WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:02.000 ผมตัดสินใจเมื่อผมถูกขอให้มาพูดครั้งนี้ 00:00:02.000 --> 00:00:04.000 ว่าเรื่องที่ผมอยากพูดจริง ๆ ก็คือเรื่อง 00:00:04.000 --> 00:00:06.000 เพื่อนของผม ริชาร์ด ไฟยน์แมน 00:00:06.000 --> 00:00:08.000 ผมเป็นหนึ่งในคนโชคดีไม่กี่คน 00:00:08.000 --> 00:00:10.000 ที่ได้รู้จักกับเขาจริง ๆ 00:00:10.000 --> 00:00:12.000 และใช้เวลาร่วมกับเขา 00:00:12.000 --> 00:00:15.000 และผมจะบอกคุณถึง ริชาร์ด ไฟยน์แมน ที่ผมรู้จัก 00:00:15.000 --> 00:00:17.000 ผมแน่ใจว่ามีคนอื่นในที่นี้ 00:00:17.000 --> 00:00:19.000 ที่สามารถบอกคุณได้ เกี่ยวกับ ริชาร์ด ไฟยน์แมน ที่เขารู้จัก 00:00:19.000 --> 00:00:21.000 และอาจจะเป็น ริชาร์ด ไฟยน์แมน ที่แตกต่างกันออกไป NOTE Paragraph 00:00:21.000 --> 00:00:24.000 ริชาร์ด ไฟยน์แมน เป็นคนที่ลึกลับซับซ้อน 00:00:24.000 --> 00:00:26.000 เขาเป็นคนที่มีหลากหลายด้านมาก ๆ 00:00:26.000 --> 00:00:28.000 เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม 00:00:28.000 --> 00:00:31.000 เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ๆ 00:00:31.000 --> 00:00:34.000 เขาเป็นนักแสดง คุณได้เห็นเขาแสดงแล้ว 00:00:34.000 --> 00:00:37.000 ผมยังโชคดีที่เคยได้ฟังเขาสอน 00:00:37.000 --> 00:00:39.000 ที่ริมระเบียง 00:00:39.000 --> 00:00:41.000 พวกมันน่ามหัศจรรย์มาก 00:00:41.000 --> 00:00:43.000 เขาเป็นนักปราชญ์ 00:00:43.000 --> 00:00:45.000 เขาเป็นนักตีกลอง 00:00:45.000 --> 00:00:48.000 เขาเป็นครูที่ยอดเยื่ยม 00:00:48.000 --> 00:00:50.000 ริชาร์ด ไฟยน์แมน ยังเป็นคนจัดงานแสดงที่ดี 00:00:50.000 --> 00:00:52.000 คนจัดการแสดงที่ยิ่งใหญ่ 00:00:52.000 --> 00:00:56.000 เขาเป็นคนทะลึ่ง ไม่ชอบทำตามกฎ 00:00:56.000 --> 00:00:58.000 เขาเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว 00:00:58.000 --> 00:01:01.000 ลูกผู้ชายชนิดที่ต่อสู่ 00:01:01.000 --> 00:01:05.000 เขาชอบการแข่งขันที่ใช้เชาว์ 00:01:05.000 --> 00:01:09.000 เขามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก 00:01:09.000 --> 00:01:12.000 แตด้วยเหตุบางอย่าง เขากลับ 00:01:12.000 --> 00:01:14.000 เหลือพื้นที่ว่างในหัวใจ 00:01:14.000 --> 00:01:16.000 ที่ผมหมายความถึงคือ 00:01:16.000 --> 00:01:19.000 เท่าที่ผมรู้ เหลือพื้นที่ว่างเยอะ 00:01:19.000 --> 00:01:21.000 ผมไม่สามารถบอกคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นรู้ 00:01:21.000 --> 00:01:23.000 แต่ในกรณีของผม 00:01:23.000 --> 00:01:26.000 มีที่เหลือมากทีเดียว สำหรับความมั่นใจในตัวเองด้านอื่น ๆ 00:01:26.000 --> 00:01:28.000 ก็ ที่มันไม่มากเท่าทั้งหมดของเขา 00:01:28.000 --> 00:01:30.000 แต่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว 00:01:30.000 --> 00:01:33.000 ผมรู้สึกดีเสมอกับ ดิค ไฟยน์แมน NOTE Paragraph 00:01:33.000 --> 00:01:35.000 มันสนุกเสมอเมื่ออยู่กับเขา 00:01:35.000 --> 00:01:37.000 เขาทำให้ผมรู้สึกเก่งเสมอ 00:01:37.000 --> 00:01:39.000 ใครบางคนอย่างนั้นทำให้คุณรู้สึกเก่งได้อย่างไร 00:01:39.000 --> 00:01:41.000 อย่างไรก็ตามเขาทำได้ 00:01:41.000 --> 00:01:43.000 เขาทำให้ผมรู้สึกเก่ง เขายังทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเก่ง 00:01:43.000 --> 00:01:45.000 เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเราทั้งคู่เก่ง 00:01:45.000 --> 00:01:49.000 และเราทั้งคู่สามารถแก้ปัญหาอะไรก็ตาม 00:01:49.000 --> 00:01:52.000 และในความจริง เราทำฟิสิกส์ด้วยกัน 00:01:52.000 --> 00:01:54.000 เราไม่เคยตีพิมพ์ผลงานด้วยกัน 00:01:54.000 --> 00:01:57.000 แต่พวกเราก็ยังสนุกกันมาก 00:01:58.000 --> 00:02:00.000 เขาชอบการชนะ 00:02:00.000 --> 00:02:03.000 เกมลูกผู้ชายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราก็เล่นด้วยกันบางครั้ง 00:02:03.000 --> 00:02:06.000 แต่เขาก็ไม่ได่แค่เล่นกับผมคนเดียว เขาเล่นกับคนทุกแบบ 00:02:06.000 --> 00:02:08.000 เขามักจะได้รับชัยชนะเกือบทุกครั้ง 00:02:08.000 --> 00:02:11.000 แต่เมื่อเขาไม่ชนะ เมื่อเขาแพ้ 00:02:11.000 --> 00:02:14.000 เขาจะหัวเราะออกมาและดูเหมือนเขาจะมีความสุข 00:02:14.000 --> 00:02:16.000 ไม่ต่างอะไรกับตอนที่ชนะเลย NOTE Paragraph 00:02:16.000 --> 00:02:18.000 ผมยังคงจำได้ครั้งหนึ่งเมื่อเขาบอกเรื่องราว 00:02:18.000 --> 00:02:21.000 เกี่ยวกับเรื่องตลกที่ พวกนักศึกษาเล่นกับเขา 00:02:21.000 --> 00:02:23.000 พวกนั้นพาเขา ผมคิดว่าตอนนั้นเป็นวันเกิดเขานะ 00:02:23.000 --> 00:02:25.000 พวกนั้นชวนเขาไปทานอาหารเที่ยง 00:02:25.000 --> 00:02:27.000 พวนนั้นชวนเขาไปทานอาหารเที่ยง 00:02:27.000 --> 00:02:29.000 แซนวิชที่พาซาดีนา 00:02:29.000 --> 00:02:31.000 ร้านอาจจะยังอยู่นะ ผมก็ไม่รู้ 00:02:31.000 --> 00:02:34.000 ตอนนั้นแซนวิชคนดังกำลังฮิต 00:02:34.000 --> 00:02:36.000 คุณสามารถสั่งแซนวิช มาลิรีน มอนโร 00:02:36.000 --> 00:02:39.000 คุณสามารถสั่งแซนวิช ฮัมฟรีย์ โบการ์ต 00:02:39.000 --> 00:02:40.666 พวกนักเรียนศึกษาไปถึงที่นั้นก่อนเขา 00:02:42.332 --> 00:02:44.000 และพวกเขาตกลงกันให้ทุกคนจะสั่งแซนวิช ไฟยน์แมน 00:02:44.000 --> 00:02:47.000 ทุกคนทยอยกันเข้ามาแล้วสั่ง แซนวิช ไฟยน์แมน 00:02:47.000 --> 00:02:49.000 ไฟยน์แมน ชอบเรื่องนี้มาก 00:02:49.000 --> 00:02:53.000 เขาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง และเขามีความสุขมาก หัวเราะไม่หยุด 00:02:53.000 --> 00:02:56.000 เมื่อเขาเล่าเรื่องนี้จบ ผมพูดกับเขาว่า 00:02:56.000 --> 00:02:58.000 "ดิค ผมสงสัยจังว่าแซนวิช ไฟยน์แมน 00:02:58.000 --> 00:03:00.000 และแซนวิช ซุสคินด์จะต่างกันไหม" 00:03:00.000 --> 00:03:02.000 เขาไม่ได้หยุดคิดด้วยซ้ำ 00:03:02.000 --> 00:03:04.000 ตอนเขาตอบมาว่า "ใช่ มันเกือบจะเหมือนกัน 00:03:04.000 --> 00:03:07.000 สิ่งที่ต่างกันเพียงอย่างเดียวคือแซนวิช ซุสคินด์ จะมีแฮมมากกว่า" 00:03:07.000 --> 00:03:10.000 แฮม ที่เป็นสแลงว่า เล่นเว่อร์น่ะครับ 00:03:10.000 --> 00:03:12.000 (เสียงหัวเราะ) 00:03:12.000 --> 00:03:14.000 เคราะห์ดีที่สมองผมแล่นวันนั้น 00:03:14.000 --> 00:03:17.000 ผมพูดว่า "ใช่แต่มีบาโลนี (ไร้สาระ) น้อยกว่าเยอะเลย" 00:03:17.000 --> 00:03:20.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:20.000 --> 00:03:23.000 ความจริงของเรื่องนี้ NOTE Paragraph 00:03:23.000 --> 00:03:27.000 คือแซนวิชไฟยน์แมน 00:03:27.000 --> 00:03:29.000 มีแฮมเยอะมาก 00:03:29.000 --> 00:03:31.000 แต่ไม่มีบาโลนี(เรื่องลวงโลก)เลย 00:03:31.000 --> 00:03:34.000 สิ่งที่ ไฟยน์แมน เกลียดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด 00:03:35.000 --> 00:03:37.000 คือ การหลอกลวงทางปัญญา 00:03:37.000 --> 00:03:39.000 ไม่ฉลาด 00:03:39.000 --> 00:03:41.000 ความซับซ้อนจอมปลอม คำศัพท์แสลง 00:03:41.000 --> 00:03:44.000 ผมจำได้ครั้งหนึ่งระหว่างยุค 80 00:03:44.000 --> 00:03:47.000 ถึงกลางยุค 80 00:03:47.000 --> 00:03:49.000 ดิค ผม และ ซิตนีย์ โคลแมน 00:03:49.000 --> 00:03:51.000 ได้พบกันสองสามครั้ง 00:03:51.000 --> 00:03:53.000 ครั้งหนึ่งในซานฟรานซิตโกที่บ้านของมหาเศรษฐี 00:03:53.000 --> 00:03:56.000 ครั้งหนึ่งในซานฟรานซิตโกเพื่อทานอาหารเที่ยง 00:03:56.000 --> 00:03:58.000 และครั้งสุดท้ายเศรษฐีชวนพวกเรา 00:03:58.000 --> 00:04:01.000 เขายังชวนนักปราชญ์อีก 2-3 คน 00:04:01.000 --> 00:04:03.000 พวกเขาเป็นนักปราชญ์อย่างแท้จริง 00:04:03.000 --> 00:04:06.000 ความพิเศษของพวกเขาคือปรัชญาของสติ 00:04:06.000 --> 00:04:09.000 และพวกเขายังเต็มไปด้วยคำศัพท์สแลงทุกชนิด 00:04:09.000 --> 00:04:11.000 ผมพยายามจำคัพท์ 00:04:11.000 --> 00:04:14.000 "เอกนิยม" "เทวภาวะ" ทุกอย่างเลยล่ะครับ 00:04:14.000 --> 00:04:17.000 ผมไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ดิคก็ไม่เช่นกัน 00:04:17.000 --> 00:04:19.000 ซิตนีย์เองก็ไม่รู้ 00:04:19.000 --> 00:04:21.000 ส่วนพวกเราคุยกันเรื่องอะไรน่ะหรือ NOTE Paragraph 00:04:21.000 --> 00:04:23.000 แล้วคนทั่วไปพูดอะไรกันในหัวข้อ จิตใจละ 00:04:23.000 --> 00:04:26.000 หัวข้อยอดฮิตในเรื่องนี้คือ 00:04:26.000 --> 00:04:28.000 เครื่องจักรสามารถมีจิตใจได้หรือไม่ 00:04:28.000 --> 00:04:30.000 เราจะสามารถสร้างเครื่องจักร 00:04:30.000 --> 00:04:32.000 ที่คิดได้เหมือนมนุษย์ 00:04:32.000 --> 00:04:34.000 ที่มีสติสัมปชัญญะได้ไหม 00:04:34.000 --> 00:04:36.000 พวกเรานั้นล้อมวงกันและพูคคุยกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราไม่เคยแก้ปัญหานี้ได้ 00:04:36.000 --> 00:04:39.000 แต่ปัญหาเชิงปรัชญา 00:04:39.000 --> 00:04:41.000 คือว่าพวกเขาพูดจาเป็นปรัชญา 00:04:41.000 --> 00:04:43.000 ทั้ง ๆ ที่พวกเขาควรมีปรัชญาวิทยาศาสตร์ 00:04:43.000 --> 00:04:45.000 เพราะยังไง มันเป็นปัญหาเชิงวิทยาศาสตร์ 00:04:45.000 --> 00:04:48.000 และนี่เป็นเรื่องที่อันตรายเอามาก ๆ 00:04:48.000 --> 00:04:50.000 ที่เอามาพูดใกล้ดิค ไฟยน์แมน 00:04:50.000 --> 00:04:53.000 ไฟยน์แมนจัดการพวกนั้นไม่เหลือ แสกหน้าเลยทีเดียว 00:04:55.000 --> 00:04:58.000 มันโหดร้าย มันตลกมาก ตลกสุด ๆ 00:04:58.000 --> 00:05:01.000 แต่มันโหดร้ายจริง ๆ 00:05:01.000 --> 00:05:03.000 เขาตัดอารมณ์พวกนักปราชญ์สุด ๆ 00:05:03.000 --> 00:05:05.000 แต่สิ่งที่มหัศจรรย์คือ NOTE Paragraph 00:05:05.000 --> 00:05:07.000 ไฟยน์แมนได้ออกไปก่อนหน้านั้นสักครู่แล้ว 00:05:07.000 --> 00:05:09.000 เขารู้สึกไม่ค่อยดี เขาจึงออกไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย 00:05:09.000 --> 00:05:12.000 ก็เหลือแค่ซิตนีย์กับผมและพวกนักปราชญ์ 00:05:12.000 --> 00:05:15.000 และสิ่งที่น่าอัศจรรย์คือคนพวกนั้นดีใจกัน 00:05:15.000 --> 00:05:18.000 พวกเขามีความสุขมาก 00:05:18.000 --> 00:05:20.000 พวกเขาได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่ 00:05:20.000 --> 00:05:23.000 พวกเขาได้สร้างผู้ยิ่งใหญ่ 00:05:23.000 --> 00:05:25.000 พวกเขามีความสุขมาก ๆ 00:05:25.000 --> 00:05:27.000 ที่โดนพูดด่าแบบไม่ไว้หน้า 00:05:27.000 --> 00:05:30.000 และนั้นคือสิ่งพิเศษ 00:05:30.000 --> 00:05:33.000 ผมรู้ถึงนั้นคือสิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับ ไฟยน์แมน 00:05:33.000 --> 00:05:36.000 แม้เมื่อเขาทำพฤติกรรมแบบนั้นก็ตาม 00:05:36.000 --> 00:05:39.000 เป็นคนงี่เง่า เขาเป็นเพื่อนผม แต่ผมก็ว่าเขางี่เง่าจริง ๆ NOTE Paragraph 00:05:43.000 --> 00:05:46.000 ดิคและผมมีผลงานที่ตีพิมพ์นิดหน่อย 00:05:46.000 --> 00:05:48.000 ผมคิดว่ามันคือผลงานที่พิเศษที่เขาและผมมี 00:05:48.000 --> 00:05:51.000 พวกเราเหมือนกัน พวกเราชอบสิ่งเดียวกัน 00:05:51.000 --> 00:05:54.000 ผมยังชอบเกมเชาว์อีกด้วย 00:05:54.000 --> 00:05:58.000 บางครั้งผมก็ชนะ ส่วนใหญ่เขาชนะ 00:05:58.000 --> 00:06:00.000 แต่เราทั้งคู่สนุกกับมัน 00:06:00.000 --> 00:06:02.000 และดิคเชื่อมั่นมากว่า 00:06:02.000 --> 00:06:04.000 เขาและผมมีนิสัยส่วนตัวบางอย่างที่คล้ายกัน 00:06:04.000 --> 00:06:08.000 ผมไม่คิดว่าเขาถูก 00:06:08.000 --> 00:06:10.000 ผมคิดว่าจุดหนึ่งที่เหมือนกันระหว่างเรา 00:06:10.000 --> 00:06:12.000 คือเราทั้งคู่ชอบพูดเกี่ยวกับตัวเราเอง 00:06:12.000 --> 00:06:15.000 แต่เขาเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ 00:06:15.000 --> 00:06:17.000 และเขาอยากรู้อยากเห็น 00:06:17.000 --> 00:06:19.000 เขามีความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่น่าเชื่อ 00:06:19.000 --> 00:06:21.000 และเขาต้องการที่จะเข้าใจว่า มันคืออะไรและทำไมเป็นอย่างนั้น 00:06:21.000 --> 00:06:24.000 นั้นคือสิ่งความสัมพันธ์ที่น่าสนุก 00:06:24.000 --> 00:06:28.000 และวันหนึ่งพวกเรากำลังเดินอยู่ เราอยู่ที่ฝรั่งเศส NOTE Paragraph 00:06:28.000 --> 00:06:30.000 เราอยู่ที่ ลา ซูช (La Zouche) 00:06:30.000 --> 00:06:32.000 บนเขาในปี 1976 00:06:32.000 --> 00:06:34.000 พวกเราอยู่บนภูเขา และไฟยน์แมนพูดกับผม 00:06:34.000 --> 00:06:37.000 เขาพูดว่า "ลีโอนาโด" 00:06:37.000 --> 00:06:39.000 เหตุผลที่เขาเรียกผมลีโอนาโด 00:06:39.000 --> 00:06:41.000 เพราะพวกเราอยู่ในยุโรป 00:06:41.000 --> 00:06:43.000 และเขากำลังฝึกภาษาฝรั่งเศสของเขา 00:06:43.000 --> 00:06:46.000 และเขาพูด "ลีโอนาโด 00:06:46.000 --> 00:06:49.000 คุณสนิทกับพ่อหรือแม่ 00:06:49.000 --> 00:06:52.000 เมื่อตอนคุณยังเด็ก' 00:06:52.000 --> 00:06:54.000 และผมตอบว่า "อ่อ ฮีโร่จริง ๆ ของผมคือคุณพ่อ 00:06:54.000 --> 00:06:57.000 ท่านเป็นคนสู้งาน 00:06:57.000 --> 00:06:59.000 จบเกรด 5 00:06:59.000 --> 00:07:02.000 ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล และท่านสอนให้ผมใช้อุปกรณ์ 00:07:02.000 --> 00:07:04.333 ท่านสอนผมทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่องจักรกล 00:07:06.666 --> 00:07:09.000 ท่านสอนผมแม้กระทั้งทฤษฏีพิทากอรัส 00:07:09.000 --> 00:07:11.000 ท่านไม่ได้เรียกว่าด้านของสามเหลี่ยม 00:07:11.000 --> 00:07:13.000 ท่านเรียกว่าทางลัด 00:07:13.000 --> 00:07:16.000 และดวงตาของไฟยน์แมนของเบิกกว้างขึ้น 00:07:16.000 --> 00:07:18.000 มีประกายลุกเหมือนหลอดไฟ 00:07:18.000 --> 00:07:20.000 และเขาพูดว่าเขามี 00:07:20.000 --> 00:07:23.000 ความสัมพันธ์ที่เหมือนกันเลย 00:07:23.000 --> 00:07:25.000 กับพ่อของเขา 00:07:25.000 --> 00:07:27.000 ความจริง เขาเชื่อมั่นมากเลยครั้งหนึ่ง 00:07:27.000 --> 00:07:30.000 ว่าการเป็นนักฟิสิกส์ที่ดีได้ 00:07:30.000 --> 00:07:33.000 ตัวแปรที่สำคัญคือ 00:07:33.000 --> 00:07:35.000 ความสัมพันธ์แบบนั้นกับผู้เป็นพ่อ 00:07:35.000 --> 00:07:38.000 ผมขอโทษสำหรับบทสนทนาที่กีดกันทางเพศที่นี้ 00:07:38.000 --> 00:07:41.000 แต่มันเป็นแบบนั้นน่ะ 00:07:41.000 --> 00:07:43.000 เขาเชื่อมั่นเต็มหัวใจเลยว่านั่นคือ NOTE Paragraph 00:07:43.000 --> 00:07:47.000 ส่วนที่จำเป็นของการเติบโตของนักฟิสิกส์อายุน้อย 00:07:47.000 --> 00:07:51.000 เพราะเป็นดิค เขาต้องการตรวจสอบสิ่งนี้ 00:07:51.000 --> 00:07:54.000 เขาต้องการออกไปและทำการทดลอง 00:07:54.000 --> 00:07:56.000 ดังนั้น เขาทำมัน 00:07:56.000 --> 00:07:58.000 เขาออกไปและทำการทดลอง 00:07:58.000 --> 00:08:00.000 เขาถามเพื่อนของเขาทุกคน ที่เขาคิดว่าเป็นนักฟิสิกส์ที่ดี 00:08:00.000 --> 00:08:03.000 "ระหว่างพ่อกับแม่ใครเป็นคนที่มีอิทธิพลกับคุณ" 00:08:03.000 --> 00:08:06.000 ทุกคนเป็นผู้ชาย ผู้ชายทุกคน 00:08:06.000 --> 00:08:08.000 ผู้ชายทุกคนจริง ๆ 00:08:08.000 --> 00:08:10.000 บอกว่าแม่ 00:08:10.000 --> 00:08:12.000 (เสียงหัวเราะ) 00:08:12.000 --> 00:08:15.000 นั้นทำให้เราโยนทฤษฎีนี้ลงถังขยะ 00:08:15.000 --> 00:08:19.000 แต่เขาตื่นเต้นมาก เมื่อท้ายที่สุดเขาก็พบบางคนเข้าจนได้ 00:08:20.000 --> 00:08:23.000 คนที่มีประสบการณ์เหมือนกันกับพ่อของเขา 00:08:23.000 --> 00:08:26.000 ขณะที่เขาพูดว่าพ่อของเขา 00:08:26.000 --> 00:08:28.000 และในบางครั้ง เขาก็เชื่อว่า 00:08:28.000 --> 00:08:30.000 นี่คือเหตุผลที่พวกเราเข้ากันได้ดี 00:08:30.000 --> 00:08:32.000 ผมไม่รู้ อาจจะใช่ ใครจะรู้ 00:08:32.000 --> 00:08:34.000 แต่ผมจะบอกคุณอีกซักหน่อย NOTE Paragraph 00:08:34.000 --> 00:08:36.000 เกี่ยวกับนักฟิสิกส์ไฟยน์แมน 00:08:36.000 --> 00:08:39.000 สไตล์ของไฟยน์แมน 00:08:40.000 --> 00:08:42.000 ไม่ใช่ สไตล์ไม่ใช่คำที่ถูกต้อง 00:08:42.000 --> 00:08:44.000 สไตล์ทำให้คุณคิดถึงไทที่เขาผูก 00:08:44.000 --> 00:08:46.000 หรือชุดที่เขาสวม 00:08:46.000 --> 00:08:48.000 มีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น 00:08:48.000 --> 00:08:50.000 แต่ผมคิดคำอื่นไม่ออก 00:08:50.000 --> 00:08:52.000 สไตล์วิทยาศาสตร์ของไฟยน์แมน 00:08:52.000 --> 00:08:55.000 คือพยายามมองหาสิ่งที่ง่ายที่สุดเสมอ 00:08:55.000 --> 00:08:57.000 วิธีแก้ปัญหาที่พื้นฐานที่สุดที่เป็นไปได้ 00:08:57.000 --> 00:09:02.000 ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ ก็อาจจะต้องหาวิธีที่ยากขึ้น 00:09:02.000 --> 00:09:05.000 แต่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ส่วนหนึ่งของการทำแบบนี้ 00:09:05.000 --> 00:09:08.000 ทำให้เขามีความสุขมาก 00:09:08.000 --> 00:09:11.000 ที่แสดงให้ผู้คนเห็นว่า เขาสามารถทำให้มันง่ายกว่าที่คนอื่นทำ 00:09:11.000 --> 00:09:15.000 แต่เขายังคงเชื่ออย่างสุดใจ เขาเชื่อจริง ๆ 00:09:15.000 --> 00:09:18.000 ว่าถ้าคุณไม่สามารถอธิบายอย่างให้ง่ายได้แล้วล่ะก็ 00:09:18.000 --> 00:09:20.000 แปลว่าคุณยังไม่เข้าใจมัน 00:09:20.000 --> 00:09:23.000 ในปี 1950 ผู้คนพยายามที่จะแสดงว่า 00:09:23.000 --> 00:09:26.000 ของไหลยิ่งยวด (superfluid) ฮีเลียมทำงานอย่างไร 00:09:26.000 --> 00:09:28.000 มีทฤษฎี NOTE Paragraph 00:09:28.000 --> 00:09:30.000 ที่คิดค้นโดยนักฟิสิกส์คณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย 00:09:30.000 --> 00:09:32.000 เป็นทฤษฎีที่ซับซ้อน 00:09:32.000 --> 00:09:34.000 เดี๋ยวผมจะบอกคุณว่าทฤษฎีที่พูดว่าอะไร 00:09:34.000 --> 00:09:36.000 มันเป็นทฤษฏีที่โคตรยุ่งยาก 00:09:36.000 --> 00:09:38.000 เต็มไปด้วยปริพันธ์และสูตรผสมที่ยากมาก 00:09:38.000 --> 00:09:41.000 และหลักการคำนวณ ฯลฯ 00:09:41.000 --> 00:09:43.000 และมันใช้งานได้ แต่ใช้ได้ไม่ดีนัก 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 ทางเดียวที่มันใช้งานได้ 00:09:46.000 --> 00:09:48.000 คือเมื่ออะตอมฮีเลียมอยู่ไกลกันมาก ๆ 00:09:48.000 --> 00:09:51.000 ฮีเลียมอะตอมต้องอยู่ไกลกันมาก ๆ 00:09:51.000 --> 00:09:53.000 และโชคร้ายคืออะตอมฮีเรียมในสถานะของเหลว 00:09:53.000 --> 00:09:55.000 แต่ละอะตอมจะอยู่ใกล้กัน 00:09:55.000 --> 00:09:57.000 ไฟยน์แมนตัดสินใจ ด้วยความที่เป็นนักฟิสิกส์ฮีเลียมมือสมัครเล่น NOTE Paragraph 00:09:57.000 --> 00:10:00.000 ว่าจะลองทำมันดู 00:10:00.000 --> 00:10:03.000 เขามีไอเดีย ไอเดียที่ชัดเจนมาก 00:10:03.000 --> 00:10:05.000 เขาลองหาดูว่า 00:10:05.000 --> 00:10:07.000 ควอนตัมเวฟฟังก์ชัน 00:10:07.000 --> 00:10:09.000 ของอะตอมจำนวนมากเหล่านี้จะเป็นยังไง 00:10:09.000 --> 00:10:11.000 เขาพยายามทำให้เห็นภาพของมัน 00:10:11.000 --> 00:10:13.000 โดยใช้การนำของหลักการง่าย ๆ ไม่กี่ข้อ 00:10:13.000 --> 00:10:16.000 หลักการง่ายไม่กี่ข้อนั้นง่ายมาก ๆ 00:10:16.000 --> 00:10:19.000 อย่างแรกคือ 00:10:19.000 --> 00:10:21.000 เมื่ออะตอมฮีเลียมสัมผัสกันและกัน พวกมันจะผลักกัน 00:10:21.000 --> 00:10:24.000 แปลว่าเวฟฟังก์ชันจะกลายเป็นศูนย์ 00:10:24.000 --> 00:10:27.000 มันจะหายไปเมื่ออะตอมฮีเลียมสัมผัสกัน 00:10:27.000 --> 00:10:30.000 ความจริงอีกอย่าง 00:10:30.000 --> 00:10:32.000 ที่สถานะพื้น(ground state) สถานะที่มีพลังงานต่ำที่สุดของระบบควอนตัม 00:10:32.000 --> 00:10:35.000 ฟังก์ชันคลื่นเรียบมาก 00:10:35.000 --> 00:10:39.000 มีการสั่นที่น้อยที่สุด 00:10:39.000 --> 00:10:41.000 ดังนั้นเขานั้งลง NOTE Paragraph 00:10:41.000 --> 00:10:43.000 และผมคิดว่า เขาไม่มีอะไร 00:10:43.000 --> 00:10:45.000 มากกว่ากระดาษแผ่นนึงและดินสอ 00:10:45.000 --> 00:10:47.000 และเขาพยายามที่จะเขียนสูตรให้ได้ เขาเขียนออกมาจริง ๆ ครับ 00:10:47.000 --> 00:10:49.000 ฟังก์ชันที่ง่ายที่สุดที่เขาสามารถคิดได้ 00:10:49.000 --> 00:10:52.000 ซึ่งมีเงื่อนไขว่าเวฟของฟังก์ชั่นจะหายไป 00:10:52.000 --> 00:10:54.000 เมื่อวัตถุสัมผัสกัน 00:10:54.000 --> 00:10:56.000 และเรียบด้วย 00:10:56.000 --> 00:10:58.000 เขาเขียนสิ่งที่ง่ายที่สุด 00:10:58.000 --> 00:11:00.000 มันง่ายมากเสียจน 00:11:00.000 --> 00:11:02.000 ผมคิดว่านักเรียนมัธยมที่เก่ง ๆ 00:11:02.000 --> 00:11:04.000 ที่แม้จะไม่ได้เรียนแคลคูลัส 00:11:04.000 --> 00:11:06.000 สามารถเข้าใจว่าเขาเขียนอะไรลงไป 00:11:06.000 --> 00:11:09.000 เรื่องของเรื่องคือ เรื่องง่าย ๆ ที่เขาเขียนลงไป 00:11:09.000 --> 00:11:12.000 อธิบายได้ทุกอย่าง ที่เรารู้เกี่ยวกับฮีเลียมเหลวในเวลานั้น 00:11:12.000 --> 00:11:15.000 กับข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อย 00:11:15.000 --> 00:11:17.000 ผมสงสัยอยู่ตลอดเวลาล่ะครับ NOTE Paragraph 00:11:17.000 --> 00:11:19.000 ว่าพวกผู้เชี่ยวชาญ นักฟิสิกส์ที่เชี่ยวชาญเรื่องฮีเลียมตัวจริงน่ะ 00:11:19.000 --> 00:11:22.000 อับอายเพราะเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า 00:11:22.000 --> 00:11:25.000 พวกเขามีเทคนิคชั้นสูง 00:11:25.000 --> 00:11:26.333 แต่พวกเขาก็ยังทำมันได้ไม่ดีเท่า 00:11:27.666 --> 00:11:29.000 เผอิญเหลือเกิน ผมจะบอกให้เทคนิกชั้นสูงที่พวกเขาใช่น่ะ 00:11:29.000 --> 00:11:33.000 มันคือแผนภาพไฟยน์แมน (Feynman diagrams) 00:11:33.000 --> 00:11:36.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:11:36.000 --> 00:11:38.000 เขาทำมันอีกครั้งในปี 1968 NOTE Paragraph 00:11:38.000 --> 00:11:41.000 ในปี 1968 ที่มหา'ลัยของเรา 00:11:41.000 --> 00:11:43.000 ผมไม่ได้อยู่ที่นั้นตอนนั้น แต่ในปี1968 00:11:43.000 --> 00:11:46.000 พวกเขาสำรวจโครงสร้างของโปรตอน 00:11:46.000 --> 00:11:49.000 โปรตอนที่เกิดขึ้นมาจาก 00:11:49.000 --> 00:11:51.000 อนุภาคขนาดเล็กหลาย ๆ ตัวรวมกัน 00:11:51.000 --> 00:11:53.000 เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนรู้แน่ชัด 00:11:53.000 --> 00:11:55.000 และหนทางที่จะวิเคราะห์มันคือ ใช้แผนภาพไฟยน์แมน 00:11:55.000 --> 00:11:58.000 แผนภาพไฟยน์แมนถูกสร้างขึ้นเพื่อเหตุผลนั้น 00:11:58.000 --> 00:12:01.000 เพื่อให้เข้าใจอนุภาค 00:12:01.000 --> 00:12:03.000 การทดลองที่ทำอยู่นั้นง่ายมาก 00:12:03.000 --> 00:12:05.000 คุณแค่เอาโปรตอน 00:12:05.000 --> 00:12:07.000 และคุณชนมันด้วยอิเล็กตรอน 00:12:07.000 --> 00:12:09.000 นั้นคือสิ่งที่แผนภาพไฟยน์แมนถูกสร้างขึ้น 00:12:09.000 --> 00:12:12.000 ปัญหาเดียวที่มี 00:12:12.000 --> 00:12:14.000 คือแผนภาพไฟยน์แมนถูกทำให้ซับซ้อน 00:12:14.000 --> 00:12:16.000 เป็นปริพันธ์ที่ยาก 00:12:16.000 --> 00:12:18.000 ถ้าคุณสามารถทำมันได้ทั้งหมด คุณจะได้ทฤษฏีที่ถูกต้องมาก 00:12:18.000 --> 00:12:21.000 แต่คุณไม่สามารถทำได้ พวกมันซับซ้อนเกินไป 00:12:21.000 --> 00:12:24.000 ผู้คนพยายามที่จะทำมัน 00:12:24.000 --> 00:12:26.000 คุณสามารถทำมันได้ในหนึ่งรอบของแผนภาพ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหนึ่งรอบ 00:12:26.000 --> 00:12:29.000 หหนึ่งรอบ, สองรอบ บางทีอาจทำได้สามรอบของแผนภาพ 00:12:29.000 --> 00:12:32.000 แต่มากกว่านั้น คุณไม่สามารถทำมันได้แล้ว 00:12:32.000 --> 00:12:34.000 ไฟยน์แมน พูดว่า "ลืมเรื่องทั้งหมดของมันไปซะ NOTE Paragraph 00:12:34.000 --> 00:12:36.000 คิดถึงแค่โปรตอน 00:12:36.000 --> 00:12:38.000 เหมือนการรวมกลุ่มของอนุภาดเล็ก ๆ 00:12:38.000 --> 00:12:40.000 โขยงของอนุภาคเล็ก ๆ " 00:12:40.000 --> 00:12:42.000 เขาเรียกพวกมันว่าพาร์ตอน (parton) เขาเรียกพวกมันว่าพาร์ตอน 00:12:42.000 --> 00:12:45.000 เขาพูดว่า "ผมแค่คิดเกี่ยวกับมันเหมือนโขยงของพาร์ตอน 00:12:45.000 --> 00:12:47.000 เคลื่อนที่เร็วมาก" 00:12:47.000 --> 00:12:49.000 เพราะว่า พวกมันเคลื่อนที่เร็วมาก 00:12:49.000 --> 00:12:53.000 สัมพัทธภาพบอกเราว่าการเคลื่อนที่ภายในจะช้ามาก 00:12:53.000 --> 00:12:57.000 อิเล็กตรอนจะชนมันในทันทีทันใด 00:12:57.000 --> 00:12:59.000 มันเหมือนกับการถ่ายภาพในทันทีทันใดของโปรตอน 00:12:59.000 --> 00:13:02.000 เราจะเห็นอะไรหรือ 00:13:02.000 --> 00:13:04.000 คุณจะเห็นพวกพาร์ตอนหยุดนิ่ง 00:13:04.000 --> 00:13:09.000 พวกมันไม่เคลื่อนที่ และเพราะมันไม่เคลื่อนที่ 00:13:09.000 --> 00:13:11.000 ระหว่างช่วงเวลาทดลอง 00:13:11.000 --> 00:13:13.000 คุณจะไม่ต้องกังวลว่ามันจะเคลื่อนที่ 00:13:13.000 --> 00:13:15.000 คุณไม่ต้องกังวลถึงแรงระหว่างมัน 00:13:15.000 --> 00:13:17.000 คุณแค่คิดเกี่ยวกับมัน 00:13:17.000 --> 00:13:19.000 เหมื่อนกลุ่ม 00:13:19.000 --> 00:13:21.000 ของพาร์ตอนแช่แข็ง 00:13:21.000 --> 00:13:24.000 นี่แหละคือกุญแจของการวิเคราะห์การทดลองเหล่านั้น 00:13:24.000 --> 00:13:27.000 มีประสิทธิภาพมาก ๆ ทำได้จริง ๆ 00:13:27.000 --> 00:13:30.000 บางคนพูดว่าการปฏิวัติเป็นคำพูดที่ไม่ดี 00:13:30.000 --> 00:13:32.000 ผมสมมติว่ามันใช่ ดังนั้นผมจะไม่พูดว่าการปฏิวัติ 00:13:32.000 --> 00:13:35.000 แต่ที่แน่ ๆ มันได้พัฒนาความเข้าใจ 00:13:35.000 --> 00:13:38.000 ของเราในเรื่องโปรตอน 00:13:38.000 --> 00:13:41.000 และอนุภาคนอกจากนี้อย่างมาก 00:13:41.000 --> 00:13:43.000 ใช่ ผมมีเรื่องอีกนิดหน่อยที่อยากเล่า NOTE Paragraph 00:13:43.000 --> 00:13:45.000 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับไฟยน์แมน 00:13:45.000 --> 00:13:47.000 เขาเป็นคนยังไง 00:13:47.000 --> 00:13:49.000 แต่ผมพบว่าผมเหลือเวลาแค่ครึ่งนาที 00:13:49.000 --> 00:13:51.000 อ่อ ผมคิดว่าผมควรจะรีบจบได้แล้ว 00:13:51.000 --> 00:13:53.000 โดยการพูดว่าจริง ๆ แล้วผมไม่คิดว่า ไฟยน์แมนจะชอบเรื่องนี้เท่าไหร่ 00:13:53.000 --> 00:13:57.000 ผมคิดว่าเขาจะพูดว่า 00:13:57.000 --> 00:14:00.000 "ผมไม่ต้องการสิ่งนี้" 00:14:00.000 --> 00:14:03.000 แต่พวกเราควรให้เกียรติเขาอย่างไรดี 00:14:03.000 --> 00:14:06.000 พวกเราควรให้เกียรติเขาอย่างไรดี 00:14:06.000 --> 00:14:08.000 ผมคิดว่าคำตอบคือเราควรให้เกียรติไฟยน์แมน 00:14:08.000 --> 00:14:11.000 โดยการนำเรื่องหลอกลวงออกจาก 00:14:11.000 --> 00:14:13.000 แซนวิชของพวกเราให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ 00:14:13.000 --> 00:14:16.000 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:14:16.000 --> 00:14:18.000 (เสียงปรบมือ)