WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.000 คุณรู้ไหมว่าหนึ่งในความสุขอันยิ่งใหญ่ ของการท่องเที่ยว 00:00:03.000 --> 00:00:05.000 และหนึ่งในความดีใจของการศึกษา ด้านชาติพันธุ์วรรณนา 00:00:05.000 --> 00:00:07.000 คือการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขาเหล่านั้น 00:00:07.000 --> 00:00:09.000 ซึ่งยังไม่ลืมวิถีชีวิตอันเก่าแก่ 00:00:09.000 --> 00:00:12.000 ผู้ซึ่งยังรู้สึกได้ถึงอดีตในสายลม 00:00:12.000 --> 00:00:15.000 ยังสัมผัสถึงอดีตจากหิน ที่ถูกกัดกร่อนโดยสายฝน 00:00:15.000 --> 00:00:17.000 ยังลิ้มรสถึงอดีตได้ในใบไม้รสขมของต้นพืช 00:00:17.000 --> 00:00:21.000 เพียงเพื่อที่จะรู้ว่าเหล่าหมอผี Jaguar ยังคงเดินทางผ่านเลยทางช้างเผือกอยู่ 00:00:21.000 --> 00:00:25.000 หรือตำนานของผู้อาวุโสชาวอินนุยท์ ยังคงก้องกังวานไปด้วยความหมาย 00:00:25.000 --> 00:00:27.000 หรือดั่งเช่นที่หิมาลัย 00:00:28.000 --> 00:00:32.000 เหล่าพระสงฆ์ยังคงมุ่งสู่คำสอนของธรรมะ 00:00:32.000 --> 00:00:35.000 ซึ่งความจริงคือ การรำลึกถึงการค้นพบหลักของมนุษยวิทยา 00:00:35.000 --> 00:00:37.000 และนี่คือแนวคิดที่ว่า โลกที่เราอาศัยอยู่นั้น 00:00:38.000 --> 00:00:40.000 ไม่มีตัวตนอยู่ในบางสัจธรรม 00:00:40.000 --> 00:00:41.000 แต่เป็นเพียงแค่รูปแบบของความเป็นจริง 00:00:41.000 --> 00:00:45.000 เป็นผลที่ตามมาของชุดทางเลือก ในการปรับตัวชุดหนึ่งโดยเฉพาะ 00:00:45.000 --> 00:00:49.000 ที่เชื้อสายบรรพบุรุษของเรา ได้ทำไว้สำเร็จเมื่อหลายรุ่นก่อน NOTE Paragraph 00:00:50.000 --> 00:00:54.000 และแน่นอน เราก็ใช้ความสำคัญ ในการปรับตัวเดียวกันนั้นด้วย 00:00:54.000 --> 00:00:56.000 เราทุกคนเกิดมา เราให้กำเนิดลูกหลานของเราบนโลกนี้ 00:00:56.000 --> 00:00:58.000 เราได้ผ่านพิธีกรรมแรกเริ่ม 00:00:58.000 --> 00:01:00.000 เราต้องรับมือกับการตายจากกัน ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 00:01:00.000 --> 00:01:04.000 ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พวกเราล้วนร้องรำทำเพลง 00:01:04.000 --> 00:01:06.000 เราล้วนมีศิลปะ NOTE Paragraph 00:01:06.000 --> 00:01:09.000 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลง 00:01:09.000 --> 00:01:11.000 จังหวะของการเต้นในทุกๆ วัฒนธรรม 00:01:11.000 --> 00:01:14.000 และไม่ว่าจะเป็นชาวเผ่าเพนานในป่าบอร์เนียว 00:01:14.000 --> 00:01:17.000 หรือเหล่าผู้ช่วยนักบวชวูดูในเฮติ 00:01:18.000 --> 00:01:22.000 หรือเหล่านักรบ แห่งทะเลทราย Kaisut แห่งเคนย่าเหนือ 00:01:24.000 --> 00:01:26.000 หรือ Curandero ในเทือกเขาแอนดีส 00:01:27.000 --> 00:01:32.000 หรือชาวคาราวานเซอเร กลางทะเลทรายซาฮาร่า 00:01:32.000 --> 00:01:34.000 นี่คือคนที่ผมได้บังเอิญ ร่วมเดินทางไปในทะเลทรายด้วย 00:01:34.000 --> 00:01:35.000 เมื่อเดือนก่อน 00:01:35.000 --> 00:01:38.000 หรือว่าจะเป็นคนเลี้ยงตัวยาค ที่เนินเขาโคโมลังมา 00:01:38.000 --> 00:01:40.000 เทือกเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นพระแม่ของผืนพิภพ NOTE Paragraph 00:01:40.000 --> 00:01:43.000 ผู้คนเหล่านี้สอนเราว่า ยังมีวิธีการดำรงอยู่แบบอื่นๆ อีก 00:01:43.000 --> 00:01:44.000 วิถีการคิดแบบอื่น 00:01:44.000 --> 00:01:46.000 วิธีการอื่นสำหรับการกำหนดตัวตน ของคุณเองในโลก 00:01:46.000 --> 00:01:48.000 และหากคุณลองคิดดู นี่คือแนวคิด 00:01:48.000 --> 00:01:50.000 ที่จะเติมเต็มคุณด้วยความหวังเท่านั้น 00:01:50.000 --> 00:01:53.000 ขณะนี้ เหล่าวัฒนธรรมในโลก จำนวนนับไม่ถ้วนได้ร่วมกัน 00:01:53.000 --> 00:01:57.000 สร้างเครือข่ายชีวิต ด้านจิตวิญญาณและวัฒนธรรม 00:01:57.000 --> 00:01:59.000 ซึ่งห่อหุ้มดาวเคราะห์ดวงนี้ไว้ 00:01:59.000 --> 00:02:01.000 และมีความสำคัญ ต่อความสมบูรณ์พูนสุขของโลก 00:02:01.000 --> 00:02:04.000 เป็นเครือข่ายชีวิตทางชีววิทยา ของชีวิตที่คุณรู้จักกันในชื่อ biosphere 00:02:04.000 --> 00:02:07.000 และคุณอาจคิดว่าเครือข่ายชีวิตทางวัฒนธรรมนี้ 00:02:07.000 --> 00:02:08.000 เป็น ethnosphere 00:02:08.000 --> 00:02:10.000 และคุณอาจบัญญัติให้ ethnosphere 00:02:10.000 --> 00:02:13.000 เป็นศูนย์รวม ของความคิดและความฝัน ตำนาน 00:02:13.000 --> 00:02:16.000 แนวคิด แรงบัลดาลใจ สัญชาตญาณที่เกิดขึ้น 00:02:16.000 --> 00:02:20.000 ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการรับรู้ 00:02:20.000 --> 00:02:23.000 Ethnosphere คือมรดกชิ้นยอดของมนุษย์ชาติ 00:02:23.000 --> 00:02:25.000 นี่คือสัญลักษณ์ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรา 00:02:25.000 --> 00:02:29.000 และทุกสิ่งที่เราสามารถเป็นได้ ในฐานะ ชาติพันธุ์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นอันน่าทึ่ง NOTE Paragraph 00:02:30.000 --> 00:02:33.000 และดั่งเช่นที่ biosphere ถูกกัดกร่อนอย่างรุนแรง 00:02:33.000 --> 00:02:35.000 ethnosphere ก็เป็นเช่นเดียวกัน 00:02:35.000 --> 00:02:37.000 -- และยังถูกกัดกร่อนในอัตราที่รวดเร็วกว่า 00:02:37.000 --> 00:02:39.000 ยกตัวอย่างเช่น จะไม่มีนักชีววิทยาคนใดกล้าที่จะพูด 00:02:39.000 --> 00:02:42.000 ว่า 50% ของชาติพันธุ์ทั้งหมด หรือมากกว่านั้นได้หรือกำลัง 00:02:42.000 --> 00:02:44.000 ใกล้จะสูญพันธุ์ เพราะว่านั่นไม่ใช่ความจริง 00:02:44.000 --> 00:02:46.000 แต่ -- สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด 00:02:46.000 --> 00:02:49.000 ในโลกของความหลากหลายด้านชีวภาพ 00:02:49.000 --> 00:02:52.000 ไม่มาสู่สถานการณ์ ที่เราคิดว่าดีที่สุดเลยแม้แต่น้อย 00:02:52.000 --> 00:02:54.000 ในโลกแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม 00:02:54.000 --> 00:02:57.000 และแน่นอนที่สุด ข้อบ่งชี้สำคัญ ก็คือการสาปสูญของภาษา NOTE Paragraph 00:02:57.000 --> 00:03:00.000 เมื่อคุณแต่ละคนในห้องนี้ได้เกิดมา 00:03:00.000 --> 00:03:03.000 ในดาวเคราะห์ดวงนี้ มีภาษาที่ใช้พูดกันกว่า 6:00 ภาษา 00:03:03.000 --> 00:03:06.000 ภาษาไม่เพียงแต่เป็นแค่โครงร่างของคำศัพท์ 00:03:06.000 --> 00:03:08.000 หรือชุดหลักไวยกรณ์เท่านั้น 00:03:08.000 --> 00:03:10.000 ภาษาคือประกายแสงของจิตวิญญาณมนุษย์ 00:03:10.000 --> 00:03:13.000 ภาษาเป็นพาหนะ นำพาจิตวิญญาณของแต่ละวัฒนธรรม 00:03:13.000 --> 00:03:14.000 ผ่านเข้าสู่โลกแห่งรูปธรรม 00:03:14.000 --> 00:03:17.000 ภาษาแต่ละภาษานั้น คือผืนป่าอันเก่าแก่แห่งจิตใจ 00:03:17.000 --> 00:03:21.000 คือลุ่มน้ำ ความคิด และระบบนิเวศน์ ของความเป็นไปได้ทางจิตวิญญาณ NOTE Paragraph 00:03:21.000 --> 00:03:25.000 และในขณะที่เรานั่งอยู่ในเมืองมอเทอเรย์วันนี้ ในภาษา 6:00 ภาษานี้ 00:03:25.000 --> 00:03:29.000 มีครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้ถูกนำมาพูดคุย ถ่ายทอดให้เด็กๆ ฟังอีกต่อไป 00:03:29.000 --> 00:03:32.000 ภาษาไม่ได้ถูกนำไปสอนเด็กทารกอีกต่อไป 00:03:32.000 --> 00:03:34.000 ซึ่งหมายความว่า หากไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแล้ว 00:03:34.000 --> 00:03:35.000 ภาษาเหล่านั้นได้สูญหายไปแล้วจริงๆ 00:03:35.000 --> 00:03:39.000 จะมีอะไรเปล่าเปลี่ยวมากไปกว่า การถูกห้อมล้อมด้วยความเงียบ 00:03:39.000 --> 00:03:41.000 การเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มคนของคุณ ที่ยังใช้ภาษาของตนเองอยู่ 00:03:41.000 --> 00:03:44.000 การหมดสิ้นหนทาง ที่จะส่งต่อภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ 00:03:44.000 --> 00:03:47.000 หรือเฝ้ารอความหวังของลูกหลาน 00:03:47.000 --> 00:03:50.000 แต่แล้ว ชะตากรรมที่เลวร้ายนั้น เป็นชะตากรรมของใครบางคน 00:03:50.000 --> 00:03:52.000 ที่อยู่แห่งใดแห่งหนึ่งในโลกนี้ ประมาณทุกๆ 2 สัปดาห์ 00:03:52.000 --> 00:03:54.000 เพราะว่าทุกๆ 2 สัปดาห์ จะมีผู้สูงอายุจากโลกนี้ไป 00:03:54.000 --> 00:03:56.000 และได้นำพยางค์สุดท้ายของภาษาอันเก่าแก่ 00:03:56.000 --> 00:03:58.000 ไปกับเขาด้วย NOTE Paragraph 00:03:58.000 --> 00:04:00.000 และผมรู้ว่ามีพวกคุณบางคน ที่พูดว่า "แล้วไม่ดีหรือไง 00:04:00.000 --> 00:04:01.000 โลกจะน่าอยู่ขึ้นไม่ใช่หรือ 00:04:01.000 --> 00:04:04.000 หากพวกเราทุกคน พูดภาษาเดียวกัน" ผมก็จะบอกว่า "เยี่ยม 00:04:04.000 --> 00:04:07.000 งั้นเอาภาษา Yoruba เป็นยังไง ใช้ภาษาจีนกวางตุ้งดีมั้ย 00:04:07.000 --> 00:04:08.000 ใช้ภาษา Kogi แล้วกัน" 00:04:08.000 --> 00:04:10.000 แล้วคุณจะรู้ในทันทีทันใดว่าเป็นอย่างไร 00:04:10.000 --> 00:04:13.000 ที่ไม่สามารถใช้ภาษาของตนเองได้ NOTE Paragraph 00:04:13.000 --> 00:04:16.000 ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากจะท ำร่วมกับพวกคุณในวันนี้ 00:04:16.000 --> 00:04:20.000 คือการนำพาคุณ ไปในการเดินทางสู่ ethnosphere 00:04:20.000 --> 00:04:22.000 การเดินทางสั้นๆ ผ่าน ethnosphere 00:04:22.000 --> 00:04:26.000 เพื่อที่จะให้คุณได้เริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่สูญสิ้นไปจริงๆ 00:04:27.000 --> 00:04:34.000 มีพวกเราหลายๆ คนที่เหมือนกับลืมไป 00:04:34.000 --> 00:04:36.000 ว่าเมื่อผมพูด "วิถีการดำรงอยู่ที่แตกต่างออกไป" 00:04:36.000 --> 00:04:38.000 ผมหมายถึงวิถีการดำรงอยู่ ที่แตกต่างออกไปจริงๆ NOTE Paragraph 00:04:39.000 --> 00:04:44.000 ตัวอย่างเช่น เด็กชาวบาราซาน่า ในอะเมซอนตะวันตกเฉียงเหนือคนนี้ 00:04:44.000 --> 00:04:45.000 ชาวเผ่าแห่งอานาคอนด้า 00:04:45.000 --> 00:04:47.000 ที่เชื่อตามตำนานว่างูอานาคอนด้า ขึ้นมาจากแม่น้ำแห่งน้ำนม 00:04:47.000 --> 00:04:50.000 จากทางตะวันออกในท้องของงูศักดิ์สิทธ์ 00:04:50.000 --> 00:04:53.000 นี่คือผู้คนที่ โดยทางการรับรู้แล้ว 00:04:53.000 --> 00:04:55.000 ไม่สามารถแยกแยะ ความแตกต่างของฟ้าและสีเขียวได้ 00:04:55.000 --> 00:04:57.000 เพราะว่าท้องฟ้าบนสรวงสวรรค์ 00:04:57.000 --> 00:04:58.000 นั้นเท่าเทียมกันกับท้องฟ้าแห่งผืนป่า 00:04:58.000 --> 00:05:00.000 ซึ่งผู้คนได้พึ่งพาอาศัยอยู่ 00:05:00.000 --> 00:05:03.000 พวกเขามีภาษา และวัฒนธรรมการแต่งงานที่น่าสนใจ 00:05:03.000 --> 00:05:05.000 ซึ่งเรียกว่าการแต่งงานนอกกลุ่มทางภาษา 00:05:05.000 --> 00:05:08.000 คุณจะต้องแต่งงานกับผู้ที่พูดภาษาอื่น 00:05:08.000 --> 00:05:10.000 ซึ่งวัฒนธรรมนี้มีรากเหง้า มาจากตำนานในอดีต 00:05:10.000 --> 00:05:12.000 แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในบ้านทรงยาวเหล่านี้ 00:05:12.000 --> 00:05:14.000 มีภาษาที่ใช้พูดอยู่หกหรือเจ็ดภาษา 00:05:14.000 --> 00:05:16.000 เนื่องจากการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม 00:05:16.000 --> 00:05:19.000 คุณจะไม่ได้ยินใครฝึกใช้ภาษา 00:05:19.000 --> 00:05:22.000 พวกเขาเพียงแค่ฟังแล้วเริ่มพูดเอง NOTE Paragraph 00:05:22.000 --> 00:05:24.000 หรือหนึ่งในชนเผ่าที่น่าสนใจที่สุดที่ เท่าที่ผมเคยอาศัยอยู่ด้วย 00:05:24.000 --> 00:05:28.000 คือเผ่า Waorani แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเอกวาดอร์ 00:05:28.000 --> 00:05:31.000 ผู้คนที่น่าพิศวงนี้ติดต่อ กับโลกภายนอกอย่างสันติในปี 1958 00:05:31.000 --> 00:05:35.000 ในปี 1957 นักเผยแพร่ศาสนา 5 คน พยายามติดต่อ 00:05:35.000 --> 00:05:36.000 และได้ทำความผิดพลาดร้ายแรง 00:05:36.000 --> 00:05:37.000 โดยการโปรยรูปภาพอาบมัน 00:05:37.000 --> 00:05:39.000 ขนาดแปดคูณสิบของตนเองจากบนอากาศ 00:05:39.000 --> 00:05:41.000 ซึ่งเราคิดว่าเป็นการแสดงออกถึงความเป็นมิตร 00:05:41.000 --> 00:05:43.000 โดยลืมไปว่าชนเผ่าแห่งป่าฝนเหล่านี้ 00:05:43.000 --> 00:05:46.000 ไม่เคยเห็นอะไรที่อยู่ใน รูป 2 มิติมาก่อนเลยในชีวิต 00:05:46.000 --> 00:05:48.000 พวกเขาเก็บรูปภาพขึ้นมาจากพื้นป่า 00:05:48.000 --> 00:05:51.000 พยายามมองด้านหลังของใบหน้าเพื่อหารูปทรง 00:05:51.000 --> 00:05:53.000 แต่ไม่พบอะไร และสรุปว่านี่เป็นสัญญาณของปีศาจ 00:05:53.000 --> 00:05:56.000 พวกเขาเลยพุ่งหอกใส่นักเผยแพร่ศาสนาทั้ง 5 จนถึงแก่ความตาย 00:05:57.000 --> 00:05:59.000 แต่พวก Waorani ไม่ได้พุ่งหอกใส่แค่คนนอกเท่านั้น 00:05:59.000 --> 00:06:00.000 พวกเขาพุ่งหอกใส่กันและกันด้วย 00:06:00.000 --> 00:06:03.000 54% ของการเสียชีวิต เกิดจากการพุ่งหอกใส่กันเอง 00:06:03.000 --> 00:06:06.000 ซึ่งเราลองไล่ย้อนกลับไป 8 ชั่วอายุคน 00:06:06.000 --> 00:06:08.000 เราพบการตายตามธรรมชาติ 2 ราย 00:06:08.000 --> 00:06:10.000 และเมื่อเราลองซักไซร้ถามผู้คนเกี่ยวกับเรื่องนี้ 00:06:10.000 --> 00:06:12.000 พวกเขายอมรับว่า ผู้เสียชีวิตเหล่านั้นชราภาพมาก 00:06:12.000 --> 00:06:16.000 ซึ่งกำลังจะแก่ตายอยู่แล้ว เราก็ยังพุ่งหอกใส่เขาอยู่ดี (หัวเราะ) 00:06:16.000 --> 00:06:19.000 แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขามีสติปัญญาอันเฉียบแหลม 00:06:19.000 --> 00:06:20.000 เกี่ยวกับป่า ซึ่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก 00:06:20.000 --> 00:06:23.000 นักล่าของพวกเขาสามารถ ตามกลิ่นปัสสาวะของสัตว์ได้ในระยะ 40 ก้าว 00:06:23.000 --> 00:06:26.000 และสามารถบอกคุณได้ว่าเป็นของสัตว์ชนิดใด NOTE Paragraph 00:06:26.000 --> 00:06:28.000 ในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 ผมได้รับงานที่น่าทึ่งมากๆ 00:06:28.000 --> 00:06:30.000 เมื่อศาสตราจารย์ของผมที่ฮาวาร์ดถามว่า 00:06:30.000 --> 00:06:32.000 ผมสนใจที่จะไปเฮติหรือไม่ 00:06:33.000 --> 00:06:35.000 เพื่อลักลอบเข้าไปในสังคมลับ 00:06:35.000 --> 00:06:37.000 ซึ่งเป็นรากฐานความแข็งแกร่งของ Duvalier 00:06:37.000 --> 00:06:38.000 และ Tonton Macoutes 00:06:38.000 --> 00:06:41.000 และเก็บตัวอย่างยาพิษที่ใช้ในพีธีทำซอมบี้ 00:06:41.000 --> 00:06:44.000 เพื่อที่จะสามารถ ทำความเข้าใจในงานอันน่าตื่นเต้นนี้ 00:06:44.000 --> 00:06:47.000 ผมต้องเข้าใจบางสิ่งเกี่ยวกับชะตาชีวิตที่น่าทึ่งนี้ 00:06:47.000 --> 00:06:50.000 ของชาว Vodoun ซึ่งวูดูนั้นไม่ใช่ลัทธิมนต์ดำ 00:06:50.000 --> 00:06:53.000 ในทางกลับกัน คือทัศนะวิสัยต่อโลกแบบอภิปรัชญาที่ซับซ้อน 00:06:53.000 --> 00:06:54.000 น่าสนใจมาก 00:06:54.000 --> 00:06:55.000 หากผมขอให้พวกคุณ บอกชื่อศาสนาที่ยิ่งใหญ่ในโลก 00:06:55.000 --> 00:06:56.000 คุณจะบอกว่าอย่างไร 00:06:56.000 --> 00:06:59.000 ศาสนาคริสต์ อิสลาม พุทธ ยิว อะไรก็ตาม NOTE Paragraph 00:06:59.000 --> 00:07:01.000 แต่มักจะมีทวีปหนึ่งที่ถูกมองข้าม 00:07:01.000 --> 00:07:03.000 ความเชื่อว่าทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ทะเลทรายซาฮาร่าลงไป 00:07:03.000 --> 00:07:05.000 ไม่มีความเชื่อทางศาสนา แต่จริงๆ แล้วพวกเขามี 00:07:05.000 --> 00:07:07.000 และวูดูเป็นเพียงแค่การกลั่นกรอง 00:07:08.000 --> 00:07:09.000 ของแนวคิดทางศาสนาที่ลึกซึ้งยิ่งเหล่านี้ 00:07:09.000 --> 00:07:12.000 ที่ได้มาระหว่างโศกนาฏกรรม การหนีจากยุคการล่าทาส 00:07:12.000 --> 00:07:14.000 แต่สิ่งที่ทำให้วูดูน่าสนใจอย่างมาก 00:07:14.000 --> 00:07:16.000 ก็คือความสัมพันธ์ที่มีชีวิต 00:07:16.000 --> 00:07:17.000 ระหว่างคนเป็นกับคนตาย 00:07:17.000 --> 00:07:18.000 เมื่อคนเป็นให้กำเนิดวิญญาณ 00:07:18.000 --> 00:07:21.000 วิญญาณสามารถ ถูกปลุกจากเบื้องล่างน้ำศักดิ์สิทธ์ 00:07:21.000 --> 00:07:23.000 ตอบสนองต่อจังหวะการเต้นรำ 00:07:23.000 --> 00:07:25.000 เพื่อที่จะแยกวิญญาณ ออกจากคนเป็นเพียงช่วงหนึ่ง 00:07:25.000 --> 00:07:29.000 และในช่วงเสี้ยวเวลาอันเจิดจ้านั้นเอง ผู้ช่วยนักบวชจะกลายเป็นพระเจ้า 00:07:29.000 --> 00:07:31.000 เพราะอย่างนั้นผู้ปฏิบัติวูดูจึงชอบพูดว่า 00:07:31.000 --> 00:07:34.000 "พวกคนขาวอย่างคุณ ไปโบสถ์เพื่อพูดถึงพระเจ้า 00:07:34.000 --> 00:07:36.000 เราเต้นในวิหารของเราแล้วกลายเป็นพระเจ้า" 00:07:36.000 --> 00:07:39.000 และเพราะว่าคุณถูกสิง คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดวงวิญญาณ 00:07:39.000 --> 00:07:40.000 คุณจะได้รับอันตรายได้อย่างไร 00:07:40.000 --> 00:07:43.000 ดังนั้น คุณจะเห็น การแสดงอันน่าทึ่งเหล่านี้ เช่น 00:07:43.000 --> 00:07:45.000 ผู้ช่วยนักบวชวูดูในสภาพเข้าทรง 00:07:45.000 --> 00:07:48.000 ถือถ่านที่ยังคุกรุ่นอยู่โดยปลอดภัย 00:07:48.000 --> 00:07:51.000 ช่างเป็นการแสดงถึง ความสามารถของจิตใจที่น่าทึ่ง 00:07:51.000 --> 00:07:52.000 ซึ่งมีผลต่อร่างกายที่เป็นภาชนะรองรับ 00:07:52.000 --> 00:07:55.000 เมื่อถูกกระตุ้นในสถาพที่ถูกปลุกเร้าอย่างรุนแรง NOTE Paragraph 00:07:56.000 --> 00:07:58.000 ในบรรดาผู้คนที่ผมได้เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมด้วยมา 00:07:58.000 --> 00:08:00.000 พวกที่แปลกประหลาดที่สุดคือเผ่า Kogi 00:08:00.000 --> 00:08:03.000 แห่ง Sierra Nevada de Santa Marta ในตอนเหนือของโคลัมเบีย 00:08:03.000 --> 00:08:06.000 ลูกหลานของอารายธรรมโบราณที่กดขี่โหดร้าย 00:08:06.000 --> 00:08:09.000 ซึ่งเคยครอบครองพื้นที่ราบแถบ ชายฝั่งแคริบเบียนของโคลัมเบีย 00:08:09.000 --> 00:08:10.000 ในช่วงหลังของการพิชิต 00:08:10.000 --> 00:08:13.000 ผู้คนเหล่านี้ถอยร่นไป อยู่ในบริเวณภูเขาไฟไปที่โดดเดี่ยว 00:08:13.000 --> 00:08:15.000 ซึ่งยืนตระหง่านเหนือพื้นที่ ราบแถบชายฝั่งคาริบเบียน 00:08:15.000 --> 00:08:17.000 ในทวีปที่โชลมไปด้วยเลือด 00:08:17.000 --> 00:08:20.000 ผู้คนเหล่านี้เท่านั้น ที่ไม่ได้ถูกพิชิตลงโดยชาวสเปน 00:08:20.000 --> 00:08:23.000 จนกระทั่งทุกวันนี้ พวกเขายังคงถูกปกครองโดยการทำพิธีบวช 00:08:23.000 --> 00:08:25.000 แต่การฝึกสำหรับการเป็นนักบวชนั้น แปลกประหลาดมาก 00:08:26.000 --> 00:08:28.000 ผู้ช่วยนักบวชที่ยังเด็กจะถูกพรากไป จากครอบครัว 00:08:28.000 --> 00:08:30.000 เมื่ออายุได้ 3 หรือ 4 ขวบ 00:08:30.000 --> 00:08:32.000 ถูกแยกให้อยู่โดดเดี่ยว ในโลกภายใต้เงาของความมืด 00:08:32.000 --> 00:08:36.000 ให้กระท่อมหินที่ฐาน ของธารน้ำแข็งเป็นเวลา 18 ปี 00:08:36.000 --> 00:08:37.000 แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงละ 9 ปี 00:08:37.000 --> 00:08:40.000 ถูกเลือกอย่างตั้งใจเพื่อเลียนแบบ กระบวนการตั้งครรภ์เป็นเวลา 9 เดือน 00:08:40.000 --> 00:08:42.000 ซึ่งพวกเขาได้อยู่ในครรภ์ของมารดา 00:08:42.000 --> 00:08:45.000 ตอนนี้ เปรียบได้ว่าพวกเขา ได้อยู่ในครรภ์ของพระแม่ธรณี 00:08:45.000 --> 00:08:46.000 และตลอดช่วงเวลานี้ 00:08:47.000 --> 00:08:50.000 พวกเขาได้ถูกปลูกฝังในคุณค่า แห่งชุมชนของพวกเขา 00:08:50.000 --> 00:08:52.000 คุณค่าที่คอยค้ำจุนจุดประสงค์ ที่คำภาวนาของพวกเขา 00:08:52.000 --> 00:08:55.000 และคำภาวนาของพวกเขาเท่านั้น ที่คอยค้ำจุนจักรวาล 00:08:55.000 --> 00:08:57.000 หรือที่เราเรียกว่าสมดุลทางธรรมชาติ 00:08:58.000 --> 00:08:59.000 และในช่วงท้ายของกรรมวิธีเริ่มแรกอันน่าทึ่งนี้ 00:08:59.000 --> 00:09:01.000 จู่ๆ วันหนึ่งพวเขาก็ถูกพาออกมา 00:09:01.000 --> 00:09:04.000 และเป็นครั้งแรกในชีวิตเมืออายุได้ 18 ปี 00:09:04.000 --> 00:09:08.000 พวกเขาจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และในช่วงเวลาแห่งการรับรู้ที่กระจ่าง 00:09:08.000 --> 00:09:11.000 ของแสงอาทิตย์แรกเริ่มสาดส่องไปทั่วเชิงเขา 00:09:11.000 --> 00:09:12.000 ที่มีภาพภูมิประเทศอันน่าตื่นตะลึง 00:09:13.000 --> 00:09:15.000 ในทันทีนั้น ทุกอย่างที่พวกเขา ได้เรียนมาในแบบนามธรรม 00:09:15.000 --> 00:09:18.000 จะได้รับการยืนยันอย่างเจิดจ้า แล้วนักบวชก็จะถอยออกมา 00:09:18.000 --> 00:09:20.000 และพูดว่า "เห็นไหม เป็นอย่างที่ได้บอกเจ้าไว้ 00:09:20.000 --> 00:09:23.000 ว่ามันงดงามเพียงใด นี่คืิอสิ่งที่เจ้าต้องปกป้องไว้" 00:09:23.000 --> 00:09:25.000 พวกเขาเรียกตัวเองว่าพี่ชาย 00:09:25.000 --> 00:09:28.000 และพวกเขาบอกว่า พวกเราที่เป็นน้องชาย 00:09:28.000 --> 00:09:31.000 เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการทำลายโลก NOTE Paragraph 00:09:32.000 --> 00:09:34.000 สัญชาตญาณในระดับนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง 00:09:34.000 --> 00:09:36.000 เมื่อใดที่เรานึกถึงเหล่าชนพื้นเมือง และภูมิประเทศ 00:09:36.000 --> 00:09:38.000 เราก็จะอ้างถึง Rousseau 00:09:38.000 --> 00:09:41.000 และเรื่องหลอกลวงเก่าๆ ของคนเถื่อนที่ไร้มลทิน 00:09:41.000 --> 00:09:43.000 ซึ่งเป็นแนวคิดการเหยียดผิว ในรูปแบบง่ายที่สุด 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 หรือเราอาจจะเลือกอ้างถึง Thoreau 00:09:46.000 --> 00:09:48.000 แล้วบอกว่าคนเหล่านี้ ใกล้ชิดกับโลกมากกว่าพวกเรา 00:09:48.000 --> 00:09:50.000 ที่จริงแล้ว ชนพื้นเมืองเหล่านี้ ไม่ได้มีอารมณ์อ่อนไหว 00:09:50.000 --> 00:09:52.000 หรือรู้สึกอาลัยอาวรณ์ในเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา 00:09:52.000 --> 00:09:54.000 สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น 00:09:54.000 --> 00:09:56.000 ในบึง Asmat ที่เต็มไปด้วยเชื้อมาลาเรีย 00:09:56.000 --> 00:09:59.000 หรือในสายลมอันหนาวเหน็บของธิเบต แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ 00:09:59.000 --> 00:10:03.000 หล่อหลอมความเร้นลับทางประเพณี ของพื้นพิภพผ่านเวลาและพิธีกรรม 00:10:03.000 --> 00:10:06.000 ซึ่งไม่ได้มีพื้นฐานมาจากแนวคิด ของการอยู่ใกล้กับสิ่งนี้อย่างมีสติรับรู้ของตน 00:10:06.000 --> 00:10:08.000 แต่อยู่บนสัญชาตญาณที่เรียบง่ายกว่านั้น 00:10:08.000 --> 00:10:11.000 แนวคิดที่ว่าโลกจะมีตัวตนอยู่ได้ 00:10:12.000 --> 00:10:14.000 เพราะโลกมีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยการ รับรู้ของมนุษย์เท่านั้น NOTE Paragraph 00:10:14.000 --> 00:10:16.000 นั่นหมายความว่าอย่างไร 00:10:16.000 --> 00:10:18.000 หมายความว่า เด็กคนหนึ่งจากเถือกเขาแอนดีส 00:10:18.000 --> 00:10:20.000 ที่ถูกเลี้ยงดูมาให้เชื่อว่า ภูเขานั้นคือวิญญาณของ Apu 00:10:20.000 --> 00:10:22.000 ที่จะคอยชี้นำชะตาชีวิตของเขาและเธอ 00:10:22.000 --> 00:10:25.000 จะเป็นมนุษย์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง 00:10:25.000 --> 00:10:28.000 และมีความสัมพันธ์กับแหล่งความรู้นั้น 00:10:28.000 --> 00:10:30.000 หรือสถานที่นั้นต่างออกไป จากเด็กที่มาจากมอนทาน่า 00:10:30.000 --> 00:10:33.000 ซึ่งถูกเลี้ยงให้เชื่อว่าภูเขาก็เป็นแค่กองหิน 00:10:33.000 --> 00:10:34.000 ที่พร้อมสำหรับการทำเหมืองแร่ 00:10:34.000 --> 00:10:38.000 การเป็นบ้านของวิญญาณ หรือเป็นแค่ก้อนแร่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ 00:10:38.000 --> 00:10:41.000 สิ่งที่น่าสนใจก็คือการเปรียบเทียบ ที่กำหนดความสัมพันธ์ 00:10:41.000 --> 00:10:43.000 ระหว่างปัจเจกชนกับโลกธรรมชาติ 00:10:43.000 --> 00:10:45.000 ผมถูกเลี้ยงขึ้นมาในป่าบริทิชโคลัมเบีย 00:10:45.000 --> 00:10:47.000 ผมเชื่อว่าป่าเกิดขึ้นมาเพื่อถูกตัด 00:10:47.000 --> 00:10:49.000 ทำให้ผมเป็นคนที่แตกต่างออกไป 00:10:49.000 --> 00:10:51.000 จากเพื่อนของผมในเผ่า Kwakiutl 00:10:51.000 --> 00:10:53.000 ผู้ที่เชื่อว่าป่าเหล่านั้น เป็นบ้านของ Hukuk 00:10:53.000 --> 00:10:54.000 และจงอยปากที่โค้งงอของสวรรค์ 00:10:54.000 --> 00:10:57.000 และ วิญญาณกินคน ที่อาศัยอยู่ที่ส่วนเหนือสุดของโลก 00:10:57.000 --> 00:11:01.000 เป็นเหล่าวิญญาณที่พวกเขา ต้องเข้าร่วมในระหว่างพิธีบวช Hamatsa NOTE Paragraph 00:11:01.000 --> 00:11:03.000 หากคุณเริ่มที่จะดูแนวคิด 00:11:03.000 --> 00:11:05.000 ที่วัฒนธรรมเหล่านี้ อาจสร้างความเป็นจริงที่แตกต่าง 00:11:05.000 --> 00:11:06.000 คุณอาจจะเริ่มเข้าใจถึง 00:11:06.000 --> 00:11:11.000 การค้นพบอันน่าอันเยี่ยมยอดของพวกเขา อย่างเช่นพืชต้นนี้ 00:11:11.000 --> 00:11:13.000 เป็นรูปภาพที่ผมถ่ายจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของอะมาซอนในเดือนเมษายนที่ผ่านมา 00:11:13.000 --> 00:11:16.000 นี่คือ ayahuasca ซึ่งพวกคุณหลายคนเคยได้ยินมา 00:11:16.000 --> 00:11:19.000 ยาปรุงสมุนไพรซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทรุนแรงที่สุด 00:11:19.000 --> 00:11:21.000 จากเทคนิคของหมอผี 00:11:21.000 --> 00:11:23.000 สิ่งที่ทำให้ ayahuasca นั้นน่าหลงใหล 00:11:23.000 --> 00:11:27.000 ไม่ใช่ศักยภาพด้านเภสัชวิทยา ของยาสมุนไพรตัวนี้ 00:11:27.000 --> 00:11:31.000 แต่เป็นการผลิตของยา ยาทำมาจากวัตถุดิบสองชนิดที่แตกต่างกัน 00:11:31.000 --> 00:11:33.000 ชนิดแรกคือเถาวัลย์ไม้ 00:11:33.000 --> 00:11:35.000 ซี่งมีสารจำพวก beta-carboline อยู่ 00:11:35.000 --> 00:11:38.000 harmine และ harmoline ซึ่งมีฤทธิ์หลอนประสาทอ่อนๆ 00:11:38.000 --> 00:11:40.000 ในการใช้เถาวัลย์อย่างเดียว 00:11:40.000 --> 00:11:42.000 จะทำให้รู้สึกเหมือนมีควันสีฟ้า 00:11:42.000 --> 00:11:44.000 ล่องลอยอยู่เหนือสติสัมปชัญญะของคุณ 00:11:44.000 --> 00:11:47.000 แต่จะถูกนำไปผสมกับ ใบจากพุ่มไม้ในตระกูลต้นกาแฟ 00:11:47.000 --> 00:11:49.000 เรียกว่า Psychotria viridis 00:11:49.000 --> 00:11:52.000 พืชชนิดนี้มีสารจำพวก tryptamine ซึ่งมีฤทธิ์แรงมาก 00:11:52.000 --> 00:11:56.000 ซึ่งใกล้เคียงกับสาร serotonin ในสมอง หรือ dimethyltryptamine-5 00:11:56.000 --> 00:11:57.000 methoxydimethyltryptamine 00:11:57.000 --> 00:11:59.000 หากคุณเคยพบ Yanomami 00:11:59.000 --> 00:12:01.000 พวกเขาสูดดมยานัตถุ์นั้น 00:12:01.000 --> 00:12:04.000 ซึ่งเป็นสารที่พวกเขาทำมาจากพืชหลากพันธุ์ 00:12:04.000 --> 00:12:08.000 ยังมีสาร methoxydimethyltryptamine อยู่ด้วย 00:12:08.000 --> 00:12:10.000 หากใช้จมูกสูดผงนั่นเข้าไป 00:12:10.000 --> 00:12:14.000 จะรู้สึกเหมือนกับถูกยิงออกมา จากลำกล้องปืนไรเฟิล 00:12:14.000 --> 00:12:21.000 มีรอยด้วยภาพวาดแนวพิศดาร แล้วตกลงสู่ทะเลแห่งกระแสไฟฟ้า (หัวเราะ) 00:12:21.000 --> 00:12:23.000 สิ่งนี้ไม่ได้สร้างการบิดเบือนความเป็นจริง 00:12:23.000 --> 00:12:24.000 แต่ก่อให้เกิดการพังทลายของความเป็นจริง NOTE Paragraph 00:12:24.000 --> 00:12:27.000 จริงๆ แล้ว ผมเคยโต้เถียงกับศาสตราจารย์ของผมชื่อ Richard Evan Shultes 00:12:27.000 --> 00:12:29.000 ซึ่งเป็นผู้จุดประกายยุคบุปฝาชน 00:12:29.000 --> 00:12:31.000 ด้วยการค้นพบเห็ดมหัศจรรย์ 00:12:31.000 --> 00:12:33.000 ในเม็กซิโกในช่วงทศวรรษที่ 1930 00:12:33.000 --> 00:12:35.000 ผมเคยแย้งกับท่านว่า คุณไม่สามารถแยกประเภท tryptamine ว่า 00:12:35.000 --> 00:12:38.000 เป็นสารหลอนประสาท เพราะว่าเมือคุณตกอยู่ในฤทธิ์ของมัน 00:12:38.000 --> 00:12:42.000 คุณก็หมดสติไม่ได้ประสบกับ อาการหลอนประสาทแล้ว (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:12:42.000 --> 00:12:45.000 แต่ tryptamine ไม่สามารถเสพโดยการกินได้ 00:12:45.000 --> 00:12:47.000 เพราะว่ามันถูกต้านทานโดยเอนไซม์ 00:12:47.000 --> 00:12:50.000 ที่พบในอวัยวะภายในของมนุษย์ตามธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า mono amine oxidase 00:12:50.000 --> 00:12:53.000 คุณสามารถกินได้วิธีเดียวโดยการทานร่วมกับ 00:12:53.000 --> 00:12:56.000 สารเคมีอื่นซึ่งมีฤทธิ์ต้านทาน MAO 00:12:56.000 --> 00:12:57.000 สิ่งที่น่าสนใจยิ่ง 00:12:57.000 --> 00:13:01.000 ก็คือ beta-carboline ที่พบในเถาวัลย์ไม้ 00:13:01.000 --> 00:13:04.000 เป็นตัวยับยั้ง MAO ที่ลงตัวเหมาะเจาะเพียงพอที่จะ 00:13:05.000 --> 00:13:08.000 ช่วยเสริมพลังของ tryptamine ได้ คุณถึงถามตัวเองว่า 00:13:08.000 --> 00:13:12.000 จากพืชพันธุ์กว่า 80:00 พันธุ์ ในตระกูลพืชฝาดสมาน 00:13:12.000 --> 00:13:16.000 คนเหล่านี้หาพืช ที่มีโครงสร้างแตกต่างกัน 2 ชนิด 00:13:16.000 --> 00:13:17.000 ซึ่งเมื่อนำมาผสมกันในวิธีนี้แล้ว 00:13:17.000 --> 00:13:19.000 ได้ก่อให้เกิดรูปแบบทางชีวเคมี 00:13:19.000 --> 00:13:21.000 ของการเป็นตัวเต็มเดี่ยวๆ ที่มากกว่าผลรวมของส่วนต่างๆ NOTE Paragraph 00:13:21.000 --> 00:13:24.000 เราใช้วิธีที่เรียกให้สวยหรูว่าการลองผิดลองถูก 00:13:24.000 --> 00:13:25.000 ซึ่งดูแล้วไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง 00:13:26.000 --> 00:13:29.000 แต่เมื่อคุณถามชาวอินเดียน พวกเขาตอบว่า "พืชพูดกับพวกเรา" NOTE Paragraph 00:13:29.000 --> 00:13:30.000 หมายความว่าอย่างไรกัน 00:13:30.000 --> 00:13:34.000 เผ่า Cofan นี้มี ayahuasca กว่า 17 ชนิด 00:13:34.000 --> 00:13:37.000 ซึ่งทั้งหมดอยู่แยกกันในป่า เป็นระยะทางที่ไกลมาก 00:13:38.000 --> 00:13:42.000 ซึ่งในสายตาของพวกเรา มองเห็นเป็นพืชชนิดเดียวกัน 00:13:42.000 --> 00:13:44.000 แล้วเมื่อคุณถามว่าพวกเขา แยกประเภทออกได้อย่างไร 00:13:44.000 --> 00:13:47.000 พวกเขาก็จะพูดว่า "หลงนึกว่าคุณรู้เรื่องต้นไม้ซะอีก 00:13:47.000 --> 00:13:49.000 คือว่า คุณรู้อะไรบ้างมั้ย" ซึ่งผมก็ตอบไปว่า "ไม่รู้" 00:13:49.000 --> 00:13:52.000 กลายเป็นว่า คุณเก็บพืชแต่และชนิด ทั้ง 17 ชนิด 00:13:52.000 --> 00:13:55.000 ในคืนพระจันทร์เต็มดวง และพืชจะร้องเพลงให้คุณในโทนที่แตกต่างกัน 00:13:55.000 --> 00:13:57.000 วิธีนี้จะไม่ทำให้คุณได้ปริญญาเอกที่ฮาร์วาร์ด 00:13:57.000 --> 00:14:01.000 แต่ก็น่าสนใจมากกว่าการนับเกสรตัวผู้ NOTE Paragraph 00:14:01.000 --> 00:14:02.000 ตอนนี้ 00:14:02.000 --> 00:14:05.000 (เสียงปรบมือ) 00:14:05.000 --> 00:14:07.000 ปัญหา -- ปัญหาคือแม้กระทั่งพวกเรา 00:14:07.000 --> 00:14:09.000 เห็นใจต่อสถานการณ์อันเลวร้าย ของชนเผ่าเหล่านั้น 00:14:09.000 --> 00:14:10.000 มองพวกเขาเป็บผู้มีสีสันและน่าอัศจรรย์ 00:14:10.000 --> 00:14:12.000 แต่ด้วยเหตุบางประการถูกลดจำนวน เหลือแค่ส่วนเล็กๆในหน้าประวัติศาสตร์ 00:14:12.000 --> 00:14:15.000 ขณะที่โลกแท้จริง หมายถึงโลกของเราก้าวไปข้างหน้า 00:14:15.000 --> 00:14:17.000 ความจริงก็คือศตวรรษที่ 20 ในอีก 300 ปีข้างหน้า 00:14:17.000 --> 00:14:20.000 จะไม่ถูกจดจำในเรื่องสงครามต่างๆ 00:14:20.000 --> 00:14:21.000 หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 00:14:21.000 --> 00:14:23.000 แต่จะถูกจดจำว่าเป็นยุคที่เรายืนอยู่เฉยๆ 00:14:24.000 --> 00:14:26.000 แล้วอนุมัติอย่างเปิดเผยหรือแอบยอมรับ 00:14:26.000 --> 00:14:29.000 การทำลายล้างครั้งมโหฬารของทั้งความหลากหลาย ทางชีวภาพและวัฒนธรรม 00:14:29.000 --> 00:14:32.000 บนดาวเคราะห์ใบนี้ ปัญหาก็ยังคงเดิม 00:14:32.000 --> 00:14:34.000 วัฒนธรรมทั้งหลายในทุกยุคทุกสมัย 00:14:34.000 --> 00:14:37.000 ได้ข้าร่วมการเฉลิมฉลองร่วมกับ 00:14:37.000 --> 00:14:38.000 กับความเป็นไปได้ในชีวิตอย่างสม่ำเสมอ NOTE Paragraph 00:14:39.000 --> 00:14:41.000 และปัญหาก็ไม่ใช่ที่ตัวเทคโนโลยีเอง 00:14:42.000 --> 00:14:44.000 ชาวอินเดียนเผ่า Sioux ไม่ได้เลิกเป็น Sioux 00:14:44.000 --> 00:14:45.000 เมื่อพวกเขาเลิกใช้ธนูและลูกศร 00:14:45.000 --> 00:14:47.000 ไม่ต่างไปจากที่ชาวอเมริกัน ไม่ได้เลิกเป็นชาวอเมริกัน 00:14:47.000 --> 00:14:49.000 เมื่อพวกเขาเลิกใช้ม้าและรถเทียมม้า 00:14:49.000 --> 00:14:50.000 ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงหรือเทคโนโลยี 00:14:50.000 --> 00:14:54.000 ที่คุกคามความมั่นคงของ ethnosphere แต่เป็นพลังต่างหาก 00:14:54.000 --> 00:14:56.000 ใบหน้าหยาบช้าของการปกครอง 00:14:56.000 --> 00:14:58.000 และเมื่อใดที่คุณมองไปรอบๆ โลก 00:14:58.000 --> 00:15:01.000 คุณจะพบว่าวัฒนธรรมเหล่านี้ ไม่ควรที่จะสูญหายไป 00:15:01.000 --> 00:15:03.000 ผู้คนเหล่านี้เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตหลากหลาย 00:15:03.000 --> 00:15:06.000 ที่ถูกขับไล่ไปสู่การดับสูญโดยอำนาจที่เขารู้จักดี 00:15:06.000 --> 00:15:08.000 ซึ่งพวกเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้าได้ 00:15:08.000 --> 00:15:10.000 ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่าอันเลวทราม 00:15:11.000 --> 00:15:13.000 ในบ้านเกิดของชาวเพนาน 00:15:13.000 --> 00:15:16.000 ชาวเผ่าเร่ร่อนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากซาลาวัก 00:15:16.000 --> 00:15:20.000 ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า อย่างอิสระจนกระทั่งถึงรุ่นก่อน 00:15:20.000 --> 00:15:23.000 ตอนนี้ถูกลดสภาพลงเหลือ เพียงทาสและการค้าประเวณี 00:15:23.000 --> 00:15:25.000 ตามชายฝั่งแม่น้ำ 00:15:25.000 --> 00:15:29.000 ที่คุณจะเห็นแม่น้ำที่เหลือเพียงแค่โคลน 00:15:29.000 --> 00:15:31.000 ซึ่งดูเหมือนจะพัดพาครึ่งหนึ่ง ของหมู่เกาะบอร์เนียวไป 00:15:31.000 --> 00:15:32.000 ถึงทะเลจีนใต้ 00:15:32.000 --> 00:15:34.000 ซึ่งมีเรือขนสินค้าญี่ปุ่นลอยลำอยู่สุดขอบฟ้า 00:15:34.000 --> 00:15:38.000 พร้อมที่จะรับท่อนซุงที่ถูกกระชากออก จากป่าให้เต็มท้องเรือ 00:15:38.000 --> 00:15:39.000 หรือในกรณีของ Yanomami 00:15:39.000 --> 00:15:41.000 คือเชื้อของโรคร้ายที่ได้เข้ามา 00:15:41.000 --> 00:15:43.000 ในช่วงหลังของการค้นพบทองคำ NOTE Paragraph 00:15:43.000 --> 00:15:45.000 หรือหากเราไปที่เทือกเขาในธิเบต 00:15:45.000 --> 00:15:47.000 ซึ่งในช่วงหลังๆ ผมได้ทำการค้นคว้าวิจัยไว้มาก 00:15:48.000 --> 00:15:51.000 คุณจะเห็นใบหน้าอันหยาบกร้าน ของการยึดครองทางการเมือง 00:15:51.000 --> 00:15:53.000 คุณรู้ใช่ไหม ว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ 00:15:53.000 --> 00:15:55.000 จะถูกประนามจากทุกฝ่าย แต่การทำลายล้างวัฒนธรรม (ethnocide) 00:15:56.000 --> 00:15:59.000 การทำลายล้างวิถีชีวิตของผู้คน กลับไม่เพียงไม่ได้รับการประนาม 00:15:59.000 --> 00:16:02.000 แต่กลับได้รับการเฉลิมฉลอง 00:16:02.000 --> 00:16:04.000 โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนา 00:16:04.000 --> 00:16:07.000 คุณไม่สามารถเข้าใจถึงความเจ็บปวดของธิเบตได้ 00:16:07.000 --> 00:16:09.000 จนกว่าคุณจะได้สำรวจดูในระดับพื้นดิน 00:16:09.000 --> 00:16:13.000 ผมเคยเดินทางจากเมืองเฉิงตูทางตะวันตกของจีน เป็นระยะทาง 6:00 ไมล์ 00:16:13.000 --> 00:16:16.000 ทางภาคพื้นดินผ่านเขตตะวันตกเฉียงใต้ ของธิเบตสู่เมืองลาซา 00:16:16.000 --> 00:16:20.000 ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอายุน้อย และเมื่อผมไปถึงลาซา 00:16:20.000 --> 00:16:23.000 ผมก็ได้เข้าใจถึงความจริงเบื้องหลังสถิติ 00:16:23.000 --> 00:16:24.000 ที่พวกคุณเคยได้ยิน 00:16:24.000 --> 00:16:28.000 อนุเสาวรีย์อันศักดิ์สิทธิ์ 6:00 แห่ง ซึ่งถูกรื้อลงมาจนกลายเป็นธุลีดิน 00:16:28.000 --> 00:16:31.000 คนกว่า 1.2 ล้านคนถูกฆ่าโดยนักปฏิวัติ 00:16:31.000 --> 00:16:32.000 ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม 00:16:33.000 --> 00:16:35.000 พ่อของเด็กหนุ่มคนนี้ถูกตราหน้าว่า เป็นปันเชน ลามะ 00:16:35.000 --> 00:16:37.000 ซึ่งหมายความว่าเขาถูกฆ่าในทันที 00:16:37.000 --> 00:16:39.000 ในช่วงการบุกของจีน 00:16:39.000 --> 00:16:41.000 ลุงของเขาหนีไปกับองค์ดาไลลามะ ในกลุ่มผู้หลบหนี 00:16:41.000 --> 00:16:44.000 ซึ่งพาผู้คนอพยพไปยังเนปาล 00:16:44.000 --> 00:16:46.000 แม่ของเขาถูกจองจำเนื่องจาก 00:16:46.000 --> 00:16:48.000 ความผิดเพราะมีฐานะร่ำรวย 00:16:49.000 --> 00:16:51.000 เขาถูกลอบนำเข้าไปในคุกเมื่ออายุได้ 2 ขวบ 00:16:51.000 --> 00:16:53.000 โดยให้หลบอยู่ใต้กระโปรงของแม่ 00:16:53.000 --> 00:16:55.000 เพราะเธอไม่สามารถอยู่โดยไม่มีเขาได้ 00:16:55.000 --> 00:16:57.000 พี่สาวซึ่งได้ทำเรื่องกล้าหาญนั้น 00:16:57.000 --> 00:16:58.000 ถูกจับเข้าค่ายอบรมศึกษา 00:16:58.000 --> 00:17:00.000 วันหนึ่งเธอได้เหยียบปลอกแขน ของประธานเหมาโดยไม่ตั้งใจ 00:17:01.000 --> 00:17:03.000 และเพราะการกระทำผิดนั้น 00:17:03.000 --> 00:17:06.000 เธอถูกลงโทษให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 7 ปี 00:17:06.000 --> 00:17:09.000 ความเจ็บปวดของธิเบตอาจเป็นสิ่งที่ไม่อาจรับได้ 00:17:09.000 --> 00:17:12.000 แต่จิดวิญญาณไถ่บาปของผู้คนเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง NOTE Paragraph 00:17:13.000 --> 00:17:16.000 และในท้ายที่สุด ก็จะเหลือแค่การเลือก 00:17:16.000 --> 00:17:19.000 ว่าเราอยากมีชีวิตอยู่ในโลกสีโทนเดียว อันน่าเบื่อซ้ำซาก 00:17:19.000 --> 00:17:22.000 หรือเราต้องการจะรับโลกที่มากด้วยสีสัน แห่งความหลากหลายกันแน่ 00:17:22.000 --> 00:17:25.000 Margaret Mead นักมนุษย์วิทยาที่ยิ่งใหญ่เคยพูดเอาไว้ว่าก่อนสิ้นลม 00:17:25.000 --> 00:17:28.000 ว่าสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือการที่กำลังเข้าไปสู่ 00:17:28.000 --> 00:17:30.000 โลกทัศน์โดยรวมที่มืดบอดนี้ 00:17:30.000 --> 00:17:35.000 ไม่เพียงแต่เราจะเห็นสุดขอบ การจินตนาการของมนุษย์ 00:17:35.000 --> 00:17:39.000 ซึ่งเหลือเป็นเพียงแค่ทัศนะภาวะ ของความคิดที่คับแคบ 00:17:39.000 --> 00:17:40.000 แต่เป็นการที่เราตื่นจากความฝันในสักวันหนึ่ง 00:17:40.000 --> 00:17:43.000 โดยที่ลืมเลือนว่ายังมีความเป็นไปได้อื่นๆ อีก NOTE Paragraph 00:17:44.000 --> 00:17:47.000 และเป็นการถ่อมตนที่จะระลึกถึง เผ่าพันธุ์ของเราซึ่งอาจจะ 00:17:47.000 --> 00:17:49.000 มีมานานกว่า 600:00 ปี 00:17:49.000 --> 00:17:52.000 การปฏิวัติหลังยุคหิน -- ซึ่งทำให้เรามีการเกษตรกรรม 00:17:52.000 --> 00:17:54.000 ซึ่งเป็นเวลาที่เรายอมให้กับลัทธิแห่งเมล็ดพันธุ์ 00:17:54.000 --> 00:17:56.000 บทกวีของเหล่าหมอผีถูกแทนที่ 00:17:56.000 --> 00:17:57.000 ด้วยความจืดชืดของการเป็นนักเทศ 00:17:57.000 --> 00:18:00.000 เราได้สร้างระบบชนชั้นวรรณะ 00:18:00.000 --> 00:18:02.000 เมื่อ 10:00 ปีก่อนเท่านั้น 00:18:02.000 --> 00:18:04.000 ยุคอุตสาหกรรมที่เรารู้จักในปัจจุบัน 00:18:04.000 --> 00:18:06.000 มีอายุเพียงแค่ 300 ปีเท่านั้น 00:18:06.000 --> 00:18:08.000 ประวัติศาสตร์สั้นๆ นั้นไม่ได้บอกผม 00:18:08.000 --> 00:18:11.000 ว่าเรามีคำตอบสำหรับหรับทุกความท้าทาย 00:18:11.000 --> 00:18:13.000 ที่เราจะเผชิญในสหัสวรรษหน้า 00:18:13.000 --> 00:18:15.000 เมื่อวัฒนธรรมมากมายในโลกนี้ 00:18:15.000 --> 00:18:18.000 ถูกถามถึงความหมายของการเป็นมนุษย์ 00:18:18.000 --> 00:18:20.000 พวกเขาจะตอบกลับมาด้วยเสียงที่แตกต่างกัน : 10:00 เสียง NOTE Paragraph 00:18:20.000 --> 00:18:26.000 และในเสียงเพลงนั้นเอง ที่เราจะค้นพบความเป็นไปได้อีกครั้ง 00:18:26.000 --> 00:18:29.000 ในการเป็นสิ่งที่เราเป็น: สิ่งมีชีวิตที่มีความรับรู้สมบูรณ์ 00:18:29.000 --> 00:18:32.000 รับรู้เต็มที่ที่จะทำให้คนและผืนป่าท้งหมด 00:18:32.000 --> 00:18:38.000 มีหนทางที่จะเบ่งบาน และมีช่วงเวลาแห่งการมองโลกในแง่ดี NOTE Paragraph 00:18:38.000 --> 00:18:41.000 นี่คือรูปที่ผมได้ถ่ายที่แหลม ทางตอนเหนือของเกาะ Baffin 00:18:41.000 --> 00:18:43.000 เมื่อผมไปล่าปลาวาฬขนาดเล็กกับชาวอินนุยท์ 00:18:44.000 --> 00:18:47.000 และชายคนนี้ชื่อโอลาย่า ได้เล่าเรื่องสนุกสนานของปู่ให้ผมฟัง 00:18:48.000 --> 00:18:50.000 รัฐบาลของแคนนาดานั้นไม่ได้ใจดีเสมอไป 00:18:50.000 --> 00:18:52.000 กับชาวอินนุยท์ และในช่วงทศวรรษที่ 1950 00:18:52.000 --> 00:18:55.000 เพื่อก่อตั้งอำนาจอธิปไตยของเรา เราบังคับให้พวกเขาไปอยู่ในชุมชน 00:18:55.000 --> 00:18:59.000 ปู่ของชายชราคนนี้ไม่ยอมไป 00:18:59.000 --> 00:19:03.000 ทางครอบครัวซึ่งห่วงใยในชีวิตของเขา ได้ปลดอาวุธเขา 00:19:03.000 --> 00:19:04.000 เครื่องมือทั้งหมด 00:19:05.000 --> 00:19:07.000 คุณต้องเข้าใจว่าชาวอินนุยท์นั้น ไม่ได้กลัวความหนาว 00:19:07.000 --> 00:19:08.000 พวกเขาใช้มันให้เป็นประโยชน์ 00:19:08.000 --> 00:19:11.000 ส่วนกระดานเลื่อนของเลื่อนหิมะของเขานั้น เดิมทีทำจากปลา 00:19:11.000 --> 00:19:12.000 หุ้มด้วยหนังกวาง caribou 00:19:12.000 --> 00:19:17.000 ปู่ของชายคนนี้ไม่ได้หวาดกลัวค่ำคืน ในคาบสมุทรอาร์คติก 00:19:17.000 --> 00:19:19.000 หรือพายุหิมะที่โหมกระหน่ำอยู่ 00:19:19.000 --> 00:19:22.000 เขาเพียงแค่แอบลอบออกไป และลดกางเกงหนังแมวน้ำ 00:19:23.000 --> 00:19:26.000 แล้วถ่ายอุจจาระลงบนมือ และเมื่ออุจาระเริ่มแข็ง 00:19:26.000 --> 00:19:29.000 เขาก็แต่งรูปทรงให้กลายเป็นใบมีด 00:19:29.000 --> 00:19:31.000 เขาพ่นน้ำลายใส่ปลายมีดอุจจาระ 00:19:31.000 --> 00:19:34.000 และมื่อมันแข็งเต็มที่เขาก็ใช้มันฆ่าหมา 00:19:34.000 --> 00:19:37.000 เขาถลกหนังมันและนำมาดัดแปลงเป็นสายรัด 00:19:37.000 --> 00:19:40.000 นำซี่โครงของหมามาทำเป็นเลื่อน 00:19:41.000 --> 00:19:42.000 รัดหมาตัวที่อยู่ติดกัน 00:19:42.000 --> 00:19:46.000 แล้วหายไปบนแผ่นน้ำแข็ง โดยมีมีดอุจจาระเหน็บไว้ที่เอว 00:19:46.000 --> 00:19:50.000 การเอาตัวรอดตัวเปล่ามันต้องแบบนี้ (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:19:50.000 --> 00:19:51.000 และเรื่องนี้ ในหลายๆ ด้านแล้ว 00:19:51.000 --> 00:19:53.000 (เสียงปรบมือ) 00:19:53.000 --> 00:19:55.000 คือสัญลักษณ์แห่งความยืดหยุ่นของชาวอินนุยท์ 00:19:55.000 --> 00:19:58.000 และในชนเผ่าพื้นเมืองทั้งหมดทั่วโลก 00:19:58.000 --> 00:20:00.000 ในเดือนเมษายน ปี 1999 รัฐบาลแคนนาดา 00:20:00.000 --> 00:20:03.000 ได้ยกอำนาจการปกครองทั้งหมด คืนแก่ชาวอินนุยท์ 00:20:03.000 --> 00:20:06.000 เป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่า รัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสรวมกัน 00:20:06.000 --> 00:20:08.000 เป็นบ้านเกิดใหม่ของเราที่เรียกว่า Nunavut 00:20:09.000 --> 00:20:12.000 เป็นพรมแดนอิสระ พวกเขาควบคุมทรัพยากรแร่ทั้งหมด 00:20:12.000 --> 00:20:14.000 ถือเป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของการที่ประเทศ 00:20:14.000 --> 00:20:18.000 ที่สามารถบรรลุถึงการให้คืนแก่ประชาชน NOTE Paragraph 00:20:19.000 --> 00:20:22.000 และในท้ายที่สุด ผมคิดว่ามันชัดเจนเพียงพอ 00:20:22.000 --> 00:20:23.000 อย่างน้อยก็สำหรับพวกเราที่ได้เดินทาง 00:20:23.000 --> 00:20:25.000 ไปสู่ที่ห่างไกลสุดขอบดาวเคราะห์ดวงนี้ 00:20:27.000 --> 00:20:28.000 เพื่อรับรู้ว่าที่เหล่านั้นไม่ได้ห่างไกลเลย 00:20:28.000 --> 00:20:30.000 ที่เหล่านั้นเป็นบ้านเกิดของใครบางคน 00:20:30.000 --> 00:20:32.000 เป็นตัวแทนของกิ่งก้านสาขาของจินตนาการมนุษย์ 00:20:32.000 --> 00:20:36.000 ทีย้อนกลับไปถึงครั้งโบราณกาล และสำหรับเราทุกคน 00:20:36.000 --> 00:20:39.000 ความฝันของเด็กเหล่านี้ ก็เป็นเหมือนกับความฝันของลูกหลานของเรา 00:20:39.000 --> 00:20:42.000 ซึ่งกลายเป็นภูมิศาสตร์แห่งความหวังอันเปลือยเปล่า NOTE Paragraph 00:20:42.000 --> 00:20:46.000 ท้ายที่สุด สิ่งที่เราต้องการทำที่ National Geographic 00:20:46.000 --> 00:20:50.000 คือ เราเชื่อว่านักการเมือง จะไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ 00:20:50.000 --> 00:20:51.000 เราคิดว่าการโต้เถียง -- 00:20:51.000 --> 00:20:53.000 (เสียงปรบมือ) 00:20:53.000 --> 00:20:55.000 เราคิดว่าการโต้เถียงไม่ใช่การโน้มน้าว 00:20:55.000 --> 00:20:58.000 แต่เราคิดว่าการเล่าเรื่องราวสามารถเปลี่ยนโลกได้ 00:20:58.000 --> 00:21:01.000 และเราอาจจะเป็นสถาบันเล่าเรื่องที่ดีที่สุด 00:21:01.000 --> 00:21:04.000 ในโลก โดยที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เรากว่า 35 ล้านครั้ง ในแต่ละเดือน 00:21:04.000 --> 00:21:07.000 กว่า 156 ประเทศมีรายการโทรทัศน์ของเรา 00:21:08.000 --> 00:21:10.000 วารสารของเรามีผู้อ่านเป็นจำนวนหลายล้านคน 00:21:10.000 --> 00:21:13.000 และสิ่งที่เราทำคือการเดินทาง 00:21:13.000 --> 00:21:15.000 สู่ ethnosphere ซึ่งเราจะนำผู้ชมของเรา 00:21:15.000 --> 00:21:17.000 ไปสู่สถานที่ของความมหัศจรรย์ทางวัฒนธรรม 00:21:18.000 --> 00:21:20.000 ซึ่งพวกเขาจะต้องตื่นตะลึง 00:21:20.000 --> 00:21:22.000 จากสิ่งที่เขาได้พบเห็นมา และหวังว่า 00:21:22.000 --> 00:21:25.000 พวกเขาแต่ละคนจะยินดีรับ 00:21:25.000 --> 00:21:27.000 หัวใจของการค้นพบทางมนุษยวิทยา 00:21:27.000 --> 00:21:31.000 ว่าโลกนี้ควรจะดำรงอยู่ด้วยหนทาง ที่หลากหลาย 00:21:31.000 --> 00:21:32.000 ที่เราสามารถหาหนทางในการมีชีวิต 00:21:32.000 --> 00:21:35.000 ในโลกที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างแท้จริง 00:21:35.000 --> 00:21:37.000 ที่ซึ่งสติปัญญาทั้งหมดของทุกคน 00:21:37.000 --> 00:21:40.000 สามารถมีส่วนร่วมต่อความผาสุข ของพวกเราทั้งปวง NOTE Paragraph 00:21:40.000 --> 00:21:41.000 ขอบคุณทุกคนมากครับ 00:21:41.000 --> 00:21:43.000 (ปรบมือ)