WEBVTT 00:00:00.635 --> 00:00:02.191 เสียงระฆัง 00:00:05.239 --> 00:00:12.416 เสียงระฆัง (เมื่อฉันโกรธ ฉันจะทำอย่างไรให้ความโกรธนั้นหายไป) 00:00:30.191 --> 00:00:31.513 เมื่อฉันโกรธ 00:00:31.513 --> 00:00:35.018 ฉันควรทำอย่างไรให้ความโกรธนั้นหายไป 00:00:36.731 --> 00:00:39.731 ทำอย่างไรให้ความโกรธนั้นหมดไป 00:00:46.037 --> 00:00:49.389 เธอคิดว่าความโกรธของเธอมาจากภายนอกใช่ไป? จาเภายนอกเข้ามา 00:00:49.511 --> 00:00:52.535 และตอนนี้เธอต้องการจะให้มันออกไปอีกครั้ง? 00:00:52.919 --> 00:00:56.044 เธอแน่ใจนะ ว่าความโกรธนั้นมาจากภายนอก? 00:00:59.831 --> 00:01:02.067 นี่เป็นการตอบคำถามด้วยคำถามนะ 00:01:02.072 --> 00:01:03.844 (เสียงหัวเราะ) 00:01:12.567 --> 00:01:15.530 ที่หมู่บ้านพลัม พวกเราเรียนรู้ 00:01:16.466 --> 00:01:20.645 ว่าจะจัดการกับความโกรธของเราอย่างไร 00:01:22.210 --> 00:01:25.560 จะดูแลความโกรธของพวกเราอย่างไร 00:01:33.607 --> 00:01:38.034 ความโกรธเป็นสิ่งที่ไม่น่ารักเท่าไหร่ 00:01:39.343 --> 00:01:40.889 คล้ายกับโคลนตม 00:01:42.246 --> 00:01:43.835 แต่ว่าหากไม่มีโคลนตมแล้ว 00:01:44.041 --> 00:01:46.256 เราก็ไม่สามารถปลูกดอกบัวได้ 00:01:47.687 --> 00:01:51.706 ดังนั้นโคลนตมจึงมีประโยชน์ ในบางกรณี 00:01:52.125 --> 00:01:55.559 เช่นกันกับความโกรธของเธอก็มีประโยชน์ ในบางกรณี 00:01:56.927 --> 00:02:01.655 ดังนั้น บางที เธออาจจะไม่ควรปล่อยให้ความโกรธออกมา 00:02:03.454 --> 00:02:05.720 เธอไม่ควรจะโยนทิ้งความโกรธออกไป 00:02:06.445 --> 00:02:08.842 ถ้าเธอรู้วิธีที่จะใช้ประโยชน์ 00:02:09.083 --> 00:02:10.519 จากความโกรธของเธอ 00:02:10.568 --> 00:02:14.424 เธอสามารถปลูกดอกบัวแห่งสันติ 00:02:15.054 --> 00:02:18.160 ดอกบัวแห่งความเบิกบาน ดอกบัวแห่งการให้อภัย 00:02:19.957 --> 00:02:23.778 นั่นเป็นคำสอนที่ลึกซึ้งมากในหมู่บ้านพลัม 00:02:24.887 --> 00:02:26.771 เราเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ตลอดมา 00:02:29.500 --> 00:02:32.948 เมื่อความโกรธเกิดขึ้น 00:02:33.271 --> 00:02:36.036 มันไม่ได้มาจากข้างนอก แต่มาจากข้างใน 00:02:39.097 --> 00:02:43.715 เพราะว่าเราไม่เข้าใจ 00:02:45.236 --> 00:02:48.643 เพราะอย่างนั้นเราจึงไม่สามารถรักได้ 00:02:52.798 --> 00:02:56.927 และ ถ้าเรามองอย่างลึกซึ้งลงไป 00:02:57.787 --> 00:02:59.681 ถ้าเราฟังอย่างลึกซึ้ง 00:03:00.218 --> 00:03:03.011 เราจะสามารถเข้าใจได้ 00:03:03.529 --> 00:03:05.086 และเมื่อเราเข้าใจ 00:03:05.086 --> 00:03:06.267 ก็มีความรัก 00:03:06.267 --> 00:03:07.716 เมื่อมีความรัก 00:03:07.716 --> 00:03:11.466 ความโกรธจะเปลี่ยนแปรตัวมันเอง 00:03:11.947 --> 00:03:13.782 เธอไม่จำเป็นต้อง 00:03:14.573 --> 00:03:16.596 โยนความโกรธนั้นออกไปอีก 00:03:18.907 --> 00:03:23.084 ในความเป็นจริง ความโกรธเป็นสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้ได้ 00:03:24.493 --> 00:03:28.246 และ ถ้าเธอรักษาความโกรธนั้น 00:03:28.473 --> 00:03:32.147 ในความเข้าใจ ในความกรุณาแล้ว 00:03:32.520 --> 00:03:36.786 ความโกรธจะกลายเป็นบางอย่างคล้ายๆกับความรัก 00:03:37.192 --> 00:03:40.703 คล้ายกับความกรุณา 00:03:44.036 --> 00:03:46.294 หลวงปู่จะยกตัวอย่างให้ฟังนะ 00:03:48.998 --> 00:03:51.026 ตอนเช้าวันนี้ บางคน 00:03:51.026 --> 00:03:53.442 พูดบางอย่างที่ไม่ค่อยดีกับเธอ 00:03:55.389 --> 00:03:58.149 เขาทำบางอย่างหรือพูดบางอย่างที่ไม่ค่อยดีกับเธอ 00:03:58.149 --> 00:03:59.295 และเธอเป็นทุกข์ 00:03:59.328 --> 00:04:01.203 ความโกรธจึงเกิดขึ้น 00:04:03.282 --> 00:04:04.334 เป็นธรรมดา 00:04:04.334 --> 00:04:06.579 เมื่อเธอไม่ใช่นักฝึกปฏิบัติที่ดี 00:04:06.632 --> 00:04:12.415 เธออยากจะชกหน้าเด็กชายหรือเด็กหญิงคนนั้น 00:04:14.256 --> 00:04:15.814 เพื่อจะลงโทษเขา 00:04:16.054 --> 00:04:18.729 และความโกรธนั้น อยู่ใน ตัวเรา 00:04:20.976 --> 00:04:22.868 นั่นคือความโกรธที่เป็นโตลนตม 00:04:23.973 --> 00:04:25.575 ที่จะทำให้ทุกสิ่งเลอะเทอะเปรอะเปื้อน 00:04:26.565 --> 00:04:28.554 ดังนั้น เธอต้องตระหนักรู้ 00:04:28.578 --> 00:04:33.743 ว่าเราต้องดูแลโคลนตมของความโกรธ 00:04:34.722 --> 00:04:38.210 ไม่ปล่อยให้โคลนตมนั้นเลอะตัวเรา 00:04:38.558 --> 00:04:39.989 และเลอะคนอื่น 00:04:46.337 --> 00:04:48.664 ดังนั้นเธอควรจะ หายใจเข้า 00:04:50.294 --> 00:04:52.254 อย่างสงบ อย่างมีสติ 00:04:52.314 --> 00:04:54.956 และมองไปยังเด็กชาย หรือเด็กหญิงนั้น 00:04:59.323 --> 00:05:01.669 ว่าเธอเห็นอะไร 00:05:02.049 --> 00:05:03.419 ในตัวเขาบ้าง 00:05:03.745 --> 00:05:05.684 เธอเห็นว่ามีความรุนแรงในตัวเขา 00:05:06.746 --> 00:05:08.667 มีความโกรธในตัวเขา มีความทุกข์อยู่ในตัวเขา 00:05:10.439 --> 00:05:11.814 หรือตัวเธอ 00:05:12.034 --> 00:05:14.801 ถ้าเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงคนนั้นมีความสุข 00:05:14.992 --> 00:05:19.697 เขาหรือเธอจะไม่พูดบางอย่าง 00:05:19.890 --> 00:05:20.931 ที่ดูใจร้ายแบบนั้นออกมา 00:05:21.372 --> 00:05:24.374 เธอหรือเขา จะไม่ทำบางอย่างที่รุนแรงอย่างนั้น 00:05:26.384 --> 00:05:31.245 แต่ เขาไม่มีความสุขในตัวเขา 00:05:32.245 --> 00:05:34.607 นั่นจึงทำให้เขาเป็ฯทุกข์ 00:05:35.025 --> 00:05:36.616 เมื่อเขาเป็นทุกข์เช่นนั้น 00:05:37.147 --> 00:05:39.818 เขาจึงอยากให้ความทุกข์ของเขาหายป 00:05:40.225 --> 00:05:42.011 โดยการพูดบางอย่างที่ใจร้ายกับเธอ 00:05:42.266 --> 00:05:44.623 หรือทำบางอย่างที่ไม่ดีกับเธอ 00:05:45.022 --> 00:05:46.773 เพราะเขาคิดแบบนั้น เขาจึงทำแบบนั้น 00:05:46.815 --> 00:05:48.118 เพื่อที่เขาจะได้ทุกข์น้อยลง 00:05:48.690 --> 00:05:51.045 ซึ่งนั่น...ไม่ฉลาดเลย 00:05:51.686 --> 00:05:53.385 ดังนั้น เมื่อเธอมองเห็น 00:05:54.012 --> 00:05:56.224 ว่าเด็กชายคนนั้นไม่มีความสุข 00:05:56.292 --> 00:05:58.213 มีความโกรธหรือความรุนแรงอยู่ในตัวเขา 00:05:58.222 --> 00:06:00.189 และเขาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร 00:06:00.189 --> 00:06:03.905 กับความรุนแรงในตัวเขา กับสิ่งที่ไม่มีความสุขในตัวเขา 00:06:04.169 --> 00:06:05.769 นั่นจึงทำให้เขาเป็นทุกข์ 00:06:05.934 --> 00:06:07.674 และเมื่อเขาเป็นทุกข์เช่นนั้น 00:06:07.674 --> 00:06:09.364 เป็นธรรมชาติมากที่เขาจะทำให้คนอื่นๆ 00:06:09.660 --> 00:06:12.141 รอบตัวเขาเป็นทุกข์เช่นกัน