WEBVTT 00:00:00.915 --> 00:00:02.880 ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาพูดในวันนี้ NOTE Paragraph 00:00:02.880 --> 00:00:06.596 ผมศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรายได้ 00:00:06.596 --> 00:00:09.915 และการกระจายความมั่งคั่งมา 15 ปี 00:00:09.915 --> 00:00:13.016 บทเรียนหนึ่งที่น่าสนใจ 00:00:13.016 --> 00:00:15.517 ที่ได้จากการวิจัยนี้ 00:00:15.517 --> 00:00:17.530 คือ ในระยะยาว 00:00:17.530 --> 00:00:21.250 อัตราผลตอบแทนของทุนมีแนวโน้ม 00:00:21.250 --> 00:00:23.920 จะสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:00:23.920 --> 00:00:26.665 ทำให้เกิดการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง 00:00:26.665 --> 00:00:28.498 ถึงแม้จะไม่ใช่การกระจุกตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 00:00:28.498 --> 00:00:31.289 แต่ยิ่งช่องว่างระหว่าง r และ g กว้างขึ้น 00:00:31.289 --> 00:00:34.224 ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งก็ยิ่งสูงขึ้น 00:00:34.224 --> 00:00:37.431 ซึ่งสังคมมักโน้มเอียงไปเช่นนั้นในที่สุด NOTE Paragraph 00:00:37.431 --> 00:00:40.985 นี่คือปัจจัยหลักที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ 00:00:40.985 --> 00:00:42.954 แต่ผมขอออกตัวก่อนว่า 00:00:42.954 --> 00:00:45.284 นี่ไม่ใช่ปัจจัยหลักปัจจัยเดียว 00:00:45.284 --> 00:00:47.757 ที่มีผลต่อพลวัตของการกระจาย ของรายได้และความมั่งคั่ง 00:00:47.757 --> 00:00:49.794 ยังมีอีกหลายปัจจัย 00:00:49.794 --> 00:00:52.671 ที่มีบทบาทสำคัญต่อพลวัตในระยะยาว 00:00:52.671 --> 00:00:54.692 ของการกระจายรายได้และความมั่งคั่ง NOTE Paragraph 00:00:54.692 --> 00:00:56.296 และยังมีข้อมูลอีกมากมาย 00:00:56.296 --> 00:00:57.980 ที่เราต้องไปเก็บมาทดสอบ 00:00:57.980 --> 00:01:01.845 วันนี้ เรารู้อะไรมากขึ้นนิดหนึ่ง เทียบกับที่เคยรู้ 00:01:01.845 --> 00:01:03.626 แต่ก็นับว่าน้อยมาก 00:01:03.626 --> 00:01:05.989 และที่สำคัญ ก็ยังมีอีกหลายปัจจัย -- 00:01:05.989 --> 00:01:08.292 ทั้งเศรษฐกิจ, สังคม, การเมือง -- 00:01:08.292 --> 00:01:09.717 ที่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม 00:01:09.717 --> 00:01:12.702 วันนี้ แม้ผมจะพูดถึงปัจจัยง่าย ๆ นี้ 00:01:12.702 --> 00:01:14.957 แต่ไม่ได้แปลว่าปัจจัยสำคัญอื่น ๆ 00:01:14.957 --> 00:01:16.158 จะไม่มีความหมาย NOTE Paragraph 00:01:16.162 --> 00:01:18.434 ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ผมนำมาแสดง 00:01:18.434 --> 00:01:20.644 มาจากฐานข้อมูล 00:01:20.644 --> 00:01:21.734 ที่หาได้ในอินเทอร์เน็ต 00:01:21.734 --> 00:01:23.384 ข้อมูล World Top Income Database 00:01:23.384 --> 00:01:25.829 ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุด 00:01:25.829 --> 00:01:27.944 เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำ 00:01:27.944 --> 00:01:29.292 เป็นผลงานการรวบรวม 00:01:29.292 --> 00:01:33.180 ของนักวิจัยนานาชาติมากกว่า 30 ท่าน 00:01:33.180 --> 00:01:35.959 มาดูข้อสรุปที่เราได้ 00:01:35.959 --> 00:01:37.109 จากฐานข้อมูลนี้กันก่อน 00:01:37.109 --> 00:01:39.451 แล้วเราจะกลับไปพูดถึง r ที่สูงกว่า g อีกครั้ง 00:01:39.451 --> 00:01:41.693 ข้อเท็จจริงประการแรกคือ 00:01:41.693 --> 00:01:44.740 ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ในสหรัฐฯ และยุโรป 00:01:44.740 --> 00:01:47.073 เปลี่ยนแปลงแบบสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง 00:01:47.073 --> 00:01:48.638 ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา 00:01:48.638 --> 00:01:52.003 ในปี 1900, 1910 นั้น ความเหลื่อมล้ำของรายได้ 00:01:52.003 --> 00:01:54.670 ในยุโรปนั้น สูงกว่าในสหรัฐฯ มาก 00:01:54.670 --> 00:01:57.280 ในขณะที่วันนี้ ความเหลื่อมล้ำในสหรัฐฯ สูงกว่ามาก 00:01:57.280 --> 00:01:58.946 ผมขอขยายความหน่อยว่า 00:01:58.946 --> 00:02:01.770 เหตุผลไม่ได้มาจาก r ที่สูงกว่า g 00:02:01.770 --> 00:02:05.936 แต่มาจากการเปลี่ยนแปลง ของอุปสงค์และอุปทานในทักษะ, 00:02:05.936 --> 00:02:08.712 การแข่งขันระหว่างการศึกษาและเทคโนโลยี, 00:02:08.720 --> 00:02:11.811 โลกาภิวัฒน์, และการเข้าถึงแหล่งความรู้ 00:02:11.811 --> 00:02:14.202 และทักษะที่ไม่เสมอภาคกันในสหรัฐ 00:02:14.202 --> 00:02:16.493 ที่ที่คุณมีมหาวิทยาลัยระดับท็อป 00:02:16.493 --> 00:02:18.282 แต่ระบบการศึกษาในระดับล่าง 00:02:18.282 --> 00:02:19.501 กลับไม่ดีเท่าไหร่ 00:02:19.501 --> 00:02:22.091 ทำให้เกิดความไม่เสมอภาค ในการเข้าถึงแหล่งทักษะความรู้ 00:02:22.091 --> 00:02:24.467 รวมถึงรายได้ผู้บริหารระดับสูงในสหรัฐฯ 00:02:24.467 --> 00:02:27.053 ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 00:02:27.053 --> 00:02:30.170 จนยากจะอธิบายได้ โดยใช้เพียงระดับการศึกษา 00:02:30.170 --> 00:02:31.874 แล้วก็ยังมีอีกหลายปัจจัย 00:02:31.874 --> 00:02:34.213 แต่ผมจะไม่พูดถึงมันมากในวันนี้ 00:02:34.213 --> 00:02:36.879 เพราะผมอยากจะพุ่งประเด็นไปที่ ความเหลื่อมล้ำทางฐานะ NOTE Paragraph 00:02:36.879 --> 00:02:40.057 ผมจะพูดถึงตัวชี้วัดง่ายๆ 00:02:40.057 --> 00:02:42.325 ของความเหลื่อมล้ำทางรายได้ 00:02:42.325 --> 00:02:44.424 นี่คือส่วนแบ่งของรายได้ทั้งหมด 00:02:44.424 --> 00:02:46.523 ที่อยู่ในมือของกลุ่มคนรวยที่สุด 10% แรก 00:02:46.523 --> 00:02:48.624 คุณจะเห็นได้ว่า เมื่อร้อยปีก่อน 00:02:48.624 --> 00:02:52.201 อยู่ในระดับ 45-50% ในยุโรป 00:02:52.201 --> 00:02:54.939 และสูงกว่า 40% เล็กน้อย ในสหรัฐ 00:02:54.939 --> 00:02:57.390 ความเหลื่อมล้ำในยุโรปจึงสูงกว่าสหรัฐ 00:02:57.390 --> 00:02:59.764 จากนั้น ความเหลื่อมล้ำลดลงอย่างรวดเร็ว 00:02:59.764 --> 00:03:01.765 ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 00:03:01.765 --> 00:03:04.128 และในช่วงทศวรรษหลังๆ มานี้ คุณจะเห็นได้ว่า 00:03:04.128 --> 00:03:07.630 ความเหลื่อมล้ำในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นกว่าในยุโรป 00:03:07.630 --> 00:03:10.300 และนี่คือข้อเท็จจริงแรกที่ผมพูดถึง 00:03:10.300 --> 00:03:14.211 ข้อเท็จจริงที่สอง เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:03:14.211 --> 00:03:17.301 ข้อค้นพบสำคัญของเรื่องนี้ คือความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งนั้น 00:03:17.301 --> 00:03:19.907 จะสูงกว่าความเหลื่อมล้ำของรายได้เสมอ 00:03:19.907 --> 00:03:22.292 และแม้ว่าความไม่เท่าเทียมด้านความมั่งคั่ง 00:03:22.292 --> 00:03:24.945 จะเพิ่มขึ้นในระยะหลังๆ มานี้ 00:03:24.945 --> 00:03:26.801 ก็ยังไม่สูงเท่า 00:03:26.801 --> 00:03:28.680 ที่เคยเป็นเมื่อร้อยปีก่อน 00:03:28.680 --> 00:03:31.199 ถึงแม้ว่าระดับความมั่งคั่งโดยรวม 00:03:31.199 --> 00:03:32.504 เมื่อเทียบกับรายได้นั้น 00:03:32.504 --> 00:03:34.475 ได้ฟื้นตัวจากผลกระทบ ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 00:03:34.475 --> 00:03:37.010 ที่เกิดจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ 00:03:37.010 --> 00:03:38.449 และสงครามโลกครั้งที่ 2 NOTE Paragraph 00:03:38.449 --> 00:03:40.143 ผมจะให้ดูกราฟ 2 กราฟ 00:03:40.143 --> 00:03:43.000 ที่แสดงข้อเท็จจริงข้อที่ 2 และ 3 00:03:43.000 --> 00:03:47.390 เริ่มต้นจากระดับความเหลื่อมล้ำ ของความมั่งคั่ง 00:03:47.390 --> 00:03:50.823 นี่คือสัดส่วนของความมั่งคั่ง 00:03:50.823 --> 00:03:53.496 ที่ครอบครองโดยกลุ่มที่รวยที่สุด 10% 00:03:53.496 --> 00:03:55.879 ซึ่งคุณจะเห็นแนวโน้มที่สวนทางกัน 00:03:55.879 --> 00:03:57.516 ระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป 00:03:57.516 --> 00:04:00.323 แบบเดียวกับในกราฟความเหลื่อมล้ำ ของรายได้ที่เราได้เห็นไปแล้ว 00:04:00.323 --> 00:04:02.820 การกระจุกตัวของความมั่งคั่งในยุโรป 00:04:02.820 --> 00:04:05.092 จึงสูงกว่าในสหรัฐฯ เมื่อร้อยปีก่อน 00:04:05.092 --> 00:04:07.664 แต่ตอนนี้ สถานการณ์กลับตรงข้ามกัน 00:04:07.664 --> 00:04:09.638 นอกจากนี้ คุณจะเห็นอีกสองประเด็นคือ 00:04:09.638 --> 00:04:13.339 หนึ่งคือระดับความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:04:13.339 --> 00:04:15.994 จะสูงกว่าระดับความเหลื่อมล้ำทางรายได้เสมอ 00:04:15.994 --> 00:04:18.334 กลับไปที่เรื่องความเหลื่อมล้ำทางรายได้ 00:04:18.334 --> 00:04:20.662 สัดส่วนรายได้ในมือคนรวยที่สุด 10% แรก 00:04:20.662 --> 00:04:24.460 อยู่ที่ 30-50% ของรายได้ทั้งหมด 00:04:24.460 --> 00:04:26.956 ในขณะที่ ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งนั้น 00:04:26.956 --> 00:04:29.831 สัดส่วนอยู่ระหว่าง 60% และ 90% เสมอ 00:04:29.831 --> 00:04:31.347 และนี่ก็คือข้อเท็จจริงข้อแรก 00:04:31.347 --> 00:04:33.273 ซึ่งสำคัญมากสำหรับเรื่องที่ผมจะพูดต่อไป 00:04:33.273 --> 00:04:34.994 คือการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง 00:04:34.994 --> 00:04:36.873 จะสูงกว่าการกระจุกตัวของรายได้เสมอ NOTE Paragraph 00:04:36.873 --> 00:04:39.389 ข้อเท็จจริงข้อที่สองคือ 00:04:39.389 --> 00:04:43.206 การเติบโตของความเหลื่อมล้ำ ของความมั่งคั่งในระยะหลัง ๆ 00:04:43.206 --> 00:04:47.492 ยังไม่กลับไปสูงเท่ากับเมื่อปี 1910 00:04:47.492 --> 00:04:49.269 ความแตกต่างที่เห็นชัดในวันนี้ 00:04:49.269 --> 00:04:51.182 คือความไม่เท่าเทียมทางฐานะยังคงสูงมาก 00:04:51.182 --> 00:04:54.444 คือ 60-70% ของความมั่งคั่งทั้งหมด ถูกครอบครองโดยกลุ่มที่รวยที่สุด 10% 00:04:54.444 --> 00:04:56.289 แต่ข่าวดีก็คือ จริง ๆ แล้ว 00:04:56.289 --> 00:04:58.300 ปัจจุบันนี้ก็ยังดีกว่าเมื่อร้อยปีที่แล้ว 00:04:58.300 --> 00:05:01.441 ที่ 90% ของความมั่งคั่งในยุโรป อยู่ในมือคนรวยที่สุด 10% 00:05:01.441 --> 00:05:02.902 ขณะที่ปัจจุบัน 00:05:02.902 --> 00:05:05.434 เรามีกลุ่มที่ผมเรียกว่า กลุ่มชนชั้นกลาง 40% 00:05:05.434 --> 00:05:07.347 คือ คนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสูงสุด 10% 00:05:07.347 --> 00:05:09.120 แต่ก็ไม่ได้อยู่ต่ำกว่า 50% 00:05:09.120 --> 00:05:11.386 ซึ่งคุณอาจจะมองว่าเป็นชนชั้นกลางมีฐานะ 00:05:11.386 --> 00:05:14.529 ที่ถือครองประมาณ 20-30% 00:05:14.529 --> 00:05:16.391 ของความมั่งคั่งทั้งหมดของประเทศ 00:05:16.391 --> 00:05:19.722 ซึ่งกลุ่มนี้เคยเป็นคนจนเมื่อศตวรรษที่แล้ว 00:05:19.722 --> 00:05:22.340 ตอนที่ยังไม่มีชนชั้นกลางที่มีฐานะเกิดขึ้น 00:05:22.340 --> 00:05:23.917 นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 00:05:23.917 --> 00:05:28.532 ที่น่าสนใจคือ ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:05:28.532 --> 00:05:31.838 ยังไม่ย้อนกลับไปสูงถึงระดับยุค ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 00:05:31.838 --> 00:05:35.347 แม้ว่าปริมาณความมั่งคั่งโดยรวมนั้น ได้ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว 00:05:35.347 --> 00:05:37.294 นี่คือมูลค่ารวมทั้งหมด 00:05:37.294 --> 00:05:39.510 ของความมั่งคั่งต่อรายได้ 00:05:39.510 --> 00:05:41.623 คุณจะเห็นว่า โดยเฉพาะในยุโรป 00:05:41.623 --> 00:05:45.483 ความมั่งคั่งเกือบจะฟื้นกลับไป เท่าระดับก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 00:05:45.483 --> 00:05:47.328 ดังนั้น เรากำลังพูดถึง 00:05:47.328 --> 00:05:49.859 สองด้านที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ 00:05:49.859 --> 00:05:50.978 ด้านแรกเกี่ยวกับ 00:05:50.978 --> 00:05:53.420 ปริมาณความมั่งคั่งมวลรวมที่เราสั่งสม 00:05:53.420 --> 00:05:55.098 ซึ่งไม่ได้เลวร้ายอะไร 00:05:55.098 --> 00:05:56.845 ที่เราสั่งสมความมั่งคั่งนี้ 00:05:56.845 --> 00:05:59.713 โดยเฉพาะถ้ามีการกระจายตัวมากขึ้น 00:05:59.713 --> 00:06:01.107 และกระจุกตัวน้อยลง 00:06:01.107 --> 00:06:03.852 แต่สิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญ 00:06:03.852 --> 00:06:06.233 คือ วิวัฒนาการของ ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:06:06.233 --> 00:06:08.533 และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 00:06:08.533 --> 00:06:10.558 เราจะอธิบายอย่างไร 00:06:10.558 --> 00:06:14.220 ว่าทำไมช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น ความเหลื่อมล้ำทางฐานะจึงสูงมาก 00:06:14.220 --> 00:06:17.410 ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ 00:06:17.410 --> 00:06:20.737 แล้วอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? NOTE Paragraph 00:06:20.737 --> 00:06:24.623 คราวนี้ มาพูดถึงคำอธิบายของเหตุการณ์นี้ 00:06:24.623 --> 00:06:26.759 และความน่าจะเป็นในอนาคตกันบ้าง 00:06:26.759 --> 00:06:28.354 ผมขอพูดก่อนว่า 00:06:28.354 --> 00:06:30.341 วิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้อธิบาย 00:06:30.341 --> 00:06:32.438 เหตุที่การกระจุกตัวของความมั่งคั่ง 00:06:32.438 --> 00:06:34.624 สูงกว่าการกระจุกตัวของรายได้ 00:06:34.624 --> 00:06:37.736 น่าจะเป็นโมเดลพลวัตการสืบทอดมรดก 00:06:37.736 --> 00:06:40.200 ที่ผู้คนมองกลยุทธ์ระยะยาว 00:06:40.200 --> 00:06:42.956 และสะสมทรัพย์สมบัติด้วยเหตุผลหลายประการ 00:06:42.956 --> 00:06:45.566 หากผู้คนเพิ่มพูนความมั่งคั่ง 00:06:45.566 --> 00:06:47.569 เพียงเพื่อประทังชีวิตตัวเอง 00:06:47.569 --> 00:06:49.582 เช่น เอาไว้จับจ่ายใช้สอย 00:06:49.582 --> 00:06:51.169 เมื่อแก่ตัวลง 00:06:51.169 --> 00:06:53.542 หากเป็นเช่นนั้น ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:06:53.542 --> 00:06:55.859 น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ 00:06:55.859 --> 00:06:57.828 ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ 00:06:57.828 --> 00:06:59.596 แต่มันยากที่จะอธิบาย 00:06:59.596 --> 00:07:01.810 ว่าทำไมเราจึงมี ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:07:01.810 --> 00:07:03.434 สูงกว่าความเหลื่อมล้ำทางรายได้มาก 00:07:03.434 --> 00:07:04.710 หากดูจากช่วงชีวิตคนคนเดียว 00:07:04.710 --> 00:07:06.551 ดังนั้น เราจึงต้องมองจากมุม 00:07:06.551 --> 00:07:08.149 ที่ผู้คนสะสมทรัพย์สมบัติ 00:07:08.149 --> 00:07:10.960 ด้วยเหตุผลนอกเหนือจากนั้นด้วย 00:07:10.960 --> 00:07:12.884 โดยทั่วไป ผู้คนต้องการส่งต่อ 00:07:12.884 --> 00:07:15.800 ทรัพย์สมบัติไปสู่ลูกหลานรุ่นต่อไป 00:07:15.800 --> 00:07:17.978 หรือเขาอาจต้องการสะสมความมั่งคั่ง 00:07:17.978 --> 00:07:20.426 เพื่อเกียรติยศ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ 00:07:20.426 --> 00:07:22.040 ดังนั้น ต้องมีเหตุผลอื่นๆ 00:07:22.040 --> 00:07:24.620 ที่คนสะสมความมั่งคั่ง นอกเหนือจากเพียงเพื่อประทังชีวิต 00:07:24.620 --> 00:07:26.888 ที่จะนำมาอธิบายข้อมูลต่างๆ นี้ได้ 00:07:26.888 --> 00:07:30.234 ทีนี้ ในภาพใหญ่ของโมเดลพลวัต 00:07:30.234 --> 00:07:32.210 ของการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง 00:07:32.210 --> 00:07:35.768 ซึ่งมีเจตนาสะสมและสืบทอดความมั่งคั่ง 00:07:35.768 --> 00:07:38.614 คุณจะเห็นว่ามีปัจจัยที่ส่งผลกระทบ 00:07:38.614 --> 00:07:39.537 มากมายหลายอย่าง 00:07:39.537 --> 00:07:41.786 เช่น บางครอบครัว 00:07:41.786 --> 00:07:43.473 ที่มีลูกหลายคน 00:07:43.473 --> 00:07:45.239 ทรัพย์สมบัติก็ถูกแบ่งกระจายออกไป 00:07:45.239 --> 00:07:47.129 แต่บางครอบครัวก็มีลูกน้อยคน 00:07:47.129 --> 00:07:49.017 คุณจะได้เห็นผลกระทบของอัตราผลตอบแทน 00:07:49.017 --> 00:07:51.524 บางครอบครัวได้กำไรมหาศาล จากส่วนต่างของราคาหลักทรัพย์ 00:07:51.524 --> 00:07:53.409 บางครอบครัวขาดทุน จากการลงทุนที่ผิดพลาด 00:07:53.409 --> 00:07:55.490 คุณจะเห็นการขยับตัว 00:07:55.490 --> 00:07:56.928 ของความมั่งคั่งอยู่ตลอดเวลา 00:07:56.928 --> 00:07:59.303 บ้างก็มีฐานะสูงขึ้น บ้างก็แย่ลง 00:07:59.303 --> 00:08:00.955 ประเด็นที่สำคัญคือ 00:08:00.955 --> 00:08:01.965 ไม่ว่าจะใช้โมเดลใด 00:08:01.965 --> 00:08:04.521 กับปัจจัยกระตุ้นใดก็ตาม 00:08:04.521 --> 00:08:06.557 สภาวะสมดุลของความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:08:06.557 --> 00:08:11.394 เท่ากับค่าฟังก์ชั่นของ r ลบด้วย g ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 00:08:11.394 --> 00:08:14.263 และโดยธรรมชาติ สาเหตุที่ผลต่าง 00:08:14.263 --> 00:08:16.107 ระหว่างอัตราผลตอบแทนจากความมั่งคั่ง 00:08:16.107 --> 00:08:17.942 กับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นสำคัญ 00:08:17.942 --> 00:08:20.174 ก็เพราะความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง 00:08:20.174 --> 00:08:22.565 จะขยายกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ 00:08:22.565 --> 00:08:24.634 จาก r ลบ g ที่ใหญ่ขึ้น 00:08:24.634 --> 00:08:26.108 ตัวอย่างง่าย ๆ 00:08:26.108 --> 00:08:29.874 เมื่อ r เท่ากับ 5% และ g เท่ากับ 1% 00:08:29.874 --> 00:08:31.982 คนรวยต้องใช้เงินเพียง 1 ใน 5 00:08:31.982 --> 00:08:34.621 ของรายได้ทั้งหมดของเขาไปลงทุน 00:08:34.621 --> 00:08:37.354 เพื่อให้อัตราการโตของทรัพย์สินของเขา 00:08:37.354 --> 00:08:39.267 เร็วเท่ากับการโตของเศรษฐกิจ 00:08:39.267 --> 00:08:40.650 นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ 00:08:40.650 --> 00:08:42.416 การสร้างความร่ำรวยไม่รู้จบได้ง่ายดาย 00:08:42.416 --> 00:08:44.681 เพราะคุณสามารถใช้เงิน 4 ใน 5 สำหรับจับจ่าย 00:08:44.681 --> 00:08:46.110 สมมุติว่าไม่มีภาษี 00:08:46.110 --> 00:08:47.771 และลงทุนเพียง 1 ใน 5 00:08:47.771 --> 00:08:50.359 แน่นอนว่าบางครอบครัวใช้จ่ายมากกว่านั้น 00:08:50.359 --> 00:08:52.102 และบางครอบครัวก็ใช้จ่ายน้อยกว่า 00:08:52.102 --> 00:08:53.857 เลยเกิดการเคลื่อนที่ของความมั่งคั่ง 00:08:53.857 --> 00:08:56.703 แต่โดยเฉลี่ยคือต้องลงทุนเพียง 1 ใน 5 00:08:56.703 --> 00:09:00.472 และนี่คือสิ่งที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำ ของความมั่งคั่งคงอยู่ต่อ NOTE Paragraph 00:09:00.472 --> 00:09:02.969 ในตอนนี้ คุณคงไม่แปลกใจ 00:09:02.969 --> 00:09:06.505 ที่อัตรา r จะสูงกว่า g ตลอดไป 00:09:06.505 --> 00:09:08.121 เพราะนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดมา 00:09:08.121 --> 00:09:10.192 ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ 00:09:10.192 --> 00:09:13.543 และมันค่อนข้างชัดเจนสำหรับทุกคน 00:09:13.543 --> 00:09:15.321 ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:09:15.321 --> 00:09:16.988 อยู่ในระดับใกล้ 0% 00:09:16.988 --> 00:09:19.265 มาตลอดประวัติศาสตร์มนุษยชาติ 00:09:19.265 --> 00:09:22.662 อาจจะเท่ากับ 0.1% 0.2% หรือ 0.3% 00:09:22.662 --> 00:09:24.658 แต่มีการเติบโตอย่างช้า ๆ ของจำนวนประชากร 00:09:24.658 --> 00:09:26.655 และผลผลิตต่อหัว 00:09:26.655 --> 00:09:28.539 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของทุน 00:09:28.539 --> 00:09:30.395 แน่นอน ไม่ได้อยู่ในระดับ 0% 00:09:30.395 --> 00:09:32.431 ในกรณีของที่ดิน 00:09:32.431 --> 00:09:34.240 ซึ่งเป็นทรัพย์สินรูปแบบดั้งเดิม 00:09:34.240 --> 00:09:36.641 มาตั้งแต่ยุคก่อนอุตสาหกรรม 00:09:36.641 --> 00:09:38.404 ซึ่งอยู่ในระดับประมาณ 5% 00:09:38.404 --> 00:09:42.190 แฟนนิยายของ เจน ออสติน น่าจะรู้ดี 00:09:42.190 --> 00:09:45.098 หากคุณต้องการมีรายได้ 1,000 ปอนด์ต่อปี 00:09:45.098 --> 00:09:46.740 คุณควรมีทรัพย์สินเริ่มต้นที่มูลค่า 00:09:46.740 --> 00:09:48.596 20,000 ปอนด์ 00:09:48.596 --> 00:09:51.146 เพื่อให้ 1 ใน 5 ของ 20,000 เท่ากับ 1,000 00:09:51.146 --> 00:09:53.422 จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ 00:09:53.422 --> 00:09:55.698 ถือเป็นรากฐานสำคัญของสังคมเลย 00:09:55.698 --> 00:09:57.976 เพราะ r ที่ใหญ่กว่า g 00:09:57.976 --> 00:10:02.100 ทำให้คนที่มีทรัพย์สินมากมาย 00:10:02.100 --> 00:10:04.790 เลี้ยงตัวเองได้ ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุน 00:10:04.790 --> 00:10:07.490 และหันไปทำกิจกรรมอื่น 00:10:07.490 --> 00:10:10.685 นอกเหนือจากการหาเลี้ยงประทังชีพได้ NOTE Paragraph 00:10:10.685 --> 00:10:12.845 บทสรุปสำคัญจากการวิเคราะห์ข้อมูล 00:10:12.845 --> 00:10:14.836 จากประวัติศาสตร์เหล่านี้ คือ 00:10:14.836 --> 00:10:17.547 การเติบโตของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ 00:10:17.547 --> 00:10:20.371 กลับไม่ส่งผลต่อสภาพการณ์นี้ มากอย่างที่เราคาดคิดเลย 00:10:20.371 --> 00:10:22.050 แน่นอน อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:10:22.050 --> 00:10:23.858 ในช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม 00:10:23.858 --> 00:10:28.180 ปรับตัวสูงขึ้น จาก 0% เป็น 1% เป็น 2% 00:10:28.180 --> 00:10:29.740 แต่ในขณะเดียวกัน 00:10:29.740 --> 00:10:31.755 อัตราผลตอบแทนของทุนก็เพิ่มขึ้นด้วย 00:10:31.755 --> 00:10:34.180 ช่องว่างระหว่างสองอย่างนี้ 00:10:34.180 --> 00:10:35.636 จึงไม่เปลี่ยนไปเลย 00:10:35.636 --> 00:10:37.886 ในศตวรรษที่ 20 00:10:37.886 --> 00:10:40.530 เราได้ผ่านเหตุการณ์พิเศษหลายๆ อย่าง 00:10:40.530 --> 00:10:42.547 อย่างแรก คือ อัตราผลตอบแทนที่ต่ำมาก 00:10:42.547 --> 00:10:45.563 ซึ่งเกิดจากสงครามเมื่อปี 1914 และ 1945 00:10:45.563 --> 00:10:47.868 และจากการล่มสลายของความมั่งคั่ง, ภาวะเงินเฟ้อ 00:10:47.868 --> 00:10:49.848 และการล้มละลาย ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ 00:10:49.848 --> 00:10:51.513 เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ 00:10:51.513 --> 00:10:53.263 อัตราผลตอบแทน 00:10:53.263 --> 00:10:55.158 ลดลงอย่างน่าใจหาย 00:10:55.158 --> 00:10:57.497 ระหว่างปี ค.ศ. 1914 และ 1945 00:10:57.497 --> 00:10:59.333 แล้วในช่วงหลังสงคราม 00:10:59.333 --> 00:11:02.573 เศรษฐกิจก็เติบโตในอัตราสูงกว่าปกติ 00:11:02.573 --> 00:11:04.944 ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากการบูรณะ และฟื้นฟูประเทศ 00:11:04.944 --> 00:11:06.869 ในเยอรมัน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น 00:11:06.869 --> 00:11:08.420 มีอัตราการเติบโตถึง 5% 00:11:08.420 --> 00:11:11.370 ระหว่างปี ค.ศ. 1950 และ 1980 00:11:11.370 --> 00:11:13.213 ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจากการบูรณะและฟื้นฟู 00:11:13.213 --> 00:11:15.564 และจากการขยายตัวของประชากรอย่างรวดเร็ว 00:11:15.564 --> 00:11:17.705 เป็นผลจากยุคเบบี้บูม 00:11:17.705 --> 00:11:20.143 แต่เราเห็นว่าเหตุการณ์นั้น จะไม่คงอยู่เป็นเวลานาน 00:11:20.143 --> 00:11:21.822 อย่างน้อย อัตราการเพิ่มประชากร 00:11:21.822 --> 00:11:25.161 มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคต 00:11:25.161 --> 00:11:28.242 และการคาดการณ์ที่ดีที่สุดตอนนี้ 00:11:28.242 --> 00:11:30.070 บอกเราว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:11:30.070 --> 00:11:31.493 จะอยู่ประมาณ 1% หรือ 2% 00:11:31.493 --> 00:11:33.439 แทนที่จะเป็น 4% หรือ 5% 00:11:33.439 --> 00:11:35.676 ถ้าคุณดูที่กราฟนี้ 00:11:35.676 --> 00:11:37.957 นี่คือค่าประมาณการเติบโตของ 00:11:37.957 --> 00:11:39.913 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั่วโลก 00:11:39.913 --> 00:11:42.272 และอัตราผลตอบแทนจากทุน 00:11:42.272 --> 00:11:44.338 และค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนจากทุน 00:11:44.338 --> 00:11:46.955 คุณจะเห็นว่าในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่ผ่านมา 00:11:46.955 --> 00:11:48.558 อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:11:48.558 --> 00:11:50.392 ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนจากทุนอยู่มาก 00:11:50.392 --> 00:11:52.754 แต่แล้ว ในศตวรรษที่ 20 00:11:52.754 --> 00:11:54.768 จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นสูงมาก 00:11:54.768 --> 00:11:56.782 หลังจากสงครามสงบ 00:11:56.782 --> 00:11:58.797 และการบูรณะก่อสร้าง 00:11:58.797 --> 00:12:00.345 ทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 00:12:00.345 --> 00:12:01.893 มาอยู่ในระดับใกล้เคียง 00:12:01.893 --> 00:12:03.441 กับอัตราผลตอบแทนจากทุน 00:12:03.441 --> 00:12:06.964 ผมใช้ประมาณการจำนวนประชากร ของสหประชาชาติ 00:12:06.964 --> 00:12:09.440 ข้อมูลพวกนี้ จึงยังเปลี่ยนแปลงได้ 00:12:09.440 --> 00:12:10.831 เป็นไปได้ว่า พวกเราอาจ 00:12:10.831 --> 00:12:12.937 มีลูกเพิ่มขึ้นในอนาคต 00:12:12.937 --> 00:12:15.702 อัตราการเพิ่มประชากร ก็จะสูงขึ้น 00:12:15.702 --> 00:12:16.951 แต่ในเวลานี้ 00:12:16.951 --> 00:12:19.753 นี่คือประมาณการดีที่สุดเท่าที่เรามี 00:12:19.753 --> 00:12:21.687 มันแปลว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:12:21.687 --> 00:12:24.443 จะลดลง และช่องว่างระหว่าง 00:12:24.443 --> 00:12:26.446 อัตราผลตอบแทนของทรัพย์สินจะสูงขึ้น NOTE Paragraph 00:12:26.446 --> 00:12:29.308 เหตุการณ์พิเศษอีกอย่าง 00:12:29.308 --> 00:12:30.979 ในศตวรรษที่ 20 00:12:30.979 --> 00:12:32.308 อย่างที่ผมกล่าวไว้ 00:12:32.308 --> 00:12:34.624 เช่น การตกต่ำของเศรษฐกิจ การเก็บภาษีทรัพย์สิน 00:12:34.624 --> 00:12:37.359 นี่คืออัตราผลตอบแทนก่อนหักภาษี 00:12:37.359 --> 00:12:40.338 ส่วนนี่คืออัตราผลตอบแทนหลังหักภาษี 00:12:40.338 --> 00:12:41.904 หลังเศรษฐกิจตกต่ำ 00:12:41.904 --> 00:12:43.681 ซึ่งทำให้ 00:12:43.681 --> 00:12:45.369 อัตราเฉลี่ยของผลตอบแทน 00:12:45.369 --> 00:12:47.158 หลังหักภาษี หลังเศรษฐกิจพัง 00:12:47.158 --> 00:12:49.578 อยู่ต่ำกว่าอัตราการเติบโต ของเศรษฐกิจเป็นเวลานาน 00:12:49.578 --> 00:12:51.252 แต่ ถ้าหากเศรษฐกิจไม่พัง 00:12:51.252 --> 00:12:53.727 และไม่มีภาษี สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น 00:12:53.727 --> 00:12:56.970 สรุปคือ ความสมดุลระหว่าง 00:12:56.970 --> 00:12:59.326 อัตราผลตอบแทนจากทุนและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:12:59.326 --> 00:13:01.188 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย 00:13:01.188 --> 00:13:03.273 ที่ยากจะคาดเดา 00:13:03.273 --> 00:13:05.388 เทคโนโลยีและการพัฒนา 00:13:05.388 --> 00:13:07.972 การผลิตที่ใช้ทุนมาก (capital-intensive) 00:13:07.972 --> 00:13:10.991 ตอนนี้ เรามีการพัฒนาแบบนี้มาก 00:13:10.991 --> 00:13:14.367 ในภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 00:13:14.367 --> 00:13:17.229 พลังงาน แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ 00:13:17.229 --> 00:13:20.941 ว่าเราจะนำหุ่นยนต์มาใช้เยอะขึ้น ในหลากหลายอุตสาหกรรม 00:13:20.941 --> 00:13:22.830 แล้วจะมีสัดส่วนใหญ่ขึ้นในตลาด 00:13:22.830 --> 00:13:24.740 เมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งหมด 00:13:24.740 --> 00:13:26.734 แต่ก็ยังอีกไกลจากวันนี้ 00:13:26.734 --> 00:13:28.500 และจากนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น 00:13:28.500 --> 00:13:30.289 ในภาคอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน 00:13:30.289 --> 00:13:32.415 เป็นส่วนสำคัญหลักทั้งในทรัพย์สินรวม 00:13:32.415 --> 00:13:33.549 และในการจัดสรรตลาดอีกด้วย NOTE Paragraph 00:13:33.549 --> 00:13:35.582 สิ่งสำคัญอีกประเด็น 00:13:35.582 --> 00:13:37.732 คือ ขนาดของการลงทุน 00:13:37.732 --> 00:13:40.151 ผนวกเข้ากับหลักทางการเงินที่ซับซ้อน 00:13:40.151 --> 00:13:41.601 การควบคุมการเงินที่หละหลวม 00:13:41.601 --> 00:13:44.310 ทำให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นได้ง่ายขึ้น 00:13:44.310 --> 00:13:45.937 ในพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่มาก 00:13:45.937 --> 00:13:48.600 ซึ่งจะเห็นได้เยอะในหมู่มหาเศรษฐี 00:13:48.600 --> 00:13:50.582 ที่มีกำลังลงทุนสูง 00:13:50.582 --> 00:13:52.872 ผมจะพูดถึงตัวอย่างหนึ่ง 00:13:52.872 --> 00:13:56.205 เป็นข้อมูลจากการจัดอันดับมหาเศรษฐี 00:13:56.205 --> 00:13:59.535 โดยนิตยสารฟอร์บส์ ระหว่างปี ค.ศ. 1987-2013 00:13:59.535 --> 00:14:02.323 คุณจะเห็นว่ากลุ่มที่รวยที่สุด 00:14:02.323 --> 00:14:05.440 รวยขึ้นประมาณ 6-7% ต่อปี 00:14:05.440 --> 00:14:07.831 มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ 00:14:07.831 --> 00:14:10.203 ในขณะที่รายได้เฉลี่ยในโลก 00:14:10.203 --> 00:14:11.566 และความมั่งคั่งเฉลี่ยในโลก 00:14:11.566 --> 00:14:14.949 ขยายตัวเพียง 2% ต่อปี 00:14:14.949 --> 00:14:16.678 คุณจะเห็นตัวอย่างแบบนี้ 00:14:16.678 --> 00:14:17.954 ในมหาวิทยาลัยที่ทุนหนา 00:14:17.954 --> 00:14:20.222 การลงทุนเริ่มต้นยิ่งมีมูลค่าสูงเท่าไหร่ 00:14:20.222 --> 00:14:22.290 อัตราผลตอบแทนจะยิ่งสูงขึ้น NOTE Paragraph 00:14:22.290 --> 00:14:23.968 แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง? 00:14:23.968 --> 00:14:26.364 สิ่งแรกสุด ผมคิดว่าเราจำเป็น 00:14:26.364 --> 00:14:28.479 ต้องเพิ่มความโปร่งใสทางการเงิน 00:14:28.479 --> 00:14:32.320 เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายของเงินน้อยมาก 00:14:32.320 --> 00:14:34.220 เราจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลการโอน 00:14:34.220 --> 00:14:35.482 ข้อมูลจากธนาคาร 00:14:35.482 --> 00:14:38.168 เราควรมีการจดทะเบียนทรัพย์สินของโลก 00:14:38.168 --> 00:14:40.659 มีการร่วมมือกันในการเก็บภาษีคนรวย 00:14:40.659 --> 00:14:43.771 ซึ่งไม่จำเป็นต้องเก็บในอัตราสูง 00:14:43.771 --> 00:14:45.987 เพื่อให้เราสามารถเก็บข้อมูล 00:14:45.987 --> 00:14:48.669 แล้วนำมาปรับให้เข้ากับนโยบาย 00:14:48.669 --> 00:14:50.505 บนพื้นฐานของข้อมูลเหล่านั้นต่อไป 00:14:50.505 --> 00:14:52.343 ในระดับหนึ่ง การต่อสู้กับ 00:14:52.343 --> 00:14:53.824 การหนีภาษี 00:14:53.824 --> 00:14:55.639 และการโอนข้อมูลอัตโนมัติ 00:14:55.639 --> 00:14:57.490 ก็กำลังผลักดันเราไปในทางนั้นอยู่แล้ว 00:14:57.490 --> 00:14:59.814 ทีนี้ การกระจายความมั่งคั่งก็มีอีกหลายวิธี 00:14:59.814 --> 00:15:02.771 ที่ดูน่าสนใจ 00:15:02.771 --> 00:15:04.127 เช่น การสร้างภาวะเงินเฟ้อ 00:15:04.127 --> 00:15:05.826 การพิมพ์ธนบัตรเพิ่มนั้น 00:15:05.826 --> 00:15:07.981 ง่ายกว่าการออกภาษีใหม่ จึงดูเป็นวิธีที่น่าทำ 00:15:07.981 --> 00:15:10.101 แต่บางครั้งเราไม่รู้ว่าจะใช้เงินนั้นทำอะไร 00:15:10.101 --> 00:15:11.748 ซึ่งก็เป็นปัญหา 00:15:11.748 --> 00:15:13.611 การเวนคืนก็น่าสนใจ 00:15:13.611 --> 00:15:15.872 เมื่อใดที่เห็นใครรวยเกินไป 00:15:15.872 --> 00:15:17.166 ก็ไปเวนคืนกลับมา 00:15:17.166 --> 00:15:18.878 แต่มันไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพ 00:15:18.878 --> 00:15:21.711 ในการบริหารการกระจายตัวของความมั่งคั่ง 00:15:21.711 --> 00:15:24.190 สงครามก็ยิ่งเป็นวิธี ที่มีประสิทธิภาพน้อยลงไปอีก 00:15:24.190 --> 00:15:26.526 ทำให้ผมจึงเอียงไปในการเก็บภาษีแบบขั้นบันได 00:15:26.526 --> 00:15:28.790 แต่แน่นอน ประวัติศาสตร์ (หัวเราะ) 00:15:28.790 --> 00:15:30.955 ประวัติศาสตร์จะสร้างวิธีดีที่สุดให้ตัวเอง 00:15:30.955 --> 00:15:32.533 ซึ่งน่าจะประกอบไปด้วย 00:15:32.533 --> 00:15:34.267 สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้ NOTE Paragraph 00:15:34.267 --> 00:15:36.133 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:15:36.133 --> 00:15:38.270 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:15:38.270 --> 00:15:43.829 บรูโน่ กิอุสสานี: คุณโธมัส พิคเก้ตตี้ ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:15:43.829 --> 00:15:45.708 โธมัส ผมอยากถามซัก 2-3 คำถามนะครับ 00:15:45.708 --> 00:15:49.567 ข้อมูลต่างๆ ที่คุณนำเสนอในวันนี้น่าทึ่งมาก 00:15:49.567 --> 00:15:53.361 คุณกำลังเสนอว่า 00:15:53.361 --> 00:15:54.934 การกระจุกตัวของความมั่งคั่ง 00:15:54.934 --> 00:15:56.858 เป็นแนวโน้มทางธรรมชาติในระบบทุนนิยม 00:15:56.858 --> 00:16:00.396 แล้วถ้าเราปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น 00:16:00.396 --> 00:16:02.636 มันก็อาจจะทำลายตัวเองในที่สุด 00:16:02.636 --> 00:16:04.362 คุณจึงแนะนำว่าเราควรเริ่มลงมือ 00:16:04.362 --> 00:16:07.400 วางนโยบายเพื่อให้เกิด การกระจายตัวของความมั่งคั่ง 00:16:07.400 --> 00:16:09.121 อย่างตัวอย่างที่เราชมไป 00:16:09.121 --> 00:16:10.592 เช่น ภาษีขั้นบันได เป็นต้น 00:16:10.592 --> 00:16:12.731 ในบริบทของสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน 00:16:12.731 --> 00:16:14.722 จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน? 00:16:14.722 --> 00:16:16.533 คุณคิดว่าเป็นไปได้แค่ไหน 00:16:16.533 --> 00:16:18.277 ที่สิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาปฏิบัติ? NOTE Paragraph 00:16:18.277 --> 00:16:19.488 โธมัส พิคเก้ตตี้: ผมคิดว่า 00:16:19.488 --> 00:16:21.269 หากคุณมองย้อนกลับไป 00:16:21.269 --> 00:16:23.920 ประวัติศาสตร์ของรายได้ ความมั่งคั่ง และภาษี 00:16:23.920 --> 00:16:25.522 นั้นเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน 00:16:25.522 --> 00:16:28.127 ผมไม่ค่อยมั่นใจ 00:16:28.127 --> 00:16:29.695 คนที่พูดว่า 00:16:29.695 --> 00:16:31.326 อนาคตจะเกิดอะไรหรือไม่เกิดอะไร 00:16:31.326 --> 00:16:33.030 ผมคิดว่า เมื่อศตวรรษก่อน 00:16:33.030 --> 00:16:34.599 คงมีหลายคนกล่าวไว้ว่า 00:16:34.599 --> 00:16:36.737 การเก็บภาษีแบบขั้นบันไดไม่มีวันเกิดขึ้นได้ 00:16:36.737 --> 00:16:38.257 แต่แล้ว มันก็เกิดขึ้น 00:16:38.257 --> 00:16:40.246 หรือแม้แต่เมื่อห้าปีที่แล้ว 00:16:40.246 --> 00:16:42.598 หลายคนเชื่อว่าข้อมูลธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์ 00:16:42.598 --> 00:16:44.623 จะเป็นความลับตลอดไป 00:16:44.623 --> 00:16:46.411 มีความเชื่อว่าสวิสเซอร์แลนด์ 00:16:46.411 --> 00:16:47.900 เป็นประเทศมหาอำนาจ 00:16:47.900 --> 00:16:50.861 แต่แล้ว สหรัฐก็ออกกฎต่างๆ ออกมา 00:16:50.861 --> 00:16:53.483 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับธนาคารสวิส 00:16:53.483 --> 00:16:55.186 แล้วตอนนี้ เรากำลังเดินไปสู่ 00:16:55.186 --> 00:16:56.862 ความโปร่งใสทางการเงินยิ่งขึ้นไปอีก 00:16:56.862 --> 00:17:01.143 ผมคิดว่า มันไม่ยากเกินไป 00:17:01.143 --> 00:17:03.612 ที่จะมีการร่วมมือกันในส่วนการเมือง 00:17:03.612 --> 00:17:05.670 เพื่อร่างสนธิสัญญาร่วมกัน 00:17:05.670 --> 00:17:08.719 โดยมีกลุ่มประเทศที่มี GDP ครึ่งหนึ่งของโลก 00:17:08.719 --> 00:17:10.721 สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป 00:17:10.721 --> 00:17:12.847 ถ้าหาก GDP ครึ่งหนึ่งของโลกไม่พอ 00:17:12.847 --> 00:17:15.513 ที่จะผลักดันให้เกิดความโปร่งใสทางการเงิน 00:17:15.513 --> 00:17:19.597 หรือแม้แต่ทำให้มีการ จัดเก็บภาษีขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติ 00:17:19.597 --> 00:17:21.261 แล้วเราจะทำอะไรได้อีก? 00:17:21.261 --> 00:17:24.884 ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยากในเชิงเทคนิค 00:17:24.884 --> 00:17:26.808 ผมคิดว่าเราสามารถก้าวหน้าต่อไปได้ 00:17:26.808 --> 00:17:29.395 หากเราเน้นแนวทางปฏิบัติที่ตอบโจทย์นี้ 00:17:29.395 --> 00:17:31.296 และกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสม 00:17:31.296 --> 00:17:34.287 เพื่อจับตามองกลุ่มคนที่ ได้รับประโยชน์จากความไม่โปร่งใส NOTE Paragraph 00:17:34.287 --> 00:17:35.940 บรูโน่: ข้อโต้แย้งอีกอย่าง 00:17:35.940 --> 00:17:37.373 เกี่ยวกับมุมมองของคุณ 00:17:37.373 --> 00:17:38.935 คือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐศาสตร์ 00:17:38.935 --> 00:17:42.452 ไม่ใช่แค่ลักษณะอย่างหนึ่งของระบบทุนนิยม แต่เป็นกลไกหลักเลย 00:17:42.452 --> 00:17:45.253 ถ้าเราลงมือต่อสู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ 00:17:45.253 --> 00:17:47.660 การเติบโตของเศรษฐกิจก็จะลดลงตามกันไปด้วย 00:17:47.660 --> 00:17:49.220 คุณจะตอบพวกเขาอย่างไรบ้างครับ? NOTE Paragraph 00:17:49.220 --> 00:17:50.949 โธมัส: ใช่ครับ ผมคิดว่าความเหลื่อมล้ำ 00:17:50.949 --> 00:17:52.838 ไม่ใช่ปัญหาในตัวมันเอง 00:17:52.838 --> 00:17:54.878 ผมคิดว่า การมีความเหลื่อมล้ำในระดับหนึ่ง 00:17:54.878 --> 00:17:57.530 มีประโยชน์ต่อนวัตกรรม และการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:17:57.530 --> 00:17:59.723 ปัญหาอยู่ที่ ระดับของมัน 00:17:59.723 --> 00:18:02.267 เมื่อความเหลื่อมล้ำอยู่ในระดับที่สูงเกินไป 00:18:02.267 --> 00:18:05.156 มันก็จะไม่มีประโยชน์ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:18:05.156 --> 00:18:06.618 และจะทำให้แย่ลงด้วย 00:18:06.618 --> 00:18:09.675 เพราะมันมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดภาวะ 00:18:09.675 --> 00:18:11.311 ความเหลื่อมล้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด 00:18:11.311 --> 00:18:13.177 และการกระจายความมั่งคั่งลดน้อยลง 00:18:13.177 --> 00:18:16.463 ยกตัวอย่าง การกระจุกตัวของความมั่งคั่ง 00:18:16.463 --> 00:18:19.340 ในช่วงศตวรรษที่ 19 00:18:19.340 --> 00:18:21.265 เรื่อยมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 00:18:21.265 --> 00:18:23.030 ของประเทศในยุโรป 00:18:23.030 --> 00:18:25.124 ผมคิดว่าไม่ช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:18:25.124 --> 00:18:27.226 แล้วการกระจุกตัวนั้นก็ถูกทำลายลง 00:18:27.226 --> 00:18:29.567 ด้วยเหตุการณ์ที่น่าสลดและการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย 00:18:29.567 --> 00:18:31.839 การขยายตัวของเศรษฐกิจจึงกลับมาอีกครั้ง 00:18:31.839 --> 00:18:35.142 และความเหลื่อมล้ำอย่างสุดโต่ง 00:18:35.142 --> 00:18:37.340 ไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อสังคมประชาธิปไตย 00:18:37.340 --> 00:18:39.863 หากมันทำให้เกิดการไม่เสมอภาค ในการออกเสียงทางการเมือง 00:18:39.863 --> 00:18:41.728 การแทรกแซงของเงินจากเอกชน 00:18:41.728 --> 00:18:43.730 ในการเมืองสหรัฐในขณะนี้ 00:18:43.730 --> 00:18:46.270 ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกมาก 00:18:46.270 --> 00:18:49.346 ดังนั้น เราจึงไม่ควรปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำ 00:18:49.346 --> 00:18:51.436 กลับไปสู่จุดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อีก 00:18:51.436 --> 00:18:55.110 การแบ่งสัดส่วนของความมั่งคั่งที่เหมาะสม 00:18:55.110 --> 00:18:58.500 ให้กลุ่มคนชั้นกลางนั้น มีผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ 00:18:58.500 --> 00:19:00.501 มันดีทั้งในแง่มูลค่าทรัพย์สิน 00:19:00.501 --> 00:19:02.865 และในแง่ประสิทธิภาพ NOTE Paragraph 00:19:02.865 --> 00:19:04.530 บรูโน: ผมได้กล่าวในตอนต้นว่า 00:19:04.530 --> 00:19:06.639 หนังสือของคุณได้ถูกวิจารณ์อย่างหนัก 00:19:06.639 --> 00:19:07.880 ข้อมูลของคุณถูกวิจารณ์ 00:19:07.880 --> 00:19:10.346 การเลือกชุดข้อมูลมานำเสนอก็ถูกวิจารณ์ 00:19:10.346 --> 00:19:12.222 คุณโดนกล่าวหาว่าเลือกเฉพาะข้อมูล 00:19:12.222 --> 00:19:14.959 ที่สนับสนุนทฤษฎีของตัวเอง NOTE Paragraph 00:19:14.959 --> 00:19:16.886 โธมัส: ผมขอตอบว่า ผมยินดี 00:19:16.886 --> 00:19:19.353 ที่หนังสือเล่มนี้ทำให้เกิดการถกเถียง 00:19:19.353 --> 00:19:21.834 นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจให้เกิดขึ้น 00:19:21.834 --> 00:19:25.128 เหตุผลที่ผมใส่ข้อมูลทั้งหมดบนอินเตอร์เนท 00:19:25.128 --> 00:19:26.974 พร้อมอธิบายวิธีการคำนวนอย่างละเอียด 00:19:26.974 --> 00:19:29.308 ก็เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผย 00:19:29.308 --> 00:19:30.977 ในการถกเถียงเรื่องนี้ 00:19:30.977 --> 00:19:33.017 ผมได้ตอบได้ตรงประเด็น 00:19:33.027 --> 00:19:34.535 กับข้อสงสัยทุกข้อ 00:19:34.535 --> 00:19:37.648 หากผมกลับไปเขียนหนังสือเล่มนี้ใหม่อีกครั้ง 00:19:37.648 --> 00:19:39.189 ผมจะสรุปว่า 00:19:39.189 --> 00:19:41.383 ความไม่เท่าเทียมของความมั่งคั่งที่สูงขึ้น 00:19:41.383 --> 00:19:43.310 โดยเฉพาะในสหรัฐ 00:19:43.310 --> 00:19:45.683 จริงๆ แล้ว สูงกว่าที่ผมระบุไว้ในหนังสืออีก 00:19:45.683 --> 00:19:48.928 มีงานวิจัยโดยนักวิจัย 2 ท่าน เซซและซูคแมน 00:19:48.928 --> 00:19:50.520 ที่แสดงข้อมูลใหม่ 00:19:50.520 --> 00:19:52.297 ที่ผมไม่มีตอนเขียนหนังสือเล่มนี้ 00:19:52.297 --> 00:19:54.824 นั่นคือ การกระจุกตัว ของความมั่งคั่งในสหรัฐนั้น 00:19:54.824 --> 00:19:56.760 เพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผมเขียนไว้ในหนังสือ 00:19:56.760 --> 00:19:58.791 และก็จะมีข้อมูลอื่นๆ อีกในอนาคต 00:19:58.791 --> 00:20:00.942 ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจจะไปในทิศตรงกันข้าม 00:20:00.942 --> 00:20:05.041 เราใส่ข้อมูลเพิ่มเข้าไป ในอินเทอร์เน็ตทุกอาทิตย์ 00:20:05.041 --> 00:20:07.975 ทั้งข้อมูลอัพเดทจาก World Top Income Database 00:20:07.975 --> 00:20:09.875 และเราก็จะยังคงเก็บข้อมุลต่อไปเรื่อย ๆ 00:20:09.875 --> 00:20:12.181 โดยเฉพาะข้อมูลของประเทศเกิดใหม่ 00:20:12.181 --> 00:20:15.110 ผมยินดีรับข้อมูลจาก ทุกคนที่ต้องการมีส่วนร่วม 00:20:15.110 --> 00:20:17.456 ในการช่วยเก็บข้อมูล 00:20:17.456 --> 00:20:20.264 ในความเป็นจริง ผมเห็นด้วย 00:20:20.264 --> 00:20:21.878 ว่าความโปร่งใสของการกระจายตัว 00:20:21.878 --> 00:20:23.756 ของความมั่งคั่งนั้นยังไม่มากพอ 00:20:23.756 --> 00:20:25.671 ทางที่ดีที่จะช่วยเก็บข้อมูลนี้ 00:20:25.671 --> 00:20:27.536 ก็คือการเก็บภาษีคนรวย 00:20:27.536 --> 00:20:29.107 เริ่มจากอัตราต่ำ ๆ 00:20:29.107 --> 00:20:31.446 เพื่อให้ทุกคนยอมร่วมมือ 00:20:31.446 --> 00:20:33.010 ทำให้เกิดวิวัฒนาการที่สำคัญ 00:20:33.010 --> 00:20:36.337 และเริ่มร่างกฎเกณฑ์ และนโยบายที่จำเป็นต่อไป 00:20:36.337 --> 00:20:38.399 การเก็บภาษีคือการเก็บฐานข้อมูลอย่างหนึ่ง 00:20:38.399 --> 00:20:41.335 และเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในเวลานี้ NOTE Paragraph 00:20:41.335 --> 00:20:43.150 บรูโน: โธมัส พิคเก้ตตี้ ขอบคุณมากครับ NOTE Paragraph 00:20:43.150 --> 00:20:47.150 โธมัส: ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)