1 00:00:06,171 --> 00:00:09,930 นิทานของเราเกี่ยวกับเด็กหญิงชื่อว่า ไอริส 2 00:00:09,930 --> 00:00:13,360 ไอริสอ่อนไหวมาก 3 00:00:13,360 --> 00:00:16,998 มากเสียจนเธอนั้นน้ำตาไหลตลอด 4 00:00:16,998 --> 00:00:20,002 เธอร้องไห้เมื่อเศร้า 5 00:00:20,002 --> 00:00:23,085 เมื่อดีใจ 6 00:00:23,085 --> 00:00:28,020 และถึงกับน้ำตาเอ่อเมื่อมีสิ่งใดมากระทบเธอ 7 00:00:28,020 --> 00:00:31,363 เธอมีต่อมน้ำตาพิเศษเอาไว้สร้างน้ำตาใหม่ 8 00:00:31,363 --> 00:00:33,786 และท่อพิเศษที่เรียกว่า ลาไครมอล พันช์ทา (lacrimal puncta) 9 00:00:33,786 --> 00:00:36,911 เอาไว้ระบายน้ำตาเก่าออกไป 10 00:00:36,911 --> 00:00:38,949 และเธอร้องไห้เยอะแยะเสียจน 11 00:00:38,949 --> 00:00:41,257 เธอเสียน้ำตาไปวันละสิบออนซ์ 12 00:00:41,257 --> 00:00:43,469 นั่นเท่ากับสามสิบแกลอนต่อปี 13 00:00:43,469 --> 00:00:45,368 อันที่จริง ถ้าคุณมองดูดีๆ 14 00:00:45,368 --> 00:00:49,971 คุณจะเห็นว่าเธอร้องไห้นิดหน่อยตลอดเวลา 15 00:00:49,971 --> 00:00:52,592 น้ำตาที่หล่ออยู่ซึ่งไอริสผลิตออกมาตลอดนั้น 16 00:00:52,592 --> 00:00:54,999 ก่อตัวขึ้นเป็นชั้นปกคลุมบางๆ สามชั้น 17 00:00:54,999 --> 00:00:58,383 ที่ปกคลุมเธอและป้องกันฝุ่นและละออง 18 00:00:58,383 --> 00:01:00,915 ถัดจากไอริสคือชั้นเมือก 19 00:01:00,915 --> 00:01:03,745 ซึ่งทำให้ส่วนประกอบทั้งหมดกระชับติดกับเธอ 20 00:01:03,745 --> 00:01:06,055 เหนือขึ้นไปคือชั้นน้ำ 21 00:01:06,055 --> 00:01:07,515 ซึ่งทำให้ไอริสชุ่มชื้น 22 00:01:07,515 --> 00:01:09,449 ไล่แบคทีเรียที่มารุกราน 23 00:01:09,449 --> 00:01:13,172 และป้องกันผิวหนังของเธอ หรือกระจกตา จากอันตราย 24 00:01:13,172 --> 00:01:15,585 และท้ายที่สุด ก็คือชั้นไขมัน 25 00:01:15,585 --> 00:01:18,759 ซึ่งเป็นฟิล์มมันๆ บางๆ ด้านนอก ที่ทำให้พื้นผิวเรียบ 26 00:01:18,759 --> 00:01:20,340 เพื่อให้ไอริสมองผ่านได้ 27 00:01:20,340 --> 00:01:22,996 และป้องกันชั้นอื่นๆ จากการระเหย 28 00:01:22,996 --> 00:01:24,929 ตามปกติ ไอริสใช้ชีวิตประจำวัน 29 00:01:24,929 --> 00:01:26,888 โดยไม่ได้สังเกตว่าน้ำตาที่หล่ออยู่ 30 00:01:26,888 --> 00:01:28,209 ทำหน้าที่ของมัน 31 00:01:28,209 --> 00:01:30,041 ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามจุดประสงค์ 32 00:01:30,041 --> 00:01:32,919 แต่วันหนึ่ง เธอเจอกับเด็กผู้หญิงที่มีชื่อว่าหัวหอม 33 00:01:32,919 --> 00:01:34,911 ไอริสตกหลุมรักเธอทันที 34 00:01:34,911 --> 00:01:37,577 หัวหอมดูงามเลิศในเสื้อคลุมสีม่วงของเธอ 35 00:01:37,577 --> 00:01:39,830 และเธอก็หอมรัญจวน 36 00:01:39,830 --> 00:01:42,339 ดังนั้น ไอริสจึงเชิญหัวหอมมาที่บ้านเธอสำหรับมื้อค่ำ 37 00:01:42,339 --> 00:01:45,034 แต่เมื่อเธอเข้ามาและถอดเสื้อนอกออก 38 00:01:45,034 --> 00:01:47,250 สิ่งแย่ๆ ก็เกิดขึ้น 39 00:01:47,250 --> 00:01:49,664 คุณเห็นไหม เมื่อเสื้อนอกของหัวหอมถูกถอดออกไป 40 00:01:49,664 --> 00:01:51,499 ปฏิกิริยาเคมีก็เกิดขึ้น 41 00:01:51,499 --> 00:01:54,782 เปลี่ยนซัลฟอกไซด์ที่ทำให้เธอมีกลิ่นหอมๆ 42 00:01:54,782 --> 00:01:56,616 ไปเป็นกรดซัลฟีนิค 43 00:01:56,616 --> 00:02:00,579 ซึ่งจากนั้นกลายเป็นสารที่น่ารังเกียจ ซึ่งมีชื่อยาวๆ ว่า 44 00:02:00,579 --> 00:02:03,825 ซิน-โพรพานีเทียล เอส-ออกไซด์ (syn-Propanethial S-oxide) 45 00:02:03,825 --> 00:02:06,203 ก๊าซนั้นทิ่มไอริส 46 00:02:06,203 --> 00:02:07,705 และทันใดนั้น เธอก็ยั้งไม่ไหว 47 00:02:07,705 --> 00:02:10,327 เธอเริ่มที่จะสะอื้นอย่างไม่อาจควบคุม 48 00:02:10,327 --> 00:02:13,164 น้ำตาที่เกิดโดยนอกอำนาจจิตใจนี้ ต่างจากน้ำตาที่หล่ออยู่ตามปกติ 49 00:02:13,164 --> 00:02:14,875 ซึ่งไอริสคุ้นเคย 50 00:02:14,875 --> 00:02:16,290 เพราะพวกมันถูกออกแบบ 51 00:02:16,290 --> 00:02:17,833 ให้ชะล้างสิ่งที่เป็นอันตราย หรืออนุภาคต่างๆ 52 00:02:17,833 --> 00:02:21,218 พวกมันถูกขับออกมาในปริมาณที่เยอะกว่ามาก 53 00:02:21,218 --> 00:02:23,910 และชั้นน้ำของพวกมันประกอบด้วยแอนติบอดีมากกว่า 54 00:02:23,910 --> 00:02:28,249 เพื่อที่จะยับยั้งจุลชีพใดๆ ก็ตามที่อาจพยายามบุกเข้ามา 55 00:02:28,249 --> 00:02:30,912 ไอริสและหัวหอมต่างก็เสียใจ 56 00:02:30,912 --> 00:02:32,839 พวกเขารู้ว่าไม่สามารถที่จะสานต่อความสัมพันธ์นี้ได้ 57 00:02:32,839 --> 00:02:34,782 ถ้าไอริสจะต้องเจ็บและเสียน้ำตา 58 00:02:34,782 --> 00:02:37,613 ทุกครั้งที่หัวหอมถอดเสื้อนอกออก 59 00:02:37,613 --> 00:02:39,522 ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะแยกทางกัน 60 00:02:39,522 --> 00:02:41,666 เมื่อหัวหอมเดินออกจากประตูไป 61 00:02:41,666 --> 00:02:43,346 ไอริสก็หยุดร้องไห้ 62 00:02:43,346 --> 00:02:44,870 และก็ร้องขึ้นมาอีกในทันที 63 00:02:44,870 --> 00:02:47,161 เพียงแต่ว่าตอนนี้ เธอไม่ได้ร้องไห้ ขับน้ำตาโดยนอกอำนาจจิตใจ 64 00:02:47,161 --> 00:02:49,660 แต่เป็นน้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ 65 00:02:49,660 --> 00:02:52,591 เมื่อใครก็ตามเศร้าหรือสุขมากๆ 66 00:02:52,591 --> 00:02:54,369 มันรู้สึกเหมือนกับเสียการควบคุม 67 00:02:54,369 --> 00:02:55,635 ซึ่งสามารถเป็นอันตรายได้ 68 00:02:55,635 --> 00:02:57,163 ดังนั้น น้ำตาจากอารมณ์จะเข้ามา 69 00:02:57,163 --> 00:02:58,841 เพื่อปรับสมดุลอารมณ์ 70 00:02:58,841 --> 00:03:00,832 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 71 00:03:00,832 --> 00:03:02,757 พร้อมๆ ไปกับการตอบสนองทางกายภาพอื่นๆ 72 00:03:02,757 --> 00:03:04,329 อย่างเช่น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ 73 00:03:04,329 --> 00:03:05,921 และลดอัตราการหายใจ 74 00:03:05,921 --> 00:03:07,849 แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่แน่ใจจริงๆ 75 00:03:07,849 --> 00:03:11,581 ว่าทำไม หรือด้วยเหตุใดที่น้ำตานั้นถึงช่วยได้ 76 00:03:11,581 --> 00:03:13,183 มันอาจเป็นกลไกทางสังคม 77 00:03:13,183 --> 00:03:16,005 ที่จะแสดงความเห็นใจสงสาร หรือการยอมจำนน 78 00:03:16,005 --> 00:03:17,818 แต่การศึกษาบางชิ้นยังได้พบว่า 79 00:03:17,818 --> 00:03:19,766 น้ำตาจากอารมณ์นั้นมีองค์ประกอบเป็น 80 00:03:19,766 --> 00:03:21,400 ฮอร์โมนความเครียดในระดับสูง 81 00:03:21,400 --> 00:03:24,319 ดังเช่น ACTH และ เอ็นคีพาห์ลิน (enkephalin) 82 00:03:24,319 --> 00:03:26,666 เอ็นโดรฟิน และ ยาแก้ปวดจากธรรมชาติ 83 00:03:26,666 --> 00:03:30,423 ในกรณีนี้ น้ำตาจากอารมณ์ ก็ยังได้ทำให้ไอริสใจเย็นลง 84 00:03:30,423 --> 00:03:33,416 และยังสื่ออารมณ์ของเธอออกไปให้คนอื่นทราบ 85 00:03:33,416 --> 00:03:35,703 น่าเสียใจที่หัวหอมและไอริสไม่ได้ลงเอยกัน 86 00:03:35,703 --> 00:03:37,085 แต่ไม่ต้องห่วง 87 00:03:37,085 --> 00:03:39,180 ตราบใดที่คุณยังมีน้ำตาทั้งสามชนิด 88 00:03:39,180 --> 00:03:41,172 ที่ยังคงความสมดุลและพลานามัยที่ดีให้กับคุณ 89 00:03:41,172 --> 00:03:42,300 มันก็จะดีขึ้นเอง 90 00:03:42,300 --> 00:03:43,017 เดี๋ยวก็รู้