,413 --> 00:01:47,299 คาทาเจนดำรงอยู่ได้ประมาณสองถึงสามสัปดาห์ 27 00:01:47,299 --> 00:01:51,993 และไม่ส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงปุ่มรากผม ทำให้ผมเป็นกระเปาะ 28 00:01:51,993 --> 00:01:54,147 หมายความว่ามันพร้อมที่จะร่วงแล้ว 29 00:01:54,147 --> 00:01:57,609 ในที่สุด เส้นผมก็เข้าสู่ระยะ เทโลเจน (telogen) เป็นระยะพัก 30 00:01:57,609 --> 00:01:59,894 ซึ่งนาน 10 ถึง 12 สัปดาห์ 31 00:01:59,894 --> 00:02:03,978 และมีผลต่อ 5-15% ของปุ่มรากผมที่หนังศีรษะ 32 00:02:03,978 --> 00:02:08,862 ในระยะเทโลเจน เส้นผมที่เป็นกระเปาะ สามารถร่วงได้ภายในวันเดียวถึง 200 เส้น 33 00:02:08,862 --> 00:02:10,333 ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ 34 00:02:10,333 --> 00:02:13,411 หลังจากนั้น วัฏจักรการเติบโต ก็เริ่มต้นอีกครั้ง 35 00:02:13,411 --> 00:02:15,795 แต่ไม่ใช่ศีรษะทั้งหมดจะมีผมดก 36 00:02:15,795 --> 00:02:19,700 และ อันที่จริง ผมที่ศีรษะของบางคน ขึ้นเป็นหย่อมๆมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 37 00:02:19,700 --> 00:02:22,430 ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย 38 00:02:22,430 --> 00:02:28,029 95%ของการมีหัวล้านในผู้ชายสามารถ เชื่อมโยงกับรูปแบบหัวล้านของเพศชาย 39 00:02:28,029 --> 00:02:29,825 หัวล้านเป็นกรรมพันธุ์ 40 00:02:29,825 --> 00:02:31,594 และในคนที่เป็นแบบนี้ 41 00:02:31,594 --> 00:02:36,983 ปุ่มรากผมจะไวอย่างไม่น่าเชื่อต่อฤทธิ์ของ ดีไฮโดรเทสทอสเทอโรน (ดีเอชที) 42 00:02:36,983 --> 00:02:40,014 ผลิตผลทางฮอร์โมนที่เกิดจากเทสทอสเทอโรน 43 00:02:40,014 --> 00:02:45,052 ดีเอชทีทำให้เกิดการหดตัว ในปุ่มรากผมที่แสนจะอ่อนไหวเหล่านี้ 44 00:02:45,052 --> 00:02:47,750 ทำให้ผมสั้นขึ้นและบางลง 45 00:02:47,750 --> 00:02:49,804 แต่การสูญเสียไม่ได้เกิดขึ้นในทันที 46 00:02:49,804 --> 00:02:54,042 มันเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ตามมาตรวัดที่เรียกว่า นอร์วูดสเกล (Norwood Scale) 47 00:02:54,042 --> 00:02:57,287 ซึ่งบอกถึงความรุนแรงของการสูญเสียผม 48 00:02:57,287 --> 00:02:59,758 ประการแรก ผมจะถอยร่นตามแนวขมับ 49 00:02:59,758 --> 00:03:04,574 จากนั้นผมบนกระหม่อมจะเริ่มบางลง เป็นรูปวงกลม 50 00:03:04,574 --> 00:03:06,794 ที่ระดับสูงสุดตามมาตรวัดนี้ 51 00:03:06,794 --> 00:03:10,981 บริเวณที่หัวล้านจะบรรจบกัน และขยายออกไปอย่างรวดเร็ว 52 00:03:10,981 --> 00:03:15,300 ในที่สุดจะเหลือแต่วงผมหรอมแหรมรอบๆขมับ 53 00:03:15,300 --> 00:03:17,158 และด้านหลังของศีรษะ 54 00:03:17,158 --> 00:03:19,577 พันธุกรรมไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ผมร่วง 55 00:03:19,577 --> 00:03:24,162 ความเครียดเป็นเวลานานสามารถส่งสัญญาณ ที่ช็อกปุ่มรากผม 56 00:03:24,162 --> 00:03:27,635 และบังคับมันเข้าสู่ระยะพัก ก่อนเวลาอันควร 57 00:03:27,635 --> 00:03:30,470 ผู้หญิงบางคนประสบกับปัญหานี้ หลังจากคลอดลูก 58 00:03:30,470 --> 00:03:35,980 ปุ่มรากผมจะเสียความสามารถในการ เข้าสู่ระยะอนาเจน ซึ่งเป็นระยะเติบโต 59 00:03:35,980 --> 00:03:40,892 คนที่ผ่านการเคมีบำบัด ก็ประสบกับปัญหานี้ชั่วคราว 60 00:03:40,892 --> 00:03:42,825 แต่ขณะที่การมีหัวล้าน ดูเหมือนจะเป็นถาวร 61 00:03:42,825 --> 00:03:46,520 การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ได้เปิดเผยสิ่งที่ตรงกันข้าม 62 00:03:46,520 --> 00:03:48,253 ภายใต้ผิวหนัง 63 00:03:48,253 --> 00:03:52,502 รากผมที่ให้กำเนิดเส้นผมของพวกเรา อันที่จริงยังคงอยู่ 64 00:03:52,502 --> 00:03:53,965 ด้วยความรู้นี้ 65 00:03:53,965 --> 00:03:57,342 นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนายาที่ ทำให้ระยะพักสั้นลงได้ 66 00:03:57,342 --> 00:04:00,105 และบังคับให้ปุ่มรากผมเข้าสู่ระยะอนาเจน 67 00:04:00,105 --> 00:04:02,699 ยาตัวอื่นๆต่อสู้กับหัวล้านในเพศชาย 68 00:04:02,699 --> 00:04:06,973 โดยการขัดขวางการเปลี่ยนจาก เทสทอสเทอโรนไปเป็นดีเอชที 69 00:04:06,973 --> 00:04:10,386 เพื่อมันจะได้ไม่มีผลกับ ปุ่มรากผมที่อ่อนไหวเหล่านั้น 70 00:04:10,386 --> 00:04:13,914 สเต็มเซลล์ก็มีบทบาทในการควบคุม วัฏจักรการเติบโตอีกด้วย 71 00:04:13,914 --> 00:04:17,250 ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์กำลังตรวจสอบว่า พวกเขาจะควบคุม 72 00:04:17,250 --> 00:04:23,263 การทำงานของเซลล์เหล่านี้เพื่อกระตุ้น ปุ่มรากผมให้สร้างเส้นผมอีกครั้งได้หรือไม่ 73 00:04:23,263 --> 00:04:24,423 และในระหว่างนี้ 74 00:04:24,423 --> 00:04:27,240 ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ฝึกฝน วิธีการฟิ้นฟูผมของพวกเขา 75 00:04:27,240 --> 00:04:30,770 คนที่กำลังจะหัวล้าน หรือกำลังคิดว่าจะทำให้หัวล้าน 76 00:04:30,770 --> 00:04:33,404 จะนึกได้ว่า เขามีเพื่อนพวกเดียวกันเยอะ