WEBVTT 00:00:06.805 --> 00:00:11.861 ในปี 2013 ทีมนักวิจัยจัดการสอบคณิตศาสตร์ขึ้น 00:00:11.861 --> 00:00:15.911 การสอบมีชาวอเมริกันวัยทำงาน เข้าร่วมกว่า 1,100 คน NOTE Paragraph 00:00:15.911 --> 00:00:21.594 และข้อสอบถูกออกแบบขึ้นมา เพื่อวัดความสามารถในการประเมินค่าชุดข้อมูล 00:00:21.594 --> 00:00:26.794 สิ่งที่ซ่อนอยู่ในโจทย์มี 2 คำถามที่คล้ายกัน 00:00:26.794 --> 00:00:29.834 ทั้ง 2 ข้อใช้ชุดข้อมูลที่มีความยากเท่ากัน 00:00:29.834 --> 00:00:33.670 แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกเพียง 1 คำตอบ 00:00:33.670 --> 00:00:38.702 คำถามเเรกถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง รอยผื่นกับครีมทาผิวชนิดใหม่ 00:00:38.702 --> 00:00:42.380 คำถามที่สองถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง อัตราการเกิดอาชญากรรม 00:00:42.380 --> 00:00:45.070 กับการออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืน NOTE Paragraph 00:00:45.070 --> 00:00:47.480 อาสาสมัคร ที่มีความชำนาญทางคณิตศาสตร์ 00:00:47.480 --> 00:00:51.510 มีแนวโน้มตอบคำถามข้อแรกถูก 00:00:51.510 --> 00:00:54.680 แม้ว่าจะมีความชำนาญทางคณิตศาสตร์ 00:00:54.680 --> 00:00:58.922 ความถูกต้องของคำตอบข้อสอง แตกต่างอย่างสิ้นเชิง 00:00:58.922 --> 00:01:01.953 นั่นหมายความว่าทักษะทางคณิตศาสตร์ ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีที่สุด 00:01:01.953 --> 00:01:04.852 ที่จะชี้ว่าอาสาสมัครคนไหน ตอบคำถามถูกต้อง 00:01:04.852 --> 00:01:10.074 ในทางกลับกัน นักวิจัยยังค้นพบว่า มีอีกหนึ่งปัจจัยเข้ามามีบทบาทสำคัญ 00:01:10.074 --> 00:01:12.534 อัตลักษณ์ทางการเมือง (Political Identity) 00:01:12.534 --> 00:01:14.552 อาสาสมัครที่มีความเชื่อทางการเมือง 00:01:14.552 --> 00:01:17.472 ตรงกับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้อง 00:01:17.472 --> 00:01:20.962 มีแนวโน้มที่จะตอบคำถามถูกต้อง 00:01:20.962 --> 00:01:23.482 แม้แต่ในนักคณิตศาสตร์ ระดับหัวกะทิ 00:01:23.482 --> 00:01:28.162 มีแนวโน้มจะตอบคำถามผิดถึง 45% 00:01:28.162 --> 00:01:32.265 เมื่อคำตอบที่ถูกต้อง ไม่ตรงกับจุดยืนทางการเมือง NOTE Paragraph 00:01:32.265 --> 00:01:38.039 อะไรในการเมือง ที่ทำให้เกิดความผิดพลาดอันไม่สมเหตุผลนี้ 00:01:38.039 --> 00:01:41.919 อัตลักษณ์ทางการเมือง ส่งผลต่อ 00:01:41.919 --> 00:01:43.986 ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้หรือไม่ 00:01:43.986 --> 00:01:46.436 คำตอบนั้นตั้งอยู่บนปรากฏการณ์ทางการรับรู้ 00:01:46.436 --> 00:01:51.946 ที่เราสามารถพบเจอในชีวิตประจำวัน : การแบ่งพรรคแบ่งพวก (Partisanship) NOTE Paragraph 00:01:51.946 --> 00:01:55.138 แม้จะพบมากในบริบททางการเมือง 00:01:55.138 --> 00:02:00.083 การแบ่งพรรคแบ่งพวก ยังรวมถึงการชื่นชอบหรือมีอคติ 00:02:00.083 --> 00:02:03.403 ต่อแนวคิดหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 00:02:03.403 --> 00:02:07.463 การเมือง ชาติพันธุ์ ศาสนา และอัตลักษณ์ประจำชาติของเรา 00:02:07.463 --> 00:02:10.454 คือรูปแบบหนึ่งของการแบ่งพรรคแบ่งพวก 00:02:10.454 --> 00:02:13.216 แน่นอนว่า การมีอัตลักษณ์ร่วมกับผู้อื่น 00:02:13.216 --> 00:02:16.766 เป็นสิ่งสำคัญและเป็นส่วนดีในชีวิตมนุษย์ NOTE Paragraph 00:02:16.766 --> 00:02:21.036 ความรู้สึกมีตัวตน ไม่ได้ถูกกำหนด โดยตัวเราในฐานะปัจเจกบุคคลเท่านั้น 00:02:21.036 --> 00:02:23.476 แต่ยังรวมถึงกลุ่มที่เราอยู่ด้วย 00:02:23.476 --> 00:02:28.482 ผลคือ เรามีแรงจูงใจ ในการปกป้องอัตลักษณ์ของกลุ่ม 00:02:28.482 --> 00:02:32.612 ปกป้องความมีตัวตนของเราและของกลุ่มเรา NOTE Paragraph 00:02:32.612 --> 00:02:35.316 แต่นั่นจะก่อให้เกิดปัญหา เมื่อความเชื่อของกลุ่ม 00:02:35.316 --> 00:02:37.499 ไม่ตรงกับความเป็นจริง 00:02:37.499 --> 00:02:41.496 ลองนึกภาพว่าทีมกีฬาทีมโปรดของคุณ ทำผิดกติกาขั้นร้ายแรง 00:02:41.496 --> 00:02:43.336 คุณรู้ว่ามันผิดกติกา 00:02:43.336 --> 00:02:46.636 แต่คนอื่น ๆ ที่เชียร์ทีมเดียวกับคุณ คิดว่ามันเป็นสิ่งที่รับได้ 00:02:46.636 --> 00:02:49.726 เมื่อความคิดทั้งสองนี้ ไม่สอดคล้องกันมากขึ้น 00:02:49.726 --> 00:02:52.089 ถูกเรียกว่า การไม่ลงรอยของการรู้คิด (Cognitive Dissonance) 00:02:52.089 --> 00:02:57.180 และคนส่วนใหญ่พยายาม ล้มเลิกความอึดอัดทางความคิดนี้ 00:02:57.180 --> 00:03:01.690 คุณอาจจะเริ่มโทษกรรมการ เเละกล่าวหาว่าอีกฝั่งเริ่มก่อน 00:03:01.690 --> 00:03:06.006 หรือแม้กระทั่งโน้มน้าวตัวเอง ว่ามันไม่ผิดกติกาตั้งแต่เเรก 00:03:06.006 --> 00:03:07.310 ในกรณีเช่นนี้ 00:03:07.310 --> 00:03:11.519 คนในกลุ่มมีแรงจูงใจที่จะ รักษาความสัมพันธ์ที่ดี 00:03:11.519 --> 00:03:15.699 กับคนในกลุ่ม มากกว่าจะมองโลกอย่างตรงไปตรงมา NOTE Paragraph 00:03:15.699 --> 00:03:19.397 พฤติกรรมแบบนี้ อันตรายอย่างยิ่งในทางการเมือง 00:03:19.397 --> 00:03:21.079 ในระดับตัวบุคคล 00:03:21.079 --> 00:03:25.079 ผู้คนสร้างอัตลักษณ์ทางการเมือง ด้วยการภักดีต่อพรรคการเมือง 00:03:25.079 --> 00:03:27.668 และสนับสนุนนโยบายที่พวกเขาเห็นด้วย 00:03:27.668 --> 00:03:32.409 แต่การแบ่งพรรคแบ่งพวก สามารถชักนำผู้คนให้ปฏิเสธหลักฐาน 00:03:32.409 --> 00:03:37.128 ที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางของพรรค หรือทำให้ผู้นำพรรคเสื่อมเสีย 00:03:37.128 --> 00:03:42.580 เมื่อคนทั้งกลุ่มบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสนองความเชื่อของพวกพ้อง 00:03:42.580 --> 00:03:47.762 มันจะส่งผลให้การเมือง ไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงหรือเหตุผล NOTE Paragraph 00:03:47.762 --> 00:03:49.612 ปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ 00:03:49.612 --> 00:03:52.319 อัตลักษณ์ทางการเมือง มีมานานหลายศตวรรษ NOTE Paragraph 00:03:52.319 --> 00:03:55.159 จากการศึกษาพบว่าทิศทางของการเลือกข้าง 00:03:55.159 --> 00:03:58.399 เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา 00:03:58.399 --> 00:04:00.703 มีหนึ่งทฤษฎีที่อธิบายการเพิ่มขึ้นครั้งนี้ 00:04:00.703 --> 00:04:05.802 คือแนวโน้มของการอยู่ร่วมกัน ของคนในพื้นที่ที่มีความคิดคล้ายกัน 00:04:05.802 --> 00:04:09.432 อีกหนึ่งคำอธิบายคือ การเชื่อข่าวสารที่เลือกข้าง 00:04:09.432 --> 00:04:11.660 หรือการติดอยู่ในโลกของตัวเองในสื่อออนไลน์ 00:04:11.660 --> 00:04:14.130 สิ่งเหล่านี้คล้ายกับเสียงสะท้อนในห้องโถง 00:04:14.130 --> 00:04:18.530 รับรู้ข่าวสารหรือแนวคิด จากคนที่มีความคิดคล้ายกัน NOTE Paragraph 00:04:18.530 --> 00:04:22.742 แต่ยังดีที่นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยวิธีการ 00:04:22.742 --> 00:04:25.579 ในการต่อต้านการบิดเบือนนี้ 00:04:25.579 --> 00:04:30.164 อย่างแรกคือ ระลึกเสมอว่า เราอาจจะมีอคติมากกว่าที่เราคิด 00:04:30.164 --> 00:04:32.204 ดังนั้น เมื่อเราเจอกับข้อมูลใหม่ 00:04:32.204 --> 00:04:36.010 จงใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ในการก้าวข้ามสัญชาตญาณของคุณเอง 00:04:36.010 --> 00:04:38.350 และประเมินค่าข้อมูลด้วยการวิเคราะห์ 00:04:38.350 --> 00:04:42.910 เมื่ออยู่ในกลุ่มของคุณ ลองสำรวจข้อเท็จจริง และตั้งข้อสงสัยในสมมติฐาน 00:04:42.910 --> 00:04:45.456 ต่อส่วนของคุณค่าในวัฒนธรรมนั้น ๆ 00:04:45.456 --> 00:04:48.883 เตือนคนอื่น ๆ ว่าพวกเขา อาจถูกนำเสนอด้วยข้อมูลที่คลาดเคลื่อน 00:04:48.883 --> 00:04:50.393 สิ่งนี้สามารถช่วยคุณได้ 00:04:50.393 --> 00:04:52.933 และเมื่อคุณกำลังพยายามโน้มน้าวคนอื่นอยู่ 00:04:52.933 --> 00:04:57.113 การยอมรับคุณค่าของพวกเขา และคุยเกี่ยวกับประเด็นปัญหาด้วยภาษาของเขา 00:04:57.113 --> 00:05:00.374 สามารถช่วยให้ผู้คนเต็มใจรับฟังมากยิ่งขึ้น NOTE Paragraph 00:05:00.374 --> 00:05:05.061 ปัญหาในการแบ่งพรรคแบ่งพวก ยังต้องใช้เวลาแก้ไขอีกนาน 00:05:05.061 --> 00:05:08.401 แต่หวังว่า เครื่องมือเหล่านี้ สามารถช่วยให้เรารับข้อมูลข่าวสารได้ดีขึ้น 00:05:08.401 --> 00:05:13.218 และสามารถตัดสินใจโดยใช้หลักฐาน เกี่ยวกับความจริงที่เรามีร่วมกัน