WEBVTT 00:00:00.686 --> 00:00:04.584 คุณเคยสงสัยบ้างไหม ทำไมเราถูกล้อมรอบ ด้วยสิ่งที่ช่วยเราทำทุกสิ่งทุกอย่าง 00:00:04.608 --> 00:00:07.611 เร็วขึ้น และเร็วขึ้น และเร็วขึ้น ? 00:00:08.294 --> 00:00:09.535 สื่อสารเร็วขึ้น 00:00:09.559 --> 00:00:12.505 แต่ก็ต้องทำงานเร็วขึ้น การเงินที่เร็วขึ้น 00:00:12.529 --> 00:00:15.463 เดินทางเร็วขึ้น หาคนรักเร็วขึ้น 00:00:15.487 --> 00:00:20.319 ทำอาหารเร็วขึ้น ทำความสะอาดเร็วขึ้น และทำทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ? 00:00:20.803 --> 00:00:25.317 คุณรู้สึกอย่างไรที่ถูกยัดเยียดมากขึ้น ในทุกเวลาที่ตื่นนอน ? NOTE Paragraph 00:00:26.690 --> 00:00:28.903 สำหรับคนอเมริกันรุ่นของฉัน 00:00:28.927 --> 00:00:31.176 ความเร็วเปรียบเสมือนสิทธิที่มีตั้งแต่เกิด 00:00:31.200 --> 00:00:34.543 บางครั้ง ฉันคิดว่าความเร็วต่ำสุด ของเราคือ มัค 3 00:00:34.567 --> 00:00:37.964 ถ้าน้อยกว่านี้ พวกเรากลัวว่าจะสูญเสีย ความสามารถในการแข่งขันไป 00:00:38.634 --> 00:00:41.261 แต่แม้กระทั้งคนรุ่นของฉัน ก็เริ่มตั้งคำถาม 00:00:41.285 --> 00:00:43.772 ว่าเราเป็นเจ้านายของความเร็ว 00:00:43.796 --> 00:00:46.322 หรือความเร็วเป็นเจ้านายของเรา NOTE Paragraph 00:00:47.475 --> 00:00:49.897 ฉันเป็นนักมานุษยวิทยา ที่ แรนด์ คอร์ปอเรชั่น 00:00:49.921 --> 00:00:52.696 และในขณะที่นักมานุษยวิทยาคนอื่น กำลังศึกษาวัฒนธรรมโบราณ 00:00:52.720 --> 00:00:55.738 ฉันมุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมสมัยใหม่ และวิธีการที่เราปรับตัว 00:00:55.762 --> 00:00:58.959 เข้าหาการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ที่เกิดขึ้นบนโลก 00:00:59.751 --> 00:01:04.411 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันได้ร่วมทีมกับวิศวกร เซฟู ชอนเด เพื่อศึกษาความเร็ว 00:01:04.779 --> 00:01:10.043 พวกเราสนใจทั้งเรื่อง วิธีการที่มนุษย์ ปรับตัวเข้ากับยุคแห่งความเร็ว 00:01:10.067 --> 00:01:13.073 รวมทั้งนัยด้านความปลอดภัยและนโยบาย 00:01:13.556 --> 00:01:16.016 โลกของเราจะเป็นอย่างไรในอีก 25 ปี 00:01:16.040 --> 00:01:18.923 หากความเร็วของการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ? 00:01:18.947 --> 00:01:20.812 มันจะมีผลอย่างไรกับการเดินทาง 00:01:20.836 --> 00:01:23.232 การศึกษา การติดต่อสื่อสาร 00:01:23.256 --> 00:01:25.693 การผลิต อาวุธ 00:01:25.717 --> 00:01:27.639 หรือแม้กระทั่งการคัดกรองตามธรรมชาติ ? 00:01:28.253 --> 00:01:31.844 อนาคตที่รวดเร็วมากขึ้น จะทำให้เรา มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพมากขึ้นไหม ? 00:01:32.279 --> 00:01:34.617 หรือมันจะทำให้เรายิ่งเปราะบาง ? NOTE Paragraph 00:01:35.203 --> 00:01:39.207 ในงานวิจัยของเรา ผู้คนยอมรับว่า ความเร็วเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 00:01:39.231 --> 00:01:41.900 เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น และควบคุมได้ยาก 00:01:41.924 --> 00:01:44.061 พวกเขากลัวว่า ถ้าพวกเขาช้าลง 00:01:44.085 --> 00:01:46.743 พวกเขาจะมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นพวกตกรุ่น 00:01:46.767 --> 00:01:49.590 พวกเขากล่าวว่า พวกเขายอมที่จะหมดแรง ดีกว่าที่จะขึ้นสนิม 00:01:50.285 --> 00:01:51.576 แต่ในขณะเดียวกัน 00:01:51.600 --> 00:01:54.793 พวกเขากังวลว่าความเร็วจะค่อย ๆ กัดกร่อนวัฒนธรรม 00:01:54.817 --> 00:01:56.533 และความรู้สึกของความเป็นบ้าน 00:01:57.524 --> 00:01:59.876 แม้กระทั่งคนที่ชนะ ในเกมของความเร็ว 00:01:59.900 --> 00:02:01.784 ก็ยังยอมรับว่ามีความรู้สึกไม่สบายใจ 00:02:01.808 --> 00:02:05.407 พวกเขาเห็นว่า ความเร็วยิ่งถ่างช่องว่าง ระหว่างคนที่มีฐานะ 00:02:05.431 --> 00:02:07.926 พวกที่นั่งเครื่องบินเจ็ท เดินทางไปทั่ว 00:02:07.950 --> 00:02:09.316 กับคนที่ไม่มี 00:02:09.340 --> 00:02:11.722 ซึ่งถูกทิ้งไว้ในฝุ่นของดิจิทัล NOTE Paragraph 00:02:12.984 --> 00:02:17.048 ใช่ เรามีเหตุผลที่ดีในการทำนายว่า อนาคตจะรวดเร็วขึ้น 00:02:17.072 --> 00:02:18.795 แต่เราก็รับรู้ว่า 00:02:18.819 --> 00:02:21.342 ความเร็วก็มีความขัดแย้ง 00:02:21.366 --> 00:02:23.174 และเหมือนความขัดแย้งทั้งหมด 00:02:23.198 --> 00:02:25.897 มันสอนเราเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ 00:02:25.921 --> 00:02:29.009 ที่มีทั้งความไร้สาระและความซับซ้อน NOTE Paragraph 00:02:29.899 --> 00:02:32.311 ความขัดแย้งแรก คือ เรารักความเร็ว 00:02:32.335 --> 00:02:34.416 และเราก็ตื่นเต้นกับความรุนแรงของมัน 00:02:34.440 --> 00:02:38.112 แต่สมองในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเรา ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้ 00:02:38.136 --> 00:02:42.603 ดังนั้น เราสร้างรถไฟเหาะ รถแข่ง และเครื่องบินเหนือเสียง 00:02:42.627 --> 00:02:45.752 แต่แรงเหวี่ยงก็ทำให้เราเจ็บปวด เมารถ 00:02:45.776 --> 00:02:46.936 เพลียเพราะนั่งเครื่องบิน 00:02:47.584 --> 00:02:49.861 พวกเราไม่ได้วิวัฒน์ เพื่อทำงานหลายอย่างพร้อมกัน 00:02:49.885 --> 00:02:53.989 แต่เราถูกพัฒนาเพื่อทำงานอย่างเดียว ด้วยความตั้งใจอย่างสูง 00:02:54.013 --> 00:02:56.907 เหมือนกับการล่า ซึ่งความเร็วสูง ไม่ใช่เรื่องจำเป็น 00:02:56.931 --> 00:02:59.681 แต่ความอดทนในการเดินทางไกลต่างหากที่จำเป็น 00:02:59.705 --> 00:03:03.851 แต่ในปัจจุบัน เราเพิ่มช่องว่าง ระหว่างชีวภาพกับการใช้ชีวิตของเรา 00:03:03.875 --> 00:03:08.527 การจับคู่ที่ไม่ถูกต้อง ระหว่างสิ่งที่ ร่างกายถูกสร้างขึ้น กับสิ่งที่เราให้มันทำ 00:03:08.870 --> 00:03:14.215 มันเป็นปรากฏการณ์ที่อาจารย์ของฉันเรียกว่า "มนุษย์ยุคหินบนทางด่วน" NOTE Paragraph 00:03:14.239 --> 00:03:15.466 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:16.087 --> 00:03:19.585 ความขัดแย้งที่สองของความเร็ว คือ มันถูกวัดในเชิงวัตถุวิสัย ใช่ไหม ? 00:03:19.609 --> 00:03:22.499 ไมล์ต่อชั่วโมง กิกะไบต์ต่อวินาที 00:03:22.939 --> 00:03:25.179 แต่เรารู้สึกอย่างไรกับความเร็ว 00:03:25.203 --> 00:03:26.655 และเราชอบมันรึเปล่า 00:03:26.679 --> 00:03:28.339 ซึ่งเป็นเรื่องอัตวิสัยอย่างมาก 00:03:28.717 --> 00:03:30.480 ดังนั้น เราอาจบอกได้ว่า 00:03:30.504 --> 00:03:34.763 ความเร็วที่เรายอมรับเทคโนโลยีใหม่ นั้นเพิ่มขึ้น 00:03:34.787 --> 00:03:39.969 ตัวอย่างเช่น ต้องใช้เวลา 85 ปี นับจากจุดเริ่มต้น 00:03:39.993 --> 00:03:42.943 กว่าที่คนอเมริกันส่วนใหญ่ จะมีโทรศัพท์ในบ้าน 00:03:43.438 --> 00:03:48.151 ในทางกลับกัน ใช้เวลาเพียง 13 ปี ที่พวกเราส่วนใหญ่จะมีสมาร์ทโฟน 00:03:48.627 --> 00:03:51.226 และการตอบสนองของคนกับความเร็ว 00:03:51.250 --> 00:03:56.227 ก็แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม และแม้แต่ คนที่อยู่ในวัฒนธรรมเดียวกัน 00:03:56.251 --> 00:03:59.408 ปฏิสัมพันธ์บางอย่างที่มองว่า เป็นความคล่องแคล่วและสะดวก 00:03:59.432 --> 00:04:00.751 ในบางวัฒนธรรม 00:04:00.775 --> 00:04:02.800 กลับถูกมองว่าเป็นเรื่อง หยายคายในที่อื่น ๆ 00:04:02.824 --> 00:04:07.231 ฉันหมายถึง คุณคงจะไม่สั่งชาพร้อมดื่ม ในพิธีชงชาของญี่ปุ่น 00:04:07.255 --> 00:04:09.767 เพื่อคุณจะได้รีบไปสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป 00:04:09.791 --> 00:04:10.984 ใช่รึเปล่า ? NOTE Paragraph 00:04:11.968 --> 00:04:16.240 ความขัดแย้งที่สาม คือ ความเร็ว ก่อให้เกิดความเร็ว 00:04:16.264 --> 00:04:18.520 ยิ่งฉันตอบสนองเร็ว ฉันก็ได้รับตอบสนองมากขึ้น 00:04:18.544 --> 00:04:20.527 และฉันต้องตอบสนองเร็วขึ้นไปอีก 00:04:21.241 --> 00:04:23.191 การมีการสื่อสาร 00:04:23.215 --> 00:04:25.454 และข้อมูลมากขึ้นที่ปลายนิ้วของเรา 00:04:25.478 --> 00:04:27.097 ในชั่วขณะเวลาหนึ่ง 00:04:27.121 --> 00:04:31.002 น่าจะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และสมเหตุสมผลมากขึ้น 00:04:32.209 --> 00:04:34.553 แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง NOTE Paragraph 00:04:35.759 --> 00:04:37.894 ยังมีความขัดแย้งอีกอย่างหนึ่ง 00:04:38.601 --> 00:04:44.071 หากเราหวังว่าเทคโนโลยีที่เร็วขึ้น จะช่วยให้เราพ้นจากงานที่น่าเบื่อหน่าย 00:04:44.095 --> 00:04:46.966 แล้วทำไมเรายังรู้สึกกดดันตลอดเวลา ? 00:04:46.990 --> 00:04:49.725 ทำไมเรายังขับรถชนอยู่มาก 00:04:49.749 --> 00:04:53.147 เพราะเราต้องคอยตอบข้อความรึเปล่า ? 00:04:53.878 --> 00:04:57.374 การใช้ชีวิตอย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้เรารู้สึกสนุกขึ้น 00:04:57.398 --> 00:04:59.005 หรือกระวนกระวายน้อยลงหรือ ? 00:04:59.464 --> 00:05:01.948 นักพูดเยอรมันเคยยกคำพูดว่า 00:05:01.972 --> 00:05:03.416 "Eilkrankheit." 00:05:03.440 --> 00:05:06.454 ในภาษาอังกฤษแปลว่า "ความป่วยจากการรีบ" 00:05:07.055 --> 00:05:09.744 เมื่อเราต้องตัดสินใจอย่างเร็ว 00:05:09.768 --> 00:05:11.590 ระบบอัตโนมัติในสมองของเราจะทำงาน 00:05:11.614 --> 00:05:14.252 และเราจะใช้พฤติกรรมที่เราเรียนรู้ 00:05:14.276 --> 00:05:18.098 การตอบสนองของเรา อคติของเรา 00:05:18.122 --> 00:05:21.034 เพื่อช่วยเราในการพิจารณา และตอบสนองอย่างรวดเร็ว 00:05:21.502 --> 00:05:23.503 ซึ่งบางครั้งก็ช่วยชีวิตเราไว้ จริงไหม ? 00:05:23.527 --> 00:05:24.721 สู้หรือหนี 00:05:25.134 --> 00:05:28.479 แต่บางครั้ง มันก็พาเราหลงทางในระยะยาว NOTE Paragraph 00:05:29.443 --> 00:05:32.934 บ่อยครั้ง เมื่อสังคมเรา เกิดความล้มเหลวครั้งใหญ่ 00:05:32.958 --> 00:05:35.856 มันไม่ใช่ความล้มเหลวทางเทคโนโลยี 00:05:35.880 --> 00:05:39.701 มันคือความล้มเหลว ที่เกิดเมื่อเราตัดสินใจเร็วเกินไป 00:05:39.725 --> 00:05:41.240 ด้วยระบบอัตโนมัติของสมอง 00:05:41.264 --> 00:05:44.075 เราไม่ได้คิดอย่างสร้างสรรค์หรือรอบคอบ ตามที่ควรจะเป็น 00:05:44.099 --> 00:05:45.494 เพื่อเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ 00:05:45.518 --> 00:05:47.335 หรือกรองข้อมูลที่ผิดพลาดออกไป 00:05:47.359 --> 00:05:49.573 หรือทำความเข้าใจเรื่องที่ซับซ้อน 00:05:50.352 --> 00:05:53.689 การคิดแบบนี้ไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว 00:05:53.713 --> 00:05:55.595 มันเป็นสิ่งที่ต้องทำช้า ๆ 00:05:56.218 --> 00:05:59.280 นักจิตวิทยา 2 คน แดเนียล คาเนอมาน และ เอมอส ทเวอร์สกี้ 00:05:59.304 --> 00:06:02.529 เริ่มชี้ให้เห็นประเด็นนี้ในปี 1974 00:06:02.553 --> 00:06:05.999 และเรายังคงติดอยู่ในวังวน เพื่อทำบางอย่างจากการหยั่งรู้นั้น NOTE Paragraph 00:06:07.340 --> 00:06:11.770 ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ทั้งหมด อาจถูกมองว่าเป็นการเร่งความเร็วขึ้น 00:06:11.794 --> 00:06:14.131 เหมือนกับว่า เราคิดว่า ถ้าเราเร็วขึ้นอีก 00:06:14.155 --> 00:06:16.166 เราจะหนีพ้นจากปัญหาของเราได้ 00:06:16.797 --> 00:06:18.330 แต่เราไม่เคยทำเช่นนั้นได้ 00:06:18.354 --> 00:06:20.155 เรารู้สิ่งนี้ในชีวิตของเรา 00:06:20.179 --> 00:06:22.390 และผู้กำหนดนโยบายก็รู้เช่นกัน 00:06:22.940 --> 00:06:25.247 ในตอนนี้ เราใช้ปัญญาประดิษฐ์ 00:06:25.271 --> 00:06:27.680 เพื่อช่วยเราให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น และฉลาดขึ้น 00:06:27.704 --> 00:06:31.208 เพื่อจัดการกับข้อมูล ที่ขยายตัวตลอดเวลา 00:06:32.412 --> 00:06:35.824 แต่เครื่องจักรที่คำนวณข้อมูล ก็ไม่สามารถแทนที่ 00:06:35.848 --> 00:06:38.290 การคิดแบบมีวิจารณญาณและยั่งยืน 00:06:38.314 --> 00:06:39.524 โดยมนุษย์ 00:06:39.548 --> 00:06:44.409 ซึ่งมีสมองในยุคหิน ที่ต้องการเวลา เพื่อลดแรงผลักดันของตนเอง 00:06:44.433 --> 00:06:46.140 เพื่อทำใจให้ช้าลง 00:06:46.164 --> 00:06:47.876 และปล่อยให้กระแสความคิดดำเนินไป NOTE Paragraph 00:06:49.040 --> 00:06:52.212 ถ้าเราเริ่มคิดว่า เราน่าจะเหยียบเบรค 00:06:52.236 --> 00:06:55.389 นั่นอาจไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องเสมอไป 00:06:55.413 --> 00:06:59.510 เรารู้ว่า รถไฟที่เข้าโค้งเร็วเกินไปจะตกราง 00:06:59.534 --> 00:07:01.496 แต่วิศวกรอย่างเซฟู 00:07:01.520 --> 00:07:06.241 สอนฉันว่า รถไฟที่เข้าโค้งช้าเกินไป ก็ตกรางได้เช่นกัน NOTE Paragraph 00:07:06.860 --> 00:07:11.813 การจัดการความเร็ว จึงต้องเริ่มด้วยความเข้าใจ 00:07:11.837 --> 00:07:15.373 ว่าเรามีความสามารถในการควบคุมความเร็ว มากกว่าที่เราคิด 00:07:15.397 --> 00:07:18.578 ทั้งในระดับปัจเจก และระดับสังคม 00:07:18.602 --> 00:07:21.880 บางครั้ง เราต้องทำตัวเองให้เร็วขึ้น 00:07:21.904 --> 00:07:23.711 เราอาจต้องแก้ไขปัญหาความติดขัด 00:07:23.735 --> 00:07:26.390 เร่งการบรรเทาทุกข์ให้เร็วขึ้น เพื่อช่วยเหยื่อพายุเฮอร์ริเคน 00:07:26.414 --> 00:07:29.832 หรือใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อสิ่งที่เราต้องการตรงนั้น 00:07:29.856 --> 00:07:31.279 ในเวลาที่เราต้องการมัน 00:07:31.955 --> 00:07:35.896 อย่างไรก็ตาม บางครั้ง เราต้องทำให้รอบตัวของเราช้าลง 00:07:35.920 --> 00:07:39.307 เพื่อควบคุมไม่ให้พุ่งชน ประสบการณ์ที่เร็วเกินไป 00:07:39.861 --> 00:07:43.737 และก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ที่จะไม่ต้องถูกกระตุ้นตลอดเวลา 00:07:43.761 --> 00:07:45.267 มันดีสำหรับผู้ใหญ่ 00:07:45.291 --> 00:07:46.568 และสำหรับเด็ก 00:07:47.043 --> 00:07:50.626 บางครั้งมันก็น่าเบื่อ แต่มันให้เวลากับเราในการใคร่ครวญ 00:07:51.258 --> 00:07:54.738 ความช้าไม่ใช่การเสียเวลา NOTE Paragraph 00:07:56.142 --> 00:07:59.891 และเราต้องหวนพิจารณา ความหมายของการประหยัดเวลา 00:08:00.318 --> 00:08:04.195 วัฒนธรรมและพิธีการรอบโลก สร้างขึ้นในความเนิบช้า 00:08:04.219 --> 00:08:08.781 เพราะความเนิบช้าช่วยให้เราสามารถตอกย้ำ คุณค่าร่วมและความเชื่อมโยง 00:08:08.805 --> 00:08:12.062 และการเชื่อมโยงเป็นส่วนสำคัญ ของความเป็นมนุษย์ 00:08:13.387 --> 00:08:15.031 เราต้องอยู่เหนือความเร็ว 00:08:15.055 --> 00:08:19.234 และนั่นหมายถึงคิดให้รอบคอบ เกี่ยวผลดีผลเสียของเทคโนโลยีหนึ่ง ๆ 00:08:19.629 --> 00:08:24.046 มันจะช่วยเราเรียกคืนเวลาที่คุณสามารถ ใช้แสดงความเป็นมนุษย์หรือเปล่า ? 00:08:24.070 --> 00:08:27.856 มันจะทำให้คุณป่วยจากการรีบหรือไม่ ? มันจะทำให้คนอื่นป่วยจากการรีบหรือไม่ ? 00:08:27.880 --> 00:08:32.402 หากคุณโชคดีพอที่จะกำหนดความเร็ว ในการใช้ชีวิตได้ตลอด 00:08:32.426 --> 00:08:33.831 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ 00:08:34.464 --> 00:08:35.615 จงใช้มันซะ 00:08:36.250 --> 00:08:38.967 คุณอาจตัดสินใจว่า คุณต้องการทั้งการทำให้เร็ว 00:08:38.991 --> 00:08:40.994 และการมีเวลาที่เนิบช้า 00:08:41.869 --> 00:08:43.599 เวลาในการใคร่ครวญ 00:08:43.623 --> 00:08:45.252 ในการกลั่นกรอง 00:08:45.276 --> 00:08:46.718 เท่าที่คุณต้องการ 00:08:47.688 --> 00:08:48.943 เวลาในการฟัง 00:08:49.611 --> 00:08:50.951 ในการเห็นอกเห็นใจ 00:08:51.517 --> 00:08:53.059 ในการพักใจ 00:08:53.890 --> 00:08:55.818 ในการอ้อยอิ่งที่โต๊ะอาหารค่ำ NOTE Paragraph 00:08:57.402 --> 00:08:59.387 ดังนั้น เมื่อเรามองไปที่อนาคต 00:08:59.411 --> 00:09:03.172 เราควรพิจารณากำหนด เทคโนโลยีของความเร็ว 00:09:03.196 --> 00:09:05.077 วัตถุประสงค์ของความเร็ว 00:09:05.101 --> 00:09:07.796 และความคาดหวังของเราเกี่ยวกับความเร็ว 00:09:07.820 --> 00:09:10.079 ในจังหวะย่างก้าวที่เป็นมนุษย์มากขึ้น NOTE Paragraph 00:09:10.760 --> 00:09:11.913 ขอบคุณ NOTE Paragraph 00:09:11.937 --> 00:09:13.452 (เสียงปรบมือ)