WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:02.000 ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษครับ 00:00:02.000 --> 00:00:05.000 ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ รหัสพันธุกรรมของมนุษย์ 00:00:05.000 --> 00:00:08.000 (เสียงปรบมือ) 00:00:08.000 --> 00:00:10.000 โครโมโซมที่หนึ่ง ด้านซ้ายบน 00:00:10.000 --> 00:00:12.000 ทางด้านขวาล่างคือ โครโมโซมที่กำหนดเพศ 00:00:12.000 --> 00:00:14.000 ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะมีโครโมโซม X ตัวใหญ่นี้อยู่ 2 ตัว 00:00:14.000 --> 00:00:16.000 ผู้ชายก็จะมีโครโมโซม X 00:00:16.000 --> 00:00:18.000 และแน่นอนก็จะมีเจ้าโครโมโซม Y ตัวเล็กๆ นี่อีกหนึ่ง 00:00:18.000 --> 00:00:22.000 โทษทีนะหนุ่มๆ แต่เจ้าตัวเล็กๆ นี่แหละที่ทำให้คุณแตกต่างออกไป 00:00:22.000 --> 00:00:25.000 ดังนั้นถ้าคุณลองซูมเข้าไปที่พันธุกรรมนี้ 00:00:25.000 --> 00:00:28.000 สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือโครงสร้างเกลียวคู่ 00:00:28.000 --> 00:00:30.000 รหัสของชีวิตสะกดออกมาได้เป็นตัวอักษรทางชีวเคมี 4 ตัว 00:00:30.000 --> 00:00:32.000 หรือที่เราเรียกกันว่า เบส (Bases) ถูกมั้ยครับ 00:00:32.000 --> 00:00:34.000 A, C, G และ T 00:00:34.000 --> 00:00:36.000 แล้วมันมีอยู่เท่าไหร่ในพันธุกรรมมนุษย์กันล่ะ? คำตอบคือ 3 พันล้าน 00:00:36.000 --> 00:00:38.000 แล้วมันเป็นตัวเลขที่มากมั้ยน่ะเหรอ? 00:00:38.000 --> 00:00:40.000 เอาเป็นว่า ใครๆ ก็สามารถจะพูดเลขจำนวนมากๆ ได้ทั้งนั้นน่ะแหละ 00:00:40.000 --> 00:00:42.000 แต่ในความเป็นจริง ถ้าเกิดผมลองวางเบส 1 ตัว 00:00:42.000 --> 00:00:45.000 ลงบนแต่ละพิกเซลของจอขนาด 1280 คูณ 800 00:00:45.000 --> 00:00:48.000 เราต้องใช้มากถึง 3,000 จอเพื่อที่จะมองดูรหัสพันธุกรรมทั้งหมด 00:00:48.000 --> 00:00:50.000 เพราะฉะนั้นมันใหญ่โตมากจริงๆ NOTE Paragraph 00:00:50.000 --> 00:00:52.000 และบางทีอาจเป็นเพราะขนาดของมัน 00:00:52.000 --> 00:00:55.000 คนกลุ่มนึง ซึ่งทั้งหมดมีโครโมโซม Y อยู่ 00:00:55.000 --> 00:00:57.000 จึงตัดสินใจที่จะถอดรหัสมันซะ 00:00:57.000 --> 00:00:59.000 (เสียงหัวเราะ) 00:00:59.000 --> 00:01:02.000 มันใช้เวลากว่า 15 ปี และเงินเกือบ 4 พันล้านดอลล่าร์ 00:01:02.000 --> 00:01:04.000 รหัสพันธุกรรมก็ถูกถอดรหัสและตีพิมพ์ 00:01:04.000 --> 00:01:07.000 ในปี 2003 ผลลัพธ์สุดท้ายถูกตีพิมพ์ออกมา และพวกเขาก็ยังพยายามทำมันต่อไปเรื่อยๆ 00:01:07.000 --> 00:01:09.000 ซึ่งทั้งหมดถูกทำสำเร็จได้ด้วยเครื่องมือหน้าตาแบบนี้ 00:01:09.000 --> 00:01:11.000 มันมีต้นทุนประมาณ 1 ดอลล่าร์ต่อเบสหนึ่งตัว 00:01:11.000 --> 00:01:13.000 เป็นวิธีทำที่ช้ามากๆ NOTE Paragraph 00:01:13.000 --> 00:01:15.000 เอาล่ะทุกคน ผมมาที่นี่เพื่อบอกกับคุณ 00:01:15.000 --> 00:01:17.000 ว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วโดยสิ้นเชิง 00:01:17.000 --> 00:01:19.000 โดยที่ไม่มีใครในที่นี้รู้ 00:01:19.000 --> 00:01:21.000 ตอนนี้สิ่งที่เราทำ คือเรานำรหัสพันธุกรรม 00:01:21.000 --> 00:01:23.000 มาคัดลอกไว้ซักประมาณ 50 ชุด 00:01:23.000 --> 00:01:26.000 จากนั้นเราก็แยกมันออกเป็นชิ้นส่วนเบสเล็กๆ 50 ส่วน 00:01:26.000 --> 00:01:28.000 แล้วค่อยถอดรหัสมัน ขนานกันไปพร้อมๆ กัน 00:01:28.000 --> 00:01:30.000 หลังจากนั้นเราก็จะนำมันเข้าโปรแกรม 00:01:30.000 --> 00:01:32.000 และก็ผสานมันเข้าด้วยกันเพื่อบอกคุณว่าผลมันเป็นยังไง 00:01:32.000 --> 00:01:35.000 และเพื่อให้คุณได้เห็นภาพว่ามันเป็นอย่างไร 00:01:35.000 --> 00:01:37.000 โครงการรหัสพันธุกรรมมนุษย์ 3 พันล้านเบส ถูกต้องมั้ยครับ 00:01:37.000 --> 00:01:39.000 ถ้าสั่งให้เครื่องนี้ทำงาน จะถอดรหัสได้ 00:01:39.000 --> 00:01:42.000 2 แสนล้านเบสในหนึ่งอาทิตย์ 00:01:42.000 --> 00:01:45.000 และเจ้า 2 แสนล้านนี้ก็จะเพิ่มเป็น 6 แสนล้านในฤดูร้อนปีนี้ 00:01:45.000 --> 00:01:48.000 และมันก็ไม่มีสัญญาณว่าอัตราการเพิ่มนี้จะลดลง 00:01:48.000 --> 00:01:51.000 เพราะฉะนั้น ต้นทุนของเบสหนึ่งตัว ในการถอดรหัส 00:01:51.000 --> 00:01:54.000 ได้ลดลงไปจากเดิม 100 ล้านเท่า 00:01:54.000 --> 00:01:57.000 และนั่นมันเทียบได้กับคุณเติมน้ำมันในปี 1998 00:01:57.000 --> 00:01:59.000 รอจนถึงปี 2011 00:01:59.000 --> 00:02:01.000 และตอนนี้คุณก็จะสามารถขับรถไปกลับดาวพฤหัสได้ถึง 2 ครั้ง NOTE Paragraph 00:02:01.000 --> 00:02:06.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:02:06.000 --> 00:02:08.000 ประชากรมนุษย์บนโลก 00:02:08.000 --> 00:02:10.000 จำนวนคอมพิวเตอร์พีซี 00:02:10.000 --> 00:02:13.000 บทความทางการแพทย์ทั้งหมด 00:02:13.000 --> 00:02:15.000 กฎของมัวร์ (Moore's law) 00:02:15.000 --> 00:02:18.000 วิธีเก่าๆ ในการถอดรหัสพันธุกรรม และนี่ก็คือวิธีใหม่ 00:02:18.000 --> 00:02:20.000 คุณทั้งหลาย นี่มันเป็นการเพิ่มแบบลอการิทึ่ม 00:02:20.000 --> 00:02:23.000 คุณไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นเส้นพุ่งขึ้นแบบนี้เท่าไหร่หรอก 00:02:23.000 --> 00:02:26.000 เพราะฉะนั้นขีดความสามารถในการลำดับพันธุกรรมมนุษย์จะเพิ่มขึ้น 00:02:26.000 --> 00:02:29.000 เป็น 50,000 ถึง 100,000 พันธุกรรมมนุษย์ต่อปี 00:02:29.000 --> 00:02:32.000 และเรารู้สิ่งนี้ได้จากเครื่องมือที่กำลังจะถูกติดตั้ง 00:02:32.000 --> 00:02:35.000 ซึ่งมันถูกคาดหวังไว้ว่าจะช่วยทวีคูณจำนวนนี้ ได้อีกเป็น 2 เท่า, 3 เท่า หรืออาจจะถึง 4 เท่า 00:02:35.000 --> 00:02:37.000 ในปีต่อๆ ไปของอนาคตอันใกล้ 00:02:37.000 --> 00:02:39.000 ในความเป็นจริงแล้ว มีห้องทดลองอยู่แห่งหนึ่ง 00:02:39.000 --> 00:02:42.000 ที่เป็นตัวแทนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของขีดความสามารถทั้งหมด 00:02:42.000 --> 00:02:45.000 ชื่อของมันคือ สถาบันศึกษาพันธุกรรมประจำกรุงปักกิ่ง (Beijing Genomics Institute) 00:02:45.000 --> 00:02:49.000 แน่นอนว่า ชาวจีนกำลังจะชนะในศึกการแข่งสู่ดวงจันทร์ครั้งใหม่นี้ 00:02:49.000 --> 00:02:51.000 แล้วมันมีความหมายอะไรกับการแพทย์ล่ะ? NOTE Paragraph 00:02:51.000 --> 00:02:53.000 เอาล่ะ มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เธออายุ 37 ปี 00:02:53.000 --> 00:02:57.000 เธอถูกวินิฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมแบบที่มีตัวรับเอสโทรเจนเป็นบวกขั้นที่ 2 00:02:57.000 --> 00:03:00.000 ซึ่งเธอถูกรักษาด้วยการผ่าตัด, คีโมบำบัด และฉายรังสี 00:03:00.000 --> 00:03:02.000 และเธอก็หาย 00:03:02.000 --> 00:03:05.000 2 ปีต่อมา เธอก็ถูกวินิจฉัยอีกครั้งว่าเป็น มะเร็งรังไข่ขั้นที่ 3 00:03:05.000 --> 00:03:08.000 และโชคไม่ดีที่เธอต้องถูกรักษาอีกครั้งด้วยการผ่าตัด และการทำคีโมบำบัด 00:03:08.000 --> 00:03:10.000 ในอีก 3 ปีต่อมาที่อายุ 42 00:03:10.000 --> 00:03:13.000 ก็พบมะเร็งรังไข่อีก พร้อมกับการรักษาแบบคีโมบำบัด 00:03:13.000 --> 00:03:15.000 6 เดือนต่อมา 00:03:15.000 --> 00:03:18.000 เธอก็กลับมาด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอีลอยด์ 00:03:19.000 --> 00:03:22.000 ระบบหายใจของเธอล้มเหลว และเธอเสียชีวิตในอีก 8 วันถัดมา NOTE Paragraph 00:03:22.000 --> 00:03:25.000 เอาล่ะ ข้อแรก นี่จะทำให้วิธีที่ผู้หญิงคนนี้ถูกรักษาในช่วงเวลาอย่างน้อย 10 ปี 00:03:25.000 --> 00:03:28.000 ดูเหมือนกับการห้ามเลือดไปเลย 00:03:28.000 --> 00:03:30.000 และมันเป็นเพราะคนอย่างเพื่อนร่วมงานของผม ริค วิลสัน (Rick Wilson) 00:03:30.000 --> 00:03:33.000 ที่สถาบันการศึกษาพันธุกรรมแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน 00:03:33.000 --> 00:03:35.000 ที่ตัดสินใจที่จะชันสูตรศพผู้หญิงคนนี้ 00:03:35.000 --> 00:03:38.000 และเขาได้ทำการถอดรหัส โดยการนำเซลล์ผิวหนังที่แข็งแรง 00:03:38.000 --> 00:03:40.000 และเซลล์มะเร็งที่แนวไขกระดูก 00:03:40.000 --> 00:03:42.000 นำมาเรียงลำดับพันธุกรรมของทั้ง 2 ตัวอย่าง 00:03:42.000 --> 00:03:45.000 ในไม่กี่อาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร 00:03:45.000 --> 00:03:47.000 จากนั้นเขาทำการเปรียบเทียบพันธุกรรมทั้ง 2 ในโปรแกรม 00:03:47.000 --> 00:03:49.000 และสิ่งที่เขาพบ นอกเหนือจากสิ่งอื่นใด 00:03:49.000 --> 00:03:51.000 คือการหลุดหายในเบส 2,000 ตัว 00:03:51.000 --> 00:03:53.000 ตลอดทั่วทั้งเบสจำนวน 3 พันล้านตัว 00:03:53.000 --> 00:03:55.000 โดยเฉพาะในยีนส์ที่มีชื่อว่า TP53 00:03:55.000 --> 00:03:58.000 ถ้าคุณมีการกลายพันธุ์ชนิดที่เป็นอันตรายในยีนส์นี้ 00:03:58.000 --> 00:04:01.000 คุณจะมีโอกาสถึง 90 เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นมะเร็ง NOTE Paragraph 00:04:01.000 --> 00:04:03.000 น่าเสียดาย ที่มันช่วยผู้หญิงคนนี้ไว้ไม่ได้ 00:04:03.000 --> 00:04:06.000 แต่มันจะมีผลกระทบอย่างรุนแรง และลึกซึ้ง 00:04:06.000 --> 00:04:08.000 กับครอบครัวของเธอ 00:04:08.000 --> 00:04:10.000 ผมหมายความว่า ถ้าเกิดพวกเค้ามีการกลายพันธุ์แบบเดียวกัน 00:04:10.000 --> 00:04:13.000 และเขาได้ทำการทดสอบพันธุกรรมนี้ และเข้าใจมัน 00:04:13.000 --> 00:04:16.000 เขาสามารถที่จะไปทำการตรวจสุขภาพตามปกติ เพื่อที่จะได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ขั้นต้นได้ 00:04:16.000 --> 00:04:18.000 และก็เป็นไปได้ว่าจะมีชีวิตที่ยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ NOTE Paragraph 00:04:18.000 --> 00:04:20.000 ให้ผมแนะนำคุณให้รู้จักกับฝาแฝดบีรี่ (Beery twins) 00:04:20.000 --> 00:04:22.000 ถูกวินิจฉัยว่า พิการทางสมอง ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ 00:04:22.000 --> 00:04:24.000 แม่ที่กล้าหาญของพวกเค้า 00:04:24.000 --> 00:04:26.000 ที่ไม่เคยเชื่อว่า อาการของลูกตัวเองจะเป็นอาการของคนที่พิการทางสมอง 00:04:26.000 --> 00:04:28.000 และด้วยความพยายามที่กล้าหาญ และการค้นคว้าในอินเตอร์เนท 00:04:28.000 --> 00:04:31.000 เธอจึงสามารถโน้มน้าวแพทย์ให้เชื่อ 00:04:31.000 --> 00:04:33.000 ว่าความจริงแล้วลูกของเธอเป็นโรคอื่น 00:04:33.000 --> 00:04:36.000 ว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นคือ โรคไข้แหงน (Dopa-responsive dystonia) 00:04:36.000 --> 00:04:38.000 และจึงถูกรักษาด้วย L-Dopa 00:04:38.000 --> 00:04:40.000 อาการของพวกเขาจึงดีขึ้น 00:04:40.000 --> 00:04:42.000 แต่ก็ยังไม่ถึงกับว่าหายขาดซะทีเดียว 00:04:42.000 --> 00:04:44.000 ปัญหาสำคัญยังคงอยู่ NOTE Paragraph 00:04:44.000 --> 00:04:46.000 กลับกลายเป็นว่าสุภาพบุรุษในภาพนี้ที่ชื่อว่า โจ บีรี่ (Joe Beery) 00:04:46.000 --> 00:04:48.000 ผู้โชคดี ที่เป็น Chief Information Officer (CIO) 00:04:48.000 --> 00:04:50.000 ของบริษัทที่มีชื่อว่า Life Technology 00:04:50.000 --> 00:04:52.000 1 ใน 2 บริษัท 00:04:52.000 --> 00:04:55.000 ที่สร้างเจ้าเครื่องถอดรหัสพันธุกรรมนี้ 00:04:55.000 --> 00:04:58.000 และเขาได้ทำการเขาถอดรหัสพันธุกรรมลูกของตัวเอง 00:04:58.000 --> 00:05:01.000 และสิ่งที่พวกเขาพบคืออนุกรมการกลายพันธุ์ของยีนส์ที่เรียกว่า SPR 00:05:01.000 --> 00:05:05.000 ที่มีหน้าที่ส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบการผลิตเซโรโทนิน 00:05:05.000 --> 00:05:08.000 เพราะฉะนั้นนอกจาก L-Dopa พวกเขาจึงให้ยาปรับระดับเซโรโทนิน (Serotonin precursor drug) 00:05:08.000 --> 00:05:10.000 และในตอนนี้พวกเขาก็เป็นปกติแล้ว 00:05:10.000 --> 00:05:13.000 สิ่งนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากขาดการจัดเรียงลำดับพันธุกรรม 00:05:13.000 --> 00:05:15.000 และในตอนนั้น เมื่อหลายๆ ปีก่อน มันมีค่าใช้จ่าย 100,000 ดอลล่าร์ 00:05:15.000 --> 00:05:17.000 ในวันนี้มันอยู่ที่ 10,000 ดอลล่าร์ ปีหน้า 1,000 ดอลล่าร์ 00:05:17.000 --> 00:05:19.000 ปีต่อไปมันจะเหลือ 100 ดอลล่าร์ ซึ่งอาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้นซักปี 00:05:19.000 --> 00:05:21.000 ทุกอย่างมันกำลังเกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนั้น NOTE Paragraph 00:05:21.000 --> 00:05:23.000 และนี่ก็คือ นิค 00:05:23.000 --> 00:05:26.000 ที่ชื่นชอบแบทแมนและปืนฉีดน้ำ 00:05:26.000 --> 00:05:29.000 เรื่องก็คือ นิคไปที่โรงพยาบาลเด็ก 00:05:29.000 --> 00:05:31.000 เพราะมีช่วงท้องที่พองออก เหมือนกับผู้ป่วยโรคขาดสารอาหาร 00:05:31.000 --> 00:05:33.000 และนั่นไม่ใช่เพราะว่าเค้าไม่กิน 00:05:33.000 --> 00:05:35.000 แต่เป็นเพราะว่าเมื่อเค้ากิน ลำไส้ของเค้ากลับเปิดออก 00:05:35.000 --> 00:05:37.000 อุจจาระเลยย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง 00:05:37.000 --> 00:05:39.000 หลังจากการผ่าตัด 100 หนต่อมา 00:05:39.000 --> 00:05:42.000 เขามองไปที่แม่ของเค้าและพูดว่า "แม่จ๋า 00:05:42.000 --> 00:05:45.000 สวดมนต์ให้หนูด้วย หนูเจ็บปวดเหลือเกิน" 00:05:45.000 --> 00:05:48.000 กุมารแพทย์ของเขาบังเอิญว่ามีพื้นหลังในเรื่องของพันธุกรรม 00:05:48.000 --> 00:05:50.000 และเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 00:05:50.000 --> 00:05:52.000 แต่เขาพูดว่า "เรามาลองลำดับพันธุกรรมของเด็กคนนี้เถอะ" 00:05:52.000 --> 00:05:54.000 สิ่งที่พวกเขาพบ คือการกลายพันธุ์จุดหนึ่ง 00:05:54.000 --> 00:05:57.000 ในพันธุกรรม ที่ช่วยควบคุมการตายของเซลล์ 00:05:57.000 --> 00:06:00.000 ทฤษฎีของพวกเค้าก็คือว่า หนูนิคกำลังมีอาการการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน 00:06:00.000 --> 00:06:03.000 อย่างชัดเจนกับอาหาร 00:06:03.000 --> 00:06:06.000 และอาการตอบสนองนี่แหละ ที่มันจะทำให้เกิดการตายของเซลล์ 00:06:06.000 --> 00:06:08.000 แต่เนื่องจากว่าพันธุกรรมที่คอยดูแลสิ่งนั้นมันผิดปกติ 00:06:08.000 --> 00:06:10.000 นั่นจึงช่วยบอกอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่หนูนิคต้องการจริงๆ 00:06:10.000 --> 00:06:13.000 ก็คือการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งเขาก็ได้รับการรักษา 00:06:13.000 --> 00:06:15.000 และหลังจากนั้น 9 เดือน ของการฟื้นสภาพอย่างทรหด 00:06:15.000 --> 00:06:17.000 ตอนนี้เขากำลังกินสเต๊กกับซอสอย่างเอร็ดอร่อย NOTE Paragraph 00:06:17.000 --> 00:06:19.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:06:19.000 --> 00:06:21.000 โอกาสในการใช้พันธุกรรม 00:06:21.000 --> 00:06:23.000 เป็นเครื่องมือวินิจฉัยโรคครอบจักรวาล 00:06:23.000 --> 00:06:25.000 ได้มาถึงเราแล้วในวันนี้ 00:06:25.000 --> 00:06:27.000 ในวันนี้ มันมาถึงแล้ว 00:06:27.000 --> 00:06:29.000 และนั่นมันหมายความว่า 00:06:29.000 --> 00:06:32.000 พวกเราทุกคนในห้องนี้ สามารถอยู่ได้นานขึ้นอีก 5, 10 หรือ 20 ปี 00:06:32.000 --> 00:06:34.000 เพราะเจ้าสิ่งนี้ 00:06:34.000 --> 00:06:36.000 และนั่นมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง 00:06:36.000 --> 00:06:39.000 นอกเสียจากว่าคุณคิดถึงผลกระทบของเผ่าพรรณมนุษย์ต่อดาวเคราะห์ดวงนี้ 00:06:39.000 --> 00:06:41.000 และความสามารถในการผลิตอาหารของพวกเรา 00:06:41.000 --> 00:06:43.000 และมันกลายเป็นว่า 00:06:43.000 --> 00:06:45.000 เจ้าเทคโนโลยีเดียวกันนี่แหละ 00:06:45.000 --> 00:06:47.000 ก็สามารถถูกนำไปใช้ในการปลูกพืชพันธุ์ใหม่ๆ 00:06:47.000 --> 00:06:50.000 ของข้าวโพด, แป้งสาลี, ถั่วเหลือง และพืชผลชนิดอื่นๆ 00:06:50.000 --> 00:06:52.000 ที่จะทนทานต่อภาวะแล้ง, ภาวะน้ำท่วม, 00:06:52.000 --> 00:06:54.000 แมลงและยาฆ่าแมลงได้ 00:06:54.000 --> 00:06:57.000 เอาล่ะ ตราบใดที่เรายังเพิ่มจำนวนประชากรอย่างต่อเนื่อง 00:06:57.000 --> 00:07:00.000 เราก็จำเป็นที่จะต้องปลูกและกินพืชที่ดัดแปลงทางพันธุกรรม 00:07:00.000 --> 00:07:03.000 และนั่นก็คือทางออกเดียว ที่ผมจะเลือกในวันนี้ 00:07:03.000 --> 00:07:05.000 นอกเสียจากว่ามีใครซักคน ในหมู่ผู้ฟัง 00:07:05.000 --> 00:07:07.000 ที่อยากจะอาสาหยุดกิน? 00:07:07.000 --> 00:07:09.000 ผมไม่เห็นใครอาสาซักคน NOTE Paragraph 00:07:09.000 --> 00:07:11.000 นี่คือเครื่องพิมพ์ดีด 00:07:11.000 --> 00:07:14.000 สิ่งสำคัญบนโต๊ะทำงานทุกโต๊ะมาเป็นทศวรรษ 00:07:14.000 --> 00:07:18.000 แล้วเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดมันก็ถูกลบออกไปอย่างหมดจดด้วยสิ่งนี้ 00:07:18.000 --> 00:07:21.000 หลังจากนั้นก็มีเครื่องช่วยในการประมวลคำหลายๆ รุ่นที่ออกมา 00:07:21.000 --> 00:07:24.000 แต่ผลสุดท้าย มันก็ถูกลบออกไปอีกครั้ง 00:07:24.000 --> 00:07:26.000 โดยบ๊อบ เมทคาลเฟ่ (Bob Metcalfe) ผู้คิดค้นอีเทอร์เนท 00:07:26.000 --> 00:07:28.000 และเครือข่ายการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ 00:07:28.000 --> 00:07:30.000 ที่ได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปอย่างหมดสิ้น 00:07:30.000 --> 00:07:33.000 และหลังจากนั้นเราก็มี Netscape และ Yahoo 00:07:33.000 --> 00:07:36.000 และเราก็เลยมีวิกฤตฟองสบู่ของธุรกิจดอทคอม 00:07:36.000 --> 00:07:39.000 (เสียงหัวเราะ) 00:07:39.000 --> 00:07:41.000 แต่ไม่ต้องเป็นห่วง 00:07:41.000 --> 00:07:43.000 เพราะมันถูกช่วยเหลืออย่างรวดเร็วโดย iPod, Facebook 00:07:43.000 --> 00:07:45.000 และแน่นอน angry birds 00:07:45.000 --> 00:07:47.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:07:47.000 --> 00:07:50.000 เอาล่ะ นี่คือจุดยืนของเราในวันนี้ 00:07:50.000 --> 00:07:52.000 คือการปฏิวัติทางพันธุกรรม 00:07:52.000 --> 00:07:54.000 สิ่งที่ผมอยากให้คุณช่วยพิจารณาก็คือ 00:07:54.000 --> 00:07:56.000 มันหมายความอย่างไร 00:07:56.000 --> 00:07:59.000 เมื่อจุดเหล่านี้ไม่ได้เพียงแสดงถึงตัวตนทางพันธุกรรมของคุณ 00:07:59.000 --> 00:08:02.000 แต่ช่วยเชื่อมต่อพันธุกรรมของคุณไปทั่วโลก? 00:08:02.000 --> 00:08:04.000 ผมเพิ่งจะซื้อประกันชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ 00:08:04.000 --> 00:08:06.000 และผมต้องตอบคำถาม 00:08:06.000 --> 00:08:09.000 ว่า ก. ผมไม่เคยทดสอบพันธุกรรม ข. ผมเคยทดสอบ และนี่คือผล 00:08:09.000 --> 00:08:11.000 และ ค. ผมเคยทดสอบ แต่ผมไม่อยากบอกคุณ 00:08:11.000 --> 00:08:13.000 โชคดีที่ผมสามารถตอบ ก. ได้ 00:08:13.000 --> 00:08:16.000 และผมสามารถพูดได้เต็มปากถึงแม้ว่าตัวแทนประกันผมกำลังฟังอยู่ 00:08:16.000 --> 00:08:19.000 แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดผมตอบข้อ ค. ? NOTE Paragraph 00:08:19.000 --> 00:08:21.000 การใช้งานด้านพันธุกรรมสำหรับผู้บริโภคจะเติบโตมหาศาล 00:08:21.000 --> 00:08:23.000 คุณอยากจะรู้หรือไม่ว่า คุณมีพันธุกรรมที่เข้ากันได้ 00:08:23.000 --> 00:08:25.000 กับแฟนของคุณหรือเปล่า? ทำไมจะไม่ได้ล่ะ 00:08:25.000 --> 00:08:28.000 การเรียงลำดับพันธุกรรมบน iPhone น่ะเหรอ? มีแอพสำหรับมัน 00:08:28.000 --> 00:08:30.000 (เสียงหัวเราะ) 00:08:30.000 --> 00:08:33.000 ลองนวดแบบปรับให้เหมาะกับพันธุกรรมของแต่ละคนล่ะ ดีมั้ย? 00:08:33.000 --> 00:08:35.000 ตอนนี้มีห้องทดลองอยู่แห่งหนึ่ง 00:08:35.000 --> 00:08:37.000 ที่ทดสอบพันธุกรรม AVPR1 เพื่อหา allele 334 00:08:37.000 --> 00:08:39.000 หรือที่เรียกว่า พันธุกรรมนอกใจ 00:08:39.000 --> 00:08:43.000 เพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ กับคู่คนสำคัญของคุณ 00:08:43.000 --> 00:08:45.000 ก็แค่หันไปข้างๆ และเอาสำลีเก็บตัวอย่างจากในปากของเค้า 00:08:45.000 --> 00:08:47.000 ส่งไปที่ห้องทดลอง และคุณก็จะได้รู้มันซักที 00:08:47.000 --> 00:08:49.000 (เสียงหัวเราะ) 00:08:49.000 --> 00:08:51.000 คุณอยากจะเลือกประธานาธิบดี 00:08:51.000 --> 00:08:53.000 ที่พันธุกรรมแสดงถึงโรคกล้ามเนื้อหัวใจบกพร่องจริงๆ น่ะรึ? 00:08:53.000 --> 00:08:55.000 เอาล่ะ ลองคิดดูว่า ในปี 2016 00:08:55.000 --> 00:08:56.000 และผู้สมัครของพรรคต่างๆ ก็จะเปิดเผย 00:08:56.000 --> 00:08:58.000 ไม่เพียงแต่รายการการเสียภาษี 4 ปีย้อนหลัง 00:08:58.000 --> 00:09:00.000 แต่ก็รวมไปถึงข้อมูลพันธุกรรมด้วย 00:09:00.000 --> 00:09:02.000 และมันก็ดูดีมากเลย 00:09:02.000 --> 00:09:04.000 แล้วเธอก็จะท้าทายต่อผู้สมัครพรรคอื่นๆ ให้เผยข้อมูลแบบเดียวกัน 00:09:04.000 --> 00:09:06.000 คุณคิดว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นงั้นรึ? 00:09:06.000 --> 00:09:08.000 คุณคิดว่ามันจะช่วย จอห์น แมคเคน (John McCain) หรือเปล่า? NOTE Paragraph 00:09:08.000 --> 00:09:10.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:10.000 --> 00:09:12.000 มีกี่คนในหมู่ผู้ชม 00:09:12.000 --> 00:09:14.000 ที่มีนามสกุลเรสนิคเหมือนกับผม? ช่วยยกมือขึ้นหน่อยครับ 00:09:14.000 --> 00:09:16.000 มีมั้ย? ไม่มีใครเลย 00:09:16.000 --> 00:09:18.000 โดยปกติแล้ว จะมีคน หรือ 2 คน 00:09:18.000 --> 00:09:20.000 พ่อของพ่อผม เป็น 1 ใน 10 ของลูกชายตระกูลเรสนิค 00:09:20.000 --> 00:09:22.000 ที่ต่างเกลียดขี้หน้ากันมาก 00:09:22.000 --> 00:09:24.000 และพวกเขาต่างก็แยกย้ายกันไป 00:09:24.000 --> 00:09:26.000 เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปได้ 00:09:26.000 --> 00:09:29.000 ที่ผมจะเกี่ยวข้องกับเรสนิคทุกคนที่ผมเคยพบ แต่ผมไม่รู้ 00:09:29.000 --> 00:09:32.000 แต่ลองคิดดูถ้าผมมีพันธุกรรมที่ถูกเรียงลำดับ เก็บอยู่ในโปรแกรม 00:09:32.000 --> 00:09:34.000 และพันธุกรรมของญาติลำดับที่สามของผมนั่งอยู่ตรงนั้น 00:09:34.000 --> 00:09:36.000 และก็มีโปรแกรมที่ช่วยเปรียบเทียบมันทั้ง 2 เข้าด้วยกัน 00:09:36.000 --> 00:09:38.000 ที่จะรู้ถึงความเชื่อมโยงนี้ 00:09:38.000 --> 00:09:41.000 มันไม่ยากเกินที่จะจินตนาการ บริษัทของผมมีโปรแกรมที่จะช่วยทำสิ่งนั้นได้ในตอนนี้แล้ว 00:09:41.000 --> 00:09:43.000 เพราะฉะนั้นลองจินตนาการอีกซักอย่าง 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 ถ้าโปรแกรมนั้นสามารถถามทั้ง 2 ฝ่ายถึงความยินยอม 00:09:46.000 --> 00:09:48.000 "ว่าคุณต้องการที่จะพบญาติลำดับที่ 3 ของคุณหรือไม่" 00:09:48.000 --> 00:09:50.000 และเราทั้ง 2 ตอบว่า "ต้องการ" 00:09:50.000 --> 00:09:52.000 แจ๋ว! ยินดีต้อนรับสู่โลก LinkedIn (Social Network แบบหนึ่ง) แบบพันธุกรรม NOTE Paragraph 00:09:52.000 --> 00:09:56.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:56.000 --> 00:09:58.000 เอาล่ะนี่มันคงเป็นสิ่งที่ดีใช่มั้ย? 00:09:58.000 --> 00:10:00.000 คุณสามารถที่จะนัดรวมญาติได้ใหญ่ขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย 00:10:00.000 --> 00:10:02.000 แต่บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่แย่ได้เหมือนกัน 00:10:02.000 --> 00:10:04.000 ในห้องนี้มีพ่ออยู่กี่คน? ช่วยยกมือให้ผมเห็นหน่อยครับ 00:10:04.000 --> 00:10:07.000 เอาล่ะ ผู้เชี่ยวชาญคิดว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ที่คุณ 00:10:07.000 --> 00:10:09.000 จะไม่ใช่พ่อของลูกของคุณ 00:10:09.000 --> 00:10:11.000 (เสียงหัวเราะ) 00:10:11.000 --> 00:10:13.000 ลองดู NOTE Paragraph 00:10:13.000 --> 00:10:17.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:10:17.000 --> 00:10:20.000 พันธุกรรมพวกนี้ ทั้ง 23 โครโมโซม 00:10:20.000 --> 00:10:23.000 มันไม่ได้แสดงถึงคุณภาพของความสัมพันธ์ 00:10:23.000 --> 00:10:25.000 หรือธรรมชาติของสังคมของเรา อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ 00:10:25.000 --> 00:10:27.000 และเหมือนกับเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ 00:10:27.000 --> 00:10:29.000 มันอยู่ในมือของมนุษยชาติ 00:10:29.000 --> 00:10:32.000 ที่จะใช้มันเพื่อทำให้ชีวิตเราดีขึ้น หรือแย่ลง 00:10:32.000 --> 00:10:35.000 เพราะฉะนั้นผมขอให้คุณทุกคนตื่นขึ้นและลองมาทำความเข้าใจกับมัน 00:10:35.000 --> 00:10:38.000 เพื่อที่จะช่วยส่งเสริมการปฏิวัติทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณ NOTE Paragraph 00:10:38.000 --> 00:10:40.000 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:10:40.000 --> 00:10:42.000 (เสียงปรบมือ)