1 00:00:03,363 --> 00:00:08,481 ฝึกตัวเองให้เคยชินให้เป็นนิสัยไว้ 2 00:00:08,481 --> 00:00:14,487 มีเวลาว่าง 5 นาที 10 นาที อย่าทิ้ง 3 00:00:14,487 --> 00:00:24,328 ภาวนาไปเลย 4 00:00:24,328 --> 00:00:30,728 เอาให้เคยชิน เก็บเล็กเก็บน้อยไปเรื่อยๆ 5 00:00:30,728 --> 00:00:36,797 พอจิตมันคุ้นเคยที่จะปฏิบัติ 6 00:00:36,797 --> 00:00:40,666 มันจะขยันภาวนา 7 00:00:40,666 --> 00:00:44,566 จิตใจที่ไม่อยากภาวนา ทำบ้างไม่ทำบ้าง 8 00:00:44,566 --> 00:00:49,749 จิตมันติดโลก ติดกาม 9 00:00:49,749 --> 00:00:54,914 เมื่อเช้ามีทิดเก่าคนหนึ่งมาส่งการบ้าน 10 00:00:54,914 --> 00:01:00,049 บอกว่าสังเกตดูว่าเวลาถือศีล 8 11 00:01:00,049 --> 00:01:03,932 สติเกิดน้อยกว่าตอนถือศีล 5 12 00:01:03,932 --> 00:01:10,866 ฉะนั้นศีล 5 ดีกว่า เขาว่าอย่างนี้ 13 00:01:10,866 --> 00:01:15,817 บอกไปสังเกตให้ดี จิตมันติดกาม 14 00:01:15,817 --> 00:01:19,015 ติดความสุขความสบาย 15 00:01:19,015 --> 00:01:23,199 พอไปบังคับตัวเองถือศีล 8 มันก็เครียด 16 00:01:23,199 --> 00:01:26,332 พอเครียดสติก็ไม่เกิด 17 00:01:26,332 --> 00:01:29,316 ไม่ใช่ว่าศีลไม่ดี 18 00:01:29,316 --> 00:01:39,735 แต่ใจตัวเองมันไม่ถึง ใจยังอ่อนแออยู่ 19 00:01:39,735 --> 00:01:42,317 ถ้าเรารู้จุดอ่อนของตัวเอง 20 00:01:42,317 --> 00:01:45,376 ใจมันอ่อนแอมันติดโลก 21 00:01:45,376 --> 00:01:49,175 ก็ต้องเข้มแข็งสู้มัน 22 00:01:49,175 --> 00:01:51,838 ไม่หาข้ออ้าง 23 00:01:51,838 --> 00:01:55,688 ที่จะทำให้การปฏิบัติย่อหย่อนลง 24 00:01:55,688 --> 00:02:01,817 อย่างบอกว่าศีล 5 ดีกว่าศีล 8 อะไรอย่างนี้ 25 00:02:01,817 --> 00:02:11,416 สำหรับคนนี้ บางคนศีล 5 ดีกว่าจริงๆ 26 00:02:11,416 --> 00:02:18,284 ถ้าเอามาเป็นข้ออ้างสนองกิเลสตัวเอง 27 00:02:18,284 --> 00:02:23,951 โอกาสพัฒนามันก็ยาก 28 00:02:23,951 --> 00:02:28,833 อยากจะพ้นทุกข์อยากข้ามวัฏฏะต้องเข้มแข็ง 29 00:02:28,833 --> 00:02:37,133 อ่อนแอไปไม่รอดหรอก ต้องอดทน 30 00:02:37,133 --> 00:02:44,667 คนรุ่นหลังๆ นี่ความอดทนน้อยลงไปเยอะเลย 31 00:02:44,667 --> 00:02:50,650 เมื่อเช้ายังเล่าให้พวกทิดมาส่งการบ้าน 32 00:02:50,650 --> 00:02:54,148 บอกคนรุ่นนี้อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ 33 00:02:54,148 --> 00:02:58,181 รักสุขรักสบายเหลือเกิน 34 00:02:58,181 --> 00:03:03,431 คนรุ่นหลวงพ่อเรียกรุ่นเบบี้บูม 35 00:03:03,431 --> 00:03:06,660 บ้านเมืองเพิ่งผ่านสงครามโลกมาใหม่ๆ 36 00:03:06,660 --> 00:03:09,928 บอบช้ำ 37 00:03:09,928 --> 00:03:12,398 ตอนที่หลวงพ่อเกิด 38 00:03:12,398 --> 00:03:17,511 สงครามโลกเพิ่งจบไปไม่ถึง 10 ปี 39 00:03:17,511 --> 00:03:19,311 บ้านเมืองทรุดโทรม 40 00:03:19,311 --> 00:03:23,495 เศรษฐกิจย่ำแย่ ผู้คนลำบาก 41 00:03:23,495 --> 00:03:32,065 เราเกิดในยุคนั้น เราก็ต้องรู้สึก ว่าเราต้องสู้ต้องอดทน 42 00:03:32,065 --> 00:03:34,980 ฉะนั้นคนรุ่นนั้นจะอดทน 43 00:03:34,980 --> 00:03:37,968 แต่คนรุ่นนั้นเทียบกับรุ่นครูบาอาจารย์ 44 00:03:37,968 --> 00:03:41,118 ยังเทียบไม่ติด 45 00:03:41,118 --> 00:03:45,999 รุ่นครูบาอาจารย์ลำบากมากๆ เลย 46 00:03:45,999 --> 00:03:51,050 อย่างไปปฏิบัติอยู่ในป่า 47 00:03:51,050 --> 00:03:53,666 เป็นไข้ป่าก็ตายแล้ว 48 00:03:53,666 --> 00:03:56,282 รอดบ้างตายบ้าง 49 00:03:56,282 --> 00:04:02,802 บางองค์อดอาหารเป็นประจำ 50 00:04:02,802 --> 00:04:06,177 อาหารไม่พออะไรอย่างนี้ 51 00:04:06,177 --> 00:04:11,811 อยู่มาพอพ้นยุคยากลำบาก 52 00:04:11,811 --> 00:04:13,760 หลัง 2500 อะไรอย่างนี้ 53 00:04:13,760 --> 00:04:16,829 ร่างกายท่านทรุดโทรมมาก 54 00:04:16,829 --> 00:04:20,426 เพราะช่วงก่อนหน้านั้นสู้หนักมาก 55 00:04:20,426 --> 00:04:25,327 ก็สิ้นไปอย่างรวดเร็วก็มี 56 00:04:25,327 --> 00:04:31,493 สังเกตดูคนที่เคยผ่านความยากลำบาก 57 00:04:31,493 --> 00:04:36,576 ใจมันต่อสู้มากกว่าคนที่เกิดมาก็สบาย 58 00:04:36,576 --> 00:04:37,476 รุ่นหลังๆ 59 00:04:37,476 --> 00:04:42,009 นี่พ่อแม่เคยลำบากมา ไม่อยากให้ลูกลำบาก 60 00:04:42,009 --> 00:04:46,028 เลี้ยงลูกประคบประหงมเอาอกเอาใจ 61 00:04:46,028 --> 00:04:49,733 จนกระทั่งอ่อนแอมาก ดูแล้ว 62 00:04:49,733 --> 00:04:55,966 หลวงพ่อไม่ได้ดูอื่นดูไกล ดูจากพระนี่ล่ะ 63 00:04:55,966 --> 00:05:00,350 พระรุ่นก่อนๆ เข้มแข็ง สู้ 64 00:05:00,350 --> 00:05:04,666 คนไหนไม่แข็งแรงไม่เข้มแข็งก็ออกไป 65 00:05:04,666 --> 00:05:09,517 พวกที่เหลืออยู่นี่แกร่งจริงๆ 66 00:05:09,517 --> 00:05:17,899 หลังๆ นี่ดูป้อแป้ๆ กลัวลำบาก 67 00:05:17,899 --> 00:05:22,765 จะไปอยู่กับโลกก็กลัวลำบากกลัวเหนื่อย 68 00:05:22,765 --> 00:05:28,349 มาบวชจะภาวนาก็กลัวลำบากอีก 69 00:05:28,349 --> 00:05:36,516 คนชนิดนี้อยู่ที่ไหนไม่เจริญหรอก ไม่สู้ 70 00:05:36,516 --> 00:05:39,447 พวกเราอยากได้ดี 71 00:05:39,447 --> 00:05:44,714 จิตใจต้องกล้าหาญต้องเข็มแข็งต้องต่อสู้ 72 00:05:44,714 --> 00:05:48,049 เหยาะแหยะไม่ได้เรื่องหรอก 73 00:05:48,049 --> 00:05:52,715 หาข้ออ้างเพื่อปกป้องกิเลส 74 00:05:52,715 --> 00:05:55,864 ฉลาดในการหาข้ออ้าง 75 00:05:55,864 --> 00:05:59,031 แต่ไม่ฉลาดในจิตของตนเอง 76 00:05:59,031 --> 00:06:01,848 ต้องเข็มแข็งจริงๆ 77 00:06:01,848 --> 00:06:05,154 เส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทาง 78 00:06:05,154 --> 00:06:06,987 ที่โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอก 79 00:06:06,987 --> 00:06:16,220 เส้นทางแห่งความพ้นทุกข์นี่ต้องสู้จริงๆ 80 00:06:16,220 --> 00:06:23,088 ประเภทนั่งสมาธิก็กลัวปวดหลัง กลัวเมื่อย 81 00:06:23,088 --> 00:06:28,003 ก็อ้างนั่งสมาธิมากๆ เนิ่นช้า 82 00:06:28,003 --> 00:06:32,069 เอาคำหลวงปู่มั่นมาพูดอีก 83 00:06:32,069 --> 00:06:33,719 นั่งสมาธิมากเนิ่นช้า 84 00:06:33,719 --> 00:06:38,120 ไม่ได้แปลว่านั่งหลายชั่วโมง แล้วทำให้เนิ่นช้า 85 00:06:38,120 --> 00:06:41,159 หมายถึงเอาแต่นั่งสมาธิไม่ยอมเดินปัญญา 86 00:06:41,159 --> 00:06:44,042 มันก็เลยเนิ่นช้า 87 00:06:44,042 --> 00:06:49,077 ทำสมาธิแล้วก็สงบสบายเพลินๆ ไป 88 00:06:49,077 --> 00:06:54,677 ผ่านวันผ่านเวลาไปมากมาย 89 00:06:54,677 --> 00:06:58,389 บางทีเอาธรรมะมาอ้าง 90 00:06:58,389 --> 00:07:04,721 เพื่อปกป้องความขี้เกียจ 91 00:07:04,721 --> 00:07:12,293 วันนี้เจอพวกอ่อนแอหลายคนทั้งพระทั้งโยม 92 00:07:12,293 --> 00:07:16,961 ธรรมะก็เลยดุนิดหนึ่ง นี่นิดเดียว 93 00:07:16,961 --> 00:07:22,013 ถ้าเจอรุ่นครูบาอาจารย์หนักกว่านี้เยอะเลย 94 00:07:22,013 --> 00:07:25,596 ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อยังเหลืออีกองค์ 95 00:07:25,596 --> 00:07:28,776 หลวงปู่ทองท่านเป็นกรรมวาจาจารย์ 96 00:07:28,776 --> 00:07:33,142 อยู่ที่ลำปลายมาศ 97 00:07:33,142 --> 00:07:37,218 ใครไปถามกรรมฐานท่าน บอกอยากได้มรรคผลนิพพาน 98 00:07:37,218 --> 00:07:41,119 ท่านบอกแค่ศีลเอ็งก็รักษาไม่ได้แล้ว 99 00:07:41,119 --> 00:07:44,834 อย่ามาคุยอวดเลยจะไปเอานิพพาน 100 00:07:44,834 --> 00:07:50,874 หรือเสียสละอะไรเล็กๆ น้อยๆ ยังทำไม่ได้เลย 101 00:07:50,874 --> 00:07:57,873 แล้วจะไปนิพพานได้อย่างไร นิพพานต้องสละโลกได้ 102 00:07:57,873 --> 00:08:00,572 ท่านใช้วิธีด่าเอา 103 00:08:00,572 --> 00:08:05,637 ครูบาอาจารย์บางองค์สมัยก่อนดุจริงๆ 104 00:08:05,637 --> 00:08:09,081 แต่ไม่มีประเภทเอากระโถนขว้างอะไร ไม่มี 105 00:08:09,081 --> 00:08:11,822 มีแต่นิยายปรัมปราว่า 106 00:08:11,822 --> 00:08:16,270 ครูบาอาจารย์โมโหแล้วเอากระโถนขว้าง 107 00:08:16,270 --> 00:08:18,854 เมื่อก่อนหลวงพ่อก็เชื่ออย่างนั้น 108 00:08:18,854 --> 00:08:22,469 ว่าครูบาอาจารย์กรรมฐานนี่ดุ 109 00:08:22,469 --> 00:08:27,187 ถ้าเราไม่ถูกใจเอากระโถนขว้าง 110 00:08:27,187 --> 00:08:33,169 ตอนไปหาหลวงปู่ดูลย์ครั้งแรกยังกลัวเลย 111 00:08:33,169 --> 00:08:37,668 ไม่รู้จักท่าน ไปถึงก็ไปจดๆ จ้องๆ 112 00:08:37,668 --> 00:08:40,051 ไม่กล้าเข้าไปในกุฏิ 113 00:08:40,051 --> 00:08:42,317 ไปรอดูหลวงปู่จะออกมาไหม 114 00:08:42,317 --> 00:08:46,684 ออกมาเราจะเข้าไปถามกรรมฐาน 115 00:08:46,684 --> 00:08:52,294 ทั้งพระทั้งคนในวัดบอกเข้าไปเลย ตอนนี้ท่านกำลังฉันอาหารอยู่ 116 00:08:52,294 --> 00:08:57,279 บอกท่านฉันให้ท่านฉันไปก่อนเถอะ 117 00:08:57,279 --> 00:09:01,294 ที่จริงไม่ใช่อะไร ที่จริงยังกลัวอยู่ 118 00:09:01,294 --> 00:09:05,648 นั่นเป็นครั้งเดียว ที่หลวงพ่อกลัวครูบาอาจารย์ 119 00:09:05,648 --> 00:09:08,783 เพราะเราไม่คุ้นกับครูบาอาจารย์กรรมฐาน 120 00:09:08,783 --> 00:09:11,198 เลยคิดว่าท่านดุ 121 00:09:11,198 --> 00:09:15,413 ได้ยินนิทานเล่าว่าถ้าทำไม่ดี แล้วเอากระโถนขว้าง 122 00:09:15,413 --> 00:09:18,849 อย่างไรท่านก็ไม่ขว้าง ท่านเสียดายของ 123 00:09:18,849 --> 00:09:22,531 ขว้างเดี๋ยวกระโถนแตก 124 00:09:22,531 --> 00:09:26,499 จดๆ จ้องๆ อยู่ ในที่สุดหลวงปู่ทนไม่ไหว 125 00:09:26,499 --> 00:09:29,330 หลวงปู่เดินออกมาหน้ากุฏิเอง 126 00:09:29,330 --> 00:09:31,362 เลยเข้าไปกราบท่านได้ 127 00:09:31,362 --> 00:09:34,462 หลวงปู่ครับผมอยากปฏิบัติ 128 00:09:34,462 --> 00:09:37,629 ท่านก็เงียบๆ ไม่พูด 129 00:09:37,629 --> 00:09:41,699 เราก็นึกหลวงปู่อายุ 90 กว่า 130 00:09:41,699 --> 00:09:45,214 ฉันข้าวเสร็จแล้วนั่งหลับไปแล้ว 131 00:09:45,214 --> 00:09:48,980 ตอนนั้นโง่มากนึกว่าท่านนั่งหลับ 132 00:09:48,980 --> 00:09:52,899 ที่จริงท่านกำลังสอบประวัติเราอยู่ 133 00:09:52,899 --> 00:09:57,465 ว่าเราเคยภาวนามาแบบไหนอะไรอย่างไร 134 00:09:57,465 --> 00:10:01,582 ท่านหลับตาไปสัก 45 นาที 40 นาที 135 00:10:01,582 --> 00:10:04,638 ลืมตามาถึงสอน 136 00:10:04,638 --> 00:10:07,695 ไม่ใช่เจอหน้าก็สอน 137 00:10:07,695 --> 00:10:10,694 หลวงปู่ดูลย์ถ้าใครไปถามอะไรก็ตอบ 138 00:10:10,694 --> 00:10:16,615 แต่ถ้าจะเรียนจริงๆ ท่านจะเงียบๆ 139 00:10:16,615 --> 00:10:19,910 เราก็ต้องนั่งภาวนาของเราไป 140 00:10:19,910 --> 00:10:25,109 รอให้ท่านค่อยพูดเอง 141 00:10:25,109 --> 00:10:29,660 นี่กว่าจะได้ธรรมะมาก็ลำบากเหมือนกัน 142 00:10:29,660 --> 00:10:34,794 บางทีไปหาที่ภาวนาตามวัด 143 00:10:34,794 --> 00:10:38,975 แต่ละวัดก็มีเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งนั้นล่ะ 144 00:10:38,975 --> 00:10:41,112 เรียกผีบ้าน ผีเรือน 145 00:10:41,112 --> 00:10:47,808 ผีป่า ผีเขา มีทั้งนั้น ผีนี่หมายถึงคน 146 00:10:47,808 --> 00:10:52,940 คนที่ไปตั้งตัวเป็นใหญ่ตามวัด 147 00:10:52,940 --> 00:10:56,755 เข้าไปเราไม่รู้จักใครเลย 148 00:10:56,755 --> 00:11:00,875 จะไปกินข้าวที่ไหนเราก็ไม่รู้ 149 00:11:00,875 --> 00:11:03,726 เข้าไปทีแรก 150 00:11:03,726 --> 00:11:08,139 ครูบาอาจารย์ท่านตักอาหารเสร็จแล้ว พระท่านก็ฉันข้าว 151 00:11:08,139 --> 00:11:12,771 โยมก็ทำวัตรเช้า สวดมนต์ทำวัตรเช้า 152 00:11:12,771 --> 00:11:15,139 เห็นเขาขนอาหารไปวางข้างล่าง 153 00:11:15,139 --> 00:11:19,602 มีโต๊ะยาวๆ อยู่ อาหารไปวางไว้เยอะเลย 154 00:11:19,602 --> 00:11:24,319 ก็นึกว่าเดี๋ยวสวดมนต์เสร็จคงได้ไปกินข้าว 155 00:11:24,319 --> 00:11:26,519 พอสวดมนต์เสร็จลงมา 156 00:11:26,519 --> 00:11:30,615 แต่ละคนเขาหายไปหมดเลย พวกที่นั่งสวดมนต์ 157 00:11:30,615 --> 00:11:34,449 แล้วอาหารที่โต๊ะไม่มีเหลือเลย 158 00:11:34,449 --> 00:11:40,598 คือแต่ละคนจะมีพรรคพวกมีลูกน้องมีคนรับใช้ 159 00:11:40,598 --> 00:11:44,463 ขนเกลี้ยงเลยไม่มีอะไรเหลือเลย 160 00:11:44,463 --> 00:11:46,101 เรา เอ เราอยู่วัด 161 00:11:46,101 --> 00:11:48,542 เราไม่มีอะไรกินเลย เราจะอยู่อย่างไร 162 00:11:48,542 --> 00:11:53,108 ก็ช่างมัน ไม่กินวันสองวันไม่เป็นไรหรอก 163 00:11:53,108 --> 00:11:56,625 หลวงพ่อก็เดินกลับขึ้นศาลามา 164 00:11:56,625 --> 00:11:59,482 ครูบาอาจารย์ท่านเห็น 165 00:11:59,482 --> 00:12:05,622 รู้ว่าเราไม่มีข้าวกิน ท่านกวักมือเรียก 166 00:12:05,622 --> 00:12:08,890 เอาบาตรให้ บาตรของท่าน 167 00:12:08,890 --> 00:12:14,061 ไม่ได้ให้บาตรอย่างเดียว ในบาตรมีข้าวมีอะไร 168 00:12:14,061 --> 00:12:19,181 เรารู้เลยครูบาอาจารย์ความเมตตาสูงมาก 169 00:12:19,181 --> 00:12:24,314 สูง แต่ใจเราต้องเข้มแข็งพอ 170 00:12:24,314 --> 00:12:26,949 ประเภทห่วงกินห่วงนอน 171 00:12:26,949 --> 00:12:31,714 ไม่ได้กินไม่ได้ปฏิบัติจริง 172 00:12:31,714 --> 00:12:35,148 ไปวัดทีแรกบางทีไม่รู้จักใครเลย 173 00:12:35,148 --> 00:12:39,381 จะค้างที่วัดไปขอครูบาอาจารย์ 174 00:12:39,381 --> 00:12:41,298 ขอค้างที่วัด ท่านอนุญาต 175 00:12:41,298 --> 00:12:44,248 เราก็ไม่รู้เขาพักกันที่ไหน 176 00:12:44,248 --> 00:12:48,313 หาที่พักไม่ได้ ไปอยู่โคนต้นไม้ 177 00:12:48,313 --> 00:12:51,330 นั่งสมาธิเดินจงกรมไป 178 00:12:51,330 --> 00:12:55,863 ผ่านกลางคืนไปมีความสุขมหาศาลเลย 179 00:12:55,863 --> 00:13:00,735 ไม่ได้ห่วงเรื่องกินเรื่องนอนอะไรนักหนา 180 00:13:00,735 --> 00:13:03,946 อยู่ไปๆ ฝนตก 181 00:13:03,946 --> 00:13:09,126 ฝนตกอยู่กลางแจ้งไม่ไหว ฝนแรงแล้วหนาว 182 00:13:09,126 --> 00:13:11,293 ก็ไปหลบอยู่ใต้ถุนกุฏิ 183 00:13:11,293 --> 00:13:16,127 มีกุฏิของใครก็ไม่รู้เป็นส่วนโยม 184 00:13:16,127 --> 00:13:19,744 หลบอยู่ใต้ถุน 185 00:13:19,744 --> 00:13:24,659 ไม่บ่นสักคำ สู้เอา 186 00:13:24,659 --> 00:13:28,094 ถ้าเรื่องแค่นี้เราสู้ไม่ไหว 187 00:13:28,094 --> 00:13:34,810 เราจะสู้มารไหวหรือ สู้กิเลสไหวหรือ 188 00:13:34,810 --> 00:13:36,811 ฉะนั้นถ้าพวกเราสังเกตให้ดี 189 00:13:36,811 --> 00:13:42,009 มาเรียนกับหลวงพ่อ หลวงพ่อไม่โอ๋ 190 00:13:42,009 --> 00:13:44,543 ไม่เคยประคบประหงมแบบโอ๋ๆ 191 00:13:44,543 --> 00:13:48,141 เอาอกเอาใจอะไร ไม่เคย 192 00:13:48,141 --> 00:13:51,818 เพราะหลวงพ่อไม่เคย ให้ครูบาอาจารย์ต้องมาโอ๋หลวงพ่อ 193 00:13:51,818 --> 00:13:56,384 เราสู้เอา 194 00:13:56,384 --> 00:14:03,197 พวกชอบโอ๋ส่วนใหญ่ก็มีความต้องการแฝงเร้น 195 00:14:03,197 --> 00:14:09,229 โอ๋โยมนี่โอ๋คนรวยๆ เขาจะได้ให้เงินเยอะๆ 196 00:14:09,229 --> 00:14:11,479 ครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเรียนด้วย 197 00:14:11,479 --> 00:14:14,713 ท่านไม่ได้ทำอย่างนั้น 198 00:14:14,713 --> 00:14:19,862 ตอนนั้นเรารับราชการ ไปอยู่วัดทีหนึ่งหลายวัน 199 00:14:19,862 --> 00:14:23,327 ช่วงวันหยุดนี่ ช่วงต้นธันวา 200 00:14:23,327 --> 00:14:26,711 มีวันหยุดเยอะ จะลางานบ้างอะไรบ้าง 201 00:14:26,711 --> 00:14:29,970 ไปอยู่วัดได้ 10 วัน 11 วัน 9 วัน อะไรอย่างนี้ 202 00:14:29,970 --> 00:14:35,252 แต่ละปีไม่เท่ากัน 203 00:14:35,252 --> 00:14:39,603 ถวายปัจจัยท่านเล็กน้อยเท่านั้นเอง 204 00:14:39,603 --> 00:14:48,587 ท่านกลับดูแลเรามาก ดูแลละเอียด 205 00:14:48,587 --> 00:14:53,118 เข้าไปกราบ ท่านก็สั่งพระอุปัฏฐาก 206 00:14:53,118 --> 00:14:55,364 ให้ไปจัดกุฏิพระให้หลวงพ่ออยู่ 207 00:14:55,364 --> 00:14:58,302 ท่านสั่งอย่างนี้ บอกคนนี้เขาภาวนาจริง 208 00:14:58,302 --> 00:15:04,418 ให้ไปอยู่โซนพระ 209 00:15:04,418 --> 00:15:10,458 คนร่ำคนรวยคนใหญ่คนโตไปกราบ ท่านก็ยิ้มๆ 210 00:15:10,458 --> 00:15:16,575 ถวายอะไรท่านก็ยิ้มๆ เฉยๆ 211 00:15:16,575 --> 00:15:18,975 ตอนเวลาไปเรียนกับครูบาอาจารย์ 212 00:15:18,975 --> 00:15:24,990 บางทีคนใหญ่คนโตอะไรมากราบท่าน 213 00:15:24,990 --> 00:15:29,516 พระอุปัฏฐากก็ให้พวกนี้กราบๆ ไป แล้วก็ออกไปเลย 214 00:15:29,516 --> 00:15:35,981 แล้วก็เปิดโอกาสให้หลวงพ่อส่งการบ้าน 215 00:15:35,981 --> 00:15:41,004 นี่เราอยู่ในบรรยากาศที่อบอุ่น 216 00:15:41,004 --> 00:15:46,689 แต่ไม่ใช่อบอุ่นแบบลูกแหง่ 217 00:15:46,689 --> 00:15:50,988 ครูบาอาจารย์ไม่ได้มาประคบประหงมเรา 218 00:15:50,988 --> 00:15:56,821 แต่ดูแลให้เราภาวนา 219 00:15:56,821 --> 00:16:01,597 ตอนแรกหลวงพ่อก็เลยนึกว่า โอ้ พระกรรมฐานดีทุกองค์ 220 00:16:01,597 --> 00:16:04,359 เพราะเราเข้าไปวัดไหนก็เจอครูบาอาจารย์ 221 00:16:04,359 --> 00:16:07,261 ท่านก็ดีทั้งนั้นเลย 222 00:16:07,261 --> 00:16:11,189 เลยนึกว่าพระปฏิบัติจะต้องดีทุกองค์ 223 00:16:11,189 --> 00:16:14,923 กว่าจะฉลาดก็โง่มาก่อนทั้งนั้นล่ะ 224 00:16:14,923 --> 00:16:18,157 ก็มีดีบ้างไม่ดีบ้าง 225 00:16:18,157 --> 00:16:23,881 ฉะนั้นอย่างบางทีพวกเราร่อนเร่ ไปที่โน้นที่นี่ 226 00:16:23,881 --> 00:16:26,868 มีบุญก็เจอที่ดีๆ 227 00:16:26,868 --> 00:16:35,668 อกุศลให้ผลก็เจอที่หลอกๆ ถมเถไป 228 00:16:35,668 --> 00:16:37,602 สิ่งที่จะช่วยเราได้มากที่สุด 229 00:16:37,602 --> 00:16:40,694 เราแยกแยะยาก 230 00:16:40,694 --> 00:16:43,029 ว่าครูบาอาจารย์องค์ไหนดีหรือไม่ดี 231 00:16:43,029 --> 00:16:46,194 อย่างจะมาเชื่อว่าหลวงพ่อดีนี่โง่ 232 00:16:46,194 --> 00:16:49,127 รู้ได้อย่างไรว่าหลวงพ่อดี 233 00:16:49,127 --> 00:16:52,793 เป็นแค่ความเชื่อของเรา เชื่อตามๆ กัน 234 00:16:52,793 --> 00:16:55,851 นั่นเป็นความไม่ฉลาดเลย 235 00:16:55,851 --> 00:16:57,740 ฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยเราได้มาก 236 00:16:57,740 --> 00:17:02,604 คือการอ่านตำรับตำราไว้บ้าง 237 00:17:02,604 --> 00:17:04,021 อ่านพระไตรปิฎกอะไรอย่างนี้ 238 00:17:04,021 --> 00:17:07,455 จับหลักการปฏิบัติให้แม่นๆ 239 00:17:07,455 --> 00:17:10,290 หรืออย่างฟังหลวงพ่อ 240 00:17:10,290 --> 00:17:14,375 จับหลักให้แม่นแล้วไปลงมือทำ 241 00:17:14,375 --> 00:17:20,258 ไม่ต้องเชื่อแต่ไม่ได้ปฏิเสธ 242 00:17:20,258 --> 00:17:23,166 เวลาเราฟังธรรมะ 243 00:17:23,166 --> 00:17:26,075 ถ้าเป็นหลวงพ่อฟัง 244 00:17:26,075 --> 00:17:29,084 เราก็จะดูว่าคำสอนนี้ 245 00:17:29,084 --> 00:17:32,634 สอดคล้องกับพระไตรปิฎกไหม 246 00:17:32,634 --> 00:17:36,851 ถ้าไม่สอดคล้อง เราสังเกตต่อ 247 00:17:36,851 --> 00:17:40,716 ไม่สอดคล้องที่ Wording ที่คำพูด 248 00:17:40,716 --> 00:17:44,140 อย่างครูบาอาจารย์บางองค์ ท่านไม่ได้เรียนปริยัติเลย 249 00:17:44,140 --> 00:17:47,274 ท่านก็ใช้ภาษาตามสะดวกของท่าน 250 00:17:47,274 --> 00:17:50,036 เราก็ต้องฟังดู 251 00:17:50,036 --> 00:17:56,184 ว่าเนื้อหาสาระที่ท่านเทศน์นี่ถูกต้องไหม 252 00:17:56,184 --> 00:18:02,069 บางทีโดยพยัญชนะโดยภาษา โดยตัวหนังสือไม่ถูก 253 00:18:02,069 --> 00:18:05,268 แต่โดยเนื้อหาแล้วถูก อย่างนี้ก็มี 254 00:18:05,268 --> 00:18:08,552 ฉะนั้นถ้าเราได้ปฏิบัติด้วย 255 00:18:08,552 --> 00:18:14,201 ได้อ่านตำราด้วย จะช่วยให้เราคัดกรอง 256 00:18:14,201 --> 00:18:22,916 ก็จะได้ไม่หลงตกเป็นเหยื่อ 257 00:18:22,916 --> 00:18:25,400 ถ้าเราภาวนาไปถึงช่วงหนึ่ง 258 00:18:25,400 --> 00:18:31,082 เราจะเข้าใจอันไหนจริงอันไหนไม่จริง 259 00:18:31,082 --> 00:18:35,632 มันรู้ด้วยตัวเองได้ 260 00:18:35,632 --> 00:18:40,568 บางทีรู้แล้วแต่มันไม่สนองกิเลส 261 00:18:40,568 --> 00:18:43,046 บางคนอ่อนแอ 262 00:18:43,046 --> 00:18:48,311 อยากได้ครูบาอาจารย์ที่คอยโอ๋อย่างนี้ก็มี 263 00:18:48,311 --> 00:18:50,393 อยากได้ครูบาอาจารย์ที่คอยโอ๋ 264 00:18:50,393 --> 00:18:55,292 อยู่กับหลวงพ่อไม่ได้ เพราะหลวงพ่อไม่โอ๋ 265 00:18:55,292 --> 00:18:59,751 แบบนี้พอเขาทนไม่ไหว เขาก็ต้องไปหาที่เรียนที่อื่น 266 00:18:59,751 --> 00:19:04,046 ที่มีครูบาอาจารย์คอยโอ๋อยู่ 267 00:19:04,046 --> 00:19:08,667 สิ่งที่หลวงพ่อพยายามสอนพวกเรา 268 00:19:08,667 --> 00:19:11,453 คือเรียนให้รู้เรื่องฟังให้รู้เรื่องก่อน 269 00:19:11,453 --> 00:19:14,553 รู้แนวแล้วเอาไปลงมือทำ 270 00:19:14,553 --> 00:19:18,835 ลงมือทำแล้วก็วัดผลด้วยตัวเอง 271 00:19:18,835 --> 00:19:21,131 ที่เราปฏิบัตินี่ 272 00:19:21,131 --> 00:19:24,498 เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวเองไหม 273 00:19:24,498 --> 00:19:26,747 มักน้อยสันโดษบ้างไหม 274 00:19:26,747 --> 00:19:31,747 คลุกคลีน้อยลงไหม สังเกตตัวเองไป 275 00:19:31,747 --> 00:19:34,647 ใฝ่หาความสงบวิเวกบ้างไหม 276 00:19:34,647 --> 00:19:37,929 หรือกระดี๊กระด๊าอยู่ตลอดเวลา 277 00:19:37,929 --> 00:19:43,079 วัดใจตัวเองวัดความเปลี่ยนแปลงของตัวเองไป 278 00:19:43,079 --> 00:19:48,330 ละเอียดขึ้นมาก็ใจคิดถึงการปฏิบัติบ่อยไหม 279 00:19:48,330 --> 00:19:52,597 นานๆ คิดทีอะไรอย่างนี้ไม่ได้กินหรอก 280 00:19:52,597 --> 00:19:54,613 ถ้าเราภาวนา 281 00:19:54,613 --> 00:19:58,494 อย่างฟังหลวงพ่อไปแล้วเจริญสติรู้กายรู้ใจ 282 00:19:58,494 --> 00:20:03,545 ตามความเป็นจริง ด้วยจิตตั้งมั่นและเป็นกลาง 283 00:20:03,545 --> 00:20:08,397 ในเวลาไม่นาน เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง 284 00:20:08,397 --> 00:20:10,733 เคยโกหกหน้าตาย 285 00:20:10,733 --> 00:20:14,599 เวลาจะโกหกแล้วคราวนี้ชักละอายใจแล้ว 286 00:20:14,599 --> 00:20:17,323 อย่างนี้ถือว่ามีพัฒนาการ 287 00:20:17,323 --> 00:20:19,967 เลวแล้วรู้ว่าเลว 288 00:20:19,967 --> 00:20:24,283 มุสาวาทไม่ดีหรอก แล้วเรารู้ว่ามันไม่ดี 289 00:20:24,283 --> 00:20:27,700 มันเคยชินที่จะพูดไม่ดี 290 00:20:27,700 --> 00:20:30,987 ฉะนั้นเวลาพูดไปแล้ว บางทีมันหลุดปากออกไป 291 00:20:30,987 --> 00:20:35,255 มันละอายใจ อย่างนี้ถือว่าก้าวหน้า 292 00:20:35,255 --> 00:20:40,643 ชั่วแล้วรู้ว่าชั่ว ก้าวหน้า 293 00:20:40,643 --> 00:20:43,826 ก็สังเกตได้ด้วยตัวเอง 294 00:20:43,826 --> 00:20:48,782 หรือบางคนบอกทำสมาธิจิตไม่เคยมีสมาธิเลย 295 00:20:48,782 --> 00:20:54,077 แต่มามีสติรู้กายรู้ใจ ตามความเป็นจริงไปเรื่อยๆ 296 00:20:54,077 --> 00:20:58,260 อยู่ๆ มันมีความสุขผุดขึ้นมาเอง 297 00:20:58,260 --> 00:21:02,159 ความสุขผุดขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ทำอะไร 298 00:21:02,159 --> 00:21:05,143 นั่นล่ะจิตมันมีสมาธิ 299 00:21:05,143 --> 00:21:08,277 มีสมาธิตามธรรมชาติแล้ว 300 00:21:08,277 --> 00:21:13,126 มีความสุขผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ 301 00:21:13,126 --> 00:21:15,630 คล้ายๆ เป็นรางวัลปลอบใจ 302 00:21:15,630 --> 00:21:20,945 ให้เราเข้มแข็งในการปฏิบัติต่อไป 303 00:21:20,945 --> 99:59:59,999 อย่างช่วงแรกๆ ที่เราภาวนา เรายังไม่เห็นผลที่สำคัญ 304 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเรายังไม่ถึงมรรคถึงผลอะไรอย่างนี้ 305 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำดิน ยังไม่เห็น มันมีความสุขผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ บางที 3 วันผุดขึ้นมาทีหนึ่ง อาทิตย์หนึ่งผุดขึ้นมาทีหนึ่ง มันก็มีกำลังใจ 306 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีกำลังใจ ธรรมะนี้ดีปฏิบัติแล้วอยู่ๆ มีความสุขผุดขึ้นมาได้ ก็จะขยันภาวนา 307 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาหลวงพ่อภาวนาแต่ก่อน 308 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความสุขมันมีอยู่แล้วล่ะเพราะนั่งสมาธิมานาน 309 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่บางครั้งมันเกิดปัญญา 310 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดความรู้ความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา 311 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอมีความรู้ความเข้าใจผุดขึ้นมาทีหนึ่ง 312 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็มีความสุขหลายวัน แต่ก็ไม่เกิน 7 วัน 313 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วพอมีความรู้อย่างนี้ผุดขึ้นมา 314 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็มีการบ้านไปส่งครูบาอาจารย์แล้ว 315 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็จะไปเล่าถวายท่านว่าผมภาวนาแล้วมันมีอาการอย่างนี้ 316 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ผมจัดการมันอย่างนี้ๆ ทำอย่างนี้ 317 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่กระผมทำอยู่นี่ถูกหรือไม่ถูก 318 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าไม่ถูกครูบาอาจารย์ช่วยบอกด้วย 319 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าถูกแล้วครูบาอาจารย์ช่วยแนะนำวิธีปฏิบัติที่ยิ่งๆ กว่านี้ที่ดีกว่านี้อีก 320 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนใหญ่ท่านก็จะบอกว่าที่ทำน่ะถูกแล้ว ให้ทำต่อไป อันนี้เป็นการวัด 321 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นการวัดมี 2 อัน 322 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันหนึ่งวัดใจตัวเอง สติเกิดบ่อยขึ้นไหม 323 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำผิดศีลได้หน้าตาเฉยหรือว่าละอายใจบ้างหรือยัง 324 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สมาธิเกิดขึ้นบ้างไหม นี้เราวัดใจตัวเอง 325 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีโอกาสเจอครูบาอาจารย์บางทีเราก็ต้องถาม 326 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่ผมทำอยู่นี่ มันถูกไหม 327 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าถูกแล้วทำอย่างไรมันจะดีกว่านี้อีก 328 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านก็จะบอกว่าทำต่อไป 329 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าบอกว่าทำต่อไปแสดงว่าทำถูกแล้ว 330 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าทำไม่ถูกเดี๋ยวท่านก็บอกเองล่ะ 331 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นไหมไม่มีไปอ้อนเลย 332 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 “หลวงปู่ครับหลวงปู่” ต้องทำเสียงอ้อนๆ 333 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 “หลวงปู่ครับอย่างโน้นอย่างนี้ ผมอย่างโน้นผมอย่างนี้ 334 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ผมอยากปฏิบัติ แต่ๆๆๆๆ” เต็มไปด้วยคำว่าแต่ 335 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เจอหลวงปู่ปราโมทย์โดนเบิ๊ดกะโหลกเลย 336 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เงื่อนไขเยอะ 337 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตั้งใจภาวนา สู้เอา แล้วสังเกตตัวเอง 338 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การปฏิบัติมันก็ไม่ได้ยากอะไร 339 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขั้นแรกถือศีล 5 ข้อไว้ก่อน 340 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีล 8 ถือเป็นครั้งคราว 341 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นฆราวาสทำงานหนักๆ 342 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อดข้าวเย็นทุกวันเดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะ 343 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ดูสภาวะของตัวเอง 344 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ผู้หญิงบางคนมีสามีแล้วก็ปฏิญาณตนถือศีล 8 345 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ให้สามีถูกตัว 346 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกไม่เอาแล้วฉันจะไปนิพพานแล้ว 347 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลูกผัวฉันไม่เอาแล้ว 348 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสามีไปมีผู้หญิงอื่น 349 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คราวนี้นิพพานไม่เอาแล้ว 350 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาละวาดแล้ว ร้องห่มร้องไห้ 351 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คุณแม่จะได้ยินเรื่องพวกนี้บ่อย 352 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนชอบมาร้องห่มร้องไห้ 353 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่ถือศีลเกินฐานะ เป็นฆราวาส 354 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แหม อยากถือศีล 8 อะไรอย่างนี้ 355 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสามีไม่ยอมด้วย ทนไม่ได้ 356 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กรรมฐานที่ฝึกไว้ล่มเลย 357 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นถือศีลให้พอดีกับตัว ให้พอดี 358 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถือศีลนี่เอาแบบลำบากนิดๆ 359 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ข่มใจนิดๆ ไม่ต้องข่มใจแบบหักดิบ มันจะไม่ไหว 360 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอไม่ไหวนี่ต่อไปใจมันฝ่อ 361 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างตั้งใจว่าจะประพฤติพรหมจรรย์ 362 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วทำไม่ได้ใจมันฝ่อ 363 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ตั้งใจว่าไม่ไปผิดลูกผิดเมียใครเขาอย่างนี้ 364 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นเมียคนอื่นสวย 365 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ข่มใจตัวเองนิดหน่อย อย่างนี้ดี 366 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจมันจะค่อยๆ เข้มแข็งขึ้น 367 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลต้องรักษา สมาธิต้องทำ 368 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเคยพลาด 369 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พลาดหลายครั้งเรื่องไม่อยากทำสมาธิ 370 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะทำมาแต่เด็ก 371 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำแล้วก็รู้สึกมันไม่ได้อะไร ได้แต่ความสงบ 372 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ขี้เกียจทำแล้ว มาเจริญปัญญารู้สึก แหม ดีๆ 373 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสมาธิเรากำลังไม่พอเมื่อไร 374 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การเจริญปัญญาจะผิดทันทีเลย 375 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิปัสสนูปกิเลสจะเกิด 376 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคยเกิดวิปัสสนูหลายแบบ ประเภทว่างอย่างนี้ 377 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกเราจะเจอบ่อย ดูจิตๆ แล้วมันว่างไป 378 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็ยินดีพอใจในความว่าง แล้วติดอยู่ในความว่าง 379 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวนี้ก็ไปไม่รอดก็อยู่แค่นั้น 380 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเคยเจออีก 2 - 3 แบบ 381 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แบบหนึ่งสติเข้มแข็งมากเลย 382 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เข้มแข็งถึงขนาดมันแยกสภาวะ 383 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยกรูปธรรมนามธรรมได้ละเอียดยิบเลย 384 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มองอากาศข้างหน้าสติมันแข็งแรงมาก 385 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นอากาศนี่จริงๆ แล้วเป็นเม็ดๆ เห็นอย่างนั้น 386 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือบางทีเกิดปัญญามาก 387 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วก็เกิดความรู้ความเข้าใจอะไรขึ้นมา 388 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็พยายามจำไว้ 389 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โอ้ ธรรมะอันนี้ดี พอภาวนาไปอีก 390 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ้าว เกิดความรู้อีกแล้ว ก็จำเอาไว้อีก 391 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แค่อาทิตย์เดียวมีสภาวะเหมือนคนบ้า 392 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ได้บ้าจริงหมายถึงเทียบให้ฟัง 393 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เหมือนคนบ้าชนิดที่ว่าไปไหนก็เดินแบกตู้พระไตรปิฎกไป 394 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนดีที่ไหนจะไปทำอย่างนั้น 395 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรา เอ๊ เราต้องผิดที่ไหนสักที่หนึ่ง 396 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไมภาวนาแล้วแทนที่ใจจะโปร่งโล่งเบาคลายความยึดถือ 397 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่เรากลับไปยึดถือปัญญามากมาย 398 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นเกิดความรู้ถูกเข้าใจถูก 399 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีปัญญาขึ้นมาแล้วเสียดาย 400 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เก็บๆๆ ใส่สมองไว้เต็มไปหมดเลย 401 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนั้นก็รู้อันนี้ก็รู้ นี่ก็เป็นวิปัสนูอย่างหนึ่ง 402 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้เยอะไป เหมือนปัญญามากมาย ก็ใช้ไม่ได้ 403 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วก็ยิ่งหนักขึ้นๆ แสดงว่าผิดแล้วล่ะ 404 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วมันต้องปล่อยวางได้ 405 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่ภาวนาแล้วยิ่งยึดถือ 406 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วปล่อยวางต้องให้จิตมันปล่อยวางด้วยปัญญา 407 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่แกล้งปล่อย 408 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเคยอ่านหนังสือของเซน 409 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านแล้วใจเราโล่งๆ ว่างๆ รู้สึกอย่างนี้ดี 410 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็น้อมจิตไปอยู่กับใจที่ว่างๆ โล่ง 411 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นโลกนี้ว่างไปหมด อะไรๆ ก็ว่าง คิดว่าดี 412 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เสร็จแล้วก็พบว่าไม่ใช่หรอก 413 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่เราปรุงแต่งขึ้นมา 414 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นเวลาเราภาวนาก็ต้องค่อยสังเกตไป 415 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อะไรที่ภาวนาไปแล้วมันขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า 416 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สภาวะอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นไปเพื่อความปล่อยวางหรือเพื่อความยึดถือ 417 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สภาวะทั้งหลายตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ไหม 418 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าภาวนาแล้วไม่เข้าหลักไตรลักษณ์ ผิดแน่นอน 419 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือที่เราปฏิบัติอยู่นี่เป็นสมถะหรือเป็นวิปัสสนาต้องแยกให้ออก 420 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าแยกไม่ออกเราก็หลงทำสมถะอยู่ 421 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเราก็คิดฟุ้งซ่านไป 422 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วบอกเราเกิดปัญญา อันนี้ก็ใช้ไม่ได้ 423 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือบางทีเดินปัญญามากสมาธิไม่พอ อันนี้ก็ใช้ไม่ได้ 424 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องสังเกตตัวเอง ไม่ต้องรอถามครูบาอาจารย์ 425 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นานๆ จะมีโอกาสถามครูบาอาจารย์สักครั้งหนึ่ง 426 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่สติปัญญามันอยู่กับตัวเราทุกวัน 427 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาศัยสิ่งที่อยู่กับตัวเรานี่ล่ะ 428 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คอยสังเกตสิ่งที่เราทำอยู่นี่ 429 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำให้อกุศลลดลงไหม 430 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำให้อกุศลเกิดยากขึ้นไหม 431 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำให้กุศลเกิดบ่อยไหม 432 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดแล้วถี่ขึ้นๆ ไหม หรือนานๆ เกิดที 433 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่วัดใจตัวเอง สังเกตไป ดูไปเรื่อยๆ 434 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การสังเกตกิเลสเป็นเรื่องสำคัญ 435 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วสังเกตกิเลสออกนี่ดีมากๆ เลย 436 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในเบื้องต้นจิตใจเรามีกิเลสอะไร เราคอยรู้ 437 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็จะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแล้วดับ 438 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต่อไปพอเราเข้าใจธรรมะ 439 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงที่เราคิดว่าเราบรรลุมรรคผล 440 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็จะวัดว่าบรรลุจริงหรือไม่จริง 441 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วัดที่ไหน วัดที่กิเลส 442 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราภาวนาแล้วจิตเรารวมวูบลงไป ถอยออกมา 443 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลายคนรีบสรุปเลย ได้โสดาบัน 444 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะได้หรือไม่ได้ วิญญูชนต้องสังเกตเอา 445 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มีใครเขาบอกกันหรอก 446 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะบอกแล้วมันอันตราย 447 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีเขาก็หลอกเอา 448 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปภาวนา เฮ้ย ได้โสดาบันแล้ว 449 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เขาให้ตำแหน่งก็ดีใจ มีเงินมีทองก็ยกให้เขาอะไรอย่างนี้ 450 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือเลื่อมใสศรัทธางมงายไปเลย 451 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นถ้าเราภาวนาแล้วเราคิดว่าเราได้โสดาบัน 452 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือภาวนาแล้วมีใครมารับรองเราว่าได้โสดาบัน 453 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทั้ง 2 นัยยะ คิดเอง 454 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือมีใครมาบอกก็ตาม ให้สังเกตที่กิเลส 455 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระโสดาบันละกิเลสบางอย่างได้เด็ดขาดแล้ว 456 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ละสักกายทิฏฐิคือละความเห็นว่าตัวเรามีอยู่จริง มีตัวมีตน แล้วสังเกตลงไปว่ามีไหม 457 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างบางทีภาวนาจิตมันว่างๆ ไป 458 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วบอกว่าตัวเราไม่มีแล้ว 459 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกใจเย็นๆ ดูไปหลายๆ วัน 460 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนที่สมาธิเสื่อมลง จิตใจเป็นคนธรรมดานั่นล่ะ 461 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูสิมันจะมีตัวเราอีกไหม 462 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีพอจิตมันทรงสมาธิอยู่ 463 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็มองตัวเราไม่เห็น มันสบาย มันว่างๆ 464 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสมาธิเสื่อมก็ไม่มีตัวเรา มีแต่ตัวกู 465 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หนักกว่าตัวเราอีก 466 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่สังเกตเอามันละได้จริงหรือเปล่า 467 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนก็ภาวนาเขานึกว่าได้โสดาบัน 468 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือมีคนรับรองว่าได้โสดาบัน 469 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ดูลงไปที่ตัวเอง ละสักกายทิฏฐิได้ไหม 470 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีล 5 ของเราดีไหม 471 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าศีล 5 ยังด่างพร้อยอยู่ ยังไม่ใช่หรอก 472 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นวัดตรงนี้ วัดที่กิเลสของเรานี่ 473 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ากิเลสยังหยาบๆ จนทำผิดศีลได้ ไม่ใช่หรอก 474 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ค่อยๆ สังเกตเอา 475 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกที่ชอบพยายามมาถามหลวงพ่อว่าได้โสดาบันหรือยัง 476 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนหนักกว่านั้น มาบอกว่าได้โสดาบันแล้ว 477 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคยเจอหนักที่สุดเป็นพระ บอกได้พระอรหันต์แล้ว 478 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อบอกยังไม่ได้หรอก 479 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจเศร้าหมองเลย มัว ขุ่นมัว เศร้าหมองไปหมด 480 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกเห็นไหมจิตมีโทสะแล้ว เห็น ไม่ใช่พระอนาคามีหรอก 481 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วัดกันด้วยกิเลสอย่างนี้ ไล่ๆๆๆ ต้อนลงไปเรื่อยๆ 482 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นใครบอกเราได้โน้นได้นี่ อย่าเพิ่งเชื่อ 483 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือเราภาวนาแล้วเราเชื่อของเราเอง 484 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็อย่าเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์สังเกตกิเลสไปนานๆ 485 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อก่อนมีครูบาอาจารย์องค์หนึ่งชื่อหลวงพ่อกิม 486 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อกิมนี่ภาษาเขมรไม่ใช่ภาษาจีน 487 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นคนสุรินทร์ 488 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อกิมบอกว่าไปภาวนานี่ 489 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ แล้วคิดว่าบรรลุอะไรแล้วนี่ 490 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้ดู 3 เดือน 491 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูไปเรื่อยๆ 3 เดือนนี้กิเลสจะกลับมาไหม 492 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระทั่งคิดว่าเป็นพระอรหันต์ ดูไป 3 เดือนเดี๋ยวก็เจอ 493 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าตั้งใจว่าเราเป็นไปแล้ว เชื่อไปแล้ว 494 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คราวนี้ไม่ยอมดูแล้ว ไม่กล้าดู 495 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลายคนภาวนาได้ใบเซอร์ฯมาจากที่อื่น บอกไม่กล้าดูแล้ว 496 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะว่ากลัวจะไม่ได้เป็นโสดาบัน 497 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปเรียนสะเปะสะปะ อันตราย 498 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ปริยัติไว้บ้างก็ดี เอาไว้ตรวจสอบตัวเอง 499 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคยได้ยินคำว่าโยนิโสมนสิการไหม 500 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โยนิโสมนสิการ การพิจารณาโดยแยบคาย 501 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คำว่าแยบคายไม่ใช่เจ้าเล่ห์แสนกล 502 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยบคายนี่ก็คือดูว่าอันนี้สอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลายไหม 503 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยบคายตรงนี้คือดูว่ามันสอดคล้องไหม 504 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้สอนวิธีตรวจสอบตัวเอง 505 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะได้ไม่งมงาย ไม่ต้องฟังใคร 506 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อภาวนาหลวงพ่อไม่เคยสงสัยตัวเองเลย 507 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาอย่างไร เพราะเราตรวจสอบตัวเองเสมอ 508 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีเข้าไปหาครูบาอาจารย์ก็ไปเล่าให้ท่านฟัง 509 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านก็ชมว่าฉลาดๆ คอยรู้ทันจิตใจตัวเอง 510 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าได้โสดาบัน สกทาคามี 511 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลของเราต้องบริบูรณ์ สมาธิยังเล็กน้อย แต่ว่าละกิเลสไปอีกกลุ่มหนึ่ง 512 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ละความเห็นผิดว่าในขันธ์ 5 นี่มีตัวเราอยู่ 513 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือมีตัวเรานอกเหนือจากขันธ์ 5 เป็นอย่างไร 514 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวเรานอกขันธ์ 5 บางคนนั่งสมาธิ 515 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถอดจิตออกไปอยู่ข้างบน 516 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ย้อนมาดู ขันธ์ 5 มันอยู่ข้างล่าง 517 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่มีตัวเราอยู่นอกขันธ์ 5 อีก มีตัวเรา 518 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขันธ์ 5 เป็นตัวเรา ตัวเราเป็นขันธ์ 5 อะไรอย่างนี้ 519 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าได้จริงจะไม่มี 520 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันจะรู้เลยขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวเรา 521 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มีตัวเรานอกเหนือจากขันธ์ 5 ก็ไม่มี 522 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัยจะไม่มี 523 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเราได้โสดาบัน 524 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะไม่สงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงไหม 525 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระพุทธเจ้าตรัสรู้จริงไหม 526 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนนี่นำเราพ้นทุกข์ได้จริงไหม 527 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะไม่สงสัยในตัวพระพุทธเจ้าเลย 528 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เด็กยุคนี้บอกพระพุทธเจ้าไม่มีหรอก 529 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดอย่างนั้นเลย 530 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พูดไปทั้งๆ ที่ไม่ได้พิสูจน์ พูดด้วยความเห็น 531 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วความเห็นตัวนั้นเป็นความเห็นผิด 532 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความเห็นที่ไม่ทนต่อการพิสูจน์ 533 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่พอถ้าภาวนาได้ธรรมะแล้ว 534 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะรู้พระพุทธเจ้ามีจริง 535 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คำสอนของท่านมีจริง พาพ้นทุกข์ได้จริง 536 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระธรรมมีจริงไหม มี 537 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระธรรมนำทางเราไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ มีจริงๆ 538 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระสงฆ์มีไหม มี 539 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราอาจจะไม่รู้ว่าองค์ไหนเป็นพระสงฆ์ 540 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ตัวเองเป็นพระสงฆ์ไปเรียบร้อยแล้ว 541 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทั้งๆ ที่ยังนุ่งกางเกง ใส่ผ้านุ่งผ้าถุงอะไรอย่างนี้ 542 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เป็นพระสงฆ์ไปเรียบร้อยแล้ว 543 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันจะรู้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีจริง ไม่สงสัย 544 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ว่าการปฏิบัติที่ถูกเป็นอย่างไร 545 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ละสีลัพพตปรามาส การถือศีลบำเพ็ญพรตอย่างงมงาย 546 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างบางคนบำเพ็ญพรตงมงาย 547 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช่น คิดว่ากินเจแล้วบรรลุได้เร็วกว่า 548 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ากินเจถึงจะบรรลุได้ 549 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วัวควายกินหญ้ามาตลอดคงบรรลุหมดแล้วล่ะ 550 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือบางคนคิดว่าต้องอาบน้ำในแม่น้ำคงคาแล้วจะบรรลุเร็ว 551 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าอย่างนั้นปลาในแม่น้ำคงคาก็บรรลุหมดแล้วล่ะ 552 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างนี้ที่เรียกว่าสีลัพพตปรามาส งมงาย เราจะละความงมงาย 553 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะรู้เลยสิ่งที่ทำให้เราบรรลุพระโสดาบันคือไตรสิกขา ศีลสิกขา จิตตสิกขา ปัญญาสิกขา 554 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินอยู่ในหลักของสติปัฏฐาน 555 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลงมือทำสติปัฏฐาน 556 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในเบื้องต้นทำให้เกิดสติ 557 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอมีสติแล้วศีล สมาธิ 558 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ปัญญาก็จะค่อยๆ แก่รอบขึ้น 559 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะรู้ว่าเส้นทางที่ไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้น 560 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุดท้ายหนีไม่พ้นเรื่องสติปัฏฐานหรอก 561 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติปัฏฐานเป็นทางสายเอกเป็นทางสายเดียวเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น 562 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นวัดที่ตัวเอง 563 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลายคนบางทีเขียนจดหมายมา 564 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มาเล่าหลวงพ่อบอกว่าได้โสดาบันแล้ว 565 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนบอกว่าเห็นจิตกับสภาพธรรมที่แวดล้อมอยู่เป็นสิ่งเดียวกันแล้ว 566 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันเห็นด้วยกำลังสมาธิเป็นครั้งคราวหรอก 567 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวก็ไม่เห็น มันยังไม่ใช่ของแท้ 568 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นต้องค่อยๆ สังเกตตัวเองให้ดี 569 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าเข้าข้างตัวเอง 570 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเคล็ดลับสำคัญในการสังเกตจิตตนเอง 571 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องดูจิตตนเองในภาวะปกติ 572 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าไปทรงสมาธิอยู่ 573 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างถ้าเราไปทรงฌานอยู่ 574 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเราบอกว่า เราไม่มีราคะแล้ว ไม่มีโทสะแล้ว 575 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มีกามราคะ ไม่มีโทสะ 576 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นพระอนาคามีแล้ว 577 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ออกจากสมาธิมา อ้าว กิเลสกลับมาอีกแล้ว 578 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ราคะก็แรงยิ่งกว่าเก่า โทสะก็ยิ่งแรงยิ่งกว่าเก่าอีก 579 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกนั่งสมาธิหลุดออกมาจากสมาธิแล้ว กิเลสแรง กิเลสมันคิดดอกเบี้ย 580 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันถูกเก็บกดอยู่ช่วงหนึ่ง 581 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีโอกาสมันซัดเราหงายท้องเลย 582 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาเวลาเราจะสังเกตกิเลสตัวเอง 583 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สังเกตในภาวะปกติในใจที่เป็นปกติอย่างนี้ 584 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่ใจที่ทรงสมาธิอยู่ 585 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนเพ่งเอาไว้อย่างนี้ แล้วบอกว่าไม่มีกิเลสแล้ว 586 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อพยายามทำหน้าให้ดู 587 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตก็เป็น ทำทั้งหน้าทั้งใจ เพ่งอยู่อย่างนี้ 588 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วบอกไม่มีกิเลส ใครด่าก็ไม่โกรธ 589 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใครชมก็เฉยๆ เห็นผู้หญิงสวยๆ เดินโป๊ๆ ก็เฉยๆ 590 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไมมันเฉย จิตมันติดสมาธิอยู่ 591 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็ข่มกามราคะได้ 592 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันข่ม มันไม่ได้ละ มันข่มไว้ชั่วคราว 593 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นเวลาที่เราภาวนาแล้วเรานึกว่าเราได้โน้นได้นี้ 594 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราวัดกิเลสตัวเอง วัดในภาวะที่จิตใจเป็นปกติ 595 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าไปน้อมจิตให้นิ่งๆ ทื่อๆ อยู่ 596 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็มาวัดตอนที่มันนิ่งๆ ทื่อๆ 597 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนั้นจะวัดไม่ออก 598 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเป็นคนปกติอย่างเวลานั่งสมาธิจิตรวมอยู่อย่างนี้ 599 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนมาด่าก็เฉย 600 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาออกจากสมาธิคนยังไม่ทันด่า 601 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันมองหน้าโดดถีบมันแล้ว นี่มันจะต่างกัน 602 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นต้องวัดตัวจริง 603 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ถูกฌานสมาบัติอะไรมาห่อหุ้มเอาไว้ 604 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นเวลาวัดกิเลส วัดตอนที่ใจเราเป็นปกตินี่ล่ะถึงจะเห็นชัด 605 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอได้หลักไหมในการที่จะไปตรวจสอบการปฏิบัติของตัวเอง 606 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราตรวจสอบการปฏิบัติของตัวเอง 607 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้โยนิโสมนสิการเป็นสำคัญ 608 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะรู้โยนิโสมนสิการได้ต้องมีสุตตะ มีการเรียนรู้ 609 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุตตะไม่ใช่พระสูตรเฉยๆ สุตตะ การฟังๆ การอ่านก็ใช้ได้ 610 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านพระไตรปิฎกอะไรอย่างนี้ 611 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านให้รอบคอบ 612 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านแล้วก็จับประเด็นผิดๆ ถูกๆ อะไรอย่างนี้ 613 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันตรายเหมือนกัน อ่านต้องรอบคอบ 614 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างบอกว่าถ้าพระไปรักษาโรคให้คน 615 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระหมอนี่ทำผิดศีล เป็นเดรัจฉานวิชา 616 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิชาแพทย์ พระไปทำเดรัจฉานวิชา อาบัติ นี่พูดเอาเอง 617 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่จริงพระหากินด้วยเดรัจฉานวิชา อาบัติ 618 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่พระใช้เดรัจฉานวิชาช่วยเหลือสงเคราะห์โลกอะไรอย่างนี้ 619 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นความเมตตากรุณาต่างหาก 620 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอตีความผิดก็ใส่ร้ายพระไปทั่ว 621 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 องค์โน้นผิดองค์นี้ผิด ผิดอะไรนักหนา 622 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องเรียนต้องอ่านบ้าง 623 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่อ่านแล้วก็เอาแขวนขึ้นหิ้งไว้ก่อน 624 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนที่ลงมือภาวนา ลืมไปก่อน 625 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วภาวนาเสร็จแล้วลองมาเทียบดูกับตำรา 626 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าภาวนาถูกต้องตรงกัน ต้องตรงกัน 627 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นโยนิโสมนสิการไม่ใช่คิดเรื่อยเปื่อย 628 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่คิดตามใจกิเลส 629 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่คิดโดยดูหลักเกณฑ์ 630 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระพุทธเจ้าสอนอย่างไร 631 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระอรหันตสาวกท่านสอนไว้อย่างไร 632 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูตรงนั้น แล้วก็จุดสำคัญ 633 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หัดสังเกตตัวเอง สังเกตใจไว้ 634 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็มีโอกาสถามครูบาอาจารย์ 635 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงนี้เสี่ยงมากเลย 636 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีเราภาวนาดี เราไปเจอครูบาอาจารย์เก๊ 637 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปถามเขาแก้ของเรา 638 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อก่อนมีเรียนกับที่อื่นมา 639 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วมาฟังกับหลวงพ่อ เราก็แก้ให้ 640 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กลับไปหาอาจารย์ 641 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาจารย์แก้กลับไปอย่างเดิมอีก 642 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างกับตีปิงปอง ตีกลับไปกลับมา 643 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุดท้ายหลวงพ่อตบทีเดียว 644 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระเด็นออกนอกโต๊ะไปเลย ไม่เอาด้วยแล้ว 645 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นวัดใจตัวเองให้ได้ดีที่สุด 646 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเครื่องมือในการวัด โยนิโสมนสิการ วัดด้วยตัวนี้ 647 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นอย่าได้โง่งมงาย 648 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกวันนี้คนออกมาสอนมากมายเหลือเกิน 649 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราภาวนาชำนิชำนาญ 650 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราฟังปุ๊บเราก็รู้แล้วนี่ธรรมะระดับไหน 651 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ธรรมะระดับคิดเอาหรือว่ามีประสบการณ์ตรง 652 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ประสบการณ์นั้นตรงถูกหรือไม่ถูก 653 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปอีกหลายระดับ ค่อยๆ ดูเอา 654 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้ 655 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไมไม่สอนวิธีปฏิบัติ สอนไปเยอะแล้ว 656 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้สอนการตรวจการบ้านตัวเอง 657 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะได้ไม่ต้องมาถามหลวงพ่อบ่อย 658 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1 เบอร์ 1 ต้องตกใจด้วย เรียกเบอร์ 1 ทีเดียว 659 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1: ในรูปแบบนั่งสมาธิอยู่กับลมหายใจ 660 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่กับอารมณ์อันเดียวบ้าง 661 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูจิตทำงานบ้าง รู้ทันบ้างไม่ทันบ้าง 662 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังจงใจมากไปเพราะมันยังไม่ยอมรับความจริงและความอยากดี 663 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชีวิตประจำวันคอยมีสติรู้ทันจิตคิด 664 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่รวมๆ แล้วสติยังช้าและอ่อนอยู่ 665 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้จักกิเลสตัวเองมากขึ้นทั้งมานะ โทสะ ความอยาก 666 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันวนเวียนกลับมาเรื่อยๆ ขอคำสั่งสอนครับ 667 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่รู้ที่เห็นถูกแล้ว ดี 668 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จุดที่ยังผิดอยู่คือจิต 669 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตของเราปกติเป็นแบบนี้ไหม 670 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยักหน้าเอาหรือส่ายหน้า ไม่เป็นอย่างนี้ 671 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าจิตเป็นอย่างนี้ใช้ไม่ได้ 672 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปล็อกนิ่งๆ เฉยๆ จิตเฉยๆ อย่างนี้ 673 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใครด่าก็เฉย จิตตรงนี้ก็ยังไม่ปกติ ดูออกไหม 674 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เออ รู้ทันแล้ว ใช้ได้ ดีที่ทำอยู่ 675 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อถึงบอกอย่างไรเวลาวัดต้องวัดด้วยใจที่ปกติ 676 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าใจไปทรงไว้อย่างนี้ มันวัดอะไรไม่ได้หรอก 677 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันเห็นกิเลสก็เห็นไม่จริง 678 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 2: ในรูปแบบนั่งสมาธิ 679 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจเข้าพุทออกโธ 680 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในชีวิตประจำวันบริกรรม 681 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พุทโธ ธัมโม สังโฆ ในใจ มีเผลอบ้าง 682 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ทราบว่าควรดูกายหรือจิตครับ 683 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บริกรรมไปเรื่อยๆ เอาสติ พอเราได้สติ 684 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราพุทโธๆ ไป 685 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เผลอแล้วเรารู้ เผลอแล้วรู้ 686 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราได้สติได้สมาธิขึ้นมา 687 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วคราวนี้สติระลึกรู้ลงในกาย 688 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็ดูเห็นไตรลักษณ์ 689 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติไปรู้การทำงานของจิต 690 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็เห็นจิตใจแสดงไตรลักษณ์ ดูไป 691 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติรู้อะไรก็รู้อันนั้นล่ะ 692 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ต้องบังคับว่าจงรู้เฉพาะร่างกายหรือจงรู้เฉพาะจิต 693 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าไปบังคับมัน จะตึงไป สังเกตไหมใจเราตึงๆ ไปนิดหนึ่ง 694 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สบายๆ รู้ไปธรรมดาๆ ใจธรรมดาดีที่สุดเลย 695 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงนี้ไม่ธรรมดาแล้วรู้สึกไหม 696 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อกี้ธรรมดา ตอนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเราไปรวบเข้ามา 697 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวนี้โมหะแทรกแล้วรู้สึกไหม มันซึมลงไป 698 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นทำสมาธิก็ทำไป 699 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะบริกรรมก็บริกรรมไป 700 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับจิตใจ ให้คอยรู้ทัน 701 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บริกรรมแล้วโมหะแทรก ชักเคลิ้มชักลืมตัวรู้ทัน 702 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ารู้ทันแล้วก็หายใจให้แรงขึ้นนิดหนึ่งก็ได้ 703 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระตุ้นความรู้สึกตัวไม่ให้มันหย่อนเคลิ้มลงไป 704 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกตัวไปแต่อย่าไปกระตุ้นมาก มันจะแข็งไป 705 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เอาแค่ไม่หลงไม่เคลิ้มไม่ถูกโมหะครอบ 706 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้เนื้อรู้ตัวด้วยใจปกติ 707 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โมหะแทรกตรงนี้ เราน้อมใจให้เคลิ้ม 708 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าน้อมใจให้เคลิ้ม รู้ตัวไว้ 709 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจออกรู้สึก หายใจเข้ารู้สึก 710 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือจะพุทโธด้วยก็ได้ รู้สึก อย่าไปดัดแปลงจิต 711 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 2 ยังชินที่จะดัดแปลงจิตให้มันนิ่งๆ 712 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึก ความรู้สึกสำคัญยิ่งกว่าการบังคับให้นิ่ง 713 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เออ ตรงนี้ถูก 714 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาถูกมันถูกแวบเดียวล่ะ 715 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วจิตมันก็ไปปรุงต่อ 716 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจไป พุทโธไปเรื่อยๆ ใจเคลิ้มให้รู้ 717 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจไป พุทโธไป ใจหนีไปคิดเรื่องอื่นให้รู้ 718 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นหายใจไปพุทโธไปแล้วรู้ทันใจไว้ 719 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคลิ้มก็รู้ หลงไปก็รู้ 720 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกบ่อยๆ แล้วสติจะแข็งแรง สมาธิจะดีขึ้น 721 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 3: ฟังธรรมตอนขับรถ 722 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านหนังสือธรรมะบ้าง 723 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในรูปแบบนั่งสมาธิเช้าเย็นครั้งละ 30 นาที 724 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจเข้าพุทออกโธ 725 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูร่างกายหายใจ มักฟุ้งซ่าน ยังติดเพ่ง 726 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางครั้งรู้สึกสว่างขึ้นคล้ายเปิดสวิตช์ไฟ รู้สึกชอบ 727 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไม่นานก็เผลอไปคิดเรื่องอื่น 728 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระหว่างวันดูร่างกายหายใจพร้อมพุทโธ 729 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คอยรู้ทันโทสะและเผลอคิด 730 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูร่างกายเคลื่อนไหวบ้าง ขอคำสั่งสอนค่ะ 731 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูอย่างนั้นล่ะ 732 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจไปหรือเคลื่อนไหวไปก็ไม่ได้ไปบังคับจิตให้นิ่ง 733 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจไปเคลื่อนไหวจิตหลงไปก็รู้ 734 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยายามไปดึงจิตคืนมาก็รู้ 735 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ทันจิตตัวเองบ่อยๆ 736 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้กรรมฐานจะหายใจก็ได้เคลื่อนไหวก็ได้ 737 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แนะนำอันหนึ่งก็คือดูกายให้เยอะขึ้น 738 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้สติใช้ปัญญาสอดส่องเข้าไปในร่างกาย 739 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายนี้มันสวยอยู่ที่เปลือกนอก 740 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สวยอยู่ที่ขนผมเล็บฟันหนังเท่านั้นเอง 741 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรากำหนดจิตมองเข้าไปภายใน 742 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นของไม่สวยไม่งามอยู่ภายในเยอะแยะ 743 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกตัวนี้บ้าง มันถูกกับจริต 744 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะเราเป็นพวกรักสุขรักสบายรักสวยรักงาม 745 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 น้อมกลับเข้ามาดูตัวนี้จะดี 746 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1 ติดสมาธิ 747 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตคงที่อยู่ตรงนี้ทั้งๆ ที่เผลอ 748 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวนี้ต้องไปดูให้ดี 749 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ามันค้างกลางอากาศอยู่อย่างนี้ 750 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันไม่เดินปัญญาจริง 751 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 4: ปฏิบัติในรูปแบบทุกวัน 752 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีอาการตึงๆ หน่วงๆ ตรงกลางศีรษะ 753 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จนถึงปลายจมูก 754 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีความรู้สึกคล้ายการเข้าไปในสมาธิที่ลึก 755 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาทำงานจะทำความรู้สึกตัวทุกครั้ง 756 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อมีทุกข์เข้ามาจะรู้สึกไม่ทุกข์มากเหมือนแต่ก่อน 757 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกอยู่เหนือทุกข์ 758 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มองทุกอย่างเป็นสมมุติมากขึ้น 759 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอการบ้านค่ะ 760 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาที่ใจเราทรงสมาธิอยู่มันจะรู้สึกอย่างที่เล่า 761 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าอยากเห็นของจริงอย่าค้างอยู่กลางอากาศแบบนี้ 762 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเราน้อมจิตให้ทรงสมาธิอยู่อย่างนี้ อะไรๆ ก็เฉยๆ หมดล่ะ 763 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าหลุดจากตรงนี้เมื่อไรมันร้ายเลย 764 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถอยออกมาสิ อย่าค้างอยู่อย่างนั้น 765 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถอยออกมา เออ อยู่ข้างนอกอย่างนี้ 766 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กิเลสไม่ได้อยู่ข้างในอย่างนั้น 767 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าหลุดเข้าไปค้างกลางอากาศอยู่ 768 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าอย่างนั้นจะไม่เดินปัญญาจริง 769 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะจะไม่เห็นกิเลสหรอก 770 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะรู้สึกเฉยๆ อะไรเกิดขึ้นก็เฉยๆ จะรู้สึกไปทางนั้น 771 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าใจเราไม่ไปทรงค้างอยู่กับสมาธิข้างในอย่างนั้น 772 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คราวนี้กระทบอารมณ์มันจะเกิดปฏิกิริยาตามธรรมชาติธรรมดาล่ะ 773 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็จะเห็นปฏิกิริยาทั้งหลาย 774 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป 775 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ควบคุมไม่ได้ บังคับไม่ได้ 776 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ปัญญามันอยู่ตรงนี้ไม่ได้อยู่ตรงเฉย 777 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 5: ทำกรรมฐานใช้คำบริกรรมพุทโธ 778 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระหว่างวันพยายามคิดพุทโธแล้วสังเกตว่า 779 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังคิดพุทโธอยู่หรือไม่มีพุทโธ 780 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำในรูปแบบด้วยการนั่งบริกรรมพุทโธก่อนนอนและหลังตื่นนอน 781 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้การตั้งใจหายใจ เพื่อช่วยในเวลาที่ง่วง เคลิ้ม 782 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือคิดพุทโธไม่ค่อยได้ 783 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอคำชี้แนะการปฏิบัติต่อไปครับ 784 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถูกแล้วไปพุทโธต่อ ทำได้ ทำวิธีนี้ก็ทำได้ ทำอีก 785 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 5 ตรงนี้เราน้อมจิตเข้าไปรู้สึกไหม 786 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 น้อมเข้าไปรู้ว่าน้อม รู้ทันจิตตัวเอง 787 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตตรงนี้ดี ตรงนี้จิตธรรมดา 788 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกไหม มันรู้ มันตื่น มันเบิกบาน 789 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนที่น้อมเข้าไป มันก็ได้ซึมๆ ตรงนี้ดี 790 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตที่จะเดินปัญญาหรือเจริญสติในชีวิตประจำวัน 791 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้จิตอย่างตรงนี้ 792 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนต้องการพักผ่อนก็เข้าสมาธิลึกลงไป ไม่เป็นไร 793 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่พอออกจากสมาธิมาอยู่ข้างนอกนี้ 794 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วกระทบอารมณ์แล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงของจิตได้ 795 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะเดินปัญญาได้คล่องตัว 796 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้านิ่งไปตลอดมันไม่เดินปัญญาจริงหรอก ดี 797 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 6: ในรูปแบบดูลมหายใจ มีพุทโธกำกับ 798 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในชีวิตประจำวันดูอารมณ์ที่มากระทบบ้าง 799 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่กับลมหายใจบ้าง 800 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นโทสะเล็กๆ และเบื้องหลังการกระทำบ่อยขึ้น 801 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเคยให้ไปดูตัวนิ่งๆ ที่เป็นโมหะสมาธิ 802 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นว่ามีการคุมและมีความหนักกลางอก 803 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาทำในรูปแบบรู้สึกว่ายังติดการคุม 804 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 และมีความหนักเมื่อมารู้ตัวในชีวิตประจำวัน 805 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอคำชี้แนะค่ะ 806 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาเราจะทำสมาธิ 807 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบื้องต้นก็ต้องจงใจไว้ก่อน 808 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็คุมนิดหน่อย ถ้าคุมมากสมาธิไม่ดีหรอก 809 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แน่นๆ อึดอัด 810 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าเราทำสมาธิแล้วเราออกมาอยู่ข้างนอก 811 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรายังรู้สึกว่ามีการคุมอยู่ แสดงว่าเราติด 812 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรายังไม่ได้ออกจากสมาธิอย่างแท้จริง 813 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตติดซึมออกมาด้วย ตัวนี้ไม่ดี 814 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นเวลาเรานั่งสมาธิ 815 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าให้ขาดสติ อย่าให้สติอ่อนเกินไป 816 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าสติอ่อนเกินไปแล้วโมหะมันครอบ 817 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วพอเราถอยออกมาอยู่กับโลกข้างนอกนี่ 818 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โมหะมันติดออกมาด้วย 819 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพิ่มความรู้สึกตัวขึ้นนิดหนึ่งเวลานั่งสมาธิ 820 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าให้เคลิ้มลงไป 821 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเวลาอยู่ข้างนอกสติจะทำงานได้คล่องแคล่ว 822 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตไม่ติดโมหะ 823 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่ตรงนี้น้อมแล้ว รู้สึกไหม ใจเริ่มน้อมเข้าไปจะให้มันซึม 824 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สมาธิไม่ได้แปลว่าสงบ สมาธิคือความตั้งมั่นของจิต ฉะนั้นไม่ได้ไปฝึกน้อมให้ซึมลงไปเพื่อจะได้สงบ อันนั้นเป็นมิจฉาสมาธิ 825 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นต้องมีสติกำกับ 826 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าขาดสติเมื่อไรก็เกิดมิจฉาสมาธิทันทีเลย 827 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกๆๆ มันจะเคลิ้มอยู่เรื่อย มันเคยชิน 828 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนนี้นั่งน้อยๆ ก็ได้ 829 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ออกมาทำงาน เคลื่อนไหวทำงานบ้านแล้วรู้สึกตัวไป 830 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปทำงานแล้วรู้สึกตัวที่มันทำงานไป 831 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีกว่าไปนั่งสมาธิ 832 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันติด มันติดโมหะ เอาอยู่ข้างนอกนี่ล่ะ 833 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วรู้สึกเอา 834 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 7: ในรูปแบบ สวดมนต์ เดินจงกรม 835 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูร่างกายหายใจ วันละ 30 นาที - 2 ชั่วโมง 836 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาฟุ้งมาก จะฟังเทศน์หลวงพ่อ 837 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สวดมนต์จนมีแรง แล้วกลับมาดูกายใจทำงาน 838 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระหว่างวันรู้กายเคลื่อนไหว ใจเปลี่ยน 839 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นโทสะ มานะ ขอการบ้านค่ะ 840 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดี ไปทำอีก ฝึกไปเรื่อยๆ 841 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 7 อันนี้เราส่งจิตไปดู 842 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สังเกตไหมจิตมันเคลื่อนออกไปดู 843 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันไปดูอะไรไม่สำคัญ 844 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่สำคัญคือรู้จิตมันเคลื่อนไปดู 845 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ทันจิตที่เคลื่อน 846 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็ไม่ได้รักษาว่าห้ามเคลื่อน 847 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคลื่อนแล้วรู้ เคลื่อนแล้วรู้ 848 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 8: ภาวนาในรูปแบบทุกวัน 849 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โดยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ 850 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูลมหายใจเข้าออก ทำอานาปานสติ 851 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 และเดินจงกรมประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง 852 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชีวิตประจำวัน ดูกาย 853 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นกายที่ขยับเคลื่อนไหว 854 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูจิตเปลี่ยนไปเมื่อเจอผัสสะกระทบอารมณ์ 855 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีลมหายใจและกายเป็นเครื่องอยู่ 856 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ช่วงหลังเห็นกิเลสบ่อยขึ้น ขอคำชี้แนะค่ะ 857 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีขึ้นเยอะเลย ใช้ได้ 858 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระวังอันเดียวอย่าน้อมจิตไปให้มันไปนิ่งๆ 859 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันยังเคยชินที่จะทำจิต รู้สึกไหม ไปแต่งจิตให้มันนิ่งๆ อยู่นิดหนึ่ง 860 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มากหรอกแต่ว่ามี 861 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าไปปรุงแต่งจิต 862 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าจิตจะปรุงแต่งอะไร เราคอยรู้ทัน ไม่ห้าม 863 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่เราอย่าไปปรุงแต่งจิตให้มันนิ่งๆ เฉยๆ เสียเอง 864 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้จิตทำงานตามธรรมชาติธรรมดา 865 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้ 8 คนเป็นเรื่องของสมาธิเสียเยอะเลย 866 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 4 ใจฟุ้งซ่าน วันนี้เท่านี้ 867 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องอดทน หลวงพ่อแถมนิดหนึ่ง 868 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีผู้หญิงอยู่คนเป็นคนฟุ้งซ่านมากๆๆๆ 869 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่มากอย่างเดียว มากๆๆ หลายตัว 870 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วชอบวุ่นวาย ชอบกิจกรรม แต่ว่าอยากดี 871 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 งานอดิเรกคือเล่นตุ๊กตา 872 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีนี้หลวงพ่อก็นวดหนักๆ เลย บังคับให้ภาวนา 873 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาทีแรกจะร้องห่มร้องไห้ 874 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โอ้ย มันทุกข์ทรมาน นั่งแล้วทรมานมากเลย 875 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเผลอเมื่อไรก็จะออกไปซนแล้วโดนดุทุกที 876 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อดทน ถูกดุก็ทน 877 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาจนกระทั่งเมื่อวันศุกร์มาส่งการบ้าน 878 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วจิตมันรวมลง 879 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายหายไป โลกทั้งโลกก็หายไป 880 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เหลือแต่จิตดวงเดียวมีสติกำกับอยู่ 881 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นการทำงานภายในอยู่ 882 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็มาบอกหลวงพ่อว่า 883 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่เขาจะมีคอร์ส จะไปเข้าคอร์สดีไหม 884 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกไปเข้าทำไมล่ะ 885 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราภาวนาของเราก็ดีๆ อยู่แล้ว 886 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การปฏิบัติมันเรื่องเฉพาะตัว ไปรวมกลุ่ม 887 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเราเจอคนซึ่งภาวนาดีกว่าเราหรือเสมอเรา เราก็ได้ดี 888 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเจอคนฟุ้งซ่าน 889 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ธาตุสันดานเดิมพื้นฐานเดิมของเราฟุ้งซ่าน 890 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็จะดึงดูดเราฟุ้งซ่าน 891 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กรรมฐานที่อุตส่าห์ฝึกมาอย่างยากลำบากเสียหมด 892 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นทางที่ดีไม่คลุกคลี 893 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เล่าให้พวกเราฟังว่า 894 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระทั่งคนที่ฟุ้งสุดยอดแต่อดทนมันก็ยังทำได้ 895 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอให้อดทนเถอะ 896 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทนต้องทนจริงๆ ทนเจ็บ ทนปวด 897 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นั่งแล้วจะตายเอา เจ็บไปทั้งตัวเลย 898 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องอดทน ทนได้ก็ได้แก่นสารสาระ 899 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างน้อยชาตินี้ก็รู้แล้วว่าจิตจริงๆ เป็นอย่างไร 900 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันเพิกโลกออกไป เพิกถอนโลก 901 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพิกถอนร่างกายออกไป เหลือแต่จิตดวงเดียว 902 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การปฏิบัติทีนี้ก็สามารถเจริญปัญญาอยู่ตรงนี้ได้เลย 903 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าย่อหย่อนเมื่อไรก็ฟุ้งซ่าน 904 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความเพียรที่ทำมาก็ล้มเหลว ต้องเริ่มต้นไหม 905 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เริ่มหลายๆ ทีก็ไม่มีแรงจะเริ่ม 906 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนนี้พื้นฐานแย่กว่าพวกเรา 907 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นพวกเราพื้นฐานยังดีกว่าเขาส่วนใหญ่ 908 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เขาฟุ้งมาก โมหะเยอะ ราคะ หมายถึงชอบของสวยของงามเยอะ เขายังสู้ได้เลย 909 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็ต้องสู้ ทำให้ได้ 910 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มักน้อย สันโดษ ฝักใฝ่ในความสงบ 911 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่คลุกคลี ปรารภความเพียร 912 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นานๆ เพียรทีไม่ได้กินหรอก 913 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 5 ข้อนี้พื้นฐานจะต้องมี แล้วเราถึงจะเจริญ 914 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถัดจากนั้นก็รักษาศีล 915 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกจิตให้ตั้งมั่น 916 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เจริญปัญญา แยกธาตุแยกขันธ์ 917 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นธาตุขันธ์แต่ละตัวแสดงไตรลักษณ์ไป 918 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถัดจากนั้นเป็นของที่เกิดเอง 919 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดมรรคผล เกิดวิมุตติ 920 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็เกิดวิมุตติญาณทัสสนะ 921 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ว่ากิเลสอะไรละแล้ว กิเลสอะไรยังไม่ละ 922 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินแนวนี้ถึงจะเอาตัวรอด 923 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเริ่มต้นก็มักมาก อยากไปหมด 924 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นใครเขามีอะไรก็อยากไปหมด 925 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่เคยคิดจะทำความสงบเลย ชอบคลุกคลี 926 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นานๆ คิดถึงการปฏิบัติทีหนึ่ง 927 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็ได้เท่าที่ควรจะได้นั่นล่ะ 928 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ได้นิดๆ หน่อยๆ 929 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้สอนเท่านี้ อดทน