คิดว่าตัวเองเป็นทาสแมวกันแล้วใช่ไหมคะ บอกเลยว่าสู้ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้แน่ ๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ที่กำลังฟังวิวอยู่นะคะ น่าจะเป็นทาสแมวกันใช่ไหมคะ แล้วก็รู้สึกว่าเฮ้ย ฉันยังเป็นทาสของแมว แมวมันบงการชีวิตฉันอะไรต่าง ๆ ฉันพ่ายแพ้ให้กับแมว ทั้งชีวิตของฉันยกให้แมวไปแล้ว แต่บอกเลยนะคะทุกคน ไม่ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสแมวแค่ไหนก็ตาม จะต้องตื่นมาปรนนิบัตินายแต่เช้า โดนปลุกโดนอะไรต่าง ๆ คุณสู้ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะว่าในสมัยอียิปต์โบราณเนี่ยนะคะ บอกเลยว่าเขาเป็นทาสแมวถึงขนาดที่ว่า ราชวงศ์เนี่ยล่มสลายกันเลยทีเดียวนะคะ ดังนั้นวันนี้วิวเก็บรวบรวมความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ มาเล่าให้ทุกคนฟังแล้วค่ะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันดีกว่าค่ะ ป่ะ ไปกันเลย พูดถึงแมวเนี่ยนะคะ เชื่อว่าหลายคนเข้าใจว่าแมวเนี่ย เพิ่งจะมาเป็นสัตว์เลี้ยงให้กับมนุษย์ได้ไม่นานใช่ไหมคะ แต่จริง ๆ แล้วแมวเนี่ยนะคะ เป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ มานานแสนนาน นานมาก ๆ แล้วค่ะ อาจจะนานเกือบจะเท่าหมาเลยทีเดียวนะคะ ถามว่าทำไม เพราะว่าในสมัยก่อนค่ะ ตอนที่มนุษย์เนี่ย เกิดการปฏิวัติเกษตรกรรมนะคะ เริ่มเพาะปลูกอะไรต่าง ๆ มนุษย์ก็จะต้องมียุ้งฉางใช่ไหมคะ สำหรับเก็บพืชพรรณธัญญาหารอะไรต่าง ๆ และแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาจากการที่ เก็บพืชพรรณธัญญาหารไว้รวมกันก็คือ ยังไม่ใช่แมวค่ะ สิ่งนั้นก็คือพวกสัตว์ฟันแทะต่าง ๆ นะคะ โดยเฉพาะหนูค่ะ แน่นอนว่าเอาข้าวมากองรวมกันไว้เยอะ ๆ หนูมันก็จะต้องเข้ามาใช่ไหมคะ ดังนั้นสิ่งนึงเนี่ยก็ตามหนูเข้ามาค่ะ นั่นก็คือ พวกแมวป่านั่นเองนะคะ พวกแมวซึ่งเป็นศัตรูตามธรรมชาติของหนูเนี่ย ก็มีการเข้ามาจับหนูอะไรต่าง ๆ ในยุ้งฉาง ซึ่งทำให้นักประวัติศาสตร์เนี่ยนะคะสันนิษฐานว่า คนสมัยโบราณน่าจะเรียนรู้จากสิ่งนี้แหละค่ะว่า อ๋อ ถ้าเราเลี้ยงแมวป่าไว้นะ แมวป่าก็จะมาจับหนูกิน เราก็จะไม่มีศัตรูพืชอะไรต่าง ๆ ยุ้งฉางของเราก็จะปลอดภัย ดังนั้นเขาก็เลยคาดกันว่า มนุษย์เนี่ยก็เลยเริ่มเลี้ยงแมวมาตั้งแต่สมัยนั้นนะคะ แล้วก็เลี้ยงมาเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ถามว่าวิวัฒนาการแมวมาพีคช่วงไหนนะคะ ก็ต้องบอกว่า มาพีคในสมัยอียิปต์โบราณค่ะ เพราะว่าในสมัยอียิปต์โบราณเนี่ย มีการเลี้ยงแมวกันอย่างกว้างขวางนะคะ และนอกจากการเลี้ยงแมวแล้วเนี่ย ชาวอียิปต์โบราณยัง... บูชาแมวอีกด้วยค่ะ ถามว่าทำไมต้องบูชาแมว เราฟังดราม่าระดับเทพกันมาค่อนข้างจะหลายตอนแล้วนะคะ เราจะรู้กันว่าของเทพของอียิปต์เนี่ยมีหลากหลายแบบนะ มีทั้งที่หน้าตาเป็นมนุษย์ แล้วก็ทั้งที่หน้าตาเป็นสัตว์ต่าง ๆ เช่น เทพอนูบิสก็มีหน้าเป็นหมา อะไรนู่นนี่นั่นนะคะ แต่ว่าในอียิปต์โบราณค่ะ มันมีเทพอยู่กลุ่มนึงนะคะ ที่หน้าของเขาเนี่ยจะเป็นสิงห์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทพที่เป็นผู้ชายหรือว่าเทพีที่เป็นผู้หญิงนะคะ และในบรรดาเทพที่หน้าเป็นสิงห์ทั้งหมดเนี่ย มีเทพีอยู่องค์นึงค่ะ ชื่อว่า บาสเตต (Bastet) เนี่ยนะคะ แต่เดิมเนี่ย เทพีองค์นี้นะคะ มีหน้าเป็นสิงห์ค่ะ แต่ว่าหลังจากที่เวลาผ่านพ้นไปนะคะ ต้องบอกว่าระยะเวลาของอารยธรรมอียิปต์นี่ ไม่ได้สั้นเลยนะ ยาวมาก ไปฟังได้จากคลิปประวัติศาสตร์โลกหนึ่งล้านปีของวิวนะคะ จะเห็นว่าอารยธรรมอียิปต์นี่อยู่มานานมากค่ะ ดังนั้นในยุคสมัยแรก ๆ เนี่ยเขาอาจจะเชื่อว่า บาสเตตเนี่ยหน้าตาเป็นสิงโต แต่พอยุคสมัยหลัง ๆ เนี่ยนะคะ เขาเปลี่ยนค่ะ เขาเปลี่ยนความเชื่อไปว่า บาสเตตเนี่ยหน้าตาเป็นแมวค่ะ ดังนั้นชาวอียิปต์นะคะก็เลย บูชาแมวกันอย่างกว้างขวางค่ะ นอกจากเลี้ยงแล้วก็บูชาด้วยนะ ถามว่าบูชากันถึงเลเวลไหนนะคะ ต้องบอกว่าบาสเตตนี่เป็นเทพีองค์ค่อนข้างจะสำคัญเพราะว่า มีความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับการดูแล ผู้หญิงคลอดลูกอะไรประมาณอย่างนี้นะ เรียกได้ว่าบาสเตตเนี่ยค่อนข้างจะเป็น เทพีสามัญประจำบ้านของอียิปต์เลยนะคะ คือทุกบ้านบูชากันหมดค่ะ องค์อื่นบูชาบ้าง ไม่บูชาบ้าง รวมไปถึงนะคะ มีความเชื่อว่าบาสเตตเนี่ย เป็นดวงตาแห่งมหาเทพรานะคะ ซึ่งเป็นแบบสุริยเทพอะ เป็นเทพที่สำคัญมาก ๆ ของอียิปต์นะคะ ดังนั้นบาสเตตนี่ได้รับความนิยมมาก ๆ ถึงขนาดที่ว่าทุกบ้านก็จะบูชาบาสเตตกัน รวมถึงจะมีพิธีบูชาบาสเตตกันแบบ ยิ่งใหญ่ ปิดเมืองบูชากันเลยนะคะ ถามว่าทั้งหมดนี้ส่งผลอะไร ก็ส่งผลให้ แมวเนี่ยกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์ค่ะ ถึงขนาดที่ว่าในบางยุคสมัยเนี่ยนะคะ มีกฎหมายที่ว่า ถ้าสมมติว่าใครฆ่าแมวเนี่ยนะคะ มีความผิดถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้นแปลว่า แมวตาย คุณต้องตายตามแมวนะคะ นอกจากนี้ค่ะ สมมติว่าเกิดเลี้ยงแมวไว้แล้ว แมวตายตามธรรมชาติจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องบอกว่าคนในบ้านนั้น ๆ นะคะ ก็จะเสียใจมาก ๆ ที่แมวตายค่ะ ถึงขนาดที่ว่าจะต้องโกนขนคิ้วตัวเองทิ้งนะคะ นอกจากนี้ก็ยังมีการทำมัมมี่แมวขึ้นมาอีก คือประมาณว่าแมวตายแล้วก็ต้อง เอาแมวไปทำมัมมี่นะคะ เหมือนกับมนุษย์เลยทีเดียว มีความเชื่อเรื่องหลังความตายของแมวอะไรต่าง ๆ และเท่านั้นยังไม่พอค่ะ บางครั้งมัมมี่แมวเนี่ยก็ถือว่าเป็น ของบูชาเทพีบาสเตตด้วยนะคะ เรียกได้ว่ามีการค้นพบแหล่งโบราณคดีของเทพีบาสเตตกัน แล้วเขาค้นพบว่าในนั้นมีมัมมี่แมวนะคะอยู่ถึง 900 ตัวเลยทีเดียว ก็ อันนี้เท่าที่เจอนะ ไม่นับที่ไม่เจอนะคะ ดังนั้นต้องบอกว่าการบูชาแมวกว้างขวางมากจริง ๆ ค่ะ แล้วถามว่าทั้งหมดนี้ส่งผลอะไรต่อชนชาติอียิปต์ ส่งผลอะไรต่ออารยธรรมอียิปต์ ทำไมอียิปต์ถึงบูชาแมวจนกระทั่งแบบว่า โดนตีแตกล่มสลายไปแบบที่วิวบอกนะคะ อันนี้คือเรื่องราวในประวัติศาสตร์จริง ๆ ไม่ใช่ดราม่าระดับเทพนะคะทุกคน ซึ่งมีนักปราชญ์ชาวมาซิโดเนียบันทึกเอาไว้นะคะ ดังนั้นจะบอกว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตามประวัติศาสตร์จริง ๆ ก็กึ่ง ๆ ค่ะประมาณว่า เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เทพนิยายอะ เป็นเรื่องที่บันทึกว่าเกิดในประวัติศาสตร์จริง ๆ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องราวตามที่คนบันทึก ดังนั้นคนที่บันทึกเนี่ย จะบันทึกถูก บันทึกผิด นั่นอีกเรื่องนึงนะ ก็ถือว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชั้นทุติยภูมินะคะ ไม่ใช่ปฐมภูมิ ถามว่าเขาบันทึกเหตุการณ์อะไรไว้นะคะ เขาบันทึกเหตุการณ์ ๆ นึงไว้ค่ะ เมื่อ 525 ปีก่อนคริสต์ศักราชนะคะ อะ มาค.ศ. เป๊ะขนาดนี้แปลว่า เป็นเรื่องในประวัติศาสตร์เนอะ ตอนนั้นเนี่ยนะคะ เกิดเหตุการณ์ที่เปอร์เซียค่ะ กำลังพยายามจะมายึดอียิปต์นะคะ ต้องการจะตีอียิปต์ ตอนนั้นเปอร์เซียกำลังแผ่ขยายอำนาจอยู่นะคะ จำได้ไหม จากคลิปประวัติศาสตร์ล้านปีเนอะ ทีนี้ถามว่าพอจะไปยึดเขาเนี่ย มันไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาแล้วก็รบ ๆ กัน เพราะว่ามันก็ต้องมีชุมชนหลากหลายในโลกใช่ไหม การจะเป็นทรราช ลุกขึ้นมาแล้วแบบ ฉันจะยึดทุกคน มันก็ไม่ใช่เรื่องไหม มันจะต้องมีการหาเรื่องกันก่อนค่ะ ถามว่าเปอร์เซียไปหาเรื่องอียิปต์ยังไงนะคะ ต้องบอกว่าในสมัยนั้นเนี่ย อียิปต์ก็ไม่ได้กระจอกนะคะ เพราะว่าในสมัยนั้นเป็นสมัยของฟาโรห์อาโมสที่ 2 ค่ะ แห่งราชวงศ์ที่ 26 ของอียิปต์นะคะ ก็ อียิปต์บางทีเขาก็ไม่ได้มีชื่อราชวงศ์นะ สมัยหลังเราก็เลยมาตั้งเป็นตัวเลขให้ ในสมัยราชวงศ์ที่ 26 เนี่ยนะคะ มีฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่ชื่อฟาโรห์อาโมสค่ะ ทีนี้ตอนนั้นเนี่ยนะคะ กษัตริย์เปอร์เซียที่ชื่อว่า แคมไบซิสที่ 2 เนี่ยนะคะ ต้องการจะตีอียิปต์มาก ๆ ค่ะ ก็เลยหาเรื่องโดยการเขียนจดหมายไปหา ฟาโรห์อาโมสนะคะบอกว่า ฮัลโหล อาโมส ฉันเองกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย ฉันเนี่ยนะอยากสร้างสัมพันธไมตรีอันดี ระหว่างเราสองประเทศ ฉันขอลูกสาวนายได้ไหม เอามาเป็นเมียฉัน มาเป็นราชินีแห่งเปอร์เซีย เราจะได้ผูกสัมพันธ์กัน อะ ก็ฟังดูดีใช่ไหมคะ แต่ถ้าใครอ่านวรรณคดีไทย อ่านนิยายกำลังภายในอะไรบ่อย ๆ จะรู้ว่าการขอลูกสาวเนี่ย ค่อนข้างจะเป็นการหาเรื่องค่ะ คือขอได้ดีก็ดีไป ก็ถือว่าเกี่ยวดองกัน ไม่ต้องรบกัน แต่ถ้าขอไม่ได้แปลว่า ต้องรบกันใช่ไหมคะ ทีนี้ค่ะ ฟาโรห์อาโมสที่ 2 ก็รู้สึกว่า เอ้ ฉันก็ไม่ได้อยากรบขนาดนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากยกลูกสาวฉันให้ เพราะว่าในอียิปต์เนี่ยนะคะ มันมีความเชื่ออยู่ข้อนึงค่ะ ประมาณว่าเราจะไม่มีการส่งเจ้าหญิงอียิปต์ ไปให้พระราชาต่างประเทศ เพราะว่า จะถือเป็นการดูถูกผู้หญิงคนนั้น แบบอียิปต์มีธรรมเนียมที่ค่อนข้างจะแต่งงานกันเอง ร่วมสายเลือดอะไรต่าง ๆ นะคะ ประมาณว่าแบบฉันเป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ ฉันจะไม่ส่งลูกสาวตัวเองไปให้ ไทยต่างด้าว ท้าวต่างแดน อะไรประมาณนี้นะคะ ดังนั้นฟาโรห์อาโมสที่ 2 ก็เลยจัดการย้อมแมวนะคะด้วยการ หาเจ้าหญิงที่แบบไม่สำคัญในวังอะ ประมาณว่าเป็นลูกของพระราชาองค์ก่อนอะไรอย่างนี้ ที่ไม่ใช่ลูกตัวเองนะคะ แล้วก็ส่งไปให้แคมไบซิสที่ 2 นะคะ ที่เปอร์เซียค่ะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนะคะคือ อาโมสลืมคิดไปค่ะว่า การกระทำนี้ทำให้ลูกสาวตัวเองรอดก็จริง แต่มันเป็นการดูหมิ่นเจ้าหญิงองค์นั้นค่ะ ดังนั้นพอเจ้าหญิงองค์นั้นเดินทางไปถึงเปอร์เซียนะคะ นางก็เลยเปิดเผยตัวค่ะประมาณว่า ทุกคน หยุด ฉันเนี่ยไม่ใช่ลูกของอาโมสตัวจริงหรอกนะ ฉันเป็นแค่เจ้าหญิงโนเนมคนนึงที่โดนย้อมแมวส่งมา เอาสิ แต่งงานกับฉันสิ ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับพวกแกหรอกนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าพอเปิดเผยตัวแบบนี้ออกมาแล้วเนี่ย แคมไบซิสที่ 2 นะคะก็ต้องรู้สึกว่า อ้าว นี่มันดูถูกฉันนี่หว่า ฉันขอลูกสาวแก แกส่งอะไรมาให้ ส่งเจ้าหญิงปลายแถวมาให้ ดังนั้นเนี่ยนะคะ แคมไบซิสที่ 2 ก็เลยถือโอกาสนี้ กรีฑาทัพค่ะ ไปที่อียิปต์นะคะ เพื่อจะไปรบกับอียิปต์นะคะกะว่า เสร็จแน่แก ฉันจะต้องยึดอียิปต์ให้ได้ในวันนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขากำลัง แบบว่ามีการส่งเจ้าสาวอะไรต่าง ๆ กัน มีการกรีฑาทัพอะไรต่าง ๆ กันเนี่ยนะคะ ก็คือ ฟาโรห์อาโมสที่ 2 ค่ะ ชิงตายไปเสียก่อนนะคะ ก็ตายไปซะอย่างนั้นเลย ทำให้เจ้าชาย Psamtik ที่ 3 เนี่ยนะคะ ซึ่งวิวก็ไม่รู้ว่าออกเสียงชื่อยังไงนะ ชื่อประมาณอย่างนี้เนี่ยนะคะ ซึ่งเป็นลูกชายของฟาโรห์อาโมสเนี่ย ก็เลยต้องขึ้นมาเป็นฟาโรห์แทนค่ะ หลังจากนี้เราจะเรียกเขาว่าฟาโรห์เฉย ๆ เนอะ เพราะว่าวิวไม่สามารถออกเสียงชื่อเขาได้จริง ๆ นะคะ ก็ฟาโรห์องค์ใหม่ที่เป็นฟาโรห์หนุ่มเนี่ย ก็ขึ้นมาปกครองแทนค่ะ แล้วก็รู้สึกว่า อ้าว นี่คืออะไร ฉันจะต้องมารับศึกทันทีที่ฉันขึ้นปกครองเลยเหรอ ซึ่งเอาจริง ๆ สมัยก่อนการรบกันมันก็ไม่ใช่ว่า วันนี้บอกว่าจะรบกันแล้วก็รบกันได้เลยในวันรุ่งขึ้นนะคะ มันก็ต้องมีการเกณฑ์ไพร่พลอะไรต่าง ๆ เนอะ ดังนั้นเมื่อฟาโรห์องค์ใหม่ปกครองได้ทั้งหมด 6 เดือนด้วยกันนะคะ ก็ต้องเตรียมรับศึกจากเปอร์เซียค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นศึกใหญ่พอสมควร แล้วทีนี้ถามว่าฟาโรห์องค์นี้ทำยังไงนะคะ เขาก็รู้สึกว่า โอเค เขาเป็นมือใหม่แหละ แต่เขาก็จะพยายามให้ดีที่สุด เขาจะพยายามปกป้องบ้านเมืองอียิปต์ของเขาไว้นะคะ คือก็จะพยายามยื้อให้ได้นานที่สุดเพื่อที่จะรอให้ กรีกซึ่งตอนนั้นเป็นพันธมิตรกัน ส่งกองทัพมาช่วยนะคะ แต่อย่างไรก็ตามค่ะ ด้วยความเกรียงไกรของเปอร์เซีย ด้วยความไม่เชื่อถือหรืออะไรต่าง ๆ ปรากฏว่ากรีกเนี่ยนะคะ เทค่ะ กรีกบอกว่า ไม่เอา เรื่องของแก แกก็ไปจัดการกันเองสิ ฉันไม่ช่วยนะคะ นอกจากนี้ค่ะ ไม่ใช่แค่กรีกนะคะที่เท ที่เทไปอีกก็คือ ที่ปรึกษาของพ่อค่ะ อดีตที่ปรึกษาคนสำคัญของพ่อก็เทไปเหมือนกัน หนีไปอยู่กับเปอร์เซียซะอย่างนั้นเลย ทิ้งให้ฟาโรห์หนุ่มของเราเนี่ย จะต้องรับศึกด้วยตัวเองนะคะ แต่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีใครช่วยไม่เป็นไร ฉันก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ฉันจะพยายามรับศึก และทำให้อียิปต์ของเราปลอดภัยนะคะ ดังนั้นฟาโรห์คนใหม่ก็จัดการกรีฑาทัพไปอยู่ที่นึงค่ะ แล้วก็จัดการเข้าไปอยู่ในป้อมปราการอะไรต่าง ๆ เรียกได้ว่าป้อมปราการเนี่ยแข็งแกร่งมาก ๆ กะว่าฉันยื้อได้นานแน่นอนนะคะ แล้วเขาก็ป้องกันป้อมปราการนั้นอยู่อย่างแข็งแกร่งมาก ๆ ค่ะ โดยมีอาวุธสำคัญนะคะก็คือ ธนูค่ะ ก็คือให้ทหารยืนเรียงกันอยู่บนป้อมนะคะ ใครเข้ามาใกล้ก็ยิงทิ้งไปเลยจ้า ประมาณนั้นนะคะ แน่นอนค่ะ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เปอร์เซียยกทัพมาค่ะ เปอร์เซียก็ยกทัพมาปะทะกับอียิปต์นะคะ และต้องบอกว่าวิธีของฟาโรห์หนุ่มค่อนข้างจะได้ผลค่ะ ดังนั้นชาวเปอร์เซียก็ตีป้อมนี้ไม่แตกซักทีนะคะ ปรากฏว่ากษัตริย์ของเปอร์เซียค่ะ ค่อนข้างจะฉลาดนะคะ เขามีประสบการณ์ด้านการรบค่อนข้างสูง แล้วก็รู้จักชาวอียิปต์ค่อนข้างดีค่ะ ดังนั้นพอเห็นว่า อะ ตีไม่แตก ไม่เป็นไร ฉันจะเปลี่ยนแผนนะคะ ถามว่าชาวเปอร์เซียทำยังไง วิธีที่ชาวเปอร์เซียใช้นะคะก็คือ ไปหาสัตว์มาเต็มไปหมดเลยค่ะ เรียกได้ว่า หามาได้กี่ชนิด เอามาให้หมดนะคะ แล้วถามว่าสัตว์เหล่านั้นมีอะไรบ้าง มีหมา มีแมว มีแกะ มีอะไรประมาณอย่างนี้นะคะ แล้วก็ปล่อยให้สัตว์จำนวนมากเหล่านี้ วิ่งนำหน้าทหารมาค่ะ นึกสภาพเวลาเขารบกัน ปกติถ้าเราเคยดูสามก๊กจะนึกออกใช่ป้ะ ที่แบบพวกทหารพลราบก็จะต้องวิ่งแถ่ด ๆ มาก่อน เพื่อที่จะหาเรื่องเอาบันไดเนี่ยพาดไปปีนป้อมใช่ไหม ส่วนทหารที่อยู่บนป้อมก็จะต้องยิงลงมา ยิง ๆ ๆ ที่ผ่านมาเนี่ย มันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ปรากฏว่าพอกษัตริย์เปอร์เซียเนี่ยนะคะ แทนที่จะให้ทหารราบวิ่งไปก่อน แต่ให้สัตว์เหล่านี้วิ่งไปก่อนเนี่ย ทำให้ชาวอียิปต์หยุดยิงค่ะ ชาวอียิปต์ที่แบบว่าถือลูกธนูอยู่เนี่ยนะ ทุกคนหยุดยิงแบบไม่มีใครกล้ายิง เลิ่กลั่ก มองกันแบบ จะยิงดีไหมอะแก ไม่เอาแก แกยิงก่อนสิ ฉันไม่กล้ายิง ถามว่าทำไม เพราะว่าสัตว์แต่ละชนิดที่กษัตริย์เปอร์เซียเลือกมาเนี่ยนะคะ เป็นตัวแทนเทพเจ้าของอียิปต์ทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นแมว ก็เป็นตัวแทนของเทพีบาสเตต หมาก็เป็นตัวแทนของอนูบิส แกะก็เป็นตัวแทนของเทพ เรียกได้ว่าสัตว์แต่ละชนิดที่เลือกมาเนี่ยนะคะ เป็นตัวแทนเทพทั้งนั้นเลย ดังนั้นชาวอียิปต์นะคะก็แบบไม่กล้ายิงไง พอไม่กล้ายิงเนี่ยนะคะ ทหารเปอร์เซียที่วิ่งตามมาก็เลยสามารถ ประชิดตัวพวกทหารอียิปต์ได้ในที่สุดค่ะ และพอประชิดตัวแล้วเนี่ย ถามว่าจบรึยัง อะ ก็ยังแบบสู้กันได้ ฟันกันช้งเช้ง ๆ อาจจะชนะก็ได้ใช่ไหมคะ บอกเลยว่าไม่ค่ะ เพราะว่าแผนของเปอร์เซียยังสูงกว่านั้นอีกนะคะ คือเปอร์เซียเนี่ยวาดรูปแมวเอาไว้ค่ะ ไว้บนเกราะของตัวเองนะคะ เกราะที่ถืออะ มือนึงถือเกราะ มือนึงถือดาบใช่ไหม ทุกคนมีรูปแมวอยู่หมดเลย ทีนี้นะคะพอออกไปรบกัน นึกสภาพชาวอียิปต์กำลังจะฟันชาวเปอร์เซีย ยกดาบขึ้นมาแบบ เฮ้ยแกตายซะเถอะ โอ๊ะ Oh My God นั่นมัน... บนโล่ของแกมีรูปแมวอยู่ ฉันนับถือแมว ฉันฟันไม่ได้ เดี๋ยวรูปแมวจะเป็นร่องรอยอะไรต่าง ๆ ดังนั้นสุดท้ายชาวอียิปต์ก็ไม่มีใครกล้าฟันชาวเปอร์เซียค่ะ เพราะว่าจะฟันทีไร ชาวเปอร์เซียก็เปิดรูปแมวให้ดู แฮ่ นี่รูปแมว กล้าฟันรึเปล่า อะไรอย่างนี้นะคะ สุดท้ายค่ะ ชาวอียิปต์ก็เลยทำอะไรไม่ถูกนะคะ ได้แต่ แตกกระจาย หนีกันไปหมดเลย ก็เลยกลายเป็นการสังหารหมู่ชาวอียิปต์ในวันนั้นนะคะ ทหารอียิปต์นี่เรียกว่าตายแบบไม่ได้สู้เลยว่าอย่างนั้นเถอะ สุดท้ายนะคะ ชาวเปอร์เซียก็เลยชนะศึกครั้งนั้นไปค่ะ แล้วก็จับฟาโรห์หนุ่มองค์นี้มาเป็นตัวประกันค่ะ สุดท้ายหลังจากที่เอามาจับเป็นตัวประกันซักพักนึง ฟาโรห์คนนี้ก็พยายามจะปฏิวัติอะไรขึ้นมาใหม่ ก็เลยโดนชาวเปอร์เซียฆ่าทิ้งไปค่ะ หลังจากเหตุการณ์นี้นะคะ ชาวอียิปต์ ต้องบอกว่าชาวอียิปต์จริง ๆ มีเมืองหลวงหลายเมืองนะ ชาวอียิปต์ก็หนีไปอยู่ที่เมืองหลวงอีกเมืองนึง ที่มีฟาโรห์อีกองค์นึงอะไรต่าง ๆ นะแต่ว่า ก็ทำให้ชาวเปอร์เซียเนี่ยไล่ตามตี ๆ ๆ จนสุดท้ายอียิปต์ก็เลยสิ้นสุดสมัยที่ปกครองตัวเองค่ะ ตกเป็นเมืองขึ้นของเปอร์เซีย นับตั้งแต่นั้นมานะคะ และต่อไปมันก็จะไปตกเป็น เมืองขึ้นของโรม ของอะไรต่อไป แต่ว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องราวของเราแล้วค่ะ นี่ก็คือเรื่องราวของทาสแมวอียิปต์นะคะ ที่ทำให้ชาวอียิปต์แพ้สงครามเปอร์เซียกระจุยกระจายค่ะ เป็นไงทุกคนที่เป็นทาสแมว ฟังเรื่องราวของชาวอียิปต์ไปแล้ว ยอมแพ้กันไหมคะ เอาเป็นว่าถ้าใครชอบเรื่องราวนี้นะคะ อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ เอาจริง ๆ เรื่องแมวกับประวัติศาสตร์เนี่ยนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจนะ มีแบบว่าคริสตจักรที่ประกาศสงครามกับแมว มีอะไรนู่นนี่นั่น เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นทาสแมวนะคะ คอมเมนต์มาด้านล่างได้แล้วเดี๋ยววิวจะพยายามหา เรื่องราวเกี่ยวกับแมวมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ