0:00:15.330,0:00:17.449 คุณอาจเคยได้ยินมาว่า แสงเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง 0:00:17.449,0:00:18.947 และสีของวัตถุหนึ่งๆ 0:00:18.947,0:00:22.133 มีความสัมพันธ์กับความถี่ของคลื่นแสง[br]ที่มันสะท้อนออกมา 0:00:22.133,0:00:24.216 คลื่นแสงความถี่สูงจะมีสีออกม่วง 0:00:24.216,0:00:26.019 คลื่นแสงความถี่ต่ำจะมีสีออกแดง 0:00:26.019,0:00:27.931 แสงความถี่ที่อยู่ตรงกลางจะมีสีออกเหลือง 0:00:27.931,0:00:28.383 เขียว 0:00:28.383,0:00:29.020 ส้ม 0:00:29.020,0:00:30.662 และสีอื่นๆ 0:00:30.662,0:00:32.988 คุณอาจเรียกแนวคิดนี้ว่าเป็นสีทางกายภาพ 0:00:32.988,0:00:36.677 เพราะว่าสีคือคุณสมบัติทางกายภาพของแสงนั่นเอง 0:00:36.677,0:00:39.085 โดยไม่ขึ้นกับการรับรู้ของมนุษย์ 0:00:39.085,0:00:41.245 ถึงแม้ว่าคำกล่าวนี้จะไม่ผิด 0:00:41.245,0:00:43.748 มันก็ยังไม่ครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมดเสียทีเดียว 0:00:43.748,0:00:47.322 เช่น คุณอาจเคยเห็นภาพนี้มาก่อน 0:00:47.322,0:00:51.781 จะเห็นว่า บริเวณคาบเกี่ยว[br]ระหว่างสีแดงและเขียวนั้นคือ สีเหลือง 0:00:51.781,0:00:54.156 ลองคิดดูดีๆ นี่มันดูแปลกๆ อยู่นะ 0:00:54.156,0:00:56.733 เพราะว่า แสงนั้นเป็นคลื่น[br]คลื่นแสงสองความถี่ที่ต่างกัน 0:00:56.733,0:00:58.895 ไม่ควรจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเลย 0:00:58.895,0:01:00.212 ทั้งคู่ควรจะปรากฏอยู่ร่วมกันมากกว่า 0:01:00.212,0:01:02.468 เหมือนนักร้องร้องเพลงประสานเสียง 0:01:02.468,0:01:04.501 ดังนั้นบริเวณดูเป็นสีเหลือง 0:01:04.501,0:01:07.372 มีคลื่นแสงสองชนิดที่แตกต่างกันนั้นปรากฏ 0:01:07.372,0:01:08.907 คลื่นนึงมีความถี่ของแสงสีแดง 0:01:08.907,0:01:10.667 อีกคลื่นหน่งมีความถี่ของแสงสีเขียว 0:01:10.667,0:01:13.122 มันไม่มีแสงสีเหลืองอยู่เลยซักนิด 0:01:13.122,0:01:14.473 แล้วทำไม 0:01:14.473,0:01:16.620 ที่ที่ซึ่งแสงสีแดงและเขียวมาผสมกัน 0:01:16.620,0:01:18.542 จึงปรากฎเป็นสีเหลืองให้เราเห็นล่ะ? 0:01:18.542,0:01:22.054 การทำความเข้าใจเรื่องนี้ [br]ต้องอาศัยความรู้ทางชีววิทยาสักเล็กน้อย 0:01:22.054,0:01:25.131 โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า[br]มนุษย์มองเห็นสีได้อย่างไร 0:01:25.131,0:01:28.463 การรับแสงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นเซลล์บางๆ 0:01:28.463,0:01:29.422 ที่เรียกว่า เรตินา (retina) 0:01:29.422,0:01:31.672 ที่บุอยู่ด้านหลังของลูกตา 0:01:31.672,0:01:35.532 เรตินา ประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด[br]ที่แตกต่างกัน: 0:01:35.532,0:01:37.855 เซลล์รูปแท่ง (rod) และเซลล์รูปกรวย (cone) 0:01:37.855,0:01:40.437 เซลล์รูปแท่งจะใช้ในการมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อย 0:01:40.437,0:01:42.680 และเซลล์ชนิดนี้มีอยู่แบบเดียวเท่านั้น 0:01:42.680,0:01:45.672 ส่วนเซลล์รูปกรวยจะต่างออกไป 0:01:45.672,0:01:47.984 มันมีด้วยกัน 3 แบบ [br]ซึ่งทำหน้าที่ตอบสนองต่อแสง 0:01:47.984,0:01:49.338 สีแดง 0:01:49.338,0:01:49.824 สีเขียว 0:01:49.824,0:01:51.318 และสีน้ำเงิน 0:01:51.318,0:01:52.934 เมื่อคุณมองดูสีสีหนึ่ง 0:01:52.934,0:01:56.758 เซลล์รูปกรวยแต่ละแบบก็จะส่งสัญญาณ[br]ที่แตกต่างกันไปยังสมอง 0:01:56.758,0:01:58.985 เช่น สมมติว่าแสงสีเหลือง 0:01:58.985,0:02:01.548 แสงสีเหลืองจริงๆ [br]ที่มีความถี่แสงสีเหลือง 0:02:01.548,0:02:03.155 กระทบเข้าตาคุณ 0:02:03.155,0:02:06.052 คุณไม่มีเซลล์รูปกรวยเฉพาะสำหรับจับแสงสีเหลือง 0:02:06.052,0:02:08.088 แต่สีเหลืองนั้นถือว่าใกล้เคียงกับสีเขียว 0:02:08.088,0:02:09.553 และก็ใกล้เคียงกับสีแดงด้วย 0:02:09.553,0:02:12.152 ดังนั้นเซลล์รูปกรวยสำหรับสีแดงและเขียว[br]จึงถูกกระตุ้น 0:02:12.152,0:02:16.179 ต่างส่งสัญญาณไปยังสมอง 0:02:16.179,0:02:18.145 แน่นอนว่า มันมีวิธีอื่นเช่นกันที่จะกระตุ้นการทำงาน 0:02:18.145,0:02:21.142 ของเซลล์รูปกรวยสำหรับแสงสีแดงและเขียว[br]พร้อมๆ กัน 0:02:21.142,0:02:24.742 ถ้ามีแสงสีแดงและแสงสีเขียว[br]ปรากฏอยู่ในเวลาเดียวกัน 0:02:24.742,0:02:28.120 ประเด็นคือ สมองคุณได้รับสัญญาณไม่ต่างกัน 0:02:28.120,0:02:31.642 ไม่ว่าคุณจะมองแสงที่มีความถี่ของแสงสีเหลือง 0:02:31.642,0:02:35.189 หรือ แสงผสมที่มีความถี่ของแสงสีแดงและสีเขียว 0:02:35.189,0:02:39.328 นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม [br]สีแดง บวก สีเขียว ได้ สีเหลือง 0:02:39.328,0:02:42.781 แล้วทำไมคุณถึงมองไม่เห็นสีในที่มืด? 0:02:42.781,0:02:45.360 นั่นก็เพราะ เซลล์รูปแท่งจะทำงานแทน 0:02:45.360,0:02:46.987 ในที่ที่มีแสงน้อย 0:02:46.987,0:02:48.989 คุณมีเซลล์รูปแท่งอยู่แบบเดียว 0:02:48.989,0:02:50.976 ดังนั้นจึงมีสัญญาณแบบเดียว 0:02:50.976,0:02:52.598 ที่ส่งไปยังสมอง 0:02:52.598,0:02:54.591 คือ มีแสง กับ ไม่มีแสง 0:02:54.591,0:02:57.059 การที่มีเซลล์รับแสงเพียงแบบเดียว 0:02:57.059,0:02:59.713 ทำให้หมดโอกาสในการมองเห็นสี 0:02:59.713,0:03:02.122 สีทางกายภายมีมากมายนับไม่ถ้วน 0:03:02.122,0:03:04.830 แต่เพราะเรามีเซลล์รูปกรวยเพียง 3 แบบ 0:03:04.830,0:03:07.744 สมองจึงถูกลวงให้คิดไปว่า[br]มันสามารถเห็นสีอะไรก็ได้ 0:03:07.744,0:03:10.813 โดยการผสมผสานอย่างละเอียดลงตัว 0:03:10.813,0:03:12.419 ของสีเพียงแค่สามสี 0:03:12.419,0:03:14.065 แดง เขียว น้ำเงิน 0:03:14.065,0:03:17.789 คุณสมบัติการมองเห็นของมนุษย์นี้[br]เป็นประโยชน์ในชีวิตจริง 0:03:17.789,0:03:20.079 เช่น การผลิตทีวี 0:03:20.079,0:03:23.156 แทนที่จะใช้สีจำนวนนับไม่ถ้วนในการสร้างทีวี 0:03:23.156,0:03:24.600 เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริง 0:03:24.600,0:03:27.154 ผู้ผลิตทีวีกลับใช้สีเพียงแค่ 3 สี 0:03:27.154,0:03:29.291 แดง เขียว น้ำเงิน 0:03:29.291,0:03:31.614 ถือว่าพวกเขาโชคดีจริงๆ