คืนหนึ่งผมอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ของผมและรู้สึกเบื่อมาก เลยตัดสินใจนำเอากล้องดูดาวออกไปข้างนอกตามทางเดิน พระจันทร์ก็ขึ้นอยู่ และผมก็คิดว่า "ทำไมจะเอาไปดูไม่ได้หล่ะ" ในเวลาไม่กี่นาที คนที่เดินผ่านไปมา เริ่มเข้ามาดู และถามผมว่า "เครื่องมือนี้ มันคืออะไร?" ชายขี่จักรยาน "นั่นมันคืออะไรครับน้อง?" "มันคือกล้องดูดาวครับ" "อ๋อ!" "อยากจะลองส่องดูพระจันทร์ไหมครับ" "อยากจะลองส่องดูพระจันทร์ไหมครับ" "ดวงจันทร์ครับ" ผู้หญิง "ฉันต้องไปดูตรงไหนหรอจ๊ะ?" "มันต้องมาดูตรงนี้ครับ" "อ้าว! ตรงนั้นหรอ!" และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ชายวัยรุ่น "เดี๋ยวเราดูพระจันทร์ แป๊บนึง ถือสายแป๊บ, โอ้ พระเจ้า" "โอ้! พระเจ้า" "โอ้! พระเจ้า" "โอ้! พระเจ้า ผมไม่อยากจะเชื่อเลย" "โอ้! โอ้! พระเจ้า" "โอ้! พระเจ้า ได้ยังไงอ่ะ" "ได้ไงอ่ะ" "ได้ยังไงอ่ะ นี่พระจันทร์จริงๆหรอ?" "ได้ไงอ่ะ..." "ก็นี่แหล่ะครับ" "ไม่น่าเชื่อ" "โห... เห็นหลุมที่ผิวพระจันทร์เลย เท่สุดสุด" "โหวววววว..." "เฮ้ย!" "เฮ้ย! ดูที่ขอบพระจันทร์สิ เราอยากจะดูมากกว่านี้อีก" "ไอ้ ...เ..ี้ย.!" "ผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย" "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ พับผ่าสิ" "ว้าวววว มันดูใหญ่โตมากเลย" "น้อง มันเหมือนกับ ดวงจันทร์มันลงมาอยู่ที่พื้นถนนเลย" "โห ที่น้องทำเหมือนกับดึงดวงจันทร์ลงมาไว้ตรงถนนเลย" "ใช่ครับ มันน่าอัศจรรย์มากเลยใช่ไหมครับ" "นี่คือพระจันทร์ตอนนี้จริงๆเลยใช่ไหม? เหมือนถ่ายทอดสดเลยใช่ไหมครับ?" [ถอนหายใจ] การที่จะได้เห็นพระจันทร์ในระยะประชิด และรู้สึกเหมือนกับเอื้อมมือไปคว้ามันไว้ได้ สัมผัสมันได้, ทั้งหมดนั้นแหละ ที่ทำให้เรารู้ว่ามันมีอยู่จริง "ไม่น่าเชื่อเลย" "รู้สึกเหมือนกับว่า ดิฉันเพิ่งเหยียบลงบนดวงจันทร์เลย" นั่นทำให้คุณตระหนักว่า พวกเรานั้นก็เป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ บนดาวดวงเล็กๆ และพวกเราก็มีปฏิกิริยาเหมือนกัน ต่อจักรวาลที่เราอาศัยอยู่ [ว้าว] ผมคิดว่ามันมีเรื่องราวที่พิเศษสำหรับเรื่องนี้ บางอย่างที่รวมเราไว้ เป็นเครื่องเตือนใจที่ยิ่งใหญ่ ว่าเราควรแหงนมองท้องฟ้า ให้มากกว่าเดิม