WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:04.000 ลองจินตนาการว่า คุณกำลังยืนอยู่บนถนน ที่ไหนก็ได้ในอเมริกา 00:00:04.000 --> 00:00:07.000 และคนญี่ปุ่น เดินมาหาคุณ แล้วถามว่า NOTE Paragraph 00:00:07.000 --> 00:00:09.000 "ขอโทษนะครับ ช่วงตึกนี้ ชื่อว่าอะไรหรือครับ?" NOTE Paragraph 00:00:09.000 --> 00:00:13.000 คุณจะตอบว่า "ขอโทษครับ ตรงนี้ถนนโอ๊ค ตรงนั้นถนนเอลม์ 00:00:13.000 --> 00:00:15.000 ตรงนี้ถนนสายที่ 26 ตรงนั้นถนนสายที่ 27" NOTE Paragraph 00:00:15.000 --> 00:00:17.000 เขาพูดว่า "ถูกล่ะ แล้วชื่อของช่วงตึกนั้นล่ะ?" NOTE Paragraph 00:00:17.000 --> 00:00:20.000 คุณจะพูดว่า "ช่วงตึกมันไม่มีชื่อครับ" 00:00:20.000 --> 00:00:22.000 ถนนมีชื่อ ช่วงตึกเป็นเพียงแค่ 00:00:22.000 --> 00:00:24.000 พื้นที่ไม่มีชื่อ ที่อยู่ระหว่างถนน" NOTE Paragraph 00:00:24.000 --> 00:00:28.000 เขาจากไป พร้อมกับความสับสนผิดหวังเล็กน้อย NOTE Paragraph 00:00:28.000 --> 00:00:31.000 ทีนี้ ลองคิดว่า คุณยืนอยู่บนถนน ที่ไหนก็ได้ ในประเทศญี่ปุ่น 00:00:31.000 --> 00:00:33.000 คุณหันไปเจอคนๆหนึ่ง แล้วถามว่า NOTE Paragraph 00:00:33.000 --> 00:00:35.000 "ขอโทษนะครับ ถนนนี้ ชื่ออะไรหรือครับ?" NOTE Paragraph 00:00:35.000 --> 00:00:39.000 เขาจะตอบว่า "อ้อ ตรงนั้นช่วงตึกที่ 17 และตรงนี้ช่วงตึกที่ 16 ครับ" NOTE Paragraph 00:00:39.000 --> 00:00:42.000 คุณพูดว่า "โอเค แล้วถนนนี้ ชื่ออะไรล่ะครับ?" NOTE Paragraph 00:00:42.000 --> 00:00:44.000 เขาก็ตอบว่า "อืม ถนนมันไม่มีชื่อครับ 00:00:44.000 --> 00:00:46.000 แต่ช่วงตึกมีชื่อ" 00:00:46.000 --> 00:00:50.000 แค่ลองดูใน กูเกิ้ลแมพตรงนี้ นี่ช่วงตึกที่ 14, 15, 16, 17, 18, 19 00:00:50.000 --> 00:00:52.000 ช่วงตึกทั้งหมด มีชื่อ 00:00:52.000 --> 00:00:56.000 ถนน เป็นแค่พื้นที่ไม่มีชื่อ ระหว่างช่วงตึก NOTE Paragraph 00:00:56.000 --> 00:00:59.000 คุณจะพูดว่า "โอเค แล้วคุณทราบที่อยู่บ้านของคุณได้ยังไง?" NOTE Paragraph 00:00:59.000 --> 00:01:02.000 เขาพูดว่า "ง่ายๆ นี่คือตำบลที่แปด 00:01:02.000 --> 00:01:05.000 ช่วงตึกที่ 17 บ้านเลขที่ 1" NOTE Paragraph 00:01:05.000 --> 00:01:07.000 คุณพูดว่า "โอเค แต่เดินไปรอบๆนี้ 00:01:07.000 --> 00:01:09.000 ผมสังเกตว่า บ้านเลขที่ มันไม่เรียงลำดับเลย" NOTE Paragraph 00:01:09.000 --> 00:01:12.000 เขาตอบว่า "เรียงสิ เรียงตามลำดับปีสร้างของบ้าน 00:01:12.000 --> 00:01:15.000 บ้านที่สร้างหลังแรก ก็เป็นบ้านเลขที่ 1 00:01:15.000 --> 00:01:18.000 บ้านสร้างหลังที่ 2 ก็เลขที่ 2 00:01:18.000 --> 00:01:20.000 หลังที่ 3 เลขที่ 3 ง่ายๆ ออกจะชัดเจน" NOTE Paragraph 00:01:20.000 --> 00:01:23.000 ผมเลยชอบมาก ที่บางครั้งเราต้อง 00:01:23.000 --> 00:01:25.000 เดินทาง ไปอีกซีกโลกหนึ่ง 00:01:25.000 --> 00:01:27.000 เพื่อเรียนรู้สมมุติฐาน ที่เราไม่เคยแม้แต่จะคิด 00:01:27.000 --> 00:01:30.000 และตระหนักว่า สมมุติฐานตรงข้ามนั้น อาจจะจริงก็ได้ NOTE Paragraph 00:01:30.000 --> 00:01:32.000 ตัวอย่างเช่น มีหมอในจีน 00:01:32.000 --> 00:01:35.000 ที่เชื่อว่า อาชีพของพวกเขา คือคอยดูแล ให้คุณแข็งแรง 00:01:35.000 --> 00:01:37.000 ดังนั้น ถ้าเดือนไหน คุณแข็งแรง คุณก็จ่ายพวกเขา 00:01:37.000 --> 00:01:39.000 และพอคุณป่วย คุณก็ไม่ต้องจ่ายพวกเขา เพราะพวกเขาล้มเหลว 00:01:39.000 --> 00:01:41.000 ในหน้าที่ พวกเขารวยได้ เพราะเราแข็งแรง ไม่ใช่ป่วย 00:01:41.000 --> 00:01:44.000 (ปรบมือ) NOTE Paragraph 00:01:44.000 --> 00:01:46.000 ในดนตรีส่วนมาก เราคิดถึง "หนึ่ง" 00:01:46.000 --> 00:01:50.000 ว่าเป็น จังหวะตก เป็นจุดเริ่มต้นของวรรคดนตรี หนึ่ง สอง สาม สี่ 00:01:50.000 --> 00:01:52.000 แต่ในดนตรีแอฟริกาตะวันตกนั้น "หนึ่ง" 00:01:52.000 --> 00:01:54.000 เป็นจุดสุดท้าย ของวรรคดนตรี 00:01:54.000 --> 00:01:56.000 เหมือนกับเครื่องหมายจุด ที่ใช้จบประโยค 00:01:56.000 --> 00:01:58.000 คุณได้ยินมัน ไม่เพียงเวลาแบ่งวรรคดนตรี แต่วิธีนับจังหวะดนตรีด้วย 00:01:58.000 --> 00:02:01.000 สอง สาม สี่ หนึ่ง NOTE Paragraph 00:02:01.000 --> 00:02:04.000 และแผนที่นี้ ก็ถูกต้องแล้วด้วย 00:02:04.000 --> 00:02:06.000 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:02:06.000 --> 00:02:09.000 มีคนพูดไว้ว่า อะไรก็ตาม ที่เป็นจริงเกี่ยวกับอินเดีย 00:02:09.000 --> 00:02:11.000 ตรงกันข้าม ก็เป็นจริงเหมือนกัน 00:02:11.000 --> 00:02:13.000 ดังนั้น พวกเราไม่ควรลืม ไม่ว่าที่ TED หรือที่ใดอื่น 00:02:13.000 --> 00:02:16.000 ว่าความคิดที่ยอดเยี่ยมอะไรก็ตาม ที่คุณมี หรือได้ยินมา 00:02:16.000 --> 00:02:18.000 สิ่งตรงข้าม ก็อาจเป็นจริงได้เช่นกัน 00:02:18.000 --> 00:02:20.000 ขอบคุณมากๆครับ (ภาษาญี่ปุ่น)