WEBVTT 00:00:15.108 --> 00:00:19.109 ทำไมปั๊มน้ำมัน ถึงตั้งอยู่ติดกับปั๊มน้ำมันอื่นๆ 00:00:19.109 --> 00:00:21.809 ทำไมผมถึงต้องขับรถเป็นไมล์โดยไม่พบร้านกาแฟซักร้าน 00:00:21.809 --> 00:00:24.143 และจากนั้นก็มาเจอกับร้านกาแฟสามร้านในมุมถนนเดียวกัน 00:00:24.143 --> 00:00:27.075 ทำไมร้านขายของชำ อู่ซ่อมรถ และร้านอาหาร 00:00:27.075 --> 00:00:31.925 มักจะอยู่ในร่วมกัน แทนที่จะกระจายตัวให้ทั่วถึงทั้งชุมชน 00:00:31.925 --> 00:00:35.843 ในขณะที่มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการตัดสินใจ ว่าเราควรทำธุรกิจที่ไหน 00:00:35.843 --> 00:00:39.475 การกระจุกตัวของธุรกิจที่เหมือน ๆ กัน สามารถอธิบายได้ง่ายๆ 00:00:39.475 --> 00:00:43.711 ด้วย “แบบจำลองการแข่งขันเชิงพื้นที่ของโฮเทลลิ่ง” (Hotelling’s Model of Spatial Competition) 00:00:43.711 --> 00:00:45.092 สมมุติว่า คุณขายไอศครีมบนชายหาดแห่งหนึ่ง 00:00:45.092 --> 00:00:48.075 ชายหาดนั้นยาว 1 ไมล์ และคุณไม่มีคู่แข่ง 00:00:48.075 --> 00:00:51.293 คุณจะตั้งรถเข็นของคุณไว้ตรงไหน เพื่อที่จะขายสินค้าให้ได้มากที่สุด 00:00:51.293 --> 00:00:52.392 ตรงกลางหาด 00:00:52.392 --> 00:00:55.442 การเดินครึ่งไมล์อาจจะไกลเกินไปสำหรับบางคน 00:00:55.442 --> 00:00:58.776 ที่อยู่บริเวณหัวและท้ายหาด แต่ที่จุดนี้คุณจะขายของให้กับลูกค้าได้มากที่สุด 00:00:58.776 --> 00:01:02.692 วันหนึ่งคุณก็มาถึงชายหาดเดิม พร้อมกับพบว่าเท็ดดี้ ญาติของคุณ 00:01:02.692 --> 00:01:07.342 นำเข็นรถขายไอศกรีมของเขามาด้วย จริงๆแล้วเขาขายไอศกรีมแบบเดียวกับที่คุณขายอยู่เลยล่ะ 00:01:07.342 --> 00:01:10.810 คุณสองคนตกลงกันว่าจะแบ่งพื้นที่ชายหาดกันคนละครึ่ง 00:01:10.810 --> 00:01:13.126 เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ไม่ต้องเดินไกลเกินไป 00:01:13.126 --> 00:01:16.376 คุณเลยจอดรถเข็นไว้ห่างจากจุดกลางหาดลงมาทางใต้ 1ส่วน4ไมล์ 00:01:16.376 --> 00:01:18.294 เป็นตรงกลางของพื้นที่คุณพอดี 00:01:18.294 --> 00:01:20.775 ส่วนเท็ดดี้ก็จอดรถเข็นของเขาไว้1ส่วน4ไมล์ไปทางเหนือจากจุดกลางหาด 00:01:20.775 --> 00:01:22.792 ตรงกลางพื้นที่ของเท็ดดี้ 00:01:22.792 --> 00:01:25.293 ด้วยข้อตกลงนี้ ลูกค้าที่อยู่ทางใต้ของคุณก็จะซื้อไอศกรีมจากคุณ 00:01:25.293 --> 00:01:29.241 ลูกค้าที่อยู่ทางเหนือของเท็ดดี้ก็จะซื้อจากเท็ดดี้ ส่วนลูกค้าที่เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ตรงกลาง 00:01:29.241 --> 00:01:33.775 ก็จะเดินไปยังรถเข็นที่ใกล้ที่สุด จะไม่มีลูกค่าคนไหนต้องเดินไกลกว่า1ส่วน4ไมล์ 00:01:33.775 --> 00:01:36.677 และคนขายทั้งคู่ก็จะขายของให้กับลูกค้าบนชายหาดคนละครึ่ง 00:01:36.677 --> 00:01:40.860 นักทฤษฎีเกม (Game Theorist) เห็นว่านี่เป็น “ทางแก้ปัญหาที่น่าพอใจที่สุดของสังคม” (Socially Optimal Solution – S.O.S.) 00:01:40.860 --> 00:01:44.376 มันลดจำนวนก้าวสูงสุดที่ลูกค้าคนใดคนหนึ่งต้องต้องใช้ 00:01:44.376 --> 00:01:46.376 เพื่อให้ไปถึงยังรถขายไอศกรีม 00:01:46.376 --> 00:01:48.259 แต่วันต่อมา เมื่อคุณมาถึงที่ทำงาน 00:01:48.259 --> 00:01:51.058 คุณพบว่าเท็ดดี้กลับตั้งรถเข็นของเขาไว้ที่เส้นกลางชายหาดพอดี 00:01:51.058 --> 00:01:54.325 ส่วนคุณก็กลับไปอยู่ที่เดิม ตรง 1ส่วน4 ไมล์ใต้จากเส้นกึ่งกลาง 00:01:54.325 --> 00:01:57.093 และได้แค่ลูกค้า 25 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ทางใต้ของคุณเท่านั้น 00:01:57.093 --> 00:02:00.659 เท็ดดี้ยังคงได้ลูกค้าทั้งหมดทานเหนือจากเขาขึ้นไป 00:02:00.659 --> 00:02:04.726 แต่ตอนนี้คุณต้องแบ่งลูกค้า 25 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือระหว่างรถเข็นทั้งสองคัน 00:02:04.726 --> 00:02:07.559 วันที่ 3 ของสงครามไอศกรีม คุณไปถึงชายหาดเช้ากว่าปรกติ 00:02:07.559 --> 00:02:10.191 แล้วจอดรถเข็นไว้ตรงกลางพื้นที่ของเท็ดดี้ 00:02:10.191 --> 00:02:14.276 โดยคิดว่าคุณจะได้ขายลูกค้า 75 เปอร์เซ็นต์ทั้งหมดที่อยู่ใต้คุณลงไป 00:02:14.276 --> 00:02:17.576 ทิ้งให้ญาติของคุณขายไอศกรีมให้กับลูกค้าแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือบนทางเหนือของหาด 00:02:17.576 --> 00:02:20.544 เมื่อเท็ดดี้มาถึง เขากลับจอดรถเข็นไปทางใต้ของคุณ 00:02:20.544 --> 00:02:24.859 หมายความว่าเขาแย่งเอาลูกค้าที่อยู่ทางใต้ลงไปทั้งหมด และเหลือแค่ลูกค้าน้อยนิดทางเหนือไว้ให้คุณ 00:02:24.859 --> 00:02:29.360 เพื่อไม่ให้เขาได้เปรียบ คุณจึงย้ายรถเข็นของคุณลงไปทางใต้อีก 10 ก้าวเพื่อจะได้ลูกค้าคืนกลับมา 00:02:29.360 --> 00:02:32.860 แต่ขณะที่คุณพักเที่ยง เท็ดดี้ก็ย้ายรถของเขาลงไปทางใต้อีก 10 ก้าว 00:02:32.860 --> 00:02:36.559 และ อีกครั้งหนึ่ง เขาได้ขโมยเอาลูกค้าทางใต้ไปอีกเหมือนเดิม 00:02:36.559 --> 00:02:40.025 และวันนี้ตลอดทั้งวัน คุณทั้งสองคนก็ผลัดกันขยับรถไปทางใต้ 00:02:40.025 --> 00:02:42.860 ไปยังกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อไอศครีม 00:02:42.860 --> 00:02:45.475 จนในที่สุด คุณทั้งสองคนก็มาหยุดอยู่ตรงกลางชายหาด 00:02:45.475 --> 00:02:49.743 หันหลังให้กัน แต่ละคนขายไอศกรีมให้กับลุกค้าบนชายหาดคนละ 50 เปอร์เซ็นต์ 00:02:49.743 --> 00:02:54.975 ที่จุดนี้ คุณและญาติคู่แข่งขันของคุณได้อยู่ในจุดที่นักทฤษฎีเกมเรียกว่า จุดดุลยภาพของแนช (Nash Equilibrium) 00:02:54.975 --> 00:02:59.961 ซึ่งเป็นจุดที่คุณทั้งสองต่างก็ไม่สามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปจากเดิม 00:02:59.961 --> 00:03:03.859 กลยุทธ์เดิมของคุณ ที่ซึ่งคุณทั้งสองอยู่ตรงเส้น 1ส่วน4ไมล์จากเส้นกลางหาดนั้น 00:03:03.859 --> 00:03:07.110 อยู่ไม่ได้นาน เพราะมันไม่ใช่"จุดดุลยภาพของแนช" (Nash Equilibrium) 00:03:07.110 --> 00:03:10.960 คุณทั้งสองยังสามารถขยับรถเข็นเข้าหากัน เพื่อขายไอศครีมให้มากขึ้นได้ 00:03:10.960 --> 00:03:12.825 ด้วยที่ตอนนี้ที่คุณทั้งสองอยู่ในจุดตรงกลางของหาด 00:03:12.825 --> 00:03:16.926 คุณไม่สามารถย้ายรถเข็นไปหาลูกค้าที่อยู่ไกลที่สุด 00:03:16.926 --> 00:03:19.193 โดยไม่ทำให้ลูกค้าที่มีอยู่ลำบากขึ้นได้ 00:03:19.193 --> 00:03:22.592 อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ คุณไม่มี “ทางแก้ปัญหาที่น่าพอใจที่สุดของสังคม” อีกต่อไป 00:03:22.592 --> 00:03:24.425 เพราะลูกค้าที่อยู่ตรงปลายสุดของหาดทั้งสองด้าน 00:03:24.425 --> 00:03:27.626 จะต้องเดินมาไกลเกินความจำเป็นเพื่อให้ได้กินขนมหวาน 00:03:27.626 --> 00:03:32.295 ลองมาคิดถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด ร้านเสื้อผ้า และร้านมือถือในห้างดู 00:03:32.295 --> 00:03:36.009 ลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากกว่านี้ถ้าร้านเหล่านี้กระจายตัวกันออกไป 00:03:36.009 --> 00:03:39.544 แต่นี่ทำให้ธุรกิจอ่อนแอต่อการแข่งขันที่รุนแรง 00:03:39.544 --> 00:03:42.810 ในโลกแห่งความจริง ลูกค้ามามากว่าหนึ่งทิศทาง 00:03:42.810 --> 00:03:45.693 และธุรกิจก็สามารถแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์การตลาด 00:03:45.693 --> 00:03:47.508 ด้วยการทำให้สินค้าของตัวแตกต่างออกไป และด้วยการตัดราคา 00:03:47.508 --> 00:03:51.942 แต่หัวใจสำคัญของกลยุทธ์เหล่านั้นก็คือ ธุรกิจต่างๆอยากให้การแข่งขันนั้น 00:03:51.942 --> 00:03:55.942 "ใกล้" ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้