WEBVTT 00:00:07.146 --> 00:00:10.836 สเตียรอยด์: พวกมันมีชื่อเสียงที่ไม่ดี เมื่อใช้ในด้านกีฬา 00:00:10.836 --> 00:00:15.747 แต่พวกมันยังพบได้ในยาสำหรับพ่น ครีมรักษา ผื่นจากต้นพอยซั่นไอวี่และผิวหนังอักเสบ 00:00:15.747 --> 00:00:18.337 และยาฉีดเพื่อลดการอักเสบ 00:00:18.337 --> 00:00:23.400 สเตียรอยด์ในยาเหล่านี้ไม่ใช่ชนิดเดียวกัน กับที่ใช้ในการเพิ่มกล้ามเนื้อ 00:00:23.400 --> 00:00:27.190 อันที่จริงพวกมันล้วนมาจาก สเตียรอยด์อีกชนิด 00:00:27.190 --> 00:00:31.640 ที่ร่างกายของเราผลิตได้ตามธรรมชาติ และเราขาดมันไม่ได้ NOTE Paragraph 00:00:31.640 --> 00:00:35.339 เมื่อมองภาพรวม เหตุผลที่สเตียรอยด์ มีหลากหลายชนิด 00:00:35.339 --> 00:00:39.941 เพราะสเตียรอยด์หมายถึงสารที่มี โครงสร้างทางโมเลกุลบางส่วนเหมือนกัน 00:00:39.941 --> 00:00:42.881 ไม่ใช่สารที่ให้ผลต่อร่างกายเหมือนกัน 00:00:42.881 --> 00:00:45.750 สเตียรอยด์สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ หรือมาจากการสังเคราะห์ 00:00:45.750 --> 00:00:49.900 แต่สิ่งหนึ่งที่สเตียรอยด์ทั้งหมด มีเหมือนกัน คือโครงสร้างโมเลกุล 00:00:49.900 --> 00:00:54.970 ที่ประกอบด้วยแกนวงแหวนสี่วง ที่มาจากคาร์บอน 17 อะตอม 00:00:54.970 --> 00:00:59.050 เรียงตัวกันเป็นรูปหกเหลี่ยมสามรูป และห้าเหลี่ยมหนึ่งรูป 00:00:59.050 --> 00:01:03.683 โมเลกุลจะต้องมีส่วนที่มีการเรียงตัวแบบนี้ จึงจะถือว่าเป็นสเตียรอยด์ 00:01:03.683 --> 00:01:06.753 แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีแขนงข้าง 00:01:06.753 --> 00:01:12.079 หรืออะตอมเพิ่มเติมซึ่งส่งผล ต่อความสามารถในการทำงานของโมเลกุลอย่างมาก 00:01:12.079 --> 00:01:16.039 ชื่อของสเตียรอยด์มีที่มาจาก โมเลกุลไขมันที่เรียกว่าคอเลสเตอรอล 00:01:16.039 --> 00:01:20.032 ในความเป็นจริงแล้วร่างกายของเรา สร้างสเตียรอยด์มาจากคอเลสเตอรอล NOTE Paragraph 00:01:20.032 --> 00:01:23.242 การที่มีคอเลสเตอรอลเป็นแกน หมายความว่าสเตียรอยด์ 00:01:23.242 --> 00:01:27.602 สามารถผ่านไขมันเยื่อหุ้มเซลล์ และเข้าสู่เซลล์ได้ 00:01:27.602 --> 00:01:31.422 โดยภายในเซลล์ พวกมันสามารถส่งผล ต่อการแสดงออกของยีน 00:01:31.422 --> 00:01:33.789 และการสังเคราะห์โปรตีนได้โดยตรง 00:01:33.789 --> 00:01:37.399 สิ่งนี้แตกต่างจากโมเลกุลส่งสัญญาณ ประเภทอื่น ๆ 00:01:37.399 --> 00:01:39.469 ซึ่งไม่สามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ 00:01:39.469 --> 00:01:42.859 และต้องส่งสัญญานจากภายนอกเซลล์ 00:01:42.859 --> 00:01:45.628 ผ่านเส้นทางที่ซับซ้อนมากกว่า 00:01:45.628 --> 00:01:51.185 ดังนั้นเตียรอยด์จึงให้ผลได้เร็ว กว่าโมเลกุลอื่น ๆ NOTE Paragraph 00:01:51.185 --> 00:01:55.065 กลับไปที่เตียรอยด์ในยาต้านการอักเสบ: 00:01:55.065 --> 00:02:00.025 ยาในกลุ่มนี้มีพื้นฐานมาจากสเตียรอยด์ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เรียกว่าคอร์ติซอล 00:02:00.025 --> 00:02:03.265 คอร์ติซอลเป็นสัญญาณหลักจากร่างกาย ที่บ่งบอกถึงความเครียด 00:02:03.265 --> 00:02:05.809 และมันก็มีหน้าที่มหาศาล 00:02:05.809 --> 00:02:07.959 เมื่อเราเจอกับความเครียด - 00:02:07.959 --> 00:02:11.209 ซึ่งเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่การทะเลาะ กับเพื่อน การเจอหมี 00:02:11.209 --> 00:02:13.942 การติดเชื้อ ไปจนถึงการมีน้ำตาลในเลือดต่ำ 00:02:13.942 --> 00:02:19.935 สมองจะตอบสนองโดยการส่งสัญญาณ จากไฮโพทาลามัสไปยังต่อมใต้สมอง 00:02:19.935 --> 00:02:24.477 จากนั้นต่อมใต้สมองจะส่งสัญญาณ ต่อไปยังต่อมหมวกไต 00:02:24.477 --> 00:02:28.951 ต่อมหมวกไตโดยปกติจะผลิตคอร์ติซอล และปล่อยพวกมันออกมาอย่างสม่ำเสมอ 00:02:28.951 --> 00:02:32.521 แต่เมื่อต่อมหมวกไตได้รับสัญญาณ จากต่อมใต้สมอง 00:02:32.521 --> 00:02:34.842 มันจะปลดปล่อยคอร์ติซอลจำนวนมหาศาล 00:02:34.842 --> 00:02:38.462 ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างน้ำตาล กลูโคสสำหรับให้พลังงานมากขึ้น 00:02:38.462 --> 00:02:42.882 ลดการทำงานของระบบที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับการอยู่รอดโดยทันที เช่น ระบบย่อยอาหาร 00:02:42.882 --> 00:02:46.763 และเกิดการตอบสนองแบบ “สู้หรือหนีหรือยืนตัวแข็ง” 00:02:46.763 --> 00:02:51.032 สิ่งนี้มีประโยชน์ในระยะสั้น แต่ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ 00:02:51.032 --> 00:02:55.299 เช่น การนอนไม่หลับและอารมณ์ที่แย่ลง หากคอร์ติซอลออกฤทธิ์นานเกินไป 00:02:55.299 --> 00:02:59.675 คอร์ติซอลมีปฏิกริยา กับระบบภูมิคุ้มกันในรูปแบบที่ซับซ้อนด้วย - 00:02:59.675 --> 00:03:01.012 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 00:03:01.012 --> 00:03:04.779 มันสามารถเพิ่มหรือลด การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบางอย่าง 00:03:04.779 --> 00:03:06.769 ในกระบวนการต่อสู้กับการติดเชื้อ 00:03:06.769 --> 00:03:09.929 ระบบภูมิคุ้มกัน มักจะสร้างอาการอักเสบ 00:03:09.929 --> 00:03:14.179 คอร์ติซอลจะไปยับยั้งความสามารถ ของระบบภูมิคุ้มกันในการทำให้เกิดการอักเสบ 00:03:14.179 --> 00:03:17.335 ซึ่งเช่นเคย มันจะมีประโยชน์ในระยะสั้น 00:03:17.335 --> 00:03:20.349 แต่คอร์ติซอลที่มากเกินไป ก็สามารถมีผลกระทบในด้านที่ไม่ดี 00:03:20.349 --> 00:03:25.988 เช่นการลดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกัน ในการสร้างไขกระดูกและต่อมน้ำเหลือง 00:03:25.988 --> 00:03:29.138 เพื่อป้องกันไม่ให้คอร์ติซอล อยู่ในระดับที่สูงนานเกินไป 00:03:29.138 --> 00:03:32.935 คอร์ติซอลจะยับยั้งสัญญาณ ที่ทำให้ต่อมหมวกไต 00:03:32.935 --> 00:03:35.135 ปล่อยคอร์ติซอลมากขึ้น NOTE Paragraph 00:03:35.135 --> 00:03:39.828 ยากลุ่มสเตียรอยด์ก็ให้ผลแบบเดียว กับที่คอร์ติซอลมีต่อระบบภูมิคุ้มกัน 00:03:39.828 --> 00:03:44.008 ในการต่อสู้กับอาการแพ้ ผื่น และโรคหอบหืด 00:03:44.008 --> 00:03:46.844 สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นรูปแบบ ของการอักเสบ 00:03:46.844 --> 00:03:50.915 มีสเตียรอยด์สังเคราะห์มากมาย ที่ใช้กลไกพื้นฐานเดียวกัน 00:03:50.915 --> 00:03:53.405 มันเพิ่มปริมาณคอร์ติซอลในร่างกาย 00:03:53.405 --> 00:03:56.908 ซึ่งหยุดการตอบสนอง ของภูมิคุ้มกันมากเกิน 00:03:56.908 --> 00:03:59.095 ที่ทำให้เกิดการอักเสบ 00:03:59.095 --> 00:04:04.041 สเตียรอยด์เหล่านี้จะแอบเข้าไป ในเซลล์ และปิด "สัญญาณเตือนภัย" 00:04:04.041 --> 00:04:08.889 โดยการยับยั้งการแสดงออกของยีน ที่สร้างสัญญาณการอักเสบ NOTE Paragraph 00:04:08.889 --> 00:04:13.914 สเตียรอยด์ในยาพ่นและครีม ให้ผลเฉพาะที่ 00:04:13.914 --> 00:04:16.124 ซึ่งก็คือผิวหนังหรือปอด 00:04:16.124 --> 00:04:20.885 ชนิดที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดหรือรับประทาน สำหรับรักษาอาการแพ้ภูมิตัวเองแบบเรื้อรัง 00:04:20.885 --> 00:04:26.317 เช่น โรคลูปัสหรือโรคลำไส้อักเสบ จะออกฤทธิ์ทั่วทั้งร่างกาย 00:04:26.317 --> 00:04:30.740 ในโรคพวกนี้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โจมตีเซลล์ของตัวเอง 00:04:30.740 --> 00:04:35.419 กระบวนการนี้เทียบได้กับการเป็น หอบหืดหรือผื่นคันตลอดเวลา 00:04:35.419 --> 00:04:37.769 การให้สเตียรอยด์ปริมาณต่ำ อย่างสม่ำเสมอ 00:04:37.769 --> 00:04:41.648 จะช่วยให้การตอบสนองนอกลู่นอกทาง ของภูมิคุ้มกันอยู่ภายใต้การควบคุม 00:04:41.648 --> 00:04:45.258 แต่เพราะผลกระทบทางจิตวิทยา และสรีรวิทยาในเชิงลบ 00:04:45.258 --> 00:04:46.704 ของการใช้สเตียรอยด์ในระยะยาว 00:04:46.704 --> 00:04:51.488 การใช้ในปริมาณสูง จะถูกสงวน ไว้เฉพาะกรณีฉุกเฉินและโรคกำเริบเท่านั้น NOTE Paragraph 00:04:51.488 --> 00:04:55.498 ในขณะที่โรคหอบหืด พิษจากไม้เลื้อย และอาการลำไส้แปรปรวน 00:04:55.498 --> 00:04:59.582 อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่โรคเหล่านี้ต่างมีสิ่งที่เหมือนกัน 00:04:59.582 --> 00:05:03.790 นั่นคือการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ที่เป็นอันตรายมากกว่าให้ผลดี 00:05:03.790 --> 00:05:07.091 และในขณะที่สเตียรอยด์ไม่สามารถ ทำให้กล้ามเนื้อของคุณใหญ่ขึ้นได้ 00:05:07.091 --> 00:05:10.624 พวกมันสามารถปกป้องร่างกาย จากภูมิคุ้มกันของตัวเองได้ดีที่สุด