สวัสดีค่ะ วิวจากแชลแนล Point of View ค่ะ หลังจากวิวทำคลิปวิดีโอสรุปสงครามเกาหลีไปนะคะ ก็มีหลายคนเลยค่ะ ขอมาเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ว่าให้สรุปสงครามนั้นบ้างสงครามนี้บ้าง ดังนั้นเนื่องในโอกาสปีนี้นะคะ เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี การจบสงครามโลกครั้งที่ 1 วิวก็เลยคิดว่าคลิปวิดิโอนี้ มาสรุปสงครามโลกครั้งที่ 1 กันดีกว่าค่ะ ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงเกิดขึ้น ใครอยู่ฝ่ายใครแล้วจบยังไง สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูสรุปสงครามเกาหลีของวิวนะคะ สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เลย และก่อนที่จะไปดูคลิปสรุปสงครามโลกครั้งที่ 1 นะคะ ใครที่ยังไม่เคยกดปุ่ม subscribe พี่วิวนะคะ อย่าลืมกดปุ่ม subscribe ก่อน subscribe เสร็จแล้ว อย่าลืมกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างด้วยนะคะ มันจะได้แจ้ง เตือนทุกครั้งเลยที่วิวอัพคลิปวิดีโอใหม่ ๆ ค่ะ พร้อมที่จะฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกและมีสาระ ไปพร้อม ๆ กันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ สงครามโลกครั้งที่ 1 นะคะก็ถือเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งแรกของมนุษยชาติค่ะ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1914 นะคะ แล้วก็ไปจบที่ปี 1918 ค่ะ ก็เรียกได้ว่ารบกันเป็นระยะยาวนานถึง 4 ปีเลยทีเดียวนะคะ ซึ่งการรบครั้งนี้เป็นการรบระหว่างสองฝ่ายด้วยกันค่ะ ฝั่งแรกนะคะคือฝั่งสัมพันธมิตร หรือว่า Allied Powers นะคะ ประกอบไปด้วยชาติต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ แต่ว่าแกนนำเนี่ย ได้แก่ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส แล้วก็ รัสเซียค่ะ ส่วนอีกฝั่งนึงนะคะ คือฝั่งมหาอำนาจกลาง หรือว่า Central Powers นั่นเอง ซึ่งฝั่งนี้นะคะ ประกอบไปด้วยเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิออตโตมัน และบัลแกเรียนั่นเองค่ะ ทีนี้ถามว่า สองฝั่งนี้ทะเลาะกันได้ยังไง ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมารบกัน จนเกิดเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดสงครามโลกนะคะ ก็ต้องบอกว่าเรื่องใหญ่ระดับสงครามโลกเนี่ย มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่า เหตุผลใดเหตุผลนึงเดียวหรอก จะทะเลาะกันขนาดนี้ มันต้องมีการสะสมความแค้นกันแบบเยอะแยะ มากมายนะคะ สาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามโลกก็มีเยอะแยะเลย ตั้งแต่ข้อแรก การสะสมอาวุธ การสะสมอาวุธเนี่ย ก็ทำให้แต่ละประเทศไม่ไว้ใจกันและกัน รู้สึกว่า เฮ้ สะสมอาวุธแบบนั้นเนี่ย แกจะรบกับฉันมั้ย เอาแกสะสม ฉันสะสมบ้างดีกว่านะคะ นี่ก็เป็นสาเหตุแรกค่ะ สาเหตุที่สองนะคะคือจักรวรรดินิยมนั่นเอง คือเป็นช่วงการล่าอาณานิคม ทำให้เกิดอะไรขึ้น หนึ่ง ทำให้ทะเลาะกันแน่นอน เพราะว่าทุกคนก็อยากยึดพื้นที่ให้ได้มากที่สุด มันก็มีตั้งแต่ฉันอยากยึดแก เราก็เลยทะเลาะกัน หรือว่า ฉันอยากยึดประเทศนั้น แกก็อยากยึดประเทศนั้น แย่งกัน ทะเลาะกัน รวมไปถึง Resource หรือว่าทรัพยากรต่าง ๆ ด้วย พอประเทศนั้น ประเทศนี้ ยึดอาณานิคมไปก็จะต้องมีการเอา ทรัพยากรจากประเทศนั้นๆมาใช้ ก็ทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้น พอร่ำรวยแล้วทำอะไร ร่ำรวยก็ซื้ออาวุธ อะไรประมาณนี้เป็นต้นค่ะ จักรวรรดินิยม ก็เลยเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสงครามโลกเลยค่ะ นอกจากนี้นะคะ อีกสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามโลก ก็คือสงคราม ฟังดูกำปั้นทุบดินเนาะ แต่จริงๆแล้วก่อนที่ จะเกิดสงครามโลกครั้งใหญ่ครั้งนี้เนี่ยก็เกิดสงครามย่อย ๆ อีกหลายสงครามมาก่อนหน้านั้นนะคะ ซึ่งสงครามเหล่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือแบบเคยรบตรงนี้กันมาก่อน คนนี้แพ้ คนนี้โดนยึดดินแดน เคยรบกันตรงนั้น คนนี้โดนยึดดินแดน พอมันมีการแพ้ การชนะ การยึดดินแดนกันเนี่ย มันก็ทำให้เกิดความแค้นกันไง อย่างฝรั่งเศสกับเยอรมัน เคยรบกันในสงครามปรัสเซีย เยอรมันเนี่ยเคยไปยึด บางพื้นที่ของฝรั่งเศสมา แล้วก็บังคับให้เซ็นสนธิสัญญา สงบศึกต่างๆ ฝรั่งเศสก็แค้น ก็แบบ แก แกมากดฉันเป็นผู้แพ้นู่นนี่นั่น ถ้ามีโอกาสฉันจะแก้แค้นแก เป็นต้นนะคะ มันก็เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นทั่วโลกค่ะ หลักๆก็ในยุโรปแหละ เพราะว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นเรื่องของ แถบยุโรปเป็นหลัก ก็เริ่มแค้นๆกัน เปรี๊ยะๆกันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ นอกจากนี้ สาเหตุสำคัญอันดับต้นๆเลยที่ทำให้เกิดสงครามโลกนะคะ ก็คือชาตินิยมนั่นเอง คือในยุคนั้น เป็นยุคที่ เรื่องความชาตินิยมกำลังเฟื่องฟูสุดขีด ทุกคนจะรู้สึก ถึงความเป็นชาติของตัวเอง จะรู้สึกว่า ฉันภูมิใจในการเป็นคนประเทศนี้ ฉันภูมิใจในการเป็นคนจักรวรรดินี้ แน่นอนชาตินิยมต้องเฟื่องฟู เพราะช่วงนั้นเป็น ช่วงศึกสงคราม เป็นช่วงที่รบกันเยอะ นึกสภาพ เหมือนเวลาเราไปแข่งกีฬาสีอ่ะ ปกติเราก็โดนแบ่งให้อยู่สีม่วง ตั้งแต่ต้นเทอมแหล้วแหละ เราก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นแบบ ภูมิใจในความเป็นสีม่วง อะไรขนาดนั้น แต่พอช่วงกีฬาสีเท่านั้นอ่ะ พอมีการคัดเลิอกหลีด พอมีการตั้งสแตนด์ข้างๆ เราจะรู้สึกฮึกเหิม จะรู้สึกแบบ ฉันคือสีม่วง ฉันจะต้องชนะสีแสด ให้ได้ ฉันจะต้องชนะสีเขียว สีเหลือง ฉันจะต้องเป็นที่หนึ่ง นี่ล่ะค่ะ สภาพที่เกิดขึ้นในโลกช่วงนั้น พอมันเริ่มเปรี๊ยะๆ เริ่มมีความแบบ ทะเลาะกันเล็กๆ ความชาตินิยม ความแบบ ฉันเป็นคนเยอรมัน ฉันภูมิใจในความเป็นเยอรมันของฉัน ฉันเป็นคนอังกฤษ ฉันภูมิใจในความเป็น อังกฤษของฉัน มันก็จะเกิดขึ้นใช่มั้ยคะ ถ้าเราไปสังเกตประวัติศาสตร์ยุคนั้น อ่ะลอง ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยดูก็ได้ ไทยช่วงนั้นก็ชาตินิยมจ๋าเลย เช่นงานพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ช่วงนั้นก็จะชาตินิยมมากๆ มีการพระราชนิพนธ์เรื่อง พระร่วง ก็มีการชู concept ชาตินิยมอยู่ในนั้น เรื่องหัวใจนักรบ เรื่องหัวใจชายหนุ่ม ทั้งหลายเนี่ย มี concept ชาตินิยมอยู่ในนั้นทั้งนั้นค่ะ แม้แต่เรื่อง มัทนะพาธา ตำนานดอกกุหลาบอ่ะ ความรักจ๋า มันยังมีความชาตินิยมซ่อนอยู่ในนั้นเลยนะคะ นี่ก็เวิ่นเว้อ นอกเรื่องไปที่เรื่องที่ตัวเองชอบอีกแล้ว กลับมาที่สงครามโลก จะเห็นว่า trend โลกตอนนั้นเนี่ยเป็น trend ความชาตินิยม สุดขีด และชาติเนี่ย ไม่ได้หมายถึงแค่ ประเทศ มันหมายถึงชนชาติด้วย ทุกคนจะรู้สึกว่า นี่เป็นชนชาติเดียวกันกับฉัน เราควรจะจับมือ กันให้แน่น ทำนองนี้ค่ะ ซึ่งความชาตินิยมเนี่ย ก็ไปจุดชนวนทำให้เกิดสงครามขึ้น เป็นครั้งแรกนั้นเอง คือเหมือนมันฮึ่มๆใส่กัน นึกภาพน้ำกำลังจะเดือดอ่ะ พอมันมีฟองอากาศปะทุ ปุ้งแรก ทุกอย่างมันถึงจะเริ่มเดือดมาพร้อมๆกัน ซึ่งชนวนอันนั้นเนี่ยก็คือการทะเลาะกันของเซอร์เบีย กับออสเตรีย-ฮังการีนั่นเอง ตอนนั้นประเทศออสเตรีย กับประเทศฮังการียังไม่ได้แยกประเทศ ยังเป็นจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ที่เป็นจักรวรรดิ ยิ่งใหญ่อยู่ เรื่องเกิดขึ้นเพราะว่าจักรวรรดิ ออสเตรีย-ฮังการีกำลังพยายาม จะผนวกดินแดนนึงเข้ามาอยู่ใน พื้นที่ของตัวเอง ดินแดนนั้นนะคะชื่อว่า บอสเนียเฮอร์เซโกวีนา คือบริเวณนี้ เป็นบริเวณที่ออสเตรีย-ฮังการีพยายามจะบอกว่า ดินแดนนี้จะต้องเข้ามาอยู่ภายใต้จักรวรรดิ ออสเตรีย-ฮังการีจ้า แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะว่าคนในบริเวณบอสเนีย เนี่ยเป็นคนชนชาติสลาฟ ไม่ได้หมายถึง ไพ่สลาฟที่เล่นๆกันนะ เป็นชนชาตินึง ปัญหาก็เกิดขึ้น เพราะว่าคนในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีไม่ใช่ ชาวสลาฟ แต่มันมีอีกประเทศนึงแถวๆนั้น ชื่อว่าเซอร์เบีย ซึ่งเป็นชนชาติ สลาฟไง ทีนี้คนเซอร์เบียรู้สึกไง คนเซอร์เบียพอเห็นชาวสลาฟด้วยกัน กำลังจะโดนไป ผนวกกับประเทศอื่น ชาวเซอร์เบียก็ยอมไม่ได้ ชาวเซอร์เบียรู้สึกว่า บริเวณบอสเนียเนี่ย มันเป็นคนชนชาติ เดียวกับเรา มันควรจะมารวมตัวกับประเทศเรามากกว่า ทีนี้ออสเตรีย-ฮังการีแก้เกมยังไงคะ ออสเตรีย-ฮังการี รู้สึกว่า เออ ถึงแม้เขาจะเป็นชาวสลาฟด้วยกัน แต่ถ้าเกิดสมมติว่าคนบริเวณบอสเนียเนี่ย รักออสเตรีย-ฮังการี เขาอาจอยากมาอยู่กับออสเตรีย-ฮังการีก็ได้ ดั้งนั้นออสเตรีย-ฮังการีก็เลยส่ง อาร์ชดยุกฟรันช์ แฟร์ดีนันด์ ซึ่งเป็นรัชทายาทของจักรวรรดิ ออสเตรีย-ฮังการีที่ยิ่งใหญ่เนี่ยนะ ส่งระดับรัชทายาทเดินทางเข้าไปบริเวณ บอสเนียนะคะ เพื่อที่จะไปโชว์ตัว นั่งรถ เปิดประทุน นึกออกมั้ย สมัยโบราณเนี่ย นั่งรถเปิดประทุน แล็วก็โบกมืออย่างเนี่ย สวัสดีทุกคน เรามาเยี่ยมแล้วนะ เราเห็นทุกคนเป็นพวกเดียวกับเรา มาอยู่กับเราเถอะ ทำนองนี้ ออสเตรีย-ฮังการีหวังไว้แบบนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่เป็นแแบที่คิดค่ะ เพราะว่า เข้าไปในบริเวณที่เขากำลังมีความขัดแย้งกันอยู่ นั่งรถเปิดประทุน โบกมือ คิดว่าเกิดอะไรขึ้นคะ แน่นอนค่ะ อาร์ชดยุกฟรันช์ แฟร์ดีนันด์โดน ลอบสังหารนะคะ ซึ่งคนที่ลอบสังหารก็เป็นชาวเซิร์บ ชาวเซอร์เบียเนี่ยแหละ ลอบสังหารไป ปึ้ง รัชทายาทโดนลอบสังหาร เรื่องใหญ่มั้ย เรื่องใหญ่ค่ะ ดังนั้นออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งรู้ว่า คนที่ลอบสังหารเป็นชาวเซอร์เบีย ก็เลยพยายามเรียก ร้องให้เซอร์เบียชดใช้ โดยการตั้งกฎมา หนึ่ง สอง สาม สี่ จะต้องทำอย่างนั้น ส่งผู้ร้ายข้ามแดน นู่นนี่นั่น ซึ่งกฎอาจเข้มข้นไปนิดนึง ประกอบกับทำเลาะกันอยู่ ดังนั้นเซอร์เบียก็เลยบอกว่า ไม่จ้ะ ฉันไม่เห็นด้วย ฉันไม่ทำ ถามว่ารัชทายาทโดนฆ่าไปคนนึง แล้วฝั่งนี้ปฏิเสธ ไม่รับผิดชอบ ออสเตรีย-ฮังการี โกรธมั้ย โกรธ โกรธแล้วทำยังไง ออสเตรีย-ฮังการี ก็เลยประกาศสงครามกับเซอร์เบียตอนนั้นเลย ปึ้ง ซึ่งถามว่า แค่สองประเทศนี้ประกาศสงคราม กันเนี่ยมันจะทำให้เกิดสงครามโลกมั้ย ไม่เกิดนะคะ แต่เรื่องเกิดขึ้นเพราะว่ารัสเซียเนี่ยสนับสนุน เซอร์เบียอยู่ รัสเซียรู้สึกว่าเซอร์เบียเป็น พันธมิตรของเรา แล้วก็เป็นประเทศที่ทำให้เรามี อิทธิพลเหนือคาบสมุทรบอลข่าน ถ้าเซอร์เบียแพ้ ออสเตรีย-ฮังการี ออสเตรีย-ฮังการีก็จะมีอิทธิพลตรงนี้มากกว่า แล้วมันอาจมากระทบเราก็ได้นะ ไม่ได้ๆ เราจะต้อง ปกป้องเซอร์เบีย ดังนั้นรัสเซียก็เลยประกาศ สงครามกับออสเตรีย-ฮังการี บอกว่า ไม่ ฉันจะปกป้องเซอร์เบีย ใครมาตีกับเซอร์เบียต้องข้าม ศพฉันไปก่อน พอรัสเซียออกมาแบบนั้นนะคะ เกิดอะไรขึ้น เยอรมันนี่กำลังเลิฟๆกับออสเตรีย-ฮังการีอยู่ บอกว่า ไม่ได้ๆ แกมาทะเลาะกับน้องเล็กของฉันไม่ได้ ออสเตรีย-ฮังการี นี่ฉันรักมาก แกทะเลาะกัน ฉันจะเข้าข้าง ออสเตรีย-ฮังการี ดังนั้นนะคะ เยอรมันก็เลย กระโดดลงมา ตู้ม เข้ามาในสงครามด้วย ประกาศสงครามกับรัสเซีย ปั้ง ออกไปค่ะ เผอิญว่าตอนนั้นเนี่ยรัสเซียเป็น พันธมิตรกับฝรั่งเศส และจำที่วิวเล่าไปตอนต้นได้มั้ยคะ ที่บอกว่า ฝรั่งเศสกับเยอรมันฮึ่มๆกันอยู่ ดังนั้นนะคะ ฝรั่งเศสก็เลยกระโดดเข้าไปอยู่ข้างรัสเซียทันที ตอนนี้เกิดอะไร ขึ้น เริ่มแบ่งเป็นสองฝ่ายแล้วใช่มั้ย มี รัสเซีย เซอร์เบีย ฝรั่งเศส รบกับ เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี ก็ประกาศสงครามกันวุ่นวายไปหมดนะคะ เริ่มรบกัน รบๆๆ มีอีกประเทศหนึ่งนะคะที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญ นั้นค่ะ นั่นก็คือประเทศเบลเยียมนั่นเอง เบลเยียมเนี่ยประกาศตัวเป็นกลางในสงครามค่ะ บอกว่า ไม่เอา ฉันไม่ยุ่ง ฉันไม่อยากยุ่งกับสงครามครั้งนี้ ฉันขอเป็นกลาง แล้วกันนะ อย่ามายุ่งแล้วกันนะ ฉันจะอยู่เฉยๆ ปรากฎว่า เยอรมันไม่ฟัง ตัวเองต้องการเดินทางไปรบอีกที่นึง ก็เลย เดินทัพผ่านเบลเยียมไปเลย ประมาณว่า ก็แกเป็นทางผ่าน ประเทศแกตั้งขวางทางฉันอยู่ ฉัน จะเดินไปตรงนั้นแต่แกขวางอยู่ ถ้าฉันไม่ผ่านประเทศแก ฉันจะ ไปยังไง อะไรทำนองนี้ ปรากฎว่าเบลเยียมก็มีพี่ใหญ่หนุนหลังอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ อังกฤษนั่นเอง อังกฤษซึ่งตอนนั้นเป็นจักรวรรดิก็รู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ได้ นี่อะไร ฉันปกป้องเบลเยียมอยู่นะ ในฐานะประเทศที่เป็นกลาง แกละเมิดสนธิสัญญา ที่เขาบอกว่าเขาเป็นกลาง ฉันทนไม่ได้แล้ว ฉันขอประกาศสงคราม กับแกด้วย ตู้ม ดังนั้นอังกฤษ ก็เลยเข้าร่วมกับรัสเซียแล้วก็ฝรั่งเศส ตอนนี้ก็แบ่ง เป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วก็รบกัน ตะลุมบอลมั่วซั่ว อยู๋ในยุโรปนั้นล่ะค่ะ รบกันไปรบกันมาเป็นเวลายาวนาน ถึง 4 ปีด้วยกันนะคะ จนในที่สุด ฝั่งมหาอำนาจกลาง หรือว่าฝั่งเยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี ออตโตมัน อะไรพวกนี้ก็รู้สึกว่า เออ ไม่ไหว ฉันแพ้เยอะเกินไปแล้ว แพ้จนจะไม่เหลือแล้ว โดนจับเป็นเชลยก็เยอะ นู่นนี่นั่น รบไปยังไงก็ไม่ชนะนะคะ ดังนั้นสุดท้ายแล้วก็เลยตกลงกันว่า ขอสงบศึกแล้วก็ยอมเป็นผู้แพ้สงครามค่ะ ที่สำคัญเนี่ย ก็แอบบอกว่าไทยหรือว่าประเทศสยามในตอนนั้น เนี่ย ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เข้าร่วมสงครามโลกเหมือนกัน โดยที่เราเป็นฝ่ายพันธมิตรของ อังกฤษ ฝรั่งเศศ อะไรทำนองนี้ ก็คืออยู่ ฝ่ายสัมพันธมิตร นั่นเองค่ะ เราถือเป็นประเทศผู้ชนะสงครามนะคะ ทีนี้ถามว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เนี่ย ทำให้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่งผลกระทบยังไงต่อโลกบ้าง ก็ ส่งผลกระทบมากมายเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ข้อที่ 1 ค่ะ เศรษฐกิจทั่วโลกพังพินาศ ก็เล่นเอาเงินมาสร้างอาวุธ สงครามกันต่างๆนานา แล้วก็มายิง ตู้มๆๆ หายไปนะคะ ฝั่งผู้แพ้นี่แน่นอนว่าเละนะคะ เพราะว่าหมด เงินไปกับสงครามเยอะมากแล้ว ยังไม่พอ พอแพ้ก็ต้องจ่ายค่าปฏิกรสงคราม หรือเหมือนแบบ ค่าปรับอ่ะ ที่ฉันไปหาเรื่องแกก่อน ให้กับฝ่ายชนะค่ะ เศรษฐกิจก็พินาศไป แล้วถามว่าฝั่งที่ชนะ เนี่ย ดีกว่ากันมั้ย ไม่เลย ฝั่งที่ชนะก็เละพอกัน เพราะว่าอะไร เป็นฝั่งที่ชนะไง ก็ต้องทำตัวเป็นพระเอก ช่วยดูแลบาดเจ็บ เด็กไร้บ้าน เอาเงินไปดูแลกาชาด นู่นนี่นั่น จ่ายๆๆ ก็เรียกได้ว่ามีค่าใช้จ่ายทั้งสองฝั่งนั่นแหละ แล้วทั้งสองฝั่ง ถือว่าเป็นมหาอำนาจของโลกในยุคนั้น โลกยุคนี้มันไม่ใช่โลกที่ประเทศใดประเทศนึงอยู่กับตัวเอง เท่านั้นแล้วใช่มั้ย มันมีการค้าขาย มันมีการผลิตของ จากประเทศนั้นส่งออกมาประเทศนี้ ประเทศที่ซื้อ ไม่มีตังค์ ประเทศที่ขายนี่ก็พังไปด้วยนะคะ ดังนั้นเศรษฐกิจ ก็เลยพังทั่วโลกค่ะ เราเรียกเหตุการณ์นี้ว่า The Great Depression ซึ่งเศรษฐกิจที่พังทั้งหลายนี้ก็ กระทบถึงประเทศไทยไปด้วยเหมือนกันนะคะ เศรษฐกิจพังในไทยเนี่ย ก็จะกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง การปกครองในอนาคตเหมือนกัน อันนี้พูดเพื่อให้เห็นภาพรวมของ สถานการณ์โลกโลกทั้งโลก นอกจากนี้นะคะ ผลกระทบของสงครามก็ทำให้ออสเตรียกับฮังการี แยกกันออกมาเป็นสองประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ จากเหตุการณ์นี้เนี่ยยังทำให้หลายๆประเทศใน สมัยนั้นเนี่ย เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบจักรวรรดิ จากระบบสมบูรณญาสิทธิราชย์เนี่ย กลายมาเป็น ระบอบประชาธิปไตยนะคะ ก็ได้แก่เยอรมัน จากที่มี kaiser หรือว่ากษัตรย์เยอรมันเป็นคนนำทัพ ก็เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ออสเตรียก็เข่นกัน รวมไปถึงตุรกีด้วยนะคะ นอกจากนี้นะคะสงครามโลก ก็ยังทำให้เกิดประเทศเกิดใหม่อีกเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น ยูโกสลาเวีย เชคโกสโลวาเกีย โปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย อะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เรียกได้ว่า หลังจากชนะสงคราม แพ้สงคราม มันก็ต้องมีการแยกตัว กันออกมาเป็นเรื่องปกตินะคะ ที่สำคัญเนี่ย สงครามครั้งนี้ถือเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเยอะมากๆๆๆๆ เพราะว่ามีคนเข้าร่วมสงครามนี้ประมาณ 70 ล้านคน แล้วก็ตายไป 9 ล้าน สูญหายหาไม่เจอไปอีก 40 ล้านคน นึกสภาพโลกยุคนั้น ประชากรไม่ได้เยอะเท่าทุกวันนี้ คนเข้าร่วมไป 70 ล้านคน อู้หู คนหายคนเดียวก็วุ่นแล้วนะ นี่คนหาย ไป 40 ล้านคน คิดว่าจะกระทบชีวิต คนในโลกใบนี้ขนาดไหนนะคะ อีกสิ่งหนึ่งที่ เกิดขึ้นจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งค่ะ ก็คือ LN หรือว่า League of Nations นั่นเแง เป็นความพยายามของประเทศ ที่ชนะสงครามนะคะที่จะจับมือกัน ตั้งองค์การ รวมประเทศต่างๆเข้าร่วมด้วยกัน เพื่อที่ว่า เวลามีปัญหา สงครามครั้งหน้า League of Nations จะได้เป็นตัวกลาง คอยเคลียร์ให้ทุกคน แต่ League of Nations ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะว่าไม่มี กองกำลังทหารเป็นของตัวเอง ดังนั้นมันก็เลยล่มสลายจากไป แล้วก็ถือเป็นต้น concept ที่ทำให้ เกิด UN หรือว่า United Nations ขึ้นในอนาคตค่ะ ซึ่ง League of Nations ประเทศสยามถือเป็นหนึ่งในสมาชิกด้วย และสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้ที่สุดนะคะ ที่เกิดขึ้นจากสงครามโลกครั้งนี้ก็คือ สนธิสัญญาสงบศึกนั่นเอง คือสนธิสัญญสงบศึก ในสงครามโลกครั้งนี้มันไม่ค่อย จะเป็นธรรมเท่าไหร่ มันมีการเก็บค่าปฏิกรสงคราม ต่างๆจากประเทศผู้แพ้ มีการตั้งกฎนู่นนี่นั่นว่า ห้ามนั่น ห้ามนี่ ห้ามมีทหาร ห้ามเข้าไปตรงนั้น ห้ามทำอย่างนี้ ห้ามทำอย่างนู้น ซึ่ง ความที่ไม่เป็นธรรม แล้วมันกดขี่ข่มเหงค่อนข้างมากเนี่ยนะคะ ก็จะทำให้มันปะทุขึ้นมาแล้วกลายเป็น สงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อไปค่ะ แต่ว่าเรื่องราว ของสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่วิวจะนำมาเล่าวันนี้ก็ จบลงแต่เพียงเท่านี้นะคะ ถ้าใครชื่นชอบให้วิวมาสรุปเรื่องราวที่มีสาระ ให้ออกมาสนุกแบบนี้นะคะ ก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์ให้เพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ เป็นไงบ้างคะ เรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็น่าเศร้าเหมือนกันนะที่ ประชากรโลกจะต้องมารบกันวุ่นวายใหญ่ขนาดนั้นแล้ว จริงๆก็น่าจะจำเนอะ เหมือนกับว่ามัน เป็นช่วงเวลาที่เจ็บ ช่วงเวลาที่เศร้าของโลกมนุษย์เนี่ย แต่สุดท้ายคนเราก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร จากสงครามครั้งนี้สักเท่าไหร่ แล้วก็ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นนะคะ ซึ่งในอนาคตวิวจะมาเล่าเรื่อง สงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อไปค่ะ แต่ว่าถ้าใครมีความเห็นอะไร ยังไง ก็ลอง คอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างได้นะคะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะ บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ