WEBVTT 00:00:06.983 --> 00:00:10.717 บ่อยครั้งที่เราพูดกันว่า แม้ว่ามนุษยชาติจะมีความขัดแย้งมากมาย 00:00:10.717 --> 00:00:14.251 เราต่างก็ร่วมสายโลหิตกัน 00:00:14.251 --> 00:00:17.531 มันเป็นแนวคิดที่ดี แต่ไม่ค่อยจะจริงสักเท่าไร 00:00:17.531 --> 00:00:21.542 อันที่จริง เลือดของพวกเรามามีอยู่หลากหลายชนิด 00:00:21.542 --> 00:00:25.269 เม็ดเลือดแดงของเรามีโปรตีน ที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิล 00:00:25.269 --> 00:00:27.114 ที่จับกับออกซิเจน 00:00:27.114 --> 00:00:30.330 และทำให้เซลล์ขนส่งมันไปทั่วทั้งร่างกายได้ 00:00:30.330 --> 00:00:33.251 แต่พวกมันยังมีโปรตีนเชิงซ้อนอีกชนิดหนึ่ง 00:00:33.251 --> 00:00:35.947 บนผิวของเยื่อหุ้มเซลล์ 00:00:35.947 --> 00:00:41.059 โปรตีนเหล่านี้ที่เรียกว่า แอนติเจน สื่อสารกับเม็ดเลือดขาว 00:00:41.059 --> 00:00:44.524 ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ป้องกัน ต่อต้านการติดเชื้อ 00:00:44.524 --> 00:00:47.095 แอนติเจนทำหน้าที่บ่งชี้เครื่องหมาย 00:00:47.095 --> 00:00:51.117 ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำเซลล์ของตัวเองได้ 00:00:51.117 --> 00:00:54.513 โดยไม่โจมตีพวกมันราวกับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม 00:00:54.513 --> 00:00:59.528 แอนติเจนหลักสองชนิด A และ B กำหนดหมู่เลือด 00:00:59.528 --> 00:01:04.022 แต่พวกมันทำให้เรามีเลือดสี่หมู่ได้อย่างไร จากแอนติเจนเพียงแค่สองชนิด 00:01:04.022 --> 00:01:08.839 เอาล่ะ แอนติเจนถูกถอดรหัสจากสามอัลลีลที่ต่างกัน 00:01:08.839 --> 00:01:11.534 ซึ่งก็คือความหลากหลายของยีนนั้น 00:01:11.534 --> 00:01:15.452 ในขณะที่อัลลีล A และ B ถอดรหัสให้แอนติเจน A และ B 00:01:15.452 --> 00:01:18.669 อัลลีล O ไม่ได้ให้ทั้ง 2 อย่าง 00:01:18.669 --> 00:01:22.422 และเพราะว่า พวกเราได้รับแต่ละยีน ตกทอดมาจากพ่อแม่คนละส่วน 00:01:22.422 --> 00:01:27.081 ทุกคนมีสองอัลลีล ที่กำหนดหมู่เลือด 00:01:27.081 --> 00:01:28.847 เมื่อมันต่างกัน 00:01:28.847 --> 00:01:33.607 อัลลีลตัวหนึ่งจะข่มอีกตัวหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าตัวไหนเด่นกว่าเมื่อเทียบกัน 00:01:33.607 --> 00:01:39.832 สำหรับหมู่เลือด อัลลีล A และ B เด่นทั้งคู่ 00:01:39.832 --> 00:01:45.775 ฉะนั้น A และ A ทำให้คุณมีหมู่เลือด A ส่วน B และ B ทำให้คุณมีหมู่เลือด B 00:01:45.775 --> 00:01:47.673 ถ้าคุณได้รับอัลลีลตกทอดมาอย่างละอัลลีล 00:01:47.673 --> 00:01:52.524 ผลที่ได้คือ การเด่นคู่จะสร้างทั้งแอนติเจน A และ B 00:01:52.524 --> 00:01:54.448 ซึ่งคือหมู่เลือด AB 00:01:54.448 --> 00:01:56.831 อัลลีล O เป็นอัลลีลด้วย 00:01:56.831 --> 00:02:00.163 ฉะนั้น อัลลีลอื่นๆ จะข่มมัน เมื่อมันเข้าคู่กัน 00:02:00.163 --> 00:02:03.315 ผลที่ได้คือ หมู่เลือด A หรือ หมู่เลือด B 00:02:03.315 --> 00:02:07.508 แต่ถ้าคุณได้รับ O ตกทอดมาทั้งสองอัลลีล การสั่งงานจะถูกส่งออกมาว่า 00:02:07.508 --> 00:02:12.849 เม็ดเลือดแดงของคุณ จะไม่มีแอนติเจน A และ B 00:02:12.849 --> 00:02:14.940 เพราะว่าปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ 00:02:14.940 --> 00:02:16.765 การที่รู้หมู่เลือดของพ่อแม่ทั้งสองคน 00:02:16.765 --> 00:02:21.714 จะทำให้เราคาดเดาความน่าจะเป็น ของหมู่เลือดของลูกๆ ได้ 00:02:21.714 --> 00:02:23.542 ทำไมหมู่เลือดถึงสำคัญหรือ 00:02:23.542 --> 00:02:25.083 สำหรับการถ่ายเลือด 00:02:25.083 --> 00:02:28.940 การหาหมู่เลือดที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญต่อความเป็นความตาย 00:02:28.940 --> 00:02:33.565 ถ้าใครสักคนที่มีหมู่เลือด A ได้รับหมู่เลือด B หรือกลับกัน 00:02:33.565 --> 00:02:38.192 แอนติบอดีของพวกเขาจะปฏิเสธแอนติเจนแปลกปลอม และโจมตีมัน 00:02:38.192 --> 00:02:42.175 ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะทำให้เกิดการแข็งตัว ของเลือดที่ถ่ายให้ 00:02:42.175 --> 00:02:46.736 แต่เพราะว่าคนที่มีหมู่เลือด AB ผลิตทั้งแอนติเจน A และ B 00:02:46.736 --> 00:02:51.868 พวกเขาไม่สร้างแอนติบอดีต้านมัน ฉะนั้นพวกมันจึงจดจำทั้งสองแอนติเจนว่ามันปลอดภัย 00:02:51.868 --> 00:02:54.311 ทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่รับเลือดได้ทุกหมู่ (universal recipients) 00:02:54.311 --> 00:02:55.534 ในทางกลับกัน 00:02:55.534 --> 00:02:58.999 คนที่มีหมู่เลือด O ไม่ได้ผลิตแอนติเจนทั้งสองอย่าง 00:02:58.999 --> 00:03:01.507 ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นผู้ให้เลือดได้กับคนทุกหมู่ (universal donors) 00:03:01.507 --> 00:03:04.370 แต่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขา สร้างแอนติบอดี 00:03:04.370 --> 00:03:09.456 ที่ปฏิเสธหมู่เลือดอื่นๆ 00:03:09.456 --> 00:03:13.677 โชคร้าย การเข้าคู่ผู้บริจาคและผู้รับเลือด มีความซับซ้อนมากกว่านั้น 00:03:13.677 --> 00:03:16.311 เพราะว่าระบบแอนติเจนยังมีอีกอย่าง 00:03:16.311 --> 00:03:18.308 โดยเฉพาะแฟกเตอร์ Rh 00:03:18.308 --> 00:03:22.580 ที่ถูกเรียกชื่อตาม ลิงรีซัส (Rhesus monkey) 00:03:22.580 --> 00:03:29.261 Rh+ หรือ Rh- หมายถึงว่า มีแอนติเจน D การปรากฏอยู่หรือไม่มี 00:03:29.261 --> 00:03:31.955 ระบบหมู่เลือด Rh 00:03:31.955 --> 00:03:34.820 และนอกจากจะขัดขวางการถ่ายเลือดแล้ว 00:03:34.820 --> 00:03:38.355 มันยังทำให้เกิดความซับซ้อนวุ่นวาย กับการตั้งครรภ์ 00:03:38.355 --> 00:03:42.853 ถ้าแม่ Rh- อุ้มท้องลูก Rh+ 00:03:42.853 --> 00:03:47.216 ร่างกายของเธอจะผลิตแอนติบอดี Rh 00:03:47.216 --> 00:03:49.142 และโจมตีตัวอ่อนในครรภ์ 00:03:49.142 --> 00:03:53.340 สภาวะที่เป็นที่รู้จักกันว่า โรคเม็ดเลือดแตก (hemolytic disease) ของเด็กแรกเกิด 00:03:53.340 --> 00:03:57.092 บางวัฒนธรรมเชื่อว่าหมู่เลือดเกี่ยวข้องกับบุคลิก 00:03:57.092 --> 00:03:58.906 แต่ทว่า มันไม่ได้รับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ 00:03:58.906 --> 00:04:01.401 และถึงแม้ว่าอัตราส่วนของแต่ละหมู่เลือด 00:04:01.401 --> 00:04:03.784 จะแตกต่างกันไประหว่างหมู่ประชากร 00:04:03.784 --> 00:04:06.603 นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไม พวกมันจึงมีวิวัฒนาการมาแบบนี้ 00:04:06.603 --> 00:04:09.143 บางทีเพื่อเป็นการป้องกันโรคที่ติดต่อทางเลือด 00:04:09.143 --> 00:04:11.874 หรือจากการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมอย่างสุ่ม 00:04:11.874 --> 00:04:15.724 และ สปีชีส์ต่างๆ ก็มีแอนติเจนต่างชุดกัน 00:04:15.724 --> 00:04:19.676 ที่จริงแล้ว เลือดสี่หมู่หลักมีที่ลิงไม่มีหางมีร่วมกันกัน 00:04:19.676 --> 00:04:25.943 ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับสุนัข ที่เราพบว่ามีหมู่เลือดสิบสามหมู่