WEBVTT 00:00:15.531 --> 00:00:19.163 ใครๆ คงนึกภาพออกว่าเมื่อ 400 ปีก่อน 00:00:19.163 --> 00:00:21.997 การเดินเรือในมหาสมุทรเป็นเรื่องยากลำบาก 00:00:21.997 --> 00:00:25.713 ทั้งลมทั้งคลื่นคือตัวการทำให้เรือแล่นออกนอกเส้นทาง 00:00:25.713 --> 00:00:29.514 ชาวเรือจึงต้องอาศัยท่าเรือที่ออกเดินทาง ในการกำหนดทิศทาง 00:00:29.514 --> 00:00:35.080 พยายามคงความแม่นยำในการบันทึก ทิศทางและตำแหน่งของเรือในมหาสมุทร 00:00:35.080 --> 00:00:38.380 ด้วยวิธีที่เรียกว่า การเดินเรือรายงาน (Dead Reckoning) 00:00:38.380 --> 00:00:46.665 เพราะถ้าทิศคลาดเคลื่อนไปเพียงครึ่งองศา เรือก็จะแล่นเลยเกาะตรงเส้นขอบฟ้าไปหลายไมล์ 00:00:46.665 --> 00:00:49.780 มันเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ 00:00:49.780 --> 00:00:53.497 ต้องขอบคุณ การคิดค้น 3 อย่าง ที่ทำให้การเดินเรือสมัยใหม่ถือกำเนิดขึ้น 00:00:53.497 --> 00:01:00.863 เครื่องวัดแดด นาฬิกา และคณิตศาสตร์ ที่ช่วยให้การคำนวณเร็วและง่ายขึ้น 00:01:00.863 --> 00:01:08.414 ทั้งหมดนั้นสำคัญ ถ้าไม่มีอุปกรณ์ที่จำเป็น กะลาสีคงลังเลที่จะแล่นออกจากฝั่งไปไกลๆ 00:01:08.414 --> 00:01:11.365 จอห์น เบิร์ด นักประดิษฐ์จากลอนดอน 00:01:11.365 --> 00:01:16.830 เป็นคนแรกที่ประดิษฐ์เครื่องมือที่วัดมุมระหว่าง ดวงอาทิตย์และเส้นขอบฟ้าในเวลากลางวัน 00:01:16.830 --> 00:01:19.230 ที่เรียกว่า เครื่องวัดแดด (sextant) 00:01:19.230 --> 00:01:26.230 มุมที่วัดได้นั้นสำคัญ เพราะทำให้เราสามารถ เทียบกับมุมที่วัดได้ที่อังกฤษในเวลาเดียวกัน 00:01:26.230 --> 00:01:31.947 การเปรียบเทียบมุมทั้งสองนี้จำเป็นสำหรับการ หาพิกัดเส้นแวง (longitude) ของเรือ 00:01:31.947 --> 00:01:33.515 นาฬิกาถูกคิดค้นขึ้นเป็นลำดับถัดมา 00:01:33.515 --> 00:01:38.497 ในปี 1761 จอห์น แฮร์ริสัน (John Harrison) ช่างนาฬิกาและช่างไม้ ชาวอังกฤษ 00:01:38.497 --> 00:01:41.980 ได้ประดิษฐ์นาฬิกาที่ยังคงเดินได้อย่างเที่ยงตรง แม้จะอยู่กลางทะเล 00:01:41.980 --> 00:01:48.480 นาฬิกาที่สามารถบอกเวลาได้เที่ยงตรง แม้ในขณะอยู่บนเรือที่โคลงเคลงไปมานั้น 00:01:48.480 --> 00:01:52.796 จำเป็นเพราะเราต้องรู้เวลาที่อังกฤษ 00:01:52.796 --> 00:01:54.880 แต่มีข้อเสียอยู่อย่างก็คือ 00:01:54.880 --> 00:01:58.714 เพราะนาฬิกาที่ว่านี้เป็นงานที่ทำด้วยมือ ดังนั้นมันจึงแพงมาก 00:01:58.714 --> 00:02:05.380 จึงมีวิธีทางเลือก โดยการวัดมุมดวงจันทร์ และสูตรคำนวนต่างๆ เพื่อเป็นการประหยัดเงิน 00:02:05.380 --> 00:02:10.848 การคำนวนหาตำแหน่งของเรือแต่ละครั้ง อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง 00:02:10.848 --> 00:02:17.713 เครื่องวัดแดดและนาฬิกาจะไร้ประโยชน์ ถ้านักเดินเรือไม่สามารถใช้มันหาตำแหน่งเรือได้ 00:02:17.713 --> 00:02:24.163 โชคดีที่ในช่วงศตวรรษที่ 17 สิ่งที่ยังขาดอยู่นี้ ได้ถูกคิดขึ้นโดยนักคณิตศาสตร์สมัครเล่น 00:02:24.163 --> 00:02:32.947 จอห์น เนเปียใช้เวลากว่า 20 ปี คิดค้นสิ่งที่เรียกว่าลอการิทึม ซึ่งช่วยในการคำนวณ 00:02:32.947 --> 00:02:41.430 แนวคิดเกี่ยวกับลอการิทึม อยู่ในรูปของ 1ส่วน อี(e) และ ค่าคงที่ 10 ยกกำลัง 7 00:02:41.430 --> 00:02:45.432 พีชคณิตในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 นั้นยังไม่สมบูรณ์ดีนัก 00:02:45.432 --> 00:02:49.130 และสำหรับเนเปีย ลอการิทึมของ 1 นั้นไม่ได้เท่ากับ 0 00:02:49.130 --> 00:02:55.080 ซึ่งมันทำมันให้ยุ่งยากกว่าการใช้ ลอการิทึมฐาน 10 00:02:55.080 --> 00:02:59.547 เฮนรี่ บริกส์ นักคณิตศาสตร์ชื่อดังจาก มหาวิทยาลัยเกรชัมในกรุงลอนดอน 00:02:59.547 --> 00:03:07.614 ได้อ่านผลงานของเนเปียในปี 1614 และปีถัดมา ได้ดั้นด้นไปเมืองเอดินบะระเพื่อไปพบเขา 00:03:07.614 --> 00:03:11.065 บริกส์ ไปปรากฏตัวโดยไม่บอกกล่าว ที่หน้าประตูปราสาทของเนเปีย 00:03:11.065 --> 00:03:18.413 และแนะนำให้เนเปียเปลี่ยนเลขฐานและสัญลักษณ์ ลอการิทึมให้เป็นอะไรที่เรียบง่ายกว่าเดิม 00:03:18.413 --> 00:03:23.231 ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าถ้าลอการิทึม 1 ฐาน 10 นั้นเท่ากับ 0 00:03:23.231 --> 00:03:26.431 จะทำให้การคำนวณต่างๆ นั้นง่ายขึ้นมาก 00:03:26.431 --> 00:03:30.797 ซึ่งทุกวันนี้รู้จักกันในชื่อ ลอการิทึม สามัญของบริกส์ 00:03:30.797 --> 00:03:35.098 กว่าที่จะมีการประดิษฐ์เครื่องคิดเลข ในศตวรรษที่ 20 00:03:35.098 --> 00:03:44.017 การคำนวณใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น คูณ หาร ยกกำลัง การถอดราก จะตัวเลขมากหรือน้อยก็ตาม 00:03:44.017 --> 00:03:46.730 ถูกทำโดยอาศัยลอการิทึม 00:03:46.730 --> 00:03:49.140 ประวัติของลอการิทึมไม่ใช่เป็นเพียง บทเรียนหนึ่งในวิชาคณิต 00:03:50.181 --> 00:03:54.380 มีผู้คนมากมายที่มีส่วนในความสำเร็จ ของศาสตร์การเดินเรือ 00:03:54.380 --> 00:03:57.913 นักประดิษฐ์ นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ 00:03:57.913 --> 00:03:59.981 และที่ขาดไม่ได้ ก็คือ นักเดินเรือ 00:03:59.981 --> 00:04:04.098 ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดจากแค่การเจาะลึก ลงไปในศาสตร์แขนงใดแขนงหนึ่งเท่านั้น 00:04:04.098 --> 00:04:08.563 แต่มันยังเกี่ยวกับการผสมผสานกัน ระหว่างศาสตร์แขนงต่างๆ เข้าด้วยกัน