ใครเป็นคนคิดค้นการเขียน
มนุษย์น่าจะสื่อสารกันด้วยวิธีการพูด
มาเป็นเวลามากกว่าหมื่นปี
แต่เราเริ่มบันทึกสิ่งที่เราพูด
เมื่อประมาณ 5,000 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้น เราบันทึกข้่อมูล
ด้วยภาพ และแผนภาพ
บนหม้อดิน และฝาผนังถ้ำ
หรือถักทอเป็นผืนผ้า
การสร้างสรรค์เหล่านั้นเป็นสิ่งที่นำเราไปสู่
การสร้างระบบการเขียน
ระบบที่เราใช้กันในภาษาอังกฤษ
ที่จริงเริ่มมาจากวัฒนธรรม สุเมเรียน
ในช่วงระหว่าง 4500 และ 1750 ปีก่อนคริสตกาล
แถบลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมียตอนล่าง
ประเทศอิรัก และซีเรียในปัจจุบัน
ชาวสุเมเรียน จดบันทึกข้อตกลงทางธุรกิจ
ด้วยก้อนดินที่ปั้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
เช่น แพะ ลา และวัว
จากนั้นพวกเขาก็ค้นพบการสลักแบบสองมิติ
บนแผ่นดิน ซึ่งยิ่งทำให้การบันทึกสะดวกยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น สัญลักษณ์นี้แปลว่า ภูเขา
อันนี้แปลว่า ศรีษะ
ถ้าบริเวณปากบนรูปศรีษะถูกเน้น
นั่นก็จะหมายถึง ปาก
ปากเมื่อรวมกับสัญลักษณ์น้ำ แปลว่า ดื่มน้ำ
และสัญลักษณ์ปากเมื่อรวมกับขนมปัง หมายถึง กิน
ใส่สัญลักษณ์ของวัวเข้าไป
ก็จะได้ประโยคที่ว่า เรากินวัว
เอาล่ะ นี่แหละจุดเริ่มต้นของระบบการเขียน
แต่คำบางคำก็มีความหมาย
ที่อธิบายด้วยสัญลักษณ์ได้ลำบาก
คุณจะวาดรูป วัวในหุบเขาได้ยังไง
จำไว้ว่า ถ้าคุณวาดภาพตามความหมายนั้น
ก็จะกลายเป็นศิลปะ การวาดภาพ ไม่ใช่การเขียน
เพื่อทำให้เป็นการเขียน
เราต้องใช้สัญลักษณ์แทนคำ
คุณอ่านสิ่งนี้ได้หรือไม่
ประโยคอมตะ จาก แฮมเลท โดย วิลเลี่ยม เชกสเปียร์
ใช่ "อยู่หรือตาย" (To be or not to be)
วิธีนี้เป็นวิธีที่ชาวสุเมเรียนใช้แก้ปัญหาเช่นกัน
วัว บวกกับ น้ำ บวกกับ ภูเขา
ว่าแต่น้ำมาเกี่ยวอะไรด้วย
ก็เพราะ คำว่าน้ำในภาษาของชาวสุเมเรียน
ออกเสียงเหมือนคำอีกคำที่แปลว่า "ใน"
ดังนั้น "วัวในหุบเขา" จึงใช้สัญลักษณ์นี้
นักภาษาศาสตร์ เรียกระบบการเขียนแบบนี้ว่า
การเขียนเป็นภาพปริศนา
ชาวสุเมเรียน รู้แล้วว่า
จะนำเสนอความหมาย ด้วยสัญลักษณ์ที่เป็นตัวเขียน
ได้อย่างไร
เนื่องจากตัวเขียนนั้น ยังทำหน้าที่เป็นสื่อแทนเสียงอีกด้วย
ชาวสุเมเรียนจึงขยายคำศัพท์ที่บันทึกเป็นตัวเขียนได้
และค่อยๆสร้างสัญลักษณ์แทนเสียงต่างๆ
ถูกใช้บ่อยครั้งขึ้น
และสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายก็ถูกใช้น้อยลง
ระบบการเขียนก็เลยกลายเป็น ระบบที่ถูกปรับ
ให้เป็นตัวอักษรที่ใช้แทนหน่วยเสียง
ที่เรารู้จักกันในชื่อเรียกว่า ตัวอักษรคูนิฟอร์ม
ในอีกหลายๆวัฒนธรรม
เช่น ชาวอาคาเดียน และชาวซีเรีย
ก็รับเอาผลงานการประดิษฐ์ของชาวสุเมเรียน
และนำมาสร้างเป็นระบบเขียนของพวกเขาเอง
มหากาพย์กิลกาเมช (Gilgamesh)
และ ประมวลกฎหมายของพระเจ้าฮัมมูราบี
ถูกจารึกด้วยอักษรคูนิฟอร์ม ในหลากหลายรูปแบบ
เมื่อเทคโนโลยีนี้แพร่ออกไป
สัญลักษณ์เหล่านี้ก็เดินทางไปถึงกรีก
และกลายเป็นตัวอักษรที่มีผู้ใช้
แพร่หลายมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
แต่ สุเมเรีย ไม่ใช่แห่งเดียวบนโลก
ที่การเขียนได้ถูกคิดค้นขึ้น
ชาวอียิปต์โบราณได้พัฒนาอักษร ฮีโลกริฟฟิก
และ อักษรไฮราติก ในช่วงเวลาใกล้ๆกัน
คือ 3500 ปีก่อนคริสต์กาล
จากนั้น ระบบการเขียนก็ถูกพัฒนาขึ้นในจีน
โดยไม่ได้อ้างอิงจากระบบใดๆ
ในช่วง 1500 ปีก่อนคริสต์กาล
จากนัั้น อักษรนี้ก็แพร่ออกไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และที่ใกล้กับสมัยปัจจุบันที่สุด ก็คือ วัฒนธรรมมายา
ในแถบตอนกลางของอเมริกา
ซึ่งเริ่มสลักตัวอักษร คาร์ทูเชท ในช่วงปี ค.ศ. 300
ถ้าอย่างนี้แล้ว เราจะบอกว่าใครล่ะ ที่คิดค้นระบบการเขียน
ชาวสุเมเรียน
ชาวอียิปต์
ชาวจีน
หรือ พวกมายา
ที่สำคัญก็คือ ระบบการเขียนเหล่านั้น
ยังถูกใช้อยู่ทั่วโลกทุกวันนี้
มักจะสืบเสาะไปได้ถึงต้นทางคือ
อักษรของชาวสุเมเรียน หรือชาวจีน
ระบบการเขียนอาจจะถูกคิดค้น
ในส่วนอื่นๆของโลกด้วย
จารึกโบราณต่างๆ ที่ถูกทิ้งไว้ในหุบเขาอินดิส
และในวัฒนธรรม ราปานุย ได้ถูกค้นพบ
แต่ว่าไม่มีใครสามารถอ่านมันได้
อยากลองดูไหมล่ะ?