เง็กเซียนฮ่องเต้เป็นใคร? สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ จำได้ไหมคะ? คราวที่แล้ว ตอนที่วิวเล่าเรื่องเกี่ยวกับสำนักต่างๆ ในยุทธภพไปเนี่ย ตอนนั้นวิวแนะนำทุกคนไปว่า วิวได้เข้าไปที่แอปพลิเคชันชื่อว่า WeTV ใช่ไหมคะ? แล้วก็ไปเจอเรื่อง หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ทำให้วิวเนี่ยเข้าไปดู แล้วก็ติดค่ะ ซึ่งวันนี้ขอสารภาพตามตรงค่ะ วิวจะมาป้ายยาทุกคนอีกแล้ว เพราะว่าระหว่างที่วิวกำลังดูเรื่อง หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักรเนี่ย ตามสเต็ปคนติดซีรีส์ ปกติเป็นยังไงคะ? อ่ะ ลองเลือกกันดูนะคะว่า ปกติเวลาทุกคนรอซีรีส์ตอนใหม่อัพ ทำยังไงกัน? หนึ่ง ไปทำงานทำการที่เราควรจะทำตอนที่เราอู้มาดูซีรีส์แล้ว สอง ทำตาม New Year Resolution ของเรา ออกไปออกกำลังกาย กินอาหารสุขภาพ ทำตัวคิดบวก หรือว่า สาม ไล่ดูในแอป แล้วก็ติดเรื่องใหม่คะ? ไม่บอกละกันว่า เราควรจะเลือกข้อไหนนะคะ แต่มีคลิปขนาดนี้ ทุกคนก็น่าจะรู้แหละว่า วิวเลือกข้อสามค่ะ แล้ววิวก็ติดซีรีส์อีกเรื่องนึงอีกแล้วนะคะ ซึ่งซีรีส์เรื่องน้ีนะคะ เป็นภาคแยกของซีรีส์ที่ดังมากๆ เลยค่ะ นั่นก็คือเรื่อง สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย นั่นเอง ขึ้นมาว่า สามชาติสามภพนี่ เรียกได้ว่า การันตีแล้วนะคะว่า ซีรีส์คุณภาพขนาดไหน เพราะว่าซีรีส์สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนยเนี่ย เป็นภาคต่อของสามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ ใช่ไหมคะ? ที่ออกอากาศไปเมื่อปี 2017 แล้วก็เรียกได้ว่า ทำให้คนกรี๊ดแตกกันในทุกช่องทางเลย ใช่ไหมคะ? คือกรี๊ดแตกกันระดับที่ว่า ทำลายสถิติถล่มทลาย เอากลับมาฉายใหม่ เอามาลงอินเตอร์เน็ต ก็อู้หู้ คนดูๆๆๆ กันค่ะ ดังนั้นนะคะ เหล่าคนที่ยังมูฟออนจากป่าท้อไม่ได้เนี่ย แน่นอนว่า ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะว่าตอนนี้เรามีภาคแยกแล้วนะคะ ภาคนี้ก็คือ สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย นั่นเอง แต่ในภาคนี้นะคะ พระเอกกับนางเอกเนี่ย จะไม่ใช่คนเดิมค่ะ จะไม่ใช่ไป๋เฉี่ยนกับเยี่ยหัวแล้วนะคะ แต่พระเอกกับนางเอกของเราเนี่ยนะคะ จะเปลี่ยนเป็นมหาเทพตงหัวกับไป๋เฟิงจิ่วค่ะ ซึ่งในภาคที่แล้วเนี่ย เป็นเหมือนแค่ตัวประกอบ ก็มีโมเมนต์ให้เราฟินๆ จิ้นๆ กันเล็กๆ น้อยๆ นะคะ อาจจะไม่ได้เป็นตัวหลักอะไรขนาดนั้น ซึ่งถ้าใครชอบโมเมนต์ของสองคนนี้นะคะ ในลิขิตเหนือเขนยเนี่ย บอกเลยว่า สองคนนี้เป็นตัวเอก เป็นพระนางเต็มที่เลยค่ะ ดังนั้นเชิญมาหวีดกันได้สุดเสียงเลยนะคะ ส่วนใครที่ยังฟังแค่นี้แล้วรู้สึกว่าแบบ เฮ้ย มันจะน่าดูเหรอ? นะคะ แอบป้ายยานิดนึงค่ะว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความรักข้างเดียวที่แบบ สลับกันรักกันไปรักกันมา คือไป๋เฟิงจิ่วเนี่ย แอบรักมหาเทพตงหัวก่อนค่ะ ประมาณว่า แอบรักเธอมานับพันปี ประมาณนั้นนะคะ แต่คุณมหาเทพตงหัวของเราเนี่ย ดันเป็นเทพสูงศักดิ์ ที่แบบว่า บำเพ็ญตะบะมานาน ไม่มีความรู้สึกอะไร แล้วก็เคยสาบทสาบานเอาไว้อีกว่าแบบ ชั้นจะไม่มีความรัก อะไรอย่างนี้นะคะ ดังนั้นก็เลยปล่อยนางเอกของเราเนี่ย รักข้างเดียว อกหัก นกๆๆ ซ้ำๆ ไปค่ะ จนกระทั่งในที่สุด นางเอกของเราก็ตัดใจได้นะคะ ปรากฏว่า หลังจากนางเอกของเราถอดใจไปเป็นพันๆ ปีเนี่ยนะคะ อยู่ดีๆ พระเอกของเราเนี่ย ดันไปหลงรักนางเอกซะอย่างนั้นค่ะ ก็เหมือนคนนึงก็แบบ ไม่เอาแล้วชั้นเข็ด อีกคนนึงก็แบบ เอ้า ก็ชั้นรัก ทำไมชั้นถึงต้องรักข้างเดียวด้วย ทำนองนี้นะคะ ในเรื่องนี้ เราก็จะต้องมาลุ้นกับความรักของทั้งคู่กันค่ะว่า เค้าจะสมหวังกันหรือเปล่านะคะ? ซึ่งเรื่องจะเป็นยังไงเนี่ย เดี๋ยวให้ทุกคนไปลุ้นกันเองแล้วกัน เล่ามากกว่านี้เดี๋ยวจะสปอยนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นคลิปสปอยสามชาติสามภพซะอย่างนั้น จะมาให้สปอยก็ไม่ใช่เรื่องใช่ไหมคะ? คือจริงๆในซีรีส์สามชาติสามภพเนี่ย ทั้งภาคที่แล้ว ทั้งภาคนี้ก็จะเห็นว่า เรื่องราวเนี่ยมันก็วนเวียนๆๆ อยู่กับเรื่องราวของเทพ ของการสร้างโลก แล้วมันก็มีการเอาเทพจริงๆ ที่เป็นเทพของจีนเนี่ยมาผสมกันเล็กๆ น้อยๆ เป็นเกร็ดอะไรอย่างนี้ เช่น ตอนที่ผานกู่สร้างโลก อะไรแบบนี้ใช่ป้ะ? ดังนั้นวิวก็เลยคิดว่า เรามาเล่าเรื่องเทพจีนจริงๆ กันดีกว่า ว่าแบบเออ มหาเทพตงหัวเป็นมหาเทพในเรื่อง แล้วถ้าพูดถึงมหาเทพจริงๆ ในความเชื่อจีนโบราณเนี่ย เราจะต้องพูดถึงใคร? โอเค ในเรื่องสามชาติสามภาพ เค้าอาจจะมีการแต่ง Mythology (ตำนาน) ของเค้าขึ้นมาเอง แต่งตำนานเทพขึ้นมาเองค่ะ แต่ถ้าสมมติว่า เราจะพูดถึงมหาเทพของจีนโบราณที่เป็นของจีนจริงๆ เนี่ยนะ แน่นอนว่า เราจะต้องพูดถึง เง็กเซียนฮ่องเต้ ค่ะ เชื่อว่าพูดถึง เง็กเซียนฮ่องเต้ เนี่ย หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับชื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่ว่า เอ๊ะ เง็กเซียนฮ่องเต้จริงๆ แล้วเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงได้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้? เราอาจจะไม่ได้รู้เรื่องของท่านขนาดนั้น เราอาจจะแค่ได้ยินผ่านๆ มาในเรื่องนั้น เรื่องนู้นบ้าง ดังนั้นวันนี้ค่ะ มาฟังเรื่องเง็กเซียนฮ่องเต้กันดีกว่า แต่ก่อนที่จะไปฟังเรื่องเง็กเซียนฮ่องเต้กันนะคะ อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ เพราะว่าแต่ละช่องทาง เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยนะจ๊ะ สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันหรือยังคะ? ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปฟังกันเลยค่ะ เช่นเคยนะคะ เรื่องราวที่วิวเล่าเนี่ยอาจจะมีหลากหลายเวอร์ชั่น ถ้าใครอยากรู้ว่า วิวอ่านมาจากเวอร์ชั่นไหนก็ อ้างอิงอยู่ด้านล่างนะคะ สามารถกดดูได้ตรงนี้เลยจ้ะ ต้องบอกก่อนว่า เรื่องราวเกี่ยวกับเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ยนะคะ เป็นแค่ความเชื่อค่ะ ดังนั้นแต่ละแหล่ง แต่ละที่มาเนี่ย อาจจะเล่าไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อของจีนเนี่ยนะคะ มันไม่ค่อยจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเท่าไหร่ค่ะ ราชวงศ์นั้นก็แต่งของตัวเองว่าแบบนี้ ราชวงศ์นี้ของแต่งของตัวเองว่าอย่างนั้น แล้วยิ่งประเทศจีนเนี่ยค่อนข้างกว้างใหญ่มาก ตรงย่านนั้น ย่านนี้ ย่านนู้นก็เล่าไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไปหมดเลยค่ะ ดังนั้นเนี่ย ความเชื่อของแต่ละบ้านอาจจะไม่เหมือนกันนะคะ บางบ้านอากง อาม่าอาจจะเล่ามาไม่เหมือนกับที่วิวเล่าก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครอยากรู้ว่า วิวอ่านเวอร์ชั่นไหนมาก็ด้านล่างนะคะ วิวลงเป็นอ้างอิงไว้ให้แล้ว สามารถไปดูได้ค่ะ อย่างไรก็ตามนะคะ จะขอบอกเลยว่า ความเชื่อเรื่องเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ย ในสมัยโบร่ำโบราณสุดๆ เนี่ยนะคะ เป็นความเชื่อที่ไม่ดังเลยค่ะทุกคน คือเหมือนคนจีนสมัยก่อน เค้าก็ไม่ได้สนใจเง็กเซียนฮ่องเต้อะไรขนาดนั้นหรอก จนกระทั่งมาถึงในสมัยนึงนะคะ ก็คือในสมัยราชวงศ์ถังค่ะ ในสมัยราชวงศ์ถังเนี่ยนะคะ อยู่ดีๆ เรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้ค่ะ ก็บูมขึ้นมาซะอย่างนั้นเลย แล้วเรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ยก็มาดังถึงขีดสุดค่ะ ในช่วงราชวงศ์ซ้ง หรือราชวงศ์ซ้องนั่นเองนะคะ เพราะว่าอะไร เพราะว่ามันมีฮ่องเต้อยู่องค์นึงค่ะ เกิดเคลมขึ้นมา ประมาณว่า เนี่ยนะ ราชวงศ์ของเราได้รับการแต่งตั้งจากเง็กเซียนฮ่องเต้ ผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ ว่าเราเป็นโอรสแห่งสวรรค์ ให้มาปกครองพวกเจ้าทุกคน ประมาณนี้ ก็คือเคลมเลยว่า อำนาจของของชั้นเนี่ยที่มามาจากเง็กเซียนฮ่องเต้แต่งตั้งนะคะ ดังนั้นนะคะ หลังจากนั้น เรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้ก็เลยบูมขึ้นมาเรื่อยๆ ค่ะ และเง็กเซียนฮ่องเต้ก็เลยกลายเป็นเหมือนผู้ปกปักราชบัลลังก์แห่งฮ่องเต้จีนขึ้นมาซะอย่างนั้นเลย ก็เลยทำให้เรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ย แพร่กระจายกันไปทั่วดินแดน แล้วก็ทำให้ประชาชนเนี่ย หันมานับถือเง็กเซียนฮ่องเต้กันมากขึ้นค่ะ ทีนี้ เอาจริงๆ ชื่อของเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ยนะคะ พูดเง็กเซียนฮ่องเต้ๆๆๆ เนี่ย ชื่อนี้เป็นชื่อที่คนไทยเราคิดขึ้นมาเองค่ะ คือเอามาผสมรวมกันระหว่างคำว่า เง็ก ที่แปลว่า หยก เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว กับคำว่า เซียน ที่แปลว่า เซียน แบบเทพเซียน บำเพ็ญตะบะแล้วได้เป็นเซียนของลัทธิเต๋า กับคำว่า ฮ่องเต้ นะคะ ซึ่งคำว่า เซียน กับ ฮ่องเต้ เนี่ย เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนค่ะทุกคน เอาจริงๆ ถ้าเราจะไปพูดในภาษาจีนกลางให้คนจีนปัจจุบันนี้เข้าใจนะคะ เราจะต้องไม่เรียกท่านว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ ค่ะ แต่เราจะต้องเรียกท่านว่า หยู่ตี้ ซึ่งคำว่า หยู่ ในทีนี้นะคะ เป็นภาษาจีนกลางแปลว่า หยก ค่ะ ก็เหมือนคำว่า เง็ก นั่นแหละ ส่วนคำว่า ตี้ เนี่ยแปลว่า จักรพรรดิ นะคะ ก็คือ จักรพรรดิหยก และนี่คือที่มาที่เวลาเราจะเสิร์จเรื่อง เง็กเซียนฮ่องเต้ ภาษาอังกฤษเนี่ย เราจะต้องพิมพ์ว่า Jade Emperor นะคะ Jade ที่แปลว่า หยก แล้วก็ Emperor ที่แปลว่า จักรพรรดิ นั่นเองเนี่ยนะ แต่ถามว่า คำว่า หยู่ตี้ เนี่ย เป็นชื่อเต็มๆ ของท่านหรือยัง? ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่นะ จริงๆ ท่านมีหลายชื่อมาก แล้วในจีนนะคะ ก็มีอีกชื่อนึงที่เป็นชื่อเต็มของท่านเลย ก็คือ หยู่ฮ่วงชางตี้ นั่นเองค่ะ ก็คือเหมือนกับว่า จักรพรรดิหยกแห่งสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ ทำนองนี้ แต่ว่าเป็นชื่อที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นะคะ เพราะว่าอาจจะชื่อยาวนิดนึง เรียกหยู่ตี้ๆ ง่ายกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม ไปเรียกหยู่ตี้ๆ เนี่ย ก็ดูเหมือนไม่ให้ความเคารพ แล้วดูเหมือนแบบห่างไกลกันนิดนึง ดังนั้นคนจีนบางกลุ่มนะคะ ก็จะเรียกท่านว่า เทียนกง ค่ะ เทียน ในที่นี้แปลว่า ฟ้า แปลว่า สวรรค์ ทำนองนี้นะคะ แล้วก็ กง เนี่ยก็คือคำเดียว อากง นั่นเอง ก็คือประมาณว่า คุณปู่แห่งสวรรค์ ประมาณนั้นนะ เพราะว่าเราก็ค่อนข้างจะนับญาติกับเทพเจ้าอยู่แล้วแหละ ถ้าเป็นคนจีนอ่ะ คือเราจะเรียกเทพเจ้าว่าเป็นกงๆๆ ไปหมด คือเหมือนกับเรายกย่องให้เป็นบรรพบุรุษของเรา ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ ซึ่งภาพที่เราคุ้นเคยของเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ย ใครเคยไปไหว้ หรือว่าใครเคยดูหนังดูละครเนี่ยก็จะคุ้นว่า ท่านเนี่ย จะเป็นชายวัยกลางคนนะคะ ไว้หนวดบางๆ แต่ว่ายาวนะ แล้วก็มักจะอยู่ในชุดกรุยกราย เป็นชุกจักรพรรดิยาวๆ นะคะ แล้วก็นั่งอยู่บนบัลลังก์ค่ะ อย่างไรก็ตามนะคะ ในบางเวอร์ชั่นเนี่ย เง็กเซียนฮ่องเต้ก็จะไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์นะคะ แต่ว่าจะใส่ชุดเป็นแบบชุดรบเต็มที่ ชุดทหารนะคะ แล้วก็ถือดาบเล่มใหญ่เลยทีเดียวนะคะ นี่ก็เป็นภาพจำของเง็กเซียนฮ่องเต้ที่หลายๆ คนที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมจีน จะคุ้นกันค่ะ ว่าแต่ แล้วเง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ย เป็นใครมาจากไหนถึงได้มาเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้? เป็นเทพผู้ปกครองสวรรค์นะคะ ก็ต้องบอกว่า ที่มาเท่าที่วิวค้นเจอเนี่ย มาจาก 3 แหล่งด้วยกันนะคะ แหล่งแรกค่ะ อธิบายง่ายมากเลยก็คือบอกว่า ท่านเนี่ย เกิดขึ้นมาตอนที่ผานกู่เนี่ยนะคะ สร้างโลกขึ้นค่ะ ก็คือตอนผานกู่สร้างโลก ก็มีเง็กเซียนฮ่องเต้เกิดขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วก็ได้ปกครองสวรรค์ตั้งแต่นั้นมาเลย คือไม่มีที่มาที่ไปอ่ะนะ ซึ่งเรื่องผานกู่สร้างโลกเนี่ยนะคะ เดี๋ยวไว้ถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟัง ขอแปะไว้ก่อนนะคะทุกคน ส่วนที่มาที่สองค่ะ เป็นที่มาที่แบบดู dramatic มาก เป็นดราม่าระดับเทพสุดๆ นะคะ เง็กเซียนฮ่องเต้ในเวอร์ชั่นนี้นะคะ เล่าว่า ท่านเคยเป็นมนุษย์มาก่อนค่ะ ในสมัยที่ท่านเป็นมนุษย์เนี่ยนะคะ ท่านชื่อว่า จางเติงไหล นะคะ ซึ่งท่านเนี่ยเป็นทหารในสมัยราชวงศ์โจวค่ะ ก็คือในสมัยจีนโบร่ำโบราณสุดๆ เลยนะคะ ตอนนั้นเนี่ยมันมีการรบกันค่ะ เป็น civil war เป็นเหมือนแบบว่า ประชาชนรบกันเอง ว่าอย่างนั้นเถอะ ก็รบกันไปรบกันมา เรียกได้ว่า เป็นสงครามที่โหดร้ายมากๆ เลยนะคะ แล้วท่านก็เป็นทหารที่รบอยู่ในสงครามครั้งนั้นแหละ แล้วบังเอิญว่า ท่านเสียชีวิตค่ะ พอเสียชีวิตไป ปรากฏว่าฟื้นขึ้นมาในโลกหลังความตายนะคะ ตอนที่ท่านฟื้นขึ้นมาเนี่ยนะคะ ท่านก็เห็นเจียง จื่อหยาเนี่ยนะคะ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของท่านในตอนที่ท่านเป็นทหารในชาติที่แล้วเนี่ยนะ กำลังแต่งตั้งคนให้เป็นตำแหน่งต่างๆ บนสวรรค์ค่ะ ประมาณว่า เอาล่ะ เมื่อชาติที่แล้วเจ้าทำความดีความชอบต่างๆ เราขอแต่งตั้งให้ทุกคนเนี่ยเป็นตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนู้น ตำแหน่งนี้บนสวรรค์ อ่ะ เจ้าไปเป็นเทพน้ัน เจ้าไปเป็นเทพนี้ เจ้าไปดูแลนั่น ดูแลนี่นะ และเจียง จื่อหยาเนี่ยนะคะ กำลังจะแต่งตั้งตัวเองเป็นตำแหน่งสุดท้ายค่ะ เพื่อที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิปกครองสวรรค์ หรือว่าตำแหน่งเง็กเซียนฮ่องเต้นั่นเองนะคะ ในขณะที่เค้ากำลังจะแต่งตั้งตัวเองเนี่ย แน่นอนว่า ธรรมเนียมจีนสมัยนั้นค่ะ มันมีธรรมเนียมที่แบบจะต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเนี่ย จำในสามก๊กได้ไหมคะ? ตอนที่เล่าปี่ไปเชิญขงเบ้งมาเป็นกุนซือของตัวเอง หรือแม้แต่ตอนที่คนเนี่ย เชิญเล่าปี่ขึ้นปกครองเมือง เป็นเจ้าเมืองเนี่ยนะคะ ตามธรรมเนียม มันจะต้องปฏิเสธ มันจะต้องแบบ ไม่เอาๆ อย่าเลย เดี๋ยวก่อน ขอชั้นคิดนิดนึง ไม่งั้นมันจะดูแบบกระหายอำนาจเกินไป มันจะดูแบบว่า ชั้นอยากเป็นเต็มที่แล้วจ้า ขอเป็นเถอะ ประมาณนั้นนะคะ ซึ่งมันไม่สุภาพในจีนโบราณ ดังนั้นค่ะเจียง จื่อหยาเนี่ยนะคะ ตอนที่จะแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งสวรรค์เนี่ย ก็มีการบอกว่าแบบ เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ชั้นยังไม่คิดจะรับตำแหน่งนะ ขอคิดแป็บนึง ซึ่งบังเอิญว่า คำว่า เดี๋ยวก่อน เนี่ยนะคะ มันคือคำว่า เติงไหล ค่ะ ประมาณว่า เติงไหล เติ่งไหลอะไรอย่างนี้นะคะ ดังนั้นนะคะ จางเติงไหลเนี่ย ก็เลยถือโอกาสค่ะ พอพูดคำว่า เติงไหล ประมาณว่าแบบ เติงไหลเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ ประมาณว่าแบบ เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ เติงไหลนะคะก็เลยสวมรอยตัวเองค่ะ จางเติงไหลก็บอกว่า เอ้า เรียกชื่อชั้นเหรอ? เอ้า กำลังจะแต่งตั้งตำแหน่งเง็กเซียนฮ่องเต้แล้วเรียกชื่อชั้น ดังนั้นตกลง ชั้นยอมเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้เองก็ได้นะคะ ผู้บังคับบัญชาของเค้าเนี่ยนะคะ ก็เลยทำอะไรไม่ได้ค่ะ คือเหมือนคนจีนน่ะ ออกปากไปแล้วมันก็ถอนคำพูดกลับไม่ได้นะคะ ดังนั้น จางเติงไหลก็เลยได้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ตั้งแต่นั้นมาค่ะ ส่วนเจียง จื่อหยาเนี่ยนะคะ ก็เลยพลาดตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย แล้วก็ได้สาปแช่งเง็กเซียนฮ่องเต้ไว้ค่ะ ประมาณว่าแบบ แกๆๆ แกมีลูกเมื่อไหร่นะ ขอให้ลูกชายแกมันเป็นโจร แล้วขอให้ลูกสาวแกนะมันขายตัว ประมาณนี้นะคะ แต่ว่า มันก็ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรที่เล่าว่า ลูกของเง็กเซียนฮ่องเต้เป็นไปตามคำสาปนั้นนะ นี่ก็คือที่มาที่สองของเง็กเซียนฮ่องเต้นะคะ ค่อนข้างจะเรียกได้ว่า ฉลาดแกมโกงพอสมควรเลยนะ อย่างไรก็ตามค่ะ เราไปดูที่ที่มาที่สามดีกว่าค่ะ ที่มาที่สามนี้จะเป็นที่มาที่แบบดีๆ นิดนึง เป็นมหาบุรุษนิดนึงนะคะ ที่มาที่สามของเง็กเซียนฮ่องเต้ค่ะ เล่าว่ามาจากฮองเฮาองค์นึงนะคะ ก็คือเป็นพระราชินีเนี่ยแหละ เป็นพระราชินีของจีนโบราณนะคะ องค์นึงที่บังเอิญว่าเป็นพระราชินีที่ยังบริสุทธิ์อยู่ค่ะ คือยังไม่เคยมีอะไรกับฮ่องเต้เลย แต่ว่าฮ่องเต้ของนางเนี่ยดันเป็นฮ่องเต้แก่ แล้วก็ใกล้ตายแล้วนะคะ ป่วย นอนป่วยแบะอยู่ ประมาณนี้นะ นางก็ไม่รู้จะทำยังไง คนที่จะสืบต่อราชสมบัติก็ไม่มี ดังนั้นนะคะ นางก็เลยสวดมนต์อ้อนวอนภาวนาต่างๆ ค่ะ ปรากฏว่า คืนนั้นนะคะ นางฝันค่ะ ถามว่า ฝันเห็นใคร? นางฝันเห็นเล่าจื๊อค่ะ เล่าจื๊อเนี่ยก็คือนักปราชญ์ของลัทธิเต๋า ที่เป็นคนเขียนหนังสือชื่อ เต้าเต๋อจิง นะคะ ที่เป็นที่มาของแนวคิดปฏิบัติลัทธิเต๋าทั้งหมดเลย ก็เรียกได้ว่าเป็นคนตั้งลัทธิเต๋าประมาณนั้นแหละนะคะ ซึ่งพอนางฝันแล้วเนี่ย ตื่นเช้ามานางดันท้องค่ะ ก็ท้องขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็อารมณ์คล้ายๆ พระแม่มารีท้องพระเยซูอ่ะ เป็นท้องที่แบบบริสุทธิ์ประมาณนั้นนะคะ พอคลอดออกมาค่ะ ทารกคนนี้ก็สำแดงอำนาจขึ้นมาทันที ประมาณว่า สามารถเดินได้ พูดได้ในทันที แล้วก็เป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดมากๆ เลยค่ะ หลังจากนั้นไม่นานนะคะ พ่อของเค้าก็สิ้นพระชนม์ไปค่ะ ดังนั้นเค้าก็เลยขึ้นปกครองบ้านเมืองแทนพ่อนะคะ แล้วก็ปกครองอย่างดีมากเลย มาเป็นระยะเวลานึง ปกครองจนกระทั่งคนที่เค้าปกครองเนี่ย ร่ำรวย อยู่เย็นเป็นสุขไปหมดนะคะ แล้วถึงตอนนั้นเค้าก็สละราชสมบัติค่ะ ประมาณว่า ชั้นไม่อยากมีอำนาจ จะมีอำนาจไปทำไม ให้ญาติๆ ปกครองไปแทนแล้วกัน ส่วนตัวเค้าเองเนี่ยนะคะ ก็ไปบำเพ็ญตะบะอะไรต่างๆ จนในที่สุดนะคะ ก็สำเร็จวิชาระดับเซียนนะคะ กลายเป็นเซียนที่มีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะ ไม่ตายนะคะ แล้วก็กลายเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ ผู้ปกครองสวรรค์ในที่สุดค่ะ นี่ก็คือที่มาของเง็กเซียนฮ่องเต้ทั้งสามแบบนะคะ ทีนี้ถามว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ปกครองสวรรค์เนี่ย เค้ามีครอบครัวไหมนะคะ? ก็ต้องบอกว่า มีค่ะ ถามว่าเมียของเง็กเซียนฮ่องเต้คือใคร? ก็เอาจริงๆ มีหลายเวอร์ชั่นนะ แต่เวอร์ชั่นที่ฮิตที่สุดก็คือ พระแม่ซีหวางหมู่ นั่นเองนะคะ พระแม่ซีหวางหมู่นี่คือเป็นเหมือนแบบพระแม่แห่งสวรรค์ ประมาณนี้ แล้วลูกๆ ของเง็กเซียนฮ่องเต้กับซีหวางหมู่เนี่ยก็มีเยอะมากเลยทีเดียว แต่ว่าคนที่มีชื่อเสียงนะคะ มีทั้งหมด 3 คนด้วยกันค่ะ คนแรกก็คือ ซูเหนียงเหนียง นะคะ ซูเหนียงเหนียงนี่เป็นเหมือนเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ประมาณนั้น ซึ่งผู้หญิงชาวจีนเนี่ยนะคะ ใครที่แบบอยากมีลูกแล้วไม่มีลูก ก็จะไหว้ซูเหนียงเหนียงนี่แหละ ส่วนลูกคนที่สองที่มีชื่อเสียงนะคะก็คือ เยินกวงเหนียงเหนียง นั่นเอง ไม่แน่ใจว่า ออกเสียงถูกไหมนะ แต่ว่า คนนี้นะคะ เป็นเทพเจ้าแห่งคนตาบอดค่ะ คือเป็นเทพธิดาที่แบบ โอเค ใครคนตาบอด อ่ะ ขอพรกับชั้นนะ เดี๋ยวชั้นจะให้พรให้ตาเธอกลับมาดีเหมือนเดิม อะไรประมาณนี้นะคะ ส่วนคนที่สามค่ะ เป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่ว่าอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรขนาดนั้น คนคนนั้นก็คือ จือหนู นั่นเองนะคะ ก็คือนางฟ้าคนสุดท้องที่หลงรักมนุษย์ที่เป็นชายเลี้ยงวัวนะคะ แล้วก็เลยปลอมตัวลงไปเป็นหญิงทอผ้า ไปแต่งงานนั่นเองค่ะ ที่มาของวันที่ 7 เดือน 7 นั่นเองนะคะ นี่ก็คือ ครอบครัวของเง็กเซียนฮ่องเต้ค่ะ ทีนี้เล่าไปถึงหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัวแล้วเนี่ย ก็ต้องบอกว่า ในปัจจุบันเนี่ย เรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียงก็มีทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกันค่ะ เรื่องแรกก็คือที่วิวพูดไปคือ หญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว นะคะ ส่วนเรื่องที่สองก็คือ เรื่องของปีนักษัตร ที่วิวเพิ่งจะเล่าไปเมื่อไม่นานมานี้ และเรื่องที่สามก็คือ เรื่องของซุนหงอคง ในไซอิ๋วนั่นเองค่ะว่า เง็กเซียนฮ่องเต้นี่มีการปะทะกับซุนหงอคงนะ ประมาณว่า ในเวอร์ชั่นนั้นจะโดนซุนหงอคงปั่นหัวซะเละตุ้มเป๊ะไปหมดเลยค่ะ ในปัจจุบันนะคะ เง็กเซียนฮ่องเต้เป็นเทพที่ได้รับความนิยมมากค่ะ ในศาลเจ้าต่างๆ เนี่ย เรามักจะไหว้เง็กเซียนฮ่องเต้กันเสมอเลย ต่อให้ไม่ใช่ศาลเจ้าของเง็กเซียนฮ่องเต้โดยตรงนะ ก็จะต้องมีศาลที่ตั้งเง็กเซียนฮ่องเต้อยู่ค่ะ และโดยเฉพาะช่วงตรุษจีนแบบนี้นะคะ จะเป็นช่วงที่เรานิยมไหว้เง็กเซียนฮ่องเต้เป็นพิเศษค่ะ เพราะว่ามีความเชื่อว่า เง็กเซียนฮ่องเต้เนี่ย ในหนึ่งปีในช่วงตรุษจีนเนี่ยนะคะ ก็จะมาตัดสินค่ะว่า โอเค คนนี้เป็นคนที่ทำความดีมาตลอดปี อ่ะให้พรๆๆ เออ ปีนี้คนนี้ทำตัวไม่ดีเลย สาปมันดีกว่า อะไรทำนองนี้นะคะ ในช่วงตรุษจีนนี่แหละ ก็คอยตัดสินว่า คนนี้ดี คนนี้ไม่ดี ประมาณนั้น แล้วถามว่า เง็กเซียนฮ่องเต้จะไปรู้ได้ยังไงว่า ใครดี ใครไม่ดี นะคะ? ก็ต้องบอกว่า ถ้าสมมติว่าบ้านใครเนี่ยไหว้เจ้าค่อนข้างเคร่งขัดช่วงตรุษจีน ก็จะเห็นว่า ก่อนตรุษจีนไม่กี่วันนะคะ อากงอาม่าก็จะเริ่มไหว้เจ้าล่วงหน้าแล้วค่ะ ซึ่งการไหว้เจ้าครั้งนั้นเนี่ยนะคะ คนแต้จิ๋วเค้าจะเรียกว่า ซิ้งเจียที ค่ะ หรือว่า การส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ นั่นเอง ซึ่งการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เนี่ยนะคะ ก็คือการส่งเทพเจ้าเจาจุน หรือว่าเทพเจ้าแห่งเตาไฟขึ้นไปบนสวรรค์นั่นเองค่ะ คือชาวจีนเนี่ย เชื่อว่าในเตาไฟของทุกบ้านเนี่ยนะคะ มีเทพเจ้าอยู่ค่ะ และด้วยความที่ทุกบ้านมีเตาไฟหมดเนี่ย เทพเจ้าองค์นี้ก็จะใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ก็จะแอบดูมาตลอดทั้งปีนะคะว่า อ่อ บ้านนี้ทำความดี บ้านนี้ทำความชั่ว อะไรอย่างนี้ แล้วก็เก็บรวบรวมทั้งหมดค่ะ ช่วงตรุษจีนเนี่ยก็จะขึ้นไปบนสวรรค์นะคะ แล้วก็ไปรายงานให้เง็กเซียนฮ่องเต้ฟังค่ะ จดไว้หมดแล้วว่าแบบ บ้านนี้ดี บ้านนี้ไม่ดีอะไรต่างๆ นะคะ ดังนั้นค่ะ ในช่วงเทศกาลส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เนี่ยนะคะ ก็จะมีธรรมเนียมของแต่ละบ้านกัน ตามแต่ที่จะครีเอทเลย เพื่อทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองดูดีที่สุดในสายตาเง็กเซียนฮ่องเต้นะคะ บางบ้านก็จะไหว้ขนมที่มันเหนียวๆ ที่มันติดปากค่ะ เพื่อที่จะให้เทพเจ้าแห่งเตาไฟเนี่ยนะ กินเข้าไปแล้วก็แบบ อ้าปากไม่ออกอ่ะ ขนมเหนียวติดปากอ่ะ อือๆๆ จะได้ไม่พูดอะไรมาก แบบ เออ ก็ไม่ต้องไปเล่าเยอะหรอก ชั้นก็ไม่ได้ทำตัวดีตลอดทั้งปีนะ หรือบางบ้านนะคะ ก็จะนิยมถวายขนมหวานๆ ค่ะ ทำให้เทพเจ้าเตาไฟเนี่ย รู้สึกปากหวานขึ้นมา ก็จะเล่าอะไรดีๆ ให้เง็กเซียนฮ่องเต้ฟัง หรือบางบ้านหนักกว่านั้นนะคะ ก็จะมีการเอาเหล้าเนี่ยนะคะ ไปป้ายตรงเตาไฟบ้านตัวเองค่ะ ป้ายๆๆๆ เพื่อที่ว่า ถือว่าเป็นปากของเทพเจ้าเตาไฟนะ เทพเจ้าเตาไฟจะได้เมานะคะ แล้วก็แบบไม่พูดมาก ประมาณนั้นเลยนะคะ เป็นไงบ้างคะ? นี่คือเรื่องราวของเง็กเซียนฮ่องเต้ที่วิวเก็บมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ ที่บ้านเชื่อเหมือนกัน หรือว่าต่างกันยังไง? ลองคอมเมนท์มาคุยด้านล่างได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม นี่คือเรื่องราวความเชื่อแบบเทพจีนที่อาจจะขลังนิดนึง แต่ว่าอาจจะไม่แซ่บเท่าไหร่นะ เพราะมันเป็นความเชื่อจริงๆ ไง ดังนั้นนะคะ ถ้าใครอยากฟังเรื่องราวของเทพที่แซ่บๆ หมายถึงทั้งเนื้อหาแล้วก็หน้าตาของเทพด้วยนะคะ ก็โหลดมาเลยค่ะ แอปพลิเคชัน WeTV นะคะ บอกเลยว่าที่นี่เค้าปล่อยฉายตอนแรกก่อนใครเลยนะคะ ไม่ต้องกลัวโดนสปอยแน่นอน เพราะว่าฉายพร้อมกับที่จีน แล้วก็มี subtitle ให้ดูด้วยนะคะ ดูก่อน หวีดก่อน ติดแท็กก่อน ไม่ต้องกลัวโดนใครสปอยเลยค่ะ ส่วนใครใจร้อนนะคะ อยากดูก่อนคนอื่น แนะนำเลยค่ะ สมัคร VIP นะคะ แค่เดือนละ 59 บาทเท่านั้น ก็ดูล่วงหน้าไปจุกๆ เลยค่ะ สำหรับตอนนี้นะคะ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บาย บาย สวัสดีค่ะ ไหน ใครดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วบ้างทุกคน? เชื่อว่าทุกคนน่าจะติดซีรีส์เรื่องนี้กันนะคะ ดังนั้นใครดูแล้วชอบฉากไหน ช็อตไหนมาหวีดข้างล่างเลยค่ะ เราจะได้มาคุยกันนะคะ สำหรับตอนนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน คลิปยาวมากพอแล้วนะคะ บาย บาย สวัสดีค่ะ