0:00:00.262,0:00:01.712 ฉันอยากให้คุณ 0:00:01.736,0:00:05.246 ลองนึกดูว่าตอนนี้คุณใส่ชุดอะไรอยู่ 0:00:05.675,0:00:08.547 ฉันมีคำถามเชิงปรัชญาจะถามคุณ 0:00:08.629,0:00:11.761 ทำไมตอนนี้พวกเราทุกคนไม่สวม[br]ชุดนอนสบาย ๆ อยู่ล่ะ 0:00:11.785,0:00:12.785 (เสียงหัวเราะ) 0:00:12.809,0:00:15.347 ฉันเป็นนักจิตวิทยา และไม่ใช่นักอ่านใจ 0:00:15.371,0:00:17.743 ถึงแม้ว่าหลายคนคิดว่ามันคือสิ่งเดียวกัน 0:00:17.819,0:00:21.736 ฉันสามารถพนันได้เลยว่า ปฏิกิริยาของคุณ[br]คงไม่ไกลจากประโยคนี้ 0:00:21.760,0:00:24.434 "ฉันถูกคาดหวังว่า[br]ไม่ควรใส่ชุดนอนในที่สาธารณะ" หรือ 0:00:24.458,0:00:27.106 "ไม่อยากให้คนคิดว่าฉันเป็นคนไม่เรียบร้อย" 0:00:27.235,0:00:31.716 ไม่ว่าแบบไหน ความจริงที่ว่าเราทุกคนเลือก[br]ที่จะใส่ชุดกึ่งทางการ 0:00:31.740,0:00:33.815 แทนที่จะใส่กางเกงวอร์มตัวโปรดของเรา 0:00:33.815,0:00:35.895 ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ไร้สาระ 0:00:36.311,0:00:40.208 จริง ๆ แล้ว มันเผยให้เห็น[br]คุณลักษณะสองอย่างของมนุษย์ 0:00:40.704,0:00:44.299 ข้อแรก คือ เรารับรู้ว่าคนอื่นให้ค่ากับอะไร 0:00:44.323,0:00:46.950 อย่างอะไรที่พวกเขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ 0:00:46.974,0:00:49.990 เช่น ไม่ใส่ชุดนอนมาในสถานที่แบบนี้ 0:00:50.490,0:00:54.414 และข้อสอง เราใช้ข้อมูลเหล่านี้[br]ในการกำหนดพฤติกรรมของเราอยู่แล้ว 0:00:55.149,0:00:56.848 ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ 0:00:56.872,0:01:00.912 มนุษย์มีแนวโน้มจะปรับพฤติกรรมของพวกเขา[br]ต่อหน้าคนอื่นๆ 0:01:00.936,0:01:02.475 เพื่อที่จะได้รับการยอมรับ 0:01:02.766,0:01:05.084 เราใช้เวลาอันมีค่าเพื่อแต่งหน้า 0:01:05.108,0:01:08.012 เลือกรูปที่ใช่และแต่งรูปในอินสตาแกรม 0:01:08.036,0:01:10.798 และเรียบเรียงความคิดที่จะเปลี่ยนโลก[br]อย่างไม่ต้องสงสัย 0:01:10.822,0:01:12.715 ใน 140 ตัวอักษรหรือน้อยกว่านั้น 0:01:13.561,0:01:16.735 มันชัดเจนว่า เรากังวลว่า[br]คนอื่นจะตัดสินเราอย่างไรนั้น 0:01:16.735,0:01:18.632 เป็นเรื่องใหญ่ของการเป็นมนุษย์ 0:01:19.230,0:01:22.220 แม้ว่ามันจะเป็นลักษณะสำคัญของมนุษย์[br]แต่อย่างไรก็ตาม 0:01:22.244,0:01:25.014 เราแทบไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่และอย่างไร 0:01:25.038,0:01:27.268 ที่เราเริ่มสนใจความคิดเห็นของคนอื่น 0:01:27.649,0:01:30.849 นี่เป็นคำถามสำคัญที่ต้องใช้งานวิจัยมากมาย 0:01:31.269,0:01:33.570 ขั้นแรกที่จะตอบคำถามนี้ 0:01:33.594,0:01:35.769 คือสำรวจว่าช่วงไหนในพัฒนาการ 0:01:35.793,0:01:38.510 ที่เราเริ่มอ่อนไหวต่อการให้ตัดสินของคนอื่น 0:01:39.245,0:01:42.125 ฉันใช้เวลา 4 ปีที่ผ่านมา[br]ที่มหาวิทยาลัยเอมโมรี 0:01:42.149,0:01:44.236 สำรวจว่าเด็กเล็กที่ไม่มีปัญหา 0:01:44.260,0:01:48.420 กับการเดินรอบร้านค้าในชุดหมีของเธอ 0:01:48.420,0:01:51.421 แล้วโตเป็นผู้ใหญ่ที่กลัวการพูดในที่สาธารณะ 0:01:51.445,0:01:53.576 เพราะกลัวจะถูกตัดสินแบบลบ ๆ ได้อย่างไร 0:01:54.472,0:01:56.109 (เสียงหัวเราะ) 0:01:56.133,0:01:58.474 ทีนี่ นี่คือจุดที่ผู้คนถามฉันว่า 0:01:58.498,0:02:01.077 "คุณจะตรวจสอบคำตอบของคำถามนี้อย่างไร" 0:02:01.101,0:02:02.901 เด็กเล็กพูดไม่ได้ ใช่ไหม 0:02:03.530,0:02:05.680 ถ้าสามีฉันอยู่ที่นี่ตอนนี้ 0:02:05.704,0:02:08.371 เขาจะบอกคุณว่าฉันสัมภาษณ์เด็กเล็ก ๆ 0:02:08.395,0:02:12.827 เพราะเขาไม่อยากจะพูดว่าภรรยาของเขา[br]ทำการทดลองกับเด็ก 0:02:12.851,0:02:15.403 (เสียงหัวเราะ) 0:02:15.427,0:02:18.658 ในเป็นความจริง [br]ฉันออกแบบการทดลองสำหรับเด็ก 0:02:18.682,0:02:20.716 ส่วนใหญ่ในรูปแบบของเกม 0:02:21.269,0:02:24.014 นักจิตวิทยาพัฒนาการ [br]ดร.ฟิลลิป โรชาต์ กับฉัน 0:02:24.038,0:02:27.149 ออกแบบเกมที่เรียกว่า "The Robot Task" 0:02:27.173,0:02:29.720 เพื่อสำรวจว่าเด็กจะเริ่มอ่อนไหว 0:02:29.720,0:02:31.927 ต่อการตัดสินของผู้อื่นเมื่อไหร่ 0:02:32.442,0:02:36.934 เจาะจงกว่านั้นก็คือ the robot task [br]จับว่าตอนไหนที่เด็กทำเหมือนผู้ใหญ่ 0:02:36.958,0:02:40.273 ปรับพฤติกรรมของพวกเขาตอนที่มีคนดูอยู่[br]อย่างมีกลยุทธ์ 0:02:40.940,0:02:44.244 เพื่อที่จะทำสิ่งนี้ เราแสดงให้เด็กเล็ก[br]อายุ 14 - 24 เดือน เห็นว่า 0:02:44.268,0:02:46.443 ทำอย่างไรให้หุ่นยนต์ของเล่นเคลื่อนไหว 0:02:46.467,0:02:48.950 และที่สำคัญ เราให้คุณค่าด้านบวก 0:02:48.974,0:02:51.220 โดยพูดว่า "ว้าว มันเจ๋งไปเลย" 0:02:51.244,0:02:53.918 หรือคุณค่าด้านลบ โดยพูดว่า[br]"โอ้ว โอ้ ไม่นะ" 0:02:53.942,0:02:55.676 หลังจากที่กดรีโมท 0:02:56.080,0:02:57.897 ตามการสาธิตของเล่นชิ้นนี้ 0:02:57.897,0:03:00.369 เราเชิญเด็กเล็กมาเล่นกับรีโมท 0:03:00.393,0:03:01.815 และหลังจากนั้น ก็แอบดูพวกเขา 0:03:01.839,0:03:04.656 หรือหันไปรอบ ๆ และแกล้งทำเป็นอ่านนิตยสาร 0:03:05.212,0:03:07.641 แนวคิดก็คือถ้าภายในอายุ 24 เดือน 0:03:07.665,0:03:10.942 เด็กอ่อนไหวต่อการตัดสินของผู้อื่นจริง ๆ 0:03:10.966,0:03:13.635 ดังนั้น พฤติกรรมการกดปุ่ม[br]ของพวกเขาน่าจะได้รับแรงจูงใจ 0:03:13.635,0:03:16.046 ไม่ใช่แค่จากการที่พวกเขาถูกเฝ้าดู [br]หรือไม่ก็ตาม 0:03:16.070,0:03:18.760 แต่จากคุณค่าที่นักทดลองแสดงออกมา 0:03:18.784,0:03:20.409 ต่อการกดรีโมทด้วยเช่นกัน 0:03:21.173,0:03:22.379 ตัวอย่างเช่น 0:03:22.403,0:03:26.031 เราคาดหวังว่าเด็กจะเล่นรีโมทคุณค่าด้านบวก[br]มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ 0:03:26.055,0:03:27.420 หากพวกเขากำลังถูกสังเกต 0:03:27.444,0:03:29.587 แต่จากนั้นก็เลือกที่จะเล่น[br]รีโมทคุณค่าด้านลบ 0:03:29.611,0:03:31.278 เมื่อไม่มีใครดูอยู่ 0:03:31.952,0:03:35.512 เพื่อที่จะดูปรากฏการณ์นี้ [br]เราทำการศึกษาสามรูปแบบที่ต่างกัน 0:03:35.871,0:03:39.220 การศึกษาแรก สำรวจว่าเด็กเล็ก[br]จะเล่นของเล่นอย่างไร 0:03:39.244,0:03:41.847 ถ้าไม่มีการให้คุณค่าหรือคำสั่งใด ๆ 0:03:41.871,0:03:44.601 เราแสดงให้เด็กดูว่า[br]ทำอย่างไรให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหว 0:03:44.625,0:03:46.212 แต่ไม่ได้มีการให้คุณค่าใด ๆ 0:03:46.236,0:03:49.347 และเราก็ไม่ได้บอกพวกเขาด้วยว่า[br]เขาสามารถเล่นกับรีโมทได้ 0:03:49.371,0:03:51.934 ให้สถานการณ์ที่กำกวมมาก ๆ กับพวกเขา 0:03:51.958,0:03:53.141 ในการศึกษาที่สอง 0:03:53.165,0:03:57.760 เราให้คุณค่าสองแบบ ด้านบวกและด้านลบ 0:03:58.609,0:04:01.878 และในการศึกษาสุดท้าย [br]เรามีนักทดลองสองคนกับรีโมท 0:04:02.196,0:04:05.625 นักทดลองคนหนึ่ง[br]แสดงคุณค่าด้านลบต่อการกดรีโมท 0:04:05.649,0:04:07.156 โดยพูดว่า "อึ๋ย ของเล่นขยับด้วย" 0:04:07.180,0:04:09.897 ในขณะที่นักทดลองอีกคนนึง[br]แสดงคุณค่าด้านบวก โดยพูดว่า 0:04:09.897,0:04:11.297 "เย้ ของเล่นขยับด้วย" 0:04:11.927,0:04:15.458 และนี่คือปฏิกิริยาของเด็ก ๆ ต่อสถาานการณ์[br]ทั้งสามแบบที่แตกต่างกันนี้ 0:04:15.482,0:04:18.322 ในการศึกษาแรก สถานการณ์ที่กำกวม 0:04:18.346,0:04:20.757 ฉันกำลังเฝ้าดูเด็กคนหนึ่งอยู่ 0:04:20.781,0:04:23.780 ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจในการกดรีโมท 0:04:24.622,0:04:26.291 พอฉันหันไป 0:04:27.061,0:04:28.672 เธอพร้อมที่จะเล่นทันที 0:04:28.696,0:04:29.846 (เสียงหัวเราะ) 0:04:31.903,0:04:33.813 ตอนนี้ ฉันไม่ได้เฝ้าดูเด็ก 0:04:33.837,0:04:34.988 เธอดูจดจ่อมาก 0:04:35.012,0:04:36.162 ฉันหันไป 0:04:37.588,0:04:38.620 (เสียงหัวเราะ) 0:04:38.644,0:04:40.844 เธอไม่ได้กำลังทำอะไร ใช่ไหม 0:04:43.596,0:04:45.347 ในการศึกษาที่สอง รีโมทสองเครื่อง 0:04:45.371,0:04:47.918 อันหนึ่งคุณค่าด้านบวกและ[br]อันหนึ่งคุณค่าด้านลบ 0:04:47.942,0:04:49.609 ฉันกำลังเฝ้าสังเกตเด็กอยู่ 0:04:49.633,0:04:52.139 และรีโมทสีส้มนั้นคือ รีโมทด้านลบ 0:04:53.259,0:04:56.052 เธอแค่มองไปรอบ ๆ และมองที่ฉัน 0:04:56.494,0:04:57.761 จากนั้น พอฉันหันไป 0:05:00.081,0:05:01.231 (เสียงหัวเราะ) 0:05:03.072,0:05:04.939 นั่นคือสิ่งที่เธอเลือก 0:05:07.875,0:05:09.412 ฉันไม่ได้กำลังเฝ้าดูเด็กอยู่ 0:05:09.436,0:05:11.680 เขาอยากให้แม่เล่นกับมัน ใช่ไหม 0:05:11.704,0:05:12.971 เลือกปลอดภัยไว้ก่อน 0:05:13.736,0:05:14.886 ฉันหันไป 0:05:16.093,0:05:17.760 (เสียงหัวเราะ) 0:05:17.784,0:05:19.984 เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่ 0:05:24.371,0:05:25.903 และใช่ เขารู้สึกกระอักกระอ่วน 0:05:25.927,0:05:26.934 (เสียงหัวเราะ) 0:05:26.958,0:05:29.077 ทุกคนรู้จัก [br]การมองข้าง ๆ แบบนั้น ใช่ไหม 0:05:29.807,0:05:32.268 การศึกษาที่สาม นักทดลองสองคน[br]กับหนึ่งรีโมท 0:05:32.292,0:05:35.553 นักทดลองที่ตอบสนองด้านลบต่อการกดรีโมท 0:05:35.577,0:05:37.204 กำลังเฝ้าดูเด็กอยู่ตอนนี้ 0:05:37.228,0:05:41.402 เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย[br]ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เกาะแม่ 0:05:44.307,0:05:46.728 หลังจากนั้น เธอก็หันไป 0:05:46.752,0:05:50.219 เพื่อให้นักทดลองที่แสดงการตอบสนองด้านบวกดู 0:05:52.109,0:05:54.339 เอาล่ะ ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมจะเล่น 0:05:54.363,0:05:55.426 (เสียงหัวเราะ) 0:05:55.450,0:05:57.355 ดังนั้น จากผลของข้อมูล 0:05:57.379,0:05:59.712 เราค้นพบว่าพฤติกรรมการกดปุ่มของเด็ก ๆ 0:05:59.736,0:06:04.545 ได้รับแรงจูงใจจากคุณค่าและคำสั่ง[br]ของนักทดลอง 0:06:04.934,0:06:07.475 เพราะในการศึกษาแรก เด็ก ๆ ไม่รู้ว่า 0:06:07.499,0:06:10.387 อะไรจะถูกประเมินค่าด้านบวกหรือลบ 0:06:10.411,0:06:12.355 พวกเขามีแนวโน้มจะเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุด 0:06:12.379,0:06:15.059 และรอจนกว่าฉันจะหันหลังเพื่อที่จะกดรีโมท 0:06:15.083,0:06:16.471 เด็ก ๆ ในการศึกษาที่สอง 0:06:16.495,0:06:20.297 เลือกที่จะกดรีโมทด้านบวกมากกว่า[br]ในขณะเวลาที่ฉันมองดูอยู่ 0:06:20.321,0:06:21.892 แต่เมื่อฉันหันหลังไป 0:06:21.916,0:06:25.339 พวกเขาจะหยิบและเริ่มเล่น[br]กับรีโมทด้านลบทันที 0:06:25.363,0:06:26.953 ที่สำคัญ ในการศึกษาที่มีการควบคุม 0:06:26.977,0:06:29.918 ที่เราเอาคุณค่าของรีโมท[br]ที่แตกต่างกันนั้นออกไป 0:06:29.942,0:06:33.180 เราพูดง่าย ๆ ว่า "โอ้ ว้าว" [br]ไม่ว่าจะกดรีโมทอันไหน 0:06:33.204,0:06:36.655 พฤติกรรมการกดปุ่มของเด็กๆ[br]ก็ไม่แตกต่างกันจากเงื่อนไขแล้ว 0:06:36.679,0:06:40.410 เปิดเผยให้เห็นว่า[br]มันคือคุณค่าที่เราให้กับรีโมททั้งสองจริง ๆ 0:06:40.434,0:06:43.164 ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมในการศึกษาก่อนหน้า 0:06:43.188,0:06:44.356 สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด 0:06:44.380,0:06:48.180 เด็ก ๆ ในการศึกษาที่สาม[br]เลือกกดรีโมทมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ 0:06:48.204,0:06:51.514 เมื่อนักทดลองที่แสดงคุณค่าด้านบวกดูอยู่ 0:06:51.538,0:06:54.805 ตรงกันข้ามกับนักทดลองที่แสดงคุณค่าด้านลบ 0:06:55.553,0:06:56.831 นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ 0:06:56.855,0:07:00.498 และอายุช่วงนี้ก็ยังเป็น[br]ช่วงที่เด็ก ๆ เริ่มแสดงความเขินอาย 0:07:00.522,0:07:03.515 ในสถานการณ์ที่อาจจะดึง[br]การประเมินค่าด้านลบออกมา 0:07:03.539,0:07:05.546 อย่างเช่น การมองตัวพวกเขาเองในกระจก 0:07:05.570,0:07:07.221 และพบรอยบนจมูก 0:07:07.245,0:07:10.055 เช่นเดียวกับการเจอผักติดฟัน สำหรับผู้ใหญ่ 0:07:10.079,0:07:11.253 (เสียงหัวเราะ) 0:07:11.277,0:07:14.325 เราสามารถบอกอะไรได้บ้าง[br]จากการศึกษานี้ 0:07:14.349,0:07:17.801 นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่า[br]เด็กมีพฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ จริง ๆ 0:07:17.825,0:07:18.881 (เสียงหัวเราะ) 0:07:18.905,0:07:22.198 ตั้งแต่แรกเด็ก ๆ ก็เหมือนผู้ใหญ่ 0:07:22.222,0:07:25.949 อ่อนไหวต่อคุณค่าที่เราให้[br]กับสิ่งของหรือพฤติกรรม 0:07:26.354,0:07:29.631 และที่สำคัญ พวกเขาใช้คุณค่าเหล่านี้[br]ในการเลือกพฤติกรรม 0:07:30.425,0:07:32.132 ไม่ว่าพวกเราจะรู้ตัวหรือไม่ 0:07:32.156,0:07:35.166 เราสื่อสารคุณค่าต่อผู้คนรอบ ๆ เราเสมอ 0:07:35.522,0:07:39.006 ฉันไม่ได้หมายถึงคุณค่าอย่าง [br]"เป็นคนใจดี" หรือ "อย่าลักขโมย" 0:07:39.030,0:07:41.141 แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นก็คือการมีคุณค่าก็ตาม 0:07:41.450,0:07:45.053 ฉันหมายถึง เราแสดงให้คนอื่นเห็นอยู่เสมอ [br]โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ของพวกเรา 0:07:45.077,0:07:48.759 ว่าอะไรที่น่าพึงใจ มีคุณค่า และควรยกย่อง[br]และอะไรที่ไม่ควร 0:07:49.307,0:07:50.483 และในหลายครั้ง 0:07:50.507,0:07:52.943 เราก็ทำสิ่งนี้โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ 0:07:53.601,0:07:57.449 นักจิตวิทยาศึกษาพฤติกรรม[br]เพื่อสำรวจความคิดจิตใจ 0:07:57.473,0:08:00.403 เพราะพฤติกรรมมักสะท้อนความเชื่อ 0:08:00.427,0:08:02.812 คุณค่า และความต้องการของเรา 0:08:03.471,0:08:06.129 ที่นี่แอตแลนตา เราเชื่อในสิ่งเดียวกันว่า 0:08:06.963,0:08:08.701 โค้กดีกว่าเป็ปซี่ 0:08:08.725,0:08:10.519 (เสียงปรบมือ) 0:08:10.543,0:08:15.283 นี่อาจจะเป็นผลจากความจริงที่ว่า[br]โค้กเกิดขึ้นที่แอตแลนตา 0:08:15.307,0:08:16.481 แต่อย่างไรก็ตาม 0:08:16.505,0:08:20.792 ความเชื่อนี้แสดงให้เห็นความจริงว่า[br]คนส่วนใหญ่จะเลือกดื่มโค้ก 0:08:21.323,0:08:22.695 ในทางเดียวกัน 0:08:22.719,0:08:24.587 เรากำลังสื่อสารคุณค่า 0:08:24.611,0:08:26.134 เมื่อเราส่วนใหญ่จะชมเด็กผู้หญิง 0:08:26.158,0:08:28.664 ที่มีผมสวย หรือชุดน่ารักๆของพวกเขา 0:08:28.688,0:08:31.077 แต่ชมเด็กผู้ชายจากความฉลาดของพวกเขา 0:08:31.101,0:08:34.844 หรือเมื่อเราเลือกจะให้ลูกอม[br]แทนอาหารที่มีประโยชน์ 0:08:34.868,0:08:36.898 เหมือนเป็นรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดี 0:08:37.466,0:08:40.182 ผู้ใหญ่และเด็กต่างมีศักยภาพในการ 0:08:40.182,0:08:43.037 เลือกหยิบคุณค่าจากพฤติกรรม[br]ที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ 0:08:43.061,0:08:46.566 และท้ายที่สุดมันจะค่อย ๆ [br]ขัดเกลาพฤติกรรมของพวกเขาเอง 0:08:47.196,0:08:49.434 งานวิจัยที่ฉันแบ่งปันกับพวกคุณวันนี้ 0:08:49.458,0:08:52.998 บอกว่าความสามารถนี้[br]เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ในพัฒนาการ 0:08:53.022,0:08:55.077 ก่อนที่เราจะสามารถพูดประโยค 0:08:55.101,0:08:56.752 หรือถูกฝึกใช้โถชักโครกให้เป็น 0:08:57.014,0:09:00.559 และมันกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ[br]ว่าเราจะเติบโตมาเป็นใคร 0:09:00.942,0:09:02.498 ดังนั้น ก่อนฉันจะไป 0:09:02.522,0:09:05.395 ฉันอยากจะชวนให้คุณไตร่ตรองคุณค่า 0:09:05.419,0:09:07.819 ที่เราเผยแพร่ในการปฏิสัมพันธ์วันต่อวัน 0:09:08.125,0:09:11.953 และคุณค่าเหล่านี้จะขัดเกลา[br]พฤติกรรมผู้คนรอบ ๆ ตัวคุณอย่างไร 0:09:12.222,0:09:15.231 ตัวอย่างเช่น คุณค่าอะไรที่ถูกเผยแพร่ 0:09:15.231,0:09:18.064 เมื่อเราใช้เวลามากขึ้น[br]ยิ้มให้กับมือถือของเรา 0:09:18.088,0:09:19.744 มากกว่ายิ้มให้กับคนอื่น 0:09:20.683,0:09:24.638 เช่นเดียวกัน พิจารณาว่าพฤติกรรมของคุณ[br]ถูกเกลาจากผู้คนรอบตัวคุณอย่างไร 0:09:24.662,0:09:27.060 ในทางที่คุณอาจไม่เคยพิจารณามาก่อน 0:09:27.543,0:09:29.630 กลับไปที่การยกตัวอย่างง่าย ๆ ของเรา 0:09:29.654,0:09:32.026 คุณชอบโค้กมากกว่าเป็ปซี่จริง ๆ หรือเปล่า 0:09:32.050,0:09:35.766 หรือความชอบนี้ถูกขับเคลื่อนมาจาก[br]สิ่งที่คนรอบตัวคุณให้คุณค่า 0:09:36.461,0:09:39.215 ผู้ปกครองและคุณครูมีเอกสิทธิ์ที่จะ 0:09:39.239,0:09:41.173 ขัดเกลาพฤติกรรมของเด็กๆ 0:09:41.977,0:09:44.168 แต่มันสำคัญที่จะต้องจำไว้ว่า 0:09:44.192,0:09:48.451 เราให้คุณค่าของเรา[br]ต่อการปฏิสัมพันธ์ในแต่วัน 0:09:48.475,0:09:51.999 เรามีสิทธิ์ที่จะขัดเกลาพฤติกรรม[br]ของผู้คนรอบ ๆ ตัวเรา 0:09:52.451,0:09:53.602 ขอบคุณค่ะ 0:09:53.626,0:09:57.841 (เสียงปรบมือ)