สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ จำกันได้ไหมคะว่าช่วงต้นปีที่แล้วเนี่ย วิวมีโอกาสมาบอกเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ ว่าช่วงเนี้ย วิวมีโอกาสได้มาเป็น curator ของนิทรรศการๆ นึงนะคะ ก็คือนิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัยนั่นเอง เป็นนิทรรศการเกียวกับรัชกาลที่ 6 ใช่ไหมคะ ซึ่งในนิทรรศการนี้ วิวกับพี่ฮ่องเต้ก็ร่วมมือกันนะคะ เป็น curator จัดนิทรรศการอะไรขึ้นมามากมาย ซึ่งเดี๋ยววิวจะมาอัปเดตให้ฟังต่อไปค่ะว่ามันมีเรื่องราวอะไร แต่จากที่วิวเคยทำคลิปเล่าไว้เนี่ย วิวก็สัญญากับทุกคนว่า เนื่องจากตอนนี้วิวกำลังทำนิทรรศการ กำลังอินได้ที่ วิวก็จะนำเอาวรรณคดีประราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเล่าให้ทุกคนฟังใช่ไหมคะ โดยเฉพาะวรรณคดีทั้งหมด 6 เรื่อง ซึ่งมีนางในวรรณคดี 6 นางที่น่าสนใจ แล้วพี่ฮ่องเต้เนี่ย ได้นำเอานางในวรรณคดีเหล่าเนี้ย มา redesign ใหม่ให้เป็นนางในวรรณคดีเก๋ๆ ที่แบบ น่ารักมากนะคะ อย่างที่ทุกคนเห็นภาพกันมา วิวก็จะเอาเรื่องราวของทั้ง 6 นางเนี่ย มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ ซึ่งในวันเนี้ย วิวจะพูดถึงหนึ่งใน 6 นางเนี่ยละค่ะ แต่ในบรรดา 6 นางนะคะ ไม่ว่าจะเป็นนางศกุนตลา นางมัทนา นางจูเลียต นางอันโดรเมดา หรือว่านางอุษาเนี่ย ก็เชื่อว่าในบรรดา 5 นางที่เหลือเนี่ย หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันแล้วละค่ะ เพราะว่าเป็นนางที่ดังๆ ทั้งนั้นเลยนะ แต่มีอยู่นางนึงนะคะ ที่หลายคนอาจจะแบบ ฟังชื่อปุ๊บแล้วแบบ ใครอะ นั่นก็คือนางลออนั่นเองนะคะ ขอบอกว่านางลออเนี่ยเป็นหนึ่งในสาวคนที่เก๋มากๆ เลย เพราะว่าเป็นนางที่สมัยใหม่ที่สุด ในบรรดา 6 นางที่วิวพูดถึงเลยค่ะ ที่เนี้ย ปัญหาก็คือ นางเป็นใคร นางมาจากเรื่องไหนนะคะ ก็เห็นจากด้านล่างแล้วใช่ไหมคะ นางลออเนี่ยนะคะ มาจากบทละครเรื่องเห็นแก่ลูกค่ะ ซึ่งหลายๆ คนฟังปุ๊บก็จะแบบ "เห็นแก่ลูก.. เห็นแก่ลูก เรื่องอะไรอะ ไม่รู้จัก" นะคะ ยกเว้นน้องๆ ม.3 ใช่ไหมคะ ที่มีโอกาสได้เรียนเรื่องนี้ในห้องเรียน ดังนั้นวันนี้วิวก็เลยคิดว่า วิวควรจะมาเล่าเรื่องเห็นแก่ลูกให้ทุกคนฟังค่ะ จะได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับนางลออ นางในวรรณคดีรัชกาลที่ 6 ที่หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยได้รู้จักเท่าไรค่ะ แต่สำหรับตอนนี้นะคะ อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทาง Youtube, Facebook, Twitter, Instagram นะคะ เพื่อที่จะได้ติดตามคลิปวิดิโอสนุกๆ แล้วก็ติดตามข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ รวมไปถึงข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับมหาวชิราวุธราชบรรณาลัยด้วยนะคะ ว่านิทรรศการนี้จะเป็นยังไงต่อไป ขอบอกว่าสนุกแน่ๆ อย่าพลาดกันนะคะทุกคน เอาละ สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟัง เรื่องราวที่ทั้งสนุกแล้วก็มีสาระกันรึยังคะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ บทละครเรื่องเห็นแก่ลูกเนี่ยนะคะ เป็นบทละครพูดองค์เดียวค่ะ เรียกได้ว่าเป็นบทละครพูดที่สั้นมากๆ เลยนะคะ แล้วก็มีตัวละครน้อยมากค่ะ มีตัวละครแค่ทั้งหมด 4 ตัวด้วยกันนะคะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นั่นเองค่ะ โดยตอนที่ท่านพระราชนิพนธ์เนี่ยนะคะ ท่านใช้พระนามแฝงค่ะ ท่านลงพระนามแฝงไว้ว่าพระขรรค์เพ็ชรค่ะ ซึ่งเรื่องนี้นะคะ เราเชื่อกันว่าเป็นบทละครพูดเรื่องแรกเลยค่ะ ที่พระองค์เนี่ย พระราชนิพนธ์ขึ้นมาเองใหม่ทั้งหมดเลย ไม่ได้พระราชนิพนธ์แปลมาจากภาษาอังกฤษ หรือภาษาอะไรนะคะ ซึ่งหลังจากที่พระราชนิพนธ์ขึ้นมาแล้วนะคะ ก็ได้มีการนำมาใช้เล่นจริงด้วยนะคะ เพราะว่าในยุคสมัยของท่านเนี่ยนะคะ เป็นยุคที่แบบว่า เรียกได้ว่าเป็นการบุกเบิก ละครแบบสไตล์ตะวันตกในประเทศไทยเลยทีเดียว คือจริงๆ ก็แอบเข้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วแหละ แต่ว่ามาบูมจริงๆ ในสมัยรัชกาลที่ 6 นะคะ เพราะว่าก่อนหน้านี้นะคะ ถ้าเรานึกถึงละครไทยจะเป็นยังไง หยุด! อย่าเพิ่งไปนึกถึงฉากตบๆ แล้วนางเอกล้ม อะไรอย่างนี้นะคะ นั่นไม่ใช่ นั่นละครสมัยใหม่ นึกภาพละครไทยสมัยก่อน เราก็จะไปนึกถึงละครรำแบบอิเหนา ไปนึกถึงบทละครแบบรามเกียรติ์ อะไรอย่างนี้ใช่ไหมคะ ก็จะเป็นรำๆ ร้องๆ เน้นฉากสวยงาม คือทุกคนรู้เรื่องหมดอยู่แล้ว แค่เน้นมาว่าแบบ เออ รำสวยนะ ภาพสวยนะ ฟังเพราะเนอะ อะไรอย่างนี้นะคะ แล้วเวลาเล่าเรื่องราวเนี่ย มันก็จะเป็นเรื่องราวที่แบบ เออ ก็รู้อยู่แล้วแหละ หรือว่าถ้าใครยังไม่รู้ ก็จะต้องทวนให้รู้ทั้งเรื่อง เหมือนกับพวกตัวละครเนี่ยนะคะ เล่าเรื่องออกมาตรงๆ เลยใช่มะ เช่น อะ ตอนนั้นพระรามกำลังคิดว่าอย่างนี้ เพราะในสมัยอดีตนั้น หนุมานได้เป็นลูกของคนนั้นคนนี้ คือเล่าออกมาตรงๆ เลย ว่าอย่างนั้นเถอะ เรียกได้ว่าเสพง่ายๆ เน้นเสพศิลปะว่าหยังงั้นเถอะค่ะ แต่จุดแตกต่างของละครตะวันตก ที่เข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 เนี่ยคือ มันจะเป็นละครเหมือนที่แบบ เราดูหนังดูละครปัจจุบันเนี่ย คือเราต้องฟังบทพูดของเขาไง คือมันจะไม่มีการรำการร้องอะไรหรอก เพราะว่ามันก็ขึ้นชื่อว่าบทละครพูดอะนะ แล้วเราต้องคอยฟังคำพูดอะไรต่างๆ ของเขา แล้วก็มาปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวกันเอง คือมันจะไม่มาบอกตรงๆ ว่า "สวัสดี ข้าเป็นพระเอกนะ ข้าเป็นลูกของคนนั้น สืบเชื้อสายมาจากคนนี้ ในอดีตได้มีวีรกรรมนั้นวีรกรรมนี้มา" มันจะไม่ใช่แบบนั้นนะคะ มันจะเป็นแบบ "เฮ้ยแก พ่อแกเป็นไงบ้างล่ะ" "อ๋อ พ่อข้าก็อยู่สบายดี" "อ๋อ พ่อแกที่เป็นคนนั้นใช่ไหม" อะไรอย่างเนี้ย แล้วเราก็ต้องมาปะติดปะต่อเองใช่ไหมคะ ดังนั้นนี่ก็คือจุดนึงนะคะ ที่ทำให้วงการละครไทยเนี่ยเปลี่ยนแปลงไป ประมาณนั้นเลยค่ะ เอาล่ะ เกริ่นมายาวนานมากพอแล้วนะคะ เดี๋ยวเราไปเข้าเรื่องเห็นแก่ลูกกันดีกว่า ว่าเรื่องราวของเห็นแก่ลูกเนี่ยนะคะ มันเห็นแก่ลูกยังไง มันเป็นใคร เรื่องราวเป็นยังไงบ้าง ขอบอกว่าเรื่องราวไม่ยาวเลยค่ะ สั้นๆ แต่ว่าจับใจนะคะ อะ ไปฟังกัน บทละครเรื่องเห็นแก่ลูกเนี่ยนะคะ บอกเลยว่าเป็นบทละครพูดที่ใช้ตัวละครน้อยมากค่ะ อย่างที่วิวบอกไป ก็คือมีตัวละครทั้งหมดแค่ 4 ตัวด้วยกันนะคะ ตัวละครแรกนะคะ ก็คือพระยาภักดีนฤนาถค่ะ ผู้เป็นเจ้าของบ้าน แล้วก็เป็นเจ้าของห้องทำงานที่เป็นฉากๆ เดียวของเรื่องนี้นะคะ ส่วนตัวละครที่สองค่ะ ก็คือ ตัวละครนายล้ำนั่นเองค่ะ ซึ่งเคยรับราชการนะคะ แล้วก็มีราชทินนามว่าทิพเดชะค่ะ ส่วนอีกสองตัวละครเนี่ย ก็ได้แก่ อ้ายคำนะคะ ซึ่งเป็นคนรับใช้ของพระยาภักดี แล้วก็ตัวละครสุดท้าย แม่ลออของเราเนี่ยละค่ะ นางเอกผู้มีบทน้อยมากๆ นะคะ มีบทพูดแค่ทั้งหมด 10 ประโยคถ้วนด้วยกันค่ะ นี่นับรวมแบบ "นั่นใครคะ" อย่างนี้แล้วด้วยนะ ก็เรียกได้ว่าบทน้อยจริงๆ แต่ว่าเรื่องราวทั้งหมดเนี่ย มันก็จะวนอยู่รอบตัวแม่ลออของเรานี่ละค่ะ อย่างที่วิวบอกไปเมื่อกี้นะคะ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเรื่องเห็นแก่ลูกเนี่ย เกิดขึ้นที่ห้องหนังสือของพระยาภักดีนฤนาถค่ะ ในตอนนั้นเนี่ยพระยาภักดียังไม่ได้ออกมานะคะ คนแรกที่ออกมาเนี่ยนะคะ ก็คือนายล้ำนั่นเองค่ะ กับอ้ายคำ ซึ่งเป็นคนรับใช้ของพระยาภักดีนะคะ เรื่องของเรื่องคือนายล้ำเนี่ย มาเยี่ยมพระยาภักดีค่ะ ทีนี้พอเข้ามาถึง ปรากฏว่าพระยาภักดียังไม่อยู่บ้านนะคะ นายล้ำก็เลยบอกว่า เออ เดี๋ยวจะเข้ามารอพระยาภักดีที่ห้องหนังสือนะ ซึ่งอ้ายคำเนี่ยนะคะ ก็พานายล้ำเนี่ย มาที่ห้องนี้ปุ๊บ แล้วตัวเองก็นั่งแปะ รออยู่ในห้องหนังสือด้วยค่ะ นายล้ำก็พยายามจะบอกอ้ายคำ ประมาณว่า "เอ้า จะมารออยู่ตรงนี้ทำไม จะไปทำอะไรก็ไปสิ ไปๆๆ ชั้นเป็นเพื่อนพระยาภักดีนะ" แต่อ้ายคำเนี่ยนะคะ ก็ไม่ยอมไปไหน คือก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เพราะว่ากลัวเสียมารยาทนะ จริงๆ แล้วอ้ายคำเนี่ยนะคะ นั่งเฝ้าอยู่เพราะเห็นสารรูปของนายล้ำแล้วรู้สึกว่าแบบ "ไอ้นี่ไม่น่าไว้ใจเลย จะเข้ามาขโมยของบ้านเจ้านายชั้นรึเปล่าเนี่ย" เพราะว่านายล้ำเนี่ยนะคะ แต่งตัวปอนๆ ค่ะ โทรมๆ แล้วก็หน้าตาดูแบบ เป็นคนติดเหล้าเต็มที่ แถมยังดูแก่ๆ หง่อมๆ อีก คือแบบ เรียกได้ว่าหน้าตาดูแบบ ไม่น่าใช่เพื่อนพระยาภักดีอะ ระดับพระยาภักดีนฤนาถ เจ้านายของเราเนี่ย น่าจะมีเพื่อนที่ดูดีกว่านี้ไหม ไม่น่าจะคบหาสมาคมอะไรคนแบบนี้นะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ นายล้ำก็แบบ "อ้าว เจ้ามารออยู่ทำไม" นะคะ ก็ถามไปถามมาจนได้คำตอบว่า พระยาภักดีนฤนาถเนี่ยนะคะ จะกลับมาจากการทำงานประมาณ 5 โมงเศษๆ ค่ะ นายล้ำก็รอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพระยาภักดีกลับมาบ้านนะคะ กลับมาถึง อ้ายคำก็รีบไปรายงานค่ะ ประมาณว่า "ท่านๆ มีเพื่อนท่านมาเยี่ยมอะ อยู่นู่นๆ คือไล่ไปไหนก็ไม่ไป ก็เลยนั่งเฝ้าอยู่นี่แหละ" ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็ชื่นชมอ้ายคำค่ะ ซึ่งทำงานอย่างซื่อสัตย์นะ นั่งเฝ้าไว้ให้ แล้วก็บอกว่า "อะ ไปรออยู่หน้าห้องแล้วกัน เดี๋ยวมีอะไรเดี๋ยวชั้นเรียก แล้วก็ถ้าสมมุติว่าคุณลออเนี่ยกลับมา เรียกชั้นด้วยแล้วกันนะ" เรื่องก็เริ่มเปิดเผยมากขึ้นนะคะ ว่าคุณลออเนี่ย เหมือนจะเป็นลูกสาวของพระยาภักดีนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ พระยาภักดีก็เดินเข้าไปคุยกับนายล้ำนะคะ เรื่องราวที่คุยกัน เนื้อหาก็ประมาณว่าแบบ "อ้าว สวัสดี มาหาใครล่ะ" นายล้ำก็มีความแบบ "จำผมไม่ได้เหรอ ใต้เท้า" ประมาณนี้ ก็เริ่มคุยๆ กันประมาณว่า อะไร จำเพื่อนไม่ได้เหรอ นี่เพื่อนเองนะ ได้ดีแล้วลืมเพื่อนเหรอจ้ะ ซึ่งพระยาภักดีก็แบบ "อืม หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะนะเรา ใครเนี่ย อ๋อ นายล้ำใช่ไหม" นายล้ำก็บอกว่า "ใช่ เนี่ย นายล้ำ ทิพเดชะเอง ที่เคยเป็นเพื่อนเก่า ก็ไม่ได้มาตั้งนาน เรื่องก็เริ่มเปิดเผยขึ้นนะคะ ว่านายล้ำเนี่ย หายไปจากชีวิตเจ้าคุณทั้งหมด 15 ปีด้วยกันค่ะ ถามว่าทำไมนายล้ำถึงหายตัวไป สาเหตุที่นายล้ำหายตัวไปเนี่ยนะคะ เพราะว่า นายล้ำเนี่ยเคยรับราชการอยู่กับเจ้าคุณค่ะ สมัยก่อนก็เป็นเหมือนเพื่อนกัน ตำแหน่งพอๆ กันเนี่ย ตั้งแต่สมัยที่พระยาภักดีนฤนาถเนี่ย เป็นแค่หลวงนะคะ ก็เรียกได้ว่าตำแหน่งเล็กกว่านี้เยอะเลยนะ ถ้าใครงงก็ไปดูคลิปที่วิวเคยไล่ลำดับยศ ลำดับตำแหน่งของขุนนางไทยไว้นะคะ ก็น่าจะเก็ตว่าตำแหน่งมันห่างกันค่อนข้างเยอะ 15 ปีที่แล้วค่ะ พระยาภักดีเนี่ย เป็นแค่หลวงเท่านั้นแหละ และนายล้ำเนี่ยก็มีราชทินนามว่าทิพเดชะ รับราชการอยู่ด้วยกันนะคะ เป็นเพื่อนกัน ปรากฏว่านายล้ำเนี่ย ไปฉ้อโกงค่ะ ประมาณว่าไปโกงหลวงว่าอย่างนั้นเถอะ ก็เลยติดคุกไปทั้งหมด 10 ปีนะคะ ซึ่งก็ทำให้พระยาภักดีเนี่ยก็ถามนายล้ำต่อค่ะว่า "อ้าว แล้วออกจากคุกมาแล้วเนี่ย ไปทำอะไร ที่ไหน ยังไง" นะคะ เรื่องราวก็ค่อยๆ เปิดเผยมากขึ้นค่ะ ว่านายล้ำเนี่ยก็บอกว่า "เออ ติดคุกแล้วชั้นก็อายไหม จะให้ชั้นอยู่ที่พระนครต่อไปก็ไม่ใช่เรื่อง ชั้นก็เลยขึ้นไปที่พิษณุโลกนะ แล้วก็ไปทำงานทำการอยู่ที่นั่น" พระยาภักดีนะคะ ก็ถามต่อ ประมาณว่า "แล้วไปทำงานทำการอะไรอยู่ที่พิษณุโลกล่ะ เล่าให้ชั้นฟังบ้างสิ" นายล้ำก็เลยเล่าให้ฟังนะคะ ว่าตอนแรกเนี่ย ขึ้นไปพิษณุโลกก็ไปทำงานเป็นเสมียนนี่แหละ แต่ว่าเหมือนไม่ค่อยรอดเท่าไร ประมาณว่ามันก็ไม่พอกินน่ะ ก็เลยหันมาเอาดีทางด้านการค้าขายแทน โดยร่วมมือกับชาวจีน 2 คนนะคะ ค้าขาย ได้นั่นได้นี่ ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ ตอนแรกพระยาภักดีก็รู้สึกว่าแบบ "อ้าว ก็โอเคนี่ แต่เอ้ มาอย่างนี้มันผิดปกตินะ อ้าว แล้วค้าขายเป็นยังไงบ้างล่ะ" นายล้ำนะคะ ก็เลยเล่าให้ฟังว่า "ตอนแรกค้าขายก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้แหละ แต่ค้าขายไปซักพัก มันก็ไม่ได้รุ่งเรืองขนาดนั้น นิสัยเก่ามันก็เลยกำเริบ ประมาณว่าแบบ อยากได้กำไรเยอะๆ อะ เข้าใจไหม คือความโลภเริ่มครอบงำอีกรอบนะคะ ดังนั้นเขาก็เลยหาช่องทางทำกินใหม่ที่มันได้เร็วๆ ค่ะ ซึ่งพระยาภักดีก็มีความพยายามถาม ประมาณว่า "อะไร ไปโกงอะไรเขาอีกเหรอ" อะไรอย่างนี้นะคะ ซึ่งนายล้ำก็บอกว่า "จะบ้าเหรอ ไปโกงไม่ได้ ใครจะไปโกงซ้ำให้ติดคุกอีกรอบล่ะ ชั้นไม่ใช่ข้าราชการแล้ว ชั้นไปโกงแบบเดิมไม่ได้ แต่ชั้นเนี่ยก็ค้าขายอะไรที่มันกำไรเยอะนิดนึง ก็เลยไปลงทุนร่วมกับคนจีน 2 คนเนี่ย ค้าขายสิ่งนึงแหละ พระยาภักดีก็ถามว่า "อะไรอะ" นายล้ำก็เลยเฉลยออกมานะคะ ว่านายล้ำเนี่ย ไปค้าฝิ่นค่ะ ซึ่งพระยาภักดีก็แบบ "อุ้ย ค้าฝิ่นแล้วเป็นยังไง นายล้ำก็บอกว่า "เจ๊งไง" คือถามว่าทำไมเจ๊งนะคะ เรื่องของเรื่องก็คือค้าฝิ่นเนี่ย มันผิดกฎหมายค่ะ ดังนั้นนายล้ำก็เลยโดนจับได้นะคะ แต่ว่าตัวเองเนี่ย ไม่ได้ติดคุกเพราะว่า ที่ผ่านมาไม่เคยออกหน้าเลยว่าตัวเองค้าฝิ่น คือให้เงินเนี่ย แล้วไปค้าขายแทนค่ะ ทีเนี้ยพอโดนจับได้ก็เลยไม่มีพยานหลักฐานไง ว่าตัวเองเป็นคนร่วมค้ากับเขาด้วย เวลาที่เขาไปขึ้นศงขึ้นศาลกัน ก็ไปบอกเขาประมาณว่า ไม่รู้เรื่องๆ แค่ชาวจีน 2 คนเนี้ย มาขอเงินไปทำทุนไปทำกำไร ตัวเองก็เข้าใจว่าชาวจีน 2 คนนี้จะไปค้าข้าวไปค้าอะไร ไม่ได้คิดว่าเขาจะไปค้าฝิ่นนี่ สุดท้ายนะคะ นายล้ำก็เลยรอดค่ะ แล้วก็ไม่โดนจับ แต่ปัญหาก็คือหมดช่องทางทำกินนะคะ ดังนั้นนายล้ำนะคะ ก็เลยลงมาหาพระยาภักดีนี่ละค่ะ หลังจากที่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบนะคะ เราก็รู้มาได้ว่า นายล้ำเนี่ยรอดมาได้แบบ ก็ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นเนี่ยนะคะ นายล้ำก็พยายามเปลี่ยนเรื่องค่ะ ด้วยการอยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "เอ๊ะ คอแห้งจริงเนอะ ตอนนี้อากาศร้อน น่าจะมีอะไรให้ดื่มนิดนึงนะ ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็เลยเรียกอ้ายคำเข้ามาค่ะ บอกว่า "อะ ไปเอาโซดามาให้เขากินหน่อยแล้วกันนะ เขาหิวน้ำ" นายล้ำนะคะ ก็ยังมีความถามว่า "โซดาเปล่าเหรอครับ ใต้เท้า คือ ไม่มีอะไรให้กินกับโซดาหน่อยเหรอ คือให้กินโซดาเปล่าจริงๆ เหรอ" ซึ่งพระยาภักดีก็บอกว่า "หรือจะเอาครีมโซดา หรือจะใส่น้ำแดงไหม หรือว่าจะปรุงโซดากับอะไรดี" นะคะ นายล้ำก็พยายามจะบอกค่ะ ประมาณว่าแบบ "แล้ว แล้วไอ้น้ำเหลืองๆ อะ ไม่มีให้กินหน่อยเหรอ คือไม่ได้อยากกินครีมโซดาอะ อยากกินโซดากับอะไรบางอย่างเนี่ยแหละ ก็แสดงให้เห็นนะคะ ว่านายล้ำเนี่ย เป็นคนที่ค่อนข้างจะติดเหล้าพอสมควรเลย แต่ว่าพระยาภักดีก็ไม่ได้ให้กินค่ะ ปรากฏว่าพอไม่ได้ให้กินเนี่ยนะคะ พระยาภักดีก็เลยถามนายล้ำตรงๆ ค่ะ ประมาณว่า "อะ ไหนๆ เราก็เป็นเพื่อนเก่ากันมาตั้งขนาดนี้ ลงมาตรงเนี้ยต้องการอะไร บอกชั้นมาเถอะ อย่าเกรงใจกันเลย" นายล้ำนะคะ ก็เลยเปิดปากพูดค่ะ ประมาณว่า "เออ จริงๆ ลงมาเนี่ย ก็อยากจะมาเจอแม่ลออเนี่ยแหละ ได้ข่าวว่าแม่ลออโตเป็นสาวใหญ่แล้วนี่ อายุ 17 แล้วใช่ไหม" นี่ อายุ 17 สมัยนั้นเขาเรียกสาวใหญ่แล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม ช่างมันเถอะค่ะ พระยาภักดีก็มีความแบบ "เออๆ" แต่แบบ ก็ยังงงๆ อยู่ ประมาณว่า "มาถามหาแม่ลออทำไม" นะคะ นายล้ำก็ถามต่อค่ะ ประมาณว่า "ได้ข่าวว่าหน้าเหมือนแม่เขาไม่ใช่เหรอ ขอเจอซักทีได้ไหมอะ" ทีนี้นะคะ พระยาภักดีมีความตอบปัดๆ เลยค่ะ ประมาณว่า "เออ เดี๋ยวไว้ค่อยบอกแล้วกันนะ ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสพบแม่ลออ" ทั้งๆ ที่ตอนที่พระยาภักดีเดินเข้ามาเนี่ยนะคะ ยังได้ยินพระยาภักดีสั่งอ้ายคำอยู่เลย ว่าแม่ลออกำลังจะกลับมาใช่ไหมคะ นายล้ำก็มีความแบบ "อ้าว ทำไมไม่เต็มใจให้ผมพบแม่ลออล่ะ ทำไมต้องกีดกันกันด้วยอะ" อะ ทีนี้งงกันไหมว่า ทำไมอยู่ดีๆ นายล้ำจะต้องอยากเจอแม่ลออนะคะ ปรากฏว่าพระยาภักดีกับนายล้ำ ก็มีความเถียงกันขึ้นมาค่ะ นายล้ำก็มีความพยายามแบบ "ทำไมอะ ท่านจะบอกว่าผมเป็นคนเลว เป็นคนขี้คุก ขี้ตารางงี้เหรอ หลายๆ คนก็เคยติดคุกเหมือนกัน เขายังกลับตัวได้เลย ทำไมแค่นี้ผมจะเจอแม่ลออไม่ได้" พระยาภักดีนะคะ ก็พยายามจะบอกว่า "คือติดคุกมาแล้วเนี่ย ถ้าออกมาแล้วกลับตัวกลับใจ แสดงให้เห็นอย่างจริงใจว่าตัวเองกลับตัวแล้วมันก็โอเค แล้วความผิดเนี่ยมันก็มีหลายสถาน มีแบบว่า คนนั้นบางคนก็พลาด บางคนก็อะไรยังไง แต่ว่าฉ้อโกงเนี่ย มันก็.. อะไรนิดนึงนะ แล้วแกก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าแกตั้งใจจะกลับตัวเลยนะ ที่ไปทำงานที่พิษณุโลกนี่ก็ทรงเดิมเลย ก็ไม่ได้อยากให้แม่ลออมาคบค้าสมาคมด้วย นายล้ำก็มีความแบบ โกรธขึ้นมานะคะ ประมาณว่า "แหมท่านเจ้าคุณ พูดอย่างกับตัวเองไม่เคย" ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็มีความประมาณว่า "นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนเก่านะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนเก่านี่ถือว่าหมิ่นประมาทแล้วนะ หื้ม" สุดท้ายนะคะ นายล้ำก็เลยสรุปว่า "ก็ผมรักชีวิตของผมอะ" คือประมาณว่า "ก็ผมไม่มีอะไรจะกิน ผมอยากได้เงิน ผมก็เลยทำอะไรได้ก็ทำ" นะคะ ซึ่งทำให้พระยาภักดีแบบ "เออๆๆ ปล่อยไปเถอะ ขีเกียจเถียงด้วย" นะคะ แล้วก็หันมาถามค่ะว่า "ว่าแต่อยากเจอแม่ลออทำไมล่ะ" นายล้ำนะคะ ก็เลยบอกประมาณว่า "ก็ผมไม่ได้เจอแม่ลออมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบกว่าแล้ว ก็อยากเห็นหน้าค่าตาบ้าง" พระยาภักดีนะคะ ก็เลยพยายามบอกประมาณว่า "ก็ไม่ต้องเจอตัวหรอก อยากเห็นหน้าก็ดูรูปเอาสิ นู่นๆๆ รูปเพิ่งถ่าย วางอยู่นั่นแหละ หยิบมาดูสิ" นายล้ำนะคะ ก็หยิบรูปแม่ลออขึ้นมาดูค่ะ ดูเสร็จก็เริ่มหลุดออกมาค่ะ ประมาณว่า "อ้อ เนี่ยเหรอแม่ลออ ได้ข่าวว่ากำลังจะแต่งงานกับคุณทองคำ ลูกเจ้าคุณรณชิตใช่ไหม" อะฮ่า เรื่องเริ่มเปิดเผยนะคะว่า แม่ลออกำลังจะแต่งงานกับลูกคนใหญ่คนโต ที่ร่ำรวยมากๆ ค่ะ ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็ต้องบอกว่าใช่ค่ะ ที่นี้นายล้ำก็เอาใหญ่เลยค่ะ ประมาณว่า "อ้าวเหรอ แต่งวันไหน บอกผมสิ ผมจะได้มารดน้ำ" พระยาภักดีก็พยายามปัดนะคะ ประมาณว่าแบบ "จะมาทำไม ไม่ต้องมาหรอก" นายล้ำนะคะ ก็เลยเฉลยออกมาค่ะ ประมาณว่า "ก็ผมจะไม่มารดน้ำได้ยังไง ในเมื่อผมเนี่ยเป็นพ่อแท้ๆ ของแม่ลออ" ซึ่งก็ทำให้พระยาภักดีนะคะ หันไปถามนายล้ำ ประมาณว่า "อ้าว ยังจำได้อยู่อีกเหรอ ว่าแม่ลออเป็นลูกตัวเองเนี่ย นี่เกือบลืมไปแล้วนะว่าเป็นพ่อเนี่ย หายไปนานขนาดนี้ ไม่มาดูแลลูกเลย" นายล้ำนะคะ ได้โอกาสก็เลยบอกประมาณว่า "ก็นี่ไง ผมนึกได้แล้วว่าผมไม่เคยดูแลแม่ลออเลย ตอนนี้ก็เลยจะกลับมาดูแลนั่นแหละ" ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็มีความประมาณว่า "ไม่ต้องดูแลแล้วมั้ง เขาจะแต่งงานแล้ว เขาย้ายออกไป มันก็ไม่ต้องดูแลแล้วมั้ย" แต่งงานมีสามีแล้ว สมัยก่อนก็คือ ถือว่าเป็นแบบ ผู้ใหญ่แล้ว ประมาณนั้นนะคะ นายล้ำก็มีความบอกต่อค่ะ ประมาณว่า "ก็ตอนอยู่ในบ้านเจ้าคุณเนี่ย ผมก็ไม่ได้ห่วงอะไรเท่าไรหรอก แต่ตอนเนี้ยแต่งงานไปอยู่บ้านอื่น ผมก็ต้องตามไปดูแลลูกผมสิ" ทีนี้พระยาภักดีนะคะ เริ่มไม่โอเคละ เริ่มถามประมาณว่า "แล้วจะตามไปยังไง จะไปดูแลอะไรเขา" นายล้ำนะคะ ก็เลยเฉลยออกมาค่ะ ว่าตัวเองเนี่ย ตั้งจะจะตามแม่ลออนะคะ ไปอยู่ที่บ้านของสามี ซึ่งเป็นคนร่ำรวยด้วย เพราะว่าตั้งใจจะให้ลูกเนี่ย เลี้ยงดูตัวเอง ที่แบบหมดสิ้นเนื้อประดาตัว แล้วก็ไม่อยากทำงานทำการแล้วนั่นเองค่ะ และเรื่องราวก็ยังเฉลยต่อมานะคะ ว่านายล้ำก็มีความถามพระยาภักดีนะคะ ประมาณว่า "แม่ลออเขารู้รึเปล่าเนี่ย ว่าผมเป็นพ่อ หรือเขาคิดว่าใต้เท้าเนี่ยเป็นพ่อจริงๆ แล้วนะ" พระยาภักดีนะคะ ก็บอก "เขาก็รู้แหละ ว่าชั้นน่ะเป็นพ่อเลี้ยง แต่เขาคิดว่าพ่อจริงๆ ของเขาอะ ตายไปแล้ว คือก็ไม่ได้อยากให้มารู้ว่าพ่อติดคุกติดตารางอะนะ นายล้ำนะคะ ก็เลยมีความถามต่อ ประมาณว่า "อ้าว แล้วแม่เขาไม่เล่าอะไรให้ฟังหน่อยเหรอ ว่าพ่อเขาเป็นใครมาจากไหน" นะคะ ซึ่งเรื่องราวนะคะ ก็เปิดเผยออกมามากขึ้นค่ะ ว่าแม่ของแม่ลออ หรือว่าแม่นวลเนี่ยนะคะ รู้สึกว่านายล้ำเนี่ยเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องค่ะ ก็เลยไม่เล่าเรื่องพ่อของตัวเองให้ลูกฟังนะคะ และที่สำคัญนะคะ แม่นวลตายจากไปนานมากแล้วค่ะ แม่นวลก็เลยเอาแม่ลออมาฝากพระยาภักดีนะคะ ซึ่งเป็นคนที่เคยชอบแม่นวลเหมือนกันเนี่ย เลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เด็กค่ะ คือประมาณว่า ในตอนแรกเนี่ย นายล้ำกับพระยาภักดีเนี่ย เคยจีบแม่นวลแข่งกัน แล้วเผอิญว่าแม่นวลเนี่ยเลือกผิด ไปเลือกโดนนายล้ำนะคะ พระยาภักดีก็เลยเลี้ยงแม่ลออเหมือนกับเป็น ลูกแท้ๆ ของตัวเองมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ แล้วก็บอกแค่ว่าพ่อเนี่ยตายไปแล้วนะคะ หลังจากนั้นค่ะ พระยาภักดีกับนายล้ำ ก็มีความโต้เถียงกันใหญ่โตนะคะ นายล้ำเนี่ยก็ยืนยันว่าตัวเองจะไปอยู่กับลูกให้ได้ พระยาภักดีก็ถามว่า "แล้วจะไปอยู่กับเขาในฐานะอะไร ทำไมลูกเขยเขาจะต้องเลี้ยงแกด้วย คือแกไปมีบุญคุณอะไรกับเขา นายล้ำก็พยายามจะบอกอีกว่า "ก็ชั้นเป็นพ่อแม่ลออ แค่นี้ก็มีบุญคุณมากพอแล้ว" ทีนี้นะคะ พระยาภักดีก็เลยถามว่า "งี้แกจะบอกทุกคนไปหมดเลยใช่ไหมว่าแกเนี่ยเป็นพ่อแม่ลออ แล้วคนเขาจะไม่รังเกียจแม่ลออเหรอที่มีพ่อแบบนี้ พ่อเป็นคนขี้คุก เป็นคนขี้โกง เป็นคน โอ้ย สารพัดจะแย่ เดี๋ยวคนเขาก็เลิกคบแม่ลออกันหมดหรอก ตอนนี้แม่ลออเป็นผู้ดีอยู่ในสังคมชั้นสูง ว่าที่สามีเขาก็เป็นผู้ดี เดี๋ยวคนรอบตัวเขาจะเกลียดกันหมดนะ" ด้วยความโกรธนะคะ นายล้ำก็เลยหลุดออกมาหมดเลยค่ะ ประมาณว่า "อ้าว ก็ผมไม่มีหนทางทำกินแล้ว ผมจะทำอะไรได้นอกจากเกาะลูกกินอะ ผมมีลูกอยู่ นี่ก็เป็นช่องทางทำกินของผมไง" ทำให้พระยาภักดีนะคะ เก็ตค่ะว่า "อ๋อ จริงๆ แล้วต้องการเงินใช่ไหม อะ ถ้าอยากได้เงิน ไม่ต้องไปยุ่งกับลูก เอาเงินชั้นไป จะเอาเท่าไรว่ามา 10 ชั่งพอไหม อะไม่พอ 20 ชั่งพอป่าว อะ 20 ชั่งไม่พอเหรอ 50 ชั่งเลย" 50 ชั่งนี่เยอะมากนะคะทุกคน นายล้ำก็บอกว่า "จะไปพอได้ยังไง ที่ผมเจ๊งที่ภาคเหนือเนี่ย ก็เจ๊งไปร่วม 100 ชั่งได้แล้วนะ" ถามว่าพระยาภักดีสู้ไหม เงิน 100 ชั่งนี่เยอะมากนะคะทุกคน ถ้าใครเคยได้ยินสำนวน จะเคยได้ยินสำนวน สาวน้อยร้องชั่ง แปลว่าผู้หญิงที่มีค่าตัวแพงมาก ประมาณนั้นนะ พระยาภักดีสู้ค่ะ ด้วยความที่รักแม่ลออมากนะ ก็บอกว่า "100 ชั่ง เอาไปเลย แล้วอย่ามายุ่งกับแม่ลออ" ซึ่งถามว่านายล้ำเอาไหมนะคะ นายล้ำบอกว่า "100 ชั่ง ผมจะเอาไปทำไม ถ้าผมไปเกาะลูกเขยกินเนี่ย ได้เยอะกว่านี้ตั้งเยอะ ไม่เอาหรอก" หลังจากนั้นนะคะ ทั้งคู่ก็เลยเหมือนจะทะเลาะกันใหญ่โตขึ้น ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกันค่ะ คือพระยาภักดีนี่หยิบแส้ออกมาแล้วนะ เป็นแส้ม้าอะ ตั้งใจจะแบบ ฟาดนายล้ำอะแบบ "อย่ามายุ่งกับลูกชั้นนะ เดี๋ยวโดนๆ" ประมาณนั้นเลยค่ะ ปรากฏว่าในจังหวะที่กำลังจะลงไม้ลงมือกันเนี่ยนะคะ บังเอิญว่าอ้ายคำเนี่ยเข้ามาค่ะ บอกว่า แม่ลออกลับมาแล้ว ซึ่งทำให้นายล้ำนะคะ ยิ้มร่าเลย ประมาณว่า "เสียใจด้วยนะใต้เท้า ใต้เท้าจะกันผมยังไงก็กันไม่ได้หรอก เพราะว่าแม่ลออก็กลับมาแล้ว ยังไงแม่ลออก็ต้องมาเจอผมตอนนี้นี่แหละ" ปรากฏว่าแม่ลออก็เข้ามานะคะ เข้ามาแบบผู้ดีเต็มที่เลย ผู้ดี แล้วก็เรียบร้อยน่ารัก เป็นผู้หญิงแบบว่าเรียบร้อยจริงๆ นะคะ แล้วก็เข้ามาแล้วก็แบบ สวัสดีพระยาภักดีก่อน "สวัสดีค่ะคุณพ่อ ทำไมวันนี้คุณพ่อกลับบ้านเร็วจังเลยอะคะ" ซึ่งพระยาภักดีนะคะ ก็แบบ "อ๋อ เลิกงานแล้วก็กลับมาเลยล่ะลูก" ก็คือเปลี่ยนสีหน้าทันทีนะคะ เพื่อไม่ให้แม่ลออรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นค่ะ ทีนี้แม่ลออนะคะ ก็หันไปเห็นนายล้ำค่ะ ก็สวัสดีบ้าง ก็ประมาณว่า "สวัสดีค่ะ เพื่อนคุณพ่อเหรอคะ มาทำอะไรเหรอ ทำไมไม่เคยรู้จักคุณอาเลย" นะคะ ทั้งคู่ก็เลยได้มีโอกาสคุยกันค่ะ นายล้ำก็มีความทักทายประมาณว่า "อ๋อ หล่อนน่ะไม่เคยเจอชั้น แต่ชั้นน่ะเคยเจอหล่อนตั้งแต่ตอนตัวเล็กๆ นั่นแหละ" พอพูดแบบนี้นะคะ แม่ลออก็เลยชวนคุยขึ้นมาค่ะ ประมาณว่า "อ้าวเหรอ เคยเห็นชั้นตั้งแต่เด็กๆ แปลว่าก็ต้องรู้จักคุณพ่อของชั้นด้วยสิ" ซึ่งก็เป็นการถามแบบจี้ใจดำนายล้ำเลยนะคะ นายล้ำก็เลยบอกว่า "อ๋อ รู้จักสิ คุณพ่อของหล่อนน่ะ ชั้นรู้จักดีเลยทีเดียวล่ะ" แม่ลออนะ ไม่ทันฟังนายล้ำต่อค่ะ ก็พูดขึ้นมาประมาณว่า "หู คุณอานี่โชคดีจริงๆ นะคะ ที่ได้มีโอกาสรู้จักกับพ่อของดิชั้นเนี่ย คือดิชั้นน่ะโชคร้าย คุณพ่อเสียไปตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยไม่ได้รู้จัก เคยเห็นแต่ในรูปเนี่ยละค่ะ ที่วางอยู่ในห้องนอนนะ เห็นว่าเป็นคนตัวสูงๆ โปร่งๆ ดูใจดี ดูแล้วเป็นคนดีแน่ๆ เลยนะคะ" น่ะ ไปพูดอย่างนี้ใส่เขาอีก นายล้ำก็มีความจึ้กอะค่ะ ประมาณว่าแบบ "อุ้ยตาย ลูกเข้าใจว่าชั้นเป็นคนดี" แล้วก็ยังมีความไปถามนายล้ำอีกนะ ประมาณว่า "พ่อของดิชั้นเป็นคนดีจริงไหมคะ คือคุณพ่อพระยาภักดีเนี่ยก็เล่าให้ฟังว่า พ่อเป็นคนดีมาก เสียดายที่เสียไปตั้งแต่เด็กๆ" อะไรอย่างนี้นะคะ พูดไปพูดมาค่ะ นึกสภาพนายล้ำ ตั้งใจจะมาไถเงินลูก เจอลูกพูดใส่ว่าแบบ พ่อชั้นเป็นคนดี พ่อในหัวชั้นนี่แบบว่า สีรุ้งมากๆ จะต้องเป็นคนดีสุดๆ ไปเลย พ่อเป็นไอดอลของหนู ประมาณนั้นนะคะ นายล้ำละอายใจค่ะ สุดท้ายก็เลยไม่กล้าทำอะไรนะคะ ต่อให้แม่ลออเนี่ย พยายามจะชวน ประมาณว่า "คุณอารู้ไหมคะ ว่าชั้นเนี่ยกำลังจะแต่งงานนะ คุณอาเนี่ย มารดน้ำสังข์ดิชั้นด้วยนะ" นายล้ำก็ไม่กล้านะคะ นายล้ำตอนนี้ละอายใจเรียบร้อยแล้วค่ะ ก็เลยบอกว่า "เออ เสียใจด้วยนะที่อาคงอยู่รดน้ำสังข์หนูไม่ได้อะ คืออาต้องรีบกลับภาคเหนือ เดี๋ยวต้องกลับด่วนเลย" แม่ลออนะคะ ด้วยความที่ไม่สนิทใจ แล้วก็ไม่รู้ว่านายล้ำเนี่ยมีความสำคัญยังไง ก็เลยบอกลาค่ะ แล้วก็ขึ้นห้องไป ทิ้งให้นายล้ำเนี่ยนะคะ อยู่กับพระยาภักดีค่ะ ก็เลยเกิดความ awkward เล็กๆ ประมาณว่าแบบ "เอ้อ เจ้าคุณ ผมไม่เอาอะไรแล้วดีกว่า คือตอนนี้ผมอายลูกอะ ปล่อยให้ลูกเขาจำภาพผมเป็นคนดีๆ ในหัวต่อไปแล้วกัน คือผมไม่อยากให้เขามารู้ว่า ตัวผมเองจริงๆ เป็นคนแบบไหนอะ คือใต้เท้าอะพูดถูก ลูกผมไม่ควรจะต้องลงมาเกลือกกลั้วกับคนอย่างผมหรอก นะ" ดังนั้นนะคะ สุดท้ายนายล้ำก็เลย พยายามลากลับบ้านไปค่ะ ก่อนกลับไปเนี่ย ก็ถอดแหวนของตัวเองไว้วงนึงนะคะ บอกพระยาภักดีว่า "ฝากแหวนนี้ให้แม่ลออด้วยแล้วกัน นี่เป็นของที่แม่นวลเนี่ย ให้ผมเอาไว้ ส่วนตัวผมคงไม่กล้าอยู่ดูหน้าแม่ลออแล้วแหละ" แล้วก็ทำท่าจะกลับนะคะ ฝั่งพระยาภักดีค่ะ ก่อนกลับก็เลยบอกว่า "อะ ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาเงินไปเถอะ จะได้อยู่ได้นะ" แล้วก็ให้เงินนายล้ำไปนะคะ พร้อมกับมอบรูปของแม่ลออไปให้ด้วยค่ะ บอกว่า "เอารูปลูกไปดูนะจ้ะ" และเรื่องราวก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ นี่คือเรื่องราวของบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกนะคะ จะเห็นว่านายล้ำเนี่ย แม้ว่าจะมาอย่างคนเห็นแก่ตัวเต็มที่ ตั้งใจจะมาเกาะลูกกินเต็มที่นะคะ แต่ว่าด้วยความดีความงามของแม่ลออเนี่ย ก็ทำให้นายล้ำเนี่ย เห็นแก่ลูก และในที่สุดก็เลยกลับตัวกลับใจ ล่าถอยกลับภาคเหนือไปในที่สุดค่ะ เป็นไงบ้างคะ ได้รับรู้เรื่องราวของแม่ลออมากขึ้นไหม ว่าแม่ลออเนี่ยเป็นคนที่จิตใจงดงามขนาดไหนค่ะ เรียกได้ว่างดงามถึงขั้นที่เปลี่ยนใจของคนๆ นึง ที่ตั้งใจจะมาตักตวงผลประโยชน์กับตัวเองได้เลยนะคะ โดยที่ตัวเองเนี่ยไม่ได้รู้ตัวซักนิดเดียว ว่าตัวเองได้เปลี่ยนใจใครบ้างค่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย~ สวัสดีค่ะ อย่างที่บอกนะคะว่าแม่ลออเนี่ย เป็นหนึ่งในนางทั้งหก ซึ่งประกอบอยู่ในนิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัย ซึ่งเป็น Phase 2 ของจุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัยค่ะ ดังนั้นอย่าลืมติดตามข่าวสารของนิทรรศการนี้ค่ะ ซึ่งเดี๋ยววิจะมาอัปเดตให้ทุกคนฟังเรื่อยๆ นะคะ ดังนั้นอย่าลืมกดติดตามเพจ Point of View ไว้ค่ะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย~ สวัสดีค่ะ