[ จิตวิทยาของผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ]
สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณ
สิ่งเดียว.. ที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณ
เปลี่ยนงาน เปลี่ยนเงิน เปลี่ยนความสัมพันธ์ของคุณ
นั่นคือ คุณต้องเพิ่มมาตรฐานของคุณ
ชีวิตของคุณยิ่งใหญ่เกินกว่า
ที่จะอนุญาตให้ตัวเองเล่นบทเล็ก ๆ ได้
เพียงสิ่งเดียว ที่จะเปลี่ยนชีวิตเราในระยะยาว
คือเมื่อเราเพิ่มมาตรฐานต่าง ๆ ของเรา
นั่นหมายความว่า ในชีวิตของพวกเราทุกคน
มีสิ่งที่เราต้องการ
เราไม่ได้สิ่งที่เราต้องการ
เราได้ในสิ่งที่เราจำเป็นต้องมี
สิ่งที่คุณกำลังมองหา สิ่งที่คุณกำลังพูดถึง
และสิ่งที่คุณจำเป็นต้องมี
ก็คือวินัยในตัวเอง
"วินัยในตัวเอง" เป็นคำที่ส่วนใหญ่หมายความถึงตัวมันเอง
มันมาจากคุณ
มันมาตอนที่คุณตัดสินใจ
ที่จะมีวินัย
ตอนที่คุณตัดสินใจที่จะดีกว่านี้
ตอนที่คุณตัดสินใจจะทำมากขึ้น เป็นมากขึ้น
ผมคิดว่า สิ่งหนึ่งที่ วินัย ช่วยคุณได้มากที่สุด
ในตอนที่มันช่วยให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ จนเสร็จ
และเมื่อคุณทำเสร็จ เมื่อคุณทำสิ่งต่าง ๆ จริง ๆ
คุณจะสำเร็จมากขึ้น
สร้างทางเลือก เมื่อคุณมีทางเลือก
คุณจะได้ผลลัพธ์ใหม่ ๆ
กับทางเลือกใหม่ ๆ
คุณก็จะเปลี่ยนแปลง
คุณไม่เต็มใจที่จะทนบางอย่างได้อีกต่อไป
ก็ในตอนที่ชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ในการพัฒนานิสัย คุณต้องมีสติปัญญา
คุณต้องมีพลังงาน ในการพัฒนานิสัยเพื่อความสำเร็จ
เรารู้ว่า สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับคนสำเร็จสูงนั้น
พวกเขาล้วนมีเป้าหมาย
ในความเป็นจริง หากปราศจากเป้าหมาย
คุณก็ไร้ทิศทาง คุณจะถูกใช้งาน
ถ้าผู้คนที่ไม่มีเป้าหมาย
เขาจะถูกใช้งานโดยคนอื่นที่มีมัน
ผู้คนที่ไม่มีเป้าหมาย
ทำงานให้กับคนที่มีเป้าหมาย
แต่คุณรู้จัก ไมเคิล เฟลวส์ มั้ย
สิ่งที่สามารถผลักดันให้เหนือชั้น ณ ขณะนั้น
มันคือ Ritual (กระบวนการเชื่อมจิต)
ไปศึกษาเขา
คนว่ายน้ำส่วนใหญ่ มีการฝึกร่างกายที่เหลือเชื่อ
เขาออกกำลัง 2-3 ช่วงต่อวัน
ตอนแรก นักว่ายน้ำคนอื่น ๆ
คิดว่าเขาบ้า
คุณฝึกหนักเกินไป คุณทำไม่ได้
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับร่างกาย
แต่เขามีมาตรฐาน และ Ritual (กระบวนการเชื่อมจิต)
ที่ทำให้การฝึกนี้เป็นไปได้
ถ้ามันง่าย ทุกคนก็คงทำกันหมด
ปกติก็จะเป็นอัพและดาวน์ แต่ผมคิดว่า
จริง ๆ แล้ว มันคือการที่คุณได้กลับมา
ขึ้นหลังม้าของคุณจริง ๆ แล้วก้าวไปข้างหน้า
และผมคิดว่า เรื่องใหญ่ที่สุดที่ผมมักพูดเสมอ
"อย่ายอมแพ้" ผมไม่เคยเลย
และไม่ควรมีใครต้องเคย
ถ้าพวกเขาต้องการบางอย่างมากพอ เขาก็จะได้มัน
เขาต้องทุ่มเทเพื่อมัน
ใช่ มันจะไม่ง่าย แต่ถ้าคุณต้องการมันมากพอ
คุณจะทำทุกอย่างเพื่อไปถึงตรงนั้น
อย่าง ถ้าคุณดูสุดยอดนักกีฬา
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาเกิดมามีพรสวรรค์
แต่สิ่งที่ทำให้มีโคบี, ไมเคิล จอร์แดน, หรือเฟดเดอเรอร์
ก็คือคุณภาพของ Ritual (กระบวนการเชื่อมจิต)
ถ้าคุณคิดว่า คุณสร้างความแตกต่างได้
มันต้องใช้คำมั่นสัญญา
มืออาชีพไปทำงานเสมอ และมันไม่เกี่ยวถ้าเราป่วยหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับว่าเราจะมีลูกหรือไม่
ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นอะไร
คุณคือมืออาชีพ และคุณก็ไปทำงาน
แล้วก็ใส่มันเข้าไปในหัวของคุณ
ว่านี่คือสิ่งที่ฉันทำ
ถ้าคุณไม่ทำงาน ทุกวันสม่ำเสมอ
อย่างที่นักกีฬาไปโรงยิมและออกกำลังกาย
ถ้าคุณไม่ทำงาน ถ้าคุณไม่ลงมือทำจากไอเดียต่าง ๆ
ถ้าคุณไม่ผนวกมันเข้าด้วยกัน
ถ้าคุณไม่แสดงวินัยในตัวเองออกมาบ้าง
จะไม่มีอะไรได้ผลเลย
จนกว่าคุณจะไปทำงาน
ทุกคนในโลก มีรายการสิ่งที่พวกเขาคิดว่า
พวกเขา ควร ทำ
ฉันควรลดน้ำหนัก ฉันควรออกกำลัง
ฉันควรทำงานหนักขึ้น
ฉันควร.. ฉันควร.. ฉันควร..
แล้วคุณรู้อะไรมั้ย สิ่งที่เปลี่ยนผู้คนไปเลยก็คือ
เปลี่ยนคำว่า "ควร" ของคุณ เป็นคำว่า "ต้องทำ"
ทันทีที่คุณคิดจะพูด ควรเกิดขึ้น
คุณพูด "มันต้องเกิดขึ้น"
นั่นคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนจริง ๆ
จนกว่าคุณจะ ทำสิ่งใหม่ ๆ
จนกว่าคุณจะ เริ่มคิดถึงเรื่องราวใหม่ ๆ
จนกว่าคุณจะ เริ่มการสนทนาใหม่ ๆ
จนกว่าคุณจะ มีกึ๋นพอที่ล้างเอาสิ่งที่ใช้การไม่ได้ออกไป
และใส่ Ritual (กระบวนการเชื่อมจิต) ใหม่ ๆ ที่ได้ผลเข้าไป
มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!
เส้นทางสู่ความสำเร็จ
นั้นผ่านการให้คำมั่นสัญญา
ผ่านความแข็งแกร่ง
ในการขับเคลื่อนให้บรรลุคำมั่นสัญญาอันนั้น
ในตอนที่ยากลำบาก
และมันจะยากลำบาก บางครั้งคุณจะอยากล้มเลิก
แต่มันจะถูกแต่งแต้มสีสัน
จากการที่คุณรู้ว่า คุณเป็นใคร
และใครอีก ที่คุณต้องการจะเป็น
คุณมีแค่ชีวิตเดียว!
ดังนั้น อย่าทำให้มันไร้ค่า
ผมคือนักฝันที่ยิ่งใหญ่
[ ยิ่งคุณเริ่มทำตามฝันเร็ว ชีวิตของคุณก็ได้ตื่นขึ้น ทุกสิ่งจะเริ่มมีความหมาย - บาร์บาร่า เชอร์ ]
และงานของผมคือ การทำความสะอาดทั้ง 7 ชั้นนี้
ช่วงวันศุกร์ถึงอาทิตย์
ดังนั้นทุกครั้งที่ผมจะไปชั้น 7 ซึ่งเป็นออฟฟิศของ CEO
ผมก็จะทำตัวเหมือนกับว่าผมเป็น CEO
ผมกำลังฝันว่าผมเป็น CEO ในตอนนี้
[ ขั้นตอนสู่การคว้าฝันของคุณ ]
แล้วใครจะคิดล่ะ
ว่าผมจะโชคดี แล้วผมก็อยู่ที่นี่แล้ว
ผมเป็น CEO ของบริษัทของผมเอง
[ แล้วอะไรบ้างที่ต้องทำ เพื่อประสบความสำเร็จ ? ]
ผมคิดว่าสิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนมาก
เป้าหมายที่ชัดเจนมาก ของที่ที่คุณต้องการไป
เพราะเพียงแค่นี้ คุณจะไปถึงที่นั่นได้
คุณมีเครื่องบินที่ดีที่สุดได้
หรือเรือที่ดีที่สุดในโลกก็ได้
แต่ถ้ากัปตันไม่รู้ว่าจะไปไหน เขาก็จะล่องลอยไปรอบ ๆ
ถ้านักบินไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
เขาก็จะล่องลอยไปรอบ ๆ กับเครื่องบินของเขา
ผมเลยคิดว่าสิ่งที่สำคัญคือ เรารู้ว่าเราจะไปที่ไหน
และความปรารถนาอย่างแรงกล้า
ต่อสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าคุณอยู่เสมอ เป้าหมายนั้นนั่นเอง
[ จงมี "วิสัยทัศน์" เพื่อชีวิตของคุณเอง ]
เพื่อให้เจริญก้าวหน้าในสิ่งที่คุณทำ
ได้โปรดทำความเข้าใจสิ่งแวดล้อมของคุณ
การรู้จักเป้าหมายของคุณ ไม่ใช่การคาดเดา
จงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง อย่างคนที่สำเร็จ
เพราะนั่น.. คือน้ำมัน คือเชื้อเพลิง ให้คุณเคลื่อนไปข้างหน้าได้
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณจะไปที่ไหน เป้าหมายของคุณคืออะไร
คุณจะไม่มีทางไปถึงที่นั่น แค่นั้น
อีกสิ่งที่สำคัญคือ คุณได้ต้องมุ่งไปที่จุดสูงสุด
เพราะการไปถึง และมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
และการคิดใหญ่
ก็เพื่อให้คุณนั้นยิ่งใหญ่
เพื่อให้การก้าวไปของคุณได้สำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่
นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
และคุณสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้โดยบังเอิญ
[ จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ เพราะแม้จะไปไม่ถึง
คุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว - เลส บราวน์ ]
ฉันต้องบอกพวกคุณทุกคน
มันไม่สำคัญว่า
คุณแก่แค่ไหน คุณเด็กแค่ไหน อายุของคุณ
คุณประสบความสำเร็จในเรื่องใดก็ได้ที่คุณตั้งใจไว้
และฉันบอกเสมอว่า
ถ้าฉันทำได้ ใคร ๆ ก็ทำได้
[ คุณก็ทำได้! ]
คือ ถ้าคุณคิดว่าคุณจะไปข้างหน้า
และได้มาซึ่งสิ่งที่พิเศษจริงๆ
และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
และคุณคิดว่า คุณจะได้มันโดยไม่ต้องทำงาน
คุณผิดมหันต์
เพราะไม่ว่าอะไรที่ผมเคยทำ
ในการเพาะกาย ในการแสดง หรือในเวทีการเมือง
มันต้องใช้การทำงานที่หนัก หนักมาก ๆ เสมอ
และคุณต้องเตรียมพร้อม คุณต้องรู้
และบางครั้งก็ต้องคิดถึงการเสียสละ
และถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะทำงานหนัก
ก็ลืมมันไปเถอะ
[ ถ้าคุณไม่ยอมลำบากเพื่อความสำเร็จ
คุณก็จะลำบากเพื่อความล้มเหลว
- ซิก ซิกล่าร์ ]
ผมเชื่อมั่นว่า
เราทุกคนเท่าเทียมกันในฐานะมนุษยชาติ
และถ้าเราหมกมุ่นกับบางอย่าง
และไล่ตามความหลงใหลของเราอย่างแท้จริง
ด้วยทุกอย่างที่เรามี โดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น
ถ้าคุณหมกมุ่น..
ทำงานอย่างหนัก ระบุเวลาที่คุณจะประสบความสำเร็จ
และนั่นคือปรัชญาที่ผม และโค้ชทุกคนของผมยึดมั่น
และไปดู เลอบรอน เจมส์ ที่เป็นเหมือนซูเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่สิ
แล้วยังเป็นนักกีฬาผู้เป็นปรากฎการณ์
ที่ให้ความเชื่อซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผม
แสดงให้เห็นว่า เราคิดถูก
คุณรู้ว่านี่.. นี่คืองานหนัก คือความหมกมุ่น
ไม่มีอะไรจะชนะการทำงานหนักได้
[ ถ้าคุณเต็มใจทำงาน
คุณจะสำเร็จได้ยิ่งกว่าที่คุณเคยจินตนาการได้ถึง
- เมย์นาร์ด เวบบ์]
ที่นี่คือความเป็นจริง
คุณคิดว่าการแข่งขันนั้นไม่มีจริงงั้นหรือ?
ฟังนะ งานมันอยู่หลังฉาก
การแข่งขันคือส่วนที่ง่าย
เบื้องหลังนั้นเป็นที่ที่งานทั้งหมดได้ทำ
ทุกอย่างทำเสร็จหมดแล้ว เพื่อให้คุณได้ก้าวเข้าสู่สนาม
ซึ่งเป็นที่ที่คุณจะต้องวิ่ง
[ ทำให้ดีที่สุดที่คุณทำได้ ด้วยอะไรที่คุณมีได้
ในขณะที่คุณยังทำได้ แล้วความสำเร็จจะไปไหน
- ดร.สตีฟ มาราโบลี ]
ผมตั้งคำถามกับตัวเองเสมอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
แม้ในตอนที่ผมอยู่อันดับ 1 หลายสัปดาห์ หลายเดือนติดต่อกัน
ช่วงปีนั้น ผมถาม "ผมปรับปรุงอะไรได้บ้าง?"
"อะไรที่ผมต้องการในการเปลี่ยนแปลง?"
เพราะถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย
หรือได้แต่ทำอย่างเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณก็ย่ำอยู่กับที่
และการย่ำอยู่กับที่ ก็หมายความว่า คุณกำลังถอยหลัง
เพราะคนอื่น ๆ กำลังทำงานหนักกว่า และพัฒนาตัวเองอยู่
ดังนั้น ผมเองก็ต้องหาทางในการพัฒนา
การเล่นของผมอยู่เสมอ
[ Be Inspired ]
จงระวัง เหล่านักดับฝัน
ทำลายวิสัยทัศน์ ดูดพลังชีวิต
ครอบครัว และ เพื่อน... โดยส่วนใหญ่
น่าเศร้าที่ต้องพูดแบบนี้
ครอบครัวและเพื่อนมักจะเป็นคนแรก ๆ
ที่บอกให้คุณหยุดทำบางสิ่งที่คุณหลงใหล
และตื่นเต้นกับมัน ที่คุณมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีความฝัน
จะตื่นขึ้นมาทุกวัน และพร่ำบอกให้คุณเลิกทำตามความฝัน
พวกเขาไม่มีเป้าหมาย
ไม่มีอะไรเลยที่เขาใฝ่ฝัน
สร้างความจริงของคุณขึ้นมา
โดยการเลือกอนาคตของคุณเอง
และไม่ใช่แค่มันสำคัญกับตัวคุณที่จะรู้ว่าชีวิตลิขิตได้ มันจำเป็นต่างหาก
ที่คุณจะทุ่มเทกับมัน ที่คุณจะพัฒนาตัวเอง
มันจำเป็น ที่คุณต้องกำจัดพวกดูดพลังชีวิตคุณออกไป
คนที่ไม่ได้ต้องการอะไรเลยสักอย่าง
คำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจที่ทรงพลังที่สุด
ที่ผมเคยได้ยินในชีวิต มาจากคนที่บอกว่า
"ผมทำอะไรไม่ได้"
คุณรู้มั้ยว่า ทำไม?
เพราะตอนที่เขาบอกผมว่า ผมทำไม่ได้
ผมเชื่อมั่นเต็มร้อยและตัดสินใจที่จะแสดง
ให้พวกเขาเห็นว่า "ผมทำได้"
บอกมาสิ ว่าผมทำไม่ได้
ผมจะพิสูจน์ว่าคุณผิด
ผมจะแสดงให้คุณเห็น (หัวเราะ) ว่าคุณคิดผิด
เพราะผมเชื่อ
และนี่แหละ ที่สำคัญจริง ๆ
คำว่า "ฉันทำไม่ได้"
อาจทำร้ายคุณ
อาจหยุดคุณ
อาจทำให้คุณช้าลง
อาจทำให้คุณหันผิดทาง
และทำให้คุณเดินถอยหลัง
ถ้าคุณปล่อยให้มันทำ
แต่ถ้าคุณมีทัศนคติที่ถูกต้อง
คำว่า "ฉันทำไม่ได้" จะไม่ได้ทำอะไรนอกจาก
ทำให้คุณแน่วแน่ยิ่งขึ้น ที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย
ปัญหาเดียวเลย ไวโอลิน
เพราะการจะทำในสิ่งที่คุณทำนั้น
คุณต้องเป็นนักเล่นไวโอลินระดับโลก
เพราะว่าถ้าคุณไม่เป็น แล้วขยับตัวไปมา
โยนไปโยนมา แล้วยังพยายามจะเล่นไวโอลิน
คุณก็จบแบบที่คุณทำ
คือพลาดโน้ตสำคัญไปหลายช่วง
สำหรับผมแล้ว เหมือนกำลังฟังหนูทั้งฝูงร้องโหยหวนเพราะถูกบีบคอ
จริง ๆ แย่ขนาดนั้น คุณยังไม่ดีพอ
ผมไม่คิดว่าการกระโดดเหยง ๆ
แล้วเล่นไวโอลินไปด้วยมันจะดี
ฉันไม่คิดว่าสิ่งที่คุณทำ มันเพียงพอ
ที่จะเติมเต็มโรงละครในเวกัส
การเคลื่อนไหวที่มากขนาดนั้น
ทำให้คุณดีได้ไม่เท่าที่ควร
ทำให้คุณดีได้ไม่เท่าที่ควร
ใครมีสิทธิ์มาหยุดคุณล่ะ ?
ผมหมายถึง พวกคุณบางคนอาจมีบางอย่าง
ที่คุณไม่เคยทำจนเสร็จ
บางอย่างที่คุณอยากจะทำจริง ๆ
บางสิ่งที่คุณไม่เคยบอกใคร
บางสิ่งบางอย่าง
แล้วคุณก็บอกว่า ไม่มี
แม้ตอนที่คุณเพิ่งจ่ายหนี้
ใครกันแน่ที่มีสิทธิบอกคุณ
ใครกันแน่
ไม่มีเลย
มันเป็นสิทธิของคุณที่จะฟังเสียงในใจคุณ
และไม่มีใครที่มีสิทธิ์มาบอกคุณว่า ไม่ได้
มันเป็นสิทธิของคุณที่จะเป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น
และทำในสิ่งที่คุณอยากทำ
ผู้คนจะปั่นทอนกำลังใจเรา
คุณคงรู้จักคนในชีวิตของคุณ
ไม่ว่าคุณจะมีวันที่ดียังไง
พวกเขาจะดึงคุณลง
หรือไม่ว่าคุณจะมีวันที่ไม่ดียังไง
พวกเขาผลักคุณลงลึกกว่าเดิม
คุณรู้ใช่มั้ย ผมพูดถึงอะไร
นึกถึงสิ่งที่ทำลายกำลังใจคุณมากที่สุด
สามอย่างในชีวิตคุณ
จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่ทำลายกำลังใจ
คุณต่างหาก
เรียน... ผู้สมัคร
ขอบคุณสำหรับการลงสมัครโรงเรียนบัลเล่ต์
แต่น่าเสียดาย
ที่คุณไม่ได้ถูกรับเลือก
คุณมีขาที่ยาว และแปลกประหลาด
ส่วนล่างของคุณผิดปกติ
คุณมีร่างกายที่ไม่เหมาะกับการเต้นบัลเล่ต์
และอายุ 13 ปี ซึ่งมากกว่าที่จะได้รับพิจารณา
คุณเลยคิดว่าคุณทำไม่ได้งั้นเหรอ?
คุณไม่คิดบ้างหรอ ว่าคุณก็ทำได้?
คิดอีกทีสิ
ไม่ คุณทำได้
ถ้าคุณยังทำไม่เสร็จ ก็สู้ต่อไป
ทุ่มเทต่อไป อย่ายอมแพ้
ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ
คุณต้องหามันให้เจอ
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
ภายในตัวคุณ
อย่าล้มเลิก
อย่าเลิก!!!
ห้ามเลิก!!!
เพียงเพราะว่าคุณพลาด...
ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนล้มเหลว
เข้าใจนะ
ผมต้องการให้คุณทำบางอย่างหน่อย
ผมต้องการให้คุณเดินหน้าต่อไป
ทำในสิ่งที่คุณตัดสินใจอย่างยากเย็น
ที่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของคุณ
อย่าให้อะไรมารบกวนคุณ
ผมรู้ ง่ายมากเลย
แต่อย่าให้อะไร มา รบกวน คุณ!
ความล้มเหลวไม่ใช่ทางเลือก
ถ้าคุณคิดจะทำอะไร
ผมอยากให้คุณใส่เต็มพลังที่สุดของคุณ
ฟังผมนะ ทำราวกับว่าความล้มเหลวไม่มีจริง
มันไม่ใช่ปุ่มกด
มันไม่ได้แปะป้าย
มันไม่มีจริง!
คุณ ทำ ได้!!
อย่าให้ใครขโมยความฝันคุณไป
ผมเคยถามตัวเองว่า "ผมทำได้รึเปล่า"
และข้างในผมบอกว่า "คุณคือคนนั้น"
"คุณนั่นแหละ!"
ถ้าคุณจะยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ดี
ไม่ใช่แค่สง่างาม ไม่ใช่ที่สอง ไม่ใช่ที่สาม
ถ้าคุณต้องการจะยิ่งใหญ่ ดีที่สุดที่คุณจะทำได้
ความหมกหมุ่น คือ ความจำเป็น
มิสตี โคปแลนด์ | นักบัลเล่ต์หญิงเดี่ยว
[ณ เวทีบัลเล่ต์อเมริกา ]
เมื่อคุณมีความหมกมุ่นที่ไม่ธรรมดา
ถ้าคุณถูกตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่จะทำมัน
แล้วเมื่อคนแบบนั้นมาบอกคุณว่า
"คุณทำบางอย่างไม่ได้ คุณเลือกผิดแล้ว"
ถ้าบอกแบบนั้น
ผมจะแสดงให้คุณเห็น ผมจะแสดงให้คุณเห็น
ว่าผมทำอะไรได้บ้าง และหักล้างคำว่า
"ผมทำไม่ได้"
"ผมไม่มีทาง" "ผมจะไม่ทำ" "เป็นไปไม่ได้"
ผมจะหักล้างคำเหล่านั้นทั้งหมด
และผมจะทำให้คุณเห็นว่า ผมทำอะไรก็ได้!
ผมเอง.. คือปัญหาเดียว
[ แนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จ ]
เท่าที่ผมเคยมี
และ
ผมเอง.. ก็เป็นทางออกเพียงทางเดียว
"ตัวผม" คือปัญหาเดียวที่ผมเคยมี
และ "ตัวผม" นั่นเองที่เป็นคำตอบ!
ผมหมายถึงด้านบวกและด้านลบ
หมายความว่า คุณดึงดูด
ไม่ใช่แค่ คุณกลัวอะไรก็ดึงดูดสิ่งนั้น
คุณรู้สึกอะไร คุณเป็นอะไร
ทั้งหมดนั่นคุณดึงดูดมันมา!
ผู้สัมภาษณ์ ถาม "คุณคิดอะไรอยู่?"
เดนเซล ตอบ "คุณคิดอะไรอยู่ ใช่ ใช่ ใช่แล้ว"
มันเหมือนกฎของฟิสิกส์
ผมไม่รู้ว่าจะมีใครไม่เห็นด้วยได้ยังไง
มันเอ่อ มันคือ ถามนักฟิสิกส์คนไหนก็ได้
เขาจะบอกคุณว่า มันเป็นจริงตามนั้นแหละ
ผมกลายเป็นสิ่งที่ผมคิด..
มาโดยตลอด..
และกว่าคุณจะรู้..
ว่าคุณคิดถึงเรื่องอะไร..
มันก็ขยายตัวไปแล้ว
คุณจึงค่อยเริ่มระวังในสิ่งที่คิดจริง ๆ
คุณจะไม่ปล่อยให้ความคิดของคุณกลายเป็น
อะไรก็ตามที่คุณไม่ต้องการ
อะไรที่คุณไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น
หรือปรากฏขึ้นในชีวิตของคุณ
คุณรู้มั้ย.. ผมเชื่อในกฎของแรงดึงดูด
และผมก็เชื่อว่า คุณพูดให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นได้
ผมยังเชื่ออีกว่า อืม..
เมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังไปที่ไหน
และรู้ว่าคุณต้องการอะไร
จักรวาลจะมีวิธีการ
ทำให้สิ่งนั้นปรากฏแก่คุณ
คุณต้องเข้าใจ!
ว่าคุณคือแม่เหล็ก!
มันคือความตั้งใจของเรา
ความตั้งใจคือทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่มีอะไรบนดาวดวงนี้เกิดขึ้นได้โดยไม่มีมัน
ไม่มีแม้ซักอย่างเดียวที่จะสำเร็จได้
โดยปราศจากความตั้งใจ!
คำคมที่ดังที่สุดของไอน์สไตน์ บอกว่า
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้.."
..ความรู้นั้นมีขีดจำกัด..
..จินตนาการ..
..โอบล้อมโลกทั้งใบ
"เหตุและผล จะพาคุณจากจุด A ไป B
แต่จินตนาการ พาคุณไปทุกหนทุกแห่ง!"
ผมคิดว่าจินตนาการทำให้ผมยังคงก้าวไป
รู้มั้ยว่าผมหมายถึงอะไร?
มันเหมือน..
แค่คุณจินตนาการถึงตัวเอง
กำลังได้รางวัลมากมาย
แค่จินตนาการว่า ได้เงินก้อนใหญ่
แค่จินตนาการว่าตัวเอง
กำลังทำงานกับนักแสดงที่ยิ่งใหญ่
ทุกคนสามารถจินตนาการถึงตัวเอง
รู้มั้ยว่าผมพูดถึงอะไรอยู่?
ใช่แล้ว คุณรู้ว่า
จริง ๆ แล้ว ผมสามารถมองเห็นตัวเอง
เป็นผู้นำทางด้านเสื้อผ้า
เพราะผมสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
คุณต้องเข้าใจเกี่ยวกับ สิ่งที่เหมือนกันดึงดูดกัน
"Like attracts like"
ถ้าคุณเห็นมันได้ในจิต
คุณก็จะคว้ามันได้
ถ้าคุณเห็นมันได้ที่นี่..
และคุณกล้าพอที่จะพูดมันออกมา..
มันจะเกิดขึ้น
คุณคือแม่เหล็ก
อะไรก็ตามที่คุณเป็น
นั่นคือสิ่งที่คุณดึงดูดมา!
ถ้าคุณคิดลบ คุณก็จะดึงดูดสิ่งลบ ๆ
ถ้าคุณคิดบวก คุณก็ดึงดูดสิ่งดีเข้ามา!
คุณเป็นคนจิตใจดี ผู้คนก็จะดีกับคุณ!
นี่คือกฎของแรงดึงดูด และคุณต้องต่อสู้.. เอ่อ..
เมื่อ.. เมื่อ.. สิ่งต่าง ๆ กำลังไปได้สวย
คุณก็จินตนาการเห็นสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น
จินตนาการถึงสิ่งต่าง ๆ กำลังเกิดขึ้น..
ง่าย ๆ!
สิ่งที่ไม่ง่ายคือ การรับมือเมื่อสิ่งต่าง ๆ มันไม่ดี
และคุณยังต้องจินตนาการถึงสิ่งดี ๆ
นั่นคือสิ่งที่กีดขวางผู้คน!
เมื่อคุณกำลังพยายามแก้ปัญหาชีวิต
ที่กำลังเดินไปสู่จุดจบ!
ถ้าคุณแก้มันไม่ได้
ปัญหาก็จะขวางความพยายามของคุณ!
เพราะคุณจะเจอว่า "โอ้ ฉันแก้เรื่องนั้นไม่ได้"
"โอ๊ย ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง"
"คุณไม่ต้องรู้ว่า ทำยังไง!"
คุณต้องร้องขอ!
เชื่อ!
แล้วก็รับ!
อย่าคล้อยตามความคิดเห็นต่าง ๆ ของใครก็ตาม
อย่าคล้อยตามสิ่งที่พูดกันบนอินเตอร์เน็ท
อย่าเชื่องานวิจัย
อย่าเชื่อที่คนอื่นบอกว่า
มันเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้กับคุณ!
มันมีตั้งหลายวิธี ที่เราจะได้ในสิ่งที่เราต้องการ
เพื่อตัวเราเอง ในชีวิตของเรา
แต่โดยพื้นฐานแล้ว
ทุกอย่างเริ่มที่ เราเลือกที่จะคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ยังไง
ผมจินตนาการว่า ผมกำลังนั่งที่นี่กับพวงมาลัย
และกำลังจินตนาการถึงรถรุ่นใหม่ จินตนาการสิ่งดี ๆ
ใน.. ใน.. ใน.. ช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้
และตอนที่คุณทำมันได้
ผมคิดว่า นั่นยิ่งทำให้กฎแรงดึงดูด
ทำหน้าที่ในการดึงดูดมาให้คุณมากขึ้นไปอีก
มันเป็นไปไม่ได้
คุณทำไม่ได้หรอก
มันจะเป็นไปไม่ได้
มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้
มันจำเป็นที่ต้องรู้ว่าทุกคนจะไม่เห็นมัน
รู้ว่าทุกคนจะไม่เข้าร่วมกับคุณ
รู้ว่าทุกคนอาจไม่มีวิสัยทัศน์
มันจำเป็นต้องรู้
ว่าคนมากมายเอาแต่บ่น
และไม่อยากทำอะไรเพื่อแก้สถานการณ์ของตัวเอง
ว่าคุณเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ปกติ
คุณรู้.. คุณต้องรู้อยู่ข้างใน ว่าฉันทำได้
แม้ว่าจะไม่มีใครเลยที่มองเห็นมัน
ผมต้องเห็นมันเพื่อตัวผมเอง
ถ้าคุณต้องการจะดีที่สุดในเรื่องนั้น
ถ้าคุณต้องการไปถึงสูงสุดในเรื่องนั้น
คุณต้อง.. มันไม่มีทางอื่น
คุณต้องหมกมุ่น ในการได้มาซึ่งสิ่งนั้น
ความยิ่งใหญ่ในสนามได้ก็ตาม
ความยิ่งใหญ่!
ไม่อาจได้มาโดยไม่ต้องหมกมุ่นลุ่มหลง
คนจะบอกว่า ความหมกมุ่นเป็นสิ่งไม่ดี
มันเป็นไปได้สำหรับคุณ ที่จะได้ใช้ชีวิตตามความฝัน
มันสิ่งจำเป็นที่คุณต้องเชื่อมโยงกับเหล่าผู้ชนะ
ที่คุณทำงานในระบบเดียวกันกับคุณ ที่คุณจะไม่ผ่อนปรน
ที่คุณจะไม่ยอมแพ้
มันคือคุณ คุณต้องรับผิดชอบต่อตัวเองเพื่อให้มันเกิดขึ้น
บางครั้ง เราไม่อาจพูดได้ว่า ฉันทำได้
แต่เราพูดได้ว่า "มันเป็นไปได้!..
ที่ฉันจะคว้าความฝันของฉัน"
ที่ไหนสักแห่งในเส้นทางที่ผ่านมา
คุณเปลี่ยนไป คุณหยุดเป็นตัวเองไป
คุณยอมให้คนตราหน้าและบอกคุณว่า
คุณมันไม่มีอะไรดี
และเมื่ออะไร ๆ มันยากขึ้น
คุณก็เริ่มโทษอย่างอื่น
เหมือนเงามืดขนาดใหญ่ทาบทับ
ถ้าคุณยังไม่เชื่อในตัวเอง
คุณก็ไม่อาจมีชีวิตให้ได้ใช้
ในชั่วชีวิตนี้ คุณไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใคร
นอกจากกับตัวเอง
และเมื่ออะไรผ่านไป และคุณพบว่ามันยังไม่เสร็จกระทั่งตอนนี้
มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป หมายความว่า ที่คุณต้องทำคือเริ่มใหม่
ยิ่งคุณเริ่มใหม่ได้เร็วเท่าไหร่ มันก็จะผ่านไปได้เร็วเท่านั้น
คุณรู้ว่าคุณจะทำลายสถิติ
คุณรู้ว่าคุณจะก้าวไปสู่ระดับถัดไป
รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป
รู้ว่าคุณจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
ถ้าคุณยินดีจะทำมากขึ้นอีกนิด
ถ้าคุณยินดีจะอยู่ให้นานขึ้นอีกหน่อย
สละตัวเองมากกว่าเดิมอีกเพียงนิดเดียว
การเดินทางมันไม่ง่าย
ก่อนออกเดินทาง
คุณต้องเติมไฟให้ใจตัวเองด้วยเหตุผลที่ใช่
เชื้อเพลิงที่เหมาะสม
ที่จะเพียงพอไปตลอดเส้นทาง
เราทุกคนล้วนมีความสามารถ
ที่จะทำอะไรก็ได้
เพื่อให้ได้มันมา
คุณใส่แรงพยายามเข้าไป
ตาต่อตา
ให้มันได้โบยบิน
คุณมีมันได้
เป็นไปไม่ได้ น่ะหรือ
ไร้สาระน่า
คุณต้องเชื่อในตัวเอง
คุณต้องเชื่อในความฝันของคุณ
คุณต้องเชื่อว่า วันหนึ่งจะเป็นวันของคุณ
วันหนึ่ง
คุณจะเป็นเจ้าของช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่นั้น
ฟังให้ดี
เป็นไปไม่ได้ เป็นแค่คำใหญ่คำโต
ถามถึง.. สิ่งที่เป็นไปไม่ได้
[ ฟิลลิป เปอติท
ผู้เดินข้ามทวินทาวเวอร์
World Trade Center, NVC
ในเช้าวันที่ 7 สิงหาคม 1974 ]
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ
[ ฟิลลิป เปอติท
ผู้เดินข้ามทวินทาวเวอร์
World Trade Center, NVC
ในเช้าวันที่ 7 สิงหาคม 1974 ]
ล้วนถูกสร้างจากผู้คนที่ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
พี่น้องตระกูลไรท์
ตั้งคำถาม ในสิ่งที่ผู้คนบอกว่าเป็นไปไม่ได้
[ หนทางเดียวที่จะไปสู่ความสำเร็จ
จากผู้คนที่สำเร็จที่สุดในโลก ]
ความสำเร็จไม่ได้มาเป็นเส้นตรง
มันคดเคี้ยวราวกับลงลึกไปในหุบเหว
แล้วกลับขึ้นมาที่ยอดเขา
ผมพนันได้เลยว่า
คุณล้มเหลวมามากกว่าทุกคนในห้องนี้
ใช่ค่ะ
รู้มั้ย อย่ารอให้ดวงดาวมาจัดเรียงตัว
ในแบบที่คุณชอบ
สร้างกลุ่มดาวของคุณเอง
ผมก็มนุษย์คนนึง
ความเป็นมนุษย์ในตัวผม ไม่ต่างกับคุณเลย
สิ่งเดียวที่จะพาคุณไปให้ถึงที่นั่น
คือคุณห้ามหยุดที่จะเชื่อในทุก ๆ ทาง
ไม่ว่าใครจะพูดอะไร
ไม่สำคัญว่าใครจะบอกอะไรกับคุณ
คุณต้องรู้ว่ามันอยู่เหนือการรับรู้
คุณเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกใช่มั้ย
ในตอนนี้ ?
ผมคิดว่า "ใช่" นะ
ในจิตของผม ผมดีที่สุดเสมอ
ผมไม่สนว่าใครจะคิดอะไร หรือพูดอะไร
ในจิตของผม ไม่ใช่แค่ปีนี้ แต่เป็นมาเสมอ
ผมดีที่สุด ผมพูดแบบนี้เสมอแหละ
อย่ายอมให้ใคร เพื่อน ครอบครัว คนใกล้ชิด
ครู หรือใครก็ตาม
อย่ายอมให้ใครมาบอกคุณว่า
สิ่งที่คุณฝันเพื่อตัวเองและครอบครัวคุณนั้น
มันเป็นไปไม่ได้
มันเป็นไปได้
ได้โปรดเข้าใจผม
โปรดรับฟังสิ่งนี้จากใจผมหน่อย
สิ่งที่คุณต้องการมันเป็นไปได้!
ทั้งหมดที่คุณทำได้คือ
ปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไปในดิน รดน้ำ และเชื่อมั่น
นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ตอนนี้
คือการที่ผมไม่หยุดความเชื่อ
ผมไม่หยุดเชื่อ
ผมจะพูดว่า
จงเชื่อในทิศทางของคุณ และทำมัน
ใช้เวลาพูดถึงมันให้น้อยลง
ใช้เวลากับความพยายามทำให้มันยอดเยี่ยม
และเอามันออกมาให้ได้
[ ความสำเร็จ ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก
และการตัดสินใจ ]
วางตัวเองไว้ที่ความสำเร็จ
อย่างเช่น ถ้าคุณกำลังทำอย่างอื่นอยู่
และคุณอยากทำในสิ่งที่คุณรักนี้
คุณก็ทำมันหลังเลิกงาน
คุณทำงาน 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น กลับบ้าน
คุณจูบหมาคุณ แล้วคุณก็ลุยโลด
ใช่แล้ว
ผมหมายถึง คุณเริ่มสร้างตัว
สร้างแบรนด์ของคุณ
อะไรก็ตามที่คุณพยายามให้มันสำเร็จ
ถ้าคุณไม่ทำ
มันก็ไม่มีอะไรเป็นไปได้
ถ้าคุณทำ อย่างน้อยคุณก็มีความหวัง
น่าเศร้า ที่คนส่วนใหญ่ไม่แม้แค่ลองพยายาม
อืม.. คนส่วนใหญ่ลอง แล้วก็หยุด ไม่ก็ยอมแพ้
คนส่วนน้อยพยายาม พยายาม แล้วก็พยายาม
หรือทำ ทำ ทำ และทำ ไม่ยอมแพ้
และนั่นคือคนที่จะสำเร็จ
และชนะในที่สุด
ล้มเหลว 3 ครั้งติดเหรอ ?
อืม..
คุณคิดหรือว่ามันจะทำให้ผมยอมแพ้ได้ ?
ไม่มีทาง
ทำไมน่ะหรือ ?
ผมไม่เคย ยอมแพ้ แม้แต่ครั้งเดียว
ถ้าคุณต้องการสิ่งนี้ ถ้าคุณอยากได้อะไรปิ๊งปิ๊ง
ถ้าคุณอยากซื้อเครื่องบินเจ็ท
ทำงาน
นั่นคือวิธีที่คุณจะได้มันมา
ผมเชื่อเสมอว่า สะพานเชื่อม
ความจริงกับความฝัน ก็คือการทำงาน
ไม่มีไอเดียไหนใช้การได้
จนกว่าคุณจะกล้าลงมือทำ
ไอเดียที่ไม่มีการลงมือทำ คือการหลงผิด
เพราะคุณมีไอเดียที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกได้..
แต่.. คุณต้องวางเดิมพันกับตัวเอง
คุณไม่อาจคิดว่า ไอเดียหนึ่ง..
และวิธีที่คุณคิดว่ามันจะเกิดขึ้น
เป็นทางเดียวที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้
[ หาข้ออ้าง หรือ หาหนทาง
คุณเลือกได้! ]
ผมขอท้าพวกเราทุกคน ให้พูดว่า
"หยุดหาเหตุผล และข้ออ้างทั้งหลาย
อย่างที่คุณรู้ว่าเราเรียกกัน การพูดคุยของผู้แพ้
และ.. ไม่รู้สิ"
คุณก็แค่ต้องเต็มใจทำ
และมุ่งมั่นกับการทำให้มันเกิดขึ้น
มุ่งมั่นกับสิ่งเดียว
เรื่องเดียว
ทุ่มเทพลังทั้งหมดของคุณ กับเรื่องนั้น
ถ้าคุณรดน้ำกระจายไปกับเมล็ดพันธุ์มาก ๆ
จะไม่มีน้ำพอกับเมล็ดไหน ๆ เลย
ฉะนั้น จงมุ่งมั่นกับสิ่งเดียว
สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก สตีฟ จ็อบส์ คือ
ถ้าคุณเชื่อพอ คุณก็จะเห็นมัน..
เพราะคนอื่นจะเชื่อมันตามคุณ
คนอื่นจะผลิตสินค้า
ดังนั้น คุณต้องฟูมฟักความเชื่อในความฝันนั้น
เพื่อให้มันได้กลายเป็นความจริง
เราอ่านหนังสือมากมายเกี่ยวกับ
"จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ?"
แล้วคุณก็พบว่า
พวกเขาไม่เคยใส่ในหนังสือเลยซักบท
เมื่อพวกเขาหักหลังคนอ่าน
[ ไม่ต้องเป็นเหมือนใคร ]
ว่าคุณจะสำเร็จเหมือนพวกเขา
ในธุรกิจที่คุณไม่อยากทำ
เมื่อคุณอ่านคู่มือนี้
ลืมไปได้เลย
ผู้คนมักละเลยด้านมืด
ผมไม่แคร์
ว่าคุณกำลังทำงานที่ร้านแมคโดนัลด์หรือไม่
ผมไม่แคร์
ว่าคุณจะเป็นยามรึเปล่า
ผมไม่แคร์
ว่าคุณจะเรียนจบวิทยาลัย หรือ ม.ปลาย
ความยิ่งใหญ่และความรู้ระดับต่าง ๆ
มันอยู่ในตัวคุณอยู่แล้ว
ดังนั้นเมื่อทุกคนบอกคุณว่า
คุณไม่ดีพอ และคุณไม่มีเงินมากพอหรอก
ขนาดนั้นแล้ว
คุณก็ยังทำงานหนักต่อไป
คุณทุ่มเทต่อไป เพราะถ้าคุณหยุด
พวกเขาก็จะพูดว่า
"เฮ้ย ฉันบอกแล้วไง"
มีคนมากมายหัวเราะเยาะ
หลายคนพยายามบอกให้เราเลิก
หลายคนไม่เข้าใจ
หลายคนคงไม่พร้อม
แต่ผมอยากเตือนคุณ
ให้ฝันต่อไป
และฝันให้ใหญ่
และผู้เข้ารอบสุดท้ายก็คือ...
เขาไม่ได้เรียกชื่อฉัน
บอกฉันว่า "ฉันตกรอบ"
สู้เพื่อความฝันของคุณ
อย่าใช้ชีวิตบนความเสียใจ
ผมต้องการให้คุณจำไว้ว่า
ทุกครั้งที่คุณเดินอยู่ในห้องกับใครก็ตาม
รู้ไว้ว่า "คุณคือคนพิเศษ"
♫♫ MUSIC
รู้ไว้ว่า "คุณมีความหมายต่อโลกใบนี้"
ผมไม่แคร์ว่าคุณเริ่มจากไหน
ผมไม่สนใจ ว่าคุณบอกจะเป็น
ในสิ่งที่มันอาจเป็นไม่ได้
ผมเชื่อในตัวคุณ
ไม่ต้องแคร์
ว่าจะมีใครชอบสถานะของคุณหรือไม่
ไม่ต้องแคร์
ถ้าครอบครัวกำลังหันหลังให้คุณ
คนคิดลบจะคอยเข้ามาในชีวิตของคุณ
และทำลายคุณ
ยังมีความฝันที่ใหญ่กว่ากำลังรอคุณอยู่
รอแค่..
..ให้คุณก้าวเข้าไปหามัน
ก้าวเข้าไปหามัน
ชีวิตของคุณยิ่งใหญ่
ชีวิตของคุณยิ่งใหญ่มาก
และเราเสียเวลามากมาย
กับความอยากเข้าไปอยู่ในชีวิตของคนอื่น
เมื่อผมยังเด็ก หลายคนบอกผมว่า
"เธอต้องปรับตัวเพื่อให้เหมือนคนอื่น ๆ"
เธอต้องเป็นเหมือนคนอื่น ๆ
ผมฟังนะ แต่ผมไม่เคยทำตามเลย
ผมบอกว่า "ผมฟังนะ"
แต่ผมทำเรื่องของผมเอง
ผมยังทำเรื่องของผมต่อไป
และผมเชื่อในตัวเอง
ผมไปต่อ
และมันก็พาผมมายังที่ที่ผมอยู่ทุกวันนี้
ความมั่นใจ และความเชื่อมั่น
ในสิ่งที่คุณทำ
ผมคิดว่านั่นคือเป้าหมายสูงสุด
คุณต้องไม่หยุดยั้ง
คุณต้องไม่หลงระเริง
ไม่หยุด
ไม่เลิก
อย่ายอมให้ใครมาบอกให้คุณเลิก
ความฝัน วิสัยทัศน์ และไอเดียต่าง ๆ นั้น
พระเจ้าได้สร้างไว้ให้คุณ
ไม่สำคัญว่าคุณจะล้มลงกี่ครั้ง
มันอยู่ที่การลุกขึ้นได้ใหม่ต่างหาก
ดังนั้น ถ้าเด็ก ๆ มีพ่อแม่ โค้ช คุณครู
หรือใครก็ตามที่พวกเขาเชื่อ
คนที่คอยผลักดันพวกเขา เชื่อในตัวเขา
มาบอกพวกเขาว่า "ทำไม่ได้"
อย่าไปฟังคนพวกนั้น
เชื่อในตัวคุณเอง
บางครั้ง ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้เป็นไป
อย่างที่คุณต้องการเสมอไป
แต่ความล้มเหลวในชีวิต
ก็ไม่จีรังเช่นกัน
ฉันคือนายแห่งโชคชะตาของฉันเอง
ไม่จำเป็นต้องเข้าแถว
เพียงเพราะคนอื่นทำ
[ ผมรู้ว่างานของผมช่วยคนมากมาย
ให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตมาได้
และผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ]
[ ผมต้องการสร้างวิดีโอที่มีคุณภาพ
แต่เพื่อการนั้น ผมต้องขอให้คุณ
ใช้เนื้อหาที่ถูกลิขสิทธิ์
ในการสร้างวิดีโออย่างมืออาชีพ ]
[ โปรดช่วยสนับสนุนผมทาง Patreon.com/BEINSPIRED
ดูลิงค์ได้ในรายละเอียด .. ขอบคุณครับ! ]
คำบรรยายโดยชุมชน Amara.org