WEBVTT

00:00:00.248 --> 00:00:01.601
ลองมาทำโจทย์แบบฝึกหัด

00:00:01.601 --> 00:00:03.982
ในคานอะคาเดมี่ ที่ให้เรา

00:00:03.982 --> 00:00:05.782
เขียนปัญหาการบวกใหม่

00:00:05.782 --> 00:00:07.459
ที่เราได้จำนวนกลมๆ ยิ่งขึ้น

00:00:07.459 --> 00:00:12.376
จำนวนที่อาจเป็นจำนวนเท่าของ 10
หรือจำนวนเท่าของ 100

00:00:12.377 --> 00:00:15.993
ลองดูตรงนี้ ผมมี 63 บวก 427

00:00:15.993 --> 00:00:18.628
และมันอาจดูยุ่งยาก คุณก็รู้

00:00:18.628 --> 00:00:20.555
ดูเหมือนว่า ผมอยากเขียนพวกมันลงไป

00:00:20.555 --> 00:00:22.866
แต่บางทีผมอยากเอาค่าจากตัวหนึ่ง

00:00:22.866 --> 00:00:24.433
ไปยังอีกตัว พวกมันจะได้

00:00:24.433 --> 00:00:26.348
เป็นจำนวนกลมๆ ยิ่งขึ้น และเห็นได้ชัด

00:00:26.348 --> 00:00:29.970
ว่า 63 ถ้าผมให้ 3 ไป ผมจะได้ 60

00:00:29.970 --> 00:00:32.732
แล้วถ้าผมให้ 3 นั้นกับ 427

00:00:32.732 --> 00:00:35.913
มันจะเป็น 430, และ 60 บวก 430

00:00:35.914 --> 00:00:37.551
เป็นปัญหาที่ง่ายกว่ามาก

00:00:37.551 --> 00:00:39.292
งั้นลองคิดกันว่าคำถามนี้ถามอะไรอยู่

00:00:39.292 --> 00:00:41.928
มันก็แค่ทำตามขั้นตอนนั้น

00:00:41.928 --> 00:00:45.885
มันแค่บอกว่า 63 บวก 427 จะเท่ากับ

00:00:45.886 --> 00:00:49.810
60 บวกอะไรบวก 427?

00:00:49.810 --> 00:00:51.586
60 บวกอะไร มันจะ

00:00:51.586 --> 00:00:53.838
เท่ากับ 63 เพราะเรามี

00:00:53.838 --> 00:00:58.749
427 ทั้งสองด้าน แล้ว 63 คือ 60 บวก 3

00:00:58.749 --> 00:01:00.119
มันสมเหตุสมผล

00:01:00.119 --> 00:01:02.267
ในขั้นต่อไป เขาแค่เปลี่ยนลำดับ

00:01:02.267 --> 00:01:05.366
60 บวก 3, แล้วบวก 427

00:01:05.366 --> 00:01:07.366
เท่ากับ 60 บวก

00:01:07.366 --> 00:01:11.131
เราบวก 3 กับ 427 ก่อน

00:01:11.131 --> 00:01:12.374
เราแค่เอา 3 นี้มา

00:01:12.374 --> 00:01:15.752
แล้วย้ายมันจาก 63 ไป 427

00:01:15.752 --> 00:01:20.232
3 บวก 427 มันก็คือ 430

00:01:20.233 --> 00:01:22.450
และตอนนี้ปัญหาการบวกง่ายขึ้นมาก

00:01:22.450 --> 00:01:25.109
60 บวก 430 เราคิดในใจได้

00:01:25.109 --> 00:01:27.291
เราก็แค่บวก 6 สิบกับค่านี่ ตรงนี้

00:01:27.291 --> 00:01:31.470
มันจะเท่ากับ 490 เราก็เสร็จแล้ว

00:01:31.470 --> 00:01:34.233
ลองทำตัวอย่างแบบนี้กันอีก

00:01:34.233 --> 00:01:38.192
ตรงนี้ เราอยากได้ ลองดู

00:01:38.192 --> 00:01:40.189
เราอยากบวกจำนวนสองตัวนี้

00:01:40.189 --> 00:01:42.567
และลองดูว่าเรา

00:01:42.567 --> 00:01:44.585
ทำจำนวนให้กลมขึ้นได้ไหม

00:01:44.585 --> 00:01:46.128
ตรงนี้ เรากำลังแยก

00:01:46.129 --> 00:01:50.640
275 เป็น 270 กับอะไรสักอย่าง

00:01:50.640 --> 00:01:52.884
มันจะเท่ากับ 270 บวก 5

00:01:52.885 --> 00:01:54.243
สังเกตว่าที่เหลือยังเหมือนเดิม

00:01:54.243 --> 00:01:57.551
บวก 595, บวก 595

00:01:57.552 --> 00:01:59.433
ทีนี้ ทำไมเราถึงทำอย่างนั้น?

00:01:59.433 --> 00:02:03.124
ถ้าเราแยก 5 จาก 275 และให้ 5 กับ 595

00:02:03.124 --> 00:02:04.880
ซึ่งเรากำลังทำตรงนี้

00:02:04.880 --> 00:02:05.829
595 จะกลายเป็น 600 ได้

00:02:05.829 --> 00:02:08.229
มันจะทำให้การคำนวณง่ายขึ้น

00:02:08.229 --> 00:02:09.485
เหมือนเดิม ตรงนี้เรากำลังบวก

00:02:09.485 --> 00:02:13.271
270 กับ 5 ก่อน แล้วเราจะบวก 595

00:02:13.271 --> 00:02:15.220
แต่เราเปลี่ยนลำดับที่เราบวก

00:02:15.221 --> 00:02:18.880
เราบวก 5 กับ 595 ก่อน

00:02:18.880 --> 00:02:19.470
แล้วค่อยบวก 270

00:02:19.470 --> 00:02:21.826
นี่ก็เหมือนกับ 270 บวก

00:02:21.826 --> 00:02:24.311
5 บวก 595 เป็น 600 นั่นคือสาเหตุทั้งหมด

00:02:24.311 --> 00:02:27.608
ที่เราแยก 5 จาก 275 เพื่อ

00:02:27.608 --> 00:02:30.800
เราจะได้บวกมันกับ 595 กลายเป็น 600

00:02:30.800 --> 00:02:31.949
และตอนนี้เราคิดในใจได้แล้ว

00:02:31.949 --> 00:02:34.805
270 บวก 6 ร้อย เราก็แค่เพิ่ม

00:02:34.805 --> 00:02:39.201
หลักร้อยไป 6 มันจึงเท่ากับ 870

00:02:39.201 --> 00:02:42.602
ลองทำตัวอย่างอีกข้อหนึ่ง

00:02:42.603 --> 00:02:43.799
เติมช่องว่าง

00:02:43.799 --> 00:02:48.802
51 บวก 83 เท่ากับช่องว่างบวก 84

00:02:48.802 --> 00:02:51.959
ทีนี้ เขาเพิ่ม 83 ขึ้นหนึ่งกลายเป็น 84

00:02:51.960 --> 00:02:55.590
เราจึงลด 51 ลงหนึ่ง

00:02:55.590 --> 00:02:58.519
นี่จะเหมือนกับ 50 บวก 84

00:02:58.519 --> 00:03:00.469
ทีนี้ ทำไมเราต้องสนใจมันด้วย?

00:03:00.469 --> 00:03:01.688
เขาทำไปทำไม?

00:03:01.688 --> 00:03:03.696
ผมว่ามันคำนวณง่ายกว่า

00:03:03.696 --> 00:03:04.927
เพราะตอนนี้ผมแค่บอกว่า

00:03:04.927 --> 00:03:08.688
8 สิบบวก 4 หน่วย บวกอีก 5 สิบ

00:03:08.688 --> 00:03:12.762
มันจะเท่ากับ 13 สิบกับ 4 หน่วยหรือ 134

00:03:12.763 --> 00:03:14.922
ผมว่ามันง่ายขึ้นเล็กน้อย

00:03:14.922 --> 00:03:17.325
แต่สิ่งสำคัญคือว่า ถ้าเราบวกให้จำนวนหนึ่ง

00:03:17.325 --> 00:03:19.369
เราต้องหักปริมาณเท่ากันจากอีกจำนวน

00:03:19.369 --> 00:03:21.330
เพื่อหาค่าของปัญหาการบวกนี้

00:03:21.330 --> 00:03:25.312
ของพจน์นี้ไม่เปลี่ยน

00:03:25.312 --> 00:03:27.700
ลองทำอีกข้อกัน

00:03:27.700 --> 00:03:32.692
138 บวก 710 เท่ากับช่องว่างบวก 700

00:03:32.693 --> 00:03:35.559
เรามี 710 แต่ตอนนี้เป็น 700

00:03:35.559 --> 00:03:37.916
เราเอา 10 ออกไปจากจำนวนนั้น

00:03:37.916 --> 00:03:39.738
เราจึงให้มันกับอีกจำนวน

00:03:39.738 --> 00:03:42.745
138 เราต้องบวก 10 เข้าไป

00:03:42.745 --> 00:03:45.380
มันจะได้ 148

00:03:45.380 --> 00:03:46.785
ทีนี้ ทำไมมันถึงมีประโยชน์?

00:03:46.785 --> 00:03:49.454
148 บวก 700 คุณคิดในใจได้

00:03:49.455 --> 00:03:53.420
มันจะเท่ากับ 848 มันคำนวณง่ายกว่า

00:03:53.420 --> 00:03:55.765
ที่เรามีตรงนี้