1 00:00:06,864 --> 00:00:10,657 เมื่อเราพูดถึงภาษาอังกฤษ เรามักจะคิดถึงมันเป็นเพียงภาษาหนึ่ง 2 00:00:10,657 --> 00:00:14,997 แต่ว่าภาษาถิ่นที่ใช้พูดกัน ในหลากหลายประเทศทั่วโลก 3 00:00:14,997 --> 00:00:17,050 มีอะไรที่เหมือนกัน 4 00:00:17,050 --> 00:00:18,980 หรือเหมือนกับงานประพันธ์ของเชาเซอร์ 5 00:00:18,980 --> 00:00:23,028 และมีสักเท่าไรที่เกี่ยวข้องกับคำแปลกๆ ในบทกวีมหากาพย์เบวูล์ฟ 6 00:00:23,028 --> 00:00:25,271 คำตอบก็คือเช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ 7 00:00:25,271 --> 00:00:28,326 ภาษาอังกฤษมีวิวัฒนาการผ่านผู้ใช้ภาษา จากรุ่นสู่รุ่น 8 00:00:28,326 --> 00:00:31,307 ผ่านการเปลี่ยนแปลงสำคัญต่างๆ ตามกาลเวลา 9 00:00:31,307 --> 00:00:33,340 เมื่อปลดเปลื้องการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ 10 00:00:33,340 --> 00:00:35,779 เราสามารถย้อนรอยภาษาจากในปัจจุบัน 11 00:00:35,779 --> 00:00:38,403 กลับไปยังรากเหง้าโบราณของมันได้ 12 00:00:38,403 --> 00:00:40,536 ขณะที่ภาษาอังกฤษยุคใหม่ มีคำคล้ายมากมายร่วมกับ 13 00:00:40,536 --> 00:00:42,938 ภาษาโรมานซ์ที่ถูกดัดแปลงมาจากภาษาละติน 14 00:00:42,938 --> 00:00:44,582 เช่น ภาษาฝรั่งเศสและภาษาสเปน 15 00:00:44,582 --> 00:00:47,723 คำส่วนใหญ่เหล่านั้นไม่ได้เป็น ส่วนหนึ่งของภาษามาตั้งแต่ต้น 16 00:00:47,723 --> 00:00:50,271 แต่ทว่า พวกมันเริ่มที่จะเข้ามาในภาษานี้ 17 00:00:50,271 --> 00:00:55,087 พร้อมกับการบุกรุกอังกฤษของชาวนอร์มัน ในปี ค.ศ. 1066 18 00:00:55,087 --> 00:00:57,632 เมื่อชาวนอร์มันผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศส ยึดครองอังกฤษ 19 00:00:57,632 --> 00:00:59,649 และกลายเป็นชนชั้นปกครอง 20 00:00:59,649 --> 00:01:01,793 พวกเขานำภาษาของพวกเขาเข้ามาด้วย 21 00:01:01,793 --> 00:01:05,267 เป็นการเพิ่มคำศัพท์ฝรั่งเศสและละตินจำนวนมาก 22 00:01:05,267 --> 00:01:08,286 ให้กับภาษาอังกฤษที่ที่นั่นใช้กันอยู่ก่อนหน้านี้ 23 00:01:08,286 --> 00:01:11,049 ทุกวันนี้เราเรียกภาษานั้นว่า ภาษาอังกฤษโบราณ (Old English) 24 00:01:11,049 --> 00:01:13,495 มันเป็นภาษาของเบวูล์ฟ 25 00:01:13,495 --> 00:01:15,609 มันอาจดูไม่เป็นที่คุ้นเคยมากนัก 26 00:01:15,609 --> 00:01:19,915 แต่มันเป็นที่คุ้นตามากขึ้น ถ้าคุณรู้ภาษาเยอรมัน 27 00:01:19,915 --> 00:01:23,807 นั่นเป็นเพราะว่า ภาษาอังกฤษโบราณ เป็นภาษาในตระกูลเยอรมันนิก 28 00:01:23,807 --> 00:01:27,595 ที่ถูกนำเข้ามายังหมู่เกาะบริติชเป็นครั้งแรก ในศตวรรษที่ 5 และ 6 29 00:01:27,595 --> 00:01:31,179 โดยชาวแองเกล แซกซอน และจูท 30 00:01:31,179 --> 00:01:35,901 ภาษาถิ่นเยอรมันนิกที่พวกเขาใช้กัน อาจเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แองโกล-แซกซอน 31 00:01:35,901 --> 00:01:38,931 ผู้บุกรุกชาวไวกิ้งในศตวรรษที่ 8 ถึง 11 32 00:01:38,931 --> 00:01:42,943 เพิ่มคำยืมจากภาษาเยอรมันโบราณ (Old Norse) เข้าไปอีก 33 00:01:42,943 --> 00:01:45,771 มันอาจจะไม่ง่ายนัก ที่จะเห็นรากของภาษาอังกฤษยุคใหม่ 34 00:01:45,771 --> 00:01:47,634 ภายใต้คำทั้งหมดนี้ที่ยืมมา 35 00:01:47,634 --> 00:01:51,738 จากภาษาฝรั่งเศส ละติน เยอรมันโบราณ และภาษาอื่นๆ 36 00:01:51,738 --> 00:01:56,904 แต่ภาษาศาสตร์เปรียบเทียบสามารถช่วยเรา ให้จดจ่อไปที่โครงสร้างทางไวยกรณ์ 37 00:01:56,904 --> 00:01:58,733 รูปแบบของการเปลี่ยนเสียง 38 00:01:58,733 --> 00:02:01,175 และคำศัพท์หลักบางคำ 39 00:02:01,175 --> 00:02:03,682 ยกตัวอย่างเช่น หลังจากศตวรรษที่ 6 40 00:02:03,682 --> 00:02:09,011 คำเยอรมันที่ขึ้นต้นด้วย "p" เปลี่ยนไปเป็นเสียง "pf" อย่างเป็นระบบ 41 00:02:09,011 --> 00:02:13,109 ในขณะที่ภาษาอังกฤษโบราณคู่ของมัน ยังคงเสียง "p" ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง 42 00:02:13,109 --> 00:02:16,977 อีกความแตกต่างหนึ่งคือ คำที่มีเสียง "sk" จากภาษาสวีดิช 43 00:02:16,977 --> 00:02:20,394 พัฒนาไปเป็นเสียง "sh" ในภาษาอังกฤษ 44 00:02:20,394 --> 00:02:23,236 ยังคงมีคำภาษาอังกฤษบางคำที่มี "sk" 45 00:02:23,236 --> 00:02:25,257 เช่น "skirt" และ "skull" 46 00:02:25,257 --> 00:02:27,988 แต่พวกมัน ถูกยืมมาจากภาษาเยอรมันโบราณโดยตรง 47 00:02:27,988 --> 00:02:31,781 ที่มาหลังจากการเปลี่ยน "sk" เป็น "sh" 48 00:02:31,781 --> 00:02:33,710 ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่า 49 00:02:33,710 --> 00:02:37,628 เช่นเดียวกับภาษาโรมานซ์ต่างๆ ที่มีรากมาจากภาษาละติน 50 00:02:37,628 --> 00:02:41,603 ภาษาอังกฤษ, สวีดิช, เยอรมัน และอีกหลายภาษา 51 00:02:41,603 --> 00:02:46,006 มีรากมาจากภาษาต้นตระกูลร่วมของพวกมัน ที่รู้จักกันในชื่อ โปรโต-เยอรมันนิค 52 00:02:46,006 --> 00:02:48,854 ที่ใช้กันในช่วง 500 ก่อนคริสกาล 53 00:02:48,854 --> 00:02:52,301 เพราะว่าภาษาโบราณนี้ไม่เคยถูกจารึก 54 00:02:52,301 --> 00:02:56,184 เราได้แต่บูรณะโครงสร้างมันขึ้นใหม่ โดยการเปรียบเทียบกับภาษาที่พัฒนามาจากมัน 55 00:02:56,184 --> 00:02:59,302 ซึ่งบางทีอาจต้องขอบคุณการเปลี่ยนแปลง ที่สม่ำเสมอ 56 00:02:59,302 --> 00:03:03,671 เราสามารถใช้กระบวนการเดียวกัน ย้อนขั้นตอนกลับขึ้นไป 57 00:03:03,671 --> 00:03:09,741 และย้อนจากภาษาโปรโต-เยอรมันนิค ไปยังภาษาที่เรียกว่า โปรโต-อินโด-ยูโรเปียน 58 00:03:09,741 --> 00:03:11,922 ที่ใช้กันราวๆ 6000 ปีก่อน 59 00:03:11,922 --> 00:03:16,512 ในพอนทิค สเตปป์ (Pontic steppe) ที่ตั้งในปัจจุบันของยูเครนและรัสเซีย 60 00:03:16,512 --> 00:03:20,843 นี่เป็นภาษาโบราณในตระกูล อินโด-ยูโรเปียนที่ได้รับการบูรณะ 61 00:03:20,843 --> 00:03:25,371 ที่รวมเอาเกือบทุกภาษา ที่ใช้กันในประวัติศาสตร์ยุโรป 62 00:03:25,371 --> 00:03:28,711 เช่นเดียวกับในส่วนใหญ่ของเอเชียใต้ และตะวันตก 63 00:03:28,711 --> 00:03:31,453 และแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นอีกนิด 64 00:03:31,453 --> 00:03:35,890 เราก็สามารถพบความคล้ายเชิงระบบ ที่เหมือนๆ กันหรือเกี่ยวข้องกัน 65 00:03:35,890 --> 00:03:39,864 ระหว่างคำที่เกี่ยวข้องกันในภาษาต่างๆ ในกลุ่มอินโด-ยูโรเปียน 66 00:03:39,864 --> 00:03:42,085 เมื่อเปรียบเทียบภาษาอังกฤษกับละติน 67 00:03:42,085 --> 00:03:45,690 เราจะเห็นว่าภาษาอังกฤษมี "t" ในขณะที่ภาษาละตินมี "d" 68 00:03:45,690 --> 00:03:49,728 และ "f" ในขณะที่ภาษาละตินมี "p" ที่ต้นคำ 69 00:03:49,728 --> 00:03:53,681 สำหรับภาษาที่ห่างจากภาษาอังกฤษไปมากกว่านั้น เช่น ฮินดี, เปอร์เซียน 70 00:03:53,681 --> 00:03:58,109 และเซลติก พวกมันถูกนำไปใช้ ในบริเวณที่ตอนนี้คืออังกฤษ 71 00:03:58,109 --> 00:04:02,769 โปรโต-อินโด-ยูโรเปียน เองนั้นมีรากมาจาก ภาษาที่โบราณไปมากกว่านั้น 72 00:04:02,769 --> 00:04:07,908 แต่เสียดาย ที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี 73 00:04:07,908 --> 00:04:10,088 พาเราย้อนเวลากลับไปได้ไกลสุดเท่านั้น 74 00:04:10,088 --> 00:04:12,280 ปริศนาอีกมากมายยังคงไกลเกินเอื้อม 75 00:04:12,280 --> 00:04:15,658 เช่น จริงหรือไม่ ที่มันอาจมีตัวเชื่อมระหว่าง อินโด-ยูโรเปียน 76 00:04:15,658 --> 00:04:17,842 และตระกูลภาษาหลักอื่นๆ 77 00:04:17,842 --> 00:04:22,522 และธรรมชาติของภาษาที่ใช้กันในยุโรป ก่อนที่ภาษานี้จะเข้ามาคืออะไร 78 00:04:22,522 --> 00:04:27,418 แต่ความจริงอันน่าอัศจรรย์คือ การที่คนเกือบสามพันล้านคนทั่วโลก 79 00:04:27,418 --> 00:04:29,980 ที่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจภาษาของอีกฝ่าย 80 00:04:29,980 --> 00:04:36,360 ยังพูดคำเดียวกันที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมา ด้วยประวัติศาสตร์ 6000 ปี