สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ กับทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เล่มนี้
มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
ซึ่งหลายคนนะคะ จากอาทิตย์ที่แล้วที่เห็นว่า
ทศกัณฐ์ตายไปแล้วเนี่ย ก็เข้าใจว่าเรื่องใกล้จบแล้วค่ะ
แต่อย่างที่วิวบอกไว้ตั้งแต่คลิปแรกๆ นะคะ ว่า
เรื่องรามเกียรติ์เนี่ย มีทั้งหมด 4 เล่มค่ะ
และนี่เพิ่งจะถึงเล่ม 3 ช่วงปลายๆ เท่านี้ แค่นั้นเองค่ะ
ดังนั้นยังมีเรื่องราวต่ออีกมากมายนะคะ
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เราอยู่ในช่วงที่
เนื้อหาค่อนข้างจะเข้มข้นนิดนึงค่ะ
เพราะว่าหลังจากที่ทศกัณฐ์ตายไป
ก็ยังมีอีเว้นต์ใหญ่ๆ อยู่อีกหนึ่งอีเว้นต์นะคะ
เห็นจากชื่อคลิปด้านล่างแล้วใช่มั้ย?
ตอนนี้เป็นตอนที่นางสีดาจะลุยไฟ
และเป็นตอนที่หลายๆ คนเข้าใจพระรามผิดค่ะ
ดังนั้นนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้ดูตอนก่อนๆ
อย่าลืมกดไปดูได้ตรงนี้นะคะ
วิวทำเป็นเพลย์ลิสต์ไว้ให้แล้ว
และที่สำคัญนะคะ ถ้ารู้สึกว่า "เฮ้ย มันยาวเกินไป
นี่ 80 กว่าตอน จะ 90 ตอนแล้ว ใครจะไปดูไหว" นะคะ
ก็ ตรงนี้เช่นกันค่ะ
วิวเคยเล่าไว้แค่ 10 นาทีจบเท่านั้นนะคะ
นอกจากนี้นะคะ บอกเลยว่า
วิวไม่ได้ทำแค่เรื่องรามเกียรติ์นะคะ
ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกที่น่าสนใจ เพียบเลยค่ะ
ดังนั้นอย่าลืมติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook, Youtube,
Twitter, Instagram นะคะ
แต่ละช่องทางเนื้อหาไม่เหมือนกันค่ะ
ตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่
ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ?
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ
ทศกัณฐ์โดนพระรามยิงศรปักอกค่ะ
แล้วก็ล้มลงที่พื้น
จากนั้นก็มีงาช้างอันหนึ่งเนี่ย
กระเด็นออกมาจากตัวทศกัณฐ์นะคะ
ทศกัณฐ์นอนพะงาบๆ อยู่ที่พื้น
สิบปากตะโกนสั่งเรื่องนั้นเรื่องนี้
จนกระทั่งในที่สุด
หนุมานก็ขยี้กล่องดวงใจของทศกัณฐ์
ทำให้ทศกัณฐ์ตายจากไปค่ะ
เหตุการณ์หลังจากนั้นนะคะ
คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
ร้องสั่งขนาดนี้ พิเภกน่าจะร้องไห้ใช่มะ?
เปล่าเลยค่ะ
พิเภกเป็นคนที่ค่อนข้างจะรู้หน้าที่ตัวเองนะคะ
เพราะว่าทันทีที่ทศกัณฐ์ตายเนี่ย
พิเภกยังไม่ฟูมฟายค่ะ
เพราะว่าพระรามหันมาถามเรื่องราวกับพิเภกก่อน
พระรามนี่หันมาถามว่า "พิเภก เกิดอะไรขึ้น?
ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมตอนที่ข้ายิงลูกธนูโดนทศกัณฐ์เนี่ย
อยู่ดีๆ ทำไมถึงมีงาช้างอันหนึ่งกระเด็นออกมาจากอกทศกัณฐ์
มันมาจากไหน ข้าก็ไม่ได้ยิงธนูเป็นงาช้างนี่?"
ซึ่งพิเภกก็เล่าให้ฟังนะคะ บอกว่า
"อ๋อ ตอนนั้นเนี่ยทศกัณฐ์ไปแย่งชิง
บุษบกแก้วมาจากพี่ชายตัวเอง
ตอนนั้นพระอิศวรเนี่ยนะ เอางาช้างปักอกทศกัณฐ์ไว้
แล้วก็สาปไว้ว่า
ให้ถอนไม่ออกจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของชีวิต
นี่แหละ ตอนที่ท่านยิงทศกัณฐ์
ทศกัณฐ์ก็รู้ว่านี่คือวันสุดท้ายของชีวิตตัวเองแล้ว
งาช้างก็เลยกระเด็นออกมาจากตัว ประมาณนั้น
ท่านมีอะไรจะถามอีกมั้ย?
ถ้าไม่มีแล้วข้าขอไปเศร้าก่อนได้มั้ย
ที่พี่ข้าตายทั้งคนนะ นอนอยู่ตรงนั้นน่ะ
ซึ่งพระรามก็ไม่มีอะไรจะถามแล้วนะคะ
พิเภกก็เลย ไปแล้วก็ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายค่ะ
ประมาณว่า "พี่ทศ พี่ไม่น่าเลย
ข้าเตือนพี่แล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำแบบนี้
ข้าเตือนพี่แล้วให้คืนนางสีดา"
ก็ร้องไห้ฟูมฟายไปมานะคะ
หลังจากที่ตัวเองร้องไห้ฟูมฟายใหญ่โตไปแล้วเนี่ย
พิเภกก็เงยหน้าขึ้นมาค่ะ
เห็นลูกน้องของทศกัณฐ์อยู่สองตนนะคะ
แอบอยู่ริมป่าค่ะ สองตนนี้
เรียกได้ว่า จริงๆ เป็นยักษ์ที่ถึกที่สุดของกรุงลงกา
ไม่ใช่ทศกัณฐ์ ไม่ใช่อินทรชิต
ไม่ใช่กุมภกรรณ ไม่ใช่อะไรค่ะ
สองตัวนี้แหละ ก็คือ
หนึ่ง โลทัน โลทันคือสารทีนะคะ
คนขับรถของทศกัณฐ์เนี่ย
ออกมากี่รอบไม่เคยตายเลย ไม่รู้ทำไม
กับอีกตัวหนึ่งก็คือ เปาวนาสูรค่ะ
เปาวนาสูรนี่เป็นเหมือนกับ
ราชเลขาประจำตัวทศกัณฐ์อะไรอย่างเนี้ย
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นตำแหน่งอะไรนะ
เป็นเสนาบดี ประมาณนั้นอะ
คือเป็นคนที่ทศกัณฐ์คอยให้วิ่งไปบอกคนนั้นสิว่าอย่างนั้น
เอ้า วิ่งไปบอกคนนี้สิว่าอย่างนี้
วิ่งไปบอกเพื่อนข้าหน่อยว่ากรุงลงกามีศึก
ประมาณนั้นนะคะ
ทั้งสองตนเนี่ยแอบอยู่ที่ริมป่าค่ะ
ก็ยังไม่ตาย
ดังนั้นนะคะ พิเภกก็เลยบอกว่า
"เปาวนาสูร โลทัน มานี่สิ
เข้าไปในเมือง รีบไปแจ้งนางมณโฑกับนางอัคคี"
ที่เป็นเมียทศกัณฐ์เนี่ย
"ว่าตอนนี้ทศกัณฐ์ตายแล้ว มารับศพไปหน่อย" นะคะ
ทั้งสองตนก็เลยรีบเข้าไปในเมืองค่ะ
ไปแจ้งนางมณโฑกับนางอัคคีนะคะ
ซึ่งทั้งสองนางเนี่ย พอได้ยินก็
จริงๆ ก็เตรียมใจอยู่แล้วแหละว่าแบบ
เออทศกัณฐ์ออกไปต้องตายแน่นอน
แต่พอมันมาถึงจริงๆ ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำใจได้นะคะ
ทั้งสองนางก็ออกมา แล้วก็ร้องไห้ฟูมฟายค่ะ
พร้อมกับเหล่าสนมกำนัลของทศกัณฐ์มากมายนะคะ
ทุกตนก็ออกมา แล้วก็ร้องห่มร้องไห้ ประมาณว่า
"ทศกัณฐ์ไม่น่าตายเลย ข้าบอกท่านแล้วใช่มั้ย
บอกว่าให้เอาไปคืน"
น่ะ นางมณโฑก็ฟูมฟายๆ
ฝั่งนางอัคคีนี่ก็มีสติเหมือนกันนะ
จริงๆ เมียทศกัณฐ์มีสติทุกคนเลยนะคะ
แต่ไม่มีใครสามารถเตือนสติทศกัณฐ์ได้นะ
นางอัคคีก็แบบ "ข้าบอกแล้วอีสำมนักขามันชั่ว!
บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปเชื่อมัน!
นี่ไง เห็นมั้ยฉิบหายทั้งโคตรทั้งวงศ์เลย
ตอนนี้จะทำยังไงกันต่อล่ะ!?" ก็ฟูมฟายๆ
พิเภกนะคะ ซึ่งตั้งสติได้แล้วก็บอกว่า
"เอาล่ะทุกคน เกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นเรื่องธรรมดา
อย่าร้องไห้ฟูมฟายไปเลย"
จริงๆ ตอนแรกตัวเองน่ะร้องหนักสุดเลยนะ
อย่าร้องไห้ฟูมฟายไปเลย หักใจเสียเถอะ
เราเอาศพทศกัณฐ์กลับเมืองกันเถอะทุกคน" นะคะ
ทุกคนก็เลยแห่ศพทศกัณฐ์กลับไปที่เมืองค่ะ
แล้วก็เอาไปรดนงรดน้ำ ทำอะไรตามพิธีนะคะ
เสร็จแล้วค่ะ พิเภกก็รู้สึกว่า
"เออนี่แหละ ถึงเวลาละ
เราจะต้องเอานางสีดาไปถวายคืนให้กับพระรามซะที
ดังนั้น พิเภกนะคะ ก็เลยสั่งให้สาวๆ นางยักษ์เนี่ย
เตรียมตัวเพื่อไปรับนางสีดาไปหาพระรามค่ะ
ไล่ตั้งแต่นางมณโฑ นางอัคคี เมียของทศกัณฐ์ใช่มะ
แล้วก็สุวรรณกันยุมา มีอิทรชิต
จันทวดี เมียของกุมภกรรณ
แล้วก็แห่กันไปที่สวนขวัญค่ะ
ไปถึงก็ไปบอกนางสีดาว่า "ตอนนี้ทศกัณฑ์ตายแล้วนะ
อะ เชิญพระแม่ไปหาพระรามได้จ้า"
ซึ่งนางสีดานะคะ ได้ยินแบบนั้นก็แบบ
"ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระแล้ว! ดีใจจังเลย
แต่ว่าก่อนที่จะไปเนี่ย ข้าขออาบน้ำก่อนได้มั้ย?
คือตลอดระยะเวลาที่ทศกัณฐ์จับนางสีดามานะคะ
นางสีดาไม่ยอมอาบน้ำค่ะทุกคน
คือแบบว่าทั้งเนื้อทั้งตัวทิ้งเนื้อทิ้งตัวมาก
แบบว่าผมเผ้าก็ไม่ทำ ฉันจะเละให้ถึงที่สุด
น่าจะคิดประมาณว่าแบบ "ทศกัณฐ์ แกจะได้ไม่กล้าแตะตัวฉัน"
หรือไม่ก็แบบ "ฉันไม่มีอารมณ์อาบน้ำแต่งตัวสวยๆ เข้าใจมั้ย
ฉันโดนพรากจากผัว ฉันโดนลักพาตัวมา
เอามากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้" ทำนองนั้นนะคะ
ซึ่งพอนางสีดาจะอาบน้ำเนี่ย
บอกเลยว่าคนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปีๆ เนี่ยนะคะ
อีเว้นต์การอาบน้ำของนางสีดาเนี่ยใหญ่มาก
ถึงระดับที่ว่าอยู่ดีๆ พระอินทร์ที่อยู่บนสวรรค์เนี่ยก็รู้ตัว
ประมาณว่า "เอ๊ ได้ข่าวว่า
นางสีดาจะอาบน้ำไปหาพระรามเหรอ?
อีเว้นต์นี้มันจะต้องใหญ่มากแน่ๆ เลย
อะๆ นางอัปสรรัมภากับนางอรุณวดี
ลงไปช่วยนางสีดาอาบน้ำหน่อย
แล้วก็เอาชุดสวยๆ บนสวรรค์เนี่ยลงไปถวายด้วย
คือนางมีแต่ชุดเดิมเนี่ย ที่ใส่มาตั้งแต่อยู่ที่กุฏินะ
ดังนั้นลงไปช่วยนางหน่อย" นะคะ
ซึ่งนางอัปสรก็ลงมา แล้วก็ช่วยนางสีดาอาบน้ำ
ขัดสีฉวีวรรณต่างๆ นานา
ทำสปา ทำเล็บ ทำผมนะคะ
เรียกได้ว่าเตรียมพร้อมจะกลับไปพบกับพระรามค่ะ
ซึ่งพอหลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วเนี่ยนะคะ
เหล่าพวกนางยักษ์ทั้งหลายเนี่ย
ก็แห่นางสีดาออกจากเมืองกันไปค่ะ
โดยที่นั่งกันเป็นคู่ๆ นะคะ
ก็ไล่ตั้งแต่ยามลิวันกันยุเวก ที่เป็นลูกของอินทรชิต
ก็เป็นเด็กน้อยสองตัวนะคะ ถือขงถือของไป
มาเป็นนางเบญกาย ลูกพิเภกที่เป็นเมียหนุมานไปแล้ว
แล้วก็สุวรรณกันยุมา เมียอินทรชิต
ซึ่งก็เป็นเมียหนุมานไปแล้ว
ก็แห่กันมาอีกคู่หนึ่ง
คู่ถัดไปนะคะ ก็เป็นนางจันทวดี
ซึ่งเป็นเมียของกุมภกรรณ
นั่งคู่กับตรีชฎา เมียพิเภก
แล้วก็สุดท้ายเป็นนางมณโฑกับนางอัคคีค่ะ
ก็เรียกได้ว่า สาวๆ ทั้งเมืองยักษ์ที่เหลืออยู่ ที่ไม่ได้ออกไปรบเนี่ย
ก็แห่กันออกไปหมดนะคะ
นั่งไปในรถกับนางสีดาด้วย
ทีนี้เหลือสาวอยู่คนหนึ่ง จำได้มั้ยคะว่าใคร?
คนๆ นั้นก็คือสำมนักขานั่นเอง
สำมนักขา ต้นเรื่องทั้งหมดเนี่ย
เห็นญาติๆ ออกไปกันหมด
จะไม่ไปก็แบบ อ่าวเราเป็นเมืองขึ้นเขาแล้ว
เดี๋ยวเขาเข้ามา จะหาว่าเราไม่เคารพ
แต่จะออกไป เราก็เป็นคนก่อเรื่อง
เราก็เป็นคนไปหาเรื่องพระลักษมณ์ พระรามไว้ตั้งแต่แรกเลย
จะทำยังไงดีน้า
ก็เลยแอบวิ่งตามรถไปด้วยค่ะ
วิ่งตามไปแล้วก็แอบตะกายๆ เกาะหลังรถไปด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสนใจนางค่ะ
ระหว่างทางค่ะ นางสีดาก็มีความกังวลมาตลอดว่าแบบ
"เอ้ ฉันก็อยากจะวิ่งเข้าไป"
นึกสภาพคนไม่เจอแฟนมานานๆ
ก็เห็นก็อยากจะวิ่งเข้าไปแบบ "พระราม ฉันกลับมาแล้วจ้า"
อะไรอย่างนี้ใช่มั้ย?
"แต่ว่าเราก็มีชนักปักหลัง"
คือผู้หญิงสมัยก่อนเนี่ย เรื่องความบริสุทธิ์สำคัญมากใช่มั้ยคะ?
ดังนั้นแบบ "โดนทศกัณฑ์จับมาขังไว้ตั้งเป็นปี
แล้วทศกัณฑ์ ทุกคนก็รู้ว่าเป็นคนแบบไหน เป็นยักษ์แบบไหน
เอ้ คือเราเนี่ยรู้ตัวเองว่าเราไม่ได้โดนอะไร
แต่ว่าคนอื่นเขาจะรู้กับเรามั้ย?
ทำยังไงดีน้า? ปากคนเนี่ยเขาก็เม้าท์กันไปได้เรื่อยๆ
ทำยังไงดี? ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?" นะคะ
พอไปถึงค่ะ นางสีดาก็เลยไม่กล้าทำอะไรมากนะคะ
แทนที่จะแบบ "เสด็จพี่ขา กลับมาแล้วค่ะ"
อะไรอย่างเนี่ย ก็ไม่กล้านะคะ
ก็เลยหมอบกราบพระรามค่ะ
แล้วก็หมอบค้างอยู่อย่างนั้นนะคะ
ฝั่งพระรามเนี่ย ถามว่าดีใจมั้ย? เห็นนางสีดา
แน่นอนนะคะว่าสู้มาขนาดนี้ก็ต้องดีใจ
คืออยากได้นางสีดาคืนใจจะขาดอยู่แล้วแหละ
แต่ความเป็นกษัตริย์มันค้ำคอ ประมาณว่าแบบ
"ถ้าสมมุติเราวิ่งเข้าไป
แล้วเราก็วิ่งไปกอดนางสีดาเลยเนี่ยนะ
ถึงเราจะรู้ว่านางสีดาเป็นพระลักษมีอวตาร
ยังไงก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง ยังไงทศกัณฑ์ก็จับตัวไม่ได้หรอก
แต่คนอื่นเขาไม่ได้มารู้กับเราด้วย
คนอื่นเขาก็จะแบบ "โอ้ย อีนี่หลงเมียจนหน้ามืดตามัว
มันไปตกเป็นของใครมาแล้ว ยังจะไปสนใจมันอีก" นะคะ
ดังนั้นค่ะ พระรามก็เลยต้องเก๊กนะคะ
ประมาณว่าแบบ
"อืม เรารู้แหละว่าเมียเราดี แต่เราต้องเก๊กไว้ก่อน
ก็เลยประมาณว่า "อะ สีดา
เป็นยังไงบ้าง? เราเนี่ยได้ข่าวว่าเจ้าโดนจับตัวมา
เราก็เลยมาช่วยเหลือเจ้า
ด้วยความยากลำบากต่างๆ นานา
ตอนนี้ทศกัณฑ์ก็ตายแล้ว
ว่าแต่เจ้าไปอยู่กับทศกัณฑ์มาตั้งนานเนี่ยนะ
ทศกัณฑ์ให้ของอะไรมาบ้างละ? เพชรนิลจินดา
เอามาอวดเราบ้างสิ"
มีความใจร้ายนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม
เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ให้พระรามใจร้ายขนาดนั้นนะ
เพราะมันมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง อย่างที่เล่าไปเมื่อกี้นะคะ
อย่าเพิ่งมองพระรามร้ายขนาดนั้นนะทุกคน
นางสีดานะคะ ได้ยินแบบนั้น
ตกใจมาก นางสีดาแบบ "นี่มันเจ็บปวด
เจ็บปวดยิ่งกว่าตอนโดนทศกัณฑ์ฉุดไปอีก
นี่คืออะไร? ทำไมจะต้องมาว่าฉันขนาดนี้
เจ็บ เจ็บมากๆ ทำยังไงดี?"
ดังนั้นนะคะ นางสีดีก็เลยเงยหน้าขึ้นมาค่ะ
แล้วก็บอกพระรามว่า "ข้าเข้าใจ
ข้ามันเป็นผู้หญิง เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครมาเก็ตด้วยหรอก
ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวข้า
ข้าจะขอลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ท่านยิงลูกศรขึ้นฟ้าไปเลย
เรียกเหล่าเทวดาลงมาเป็นพยาน
เดี๋ยวข้าจะเดินลุยไฟให้ดูเลย" นะคะ
ซึ่งพระรามก็ได้ยินก็แบบ
"อืม เมียเราฉลาด ดีมากๆๆ อื้ม เริ่ด!" นะคะ
ดังนั้นพระรามนะคะ ก็เลยยิงลูกศรขึ้นไปบนฟ้าค่ะ
ซึ่งพวกเหล่าพระอินทร์อะไรต่างๆ เนี่ย
ได้ยินเสียงลูกศรนะคะ
ก็ลงมาประชุมพร้อมกันโดยพร้อมเพรียงค่ะ
มาถึงปุ๊บ พระรามก็บอกว่า "โอเคทุกคน
พวกเจ้าจงมาเป็นพยานนะ เดี๋ยวนางสีดาจะลุยไฟ
อะ สุครีพ ไปเอาเชื้อไฟอะไรต่างๆ มากองให้ได้เยอะๆ เลย
พอกองๆๆ เสร็จนะคะ พระรามก็เอาลูกศรอัคนิวาตนะคะ
ยิงใส่กองเชื้อเพลิงพวกนั้นนะคะ
ก็ลุกเป็นไฟใหญ่โตมโหฬารเลยนะคะ
นางสีดานะคะ ก็ยกมือขึ้นไหวค่ะ แล้วก็บอกว่า
"เอาล่ะ ด้วยเดชะความสัตย์ของข้า
ถ้าสมมุติว่าข้าไม่ได้โดนทศกัณฑ์ทำอะไร
ถ้าสมมุติว่าจิตใจของข้าไม่เคยหวั่นไหว
ไม่เคยหลงรักทศกัณฐ์แม้แต่นิดเดียว
ไม่เคยทำอะไรผิด ไม่เคยทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร
ขอให้เดินเข้าไปในกองไฟเนี่ยนะ
ขอให้ไฟเนี่ย ไม่ไหม้ข้า
แต่ถ้าข้าคิดอะไรแย่ๆ แม้แต่นิดเดียวนะ
ขอให้ไหม้ข้าเป็นจุล ตกนรกหมกไหม้เลยนะ
ว่าแล้วนะคะ นางสีดาก็ก้าวเข้าไปในกองไฟค่ะ
ซึ่ง ด้วยความบริสุทธิ์ของนางสีดานะคะ
ทำให้ 1. นางไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย
2. เกิดดอกบัวค่ะ ผุดขึ้นมากลายกองไฟ
รองรับเท้าของนางไว้ไม่ให้แตะกองไฟนะคะ
พระอินทร์เห็นแบบนั้นค่ะ ก็แบบ
"เห็นมั้ยย นางสีดาบริสุทธิ์ ทุกคนน
อะ นางสีดาออกมาได้จ้า"
นางสีดาก็เลยเดินออกมานะคะ
ตอนนี้พระรามก็เคลียร์ชื่อให้นางสีดาแล้วใช่มะ
ก็เลยวิ่งเข้าไปรับนางสีดาได้ค่ะ แล้วก็บอกว่า
"จริงๆ พี่ก็รู้นะว่าเจ้าอะบริสุทธิ์
แต่ว่าพี่กลัวคนนินทา พี่ก็เลยต้องทำแบบนี้
ดีใจจังเลยที่ในที่สุดเราก็ได้มาอยู่ร่วมกันแล้ว
นี่ รู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น?"
ว่าแล้วนะคะ พระรามก็เล่าเรื่องราวฝั่งตัวเองให้นางสีดาฟังค่ะ
ไล่ตั้งแต่ "พี่ออกไปจากกุฏิอยู่ดีๆ นะ
พระลักษมณ์ก็วิ่งตามมา พี่ก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติแล้ว
พี่กลับมา อุ้ย! ไม่เจอเจ้าเลย แย่มาก
พี่เข้าไปในป่านะ ไปเจอพญานกนอนตายอยู่
อู้หู! ตกใจสุดๆ เลย สดายุเนี่ยนะ
หลังจากนั้นพี่ก็ติดตามเจ้าไป เก็บนู่นเก็บนี่
ได้กองทัพลิงมา" ก็เล่าๆๆ นะคะ
ฝั่งนางสีดาก็เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังบ้างค่ะว่า
"เนี่ย ทศกัณฐ์มันปลอมตัวมา ฉุดข้ามานะ
ข้าก็ทำอย่างนั้นอย่างนี้
อยู่ในสวนขวัญนะ มันก็มาจีบข้า
ข้าก็ไม่ชอบ ก็ด่ามันไป
มันก็ให้เหล่านางกำนัลมาจิกหัวข้าเนี่ย
ข้าจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว ดีนะหนุมานมาช่วยไว้ทัน
ก็เล่าเรื่องกันไปเล่าเรื่องกันมานะคะ
ซึ่งทำให้วิวคิดว่าคลิปวิดิโอนี้ยาวพอสมควรแล้ว
เดี๋ยวเราไปดูกันที่สัปดาห์หน้าดีกว่าค่ะว่า
เมื่อพระรามยึดกรุงลงกาได้แล้วเนี่ย
พระรามจะจัดการยังไงกับกรุงลงกาต่อไปนะคะ
เรื่องรามเกียรติ์ยังไม่จบนะคะทุกคน
ขอย้ำอีกรอบว่ายังไม่จบ อย่าลืมติดตามกันต่อไปค่ะ
สำหรับวันนี้ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย~
สวัสดีค่ะ
เอาจริงตอนนี้อะ เป็นตอนที่แต่ละเวอร์ชั่น
ให้พระรามใจร้ายไม่เท่ากันนะคะ
บางเวอร์ชั่นก็จะบอกว่าใจร้ายมาก
ถึงขนาดที่ประกาศว่า "นี่ ฉันไม่ได้มารบเพื่อหล่อนหรอกนะ
ฉันแค่ต้องการจะบอกว่า ฉันฆ่าได้หยามไม่ได้
มาขโมยเมียฉัน คือการหยามฉัน
ฉันก็เลยมารบ ฆ่าทศกัณฐ์ทิ้ง
ส่วนตอนนี้เธอจะไปไหนก็ไป" อะไรแบบนี้ก็มีนะ
แต่ว่าเวอร์ชั่นร.1 เนี่ย พระรามไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นค่ะ
ดังนั้นอย่าด่าพระรามขนาดนั้นเลยทุกคน
สงสารนะ สงสารพระเอกของเราหน่อยนะคะ
เอาเป็นว่ารอติดตามตอนถัดๆ แล้วกันค่ะ
มีตอนที่น่าด่ากว่านี้อีกหลายตอนเลยนะ
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน
บ๊ายบาย~
สวัสดีค่ะ