WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:02.440 ทำไมต้องแกะสลักฟักทองในวันฮาโลวีน 00:00:02.440 --> 00:00:04.460 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:04.460 --> 00:00:09.100 ช่วงปลายเดือนตุลาแบบนี้ แน่นอนนะคะ บรรยากาศของเทศกาลเทศกาลนึงเนี่ยเข้มข้นมาก 00:00:09.100 --> 00:00:12.980 มองไปทางไหน ห้างร้านต่างๆ ก็มีแต่คนแต่งตัวเป็นแม่มด 00:00:12.980 --> 00:00:15.240 แต่งชุดดำยาว อะไรแบบนี้ 00:00:15.240 --> 00:00:17.860 หรือว่าประดับตกแต่งด้วยผีต่างๆ 00:00:17.860 --> 00:00:21.800 และแน่นอนค่ะรวมไปถึงอย่างนึงด้วย นั่นก็คือ ฟักทองแกะสลัก นั่นเอง 00:00:21.800 --> 00:00:26.620 เอ๊ ผี แม่มด อะไรต่างๆ ก็พอเข้าใจได้ว่า เกี่ยวกับวันฮาโลวีนนะ เพราะเป็นวันปล่อยผี 00:00:26.620 --> 00:00:28.180 แต่ฟักทองเนี่ยเกี่ยวอะไรด้วย 00:00:28.180 --> 00:00:31.740 มันก็แบบเป็นผักเป็นผลไม้ อยู่ของมันดีๆ ทำไมต้องไปแกะสลักมันด้วย 00:00:31.740 --> 00:00:32.940 ทำไมต้องแกะสลักฟักทอง 00:00:32.940 --> 00:00:34.960 ทำไมไม่แกะสลักแอปเปิล อะไรอย่างงี้นะคะ 00:00:34.960 --> 00:00:37.640 ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องนึงที่วิวอยากรู้มานานมากๆแล้วค่ะ 00:00:37.640 --> 00:00:40.640 ดังนั้นนะคะวันนี้วิวไปหาคำตอบมาแล้วเรียบร้อย 00:00:40.640 --> 00:00:42.780 แล้วก็จะนำมาแบ่งปันให้ทุกคนฟังค่ะ 00:00:42.780 --> 00:00:45.900 ซึ่งถ้าใครฟังวิวแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย มันยังลึกไม่พออะไรต่างๆ 00:00:45.900 --> 00:00:47.440 อยากหาอ่านเองเพิ่มนะคะ 00:00:47.440 --> 00:00:49.180 อ้างอิงของวิวอยู่ด้านล่างเลยค่ะ 00:00:49.180 --> 00:00:51.720 และที่สำคัญนะคะ เนื่องจากเรื่องพวกนี้ที่วิวกำลังจะเล่าเนี่ย 00:00:51.720 --> 00:00:53.640 มันเป็นตำนาน มันเป็นนิทานอะเนาะ 00:00:53.640 --> 00:00:56.500 มันเป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่นต่อรุ่น 00:00:56.500 --> 00:01:00.500 ดังนั้นแต่ละแหล่งเนี่ยอาจจะมี ข้อความบางส่วนที่ไม่เหมือนกันนะคะ 00:01:00.500 --> 00:01:04.960 ถ้าสมมติว่าใครฟังแล้วแบบ เฮ้ย ฉันเคยฟังเวอร์ชันอื่นมาที่มันแตกต่างตรงนั้นตรงนี้ 00:01:04.960 --> 00:01:07.380 ก็สามารถคอมเมนต์คุยกันด้านล่างได้ค่ะ 00:01:07.380 --> 00:01:11.100 สำหรับตอนนี้ก่อนอื่นเลย ก่อนที่จะไปฟังคำตอบของวิวกันเนี่ยนะคะ 00:01:11.100 --> 00:01:13.740 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ 00:01:13.740 --> 00:01:15.920 เพราะว่าแต่ละช่องทางก็เนื้อหาไม่เหมือนกันนะ 00:01:15.920 --> 00:01:19.880 เอาล่ะ ตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 00:01:19.880 --> 00:01:22.060 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:25.820 --> 00:01:29.960 ก่อนที่จะไปตอบคำถามได้นะคะว่า ทำไมเราต้องแกะสลักฟักทองในวันฮาโลวีน 00:01:29.960 --> 00:01:33.680 บอกเลยค่ะว่ามันมีเรื่องที่เราจะต้องรู้จักเนี่ย ทั้งหมดสองเรื่องด้วยกันค่ะ 00:01:33.680 --> 00:01:36.720 เรื่องแรกนะคะเป็นความเชื่อของชาวเคลติกค่ะ 00:01:36.720 --> 00:01:39.400 ซึ่งชาวเคลติกเนี่ยก็คือชาวยุโรปตะวันตกนะคะ 00:01:39.400 --> 00:01:45.100 ที่อาศัยอยู่บริเวณที่เป็นบริตทานี เวลส์ ไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ คอร์นวอลล์ ประมาณนั้นค่ะ 00:01:45.100 --> 00:01:47.820 ทีนี้ถามว่าชาวเคลติกมีความเชื่ออะไรนะคะ 00:01:47.820 --> 00:01:51.240 ชาวเคลติกสมัยโบร่ำโบราณเนี่ยค่ะ เขาทำอาชีพอะไร 00:01:51.240 --> 00:01:52.620 นึกสภาพมนุษย์ยุคนั้น 00:01:52.620 --> 00:01:55.780 แน่นอนนะคะ อาชีพหลักของมนุษย์ก็คือการเกษตรนั่นเอง 00:01:55.780 --> 00:01:58.560 แล้วถามว่าคนที่ทำการเกษตร อะไรคือสิ่งที่สำคัญ 00:01:58.560 --> 00:02:02.260 นั่นก็คือฤดูกาลนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะฤดูกาลเก็บเกี่ยวนะคะ 00:02:02.260 --> 00:02:08.580 ช่วงเวลาเดือนตุลาคมแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่ เขาจะเฉลิมฉลองเรื่องเทศกาลเก็บเกี่ยวอะไรต่างๆกัน 00:02:08.580 --> 00:02:13.200 เราจะเห็นว่าประเทศต่างๆในโลกชอบมี เทศกาลอะไรอยู่ช่วงนี้ ที่เกี่ยวกับเก็บเกี่ยวเนาะ 00:02:13.200 --> 00:02:15.540 แน่นอนค่ะชาวเคลติกเป็นหนึ่งในนั้น 00:02:15.540 --> 00:02:18.640 และที่สำคัญ ลองนึกถึงบรรยากาศที่ยุโรปนะคะ 00:02:18.640 --> 00:02:22.720 ใครที่เคยไปยุโรปจะรู้ค่ะว่า ช่วงซัมเมอร์เนี่ย ช่วงฤดูร้อนเนี่ยนะคะ 00:02:22.720 --> 00:02:27.240 กลางวันจะยาวนานมากแบบ สองทุ่มสามทุ่ม พระอาทิตย์ก็ยังอยู่บนฟ้าเลย 00:02:27.240 --> 00:02:30.460 ในขณะที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิกะฤดูใบไม้ร่วงเนี่ย 00:02:30.460 --> 00:02:34.220 ก็จะเห็นว่าเออ พระอาทิตย์ก็ตกดินตามปกติ คุ้นๆเหมือนกับประเทศไทยนี่แหละ 00:02:34.220 --> 00:02:37.460 ในขณะที่ฤดูหนาวเนี่ยนะคะ ไปเที่ยวแทบไม่คุ้มเลยค่ะ เพราะว่าอะไร 00:02:37.460 --> 00:02:41.120 สี่โมงเย็น นู่น พระอาทิตย์ตกปุกแล้ว อ้าว มืดแล้วซะอย่างนั้นนะคะ 00:02:41.120 --> 00:02:44.020 วันนึงเนี่ยมีเวลากลางวันสั้นนิดเดียวเองค่ะ 00:02:44.020 --> 00:02:48.440 ดังนั้นไม่แปลกเลยนะคะที่พวกชาวยุโรป หรือพวกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศหนาวเนี่ย 00:02:48.440 --> 00:02:53.820 จะชอบโยงฤดูหนาวกับความตาย ความแห้งแล้ง ความทรมาทรกรรมอะไรต่างๆค่ะ 00:02:53.820 --> 00:02:56.980 เช่นเดียวกัน ชาวเคลติกก็มีจินตนาการนะคะว่า 00:02:56.980 --> 00:03:02.480 ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเนี่ยที่กำลังจะเปลี่ยนผ่าน จากช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าไปสู่ฤดูหนาว 00:03:02.480 --> 00:03:06.640 ก็เหมือนกับว่าฉันจะไม่ได้เจอ ท้องฟ้าสดใสยาวนานไปอีกนานแล้ว 00:03:06.640 --> 00:03:08.680 โอ๊ะ นี่มันจะต้องเกี่ยวกับความตายแน่ๆเลย 00:03:08.680 --> 00:03:12.120 ดังนั้นนะคะเขาก็เลยจัดเทศกาลเทศกาลนึงขึ้นค่ะ 00:03:12.120 --> 00:03:14.320 เพื่อเฉลิมฉลองปลายฤดูเก็บเกี่ยวและ 00:03:14.320 --> 00:03:18.320 เขาก็เชื่อว่าในเทศกาลนี้ก็คือเทศกาลของคนตายนั่นเอง 00:03:18.320 --> 00:03:21.080 เพราะเป็นเทศกาลเหมือนแบบว่าปล่อยผี ประมาณนั้น 00:03:21.080 --> 00:03:26.060 คือชาวเคลติกเนี่ยเชื่อว่าเวลาคนตายไปเนี่ยนะคะ ตายๆๆๆๆๆ ตายตลอดปีเนี่ย 00:03:26.060 --> 00:03:28.940 พอตายๆไปวิญญาณก็โดนกักไว้รวมกันนี่แหละค่ะ 00:03:28.940 --> 00:03:32.880 จนกระทั่งมาถึงช่วงปลายเดือนตุลา ในเทศกาลที่เขาจะเฉลิมฉลองนี่แหละ 00:03:32.880 --> 00:03:35.980 วิญญาณเหล่านั้นก็จะเดินทางข้ามจากโลกของเราเนี่ย 00:03:35.980 --> 00:03:38.180 ไปที่โลกของคนตายพร้อมๆกันค่ะ 00:03:38.180 --> 00:03:44.360 ในขณะเดียวกันนะคะ วิญญาณรุ่นพี่ที่เดินทางไปก่อน ในปีก่อนนู้นๆๆๆๆ ที่เดินทางไปนานแสนนานแล้ว 00:03:44.360 --> 00:03:46.320 ในวันนี้ก็จะได้รับอนุญาตค่ะ 00:03:46.320 --> 00:03:49.400 ให้กลับไปเยี่ยมญาติได้ ให้กลับมาเยี่ยมโลกของเราได้นะคะ 00:03:49.400 --> 00:03:53.780 ดังนั้นเมื่อประตูของสองโลกเปิดหากัน ก็เลยจะต้องมีการเฉลิมฉลองขึ้น 00:03:53.780 --> 00:03:57.540 ซึ่งเขาเฉลิมฉลองด้วยการจัดเทศกาล Bonfire ขึ้นค่ะ 00:03:57.540 --> 00:04:01.180 ก็คือเป็นแบบก่อกองไฟใหญ่ๆ แล้วก็เฉลิมฉลองกันรอบกองไฟนะคะ 00:04:01.180 --> 00:04:04.420 ถามว่าแล้วในเทศกาล Bonfire เนี่ย เขามีความเชื่ออะไร 00:04:04.420 --> 00:04:06.700 เขาก็เชื่อกันว่าพวกวิญญาณต่างๆเนี่ยนะคะ 00:04:06.700 --> 00:04:08.140 มันไม่กล้าสู้แสงสว่างค่ะ 00:04:08.140 --> 00:04:10.320 ดังนั้นในขณะที่ทุกคนเฉลิมฉลองกันเนี่ย 00:04:10.320 --> 00:04:12.820 ในเงามืดเนี่ยก็จะเป็นโซนที่วิญญาณอยู่ 00:04:12.820 --> 00:04:15.400 เดินร่อนเร่กันไปทั่วๆไปหมดเลยนะคะ 00:04:15.400 --> 00:04:17.080 โอเค เราฉลอง Bonfire อยู่ 00:04:17.080 --> 00:04:19.300 เราก็ปลอดภัยเนาะ ปลอดภัยจากวิญญาณต่างๆ 00:04:19.300 --> 00:04:21.160 แต่บ้านของเราอะมันไม่ปลอดภัย 00:04:21.160 --> 00:04:25.140 ใครจะอยากให้อยู่ดีๆก็มีวิญญาณที่ไหนก็ไม่รู้ เดินเข้าบ้านตัวเองใช่มั้ยคะ 00:04:25.140 --> 00:04:28.500 ดังนั้นค่ะ ชาวเคลติกก็เลยมีวิธีแก้นะคะด้วยการ 00:04:28.500 --> 00:04:32.520 เอาหัวผักกาดหรือว่าผักต่างๆเนี่ย ซึ่งหัวผักกาดมันเหมาะสุดเพราะมันแข็งอะนะ 00:04:32.520 --> 00:04:35.040 ขึ้นมาค่ะแล้วก็จัดการเจาะรูตรงกลางนะคะ 00:04:35.040 --> 00:04:37.020 เจาะๆๆๆ เจาะเข้าไปค่ะ 00:04:37.020 --> 00:04:41.000 แล้วก็เอาก้อนถ่านแดงๆหรือว่า เอาเทียนเนี่ยนะคะใส่ลงไปตรงกลางค่ะ 00:04:41.000 --> 00:04:44.020 แล้วก็วางเรียงไว้หน้าบ้านตัวเอง เรียงๆๆๆๆ 00:04:44.020 --> 00:04:47.180 ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าสมมติว่าวิญญาณร้ายเดินมาถึงเนี่ย 00:04:47.180 --> 00:04:51.280 เห็นตะเกียงอันนี้ปุ๊บก็จะแบบ อุ๊ย ตรงนี้มีแสงสว่าง ฉันไม่เข้าบ้านนี้ดีกว่า 00:04:51.280 --> 00:04:52.680 แล้วก็เดินจากไปค่ะ 00:04:52.680 --> 00:04:55.180 ในขณะที่ถ้าวิญญาณดีเดินผ่านมานะคะ 00:04:55.180 --> 00:04:58.000 แสงตะเกียงที่เรียงกันบ้านต่อบ้านต่อบ้านเนี่ย 00:04:58.000 --> 00:05:03.340 ก็จะเป็นเหมือนกับแสงตะเกียงที่นำทางให้ วิญญาณดีเนี่ยเดินไปถูกทางนั่นเองค่ะ 00:05:03.340 --> 00:05:05.980 ซึ่งความเชื่อตรงนี้นะคะ มันแบ่งเป็นสองแบบด้วยกันค่ะ 00:05:05.980 --> 00:05:09.140 แบบแรกก็บอกว่า แค่วางไว้เฉยๆ ไม่ได้แกะสลักเนาะ 00:05:09.140 --> 00:05:12.860 แต่อีกแบบนึงเนี่ยบอกว่า เขามีการแกะสลักหัวผักกาดด้วยค่ะ 00:05:12.860 --> 00:05:17.020 เป็นหน้าคนอะไรอย่างนี้เพื่อที่จะได้ทำให้ พวกวิญญาณร้ายเนี่ยหนีไปนะคะ 00:05:17.020 --> 00:05:22.440 เรื่องที่สองที่ทุกคนจำเป็นจะต้องรู้จัก เพื่อที่จะรู้ว่าเราแกะสลักฟักทองทำไม 00:05:22.440 --> 00:05:24.960 ก็คือเรื่องของ Jack o' lantern นั่นเอง 00:05:24.960 --> 00:05:26.660 คุ้นๆมะ Jack o' lantern 00:05:26.660 --> 00:05:31.480 หลายคนน่าจะพอรู้นะคะว่าฟักทองแกะสลักเนี่ย มันมีชื่อเรียกว่า Jack o' lantern 00:05:31.480 --> 00:05:34.780 แต่รู้มั้ยคะว่าตำนานของ Jack o' lantern พูดถึงอะไรค่ะ 00:05:34.780 --> 00:05:37.560 ตำนานเรื่องนี้นะคะเขาพูดถึงคนคนนึงค่ะชื่อว่าแจ็ค 00:05:37.560 --> 00:05:39.340 แจ็คเนี่ยนะคะเป็นช่างตีเหล็กค่ะ 00:05:39.340 --> 00:05:40.840 แล้วไม่ใช่ช่างตีเหล็กธรรมดานะ 00:05:40.840 --> 00:05:45.300 แต่เป็นช่างตีเหล็กที่ได้รับฉายาว่า เป็นคนขี้เหนียวมากกกนะคะ 00:05:45.300 --> 00:05:48.240 ขี้เหนียวขนาดที่ว่าเขาเรียกว่า Stingy Jack เลยนะ 00:05:48.240 --> 00:05:49.840 ถามว่าขี้เหนียวขนาดไหนนะคะ 00:05:49.840 --> 00:05:51.940 เรื่องเนี่ยเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนึงค่ะ 00:05:51.940 --> 00:05:54.780 ซึ่งแจ็คเนี่ยอยากกินเหล้าแต่ไม่อยากจ่ายตังนะคะ 00:05:54.780 --> 00:05:57.480 ดังนั้นแจ็คก็เลยหาคนไปดื่มด้วยค่ะ 00:05:57.480 --> 00:06:03.400 ซึ่งก็ไม่รู้อีท่าไหนนะ แจ็คก็ไปอัญเชิญปีศาจนะคะ Devil เนี่ย ลงมาดื่มเหล้ากับตัวเองค่ะ 00:06:03.400 --> 00:06:06.700 มาดื่มเป็นเพื่อน ก็นั่งดื่มกันไป ดื่มๆๆ ดื่มไปดื่มมา 00:06:06.700 --> 00:06:09.380 ดื่มเสร็จแล้วนะคะปรากฏว่าแจ็คไม่อยากจ่ายตังค่ะ 00:06:09.380 --> 00:06:11.960 ประมาณว่าไม่เอาอะ งก ทำไงดี 00:06:11.960 --> 00:06:15.080 มีเพื่อนกินเหล้าอยู่แล้วใช่มะ เพื่อนเป็นใคร เพื่อนเป็น Devil ค่ะ 00:06:15.080 --> 00:06:17.240 ดังนั้นแจ็คก็เลยหันไปบอก Devil ประมาณว่า 00:06:17.240 --> 00:06:20.080 เฮ้ย นายๆ เราไม่อยากจ่ายตังอะ ช่วยเราหน่อยดิ 00:06:20.080 --> 00:06:22.100 เรารู้ว่านายแปลงร่างได้ใช่ม้า 00:06:22.100 --> 00:06:24.140 นายอะแปลงร่างเป็นเหรียญเงินหน่อยดิ 00:06:24.140 --> 00:06:28.760 เดี๋ยวเราเอาเงินอันนี้ไปจ่ายที่บาร์ แล้วเดี๋ยวนายก็ไปแอบคืนร่างตรงไหนก็ได้นะ 00:06:28.760 --> 00:06:31.400 เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินกันทั้งคู่ไง ดีมั้ย ดีมั้ย 00:06:31.400 --> 00:06:34.600 ถามว่า Devil เอาด้วยมั้ยนะคะ บอกเลยว่า Devil เอาด้วยค่ะ 00:06:34.600 --> 00:06:37.220 ดังนั้นนะคะ Devil ก็เลยแปลงร่างเป็นเหรียญเงินค่ะ 00:06:37.220 --> 00:06:40.280 ซึ่งถามว่าแจ็คเอาเหรียญเงินนี้ไปจ่ายค่าเหล้ารึเปล่า 00:06:40.280 --> 00:06:42.800 บอกเลยว่าเปล่าค่ะ คือแจ็คมันเลวกว่านั้นค่ะ 00:06:42.800 --> 00:06:45.900 จังหวะที่กำลังจะเอาไปจ่ายตังเนี่ย แจ็คมันก็เล็งเห็นแล้วว่า 00:06:45.900 --> 00:06:48.640 เอ้า จริงๆแล้วเจ้าของร้านมันก็ไม่ได้เฝ้าร้านดีขนาดนั้น 00:06:48.640 --> 00:06:50.360 ชักดาบได้เลยนิหน่า ไม่ต้องจ่ายหรอก 00:06:50.360 --> 00:06:53.520 ดังนั้นนะคะแจ็คก็เลยชักดาบออกจากร้านไปเลยค่ะ 00:06:53.520 --> 00:06:57.360 แล้วก็ออกไปนอกร้านปุ๊บ ทีนี้เหรียญที่เป็น Devil เนี่ยทำยังไง 00:06:57.360 --> 00:07:02.060 แจ็คเนี่ยนะคะเก็บใส่กระเป๋าค่ะแล้วก็ เอาไม้กางเขนเงินอันเล็กๆเนี่ยยัดลงไปด้วย 00:07:02.060 --> 00:07:05.400 ดังนั้น Devil ก็เลยกลับร่างตัวเองไม่ได้ซะอย่างนั้น 00:07:05.400 --> 00:07:09.400 แจ็คเนี่ยขัง Devil ไว้ในกระเป๋ากางเกง ตัวเองเป็นเวลาค่อนข้างนานนะคะ 00:07:09.400 --> 00:07:12.220 เสร็จแล้ววันนึงแจ็คก็ไปตกลงกับ Devil ค่ะประมาณว่า 00:07:12.220 --> 00:07:15.740 เฮ้ย Devil สนุกมั้ย อยู่ในกระเป๋ากางเกงเราตั้งนานแล้วเนี่ย 00:07:15.740 --> 00:07:18.420 แปลงร่างกลับก็แปลงไม่ได้ เป็นเหรียญเงินมาตั้งนานแล้ว 00:07:18.420 --> 00:07:20.080 อยากกลับร่างตัวเองอะดี้ 00:07:20.080 --> 00:07:22.900 ถ้าอยากกลับร่างตัวเองนะ ได้ เดี๋ยวเราปล่อยคืน 00:07:22.900 --> 00:07:24.740 แต่สัญญากับเราข้อนึงได้มั้ย 00:07:24.740 --> 00:07:26.680 นายอะต้องสัญญากับเรานะว่า 00:07:26.680 --> 00:07:28.600 ถ้าเราปล่อยนายวันนี้ 00:07:28.600 --> 00:07:30.420 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตายเนี่ย 00:07:30.420 --> 00:07:32.080 นายเป็นคนคุมนรกใช่มั้ย 00:07:32.080 --> 00:07:36.020 นายห้ามเอาวิญญาณเราลงไปนรกน้า โอเคเปล่า โอเคเปล่า 00:07:36.020 --> 00:07:40.100 ซึ่งแน่นอนนะคะ Devil อยากกลับร่าง Devil ก็ตกลง โอเค ดีล นะคะ 00:07:40.100 --> 00:07:43.620 ก็ Devil เรื่องนี้มันจะดูโง่ๆนิดนึงนะ ไม่เหมือน Devil ปกติค่ะ 00:07:43.620 --> 00:07:47.860 หลังจากนั้นนะคะ Devil ก็ยังเป็นเพื่อนกับแจ็คอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนกันทำไมน่ะนะ 00:07:47.860 --> 00:07:51.360 ปรากฏว่าวันนึงแจ็คก็อยากกินผลไม้บนต้นอะไรอย่างงี้ 00:07:51.360 --> 00:07:52.820 ก็แบบหลอก Devil อีก ประมาณว่า 00:07:52.820 --> 00:07:57.300 Devil นายอะแข็งแรงกว่าเรา นายปีนขึ้นไปเก็บผลไม้ให้เราบนต้นไม้หน่อยดิ 00:07:57.300 --> 00:07:59.520 เดี๋ยวเรารออยู่ข้างล่างแล้วเราแบ่งกันกินนะ 00:07:59.520 --> 00:08:01.860 ก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ Devil เชื่อนะคะ 00:08:01.860 --> 00:08:05.940 แต่อย่างไรก็ตามค่ะ Devil ก็เชื่อ แล้วก็ปีนขึ้นไปเก็บผลไม้ให้แจ็คค่ะ 00:08:05.940 --> 00:08:07.960 ถามว่า Devil ปีนขึ้นไปแล้วแจ็คทำอะไร 00:08:07.960 --> 00:08:11.160 แจ็คไปแกะสลักไม้กางเขน ปักๆๆๆๆๆๆๆ 00:08:11.160 --> 00:08:13.180 เอาไว้ที่โคนต้นไม้ Devil ลงไม่ได้ 00:08:13.180 --> 00:08:15.100 แจ็คก็ไปตกลงกับ Devil อีกรอบประมาณว่า 00:08:15.100 --> 00:08:17.860 นายอยากให้เราเอาไม้กางเขนออกใช่มั้ยล่า 00:08:17.860 --> 00:08:20.040 นายสัญญากับเราก่อนนะเพื่อความชัวร์ 00:08:20.040 --> 00:08:24.720 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตาย ห้ามเอาวิญญาณเราลงนรกเด็ดขาดเลยน้า 00:08:24.720 --> 00:08:28.540 Devil ก็ทำอะไรไม่ได้นะคะ อยากลงจากต้นไม้ก็เลยตกลงไปตามนั้นค่ะ 00:08:28.540 --> 00:08:31.780 ซึ่งเรื่องราวก็ดำเนินไปแบบนี้นะคะจนกระทั่งถึงวันนึงค่ะ 00:08:31.780 --> 00:08:34.080 ที่นายแจ็คเนี่ยก็ตายจากไปจริงๆนะคะ 00:08:34.080 --> 00:08:36.140 ปรากฏว่าพอตายปุ๊บเกิดอะไรขึ้น 00:08:36.140 --> 00:08:39.800 แน่นอนว่าก็ความเชื่อปกติอะ จะไปสวรรค์หรือจะไปนรกใช่มั้ย 00:08:39.800 --> 00:08:42.240 แจ็คเป็นคนแบบนี้คิดว่าสวรรค์รับตัวมั้ยคะ 00:08:42.240 --> 00:08:46.580 ฝั่งสวรรค์ก็บอกว่า ไม่เอา แจ็ค นายคุณสมบัติไม่ผ่าน ห้ามมาสวรรค์เด็ดขาด 00:08:46.580 --> 00:08:50.060 ปกติคนที่โดนปฏิเสธจากสวรรค์ ต้องไปทางไหน ต้องไปนรกใช่มะ 00:08:50.060 --> 00:08:53.520 ปรากฏว่าแจ็คก็เดินไปที่ The Gate of Hell หรือว่าประตูนรกนั่นเอง 00:08:53.520 --> 00:08:57.860 Devil ก็บอกว่า ไม่แจ็ค เราสัญญากับนายไว้แล้ว เรารับวิญญาณนายมาตรงนี้ไม่ได้ 00:08:57.860 --> 00:09:01.400 ดังนั้นนะคะแจ็คก็เลยติดอยู่ในระหว่างสองโลกค่ะ 00:09:01.400 --> 00:09:05.440 ก็ไม่รู้จะทำยังไง Devil ก็เลย ให้ตะเกียงอันนึงกับแจ็คนะคะบอกว่า 00:09:05.440 --> 00:09:08.380 อะ แจ็ค เอาตะเกียงไปนะ ไปเดินส่องหาทางของนายเอง 00:09:08.380 --> 00:09:13.080 ไปเดินตามหานรกของนายเอง เพราะนรกของเราอะ ไม่รับนายเข้ามาอยู่หรอก นะคะ 00:09:13.080 --> 00:09:16.020 เขาก็เลยบอกว่าวิญญาณของแจ็คเนี่ยนะคะ ติดอยู่ระหว่างสองโลกค่ะ 00:09:16.020 --> 00:09:18.120 เดินส่องตะเกียง เดินไป เดินไป เดินไป 00:09:18.120 --> 00:09:21.660 เพื่อหาที่อยู่ของตัวเอง มาจนถึงสมัยปัจจุบันนี้เนี่ยแหละค่ะ 00:09:21.660 --> 00:09:25.280 แล้วถามว่าเรื่องราวสองเรื่องนี้ ที่วิวเล่าเนี่ยมันมาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง 00:09:25.280 --> 00:09:27.040 แล้วมันไปเกี่ยวกับฟักทองได้ยังไงนะคะ 00:09:27.040 --> 00:09:30.480 ก็ต้องบอกว่ามันย้อนกลับไปที่ประมาณศตวรรษที่ 8 ค่ะ 00:09:30.480 --> 00:09:33.320 ตอนนั้นเนี่ยศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนะคะ 00:09:33.320 --> 00:09:35.640 มีการย้ายวันสำคัญวันนึงค่ะ 00:09:35.640 --> 00:09:40.520 คือ All Saints' Day เนี่ยไปที่วันที่ 1 November หรือว่า 1 พฤศจิกายนนั่นเองค่ะ 00:09:40.520 --> 00:09:44.820 ดังนั้นเหมือนคริสต์มาสวันที่ 25 วันที่ 24 กลางคืนก็ต้องเป็นคริสต์มาสอีฟใช่มั้ย 00:09:44.820 --> 00:09:47.860 วันที่ 31 ตุลาคมตอนกลางคืนก็เลยกลายเป็น 00:09:47.860 --> 00:09:51.720 All Hallows' Eve หรือว่า ที่กลายมาเป็นคำว่า Halloween นั่นเองค่ะ 00:09:51.720 --> 00:09:56.880 ทีนี้ศาสนาคริสต์เนี่ยก็ค่อนข้างจะได้รับอิทธิพล จากศาสนาต่างๆที่เป็นศาสนาท้องถิ่น 00:09:56.880 --> 00:09:58.960 ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเข้ามาใช่มั้ยคะ 00:09:58.960 --> 00:10:04.020 ดังนั้นความเชื่อของชาวเคลติก ไอที่จัด เทศกาล Bonfire อะไรต่างๆ เทศกาลปล่อยผี 00:10:04.020 --> 00:10:07.020 ก็เลยมาปะปนกับเทศกาล All Hallows' Eve นี่แหละค่ะ 00:10:07.020 --> 00:10:10.120 ที่สำคัญนะคะ เรื่องราวของแจ็คมันก็ดูเข้ากันดี 00:10:10.120 --> 00:10:14.900 ตะเกียงของแจ็คเนี่ยบางที่ก็บอกว่า เป็นหัวผักกาดแกะสลักเอาเทียนใส่เข้าไปเหมือนกัน 00:10:14.900 --> 00:10:17.420 อ้าว มันก็คล้ายๆกับความเชื่อของชาวเคลติก 00:10:17.420 --> 00:10:21.080 ดังนั้นปนกันไปปนกันมาค่ะ ตะเกียงของแจ็คกับความเชื่อของชาวเคลติก 00:10:21.080 --> 00:10:24.180 ก็เลยยัดรวมกันเข้ามาในวันฮาโลวีนตอนนั้นนี่แหละค่ะ 00:10:24.180 --> 00:10:27.760 แต่เอ๊ะ แล้วมันเปลี่ยนจากหัวผักกาด มาเป็นฟักทองได้ยังไงนะคะ 00:10:27.760 --> 00:10:32.540 ก็ต้องบอกว่าจริงๆแล้วฟักทองค่ะ เป็นพืชประจำถิ่นที่อเมริกาเหนือนะคะ 00:10:32.540 --> 00:10:34.640 คือที่ยุโรปแต่เดิมเนี่ยไม่มีฟักทองเนาะ 00:10:34.640 --> 00:10:37.000 ซึ่งประมาณปีค.ศ. 1584 ค่ะ 00:10:37.000 --> 00:10:40.620 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชาวยุโรป กำลังสำรวจอเมริกาอะไรต่างๆอยู่นะ 00:10:40.620 --> 00:10:43.340 ถือว่าเป็น The New Land เป็นดินแดนใหม่ ประมาณนี้ใช่มั้ยคะ 00:10:43.340 --> 00:10:46.940 ตอนนั้นค่ะ มีชาวฝรั่งเศสคนนึงนะคะ ชื่อว่าคุณคาร์เทียร์ เนี่ย 00:10:46.940 --> 00:10:51.520 เขาเดินทางไปที่อเมริกาแล้วก็ไปสำรวจ บริเวณ St. Laurence ปัจจุบันนี้เนี่ยแหละค่ะ 00:10:51.520 --> 00:10:54.800 ไปถึงเขาก็ไปเจอกับผลไม้ชนิดนึง เขาก็บรรยายว่า 00:10:54.800 --> 00:10:57.520 โห มันเป็น Giant Melon มันเป็นเมลอนยักษ์อะ 00:10:57.520 --> 00:10:59.320 คือที่ยุโรปมีแต่ผลเมลอนนะคะ 00:10:59.320 --> 00:11:02.480 อันนี้แบบเมลอนยักษ์สีส้มๆ ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรดีนะคะ 00:11:02.480 --> 00:11:05.960 หลังจากนั้นนะคะชาวยุโรปก็เลย ได้เริ่มรู้จักฟักทองเนี่ยแหละค่ะ 00:11:05.960 --> 00:11:09.040 แล้วก็ตั้งชื่อไปตั้งชื่อมา กลายมาเป็น Pumpkin นั่นเองนะคะ 00:11:09.040 --> 00:11:11.960 ซึ่งฟักทองที่อเมริกาเนี่ยมันมีเยอะมากกก 00:11:11.960 --> 00:11:14.480 เรียกได้ว่าเป็นพืชประจำถิ่นเลยว่าอย่างงั้นเถอะค่ะ 00:11:14.480 --> 00:11:17.500 ดังนั้นนะคะในช่วงประมาณทศวรรษที่ 1800 ค่ะ 00:11:17.500 --> 00:11:21.020 ตอนนี้ในยุโรปพวกชาวไอร์แลนด์ เขาก็ฉลองฮาโลวีนกันมาแล้วใช่มั้ยคะ 00:11:21.020 --> 00:11:22.940 ด้วยการแกะสลักหัวผักกาดมาตลอด 00:11:22.940 --> 00:11:27.440 ปรากฏว่าในช่วงนั้นค่ะ เขาก็อพยพกันมาจากยุโรปมาอยู่ที่อเมริกาค่ะ 00:11:27.440 --> 00:11:29.440 มาถึงปรากฏว่ามาเจอฟักทอง 00:11:29.440 --> 00:11:33.080 เฮ้ยแก ฟักทองมันเหมาะที่จะ ใช้แกะสลักมากกว่าหัวผักกาดอีก 00:11:33.080 --> 00:11:36.020 มันแกะง่ายกว่า มันสวยกว่า ทรงมันก็แบบดูสวยกว่า 00:11:36.020 --> 00:11:37.840 หัวผักกาดแกะออกมาแล้วมันแปลกๆอะ 00:11:37.840 --> 00:11:44.180 ดังนั้นะคะเขาก็เลยเริ่มหันมาใช้ฟักทองในการ แกะสลัก Jack o' lantern ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ 00:11:44.180 --> 00:11:48.840 และหลังจากนั้นนะคะวัฒนธรรมนี้ก็ แพร่กระจายไปทั่วอเมริกา เริ่มฮิตขึ้นเรื่อยๆ 00:11:48.840 --> 00:11:52.480 เริ่มมีการตลาดเข้ามาอะไรต่างๆ ดังนั้นเทศกาลฮาโลวีนก็เลย 00:11:52.480 --> 00:11:54.640 กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลฮิตในอเมริกา 00:11:54.640 --> 00:11:58.360 รวมถึงฟักทองแกะสลักก็เลย กลายเป็นสัญลักษณ์ของฮาโลวีนเนี่ยแหละค่ะ 00:11:58.360 --> 00:12:02.500 หวังว่าทุกคนจะได้คำตอบนะคะว่า ฟักทองแกะสลักเกี่ยวอะไรกับฮาโลวีนค่ะ 00:12:02.500 --> 00:12:05.100 เป็นไงบ้าง ถ้าใครมีความเห็นต่างยังไงหรือว่า 00:12:05.100 --> 00:12:07.800 เจอข้อมูลอื่นมาก็คอมเมนต์คุยกันด้านล่างได้นะคะ 00:12:07.800 --> 00:12:11.260 สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว 00:12:11.260 --> 00:12:13.100 แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 00:12:13.100 --> 00:12:15.420 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย 00:12:15.420 --> 00:12:16.400 สวัสดีค่ะ 00:12:16.400 --> 00:12:19.020 จริงๆเรื่องราวของ Devil นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจเนาะ 00:12:19.020 --> 00:12:24.600 สำหรับใครที่ดูเรื่อง Lucifer มาก็น่าจะ อยากรู้เกี่ยวกับ Devil ซึ่งดูฉลาดกว่านี้หลายเท่า 00:12:24.600 --> 00:12:28.540 ถ้ามีโอกาส เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าวิวจะมาเล่า เรื่อง The Devil โดยตรงให้ฟังแล้วกันค่ะ 00:12:28.540 --> 00:12:30.740 สัญญาว่า The Devil มันไม่ได้โง่ขนาดนี้ 00:12:30.740 --> 00:12:33.420 คือเรื่องนี้มันแบบเฮ้อออ เป็นนิทานอธิบายเหตุน่ะนะทุกคน 00:12:33.420 --> 00:12:35.480 ดังนั้นช่างมันเถอะค่ะ วันนี้ลาไปก่อนนะคะ 00:12:35.480 --> 00:12:37.240 บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ