0:00:00.510,0:00:08.060 เราอยากหาลิมิตเมื่อ x เข้าใกล้ 1 ของ 0:00:08.060,0:00:14.570 พจน์ x ส่วน x ลบ 1 ลบ 1 ส่วน 0:00:14.570,0:00:17.930 ลอกธรรมชาติของ x 0:00:17.930,0:00:19.900 งั้นลองดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรา 0:00:19.900,0:00:21.230 พยายามแทนค่า 1 0:00:21.230,0:00:24.630 เกิดอะไรขึ้นหากเราแทนค่าพจน์นี้ด้วย 1? 0:00:24.630,0:00:30.050 ทีนี้ เราจะได้ หนึ่งตรงนี้ ส่วน 1 ลบ 1 0:00:30.050,0:00:35.040 และนั่นจะได้อะไรสักอย่างเช่น 1 ส่วน 0 ลบ 1 0:00:35.040,0:00:37.520 ส่วน แล้วลอกธรรมชาติของ 1 คืออะไร? 0:00:37.520,0:00:40.250 e ยกกำลังอะไรได้หนึ่ง? 0:00:40.250,0:00:43.140 อะไรก็ตามยกกำลังศูนย์ได้ 1 ดังนั้น e 0:00:43.140,0:00:45.420 ยกกำลังศูนย์จะเท่ากับ 1 ดังนั้นลอก 0:00:45.420,0:00:49.350 ธรรมชาติของ 1 จะเท่ากับ 0 0:00:49.350,0:00:51.820 เราเลยได้เลขที่นิยามไม่ได้ 1 ส่วน 0:00:51.820,0:00:54.300 0 ลบ 1 ส่วน 0 0:00:54.300,0:00:56.370 มันเป็นรูปที่นิยามไม่ได้แถมน่าเกลียดอีก 0:00:56.370,0:00:58.820 แต่มันไม่ใช่รูปแบบที่ยังไม่สรุปไม่ได้ หากเรามอง 0:00:58.820,0:00:59.880 ตามกฏของโลปิตาล 0:00:59.880,0:01:02.625 เรายังไม่ได้ 0 ส่วน 0 เราไม่ได้ 0:01:02.625,0:01:03.750 อนันต์ส่่วนอนันต์ 0:01:03.750,0:01:06.640 คุณอาจบอกว่า เฮ้ โอเค นี่ไม่ใช่โจทย์ที่ใช้ 0:01:06.640,0:01:07.150 กฏของโลปิตาล 0:01:07.150,0:01:09.910 เราต้องหาลิมิตนี้ด้วยวิธีอื่น 0:01:09.910,0:01:13.210 และผมก็บอกว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ 0:01:13.210,0:01:16.880 บางทีเราอาจจัดรูปด้วยเลขคณิตสักทาง 0:01:16.880,0:01:20.380 โดยมันจะกลายเป็นรูปที่ยังสรุปไม่ได้แบบโลปิตาล แล้ว 0:01:20.380,0:01:23.040 เราค่อยใช้กฏ 0:01:23.040,0:01:24.790 เพื่อทำอย่างนั้น ลองดู เกิดอะไรขึ้นหากเรา 0:01:24.790,0:01:26.470 บวกสองเทอมนี้เข้าด้วยกัน? 0:01:26.470,0:01:29.865 หากเรารวมมัน เทอมนี้ก็ หากเรารวมัน มันจะ 0:01:29.865,0:01:32.160 เป็น ทีนี้ ตัวส่วนร่วม จะเป็น x 0:01:32.160,0:01:36.850 ลบ 1 คูณลอกธรรมชาติของ x 0:01:36.850,0:01:38.740 ผมแค่คูณตัวส่วน 0:01:38.740,0:01:43.420 แล้วตัวเศษจะเป็น ทีนี้ หากผม 0:01:43.420,0:01:46.436 คูณเทอมทั้งหมดนี่ด้วยลอกธรรมชาติของ x มันจะ 0:01:46.436,0:01:51.317 เท่ากับ x ลอกธรรมชาติของ x แล้วก็เทอมทั้งหมดนี่ที่ผม 0:01:51.317,0:01:52.930 จะคูณมันด้วย x ลบหนึ่ง 0:01:52.930,0:01:54.955 ดังนั้น ลบ x ลบ 1 0:01:54.955,0:01:58.510 และคุณสามารถแยกมันออกและเห็นว่าพจน์นี้ 0:02:00.540,0:02:02.870 กับพจน์นี้เหมือนกัน 0:02:10.310,0:02:12.220 ขอผมลบมันไปนะ 0:02:12.220,0:02:18.430 แล้วนี่ตรงนี้ ก็เหมือนกับ 1 ส่วนลอกธรรมชาติ 0:02:18.430,0:02:21.510 ของ x เพราะ x ลบ 1 ตัดกัน 0:02:21.510,0:02:23.630 หวังว่าคุณคงเห็น ที่ผมทำก็แค่ผมบวก 0:02:23.630,0:02:25.120 สองพจน์นี้เข้าด้วยกัน 0:02:25.120,0:02:29.110 จากนั้น ลองดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผมใส่ลิมิต 0:02:29.110,0:02:31.600 เมื่อ x เข้าใกล้ 1 ของสิ่งนี้ 0:02:31.600,0:02:33.010 เพราะนี่มันเหมือนกัน 0:02:33.010,0:02:35.320 เราได้อะไรที่น่าสนใจไหม? 0:02:35.320,0:02:36.360 แล้วเรามีอะไรตรงนี้? 0:02:36.360,0:02:38.810 เราได้ หนึ่ง คูณลอกธรรมชาติของ 1 0:02:38.810,0:02:43.650 ลอกธรรมชาติของ 1 คือ 0 เราเลยได้ 0 ตรงนี้ งั้นนั่นคือ 0 0:02:43.650,0:02:47.200 ลบ 1 ลบ 0 แล้วนั่นจะเป็น 0 อีกตัว ลบ 0 0:02:55.570,0:03:00.100 ลอกธรรมชาติของ 1 ซึ่งก็คือ 0 ดังนั้น 0 คูณ 0 ได้ 0 0:03:00.100,0:03:00.960 แล้วคุณก็ได้แล้ว 0:03:00.960,0:03:04.940 เราได้รูปที่ยังสรุปไม่ได้ ที่เราต้องการในกฏของโลปิตาล 0:03:04.940,0:03:07.110 ถือว่าหากเราหาอนุพันธ์ของมัน และใส่มัน 0:03:07.110,0:03:09.360 ส่วนอนุพันธ์ของอันนั้น ลิมิตนั้นมีอยู่จริง 0:03:09.360,0:03:11.130 งั้นลองทำดู 0:03:11.130,0:03:15.340 นี่จะเท่ากับ หากลิมิตมีจริง นี่จะ 0:03:15.340,0:03:19.200 เท่ากับ ลิมิตเมื่อ x เข้าใกล้ 1 0:03:19.200,0:03:22.490 และลองหาอนุพันธ์ในสีม่วง ผมจะ 0:03:22.490,0:03:26.190 หาอนุพันธ์ของตัวส่วนตรงนี้ 0:03:26.190,0:03:28.590 และสำหรับเทอมแรก แค่ใช้กฏผลคูณ 0:03:28.590,0:03:32.970 อนุพันธ์ของ x คือหนึ่ง แล้วก็ 1 คูณลอกธรรมชาติ 0:03:32.970,0:03:35.920 ของ x อนุพันธ์ของเทอมแรก คูณ 0:03:35.920,0:03:36.930 เทอมที่สอง 0:03:36.930,0:03:39.570 แล้วเราจะมี บวกอนุพันธ์ของเทอม 0:03:39.570,0:03:43.820 ที่สอง บวก 1 ส่วน x คูณเทอมแรก 0:03:43.820,0:03:45.430 มันก็แค่กฏผลคูณ 0:03:45.430,0:03:47.920 งั้น 1 ส่วน x คูณ x เราก็เห็น ว่ามันคือ 1 0:03:47.920,0:03:54.390 แล้วเราก็มมีลบ อนุพันธ์ของ x ลบ 1 0:03:54.390,0:03:58.450 ทีนี้ อนุพันธ์ของ x ลบ 1 ก็แค่ 1 ดังนั้นมันก็ 0:03:58.450,0:04:01.090 จะเท่ากับ ลบ 1 0:04:01.090,0:04:08.710 แล้วก็ ทั้งหมดนั่นส่วนอนุพันธ์ของสิ่งนี้ 0:04:08.710,0:04:11.340 ลองหาอนุพันธ์ของอันนี้ ตรงนี้ 0:04:11.340,0:04:16.600 อนุพันธ์ของเทอมแรก ของ x ลบ 1 ก็แค่ 1 0:04:16.600,0:04:20.330 คูณด้วยเทอมที่สอง คุณได้ลอกธรรมชาติของ x 0:04:20.330,0:04:23.520 แล้วก็บวกอนุพันธ์ของเทอมที่สอง อนุพันธ์ 0:04:23.520,0:04:28.350 ของลอกธรรมชาติของ x คือ หนึ่งส่วน x คูณ x ลบ 1 0:04:28.350,0:04:32.140 ผมว่าคุณสามารถจัดรูปมันได้หน่อย 0:04:34.240,0:04:37.270 1 ส่วน x นี่คูณ x นั่นคือ 1 0:04:37.270,0:04:38.580 เราจะลบมันออกไป 0:04:38.580,0:04:40.910 นี่หักล้างกันตรงนี้ 0:04:40.910,0:04:45.710 ดังนั้นพจน์นี้ทั้งหมดสามารถเขียนใหม่เป็น ลิมิต 0:04:45.710,0:04:51.260 เมื่อเข้าใกล้ 1 ตัวเศษก็แค่ลอกธรรมชาติของ x เขียน 0:04:51.260,0:04:57.160 ด้วยสีม่วง และตัวส่วนคือลอกธรรมชาติของ 0:04:57.160,0:05:03.600 x บวก x ลบ 1 ส่วน x 0:05:03.600,0:05:05.250 ลองแทนค่าลิมิตนี้ดู 0:05:05.250,0:05:09.060 หากเราให้ x เข้าใกล้หนึ่ง ของ ลอกธรรมชาติของ x 0:05:09.060,0:05:13.640 นั่นจะทำให้เราได้ ลอกธรรมชาติของ 1 คือ 0 0:05:13.640,0:05:19.720 และตรงนี้ เราได้ ลอกธรรมชาติอขง 1 ซึ่งเท่ากับ 0 0:05:19.720,0:05:27.920 แล้วก็บวก 1 ลบ 1 ส่วน บวก 1 ลบ 1 ส่วน 1 0:05:27.920,0:05:28.900 นั่นก็เท่ากับ 0 อีกตัว 0:05:28.900,0:05:29.810 1 ลบ 1 ได้ศูนย์ 0:05:29.810,0:05:30.680 คุณจะได้ 0 บวก 0 0:05:30.680,0:05:34.140 คุณจะได้ 0 ส่วน 0 อีก 0:05:34.140,0:05:35.740 0 ส่วน 0 0:05:35.740,0:05:38.230 และอีกครั้ง ลองใช้กฏของโลปิตาล 0:05:38.230,0:05:39.890 ลองหาอนุพันธ์ของอันนั้น ใส่มันส่วน 0:05:39.890,0:05:41.240 อนุพันธ์ของอันนั้้น 0:05:41.240,0:05:44.210 งั้นนี่ หากเราอยากได้ลิมิต ม้นจะ 0:05:44.210,0:05:51.950 เท่ากับลิมิตเมื่อ x เข้าใกล้ 1 ของอนุพันธ์ 0:05:51.950,0:05:56.320 ของตัวเศษ 1 ส่วน x ใช่ อนุพันธ์ของ ln ของ 0:05:56.320,0:06:00.340 x คือ 1/x ส่วนอนุพันธ์ของตัวส่วน 0:06:00.340,0:06:01.160 และนั่นคืออะไร? 0:06:01.160,0:06:06.950 อนุพันธ์ของลอกธรรมชาติของ x คือ 1 ส่วน x บวก 0:06:06.950,0:06:09.590 อนุพันธ์ของ x ลบ 1 ส่วน x 0:06:09.590,0:06:13.120 คุณอาจมองมันอย่างนี้ ว่า 1 ส่วน x คูณ x ลบ 1 0:06:13.120,0:06:16.730 ทีนี้ อนุพันธ์ของ x กำลังลบ 1 เราก็หา 0:06:16.730,0:06:19.280 อนุพันธ์ของอันแรก คูณอันที่สอง แล้วก็ 0:06:19.280,0:06:20.670 อนุพันธ์ของอันที่สอง คูณ 0:06:20.670,0:06:21.610 อันแรก 0:06:21.610,0:06:24.980 ดังนั้นอนุพันธ์ของเทอมแรก x กำลังลบ 1 0:06:24.980,0:06:30.030 เท่ากับลบ x กำลังลบ 2 คูณเทอมที่สอง คูณ x 0:06:30.030,0:06:34.830 ลบ 1 บวกอนุพันธ์ของเทอมที่สอง ซึ่งก็คือ 0:06:34.830,0:06:39.780 1 คูณเทอมแรก บวก 1 ส่วน x 0:06:39.780,0:06:45.060 นี่จะเท่ากับ ผมมีอะไรสุ่ม ๆ 0:06:45.060,0:06:45.860 โผล่หน้าคอมพิวเตอร์ผม 0:06:45.860,0:06:47.730 ขอโทษทีสำหรับเสียงเบา ๆ นั่นหากคุณได้ยินนะ 0:06:47.730,0:06:48.780 ผมถึงไหนแล้วเนี่ย? 0:06:48.780,0:06:50.710 โอ้ ลองจัดรูปพวกนี้หน่อย 0:06:50.710,0:06:52.210 เรากำลังใช้กฏของโลปิตาล 0:06:52.210,0:06:58.010 นี่จะเท่ากับ ขอผม นี่จะ 0:06:58.010,0:07:02.870 เท่ากับ หากเราแทนค่า x เท่ากับ 1 ตัวเศษ 0:07:02.870,0:07:05.610 ก็แค่ 1/1 ซึ่งเท่ากับ 1 0:07:05.610,0:07:07.406 เราเลยไม่มีทางได้รูปที่ยังสรุปไม่ได้ 0:07:07.406,0:07:09.480 หรืออย่างน้อยรุป 0/0 อีกแล้ว 0:07:09.480,0:07:12.080 และตัวส่วนจะเท่ากับ หากคุณหาค่ามันที่ 1 0:07:12.080,0:07:18.180 นี่คือ 1/1 ซึ่งก็คือ 1 บวก ลบ 1 กำลังลบ 2 0:07:18.180,0:07:21.490 หรือคุรอาจบอกว่า 1 กำลังลบ 2 ก็แค่ 1 มัน 0:07:21.490,0:07:22.445 เลยเป็นลบหนึ่ง 0:07:22.445,0:07:24.820 แต่คุณคูณมันด้วย 1 ลบ 1 0:07:24.820,0:07:27.100 ก็คือ 0 เทอมนี้ทั้งหมดเลยหักล้างกัน 0:07:27.100,0:07:29.890 แล้วคุณก็ได้ บวก 1 ส่วน 1 อีกตัว 0:07:29.890,0:07:34.090 ได้ บวก 1 และนี่จะเท่ากับ 1/2 0:07:34.090,0:07:34.990 และคุณก็ได้แล้ว 0:07:34.990,0:07:37.620 การใช้กฏลูกโซ่และขั้นตอนนิดหน่อย เราก็แก้ 0:07:37.620,0:07:39.050 หาอะไรที่อย่างน้อยตอนแรกไม่ได้ดุ 0:07:39.050,0:07:40.260 เหมือน 0/0 0:07:40.260,0:07:44.110 เราบวก 2 เทอมด้วยกัน ได้ 0/0 หาอนุพันธ์ของทั้ง 0:07:44.110,0:07:46.460 เศษและส่วน 2 ครั้งรวด 0:07:46.460,0:07:49.180 และได้ลิมิตมานที่สุด 0:07:49.180,0:07:49.333 -