WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:02.840 อยากรู้มั้ยคะว่าเรากินเจกันไปทำไม? 00:00:02.940 --> 00:00:04.620 สวัสดีค่า วิวจากแชแนล Point of View ค่ะ 00:00:04.660 --> 00:00:06.580 ช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจีนแบบนี้นะคะ 00:00:06.580 --> 00:00:09.380 เชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะเริ่มเห็นตามร้านอาหารต่างๆ เนี่ย 00:00:09.380 --> 00:00:13.340 เอาธงสีเหลืองๆ มีตัวหนังสือสีแดงๆ มาแปะๆๆๆ กันเต็มไปหมดแล้วนะคะ 00:00:13.340 --> 00:00:16.260 เพราะว่าตอนนี้เป็นเทศกาลกินเจนั่นเองค่ะ 00:00:16.260 --> 00:00:19.360 ทีนี้อยากรู้กันมั้ยคะว่า คนไทยเชื้อสายจีนกินเจกันทำไม? 00:00:19.360 --> 00:00:21.540 แล้วทำไมจะต้องมากินช่วงเดือน 9 แบบนี้? 00:00:21.540 --> 00:00:23.740 วิวก็ไปหาคำตอบมาให้ทุกคนแล้วค่ะ 00:00:23.740 --> 00:00:26.820 ซึ่งก่อนที่จะไปฟังกันเนี่ยนะคะ วิวขอบอกไว้ก่อนเลยว่า 00:00:26.820 --> 00:00:29.680 การกินเจเนี่ยเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อค่ะ 00:00:29.680 --> 00:00:31.220 ดังนั้นขึ้นว่าความเชื่อเนี่ย 00:00:31.220 --> 00:00:34.060 ความเชื่อของแต่ละคน คนแต่ละกลุ่ม แต่ละลัทธิ 00:00:34.060 --> 00:00:35.140 อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ 00:00:35.140 --> 00:00:37.320 สิ่งที่วิวไปหามาได้ก็อาจเป็นแค่ลัทธิเดียว 00:00:37.320 --> 00:00:39.160 หรือว่าความเชื่อของคนกลุ่มเดียวค่ะ 00:00:39.160 --> 00:00:41.060 ซึ่งวิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว 00:00:41.060 --> 00:00:43.240 ใครที่อยากไปอ่านตามความเชื่อที่วิวหามาเนี่ย 00:00:43.240 --> 00:00:45.040 ก็สามารถตามอ่านได้ข้างล่างนะคะ 00:00:45.040 --> 00:00:48.380 ส่วนใครที่ไปเจอความเชื่ออื่นมา ที่บ้านเชื่อแบบอื่น 00:00:48.380 --> 00:00:51.260 อากง อาม่า เหล่าอึ้ม เหล่ากิ๋มอะไร กินอีกแบบนึง 00:00:51.260 --> 00:00:54.540 ก็สามารถมาคอมเมนต์กันได้ด้านล่าง เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันได้เช่นกันค่ะ 00:00:54.540 --> 00:00:57.240 แล้วก็ก่อนที่จะไปฟังคำตอบของวิวนะคะว่า 00:00:57.240 --> 00:00:59.580 ทำไมคนไทยเชื้อสายจีนถึงกินเจ? 00:00:59.580 --> 00:01:01.580 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ 00:01:01.580 --> 00:01:05.100 จะได้ไม่พลาดคลิปวิดิโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ 00:01:05.100 --> 00:01:08.800 โอเค พร้อมจะไปกันเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ? 00:01:09.120 --> 00:01:11.120 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:12.940 --> 00:01:16.520 พูดถึงว่าเรากินเจกันไปทำไมเนี่ย ก่อนจะไปพูดว่ากินเจทำไม 00:01:16.520 --> 00:01:18.540 เอานี่ก่อนดีกว่าค่ะ กินเจคืออะไร? 00:01:18.580 --> 00:01:20.940 อะ! หลายคนเข้าใจผิดเรื่องการกินเจนะคะ 00:01:20.940 --> 00:01:24.340 เข้าใจว่ากินเจก็คือการกินมังสวิรัติยังไงล่ะ ก็ไม่กินเนื้อสัตว์ 00:01:24.340 --> 00:01:26.880 ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เลยค่ะ เพราะว่าคำว่ากินเจ 00:01:26.880 --> 00:01:29.640 ชื่อเต็มๆ ของมันเนี่ยคือ การถือศีลกินเจ 00:01:29.660 --> 00:01:32.940 คือกินเจเฉยๆ ไม่ได้นะคะ จะต้องมีการถือศีลประกอบด้วย 00:01:32.940 --> 00:01:34.900 มีการประพฤติตัวให้อยู่ในศีลธรรม 00:01:34.900 --> 00:01:36.660 ประพฤติตัวตามทำนองคลองธรรม 00:01:36.720 --> 00:01:38.580 ทำตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ที่สุด 00:01:38.580 --> 00:01:41.660 ดังนั้นหลายๆ คนก็จะใส่ชุดขาว อะไรประมาณอย่างนี้นี่แหละค่ะ 00:01:41.660 --> 00:01:43.540 นอกจากนี้นะคะ เรื่องอาหารการกินเนี่ย 00:01:43.540 --> 00:01:45.300 ก็จะไม่เหมือนมังสวิรัติซะทีเดียวค่ะ 00:01:45.300 --> 00:01:48.080 เพราะว่าก็จะมีการห้ามกินอาหารกลิ่นฉุนด้วย 00:01:48.080 --> 00:01:51.160 มีเนื้อสัตว์บางชนิดอย่างหอยนางรม ที่ได้รับการยกเว้น 00:01:51.160 --> 00:01:52.100 อะไรประมาณนี้ค่ะ 00:01:52.100 --> 00:01:54.360 อย่างไรก็ตามคลิปนี้เราไม่ได้มาพูดถึง 00:01:54.360 --> 00:01:55.920 เรื่องข้อกำหนดการกินเจกันเนอะ 00:01:55.920 --> 00:01:58.000 เรามาพูดว่าเรากินเจกันทำไม 00:01:58.140 --> 00:01:59.920 เออ แล้วเรากินเจกันไปทำไม? 00:01:59.920 --> 00:02:02.380 ก่อนจะมาพูดว่าคนสมัยปัจจุบันกินเจกันทำไมเนี่ย 00:02:02.380 --> 00:02:04.440 เราย้อนกลับไปในสมัยอดีตกาล 00:02:04.440 --> 00:02:06.780 โบราณ น๊านแสนนานมาแล้วดีกว่าค่ะ 00:02:06.780 --> 00:02:09.160 ว่าคนสมัยโบราณเขากินเจกันทำไม 00:02:09.160 --> 00:02:10.480 คือในสมัยโบราณเนี่ยนะคะ 00:02:10.480 --> 00:02:12.980 เรายังไม่ไปพูดถึงการกินเจในช่วงเดือน 9 00:02:12.980 --> 00:02:16.200 หรือในช่วงเทศกาลกินเจอะไรนะ เอาแค่กินเจก่อน 00:02:16.300 --> 00:02:18.020 คนสมัยโบราณเนี่ยเราน่าจะรู้นะคะ 00:02:18.020 --> 00:02:20.400 ว่าค่อนข้างเกี่ยวพันกับเทพเจ้าค่อนข้างเยอะ 00:02:20.400 --> 00:02:21.660 โดยเฉพาะคนจีนใช่มะ 00:02:21.660 --> 00:02:25.860 ทีนี้คนจีนสมัยโบราณค่ะ มีความเชื่อว่า เทพเจ้าไม่ได้คุยกับทุกคนนะคะ 00:02:25.860 --> 00:02:28.800 คือเทพเจ้าจะคุยกับเฉพาะคนที่เหมาะสมเท่านั้น 00:02:28.900 --> 00:02:30.760 ซึ่งคนที่เหมาะสมประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? 00:02:30.820 --> 00:02:32.360 1. อาจจะเป็นโอรสสวรรค์ 00:02:32.360 --> 00:02:34.495 แบบพวกกษัตริย์ พวกฮ่องเต้อะไรต่างๆ 00:02:34.500 --> 00:02:37.040 อาจเป็นคนพิเศษที่สวรรค์อยากคุยด้วย 00:02:37.040 --> 00:02:39.660 และคนที่สะอาดบริสุทธิ์ค่ะ ทั้งกายและใจ 00:02:39.660 --> 00:02:42.220 ดังนั้นคนที่จะไปคุยไปขอร้องอะไรเทพเจ้า 00:02:42.220 --> 00:02:44.840 ก็เลยจะต้องอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาด 00:02:44.840 --> 00:02:47.420 ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ชำระจิตใจให้สะอาด 00:02:47.420 --> 00:02:49.160 แล้วก็กินเจเนี่ยแหละค่ะ 00:02:49.160 --> 00:02:51.160 เพราะว่า เออ พอเราไม่กินเนื้อสัตว์อะไรอย่างงี้ 00:02:51.160 --> 00:02:54.160 เขาจะรู้สึกว่าร่างกายเราสะอาดบริสุทธิ์ไปอีกขั้นหนึ่งค่ะ 00:02:54.160 --> 00:02:57.380 ซึ่งเรื่องพวกนี้นะคะ ได้รับการบันทึกอยู่ในคัมภีร์หลี่จี้นั่นเองค่ะ 00:02:57.380 --> 00:03:00.380 คือคัมภีร์หลี่จี้เนี่ยนะ อธิบายถึงสมัยราชวงศ์โจวนะคะ 00:03:00.380 --> 00:03:03.620 ก็ประมาณ 1,000 - 200 ปีก่อนคริสตศักราชนะคะ 00:03:03.620 --> 00:03:05.400 ในตอนนั้นเนี่ยเขาบันทึกไว้ว่า 00:03:05.400 --> 00:03:08.860 เวลาฮ่องเต้มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบ้านเมือง จะคุยกับสวรรค์เนี่ยนะคะ 00:03:08.860 --> 00:03:11.720 เช่นแบบว่า ฝนไม่ตก แล้งกันทั้งประเทศแล้ว 00:03:11.720 --> 00:03:13.360 จะอดตายกันทั้งประเทศแล้ว 00:03:13.360 --> 00:03:16.620 ฮ่องเต้ก็จะต้องไปคุยกับสวรรค์ใช่มั้ยคะ ในฐานะโอรสสวรรค์ 00:03:16.660 --> 00:03:18.780 ทีนี้ฮ่องเต้ก็ต้องทำตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ 00:03:18.780 --> 00:03:20.335 แล้วก็กินเจนั่นเองค่ะ 00:03:20.340 --> 00:03:22.220 ซึ่งในสมัยนั้นเนี่ยนะคะ บอกเลยว่า 00:03:22.220 --> 00:03:25.040 ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงๆ นะคะ ฮ่องเต้จะไม่กินเจค่ะ 00:03:25.040 --> 00:03:27.200 เพราะว่าการกินเจเนี่ยยากมาก เนื่องจาก 00:03:27.200 --> 00:03:30.020 นึกสภาพสมัยจีนโบราณ อาหารการกินก็ไม่ค่อยมี 00:03:30.060 --> 00:03:32.160 ผักก็ไม่ค่อยมี เพราะว่าเป็นเมืองหนาวใช่มะ 00:03:32.160 --> 00:03:35.640 การจะไปกินเจเนี่ย อู้ย จะกินอะไรละ? ไม่รู้จะกินอะไรดีเลยนะคะ 00:03:36.080 --> 00:03:40.260 แต่การกินเจเนี่ยได้รับความนิยมมากขึ้นค่ะ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น 00:03:40.260 --> 00:03:42.600 หลังจากที่เกิดเส้นทางสายไหมอะไรต่างๆ 00:03:42.600 --> 00:03:45.240 เพราะว่าพวกผักผลไม้อะไรต่างๆ ของประเทศอื่นเนี่ย 00:03:45.240 --> 00:03:47.140 ก็หลั่งไหลเข้าไปในประเทศจีนนะคะ 00:03:47.140 --> 00:03:50.520 ดังนั้น choice ในการกินเจเนี่ยก็มีมากขึ้นๆ เรื่อยๆ 00:03:50.540 --> 00:03:52.820 รวมไปถึงเกิดการติดค้นพวกเต้าหู้ 00:03:52.820 --> 00:03:55.260 แล้วก็ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองต่างๆ ด้วยนะคะ 00:03:55.260 --> 00:03:57.920 ซึ่งอันนี้ถ้าใครอยากฟังละเอียดก็กดไปตรงนี้ได้เลย 00:03:57.920 --> 00:04:00.980 เพราะว่าวิวเคยเล่าไว้แล้วว่าทำไมซีอิ้วขาวถึงเป็นสีดำนะคะ 00:04:00.980 --> 00:04:03.560 อันนั้นก็จะไปพูดถึงเรื่องผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง 00:04:03.560 --> 00:04:05.000 อย่างละเอียดกว่าตอนนี้นะคะ 00:04:05.000 --> 00:04:07.400 อย่างไรก็ตามค่ะ เมื่อมีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง 00:04:07.400 --> 00:04:09.660 มื่อมีผักผลไม้จากต่างประเทศเข้ามา 00:04:09.660 --> 00:04:11.780 ก็ทำให้การกินเจเนี่ย เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 00:04:11.780 --> 00:04:13.480 เออ มี choice หลากหลายมากขึ้น 00:04:13.480 --> 00:04:16.800 การกินเจก็เลยฮิตขึ้นๆๆ ในประเทศจีนนั่นเองค่ะ 00:04:16.800 --> 00:04:18.860 แต่เราก็ยังไม่ได้ตอบคำถามนะคะว่า 00:04:18.860 --> 00:04:20.900 เออ แล้วทำไมการกินเจต้องกินที่เดือน 9? 00:04:20.900 --> 00:04:23.480 การจะตอบว่าทำไมเราต้องมากินเจในช่วงนี้อะ 00:04:23.480 --> 00:04:25.420 ต้องไปดูที่อีกหนึ่งราชวงศ์ค่ะ 00:04:25.420 --> 00:04:28.260 ก็คือราชวงศ์เหนือใต้นั่นเองนะคะ ในสมัยนั้นนะคะ 00:04:28.260 --> 00:04:30.860 พุทธศาสนาเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจีนค่ะ 00:04:30.920 --> 00:04:33.720 อิทธิพลของศาสนาพุทธเนี่ยแผ่กระจายไปทั่วเลยนะคะ 00:04:33.720 --> 00:04:37.380 ซึ่งทำให้เกิดการผสมผสานกันระหว่างความเชื่อพุทธ 00:04:37.380 --> 00:04:39.720 กับความเชื่อดั้งเดิมเรื่องการกินเจนั่นเองค่ะ 00:04:39.780 --> 00:04:42.720 คือเราก็รู้กันใช่มั้ยคะว่า ศาสนาพุทธเนี่ยมีหลากหลายนิกายเนอะ 00:04:42.720 --> 00:04:44.700 ซึ่งในประเทศจีนเนี่ยนิกายก็จะแตกต่างจาก 00:04:44.700 --> 00:04:47.860 นิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์ที่ชาวไทยนับถือนะคะ 00:04:47.860 --> 00:04:50.860 ดังนั้นกฏข้อบังคับอะไรต่างๆ มันก็เลยจะต่างกันไป 00:04:50.860 --> 00:04:54.320 ซึ่งอนุญาตให้พระแบบ ทำอาหารกินเองได้บ้างอะไรบ้างนะคะ 00:04:54.320 --> 00:04:57.020 แต่เอาจริงๆ คอนเซ็ทป์หลักๆ ก็ยังค่อนข้างจะเหมือนกันค่ะ 00:04:57.020 --> 00:04:59.440 ก็คือไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่อะไรแบบนี้ใช่มะ 00:04:59.440 --> 00:05:01.800 ทีนี้ถามว่า เราไปดูที่ประเทศจีนกัน 00:05:01.800 --> 00:05:05.020 ประเทศจีนเนี่ย ในช่วงฤดูหนาว ถามว่าหนาวมั้ย? หนาว 00:05:05.020 --> 00:05:06.740 แล้วหนาวขนาดไหน? หนาวมากนะคะ 00:05:06.740 --> 00:05:08.520 หนาวขนาดที่ว่าในบางพื้นที่เนี่ย 00:05:08.520 --> 00:05:10.920 พระไม่สามารถออกไปบิณฑบาตรได้ ถูกมั้ย? 00:05:10.940 --> 00:05:12.760 พอไม่สามารถออกไปบิณฑบาตรได้ก็ต้องทำอะไร? 00:05:12.760 --> 00:05:14.660 มีการเก็บตุนอาหารอะไรเอาไว้ 00:05:14.660 --> 00:05:16.920 แล้วก็ต้องมีการทำกับข้าวเองด้วย 00:05:16.920 --> 00:05:20.260 รวมไปถึงช่วงไหนที่ประเทศจีนยากจนข้นแค้นจริงๆ นะคะ 00:05:20.320 --> 00:05:22.120 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอะไรต่างๆ 00:05:22.120 --> 00:05:24.340 ชาวบ้านก็คงไม่มาแบบ ตักบาตรพระหรอก 00:05:24.340 --> 00:05:26.080 พระก็จะต้องทำอาหารกินเองค่ะ 00:05:26.080 --> 00:05:29.260 ทีนี้ถามว่าพระทำอาหารกินเอง สามารถฆ่าสัตว์ได้มั้ย? 00:05:29.260 --> 00:05:30.640 แบบทุบปลากิน อย่างนี้ได้มั้ย? 00:05:30.640 --> 00:05:33.360 ก็ไม่ได้ค่ะ ดังนั้นนะคะ ก็เลยเกิดการมิกซ์กันค่ะ 00:05:33.360 --> 00:05:36.260 ระหว่างความเชื่อพุทธกับความเชื่อเรื่องการกินเจเข้าด้วยกันว่า 00:05:36.260 --> 00:05:39.140 เออไหนๆ ก็ไปบิณฑบาตรไม่ได้ ก็ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์แล้วกัน 00:05:39.140 --> 00:05:42.400 กินเจแล้วกัน จะได้ทำอาหารกินเองได้ ประมาณนั้นนะคะ 00:05:42.440 --> 00:05:45.860 นอกจากนี้ในบางวัดก็มีการกำหนดข้อกำหนมเพิ่มเติมอีกนะคะ 00:05:45.860 --> 00:05:47.820 ว่าแบบ เออ นอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว 00:05:47.820 --> 00:05:50.180 เราจะไม่กินปักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด 00:05:50.180 --> 00:05:52.020 ต่อไปนี้บ้าง อะไรอย่างนี้นะคะ 00:05:52.020 --> 00:05:54.800 พวกนี้ก็ค่อยๆ สืบทอดกันมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็น 00:05:54.800 --> 00:05:57.260 วิถีชีวิตการกินเจในสมัยปัจจุบันนี้ล่ะน่ะ 00:05:57.260 --> 00:05:59.580 และที่สำคัญนะคะ ความเชื่อเรื่องการกินเจเนี่ย 00:05:59.580 --> 00:06:01.360 ก็ไปมิกซ์กับอีกความเชื่อหนึ่งค่ะ 00:06:01.360 --> 00:06:03.400 ก็คือความเชื่อของลัทธิเต๋านั่นเอง 00:06:03.400 --> 00:06:06.295 ซึ่งในลัทธิเต๋าบางนิกายนะคะ เน้นว่าบางนิกายเนี่ย 00:06:06.295 --> 00:06:08.535 ก็มีความเชื่ออีกว่า เออคนที่บวชในลัทธิเต๋าเนี่ยนะ 00:06:08.535 --> 00:06:11.605 จะต้องกินเจตลอดชีวิต อะไรทำนองนี้นะคะ 00:06:11.605 --> 00:06:14.160 ทำให้ความเรื่องเรื่องกินเจในจีนเนี่ยนะคะ 00:06:14.160 --> 00:06:15.700 หลากหลายกันออกไปอีกค่ะ 00:06:15.700 --> 00:06:19.020 ทีนี้ถามว่าทำไมคนเราถึงเลือกกินเจที่เดือน 9 นะคะ 00:06:19.020 --> 00:06:21.540 ก็ต้องบอกว่าต้องไปดูที่อีกความเชื่อหนึ่งค่ะ 00:06:21.540 --> 00:06:23.800 ก็คือความเชื่อเรื่องเคราะห์กรรมนั่นเอง 00:06:23.800 --> 00:06:26.040 คือคนสมัยโบราณเนี่ยก็จะกึ่งๆ อะนะ 00:06:26.040 --> 00:06:28.280 คือความเชื่อเนี่ยก็อาจจะไม่ใช่พุทธแท้ 100% นะ 00:06:28.280 --> 00:06:30.140 แต่มันก็จะมีความคล้ายๆ กับไทยเนี่ยแหละ 00:06:30.140 --> 00:06:32.460 คนจีนสมัยโบราณนะคะ เชื่อเรื่องเคราะห์กรรมค่ะ 00:06:32.460 --> 00:06:34.880 ว่า เออ คนเราทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว 00:06:34.880 --> 00:06:38.140 ทำอะไรไม่ดีมันก็จะต้องมีกรรม ที่จะต้องไปรับกรรมใช่มั้ยคะ? 00:06:38.220 --> 00:06:41.180 แต่ความเชื่อแบบจีนโบราณเนี่ยนะคะ การทำชั่วขึ้นมาทีเนี่ย 00:06:41.180 --> 00:06:43.340 มันอาจจะไม่ได้ตกกับตัวเองคนเดียว 00:06:43.340 --> 00:06:44.460 อาจจะตกไปถึงลูกถึงหลาน 00:06:44.460 --> 00:06:46.860 ถึงทายาทต่อไปในอนาคตก็ได้ค่ะ 00:06:46.860 --> 00:06:50.120 ทีนี้อะ ถามว่า แล้วเคราะห์กรรมมันจะตามเราทันตอนไหนนะคะ 00:06:50.120 --> 00:06:53.200 ก็ต้องบอกนะคะว่า คือตอนช่วงที่เราดีๆ อยู่เนี่ย เป็นปกติ 00:06:53.200 --> 00:06:55.535 กรรมมันอาจจะตามไม่ทัน ตามทันยากนิดนึงค่ะ 00:06:55.540 --> 00:06:59.020 แต่ในช่วงในก็ตามนะคะที่เราดวงตก หรือเรื่องว่าชงนั่นน่ะ 00:06:59.020 --> 00:07:01.340 จะเป็นช่วงที่กรรมเนี่ย ตามเราทันนะคะ 00:07:01.340 --> 00:07:04.020 อะไรที่เราทำไว้แย่ๆ หรือบรรพบุรุษเราทำไว้แย่ๆ เนี่ย 00:07:04.020 --> 00:07:06.300 มันก็จะมาผลิดอกออกผลเอาตอนนี้นี่ล่ะค่ะ 00:07:06.300 --> 00:07:09.300 ที่นี่อะ แล้วถามว่า เออไว้พวกดวงขึ้นดวงลง 00:07:09.300 --> 00:07:12.320 การชงการไม่ชงเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับความเชื่ออะไร? 00:07:12.320 --> 00:07:13.840 ก็ต้องบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับ 00:07:13.840 --> 00:07:15.880 ความเชื่อเรื่องดาวนพเคราะห์นั่นเองค่ะ 00:07:15.960 --> 00:07:18.120 เรื่องของเรื่องนะคะ ก็คือบนท้องฟ้าเนี่ย 00:07:18.120 --> 00:07:19.820 จะมีดาวอยู่ทั้งหมด 7 ดวงค่ะ 00:07:19.820 --> 00:07:22.000 ที่มีผลต่อดวงชะตาของเรามากๆ 00:07:22.000 --> 00:07:24.940 น่ะ พูดถึง 7 ดวง หลายคนคิดละว่าดาวลูกไก่แน่ๆ 00:07:24.940 --> 00:07:27.480 เปล่าค่ะ! มันเป็นดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่ 00:07:27.480 --> 00:07:30.860 หรือว่าที่คนไทยมองว่าเป็นกลุ่มดาวจระเข้นั่นเองนะคะ 00:07:30.860 --> 00:07:33.480 แต่คนจีนเนี่ย เขามองว่าเป็นกระบวยตักน้ำค่ะ 00:07:33.480 --> 00:07:36.080 คือเหมือนตัวกระบวย แล้วก็มีที่จับอยู่ตรงข้างๆ ใช่มั้ยคะ 00:07:36.080 --> 00:07:37.080 ทั้งหมด 7 ดวงค่ะ 00:07:37.080 --> 00:07:40.420 ซึ่งกลุ่มดาวนี้นะคะ ก็จะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับดาวเหนือค่ะ 00:07:40.480 --> 00:07:43.640 และที่สำคัญ เขาบอกว่ากลุ่มดาวนี้เป็นกลุ่มดาวเสมือน fixed 00:07:43.680 --> 00:07:46.220 คือประมาณว่าเสมือนกลุ่มดาวที่อยู่กับที่ตลอดเวลา 00:07:46.220 --> 00:07:49.960 ในขณะที่โลกของเราเนี่ยโคจร แล้วก็หมุนรอบตัวเองไปเรื่อยๆ ค่ะ 00:07:49.960 --> 00:07:52.680 ดังนั้นเวลาคนโบราณมองขึ้นไปบนฟ้านะคะ 00:07:52.680 --> 00:07:55.920 ก็จะเห็นว่าดาวกลุ่มนี้อะ เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ บนท้องฟ้าค่ะ 00:07:55.920 --> 00:07:59.080 เหมือนกับที่เราเคยได้ยินมะ "สักวาดาวจรเข้ก็เหหก 00:07:59.080 --> 00:08:02.520 ศีรษะตกหันหางขึ้นกลางหาว เป็นวันแรมแจ่มแจ้งด้วยแสงดาว" 00:08:02.520 --> 00:08:04.980 อะไรประมาณอย่างเงี้ย คือที่ดาวจระเข้มันเหหกเนี่ย 00:08:04.980 --> 00:08:06.880 เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาวค่ะ 00:08:06.900 --> 00:08:09.960 ดังนั้นนะคะ แต่ละฤดู แต่ละช่วงเวลาในปีเนี่ยนะ 00:08:09.980 --> 00:08:12.820 กลุ่มดาวกลุ่มนี้มันก็จะเปลี่ยนที่ของมันไปเรื่อยๆ 00:08:12.820 --> 00:08:16.500 ซึ่งคนสมัยโบราณเนี่ย เนื่องจาก เขาสังเกตท้องฟ้าตลอดเวลาใช่มั้ยคะ? 00:08:16.500 --> 00:08:19.180 เขาก็จะสามารถดูกลุ่มดาวพวกนี้ได้ แล้วก็รู้ว่า 00:08:19.180 --> 00:08:22.140 อ๋อ ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวแล้วนะ เป็นนู่นเป็นนี่ 00:08:22.140 --> 00:08:24.900 ดังนั้นค่ะ ก็เลยมีการเอากลุ่มดาวพวกนี้อะ 00:08:24.900 --> 00:08:27.000 มาผูกกับเรื่องดวงชะตานะคะ ประมาณว่า 00:08:27.000 --> 00:08:29.340 กลุ่มดาวนี้ไปอยู่ตรงนี้ดวงจะเป็นแบบนั้น 00:08:29.340 --> 00:08:32.000 กลุ่มดาวนี้ไปอยู่ตรงนั้นก็จะเป็นดวงแบบนี้นะคะ 00:08:32.000 --> 00:08:34.780 ซึ่งเขาเรียกเทพประจำกลุ่มดาวต่างๆ เหล่านี้นะคะ 00:08:34.780 --> 00:08:36.260 ว่าปั๊กเต๊านั่นเอง 00:08:36.260 --> 00:08:39.360 ทีนี้ถามว่าเทพเจ้าปั๊กเต้าเนี่ยมีความสำคัญยังไงนะคะ 00:08:39.380 --> 00:08:42.400 ก็ต้องบอกว่าเทพองค์นี้เป็นเทพที่ดูแลชะตากรรมของคนค่ะ 00:08:42.600 --> 00:08:46.000 คือดูแลวันตายนั่นเอง ซึ่งถ้าเราอยากเห็นภาพชัดๆ นะคะ 00:08:46.000 --> 00:08:48.600 ว่าทำไมคนเราต้องบูชาเทพกลุ่มนี้เนี่ย 00:08:48.600 --> 00:08:50.000 ต้องไปดูที่นิทานเรื่องนึงค่ะ 00:08:50.000 --> 00:08:53.140 คือเขาบอกว่าในสมัยโบราณนะคะ นานแสนนานมาแล้ว 00:08:53.140 --> 00:08:55.540 เรื่องของเรื่องนะคะก็คือมีชายหนุ่มอยู่คนหนึ่งค่ะ 00:08:55.540 --> 00:08:57.100 ชื่อว่าหยานเทียวนะคะ 00:08:57.100 --> 00:08:59.940 วันหนึ่งค่ะ หยานเทียวมีโอกาสได้ไปเจอชายแก่คนหนึ่งนะคะ 00:08:59.940 --> 00:09:02.240 ชื่อว่ากวนลู่ค่ะ ซึ่งกวนลู่เนี่ยนะคะ 00:09:02.240 --> 00:09:05.220 เป็นคนที่เหมือนเป็นสำเร็จเรียนแล้วในลัทธิเต๋า ประมาณนั้นค่ะ 00:09:05.380 --> 00:09:08.060 ก็รู้ฟ้ารู้ดินนะคะ ทีนี้อะพอบังเอิญมาเจอกัน 00:09:08.260 --> 00:09:10.640 กวนลู่อยู่ดีๆ ก็หลุดปากออกมาค่ะ ประมาณว่า 00:09:10.640 --> 00:09:12.460 "น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ" 00:09:12.460 --> 00:09:15.180 ซึ่งทำให้หยานเทียวนะคะ สงสัยว่าเสียดายอะไรอะ? 00:09:15.180 --> 00:09:16.900 คืออยากรู้ เออคือสงสัยแล้ว 00:09:16.900 --> 00:09:19.980 ก็เลยพยายามนะคะ ไปถามกวนลู่ ถามๆๆ ค่ะ 00:09:20.040 --> 00:09:21.860 สุดท้ายนะคะ กวนลู่ทนไม่ได้ค่ะ 00:09:21.860 --> 00:09:24.720 เพราะว่าหยานเทียวเนี่ยขอร้องด้วยความสุภาพอ่อนน้อมจริงๆ 00:09:24.720 --> 00:09:28.420 ดังนั้นกวนลู่ก็เลยเผยลิขิตฟ้าดินนะคะ ให้หยานเซียวรู้ค่ะ 00:09:28.440 --> 00:09:31.460 ประมาณว่า "อ๋อคือ เจ้าน่ะกำลังจะสิ้นอายุไขแล้วแหละ 00:09:31.460 --> 00:09:34.160 ในวันสองวันนี้แหละ ข้าก็เลยรู้สึกว่าเสียดาย" 00:09:34.160 --> 00:09:36.620 ซึ่งพอหยานเซียวได้ยินแบบนั้นนะคะ ก็ตกใจค่ะ 00:09:36.620 --> 00:09:39.860 รีบกลับบ้านไปหาพ่อตัวเองแล้วก็ไปเล่าให้พ่อฟังค่ะ 00:09:39.860 --> 00:09:42.980 ดังนั้นพ่อก็เลยพาหยานเซียวกลับมาหากวนลู่อีกรอบหนึ่ง 00:09:43.040 --> 00:09:46.260 แล้วก็บอกว่า "ช่วยลูกข้าด้วยเถอะๆๆๆ" 00:09:46.380 --> 00:09:50.460 ซึ่งสุดท้ายแล้วนะคะ กวนลู่ก็ไม่สามารถขัดใจสองพ่อลูกได้ค่ะ 00:09:50.460 --> 00:09:52.300 ก็เลยแอบบอกอ้อมๆ ประมาณว่า 00:09:52.300 --> 00:09:55.420 "เออ ก็ถ้าอยากรอดนะ ก็ทำตามีที่ข้าบอกแล้วกัน" 00:09:55.420 --> 00:09:59.420 "ให้เจ้าเนี่ยไปหาสุราอาหารอย่างดีที่สุดนะ เอาแบบดีมากๆ เลย 00:09:59.420 --> 00:10:01.600 แล้วก็เอาเนื้อกวางย่างแบบดีที่สุดนะ 00:10:01.600 --> 00:10:05.340 แล้วหอบทั้งหมดนี้เดินออกไปทางประตูทางทิศใต้ของเมือง 00:10:05.400 --> 00:10:08.840 พอออกไปแล้วนะเจ้าจะเจอผู้เฒ่า 2 คนกำลังเล่นหมากกันอยู่ 00:10:08.840 --> 00:10:11.080 อย่าไปคิดว่าเขาเล่นบอร์ดเกมแล้วเข้าไปร่วมกับเขา 00:10:11.080 --> 00:10:13.340 เขากำลังเล่นหมาก ใช้ความคิดอะไรต่างๆ 00:10:13.340 --> 00:10:16.200 ให้เจ้านะให้เงียบสนิท เข้าไปเนียนๆ ย่องเข้าไป 00:10:16.200 --> 00:10:19.220 วางเหล้าไว้ใกล้ๆ นะ เอาตรงที่มือเขาคว้าถึง 00:10:19.220 --> 00:10:20.540 เอาอาหารเอาอะไรวางไว้ 00:10:20.540 --> 00:10:23.420 ระหว่างที่เขาใช้ความคิดเนี่ย เขาจะเผลอกินอาหารของเจ้า 00:10:23.540 --> 00:10:25.740 พอเขาเล่นเกมเสร็จเมื่อไรนะ เขาหันมาหาเจ้า 00:10:25.740 --> 00:10:28.320 อย่าพูดอะไรทั้งสิ้น หมอบอยู่ตรงนั้น หมอบให้นิ่ง 00:10:28.320 --> 00:10:30.660 หมอบให้ชิดพื้นที่สุดแล้วเจ้าจะรอดชีวิต" 00:10:30.660 --> 00:10:32.420 ซึ่งถามว่าหยานเซียวทำตามมั้ย? 00:10:32.420 --> 00:10:34.400 หยานเซียวก็บอกว่า เออก็ไม่มีอะไรจะเสีย 00:10:34.400 --> 00:10:38.000 ก็เลยทำตามที่กวนลู่บอกนะคะ ก็ไปเตรียมสุราอาหารอะไรต่างๆ 00:10:38.000 --> 00:10:39.720 แล้วก็เดินออกไปทางทิศใต้ค่ะ 00:10:39.720 --> 00:10:42.000 ไปถึงก็เจอผู้เฒ่า 2 คนกำลังเล่นหมากอยู่จริงๆ 00:10:42.400 --> 00:10:43.580 เล่นแบบเคร่งเครียดเลย 00:10:43.580 --> 00:10:45.780 เล่นแบบ หืมม เคร่งเครียดๆๆ 00:10:45.780 --> 00:10:47.960 หยานเซียวนะคะก็เอาพวกสุราอาหารเนี่ย 00:10:47.960 --> 00:10:49.660 วางไว้ใกล้ๆ มือของสองผู้เฒ่า 00:10:49.660 --> 00:10:51.580 ซึ่งสองผู้เฒ่าก็ขณะที่ใช้ความคิดนะคะ 00:10:51.580 --> 00:10:53.860 ประมาณว่าแบบ "เอ้ ข้าจะลงหมากอันไหนดี 00:10:53.860 --> 00:10:55.840 เออ กินเหล้าสักแก้วดีกว่า" ฟึ้บ! 00:10:56.080 --> 00:10:58.580 "อื้ม กินเหล้าแล้ว กับแกล้มมาดีกว่า กับแกล้ม" 00:10:58.580 --> 00:11:01.200 ประมาณนี้ กินเหล้าไป เคล้ากับแกล้มต่างๆ 00:11:01.200 --> 00:11:04.500 เล่นๆๆ เล่นจนชนะแพ้กันเรียบร้อยนะคะ จบเกมค่ะ 00:11:04.560 --> 00:11:07.240 เพิ่งนึกได้ "เอ๊ะ ตอนเราลงมาเล่นหมากกันเนี่ย 00:11:07.240 --> 00:11:09.060 เราก็ไม่ได้เตรียมสุราอาหารมานี่นา 00:11:09.060 --> 00:11:11.160 แล้วไอ้ที่เรากินๆ กันไปเนี่ยของใคร?" 00:11:11.160 --> 00:11:12.560 ก็เลยก้มหน้าลงไปนะคะ 00:11:12.560 --> 00:11:15.120 เห็นหยานเซียวกำลังหมอบกราบอยู่แถวนั้นค่ะ 00:11:15.120 --> 00:11:17.120 ก็พยายามจะถามว่าแบบ "เห้ยเจ้า 00:11:17.120 --> 00:11:19.760 เจ้ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เอาอาหารมาให้ข้ากินทำไม?" นะคะ 00:11:19.760 --> 00:11:22.260 ซึ่งหยานเซียวนะคะ ก็ไม่ตอบ เพราะว่ากวนลู่สั่งเอาไว้ไง 00:11:22.380 --> 00:11:25.280 ดังนั้นนะคะ พอไม่ตอบๆๆ หนึ่งในสองผู้เฒ่าค่ะ 00:11:25.280 --> 00:11:27.080 ก็เลยพูดกับเพื่อนตัวเองประมาณว่า 00:11:27.080 --> 00:11:29.400 "เออ เราก็เผลอกินสุราอาหารของเขาไปแล้วนะ 00:11:29.400 --> 00:11:31.000 เราก็ต้องตอบแถมเขาหน่อยแล้วล่ะ" 00:11:31.000 --> 00:11:33.240 "อะ ไหนดูสิ ขอดูสมุดของข้าหน่อย" 00:11:33.260 --> 00:11:36.340 ว่าแล้วนะคะ ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็หยิบสมุดขึ้นมาค่ะ เปิดดูแล้วก็ 00:11:36.340 --> 00:11:40.060 "อ๋ออ ชายหนุ่มคนนี้กำลังจะชะตาขาดในวันนี้นี่นา 00:11:40.120 --> 00:11:42.700 อืม ตอนอายุ 19 น่าสงสารจริงๆ 00:11:42.700 --> 00:11:45.540 ไหนๆ เราก็เป็นหนี้บุญคุณเขาแล้ว กลับเลขให้หน่อยแล้วกัน" 00:11:45.580 --> 00:11:47.520 คนแก่คนนั้นนะคะ ก็คือปั๊กเต้า 00:11:47.520 --> 00:11:49.860 ที่เป็นคนดูแลวันตายของคนนั่นเอง 00:11:49.860 --> 00:11:52.760 ปั๊กเต้านะคะ ก็เลยสลับเลขให้กับหยานเซียวค่ะ 00:11:52.760 --> 00:11:54.980 จากที่ชะตาจะขาดตอนอายุ 19 00:11:54.980 --> 00:11:58.900 ก็เลยสลับให้กลายเป็น 91 นะคะ ถือว่าเป็นการต่ออายุค่ะ 00:11:58.900 --> 00:12:01.680 ดังนั้นนะคะ คนจีนก็เลยเชื่อกันว่า เออนี่แหละ 00:12:01.680 --> 00:12:05.980 การบูชาปั๊กเต้านะคะ หรือบูชาเทพที่ดูแลวันตายของคนเนี่ย 00:12:06.100 --> 00:12:09.120 ก็จะทำให้เราสามารถต่ออายุยืดอายุกันได้ค่ะ 00:12:09.180 --> 00:12:12.480 ทุกคนนะคะ ก็เลยหันไปบูชากลุ่มดาวเทพปั๊กเต้านี่ล่ะค่ะ 00:12:12.480 --> 00:12:14.760 ทีนี้ แล้วถามว่าเกี่ยวอะไรกับการกินเจ? 00:12:14.760 --> 00:12:17.160 แล้วจาก 7 ดวงเนี่ย กลายเป็น 9 ได้ยังไงนะคะ 00:12:17.160 --> 00:12:19.900 เขาก็บอกประมาณว่า มันก็มียุคสมัยหนึ่งที่เขาบอกว่า 00:12:19.900 --> 00:12:21.760 เลข 7 เนี่ยเป็นเลขที่ไม่มงคลเลยของจีน 00:12:21.760 --> 00:12:23.460 เพราะว่าเกี่ยวพันกับความตายอะไรต่างๆ 00:12:23.460 --> 00:12:25.180 ก็เลยไปดึงดาวมาอีก 2 ดวงนะคะ 00:12:25.180 --> 00:12:27.400 หมายถึงว่าไปดึงชื่อดาวอีก 2 ดวงมา 00:12:27.400 --> 00:12:29.040 ไม่ใช่แบบ อะไรอย่างนี้ ไม่ใช่นะจ้ะ 00:12:29.040 --> 00:12:31.800 ก็เลยไปดึงชื่อดาวอีก 2 ดวงจากกลุ่มดาวใกล้ๆ เนี่ย 00:12:31.800 --> 00:12:33.780 มาโปะกันให้กลายเป็นดาว 9 ดวงค่ะ 00:12:33.780 --> 00:12:38.080 ทีนี้อะ เขาก็บอกว่า เออ การไปบูชา กลุ่มเทพดาวนพเคราะห์อะไรเหล่านี้ 00:12:38.160 --> 00:12:40.920 จะทำให้สามารถแก้ไขชะตากรรมที่แบบว่า 00:12:41.000 --> 00:12:43.660 กำลังดวงตก กำลงชงได้ อะไรต่างๆ นะคะ 00:12:43.660 --> 00:12:45.940 คนก็เลยหันมาถือศีลกินเจอะไรต่างๆ 00:12:45.940 --> 00:12:48.300 เพื่อบูชาดาวต่างๆ เหล่านี้นี่ละค่ะ 00:12:48.300 --> 00:12:50.440 ทีนี้อะ ปกติเขาก็จะบูชากัน 00:12:50.440 --> 00:12:53.320 กินเจกัน ตอนวันพระจีนใช่มั้ยคะ? คือกินกันทุกเดือน 00:12:53.320 --> 00:12:55.980 เดือนละประมาณครั้งสองครั้ง ครั้งละ 1 วันเท่านั้น 00:12:55.980 --> 00:12:58.740 แล้วถามว่าอยู่ดีๆ ทำไมถึงกลายเป็นเดือน 9 ได้? 00:12:58.800 --> 00:13:01.860 ก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของกลุ่มดาวหมีใหญ่ 00:13:02.060 --> 00:13:04.620 กลุ่มดาวจระเข้ กลุ่มดาวกระบวยตักน้ำเนี้ยละค่ะ 00:13:04.640 --> 00:13:06.700 คืออย่างที่วิวบอก ว่าดาวพวกนี้มันจะ 00:13:06.700 --> 00:13:08.660 เคลื่อนไปตามที่ต่างๆ ของท้องฟ้าใช่มั้ยคะ 00:13:08.660 --> 00:13:12.360 เพราะว่าโลกเราเนี่ยโคจรรอบตัวเอง แล้วก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ 00:13:12.360 --> 00:13:16.080 ดังนั้นตอนเดือนมกรามันก็จะอยู่ตรงนี้ เดือนกุมภาอยู่ตรงนั้น 00:13:16.080 --> 00:13:18.160 ผลัดกันไปตามที่ต่างๆ บนท้องฟ้า 00:13:18.160 --> 00:13:21.120 บังเอิญว่าช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจีนเนี่ยนะคะ 00:13:21.120 --> 00:13:23.520 ดาวกลุ่มนี้ดันมาอยู่บริเวณขอบฟ้าค่ะ 00:13:23.520 --> 00:13:26.320 คือคนเราเนี่ยจะสามารถเห็นดาวกลุ่มนี้ในช่วงเดือน 9 นะ 00:13:26.320 --> 00:13:29.080 ได้ตอนรุ่งสางกับช่วงหัวค่ำเท่านั้น 00:13:29.080 --> 00:13:33.020 เพราะว่ามันบังเอิญโคจรมาปรากฎบนฟ้า ในเวลากลางวันพอดีค่ะ 00:13:33.020 --> 00:13:35.000 ดังนั้นด้วยแสงอาทิตย์อะไรต่างๆ 00:13:35.000 --> 00:13:37.200 คนโบราณเขาก็เลยไม่เห็นกลุ่มดาวกลุ่มนี้นะคะ 00:13:37.200 --> 00:13:39.600 ที่สำคัญ พอมันไปขึ้นตอนหัวค่ำอะไรอย่างเงี้ย 00:13:39.600 --> 00:13:41.635 มันก็ขึ้นบริเวณใกล้ๆ พื้นดินไง 00:13:41.640 --> 00:13:44.645 คนสมัยโบราณเขาก็เลยจินตนาการต่างๆ ค่ะ ประมาณว่า 00:13:44.645 --> 00:13:48.060 อ๋อ สงสัยเหล่าเทพกลุ่มนี้ต้องลงมาโลกมนุษย์ตอนนั้นแน่เลย 00:13:48.060 --> 00:13:50.180 ถึงไม่อยู่บนฟ้า ดังนั้นพอลงมาเนี่ย 00:13:50.180 --> 00:13:52.020 ก็จะต้องมาตรวจความเรียบร้อยแน่ๆ ว่า 00:13:52.020 --> 00:13:55.160 "โอ้ย คนนี้เป็นคนดี อ่า เดี๋ยวเราจะเสริมดวงชะตาให้เขา" 00:13:55.160 --> 00:13:57.940 "อะ คนนี้เป็นคนไม่ดีเลย เราไม่เสริมดวงชะตาให้เขา" 00:13:57.940 --> 00:13:59.760 คนจีนในสมัยโบราณค่ะ ก็เลยคิดว่า 00:13:59.760 --> 00:14:01.520 เออ ฉันจะต้องทำตัวให้เป็นคนดีที่สุด 00:14:01.520 --> 00:14:03.480 เพื่อที่เทพเจ้าจะได้เห็นฉันแล้วชอบฉัน 00:14:03.480 --> 00:14:05.760 แล้วก็มาช่วยแก้ดวงชะตาอะไรต่างๆ ให้ฉัน 00:14:05.760 --> 00:14:09.860 คนจีนในสมัยนั้นก็เลยหันมากินเจในเดือน 9 กันไปหมดเลยค่ะ 00:14:09.860 --> 00:14:12.380 และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้คนจีนสมัยโบราณนะคะ 00:14:12.380 --> 00:14:15.100 หันมากินเจในช่วงเดือน 9 นั่นเองค่ะ 00:14:15.100 --> 00:14:16.760 เป็นไงบ้างคะ? ได้คำตอบไปมั้ย? 00:14:16.760 --> 00:14:19.500 แหมะ ลากมายาวนาน หลายตำนานจริงๆ นะคะ 00:14:19.500 --> 00:14:21.060 เรียกได้ว่าฟังกันมึนเลยทีเดียว 00:14:21.060 --> 00:14:24.260 เอาเป็นว่าถ้าใครมีตำนานไหนเพิ่มเติม มีตำนานที่แตกต่างกัน 00:14:24.260 --> 00:14:27.620 อย่างตำนานกู้ชาติ หรือตำนานที่เป็นพระพุทธเจ้าบอก 00:14:27.620 --> 00:14:30.140 หรืออะไร ก็คอมเมนต์คุยกันด้านล่างได้ค่ะ 00:14:30.140 --> 00:14:33.120 แล้วไว้มีโอกาสหน้า เดี๋ยวจะมาเล่าตำนานอื่นๆ ให้ฟังอีกนะคะ 00:14:33.120 --> 00:14:34.720 สำหรับตอนนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้ 00:14:34.720 --> 00:14:36.400 อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว 00:14:36.400 --> 00:14:38.320 แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ 00:14:38.360 --> 00:14:40.660 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย~ 00:14:40.740 --> 00:14:41.560 สวัสดีค่ะ 00:14:41.580 --> 00:14:43.600 เอาจริงๆ ตำนานที่เกี่ยวข้องกับการกินเจ 00:14:43.600 --> 00:14:48.040 และตำนานที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวของจีนเนี่ย มีเยอะมากๆๆ เลยนะคะ 00:14:48.260 --> 00:14:50.000 แล้วก็หลากหลาย แล้วก็จะมึนๆ นิดนึง 00:14:50.000 --> 00:14:53.020 เช่น บางคนก็บอกว่าเทพเจ้าปั๊กเต้าเนี่ยมีทั้งหมด 7 องค์ 00:14:53.020 --> 00:14:55.680 เป็นเทพเจ้า 7 บวกกับพระโพธิ์สัตว์อีก 2 00:14:55.680 --> 00:14:58.280 หรือว่าบอกว่า เออ นับกันเป็นองค์เดียวเลย 00:14:58.280 --> 00:15:01.140 อย่างที่มาปรากฏในนิทานที่เล่าไปเมื่อกี้อะไรอย่างนี้นะคะ 00:15:01.160 --> 00:15:02.840 ก็ความเชื่อแหละ เล่าปากต่อปาก 00:15:02.840 --> 00:15:05.200 มันก็จะมีผิดเพี้ยน มีแต่งเติมอะไรกันบ้างค่ะ 00:15:05.200 --> 00:15:07.380 เอาเป็นว่าอย่าซีเรียสมาก ฟังให้สนุกแล้วกันค่ะ 00:15:07.380 --> 00:15:10.040 สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย~ 00:15:10.040 --> 00:15:10.900 สวัสดีค่ะ