1 00:00:01,000 --> 00:00:03,000 ผมมาที่นี่เมื่อสี่ปีก่อน 2 00:00:03,000 --> 00:00:05,000 และผมก็จำได้ว่า ในช่วงนั้น 3 00:00:05,000 --> 00:00:08,000 ไม่มีการนำการพูดมาไว้ออนไลน์ 4 00:00:08,000 --> 00:00:12,000 คิดว่าเค้าแจกให้สมาชิก TED ในกล่อง 5 00:00:12,000 --> 00:00:14,000 ใส่กล่อง DVD เป็นชุด 6 00:00:14,000 --> 00:00:17,000 ซึ่งพวกเขาก็นำไปวางไว้บนชั้นหนังสือ จนกระทั่งถึงตอนนี้ 7 00:00:17,000 --> 00:00:19,000 (หัวเราะ) 8 00:00:19,000 --> 00:00:21,000 จริงๆแล้วคริสโทรหาผม 9 00:00:21,000 --> 00:00:23,000 หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ผมพูดไป 10 00:00:23,000 --> 00:00:25,000 เขาบอกว่า เรากำลังจะนำการพูดทั้งหลายไปไว้ออนไลน์ 11 00:00:25,000 --> 00:00:28,000 เราจะนำสิ่งที่คุณพูดไปไว้ออนไลน์ด้วยได้ไหม ผมก็บอกว่า ได้เลยครับ 12 00:00:28,000 --> 00:00:30,000 และหลังจากนั้นสี่ปี 13 00:00:30,000 --> 00:00:32,000 ก็มีคนเข้ามาดูสี่... 14 00:00:32,000 --> 00:00:35,000 อืม มีคนโหลดไปประมาณสี่ล้านครั้ง 15 00:00:35,000 --> 00:00:38,000 ซึ่งผมก็คิดว่าถ้าคุณคูณจำนวนนั้นด้วยยี่สิบ 16 00:00:38,000 --> 00:00:40,000 คงได้จำนวนผู้ชมทั้งหมดโดยประมาณ 17 00:00:40,000 --> 00:00:44,000 และก็อย่างที่คริสพูด คือมันมีความหิวโหย 18 00:00:44,000 --> 00:00:46,000 ของวีดีโอผม 19 00:00:46,000 --> 00:00:49,000 (หัวเราะ) 20 00:00:49,000 --> 00:00:52,000 (ปรบมือ) 21 00:00:54,000 --> 00:00:55,000 ...คุณก็รู้สึกใช่ไหม 22 00:00:55,000 --> 00:00:58,000 (หัวเราะ) 23 00:01:00,000 --> 00:01:03,000 ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การเกริ่นนำอย่างอลังการ 24 00:01:03,000 --> 00:01:07,000 ที่จะให้ผมมาพูดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็มาถึงแล้วครับ 25 00:01:07,000 --> 00:01:08,000 (หัวเราะ) 26 00:01:10,000 --> 00:01:12,000 อัล กอร์ได้พูดไว้ 27 00:01:12,000 --> 00:01:15,000 ที่การประชุม TED คราวก่อน ที่ผมพูดด้วย 28 00:01:15,000 --> 00:01:17,000 เค้าได้พูดเรื่องวิกฤติของสภาพอากาศ 29 00:01:17,000 --> 00:01:19,000 ซึ่งผมก็ได้อ้างอิงไว้ 30 00:01:19,000 --> 00:01:21,000 ตอนท้ายของการพูดของผมคราวที่แล้ว 31 00:01:21,000 --> 00:01:23,000 ผมก็เลยอยากจะพูดต่อจากตรงนั้น 32 00:01:23,000 --> 00:01:26,000 เพราะจริงๆแล้วผมมีเวลาแค่สิบแปดนาที 33 00:01:26,000 --> 00:01:28,000 ก็อย่างที่ผมพูดนั่นแหละ 34 00:01:28,000 --> 00:01:33,000 (หัวเราะ) 35 00:01:36,000 --> 00:01:38,000 ว่าเค้าพูดถูกนะ 36 00:01:38,000 --> 00:01:41,000 ว่าในขณะนี้มันมีวิกฤติของสภาวะอากาศที่ใหญ่หลวงอย่างที่คุณทราบ 37 00:01:41,000 --> 00:01:44,000 ซึ่งผมก็คิดว่าถ้าใครไม่เชื่อ ก็ลองออกไปเดินข้างนอกดูสิครับ 38 00:01:44,000 --> 00:01:47,000 (หัวเราะ) 39 00:01:47,000 --> 00:01:50,000 แต่ผมเชื่อว่ายังมีวิกฤติของสภาวะอากาศอีกอย่างหนึี่ง 40 00:01:51,000 --> 00:01:53,000 ซึ่งรุนแรงไม่แพ้กัน 41 00:01:53,000 --> 00:01:56,000 และมีต้นกำเนิดเหมือนกัน 42 00:01:56,000 --> 00:01:59,000 และเราก็ต้องจัดการกับมันอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน 43 00:01:59,000 --> 00:02:01,000 และสิ่งที่ผมหมายถึง 44 00:02:01,000 --> 00:02:03,000 คือ คุณอาจจะบอกว่า "นี่ ผมพอแล้ว 45 00:02:03,000 --> 00:02:05,000 ผมมีวิกฤติของสภาวะอากาศอันนึงแล้ว 46 00:02:05,000 --> 00:02:08,000 ไม่ต้องมีอีกอันก็ได้ครับ" 47 00:02:08,000 --> 00:02:10,000 แต่วิกฤตินี้ไม่ใช่วิกฤติของทรัพยากรธรรมชาติ 48 00:02:10,000 --> 00:02:13,000 ถึงแม้ว่าผมว่าอันนั้นมันก็จริง 49 00:02:13,000 --> 00:02:15,000 แต่เป็นวิกฤติของทรัพยากรมนุษยชาติ 50 00:02:15,000 --> 00:02:17,000 ผมเชื่อมั่นอย่างมาก 51 00:02:17,000 --> 00:02:19,000 อย่างที่วิทยากรหลายท่านได้กล่าวถึงในช่วงสองสามวันมานี้ 52 00:02:19,000 --> 00:02:22,000 ว่าพวกเราใช้ประโยชน์ 53 00:02:22,000 --> 00:02:25,000 ของพรสวรรค์ของเราได้แย่มาก 54 00:02:25,000 --> 00:02:27,000 ผู้คนจำนวนมากที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิต 55 00:02:27,000 --> 00:02:30,000 โดยไม่รู้จริงๆเลยว่าพรสวรรค์ของพวกเขาคืออะไร 56 00:02:30,000 --> 00:02:32,000 หรือว่าเขามีมันอยู่บ้างไหม 57 00:02:32,000 --> 00:02:34,000 ผมได้พบปะผู้คนหลายประเภท 58 00:02:34,000 --> 00:02:37,000 ซึ่งไม่คิดว่าเขาทำอะไรเก่งสักอย่างเดียว 59 00:02:38,000 --> 00:02:41,000 จริงๆเดี๋ยวนี้ผมแบ่งโลกนี้ออกเป็นสองกลุ่ม 60 00:02:41,000 --> 00:02:44,000 เจอร์มี่ เบ็นแธม นักปราชญ์ประโยชน์นิยมผู้ยิ่งใหญ่ 61 00:02:44,000 --> 00:02:46,000 ได้เคยให้ความคิดนี้ไว้ 62 00:02:46,000 --> 00:02:48,000 เขาบอกว่า ในโลกนี้มีผู้คนอยู่สองแบบ 63 00:02:48,000 --> 00:02:50,000 คือคนที่แบ่งโลกนี้เป็นสองแบบ 64 00:02:50,000 --> 00:02:52,000 กับคนที่ไม่แบ่ง 65 00:02:52,000 --> 00:02:55,000 (หัวเราะ) 66 00:02:57,000 --> 00:02:59,000 อืม ผมแบ่ง 67 00:02:59,000 --> 00:03:01,000 (หัวเราะ) 68 00:03:04,000 --> 00:03:06,000 ผมพบผู้คนมากมาย 69 00:03:06,000 --> 00:03:09,000 ที่ไม่มีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาทำเลย 70 00:03:09,000 --> 00:03:11,000 เขาแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ 71 00:03:11,000 --> 00:03:13,000 อย่างเรื่อยเปื่อย 72 00:03:13,000 --> 00:03:15,000 ไม่ได้มีความรึ่นรมย์กับสิ่งที่พวกเขาทำ 73 00:03:15,000 --> 00:03:18,000 เขายอมทนอยู่กับมัน แทนที่จะมีความสุขกับมัน 74 00:03:18,000 --> 00:03:21,000 แล้วก็รอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ 75 00:03:21,000 --> 00:03:23,000 แต่ผมก็พบคนอืกแบบหนึ่ง 76 00:03:23,000 --> 00:03:25,000 ซึ่งรักในสิ่งที่เขาทำ 77 00:03:25,000 --> 00:03:27,000 มากจนเค้านึกไม่ออกว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก 78 00:03:27,000 --> 00:03:30,000 ถ้าคุณบอกพวกเขาว่า "เลิกทำสิ่งนี้เถอะ" เค้าคงงงว่าคุณพูดอะไร 79 00:03:30,000 --> 00:03:33,000 เพราะเขาบอกว่าที่เขาทำมันไม่ใช่งาน แต่มันคือชีวิตของเขา 80 00:03:33,000 --> 00:03:35,000 เพราะนี่คือตัวฉัน 81 00:03:35,000 --> 00:03:37,000 ถ้าจะให้เลิกทำสิ่งนี้ก็โง่สิ 82 00:03:37,000 --> 00:03:39,000 เพราะมันคือสิ่งที่สื่อตรงกับตัวตนจริงๆของฉัน 83 00:03:39,000 --> 00:03:42,000 แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนี้กับคนจำนวนมากพอ 84 00:03:42,000 --> 00:03:44,000 จริงๆค่อนข้างตรงข้ามนะ ผมว่า 85 00:03:44,000 --> 00:03:46,000 คนที่คิดอย่างนี้ เป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น 86 00:03:46,000 --> 00:03:48,000 และผมก็คิดว่ามันมี 87 00:03:48,000 --> 00:03:50,000 คำอธิบายที่เป็นไปได้อยู่หลายอย่าง 88 00:03:50,000 --> 00:03:52,000 และที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง 89 00:03:52,000 --> 00:03:54,000 คือการศึกษา 90 00:03:54,000 --> 00:03:56,000 เพราะการศึกษานี่เอง 91 00:03:56,000 --> 00:03:58,000 ที่เป็นตัวดึงผู้คนจำนวนมาก 92 00:03:58,000 --> 00:04:00,000 ออกห่างจากพรสวรรค์ของพวกเขา 93 00:04:00,000 --> 00:04:03,000 และทรัพยากรมนุษย์ก็เหมือนกับทรัพยากรธรรมชาติ 94 00:04:03,000 --> 00:04:05,000 ซึ่งส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ในที่ลึกๆ 95 00:04:05,000 --> 00:04:07,000 คุณต้องออกไปค้นหามัน 96 00:04:07,000 --> 00:04:09,000 มันไม่ได้วางๆอยู่บนพื้นให้เห็นง่ายๆ 97 00:04:09,000 --> 00:04:12,000 คุณต้องสร้างสภาวะที่ถูกต้องเพื่อให้มันแสดงตัวออกมา 98 00:04:12,000 --> 00:04:14,000 และคุณก็อาจลองจินตนาการได้ว่า 99 00:04:14,000 --> 00:04:16,000 การศึกษามันควรเป็นวิธีการให้เกิดสิ่งเหล่านี้ 100 00:04:16,000 --> 00:04:18,000 แต่ว่ามันมักจะไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ 101 00:04:18,000 --> 00:04:20,000 ระบบการศึกษาทุกที่ในโลกนี้ 102 00:04:20,000 --> 00:04:22,000 กำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูป 103 00:04:22,000 --> 00:04:24,000 แต่มันไม่เพียงพอครับ 104 00:04:24,000 --> 00:04:26,000 การปฏิรูปมันไร้ประโยชน์แล้วครับ 105 00:04:26,000 --> 00:04:29,000 เพราะมันเพียงแค่ปรับปรุงระบบที่มันพังอยู่แล้ว 106 00:04:29,000 --> 00:04:31,000 สิ่งที่เราต้องการ 107 00:04:31,000 --> 00:04:33,000 และเป็นคำที่ใช้กันมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ 108 00:04:33,000 --> 00:04:35,000 มันไม่ใช่แค่การวิวัฒนาการครับ 109 00:04:35,000 --> 00:04:38,000 แต่เป็นการปฏิวัติการศึกษา 110 00:04:38,000 --> 00:04:40,000 สิ่งนี้จะต้องพลิกโฉมหน้า 111 00:04:40,000 --> 00:04:42,000 ไปเป็นสิ่งใหม่เลยครับ 112 00:04:42,000 --> 00:04:47,000 (ปรบมือ) 113 00:04:48,000 --> 00:04:50,000 สิ่งที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่ง 114 00:04:50,000 --> 00:04:52,000 คือการสร้างนวัตกรรมพื้นฐาน 115 00:04:52,000 --> 00:04:54,000 ในด้านการศึกษา 116 00:04:54,000 --> 00:04:56,000 นวัตกรรมนี่สร้างยากครับ 117 00:04:56,000 --> 00:04:58,000 เพราะมันคือการทำอะไรอย่างหนึ่ง 118 00:04:58,000 --> 00:05:00,000 ซึ่งผู้คนมักจะเห็นว่ามันไม่ง่ายเลย 119 00:05:00,000 --> 00:05:03,000 เพราะมันคือการท้าทายสิ่งที่เราไม่เห็นค่า 120 00:05:03,000 --> 00:05:06,000 สิ่งที่เราเห็นๆกันอยู่ 121 00:05:06,000 --> 00:05:08,000 ปัญหาใหญ่ที่สุดของการปรับปรุง 122 00:05:08,000 --> 00:05:10,000 หรือเปลี่ยนแปลง 123 00:05:10,000 --> 00:05:12,000 คือการครอบงำโดยสามัญสำนึก 124 00:05:12,000 --> 00:05:14,000 สิ่งที่คนทั่วไปคิดว่า 125 00:05:14,000 --> 00:05:16,000 "อืม มันก็ต้องเป็นไปอย่างนี้แหละ เพราะนี่คือสิ่งที่ทำกันมาตลอด" 126 00:05:16,000 --> 00:05:19,000 เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เจอกับคำพูดที่ท่าน อับบราฮัม ลินคอล์น เคยพูดว่า 127 00:05:19,000 --> 00:05:22,000 ซึ่งผมว่าพวกคุณคงดีใจที่มีคนนำมากล่าวอ้างในตอนนี้ 128 00:05:22,000 --> 00:05:24,000 (หัวเราะ) 129 00:05:24,000 --> 00:05:27,000 ท่านพูดไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปี1862 130 00:05:27,000 --> 00:05:30,000 ในการประชุมรัฐสภาประจำปีครั้งที่สอง 131 00:05:31,000 --> 00:05:34,000 คือผมต้องขอออกตัวว่าผมไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงนั้น 132 00:05:36,000 --> 00:05:38,000 เราไม่สอนประวัติศาสตร์อเมริกันในประเทศอังกฤษหรอก 133 00:05:38,000 --> 00:05:40,000 (หัวเราะ) 134 00:05:40,000 --> 00:05:43,000 เราปกปิดมันไว้ อย่างที่คุณๆทราบ มันเป็นนโยบายของเรา 135 00:05:43,000 --> 00:05:45,000 (หัวเราะ) 136 00:05:46,000 --> 00:05:48,000 สรุปว่า คงมีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นแน่ๆในช่วงเดือนธันวาคม ปี 1862 137 00:05:48,000 --> 00:05:50,000 ซึ่งคนอเมริกันที่อยู่ที่นี่กับเรา 138 00:05:50,000 --> 00:05:52,000 คงจะทราบ 139 00:05:53,000 --> 00:05:55,000 แต่ท่านได้พูดไว้ว่า 140 00:05:55,000 --> 00:05:57,000 "หลักการที่เรายึดถือ 141 00:05:57,000 --> 00:05:59,000 ในอตีดที่เงียบสงบ 142 00:05:59,000 --> 00:06:02,000 ไม่อาจใช้ได้กับปัจจุบันที่ดุเดืือด 143 00:06:02,000 --> 00:06:04,000 สถานการณ์ 144 00:06:04,000 --> 00:06:06,000 ที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก 145 00:06:06,000 --> 00:06:09,000 และเราต้องยืนขึ้นไปกับสถานการณ์ 146 00:06:09,000 --> 00:06:11,000 ผมชอบมากครับ 147 00:06:11,000 --> 00:06:14,000 ไม่ใช่ยืนเพื่อเผชิญกับมันแต่ยืนไปกับมัน 148 00:06:15,000 --> 00:06:17,000 เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งใหม่ 149 00:06:17,000 --> 00:06:20,000 เราจึงต้องคิดแบบใหม่ 150 00:06:20,000 --> 00:06:23,000 และทำแบบใหม่ 151 00:06:23,000 --> 00:06:26,000 เราต้องปลดแอกตนเองให้เป็นอิสระ 152 00:06:26,000 --> 00:06:29,000 แล้วเราจึงช่วยชาติของเราได้" 153 00:06:29,000 --> 00:06:31,000 ผมชอบมากๆคำนี้ "ปลดแอก" 154 00:06:31,000 --> 00:06:33,000 คุณทราบไหมมันหมายถึงอะไร 155 00:06:33,000 --> 00:06:36,000 มันหมายถึงเราทั้งหลายโดนจองจำอยู่กับไอเดียบางอย่าง 156 00:06:36,000 --> 00:06:38,000 ซึ่งเราเห็นเป็นของธรรมดา 157 00:06:38,000 --> 00:06:40,000 เป็นครรลองธรรมชาติ เป็นวิถึปกติ 158 00:06:40,000 --> 00:06:42,000 และไอเดียเหล่านี้ของเรา 159 00:06:42,000 --> 00:06:45,000 ได้ก่อตัวขึ้น ไม่ใช่เพื่อใช้แก้ปัญหาสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน 160 00:06:45,000 --> 00:06:48,000 แต่สำหรับการอยู่รอดในสถานการณ์ของศตวรรษที่ผ่านมา 161 00:06:48,000 --> 00:06:50,000 แต่สมองเราก็ยังโดนสะกดจิตโดยไอเดียเหล่านี้อยู๋ 162 00:06:50,000 --> 00:06:53,000 และเราก็ต้องปลดแอกจากไอเดียเหล่านี้ 163 00:06:53,000 --> 00:06:56,000 ครับ สิ่งนี้มันพูดง่ายแต่ทำยาก 164 00:06:56,000 --> 00:06:59,000 มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา 165 00:06:59,000 --> 00:07:02,000 เพราะคุณเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา 166 00:07:02,000 --> 00:07:05,000 เอาเป็นว่าให้ผมลองถามคุณสักอย่างในเรื่องที่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา 167 00:07:05,000 --> 00:07:08,000 ในที่นี้มีใครอายุมากกว่า 25 ปีบ้างครับ 168 00:07:08,000 --> 00:07:10,000 นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าคุณเห็นเป็นเรื่องธรรมดาหรอก 169 00:07:10,000 --> 00:07:12,000 เพราะผมว่าคุณคงชินกันหมดแล้ว 170 00:07:12,000 --> 00:07:15,000 ในที่นี้มีใครอายุน้อยกว่า 25 ปีไหมครับ 171 00:07:15,000 --> 00:07:18,000 ดีครับ เอาล่ะ คนที่อายุมากกว่า 25 172 00:07:18,000 --> 00:07:21,000 หากคุณกำลังใส่นาฬิกาข้อมืออยู่ กรุณายกมือครับ 173 00:07:21,000 --> 00:07:24,000 ครับ มีจำนวนไม่น้อยเลยใช่ไหม 174 00:07:24,000 --> 00:07:27,000 ลองถามคำถามนี้ในห้องที่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นดูครับ 175 00:07:27,000 --> 00:07:29,000 เด็กวัยรุ่นเค้าไม่ใส่นาฬิกาข้อมือกันครับ 176 00:07:29,000 --> 00:07:31,000 ผมไม่ได้หมายความว่าเค้าใส่ไม่ได้ หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่นะครับ 177 00:07:31,000 --> 00:07:33,000 แต่เค้าเลือกที่จะไม่ใส่เอง 178 00:07:33,000 --> 00:07:35,000 เพราะอะไรหรือครับ เพราะว่าพวกเราที่อายุมากกว่า 25 179 00:07:35,000 --> 00:07:38,000 โดมาในยุคก่อนยุคดิจิตอล 180 00:07:38,000 --> 00:07:40,000 และสำหรับเรา หากต้องการรู้เวลา 181 00:07:40,000 --> 00:07:42,000 เราก็ต้องหาอะไรที่บอกเวลาได้มาใส่ไว้ 182 00:07:42,000 --> 00:07:45,000 แต่เด็กๆเดี๋ยวนี้อยู่ในโลกดิจิตอล 183 00:07:45,000 --> 00:07:47,000 สำหรับพวกเขา เวลา มันมีบอกอยู่ทุกที่ 184 00:07:47,000 --> 00:07:49,000 เขาไม่เห็นความจำเป็นของมัน 185 00:07:49,000 --> 00:07:51,000 ซึ่งจริงๆแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมีแล้วเหมือนกัน 186 00:07:51,000 --> 00:07:54,000 แต่ว่าเราก็ใส่มันจนเคยชิน ก็เลยใส่กันต่อไป 187 00:07:54,000 --> 00:07:57,000 ลูกสาวผมไม่เคยใส่นาฬิกาข้อมือ เคท ลูกสาวอายุยี่สิบของผม 188 00:07:57,000 --> 00:07:59,000 เธอไม่เห็นว่ามันจำเป็นยังไง 189 00:07:59,000 --> 00:08:02,000 เธอบอกว่า "มันเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้แค่อย่างเดียว" 190 00:08:02,000 --> 00:08:07,000 (หัวเราะ) 191 00:08:07,000 --> 00:08:10,000 "แบบว่า มันเห่ยอะไรอย่างงี้" 192 00:08:10,000 --> 00:08:12,000 ผมก็เถียงว่า "ไม่จริงนะ มันบอกวันที่ได้ด้วย" 193 00:08:12,000 --> 00:08:16,000 (หัวเราะ) 194 00:08:17,000 --> 00:08:20,000 "มันทำได้มากกว่าหนึ่งอย่างนะ" 195 00:08:20,000 --> 00:08:23,000 แต่ว่าคุณเห็นไหมครับ มันมีสิ่งที่จองจำความคิดเราไว้หลายอย่างในด้านการศึกษา 196 00:08:23,000 --> 00:08:25,000 ขออนุญาตให้ตัวอย่างสักสองตัวอย่างนะครับ 197 00:08:25,000 --> 00:08:28,000 อย่างแรกคือการเดินตามแนวทาง 198 00:08:28,000 --> 00:08:31,000 ที่เริ่มจากจุดนี้ แล้วก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ 199 00:08:31,000 --> 00:08:33,000 และถ้าคุณทำได้อย่างถูกต้อง คุณก็จะ 200 00:08:33,000 --> 00:08:35,000 มีชีวิตที่ลงตัว 201 00:08:37,000 --> 00:08:39,000 ทุกคนที่มาพูดที่ TED นี่ได้บอกเราโดยนัยๆ 202 00:08:39,000 --> 00:08:42,000 หรือบางครั้งก็แบบตรงๆ ว่าความจริงมันไม่ใช่ 203 00:08:42,000 --> 00:08:45,000 ชีวิตมันไม่ได้เป็นเส้นตรง มันเป็นสิ่งที่มีชีวิต 204 00:08:45,000 --> 00:08:47,000 เราเป็นผู้สร้างชีวิตให้อยู่อย่างร่วมกัน 205 00:08:47,000 --> 00:08:49,000 ในขณะเดียวกันก็สำรวจถึงพรสวรรค์ของตนเอง 206 00:08:49,000 --> 00:08:52,000 ที่สัมพันธ์กับสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ 207 00:08:52,000 --> 00:08:54,000 แต่คุณทราบไหมครับ ว่าเรากลายเป็นจับจด 208 00:08:54,000 --> 00:08:56,000 อยู่กับความคิดแบบเป็นเส้นตรงแบบนี้ 209 00:08:56,000 --> 00:08:58,000 และจุดสุดยอดของการศึกษาปัจจุบัน 210 00:08:58,000 --> 00:09:00,000 คือการเข้ามหาวิทยาลัย 211 00:09:00,000 --> 00:09:03,000 ผมว่าเราจับจดกันเกินไปเกี่ยวกับการยัดผู้คนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย 212 00:09:03,000 --> 00:09:05,000 มหาวิทยาลัยบางประเภท 213 00:09:05,000 --> 00:09:07,000 ผมไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรเรียนมหาวิทยาลัยนะครับ แต่บางทีอาจไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเรียน 214 00:09:07,000 --> 00:09:09,000 และไม่ใช่ทุกคนต้องเรียนตอนนี้ 215 00:09:09,000 --> 00:09:11,000 อาจจะไปทีหลังก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดี๋ยวนี้ 216 00:09:11,000 --> 00:09:13,000 ผมเพิ่งไปซานฟรานซิสโกเมื่อไม่นานมานี้ 217 00:09:13,000 --> 00:09:15,000 เพื่อไปแจกลายเซ็นต์ในหนังสือ 218 00:09:15,000 --> 00:09:17,000 ก็มีชายคนหนึ่งมาซื้อหนังสือ เขาอายุประมาณสามสิบเศษๆ 219 00:09:17,000 --> 00:09:19,000 ผมถามเขาว่า "คุณทำงานอะไรครับ" 220 00:09:19,000 --> 00:09:22,000 เขาตอบว่า "ผมเป็นพนักงานดับเพลิง" 221 00:09:22,000 --> 00:09:24,000 ผมถามว่า "คุณเป็นพนักงานดับเพลิงมานานเท่าไหร่แล้ว" 222 00:09:24,000 --> 00:09:26,000 เขาว่า "ตลอดครับ ผมเป็นพนักงานดับเพลิงมาตลอดชีวิต" 223 00:09:26,000 --> 00:09:28,000 ผมถามว่า "เหรอ แล้วคุณตัดสินใจตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ" 224 00:09:28,000 --> 00:09:31,000 เขาตอบว่า "ตั้งแต่เด็กๆครับ" "และจริงๆก็เป็นปัญหาของผมตอนผมอยู่ในโรงเรียน" 225 00:09:31,000 --> 00:09:34,000 "คือที่โรงเรียนน่ะ ใครๆก็อยากเป็นพนักงานดับเพลิงครับ" 226 00:09:34,000 --> 00:09:37,000 "แต่ผมอยากเป็นพนักงานดับเพลิงจริงๆ" 227 00:09:37,000 --> 00:09:40,000 "จนตอนเรียนปีสุดท้าย 228 00:09:40,000 --> 00:09:43,000 ครูผมไม่คิดจริงจังกับมัน 229 00:09:43,000 --> 00:09:45,000 มีครูคนหนึ่งเขาไม่จริงจังกับมันเลย 230 00:09:45,000 --> 00:09:47,000 เขาว่าผมจะมาโยนชีวิตทิ้งไปเปล่าๆ 231 00:09:47,000 --> 00:09:49,000 ถ้าผมเลือกจะเป็นเพียงแค่นี้ 232 00:09:49,000 --> 00:09:52,000 ว่าผมควรเรียนให้จบมหาวิทยาลัย ผมควรเป็นคนทำงานดีๆ 233 00:09:52,000 --> 00:09:54,000 ผมน่าจะมีอนาคตไกล 234 00:09:54,000 --> 00:09:56,000 แล้วทำไมเอาพรสวรรค์มาทิ้งเสีย" 235 00:09:56,000 --> 00:09:58,000 แล้วก็เล่าต่อว่า "ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าอายมากครับ 236 00:09:58,000 --> 00:10:00,000 เพราะครูพูดต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง ผมรู้สึกแย่สุดๆ 237 00:10:00,000 --> 00:10:02,000 แต่มันเป็นสิ่งที่ผมอยากทำนี่ครับ และเมื่อผมเรียนจบ 238 00:10:02,000 --> 00:10:05,000 ผมก็สมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานดับเพลิง และผมก็ได้รับตำแหน่งทันที" 239 00:10:05,000 --> 00:10:07,000 แล้วชายคนนี้ก็บอกว่า "คุณรู้ไหมครับ ผมเพิ่งนึกถึงครูคนนี้ขึ้นมา 240 00:10:07,000 --> 00:10:10,000 เมื่อซักครู่นี่เอง ตอนที่คุณถามถึงเรื่องนี้ 241 00:10:10,000 --> 00:10:12,000 เขาว่า เพราะเมื่อประมาณหกเดือนที่แล้ว 242 00:10:12,000 --> 00:10:14,000 ผมได้ช่วยชีวิตครูคนนั้นไว้ครับ" 243 00:10:14,000 --> 00:10:16,000 (หัวเราะ) 244 00:10:16,000 --> 00:10:18,000 เขาว่า "ครูประสบอุบัติเหตุติดอยู่ในรถ 245 00:10:18,000 --> 00:10:21,000 ผมดึงเขาออกมาก ปั๊มหัวใจให้ 246 00:10:21,000 --> 00:10:24,000 ผมช่วยภรรยาครูไว้ด้วยครับ" 247 00:10:24,000 --> 00:10:26,000 เขาว่า ตอนนี้ครูคงคิดชื่นชมผมบ้างแล้วครับ 248 00:10:26,000 --> 00:10:28,000 (หัวเราะ) 249 00:10:28,000 --> 00:10:33,000 (ปรบมือ) 250 00:10:34,000 --> 00:10:36,000 คุณทราบไหมครับ ผมว่า 251 00:10:36,000 --> 00:10:38,000 สังคมมนุษย์นั้นต้องพึ่งพา 252 00:10:38,000 --> 00:10:40,000 พรสวรรค์ที่หลากหลาย 253 00:10:40,000 --> 00:10:43,000 ไม่ใช่ความสามารถที่เราคิดเองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง 254 00:10:43,000 --> 00:10:45,000 และนี่คือสิ่งที่เป็นสุดยอดของความท้าทาย 255 00:10:45,000 --> 00:10:47,000 (ปรบมือ) 256 00:10:47,000 --> 00:10:49,000 สิ่งที่เป็นสุดยอดของความท้าทายของเรา 257 00:10:49,000 --> 00:10:51,000 คือการพยายามตระหนักถึงความสามารถ 258 00:10:51,000 --> 00:10:53,000 รวมถึงความฉลาดปราดเปรื่องที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา 259 00:10:53,000 --> 00:10:55,000 การคิดอะไรแบบเป็นเส้นตรงเป็นปัญหาครับ 260 00:10:55,000 --> 00:10:57,000 ตอนที่ผมเพิ่งมาที่แอลเอ 261 00:10:57,000 --> 00:10:59,000 เมื่อเก้าปีก่อน 262 00:10:59,000 --> 00:11:02,000 ผมเห็นคำขวัญประโยคหนึ่ง 263 00:11:02,000 --> 00:11:04,000 ซึ่งมาจากความตั้งใจดี 264 00:11:04,000 --> 00:11:07,000 ที่บอกว่า "มหาวิทยาลัยเริ่มตั้งแต่อนุบาล" 265 00:11:09,000 --> 00:11:11,000 ไม่จริงมั้งครับ 266 00:11:11,000 --> 00:11:14,000 (หัวเราะ) 267 00:11:14,000 --> 00:11:16,000 ไม่จริง 268 00:11:16,000 --> 00:11:19,000 ถ้าเรามีเวลา ผมอยากพูดเรื่องนี้ต่อ แต่เราไม่มี 269 00:11:19,000 --> 00:11:21,000 (หัวเราะ) 270 00:11:21,000 --> 00:11:23,000 อนุบาล เริ่มต้้งแต่อนุบาลครับ 271 00:11:23,000 --> 00:11:25,000 (หัวเราะ) 272 00:11:25,000 --> 00:11:27,000 เพื่อนผมเคยพูดไว้ว่า 273 00:11:27,000 --> 00:11:30,000 "รู้ไหม เด็กสามขวบไม่ใช่ครึ่งหนึ่งของเด็กหกขวบ" 274 00:11:30,000 --> 00:11:32,000 (หัวเราะ) 275 00:11:32,000 --> 00:11:37,000 (ปรบมือ) 276 00:11:37,000 --> 00:11:39,000 เขาอายุสามขวบ 277 00:11:39,000 --> 00:11:41,000 แต่เท่าที่เราได้ยินมาในช่วงที่ผ่านมา 278 00:11:41,000 --> 00:11:44,000 เดี๋ยวนี้มีการแข่งขันที่สูงมากเพื่อเข้าเรียนชั้นอนุบาล 279 00:11:44,000 --> 00:11:46,000 เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุด 280 00:11:46,000 --> 00:11:49,000 คนเราโดนสัมภาษณ์ตอนอายุสามขวบนะครับ 281 00:11:51,000 --> 00:11:53,000 เด็กเล็กๆนั่งต่อหน้ากรรมการที่ไม่ประทับใจเลย 282 00:11:53,000 --> 00:11:55,000 คุณครับ ผลงานของพวกเขา 283 00:11:55,000 --> 00:11:58,000 (หัวเราะ) 284 00:11:58,000 --> 00:12:00,000 เปิดผ่านๆดู "แค่นี้เองเหรอ" 285 00:12:00,000 --> 00:12:02,000 (หัวเราะ) 286 00:12:02,000 --> 00:12:05,000 (ปรบมือ) 287 00:12:05,000 --> 00:12:08,000 "คุณอยู่มาตั้ง 36 เดือน ทำได้แค่นี้เองเหรอ" 288 00:12:08,000 --> 00:12:15,000 (หัวเราะ) 289 00:12:15,000 --> 00:12:18,000 "มันไม่ค่อยได้เรื่องเลย 290 00:12:18,000 --> 00:12:21,000 เท่าที่ทราบคุณใช้เวลาหกเดือนแรกไปกับการดูดนม" 291 00:12:21,000 --> 00:12:24,000 (หัวเราะ) 292 00:12:26,000 --> 00:12:29,000 เห็นไหมครับ มันเป็นไอเดียที่บ้ามากๆ แต่มันน่าหลงไหล 293 00:12:29,000 --> 00:12:31,000 ปัญหาอีกอย่างคือการทำอะไรตามกัน 294 00:12:31,000 --> 00:12:33,000 เราได้สร้างระบบการศึกษา 295 00:12:33,000 --> 00:12:35,000 โดยทำเหมือนอาหารแบบจานด่วน 296 00:12:35,000 --> 00:12:38,000 นี่คือสิ่งที่เจมี่ โอลิเวอร์พูดถึงเมื่อวันก่อน 297 00:12:38,000 --> 00:12:40,000 คุณทราบไหมว่า ในการทำอาหารมีระบบประกันคุณภาพสองแบบ 298 00:12:40,000 --> 00:12:42,000 แบบแรกคือแบบจานด่วน 299 00:12:42,000 --> 00:12:44,000 คือทุกอย่างออกมาเหมือนกันหมด 300 00:12:44,000 --> 00:12:46,000 กับอีกแบบคือแบบร้านอาหาร (ที่ได้รับการยกย่องจากซากัด และมิชิลลิน) 301 00:12:46,000 --> 00:12:48,000 ซึ่งไม่ใช่ทุกอย่างเหมือนกัน 302 00:12:48,000 --> 00:12:50,000 แต่ทำความต้องการของลูกค้าในสภาวะแวดล้อมที่ตั้งอยู่ 303 00:12:50,000 --> 00:12:53,000 และพวกเราก็ซื้อระบบการทำอาหารแบบจานต่วนมาใช้กับการศึกษา 304 00:12:53,000 --> 00:12:56,000 และมันก็ทำให้สปิริตและพลังงานของเราหร่อยหรอ 305 00:12:56,000 --> 00:12:59,000 เช่นเดียวกับที่อาหารจานด่วนทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ 306 00:12:59,000 --> 00:13:04,000 (ปรบมือ) 307 00:13:05,000 --> 00:13:07,000 ผมคิดว่าเราต้องตระหนักถึงสิ่งสำคัญบางอย่าง 308 00:13:07,000 --> 00:13:10,000 อย่างแรก คือ พรสวรรค์ของมนุษย์นั้นหลากหลายเหลือเกิน 309 00:13:10,000 --> 00:13:12,000 คนเรามีความถนัดที่ต่างกัน 310 00:13:12,000 --> 00:13:14,000 ผมเพิ่งคิดได้ไม่นานมานี้ 311 00:13:14,000 --> 00:13:16,000 ว่าผมได้รับกีต้าร์ตอนเป็นเด็ก 312 00:13:16,000 --> 00:13:19,000 ในช่วงเวลาพอๆกับที่ อีริก แคลพตัน (นักร้องชื่อดัง) ได้กีต้าร์ตัวแรกของเขา 313 00:13:20,000 --> 00:13:23,000 ผมจะพูดแค่ว่า สำหรับอีริก มันเยี่ยมมากเลย 314 00:13:23,000 --> 00:13:25,000 (หัวเราะ) 315 00:13:25,000 --> 00:13:27,000 สำหรับผม มันไม่ค่อยจะได้ผล 316 00:13:27,000 --> 00:13:30,000 ผมไม่สามารถทำให้มันเป็นเพลงได้เลย 317 00:13:30,000 --> 00:13:32,000 ไม่ว่าจะเป่ามันบ่อยหรือแรงแค่ไหน 318 00:13:32,000 --> 00:13:34,000 มันก็ไม่ยอมออกมาเป็นเพลงเลย 319 00:13:37,000 --> 00:13:39,000 แต่มันไม่ใช่แค่นั้นครับ 320 00:13:39,000 --> 00:13:41,000 มันเกี่ยวกับความกระหายใคร่รู้ด้วย 321 00:13:41,000 --> 00:13:43,000 ส่วนใหญ่แล้ว คนเราจะเก่งในเรื่องที่เราไม่ค่อยจะสนใจ 322 00:13:43,000 --> 00:13:45,000 มันต้องมีความอยากรู้ 323 00:13:45,000 --> 00:13:48,000 และสิ่งที่กระตุ้นสปิริตและพลังงานของเรา 324 00:13:48,000 --> 00:13:51,000 ถ้าคุณได้ทำสิ่งที่คุณรักที่จะทำ และทำได้ดี 325 00:13:51,000 --> 00:13:54,000 เวลาของคุณจะเปลี่ยนไปทันที 326 00:13:54,000 --> 00:13:57,000 ภรรยาผมเพิ่งเขียนนิยายเสร็จเรื่องหนึ่ง 327 00:13:57,000 --> 00:13:59,000 และผมคิดว่ามันเป็นหนังสือที่ดี 328 00:13:59,000 --> 00:14:02,000 แต่เธอจะหายไปทีละเป็นชั่วโมงๆ 329 00:14:02,000 --> 00:14:04,000 คุณจะเข้าใจ ถ้าคุณทำอะไรสักอย่างที่คุณรัก 330 00:14:04,000 --> 00:14:07,000 หนึ่งชั่วโมงมันเหมือนไม่กี่นาที 331 00:14:07,000 --> 00:14:09,000 ถ้าคุณทำอะไรที่มันไม่สอดคล้องกับสปิริตของคุณ 332 00:14:09,000 --> 00:14:11,000 ห้านาทีก็รู้สึกเหมือนหนึ่งชั่วโมง 333 00:14:11,000 --> 00:14:14,000 และสาเหตุที่ผู้คนหนึห่างจากการศึกษา 334 00:14:14,000 --> 00:14:16,000 ก็เป็นเพราะว่ามันไม่ได้หล่อเลี้ยงสปิริตเขา 335 00:14:16,000 --> 00:14:19,000 มันไม่เสริมสร้างให้เกิดพลัง หรือความอยากรู้ 336 00:14:19,000 --> 00:14:22,000 ผมจึงคิดว่าเราควรเปลี่ยนแบบแผน 337 00:14:22,000 --> 00:14:25,000 เราต้องเปลี่ยนจากการจัดการศึกษาระบบอุตสาหกรรม 338 00:14:25,000 --> 00:14:27,000 ระบบโรงงาน 339 00:14:27,000 --> 00:14:29,000 ซึ่งอาศัยการทำงานแบบเป็นเส้นตรง 340 00:14:29,000 --> 00:14:32,000 และการสร้างผู้คนให้ออกมาเหมือนๆกัน 341 00:14:32,000 --> 00:14:34,000 เราต้องสร้างโมเดลใหม่ 342 00:14:34,000 --> 00:14:37,000 ที่เหมือนกับการทำการเกษตร 343 00:14:37,000 --> 00:14:40,000 เราต้องเข้าใจว่าการเติบโตของมนุษย์นั้น 344 00:14:40,000 --> 00:14:42,000 ไม่ใช่กระบวนการแบบเครื่องจักร 345 00:14:42,000 --> 00:14:44,000 มันเป็นแบบชีวภาพ 346 00:14:44,000 --> 00:14:47,000 และคุณไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ของการพัฒนาของมนุษย์ได้ 347 00:14:47,000 --> 00:14:49,000 คุณทำได้เหมือนกับเกษตรกร คือเพียงแค่ 348 00:14:49,000 --> 00:14:51,000 สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี 349 00:14:51,000 --> 00:14:53,000 ที่ให้พวกเขาเจริญเติบโตได้ 350 00:14:53,000 --> 00:14:56,000 ดังนั้นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา 351 00:14:56,000 --> 00:14:59,000 มันจึงไม่เหมือนกับการลอกระบบกันมา 352 00:14:59,000 --> 00:15:01,000 มันมีบางอันที่ดี อย่างเช่น KIPPs 353 00:15:01,000 --> 00:15:03,000 มีต้นแบบดีๆให้ดูมากมาย 354 00:15:03,000 --> 00:15:06,000 แต่เราต้องปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ 355 00:15:06,000 --> 00:15:08,000 และให้สอดคล้องและเหมาะสม 356 00:15:08,000 --> 00:15:10,000 กับผู้ที่ได้รับการศึกษาจากคุณจริงๆ 357 00:15:10,000 --> 00:15:12,000 และผมคิดว่าการทำอย่างนี้ 358 00:15:12,000 --> 00:15:14,000 คือคำตอบสำหรับอนาคต 359 00:15:14,000 --> 00:15:17,000 เพราะเราไม่เพียงแค่หาทางแก้ใหม่ 360 00:15:17,000 --> 00:15:19,000 แต่เป็นการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนของระบบการศึกษา 361 00:15:19,000 --> 00:15:22,000 ในแบบที่ผู้คนต้องพัฒนาหาคำตอบด้วยตัวเอง 362 00:15:22,000 --> 00:15:25,000 แต่จะได้รับการสนับสนุนจากภายนอก ตามแผนการสอนที่จัดมาเฉพาะบุคคล 363 00:15:25,000 --> 00:15:27,000 ในที่นี้ 364 00:15:27,000 --> 00:15:29,000 มีผู้คนที่เป็นตัวแทน 365 00:15:29,000 --> 00:15:31,000 ของแหล่งทรัพยากรที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ 366 00:15:31,000 --> 00:15:33,000 ด้านสื่อต่างๆ อินเทอร์เน็ต 367 00:15:33,000 --> 00:15:35,000 เทคโนโลยีเหล่านี้ 368 00:15:35,000 --> 00:15:38,000 ผสมผสานกับความสามารถอันยอดเยี่ยมของครู 369 00:15:38,000 --> 00:15:41,000 เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะปฏิวัติการศึกษา 370 00:15:41,000 --> 00:15:43,000 และผมสนับสนุนให้ทุกคนเข้ามาร่วมกัน 371 00:15:43,000 --> 00:15:45,000 เพราะมันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่เพียงแค่สำหรับพวกเรา 372 00:15:45,000 --> 00:15:47,000 แต่สำหรับอนาคตของลูกหลานเรา 373 00:15:47,000 --> 00:15:49,000 แต่เราต้องเปลี่ยนจากระบบอุตสาหกรรม 374 00:15:49,000 --> 00:15:51,000 มาเป็นระบบแบบเกษตรกรรม 375 00:15:51,000 --> 00:15:54,000 ที่โรงเรียนแต่ละแห่งสามารถเจริญเติบโตได้ 376 00:15:54,000 --> 00:15:56,000 เป็นที่ที่เด็กๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต 377 00:15:56,000 --> 00:15:58,000 หรืออาจเป็นที่บ้าน ถ้าพวกเขาเลือกจะเรียนที่นั่น 378 00:15:58,000 --> 00:16:00,000 กับครอบครัว หรือกับเพื่อนๆ 379 00:16:00,000 --> 00:16:02,000 มีการพูดคุยถึงเรื่องความฝันหลายครั้ง 380 00:16:02,000 --> 00:16:05,000 ในช่วงเวลาสองสามวันนี้ 381 00:16:05,000 --> 00:16:07,000 และผมก็อยากที่จะ 382 00:16:07,000 --> 00:16:10,000 เมื่อคืนนี้ผมฟังเพลงของ Natalie Merchant 383 00:16:10,000 --> 00:16:12,000 เกี่ยวกับบทกวีเก่าๆ 384 00:16:12,000 --> 00:16:14,000 ผมจึงอยากอ่านบทกวีสั้นๆให้คุณฟัง 385 00:16:14,000 --> 00:16:17,000 เป็นบทกวีจาก W.B. Yeats ซึ่งบางคนอาจรู้จัก 386 00:16:17,000 --> 00:16:19,000 เขาเขียนให้คนที่เขารัก 387 00:16:19,000 --> 00:16:21,000 Maud Gonne 388 00:16:21,000 --> 00:16:24,000 และเขากำลังคร่ำครวญว่า 389 00:16:24,000 --> 00:16:27,000 เขาไม่สามารถที่จะให้สิ่งที่เขาคิดว่าเธออยากได้จากเขา 390 00:16:27,000 --> 00:16:30,000 และเขาบอกว่า "ผมมีอย่างอื่นที่อยากให้คุณ แต่มันอาจไม่ใช่สำหรับคุณ" 391 00:16:30,000 --> 00:16:32,000 เขาบอกว่า 392 00:16:32,000 --> 00:16:35,000 "หากฉันมีผืนผ้างดงามจากสวรรค์ 393 00:16:35,000 --> 00:16:37,000 ถักทอด้วยทองคำ 394 00:16:37,000 --> 00:16:39,000 และแสงเงินเงา 395 00:16:39,000 --> 00:16:41,000 สีครามและสีหม่น 396 00:16:41,000 --> 00:16:43,000 และสีมืดของผืนผ้า 397 00:16:43,000 --> 00:16:46,000 แห่งกลางคืน และแสงสว่าง และแสงสลัว 398 00:16:46,000 --> 00:16:49,000 ฉันจะนำมาแผ่ไว้ใต้ฝ่าเท้าของเธอ 399 00:16:49,000 --> 00:16:52,000 แต่ฉันเพียงแค่ยาจก 400 00:16:52,000 --> 00:16:55,000 ที่มีเพียงแค่ความฝัน 401 00:16:55,000 --> 00:16:58,000 ฉันขอเอาความฝันลงแผ่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ 402 00:16:58,000 --> 00:17:00,000 จงก้าวย่างอย่างแผ่วเบา 403 00:17:00,000 --> 00:17:03,000 เพราะเธอกำลังก้าวอยู่บนความฝันของฉัน" 404 00:17:03,000 --> 00:17:06,000 และทุกๆวัน ในทุกๆที่ 405 00:17:06,000 --> 00:17:09,000 เด็กๆของเราก็กำลังแผ่ความฝันของพวกเขาใต้ฝ่าเท้าเรา 406 00:17:09,000 --> 00:17:12,000 เราต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวัง 407 00:17:12,000 --> 00:17:14,000 ขอบคุณครับ 408 00:17:14,000 --> 00:17:31,000 (ปรบมือ) 409 00:17:31,000 --> 00:17:33,000 ขอบคุณครับ