WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:05.249 (ระฆัง) 00:00:05.249 --> 00:00:19.051 (ระฆัง) 00:00:19.408 --> 00:00:24.983 ฉันจะสามารถอยู่กับปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อปัจจุบันนั้นทนได้ยาก 00:00:28.573 --> 00:00:32.234 เพราะว่าในหมู่บ้านพลัม เราจะพูดอยู่เสมอว่า 00:00:32.520 --> 00:00:35.864 ให้เราไม่จมอยู่กับอดีต หรือหลงไปกับอนาคต 00:00:36.241 --> 00:00:38.687 ให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน 00:00:39.736 --> 00:00:45.186 และคำถามนี้เกี่ยวกับว่า เราจะสามารถอยู่กับปัจจุบันได้อย่างไร 00:00:45.379 --> 00:00:50.599 เมื่อเรารู้สึกว่าปัจจุบันนั้นทนได้ยาก 00:00:50.884 --> 00:00:53.114 นี่เป็นคำถามที่ดี 00:00:53.249 --> 00:00:55.179 (หัวเราะ) 00:01:03.432 --> 00:01:07.672 ใครก็ตามที่รู้จักการฝึกอบรมสติ 00:01:08.811 --> 00:01:14.101 รู้ว่าเราจะต้องกลับบ้าน มาอยู่กับปัจจุบัน 00:01:15.964 --> 00:01:20.284 เมื่อเรากลับบ้าน มาอยู่กับปัจจุบัน เราจะเจอ 00:01:21.173 --> 00:01:25.173 สถานการณ์สองแบบ 00:01:25.745 --> 00:01:28.165 แบบแรกคือ 00:01:28.394 --> 00:01:32.364 มีปัจจัยของความสุขอยู่มากมาย 00:01:32.522 --> 00:01:35.782 ในปัจจุบันขณะ 00:01:39.161 --> 00:01:44.561 เมื่อเราหายใจเข้าและนำจิตกลับบ้าน มาอยู่ที่ร่างกาย 00:01:44.765 --> 00:01:48.765 เราจะดำรงอยู่กับปัจจุบันขณะ 00:01:50.176 --> 00:01:54.406 และเราจะพบว่า องค์ประกอบของ ความสดชื่นและการเยียวยา 00:01:54.593 --> 00:01:57.802 นั้นมีอยู่มากมายในปัจจุบันขณะ 00:01:57.802 --> 00:02:02.312 องค์ประกอบของความสุขก็มีอยู่มากมายเช่นกัน ในปัจจุบันขณะ 00:02:02.625 --> 00:02:05.645 และด้วยความตระหนักรู้นั้น 00:02:05.825 --> 00:02:10.395 เราจะสามารถสร้างความเบิกบานและ และความสุขได้อย่างง่ายดาย 00:02:10.885 --> 00:02:15.665 เราสามารถทำแบบนั้นได้เพื่อหล่อเลี้ยงตนเอง 00:02:15.935 --> 00:02:19.185 หล่อเลี้ยงตนเองด้วยความเบิกบานและความสุข 00:02:19.456 --> 00:02:27.996 นี่คือสถานการณ์แบบแรกที่เราจะเจอเมื่อ เรากลับมาสู่ปัจจุบันขณะ 00:02:28.428 --> 00:02:33.858 สถานการณ์แบบที่สอง คือ เมื่อเรากลับมาสู่ปัจจุบันขณะ 00:02:33.908 --> 00:02:37.908 เราอาจจะพบความรู้สึกเจ็บปวด 00:02:38.038 --> 00:02:42.038 ความรู้สึกที่เจ็บปวด 00:02:42.288 --> 00:02:46.288 ที่อยู่ในเรา 00:02:49.536 --> 00:02:53.986 ที่จริงแล้ว ความรู้สึกที่เจ็บปวด อารมณ์ที่เจ็บปวด 00:02:54.427 --> 00:02:58.427 นั้นปรากฏออกมาเรื่อยๆ 00:02:59.333 --> 00:03:05.893 แต่เวลาที่มันเริ่มปรากฏขึ้น เราไม่ต้องการที่จะอยู่ตรงนั้น 00:03:05.937 --> 00:03:09.937 เราจึงพยายามวิ่งหนี 00:03:11.269 --> 00:03:14.319 ทำเหมือนกับว่าความเจ็บปวดนั้น ไม่ได้มีอยู่ 00:03:14.319 --> 00:03:20.729 จึงไม่มีใครที่อยู่ตรงนั้น คอยดูแล ความรู้สึกและอารมณ์ที่เจ็บปวด 00:03:21.900 --> 00:03:28.170 การกลับมาสู่ปัจจุบันขณะในสถานการณ์นี้ จึงไม่ใช่เพื่อสำนึกรู้ 00:03:28.170 --> 00:03:31.640 ถึงองค์ประกอบของความสดชื่นและความสุข 00:03:31.640 --> 00:03:35.640 แต่เพื่อให้มีโอกาสได้ดูแล ความเจ็บปวดในตัวเรา 00:03:35.703 --> 00:03:39.223 และเปลี่ยนแปลงมัน 00:03:39.386 --> 00:03:43.386 ฉะนั้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันขณะ นั้นจะทนได้ยาก 00:03:43.548 --> 00:03:48.158 การกลับมาสู่ขณะนั้น เป็นโอกาสเดียวของเรา 00:03:48.579 --> 00:03:52.579 ที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อสงบระงับ ความเจ็บปวดนั้น 00:03:52.905 --> 00:03:56.905 และเปลี่ยนแปลงมัน 00:03:57.124 --> 00:04:00.144 คนส่วนใหญ่ไม่ทำแบบนั้น 00:04:00.185 --> 00:04:05.605 เพราะว่าพวกเขากลัวว่า เมื่อเขากลับมาอยู่กับตัวเอง 00:04:05.605 --> 00:04:08.295 และเข้าไปสู่ความเจ็บปวดภายใน 00:04:08.295 --> 00:04:11.545 เขาจะถูกความทุกข์ถาโถม 00:04:11.545 --> 00:04:15.545 พวกเขาจึงพยายามหลีกหนี 00:04:15.926 --> 00:04:20.246 คิดถึงเรื่องในอนาคตเพื่อลืม 00:04:20.686 --> 00:04:25.316 กลับไปในอดีตเพื่อลืม 00:04:30.810 --> 00:04:35.490 แต่ว่าอดีตและอนาคตนั้นเป็นเหมือนภาพ 00:04:35.844 --> 00:04:37.684 ไม่ใช่ความเป็นจริง 00:04:37.884 --> 00:04:41.884 มีแต่ปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เป็นความจริง 00:04:46.227 --> 00:04:51.127 หลายคนพยายามกลบเกลื่อน ความทุกข์ภายใน 00:04:53.686 --> 00:05:01.216 ไม่ใช่แค่โดยการกลับไปในอดีต หรือวิ่งไปสู่อนาคต 00:05:01.890 --> 00:05:07.890 นึกคิดว่ามันจะมีความหวังบางอย่าง 00:05:08.210 --> 00:05:11.260 การสิ้นสุดของความทุกข์ในอนาคต 00:05:11.415 --> 00:05:15.415 แต่ความคิดแบบนั้นก็ไม่สามารถจะอยู่ได้นาน 00:05:16.135 --> 00:05:22.615 หลายคนพยายามกลบเกลื่อนความทุกข์ภายใน 00:05:22.726 --> 00:05:26.726 โดยการบริโภค 00:05:27.831 --> 00:05:31.831 เราอ่านนิตยสาร ดูโทรทัศน์ 00:05:32.046 --> 00:05:35.486 เราหาของกิน 00:05:35.656 --> 00:05:38.738 เราฟังเพลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย 00:05:38.738 --> 00:05:46.108 ทุกอย่างที่เราทำ เราทำเพราะหวังว่า ถ้าทำสิ่งเหล่านั้นแล้ว 00:05:46.108 --> 00:05:51.288 เราจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ที่อยู่ ภายในตัวเรา 00:05:53.462 --> 00:05:58.352 และเรายอมให้ความเจ็บปวดนั้นเติบโตต่อไป ในตัวเรา 00:05:58.725 --> 00:06:04.525 การกลับมารู้สึกตัวจะช่วยให้เรากลับมา สู่ปัจจุบันขณะ 00:06:05.069 --> 00:06:08.669 ถึงแม้ว่าขณะนั้นจะไม่ได้น่ายินดี 00:06:08.732 --> 00:06:12.152 แต่ในขณะนั้นแหละ 00:06:12.285 --> 00:06:16.285 ที่เราจะสามารถเข้าใจความทุกข์ 00:06:16.436 --> 00:06:19.846 แล้วหาทางที่จะสงบระงับมัน 00:06:19.964 --> 00:06:22.914 และเปลี่ยนแปลงมัน 00:06:23.771 --> 00:06:30.011 เพราะฉะนั้น คราวหน้าถ้าเราพบว่า ปัจจุบันขณะนั้นไม่น่าอภิรมย์ 00:06:31.842 --> 00:06:36.482 อย่าคิดว่าการวิ่งหนีจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด 00:06:36.994 --> 00:06:40.814 ไม่หรอก มันอาจจะมีโอกาสอยู่ 00:06:41.009 --> 00:06:47.759 ฉะนั้น อยู่กับขณะนั้น มองเข้าไปอย่าง ลึกซึ้งถึงธรรมชาติของความทุกข์นั้น 00:06:47.932 --> 00:06:50.829 ถ้าเรารู้วิธีหายใจอย่างมีสติ 00:06:50.829 --> 00:06:52.909 หรือเดินอย่างมีสติ 00:06:52.991 --> 00:06:55.681 เราจะสร้างพลังงานแห่งสติ 00:06:55.742 --> 00:07:00.410 และพลังงานของสติที่เกิดจากการฝึกปฏิบัติ 00:07:00.410 --> 00:07:03.023 จะช่วยให้เราเข้มแข็งพอ 00:07:03.023 --> 00:07:10.096 ที่จะสำนึกรู้ และต้านทานความเจ็บปวด และโอบรับมันอย่างอ่อนโยน 00:07:10.446 --> 00:07:14.286 และการโอบรับความเจ็บปวดอย่าง อ่อนโยน 00:07:14.286 --> 00:07:18.286 ในไม่กี่นาที เราจะสามาถสงบมันลงได้ 00:07:19.182 --> 00:07:21.922 และ 00:07:23.462 --> 00:07:28.242 ถ้ามีผู้ฝึกปฏิบัติคนอื่นๆ อยู่กับเราด้วย 00:07:30.325 --> 00:07:34.615 เราจะได้รับประโยชน์จากพลังงานของสติ 00:07:34.654 --> 00:07:36.904 และความเห็นอกเห็นใจ 00:07:37.742 --> 00:07:40.922 การทำความรู้จักกับความทุกข์ 00:07:40.922 --> 00:07:45.902 นำมาซึ่งความเข้าใจในความทุกข์ 00:07:47.101 --> 00:07:48.411 และ 00:07:51.295 --> 00:07:56.785 พลังงานของความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ และความเห็นอกเห็นใจ 00:07:57.343 --> 00:07:59.873 มีพลังที่จะเยียวยา 00:07:59.964 --> 00:08:06.364 ที่จะเยียวยาเรา และผู้คนรอบข้างในขณะนั้น 00:08:07.233 --> 00:08:10.623 และถ้ามีกลุ่มผู้ฝึกปฏิบัติอยู่ด้วยกัน 00:08:10.623 --> 00:08:14.973 โอบรับความทุกข์อย่างอ่อนโยนไปด้วยกัน 00:08:14.973 --> 00:08:20.891 พวกเขาจะประสบกับกลุ่มพลังงานของ ความเห็นอกเห็นใจ ที่จะเยียวยาพวกเขา 00:08:22.255 --> 00:08:26.255 และเมื่อพวกเขาทุกข์น้อยลง พวกเขาจะอยู่ใน สถานะที่จะช่วยผู้อื่น 00:08:26.424 --> 00:08:29.194 ให้ทำแบบเดียวกันได้ 00:08:39.639 --> 00:08:45.659 มีพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง ชื่อ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ 00:08:51.776 --> 00:08:58.546 เขาปฏิญาณว่าจะไปยังที่ 00:08:58.546 --> 00:09:03.959 ที่มีความทุกข์เยอะ 00:09:04.365 --> 00:09:08.365 เพื่อจะได้มีโอกาสช่วยเหลือ 00:09:15.345 --> 00:09:22.605 มีหมอ พยาบาล และนักสังคมสงเคราะห์เป็น จำนวนมากที่ทำแบบเดียวกัน 00:09:22.624 --> 00:09:29.334 พวกเขาอาสาที่จะไปยังสถานที่ที่ มีความเจ็บปวดในโลก 00:09:29.777 --> 00:09:32.899 เพื่อที่จะช่วยผู้คน 00:09:32.899 --> 00:09:39.849 เพราะฉะนั้น พระกษิติครรภโพธิสัตว์นั้น มีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ความนึกคิด 00:09:40.807 --> 00:09:46.107 มีเด็กเล็กๆ ที่กำลังเป็น พระกษิติครรภโพธิสัตว์ 00:09:46.844 --> 00:09:49.164 พวกเขาไม่กลัวความทุกข์ 00:09:49.164 --> 00:09:53.164 เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถ ช่วยบรรเทาความทุกข์ 00:09:55.580 --> 00:10:03.650 พระกษิติครรภโพธิสัตว์มีแหล่งที่มาของ พลังงานที่แข็งแกร่ง 00:10:04.767 --> 00:10:08.767 นั่นคือความปราถนา 00:10:10.326 --> 00:10:14.326 การบำรุงหล่อเลี้ยงประเภทที่สาม ความปราถนา 00:10:15.215 --> 00:10:19.215 เรารู้ว่าเราอยู่ตรงนั้น มีชีวิตอยู่ 00:10:19.823 --> 00:10:23.303 และเราอยากจะทำอะไรบางอย่างในชีวิต 00:10:24.376 --> 00:10:28.376 เราอยากให้ชีวิตของเรามีประโยชน์ มีความหมาย 00:10:29.775 --> 00:10:34.475 เราจึงปฏิญาณอย่างแรงกล้า ว่าจะไปช่วยผู้คน ที่มีความทุกข์ 00:10:34.565 --> 00:10:42.275 เราจึงไม่กลัวสถานการณ์ที่มีความทุกข์ 00:10:45.269 --> 00:10:50.139 และ พระโพธิสัตว์เหล่านี้ ควรได้รับ การสนับสนุนจากพวกเรา 00:10:51.208 --> 00:10:58.358 เราสนับสนุนพวกเขาเพื่อไม่ให้พวกเขาสูญเสีย ความปราถนาหลังจากให้บริการเป็นปีๆ 00:10:59.558 --> 00:11:05.908 พวกเราต้องส่งพลังงานแห่งกำลังใจ ไปยังพวกเขา 00:11:13.026 --> 00:11:17.026 พวกเขาต้องการการบำรุงหล่อเลี้ยงและเยียวยา 00:11:17.026 --> 00:11:23.326 หกเดือนให้หลัง จากการทำงานในสถานการณ์ที่ ยากลำบาก พวกเขากลับบ้าน 00:11:24.186 --> 00:11:27.046 และพวกเขามีพวกเราคอยดูแล 00:11:27.046 --> 00:11:33.976 พยายามช่วยให้พวกเขาเยียวยา เพื่อให้พวกเขา ได้ออกไปอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งที่สาม 00:11:34.505 --> 00:11:38.505 พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ก็ต้องการ ความช่วยเหลือเช่นกัน 00:11:38.759 --> 00:11:42.979 เพราะฉะนั้น พวกเราจึงอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วย พระกษิติครรภโพธิสัตว์น้อย 00:11:42.979 --> 00:11:47.098 ให้ทำงานต่อไปได้ในโลก 00:11:49.246 --> 00:11:52.010 เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีความเห็นอกเห็นใจ 00:11:52.010 --> 00:11:56.660 ถ้าเราไม่รังเกียจการอยู่ในสถานการณ์ ที่ยากลำบากและประกอบไปด้วยความทุกข์ 00:11:57.478 --> 00:11:59.838 และถ้าเรามีความเห็นอกเห็นใจเพียงพอ 00:12:03.582 --> 00:12:10.612 เราจะถูกคุ้มครอง เราจะไม่ถูกถาโถมไปด้วย พลังงานรวม 00:12:10.953 --> 00:12:15.453 ของความทุกข์จากผู้คนรอบข้าง 00:12:17.154 --> 00:12:26.544 และ พระกษิติครรภโพธิสัตว์รู้ว่า พวกเขาต้องการสังฆะ 00:12:28.579 --> 00:12:33.399 เพื่อที่จะดำเนินงานต่อไปได้อีกนาน 00:12:37.989 --> 00:12:43.669 เพราะฉะนั้น การฝึกปฏิบัตินั้น ไม่ควร เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น 00:12:44.253 --> 00:12:47.983 การฝึกปฏิบัติควรเป็นของส่วนรวมด้วย 00:12:48.122 --> 00:12:53.542 เพราะฉะนั้น ให้พวกเราพยายามโน้มน้าวคนใน ครอบครัวมาร่วมฝึกปฏิบัติ 00:12:53.952 --> 00:13:00.142 วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้เปลี่ยนเป็น ผู้ที่เป็นมิตรมากขึ้นทุกๆ วัน 00:13:00.703 --> 00:13:03.843 ยิ้มมากขึ้น น่ารักมากขึ้น 00:13:04.130 --> 00:13:10.470 และพวกเขาจะเชื่อว่า การฝึกปฏิบัตินั้นจะ ช่วยพวกเขาได้เช่นกัน 00:13:11.752 --> 00:13:19.206 เพราะฉะนั้น เมื่อครอบครัว และสังคมของเรา มีความสมานฉันท์มากขึ้น 00:13:19.709 --> 00:13:23.568 มีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความกลมเกลียวมากขึ้น 00:13:23.642 --> 00:13:31.912 เมื่อนั้น ความปราถนาของเรา จะเป็นจริงได้ง่ายขึ้น 00:13:32.529 --> 00:13:35.819 ถ้าไม่มีสังฆะ ไม่มีหมู่คณะ 00:13:35.947 --> 00:13:38.867 ความฝันของเราจะไม่เกิดขึ้น 00:13:38.917 --> 00:13:42.917 ฉะนั้น เราไม่เพียงแต่พยายามด้วยตัวคนเดียว 00:13:43.099 --> 00:13:47.479 แต่เรารู้ว่าการปฏิบัติ เป็นหมู่คณะ เป็นสังฆะ 00:13:47.657 --> 00:13:51.217 นั้นดีกว่ามากเสมอ 00:13:53.379 --> 00:13:57.579 (ระฆัง)