0:00:06.809,0:00:09.164 ทำไมขนมปังถึงฟูนุ่ม 0:00:09.164,0:00:11.063 ทำไมเนยแข็งสวิสถึงมีรู 0:00:11.063,0:00:13.670 และอะไรที่ทำให้น้ำสมสายชูมีรสเปรี้ยว 0:00:13.670,0:00:16.116 อาหารเหล่านี้อาจมีรสชาติต่างกันไป 0:00:16.116,0:00:21.299 แต่ปรากฏการณ์ทั้งหมด เกิดจากการย่อยน้ำตาล[br]ของสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ 0:00:21.299,0:00:24.453 และการพ่นผลิตภัณฑ์ข้างเคียง[br]ที่เป็นอาหารออกมา 0:00:24.453,0:00:26.960 เรามาเริ่มกันที่ยีส 0:00:26.960,0:00:32.241 ยีสเป็นราเซลล์เดียว[br]ที่ใช้ในการผลิตขนมปัง เบียร์ และไวน์ 0:00:32.241,0:00:33.875 และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 0:00:33.875,0:00:36.425 ยีสย่อยคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล 0:00:36.425,0:00:39.741 เพื่อให้ได้พลังงาน และโมเลกุล[br]ที่พวกมันต้องการในการดำรงชีพ 0:00:39.741,0:00:41.673 พวกมันสามารถทำได้สองวิธีการ 0:00:41.673,0:00:44.799 คือแบบที่ใช้ออกซิเจน หรือแอโรบิก 0:00:44.799,0:00:48.238 และแบบไม่ใช้ออกซิเจน หรือแอนาโรบิก 0:00:48.238,0:00:50.843 ซึ่งยังถูกเรียกอีกชื่อว่า การหมัก 0:00:50.843,0:00:53.805 เมื่อคุณอบขนมปัง[br]ยีสสามารถใช้ได้ทั้งสองวิธี 0:00:53.805,0:00:58.873 แต่ตามปกติพวกมันชอบที่จะเริ่มด้วย[br]กระบวนการแอนาโรบิก กระบวนการหมัก 0:00:58.873,0:01:03.303 ในกระบวนการนี้ เอธานอลถูกผลิตขึ้น[br]แทนที่จะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ 0:01:03.303,0:01:05.268 ไม่ ขนมปังไม่ใช่ของมึนเมา 0:01:05.268,0:01:09.775 แอลกอฮอล์ปริมาณเพียงเล็กน้อยที่ถูกหลั่งออกมา[br]ระเหยไประหว่างการอบ 0:01:09.775,0:01:12.768 ในแอโรบิก หรือวิธีการที่ใช้ออกซิเจน 0:01:12.768,0:01:14.638 ยีสกินน้ำตาลไปบ้าง 0:01:14.638,0:01:19.658 และผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์[br]หรือ CO2 และน้ำ 0:01:19.658,0:01:24.750 ในทั้งสองกระบวนการ CO2 สะสม[br]และสร้างฟองอากาศเล็ก ๆ 0:01:24.750,0:01:29.085 ฟองอากาศเหล่านี้ถูกขังอยู่ในกลูเตน[br]และสร้างโครงสร้างที่คล้ายกับฟองน้ำ 0:01:29.085,0:01:32.302 ที่ทำให้ขนมปังมีเนื้อที่นุ่ม 0:01:32.302,0:01:34.426 ไวน์ก็ต้องพึ่งพายีสเหมือนกัน 0:01:34.426,0:01:37.712 แต่สถานที่ทำไวน์[br]มีการควบคุมระดับออกซิเจนให้อยู่ในระดับต่ำ 0:01:37.712,0:01:40.672 เพื่อที่ยีสจะได้กินน้ำตาล[br]โดยใช้การหมัก 0:01:40.672,0:01:42.867 หรือวิธีแอนาโรบิก 0:01:42.867,0:01:48.204 กระบวนการนี้ มักเริ่มต้นด้วยยีสในธรรมชาติ[br]ที่มีอยู่ในองุ่นอยู่แล้ว 0:01:48.204,0:01:49.937 แต่เพื่อให้ได้ผลลัพท์[br]ที่มีความแน่นอนสม่ำเสมอ 0:01:49.937,0:01:54.092 ผู้ผลิตไวน์ส่วนใหญ่ยังเติมสายพันธุ์ยีส[br]ที่ทนต่อแอลกอฮอล์ระดับสูงได้ 0:01:54.092,0:01:57.084 ลงไปอย่างระมัดระวัง 0:01:57.084,0:01:59.630 ยีสกินน้ำตาลในน้ำองุ่น 0:01:59.630,0:02:01.048 และเมื่อระดับน้ำตาลตก 0:02:01.048,0:02:03.557 ระดับแอลกอฮอล์ก็สูงขึ้น 0:02:03.557,0:02:07.032 นั่นไม่ได้หมายความว่า[br]ไวน์ที่หวานกว่าจะมีแอลกอฮอล์น้อยกว่าเสมอไป 0:02:07.032,0:02:10.183 องุ่นชนิดต่าง ๆ [br]มีปริมาณน้ำตาลเริ่มต้นที่ต่างกัน 0:02:10.183,0:02:12.120 และน้ำตาลก็ยังสามารถถูกเติมลงไปได้ 0:02:12.120,0:02:14.210 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคาร์บอนไดออกไซด์ 0:02:14.210,0:02:16.370 มันก็แค่ลอยเป็นฟองอากาศออกไปผ่านช่อง 0:02:16.370,0:02:19.751 ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีคาร์บอนไดออกไซด์[br]เช่นแชมเปญหรือเบียร์ 0:02:19.751,0:02:23.929 ภาชนะที่ถูกปิดถูกใช้เป็น[br]ที่หมักครั้งแรกหรือครั้งที่สอง 0:02:23.929,0:02:27.183 เพื่อรักษาคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้ในขวด 0:02:27.183,0:02:32.146 ไวน์ยังนำเราไปสู่[br]จุลชีพที่ผลิตอาหารประเภทที่สอง 0:02:32.146,0:02:33.386 แบคทีเรีย 0:02:33.386,0:02:34.841 แบคทีเรียสายพันธุ์จำเพาะ 0:02:34.841,0:02:39.675 เปลี่ยนองค์ประกอบรสเปรี้ยวจัดในน้ำองุ่น[br]ให้มีรสอ่อนลง 0:02:39.675,0:02:44.567 ที่ทำให้เกิดรสชาติบางส่วนของไวน์แดง[br]และชาร์ดองเนย์ (Chardonnay) 0:02:44.567,0:02:47.682 แบคทีเรียอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า[br]แบคทีเรียกรดอะซิติก 0:02:47.682,0:02:49.809 ไม่เป็นที่ต้องการในไวน์ 0:02:49.809,0:02:51.771 แต่พวกมันก็มีหน้าที่เหมือนกัน 0:02:51.771,0:02:53.349 ถ้ามีออกซิเจนอยู่ 0:02:53.349,0:02:58.548 พวกมันจะเปลี่ยนเอธานอลในไวน์[br]เป็นกรดอะซิติก 0:02:58.548,0:03:02.780 ให้กระบวนการนี้ดำเนินต่อไป[br]และในที่สุด คุณจะได้น้ำส้มสายชู 0:03:02.780,0:03:06.190 แบคทีเรียเป็นกุญแจสำคัญของเนยแข็งด้วย 0:03:06.190,0:03:09.641 เพื่อทำเนยแข็ง[br]แบคทีเรียถูกเติมลงในนม 0:03:09.641,0:03:13.084 แบคทีเรียกินแลคโตส[br]ซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่ง 0:03:13.084,0:03:16.981 และสร้างกรดแลคติก[br]กับสารเคมีอื่น ๆ 0:03:16.981,0:03:19.998 เมื่อนมเป็นกรดมากขึ้นและมากขึ้น[br] 0:03:19.998,0:03:22.875 โปรตีนของมันเริ่มที่จะเกาะกัน[br]และกลายเป็นก้อน 0:03:22.875,0:03:26.604 นั่นเป็นเหตุว่าทำไมนมบูดจึงดูเป็นลิ่ม ๆ 0:03:26.604,0:03:29.240 ผู้ผลิตชีสมักเติมเอนไซม์[br]ที่เรียกว่า เรนเนท 0:03:29.240,0:03:33.423 ที่พบได้ตามธรรมชาติในวัว แกะ [br]และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด 0:03:33.423,0:03:35.519 เพื่อช่วยในกระบวนการนี้ 0:03:35.519,0:03:38.865 ในที่สุด ลิ่มเล็ก ๆ พวกนั้น[br]ก็จะกลายเป็นก้อนใหญ่ 0:03:38.865,0:03:41.565 ซึ่งจะถูกบีบอัดเอาน้ำออก 0:03:41.565,0:03:43.911 และกลายเป็นเนยที่มีเนื้อแข็ง 0:03:43.911,0:03:47.108 แบคทีเรียสายพันธุ์ที่ต่างกัน[br]จะให้เนยแข็งที่ไม่เหมือนกัน 0:03:47.108,0:03:51.163 ยกตัวอย่างเช่น แบคทีเรีย[br]ที่ให้คาร์บอนไดออกไซด์ 0:03:51.163,0:03:55.122 คือสายพันธุ์ที่ทำให้เนยแข็งสวิส[br]มีรูที่เป็นเอกลักษณ์ 0:03:55.122,0:04:00.204 เนยแข็งบางอย่าง เช่น บรี และกามองแบร์[br]ใช้จุลชีพชนิดอื่นด้วย 0:04:00.204,0:04:01.745 เชื้อรานั้นเอง 0:04:01.745,0:04:05.961 ฉะนั้นห้องครัวของคุณ[br]ทำงานในแบบห้องทดลองเทคโนโลยีชีวภาพ 0:04:05.961,0:04:10.219 ที่กำกับโดยจุลชีพ[br]ที่สร้างรายการอาหารให้กับคุณ 0:04:10.219,0:04:13.883 โยเกิร์ต, ซอสถั่วเหลือง, ซาวครีม,[br]ผักกาดดอง, 0:04:13.883,0:04:19.907 คีเฟอร์, กิมจิ, คอมบูชา,[br]เชดดาชีส, ขนมปังชัลลาห์, ปิต้า และนานน์ 0:04:19.907,0:04:22.472 แต่คงไม่กินหมดนี่ในคราวเดียวนะ