[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:15.33,0:00:17.45,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจเคยได้ยินมาว่า แสงเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง Dialogue: 0,0:00:17.45,0:00:18.95,Default,,0000,0000,0000,,และสีของวัตถุหนึ่งๆ Dialogue: 0,0:00:18.95,0:00:22.13,Default,,0000,0000,0000,,มีความสัมพันธ์กับความถี่ของคลื่นแสง\Nที่มันสะท้อนออกมา Dialogue: 0,0:00:22.13,0:00:24.22,Default,,0000,0000,0000,,คลื่นแสงความถี่สูงจะมีสีออกม่วง Dialogue: 0,0:00:24.22,0:00:26.02,Default,,0000,0000,0000,,คลื่นแสงความถี่ต่ำจะมีสีออกแดง Dialogue: 0,0:00:26.02,0:00:27.93,Default,,0000,0000,0000,,แสงความถี่ที่อยู่ตรงกลางจะมีสีออกเหลือง Dialogue: 0,0:00:27.93,0:00:28.38,Default,,0000,0000,0000,,เขียว Dialogue: 0,0:00:28.38,0:00:29.02,Default,,0000,0000,0000,,ส้ม Dialogue: 0,0:00:29.02,0:00:30.66,Default,,0000,0000,0000,,และสีอื่นๆ Dialogue: 0,0:00:30.66,0:00:32.99,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจเรียกแนวคิดนี้ว่าเป็นสีทางกายภาพ Dialogue: 0,0:00:32.99,0:00:36.68,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่าสีคือคุณสมบัติทางกายภาพของแสงนั่นเอง Dialogue: 0,0:00:36.68,0:00:39.08,Default,,0000,0000,0000,,โดยไม่ขึ้นกับการรับรู้ของมนุษย์ Dialogue: 0,0:00:39.08,0:00:41.24,Default,,0000,0000,0000,,ถึงแม้ว่าคำกล่าวนี้จะไม่ผิด Dialogue: 0,0:00:41.24,0:00:43.75,Default,,0000,0000,0000,,มันก็ยังไม่ครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมดเสียทีเดียว Dialogue: 0,0:00:43.75,0:00:47.32,Default,,0000,0000,0000,,เช่น คุณอาจเคยเห็นภาพนี้มาก่อน Dialogue: 0,0:00:47.32,0:00:51.78,Default,,0000,0000,0000,,จะเห็นว่า บริเวณคาบเกี่ยว\Nระหว่างสีแดงและเขียวนั้นคือ สีเหลือง Dialogue: 0,0:00:51.78,0:00:54.16,Default,,0000,0000,0000,,ลองคิดดูดีๆ นี่มันดูแปลกๆ อยู่นะ Dialogue: 0,0:00:54.16,0:00:56.73,Default,,0000,0000,0000,,เพราะว่า แสงนั้นเป็นคลื่น\Nคลื่นแสงสองความถี่ที่ต่างกัน Dialogue: 0,0:00:56.73,0:00:58.90,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ควรจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเลย Dialogue: 0,0:00:58.90,0:01:00.21,Default,,0000,0000,0000,,ทั้งคู่ควรจะปรากฏอยู่ร่วมกันมากกว่า Dialogue: 0,0:01:00.21,0:01:02.47,Default,,0000,0000,0000,,เหมือนนักร้องร้องเพลงประสานเสียง Dialogue: 0,0:01:02.47,0:01:04.50,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นบริเวณดูเป็นสีเหลือง Dialogue: 0,0:01:04.50,0:01:07.37,Default,,0000,0000,0000,,มีคลื่นแสงสองชนิดที่แตกต่างกันนั้นปรากฏ Dialogue: 0,0:01:07.37,0:01:08.91,Default,,0000,0000,0000,,คลื่นนึงมีความถี่ของแสงสีแดง Dialogue: 0,0:01:08.91,0:01:10.67,Default,,0000,0000,0000,,อีกคลื่นหน่งมีความถี่ของแสงสีเขียว Dialogue: 0,0:01:10.67,0:01:13.12,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่มีแสงสีเหลืองอยู่เลยซักนิด Dialogue: 0,0:01:13.12,0:01:14.47,Default,,0000,0000,0000,,แล้วทำไม Dialogue: 0,0:01:14.47,0:01:16.62,Default,,0000,0000,0000,,ที่ที่ซึ่งแสงสีแดงและเขียวมาผสมกัน Dialogue: 0,0:01:16.62,0:01:18.54,Default,,0000,0000,0000,,จึงปรากฎเป็นสีเหลืองให้เราเห็นล่ะ? Dialogue: 0,0:01:18.54,0:01:22.05,Default,,0000,0000,0000,,การทำความเข้าใจเรื่องนี้ \Nต้องอาศัยความรู้ทางชีววิทยาสักเล็กน้อย Dialogue: 0,0:01:22.05,0:01:25.13,Default,,0000,0000,0000,,โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า\Nมนุษย์มองเห็นสีได้อย่างไร Dialogue: 0,0:01:25.13,0:01:28.46,Default,,0000,0000,0000,,การรับแสงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นเซลล์บางๆ Dialogue: 0,0:01:28.46,0:01:29.42,Default,,0000,0000,0000,,ที่เรียกว่า เรตินา (retina) Dialogue: 0,0:01:29.42,0:01:31.67,Default,,0000,0000,0000,,ที่บุอยู่ด้านหลังของลูกตา Dialogue: 0,0:01:31.67,0:01:35.53,Default,,0000,0000,0000,,เรตินา ประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด\Nที่แตกต่างกัน: Dialogue: 0,0:01:35.53,0:01:37.86,Default,,0000,0000,0000,,เซลล์รูปแท่ง (rod) และเซลล์รูปกรวย (cone) Dialogue: 0,0:01:37.86,0:01:40.44,Default,,0000,0000,0000,,เซลล์รูปแท่งจะใช้ในการมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อย Dialogue: 0,0:01:40.44,0:01:42.68,Default,,0000,0000,0000,,และเซลล์ชนิดนี้มีอยู่แบบเดียวเท่านั้น Dialogue: 0,0:01:42.68,0:01:45.67,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนเซลล์รูปกรวยจะต่างออกไป Dialogue: 0,0:01:45.67,0:01:47.98,Default,,0000,0000,0000,,มันมีด้วยกัน 3 แบบ \Nซึ่งทำหน้าที่ตอบสนองต่อแสง Dialogue: 0,0:01:47.98,0:01:49.34,Default,,0000,0000,0000,,สีแดง Dialogue: 0,0:01:49.34,0:01:49.82,Default,,0000,0000,0000,,สีเขียว Dialogue: 0,0:01:49.82,0:01:51.32,Default,,0000,0000,0000,,และสีน้ำเงิน Dialogue: 0,0:01:51.32,0:01:52.93,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อคุณมองดูสีสีหนึ่ง Dialogue: 0,0:01:52.93,0:01:56.76,Default,,0000,0000,0000,,เซลล์รูปกรวยแต่ละแบบก็จะส่งสัญญาณ\Nที่แตกต่างกันไปยังสมอง Dialogue: 0,0:01:56.76,0:01:58.98,Default,,0000,0000,0000,,เช่น สมมติว่าแสงสีเหลือง Dialogue: 0,0:01:58.98,0:02:01.55,Default,,0000,0000,0000,,แสงสีเหลืองจริงๆ \Nที่มีความถี่แสงสีเหลือง Dialogue: 0,0:02:01.55,0:02:03.16,Default,,0000,0000,0000,,กระทบเข้าตาคุณ Dialogue: 0,0:02:03.16,0:02:06.05,Default,,0000,0000,0000,,คุณไม่มีเซลล์รูปกรวยเฉพาะสำหรับจับแสงสีเหลือง Dialogue: 0,0:02:06.05,0:02:08.09,Default,,0000,0000,0000,,แต่สีเหลืองนั้นถือว่าใกล้เคียงกับสีเขียว Dialogue: 0,0:02:08.09,0:02:09.55,Default,,0000,0000,0000,,และก็ใกล้เคียงกับสีแดงด้วย Dialogue: 0,0:02:09.55,0:02:12.15,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นเซลล์รูปกรวยสำหรับสีแดงและเขียว\Nจึงถูกกระตุ้น Dialogue: 0,0:02:12.15,0:02:16.18,Default,,0000,0000,0000,,ต่างส่งสัญญาณไปยังสมอง Dialogue: 0,0:02:16.18,0:02:18.14,Default,,0000,0000,0000,,แน่นอนว่า มันมีวิธีอื่นเช่นกันที่จะกระตุ้นการทำงาน Dialogue: 0,0:02:18.14,0:02:21.14,Default,,0000,0000,0000,,ของเซลล์รูปกรวยสำหรับแสงสีแดงและเขียว\Nพร้อมๆ กัน Dialogue: 0,0:02:21.14,0:02:24.74,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามีแสงสีแดงและแสงสีเขียว\Nปรากฏอยู่ในเวลาเดียวกัน Dialogue: 0,0:02:24.74,0:02:28.12,Default,,0000,0000,0000,,ประเด็นคือ สมองคุณได้รับสัญญาณไม่ต่างกัน Dialogue: 0,0:02:28.12,0:02:31.64,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าคุณจะมองแสงที่มีความถี่ของแสงสีเหลือง Dialogue: 0,0:02:31.64,0:02:35.19,Default,,0000,0000,0000,,หรือ แสงผสมที่มีความถี่ของแสงสีแดงและสีเขียว Dialogue: 0,0:02:35.19,0:02:39.33,Default,,0000,0000,0000,,นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม \Nสีแดง บวก สีเขียว ได้ สีเหลือง Dialogue: 0,0:02:39.33,0:02:42.78,Default,,0000,0000,0000,,แล้วทำไมคุณถึงมองไม่เห็นสีในที่มืด? Dialogue: 0,0:02:42.78,0:02:45.36,Default,,0000,0000,0000,,นั่นก็เพราะ เซลล์รูปแท่งจะทำงานแทน Dialogue: 0,0:02:45.36,0:02:46.99,Default,,0000,0000,0000,,ในที่ที่มีแสงน้อย Dialogue: 0,0:02:46.99,0:02:48.99,Default,,0000,0000,0000,,คุณมีเซลล์รูปแท่งอยู่แบบเดียว Dialogue: 0,0:02:48.99,0:02:50.98,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นจึงมีสัญญาณแบบเดียว Dialogue: 0,0:02:50.98,0:02:52.60,Default,,0000,0000,0000,,ที่ส่งไปยังสมอง Dialogue: 0,0:02:52.60,0:02:54.59,Default,,0000,0000,0000,,คือ มีแสง กับ ไม่มีแสง Dialogue: 0,0:02:54.59,0:02:57.06,Default,,0000,0000,0000,,การที่มีเซลล์รับแสงเพียงแบบเดียว Dialogue: 0,0:02:57.06,0:02:59.71,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้หมดโอกาสในการมองเห็นสี Dialogue: 0,0:02:59.71,0:03:02.12,Default,,0000,0000,0000,,สีทางกายภายมีมากมายนับไม่ถ้วน Dialogue: 0,0:03:02.12,0:03:04.83,Default,,0000,0000,0000,,แต่เพราะเรามีเซลล์รูปกรวยเพียง 3 แบบ Dialogue: 0,0:03:04.83,0:03:07.74,Default,,0000,0000,0000,,สมองจึงถูกลวงให้คิดไปว่า\Nมันสามารถเห็นสีอะไรก็ได้ Dialogue: 0,0:03:07.74,0:03:10.81,Default,,0000,0000,0000,,โดยการผสมผสานอย่างละเอียดลงตัว Dialogue: 0,0:03:10.81,0:03:12.42,Default,,0000,0000,0000,,ของสีเพียงแค่สามสี Dialogue: 0,0:03:12.42,0:03:14.06,Default,,0000,0000,0000,,แดง เขียว น้ำเงิน Dialogue: 0,0:03:14.06,0:03:17.79,Default,,0000,0000,0000,,คุณสมบัติการมองเห็นของมนุษย์นี้\Nเป็นประโยชน์ในชีวิตจริง Dialogue: 0,0:03:17.79,0:03:20.08,Default,,0000,0000,0000,,เช่น การผลิตทีวี Dialogue: 0,0:03:20.08,0:03:23.16,Default,,0000,0000,0000,,แทนที่จะใช้สีจำนวนนับไม่ถ้วนในการสร้างทีวี Dialogue: 0,0:03:23.16,0:03:24.60,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริง Dialogue: 0,0:03:24.60,0:03:27.15,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ผลิตทีวีกลับใช้สีเพียงแค่ 3 สี Dialogue: 0,0:03:27.15,0:03:29.29,Default,,0000,0000,0000,,แดง เขียว น้ำเงิน Dialogue: 0,0:03:29.29,0:03:31.61,Default,,0000,0000,0000,,ถือว่าพวกเขาโชคดีจริงๆ