ทีนี้ดิชั้นอยากจะเริ่มต้นทอล์คของดิชั้น
โดยที่ให้ทุก ๆ คนในที่นี้
ลองดูตัวคุณเองว่าสิ่งที่ดิชั้นถามเนี่ย
มันใช่ตัวคุณหรือเปล่าคะ
ข้อแรกเลยนะคะ
คุณหรือเปล่า ที่เป็นคนทุ่มเทกับการทำงาน
เวลานอน นับสิคะ ครบ 8 ชั่วโมงมั้ย
ที่เค้าบอกว่านอนเพื่อสุขภาพเนี่ย
8 ชั่วโมง ถึงมั้ยคะ
คงน้อยมาก เห็นคนส่ายหัวเยอะมากเลย
นะคะ
ตั้งใจจะออกกำลังกายใช่มั้ยคะ
ทำสำเร็จมั้ยคะ
มีข้ออ้างให้กับตัวเองสารพัดเลยใช่มั้ยคะ
งานยังไม่เสร็จ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปแล้วกัน
จักรยานที่ซื้อมา จอดอยู่ฝุ่นขึ้นแล้ว
ใช่มั้ยคะ ถ้าคุณเป็นแบบนั้น
แล้วตรวจสุขภาพประจำปีล่ะคะ
ปีนี้ใครไปตรวจแล้วยกมือหน่อย
อ้า มีบ้าง ถูกบังคับให้ไปตรวจใช่มั้ยคะ
ถูกมั้ย
ถ้าให้เดินไปพบแพทย์เนี่ย
ไปจ่ายเงิน เสียเงินเจาะเลือด
ตรวจสุขภาพเนี่ย คงไม่ไป
ลึก ๆ แล้ว คนที่ไม่ตรวจเนี่ย
ไม่ใช่ขี้แค่เกียจนะคะ
แต่จริง ๆ แล้วกลัว
กลัวว่ารู้ว่าไปเจาะเลือดแล้วเนี่ยนะ
แล้วเราเจอว่าไขมันในเลือดสูง
น้ำตาลในเลือดสูง
ความดันสูง
โอ้โห
ไอ้สิ่งที่เราเอนจอยอีทติ้งต่อไปเนี่ย
มันหมดแล้วอะ
เราจะกินแบบตามใจปากเราไม่ได้แล้วอะ
เป็นอย่างนั้นรึเปล่าคะ
แล้วลองดูสิคะว่า ในชีวิตประจำวันของคุณ
มื้อเช้ายามเร่งรีบ
ต้องรีบเข้าออฟฟิศไปตอกบัตร
หรือไปสแกนนิ้วมือ
หรือน้อง ๆ นักศึกษาต้องรีบเข้าห้องเลคเชอร์
อาหารเหล่านี้ค่ะ ในภาพนี้
มันคืออาหารบ่อย ๆ ที่คุณมักจะเจอ
ถ้ามันใช่นะคะ
กับอีกอย่างนึงค่ะ
เวลาที่คุณสังสรรค์กับเพื่อน ๆ
เวลาปิดจ๊อบงาน
สิ้นเดือน
เงินเดือนออก
ฉลองสอบเสร็จ
ใช่มั้ยคะ ไอ้หมูกระทะ
บุฟเฟต์ 199 บาทเนี่ย
ที่รู้สึกว่าโอ้โหมันคุ้มจังเลยนะ
ผักอย่ามาเชียวนะ
มันจะเบียดบังพื้นที่ในกระเพาะของคุณ
ใช่ ใช่มั้ยคะ หลายคนพยักหน้าเนาะ
แต่ไอ้สลัดบาร์ 139 ของดิชั้นเนี่ย
ทุกคนกลับเมิน
ทีนี้
ถ้าสิ่งที่ดิชั้นพูดเนี่ยนะ มันใช่ตัวคุณน่ะ
อยากจะบอกว่าในสิบกว่านาทีข้างหน้าเนี่ยนะคะ
อยากให้ตั้งใจฟังในสิ่งที่ดิชั้นจะแบ่งปัน
เพราะอยากจะบอกว่า
ถ้าคุณกินไม่คิดเนี่ย ชีวิตคุณจะเปลี่ยนค่ะ
You are what you eat ค่ะ
(กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น)
อ่ะ เราลองมาเดาคำตอบข้อนี้กัน
อะไรเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทย
อะไรคะ อุบัติเหตุ
อะไรอีกคะ
ดิชั้นแว่ว ๆ ว่ามะเร็ง
มะเร็ง มะเร็งค่ะ (หัวเราะ) ใช่มั้ย
ทุกคนอยากจะเป็นคนที่ตอบถูก
ถูกต้องเลยค่ะ
มะเร็งนี่ล่ะค่ะ อันดับ 1
ที่เป็นสาเหตุการตายของคนไทย
ถามว่า มันเพิ่งขึ้นอันดับมาปีนี้หรือเปล่า
หรือปีที่แล้วหรือเปล่า
ไม่ใช่ค่ะ
ทุกคนมาฟังอันนี้แล้วจะตกใจ
มันขึ้นอันดับ 1 มาตั้งแต่ปี 2542
ปีนี้ 2561 ปีหน้า 2562
แปลว่าปีหน้าเราจะฉลองครบรอบ 20 ปีแล้วนะคะ
ที่มะเร็งมันเป็นสาเหตุการตาย
อันดับ 1 ของคนไทย
ทุกคนหัวเราะเพราะเราไม่ได้ภูมิใจใช่มั้ยคะ
แต่มะเร็งมันคงภูมิใจค่ะ
ที่มันครองแชมป์มานานได้ 20 ปี
นะคะ
แล้วต่างประเทศล่ะคะ มันไม่ต่างกันเลยนะคะ
มะเร็งก็เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ
ทั่วโลกเหมือนกัน ของประชากรทั่วโลก
แล้วมะเร็งอะไรล่ะคะ ที่มันท๊อปฮิตติดชาร์ท
ทุกคนชอบจัดอันดับ
มันก็มีแบ่ง มันมีความต่างกันอยู่
ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายค่ะ
ถ้าเราลองมาดู
เพศหญิงก่อนละกันนะคะ
เลดี้ เฟิร์ส
เรามีเต้านม มดลูกเป็นของตัวเอง
ผู้ชายไม่มีทางเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก
แล้วมันก็ขึ้นอันดับจริง ๆ
แต่มันก็มี
มะเร็งลำไส้มาแซงเป็นอันดับ 2
นะคะ
แล้วในผู้ชายล่ะคะ
ดื่มเหล้า
สูบบุหรี่ ใช่มั้ยคะ
มันก็จะหนีไม่พ้นมะเร็งตับกับมะเร็งปอด
แล้วมันก็จะมีไอ้เจ้ามะเร็งลำไส้เนี่ย
พ่วงมาด้วยเหมือนกัน
ทีนี้
ถ้าเราดูแล้วเนี่ย
ดิชั้นอยากจะบอกว่า
"ดาวเด่น" ที่ดิชั้นอยากจะพูดในวันนี้
หรืออยากจะมาแบ่งปันแล้วก็แลกเปลี่ยน
กับทุกท่านในที่นี้เนี่ย
ดิชั้นสนใจไอ้เจ้ามะเร็งลำไส้นี่แหละค่ะ
เพราะอะไร ถ้าเราดูนะ
มันเป็นมะเร็งที่มันแฟร์มากเลยนะ
มันไม่ไปเกิดในผู้หญิง ในผู้ชายโดยเฉพาะ
แต่มันเกิดได้ทั้งในผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย
มันติดอันดับมาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ไม่ใช่ว่ามันเป็นมะเร็งที่มันแฟร์นะคะ
แต่จะบอกด้วยว่า
สาเหตุมันน่ะ ก็น่าสนใจ
เพราะว่ามะเร็งหลายอย่าง
มันมีหลายปัจจัยที่มันเป็นสาเหตุ
มันเป็นเรื่องของพันธุกรรม บางทีเรามีญาติ
พี่น้อง พ่อแม่ปู่ย่าตายายเราอะ
เป็นมะเร็งเต้านม
เราก็คือเป็นคนที่มีความเสี่ยง
แองเจลินา โจลี อย่างงี้
เธอตัดเต้านมเธอไปเลย
เพราะเธอรู้ว่าเธอเสี่ยง
เพราะเธอมีประวัติ
แต่ทีนี้
ไอ้เจ้ามะเร็งลำไส้มันน่าสนใจตรงที่ว่า
ไอ้เรื่องของพันธุกรรม
ไอ้เรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือพฤติกรรมเนี่ย
มันไม่ได้เด่นเท่ากับเรื่องอาหารการกิน
แปลว่า
อาหารนี่แหละมันเป็นสาเหตุ
ที่ทำให้เป็นมะเร็งลำไส้
แต่มะเร็งลำไส้อีกนั่นแหละ
ที่อาหารมันก็สามารถที่จะป้องกันได้
ถามว่า ป้องกันทำไมมันถึง
น่าสนใจกว่าการรักษา
หลายคนอาจจะเคยมีญาติหรือเพื่อน
หรืออะไรที่เป็นมะเร็ง
เราจะรู้ว่า การรักษาผู้ป่วยมะเร็งเนี่ย
ม้นบั่นทอนนะคะ
มันไม่ใช่บั่นทอน
จากอาการของมะเร็งที่เค้าเป็นอยู่นะ
แต่การรักษา ไม่ว่าจะเป้นเคมีบำบัด
รังสีรักษา หรือการผ่าตัด
แล้วเคยไปเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งมั้ยคะ
ที่ผมร่วง
แล้วก็เนื้อติดกระดูกอ่ะ
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า
การรักษามันก็บั่นทอนเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น การป้องกันเนี่ย
เป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ
บางคนบอกว่า
ที่มาพูดเนี่ย มันไกลตัวเหลือเกิน
ลองดูสิคะว่า
อาหารเหล่านี้
บ่อยครั้งมั้ยที่คุณเจออาหารเหล่านี้
ถ้าคุณเจอ นั่นแปลว่าคุณเสี่ยงนะคะ
เพราะอะไร
เค้าบอกมาเนอะ ดิชั้นก็ไม่ได้พูดเองนะคะ
แต่ไอ้เค้าในที่นี้ มันก็ต้องเชื่อเค้านะ
เพราะว่าเค้าก็คือหน่วยงานวิจัย
ที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งน่ะค่ะ
ซึ่งเค้า
เป็นการศึกษาในมนุษย์ หรือในคน
เป็นการศึกษาทางระบาดวิทยา
ที่เค้าเจอความสัมพันธ์
ก็คือกลุ่มที่เรียกว่า IARC
เป็นองค์กรระดับสากล
เค้าพยายามที่จะจัดกลุ่มค่ะ
ว่าปัจจัยอะไรบ้าง
ที่ทำให้เรามีความเสี่ยง
ต่อการเป็นมะเร็งลำไส้
แล้วถ้ากลุ่มไหนที่มันบ่งชี้ชัดเจน
เค้าจะให้เกรด A มันค่ะ
ให้เกรดที่มันเป็นระดับ 1
เราจะเห็นได้ว่า
อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์แปรรูปน่ะค่ะ
ฝรั่งอาจจะมีเพียงแค่ไส้กรอก เบคอน
แต่เรามีกุนเชียง แหนม หมูยอเข้ามาด้วย
นะคะ อันนี้คือพิเศษเลย
ที่เราจะเสี่ยงมากขึ้น
ไอ้กลุ่ม 1 นี่หล่ะค่ะ ที่ IARC บอกว่า
ถ้าเรากินบ่อย ๆ ถี่ ๆ เนี่ย
เราจะเป็นมะเร็งลำไส้แน่ ๆ
คือมีความเสี่ยงสูง
กับกลุ่มที่ 2 ค่ะ
เนื้อแดง ไม่ใช่เนื้อสดนะคะ
ต่อให้คุณกินหมูปิ้ง หมูกระทะ คุณกินสเต็ก
ที่มันเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว อย่างเงี้ย
มันก็คือกลุ่มเนื้อแดง
มันจัดอยู่ในกลุ่ม 2A
คือมีความเป็นไปได้
ก็คือน้ำหนักอาจจะรองลงมา
จากพวกเนื้อสัตว์แปรรูป
แต่ถ้าคุณกินบ่อย ๆ
คุณจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้
มันเริ่มใกล้เข้ามาหรือยังคะ
ใกล้แล้วใช่มั้ยคะ
อย่าเพิ่งกลัวค่ะ
อย่าตระหนกจนเกินไป
เพราะไม่งั้นคนที่เค้ากินกันเยอะ
คนเยอรมันกินไส้กรอกกันเยอะแยะ
คงเป็นมะเร็งกันเยอะแล้ว
ไม่ใช่
ดิชั้นอยากจะบอกว่า
ดิชั้นมียาวิเศษที่จะมาบอกคุณ
ว่าทำยังไงคุณจะหลีกหนี
จากไอ้เจ้ามะเร็งลำไส้นี้ได้
มันเป็นของที่ต้องมีนะคะ
มันต้องกินทุกว้น
แล้วมันก็ต้องมาทุกมื้อด้วย
มันคืออาหารเสริมราคาแพงหรือเปล่า
คำตอบคือไม่ใช่
แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากเลย
แต่ทำไมเราไม่ค่อยกินกันก็ไม่รู้
อยากจะชวนทุกคนในที่นี้มากินผักเปลี่ยนชีวิต
มันสามารถที่จะหยุดวิกฤติมะเร็งลำไส้ได้ค่ะ
ฟังดูเหมือนมันง่ายใช่มั้ยคะ
แต่มันก็แปลก
ที่ทำไม
คนไทยเนี่ยกินผักไม่ถึงเกณฑ์
เพื่อการป้องกันโรคหรอกค่ะ
ทีนี้ถามว่า เออ แล้วกินเยอะ มันกินแค่ไหน
มันก็มีหน่วยงานนะคะ ที่เค้าทำวิจัยนี่แหละ
ว่าอะไรบ้างที่มันช่วยป้องกันมะเร็งได้
อาหารเสริมราคาแพง ไม่ได้ช่วยนะคะ
แต่ไอ้เจ้าผ้กนี่แหละช่วย
ทีนี้ผักที่ว่าเนี่ย มันรวมผลไม้เข้าไปด้วย
ให้กินเท่าไหร่หล่ะ
อย่างน้อย 400 กรัม
400 กรัมมันแค่ไหนล่ะ
มันก็คือ 4 ขีด ถ้าเราแยกเป็น 3 มื้อ
ก็มื้อนึงประมาณขีดกว่า ๆ
อันนี้แหละเค้าพบว่ามีการวิจัยบอกว่า
มันสามารถที่จะลดความเสี่ยงต่อโรค NCD
เราเริ่มคุ้นใช่มั้ยคะ NCD
NCD ก็เป็นนี่แหละ ความดัน หัวใจ
หรือว่าพวกหลอดเลือดสมองตีบอะไรพวกนี้
แล้วรวมทั้งโรคมะเร็งด้วย
จำไว้นะคะ ตัวเลข 400 กรัม
ดูสิคะว่าคนไทยกินเท่าไหร่รู้มั้ยคะ
แล้วคิดว่าเกินมั้ยคะ
ใครคิดว่าเกิน 400 กรัม
จากข้อมูลงานวิจัย คนไทยกิน 280 กรัมเองค่ะ
มีผลไม้ด้วยนะคะ รวมกันแล้ว 280 กรัม
มันน่าเศร้า
เราเรียนตั้งแต่สมัยประถมใช่มั้ยคะ
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม
สินค้าส่งออกของเราคือสินค้าทางด้านการเกษตร
เราสามารถปลูกผักได้ตลอดปี
ถ้าเทียบกับประเทศทางยุโรป
อเมริกาที่เค้ามีหิมะตก
เกาหลียังต้องเอาผักไปดองเป็นกิมจิไว้
เพราะเค้าปลูกไม่ได้ตลอดปี
แต่คนไทยกินน้อยมาก
ดิชั้นก็มานึกว่า เอ๊ะ
ทำไมคนไทยกินผักน้อยนะ
หรือเรามีปัญหาเรื่องการเข้าถึง
ก็เลยนึกว่าเมนูที่เรากินบ่อย ๆ
นี่มันเป็นเมนูอะไร
เมนูอะไรคะที่เรากินบ่อย ๆ
เมนูยอดฮิต เมนูสิ้นคิดของเรา
อันนี้ใช่มั้ยคะ เห็นกะเพรามั้ยคะ
เห็นกะเพรามั้ยคะ
เห็นหมู เห็นไก่ ใช่มั้ยคะ
ผัดกะเพรา
น้อง ๆ น้กศึกษาหลายคนบอก
สั่งข้าวผัดกะเพราไม่เอาผัก
สั่งข้าวหมูกระเทียม ไม่ขอกระเทียม
คือมันมาน้อยอยู่แล้วอะ
พวกเราก็ยังจะเขี่ยมันออกไปจากจานด้วย
แต่จริง ๆ แล้วเวลาเราพูดถึง
เรากินผักเนี่ยนะคะ
เราอย่าไปนึกถึงแต่ผักใบที่มันเขียว ๆ อะ
เรานึกถึงเรากินส้มตำเนอะ
มีกระเทียม และมะละกอ
ที่เป็นมะละกอดิบ ก็ถือว่าเป็นผัก
ผักมันสารพัด รวมทั้งธัญพืชด้วยนะคะ
เรากินแกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่สาหร่าย
สาหร่าย เต้าหู้พวกนี้
เราก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม
ที่มันเป็นผักด้วย
เพราะว่าถั่วเหลืองมันก็คือธัญพืช
เพราะฉะนั้นเราลองเอาเมนูพวกนี้
ให้มันมาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
เรากินแกงเขียวหวานเนี่ย
เราเห็นมะเขือก็จริง แต่ในน้ำพริกแกงเนี่ย
มันก็จะมีสารพัดเครื่องเทศสมุนไพร
ลองเปลี่ยนไอ้บุฟเฟต์หมูกระทะของเรา
มาเป็นเมนูต่าง ๆ เหล่านี้
ดิชั้นยกตัวอย่างให้เห็น
ข้าว แทนที่จะเป็นข้าวขาว
เราลองเป็นข้าวกล้องดูสิคะ
มันจะได้ธัญพืชเพิ่มเข้ามา
มะระผัดไข่ บางคนบอกมะระไม่อยากกิน มันขม
เอาเป็นบวบก็ได้ค่ะ เป็นฟักทองก็ได้
ไอ้พวกยำรสแซบเนี่ยค่ะ
อย่าให้มันเป็นแบบ หมู เป็นเนื้อ
เป็นอะไรทื่เป็นชิ้น ๆ
เราลองเพิ่มเห็ดเข้าไป ลองเพื่มผักเข้าไป
ให้มันไปดับความแซบ ความเผ็ดลงหน่อย
หรือบางคนชอบกินแบบ ข้าวไก่อบ
อย่าให้มันเป็นไก่อย่างเดียว
เป็นเนื้อสัตว์อย่างเดียว
ลองเพิ่มแครอทเข้าไป
แล้วของว่างเนี่ย ให้มันเป็นผลไม้ เป็นอะไร
400 กรัมก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยาก
บางคนบอกแหม 400 กรัม มันมองยาก
วิธีสังเกตุง่าย ๆ ในทางปฎิบัติ
เวลาเรากินอาหารจานนึงน่ะค่ะ
เหมือนในภาพที่มันเป็นสเต็กอย่างเงี้ย
เราให้ครึ่งนึงมันเป็นผักน่ะค่ะ
มันจะมีถั่วมีอะไรปนมาด้วย
มีธัญพืชปนมาด้วยก็ได้
ลองดูอย่างนี้ในแต่ละมื้อที่เรากิน
การที่จะได้ 400 กรัมต่อวัน
ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ทีนี้ ในสิ่งที่ดิชั้นมาบอกเนี่ย
บางคนก็บอก มันจริงเหรอ
มันช่วยได้จริงเหรอ ถ้าเรากินผัก
เป็นสัดส่วนที่เกินครึ่งนึงในแต่ละมื้อ
มันก็มีตัวอย่างเป็นรูปธรรมให้เห็นชัดนะคะ
เราลองนึกถึงสิคะ
โอปป้าเกาหลีกำลังย่างบาร์บีคิวอยู่เนี่ย
ไม่งั้นสถิติคนเกาหลี
คงเป็นมะเร็งลำไส้กันเยอะแยะไปหมด
เพราะเค้ากินในชีวิตประจำวันมากกว่าเรา
ที่กินเฉพาะในโอกาสที่จะไปฉลองกันใช่มั้ยคะ
ทำไมเค้าไม่เป็นล่ะคะ
เคล็ดลับอยู่ตรงนี้ค่ะ
เวลาเค้ากินน่ะ
บุฟเฟต์เค้าก็คงไม่ 199 เหมือนเราอะ
แต่เค้าก็ไม่ได้มาแบบ
เป็นเนื้อหมู เนื้อวัวอย่างเดียว
เค้ามากับผักค่ะ ในหนึ่งคำที่เค้ากินเนี่ย
เค้าจะห่อกับผัก มีพริกมีกระเทียม
แล้วก็จะมี โคชูจัง
(ซอสพริกเกาหลี)
ซึ่งมันจะมีพริก แล้วก็มีพวก
ถั่วเหลืองเต้าเจี้ยวอยู่ในนั้นด้วย
ในหนึ่งคำเนี่ย
ผักมันเกินครึ่งแล้วใช่มั้ยคะ
แล้วดูสิคะ สารพัดเครื่องเคียง
กิมจิที่มีผักอีกเยอะแยะมากมาย
อันนี้แหละค่ะ ให้ผักมันเป็นครึ่งหนึ่ง
จะทำให้ความเสี่ยง
ของการเป็นมะเร็งลำไส้คุณก็ลดน้อยลงไป
ทำไมผักมันต้านมะเร็งได้เหรอคะ
โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้
เพราะผักมันมีใยอาหารค่ะ
มันมีใยอาหารอยู่ 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกเนี่ย มันเป็นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ
มันทำหน้าที่เหมือนเป็นไม้กวาดน่ะค่ะ
ที่จะไปกวาดลำไส้เรา
ไอ้สารพิษที่ตกค้างอยู่
มันก็จะถูกกวาดออกไปไม่คั่งค้าง
เราถ่ายท้องทุกวัน ทุกเช้าเราเข้าห้องน้ำ
คนที่ท้องผูกต้องระวังนะคะ มะเร็งลำไส้
มันมี--
ในผักมันจะมี
ใยอาหารอีกกลุ่มนึงที่มันอุ้มน้ำ
เรานึกถึงเม็ดแมงลักน่ะค่ะ
ที่เราใส่ลงไป เติมน้ำลงไปแล้วมันพอง
ธัญพืชก็เหมือนกัน
พวกถั่วเหลืองอะไรพวกนี้ ถั่วแดง
มันเป็นใยอาหารที่อุ้มน้ำ
มันจะไปเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้
แบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้
เวลาที่มันเจริญเยอะขึ้น
เหมือนเรากินโยเกิร์ตน่ะค่ะ
มีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้
มันจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้
และในผักมันก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ
มีสารต้านการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง
ข้ออ้างอีกข้อหนึ่งของคนไม่กินผัก
บอกว่ากลัวยาฆ่าแมลง
มันก็เป็นข่าวอยู่ด้วยเนอะ
กลัวมั้ยคะ
กลัวเนอะ
แต่ดิชั้นจะบอกว่า
เวลากินเหล้า สูบบุหรี่เนี่ย คุณผู้ชาย
คุณกลัวมั้ยล่ะ
คุณก็รู้ว่ามันเป็นสารก่อมะเร็ง
คุณไปกินบุฟเฟต์หมูกระทะ
คุณก็รู้ว่าคุณกินสารก่อมะเร็งอยู่ใช่มั้ย
กินหมูปิ้งตอนเช้ากับข้าวเหนียว
ใช่มั้ย แต่ทำไมเราไม่กลัว
ดิชั้นก็เลยบอกว่า ผักเนี่ย
อย่าไปกลัวนะ ต่อให้มันมียาฆ่าแมลง
ใช่มั้ย แต่มันเป็นโอกาสเสี่ยงเท่านั้น
มันไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์
ที่มันมียาฆ่าแมลงตกค้าง
คุณเอาไปล้าง มันก็กำจัดออกได้
ในขณะเดียวกันเนี่ย
ถ้าเรามองว่า ไอ้ต้นทางเนี่ย
ที่เกษตรกรที่เค้าปลูกแล้วเค้าใช้เนี่ย
เค้าก็มาโทษเราเนอะ
ที่เป็นคนกินหรือผู้บริโภค
ว่าเราอยากได้ผักสวย เค้าเลยต้องใส่ยาเข้าไป
เราอย่าให้เราต้องตกเป็นจำเลยแบบนั้นนะคะ
ไอ้ต้นน้ำคือแปลงทื่ปลูก คือเกษตรกร
แต่กลางน้ำ คือห้างต่าง ๆ
ที่เค้าซื้อผักมาแพ็ก
แล้วขายให้เราเนี่ย
เค้ามีหน่วยงานกำกับดูแลอยู่
ที่เค้าพยายามจะทำให้ผักเนี่ย
มันลดการตกค้างอยู่แล้ว
แต่เรากำลังมองว่าเราเป็นผู้บริโภคเนี่ย
เราเนี่ย
ไม่ค่อยได้แสดงพลังของผุ้บริโภคเลยเนอะ
ถ้าหลายคนได้ข้อมูลอย่างที่ดิชั้นได้มา
เพราะเป็นการวิจัยที่ดิชั้นทำ
ดิชั้นพยายามจะซื้อผักเนอะ
ที่มันเป็นผักที่มันมีตราสัญลักษณ์
รับรองถึงความปลอดภัยจากหลาย ๆ หน่วยงาน
นะคะ
ก็ไปเก็บตัวอย่างมา 800 กว่าตัวอย่าง
ในประมาณ 44 เปอร์เซ็นต์
ของผักที่มันมีตรารับรองเนี่ย
เทียบกับผักที่มันไม่มีตรารับรอง
ที่เราไปซื้อตามตลาดทั่วไปเนี่ย
เราพบว่าผักที่มันมีตรารับรองเนี่ย
พบการตกค้างของยาฆ่าแมลง 13 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ผักที่ไม่มีตรารับรอง
เราพบ 17 เปอร์เซ็นต์
ไม่ต่างกันเลยใช่มั้ยคะ
เศร้าใจมั้ยคะว่าเราซื้อผักแพงอะ
แต่เรายังได้ยาฆ่าแมลงแถมมา
เพราะฉะนั้นอันนี้แหละค่ะ
ดิชั้นอยากจะบอกว่า
อยากจะบอกว่า
พลังผู้บริโภคเนี่ยอยู่ที่ตัวเรานะ
เราต้องแสดงให้เค้าเห็นว่า
เราไม่ได้ต้องการผักสวย
แต่เราต้องการผักปลอดภัย
สร้างดีมานด์ให้ผักปลอดภัยอยู่ได้นะคะ
ท้ายที่สุดนี้เนี่ย ดิชั้นหวังว่า
อยากให้ทุกคนปักหมุดไปที่
การกินผักปลอดภัย 400 กรัม
เพื่อที่จะทำให้การกินผักนี้
มันสามารถที่จะเปลี่ยนชีวิต
และพิชิตมะเร็งลำไส้ได้
ถ้าเมนูเดิม ๆ มันทำให้คุณหาผักเจอยากมาก
ลองเปลี่ยนเมนูใหม่ ๆ
จากเครื่องดื่ม ชานมไข่มุก
หรือน้ำอัดลมที่คุณกินบ่อย ๆ
เปลี่ยนมาเป็นที่มันมีผักมีสมุนไพร
น้ำว่านหางจระเข้
เติมมะนาว เติมน้ำผึ้งเข้าไปมันก็สดชื่น
หรือพวกน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลืองก็ได้
สแน็ค (ของว่าง) ที่มันเป็นเบเกอรี่ที่คุณกิน
อุดมไปด้วยไขมันกับน้ำตาลเนี่ย
ลองเป็นธัญพืชที่มีผักมีเห็ด
หรืออาหารจานเดียวจากผัดกระเพรา
ที่คุณหากระเพราไม่ได้เนี่ย
นอกจากคุณจะเติมกระเพราเพิ่มขึ้นเนี่ย
อาจจะเป็นก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่มีสารพัดผัก
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้น่ะค่ะ
เพื่อให้เราไปสู่จุดหมายปลายทางของเรา
ในการที่จะให้เราได้กินผักให้เยอะขึ้น
นะคะ
ดิชั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ในสิ่งที่ดี ๆ ที่นำมาแชร์กับทุกคนในวันนี้
จะทำให้คุณ สามารถที่จะปรับเปลี่ยน
และทำให้การกินเนี่ย
สามารถที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(เสียงปรบมือ)