รู้กันไหมคะว่าสงครามระหว่างเทพกับอสูรเนี่ย เกิดขึ้นแค่เพราะ... พระจันทร์เป็นชู้กับเมียชาวบ้านค่ะ สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ คลิปนี้นะคะ กลับมาอีกครั้งกับซีรีส์ดราม่าระดับเทพค่ะ และบอกเลยว่า จากซีรีส์ที่ทุกคนชื่นชอบนี้เนี่ย วันนี้วิวพาทุกคนกลับไปที่ จุดเริ่มต้นของซีรีส์นี้ค่ะเพราะว่า เพราะว่าถ้าใครจำได้และติดตามวิวมานานๆเนี่ย จะรู้ว่าซีรีส์ดราม่าระดับเทพ เราเริ่มต้นขึ้นที่เทพพราหมณ์-ฮินดูนะคะ หรือว่าเทพของอินเดียนั่นเอง ซึ่งในวันนี้วิวจะพาทุกคนไปที่ อีเวนต์ดราม่าที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะคะ เพราะมันเกิดจากแค่เรื่องผัวๆเมียๆธรรมดา แต่มันก่อให้เกิดเอฟเฟกต์ใหญ่มาก ระดับที่เป็นสงครามระหว่าง เทวดากับอสูรเลยทีเดียวนะคะ เดี๋ยวเรามาฟังไปพร้อมๆกันว่า เฮ้ย มันเกิดอะไร เรื่องราวมันถึง ขยายใหญ่ไปได้ขนาดนั้นค่ะ แต่ว่าก่อนอื่นถ้าใครอยาก ติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะก็ วิวขึ้นไว้ให้แล้วแถวนี้ สามารถติดตามได้เลยค่ะ แต่ละช่องทางเนี่ย เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นทาง Youtube, Instagram, Facebook หรือว่า Twitter นะคะ ดังนั้นติดตามให้ครบค่ะ ส่วนใครอยากติดตามเรื่องราว เกี่ยวกับเทพสนุกๆองค์อื่นอีกนะคะก็ กดไปดูได้ตรงนี้เลยค่ะ วิวขึ้นเป็น playlist ไว้ให้แล้วนะคะ ในดราม่าระดับเทพของเรานี่มีตั้งแต่ เทพอินเดีย เทพญี่ปุ่น เทพจีน เทพสแกนดิเนเวีย เยอะแยะเต็มไปหมดแล้วนะคะ แล้วก็จะมีชาติอื่นๆเพิ่มมาอีกในอนาคตค่ะ ดังนั้นอย่าลืมติดตามกันเอาไว้นะคะ สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราว ที่ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ แม้ว่าทุกคนนะคะจะบอกว่าวิวชอบเกริ่นนาน แต่ยังไงก็รู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมอะนะ ที่จะต้องเกริ่นให้ทุกคนรู้พื้นฐานก่อน เพราะว่าเดี๋ยวจะนำไปใช้กันผิดๆนะคะ คือเรื่องราวที่วิวจะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเทพพราหมณ์-ฮินดูใช่ไหม ซึ่งเป็นศาสนาที่เก่าแก่ยาวนานมากๆนะคะ ร่วมห้าพันปี นึกสภาพเรื่องราวที่เราเคยเล่าไว้ เมื่อห้าพันปีที่แล้วกับเล่าตอนนี้ มันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป ไปเจอหนังสือเมื่อห้าพันปีก่อนในพระเวทอย่างนี้ อาจจะเขียนเล่าเรื่องนี้ไว้แบบนึง ไปเจอในสมัยปุราณะอาจจะเขียนอีกแบบนึง ไปเจอในมหากาพย์มหาภารตะก็เขียนอีกแบบนึง รวมไปถึงไปเจอในความเชื่อปัจจุบัน ก็อาจจะเป็นอีกแบบนึง และที่สำคัญนี่ยังไม่นับเลยนะคะ ว่าศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเนี่ย มีหลากหลายนิกายขนาดไหน มีนิกายที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่ นับถือพระนารายณ์เป็นใหญ่ นับถือ โอ๊ย เยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะคะ ดังนั้นแต่ละเวอร์ชันนี่ก็จะแตกต่างกันไปมากมายค่ะ ใครอยากรู้ว่าเวอร์ชันที่วิวนำมาเล่า ในวันนี้ผสมมาจากเวอร์ชันไหนบ้างก็ อ้างอิงอยู่ด้านล่างนะคะ แต่เพื่อความมันส์และความแซ่บเนี่ย วิวไม่ได้เอามาจากเวอร์ชันเดียวเป๊ะๆ เพราะว่าแต่ละเวอร์ชันมัน ลงรายละเอียดไม่เหมือนกันไง บางเวอร์ชันตอนต้นสนุก ตอนท้ายไม่สนุก บางเวอร์ชันตอนท้ายสนุก ตอนต้นไม่สนุก วิวก็เลยจับมิกซ์กันเรียบร้อยแล้วค่ะ ดังนั้นทุกคนฟังเพลินๆนะคะ เอาเป็นความรู้ขำๆของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แต่ถ้าใครจะนำไปใช้งาน จะไปใช้สอบ จะไปใช้วิจัยนี่ก็ไปหาอ่านเองนะคะ จะได้ระบุได้ว่าเออ เวอร์ชันนี้ ฉันพูดถึงศิวะปุราณะ เวอร์ชันนี้ ฉันพูดถึงวิษณุปุราณะ ฉันเอามาจากพระเวท ฉันเอามาจากตรงนั้นตรงนี้ค่ะ เอาล่ะ เลิกเกริ่น ทุกคนบ่นแล้ว เข้าเรื่องค่ะ เรื่องราวของการเป็นชู้ที่ยิ่งใหญ่ จนกระทั่งก่อสงครามระหว่าง เทพกับอสูรเนี่ยนะคะ ต้องบอกว่าเริ่มต้นขึ้นที่ครอบครัวนึงค่ะ ครอบครัวนั้นก็คือครอบครัวของพระพฤหัสบดีค่ะ พระพฤหัสบดีหรือว่าดาวพฤหัสเนี่ยอะนะ ถือว่าเป็นพระฤาษีผู้ยิ่งใหญ่องค์นึงค่ะ ซึ่งเขามีหน้าที่เป็นปุโรหิตของเหล่าเทพทั้งหลายนะคะ ก็คือเป็นคนที่คอยทำพิธีอะไรต่างๆให้เหล่าเทพนะคะ ไม่ว่าจะเป็นบูชาบ้าง ทำพิธีราชสูยะอะไรต่างๆ ก็ต้องเป็นพระพฤหัสบดีเป็นคนทำ นึกภาพเวลาทำพิธีก็ต้องมีนักบวชใช่ไหมคะ ทีนี้พระพฤหัสบดีเป็นคนสนิทของใคร ก็คือคนสนิทของพระอินทร์นั่นเอง ซึ่งก็เป็นกึ่งๆเหมือนหัวหน้าของเหล่าเทพเทวดา เก็ตไหม เราไม่ไปพูดถึงพระเป็นเจ้าผู้เป็นใหญ่ ระดับพระศิวะ พระนารายณ์อะไรพวกนี้นะ เพราะว่าอันนั้นคือเหมือนแบบ ฉันอยู่เหนือการปกครอง ฉันยิ่งใหญ่ของฉันแบบนั้นแล้วนะคะ คือในยุคแรกๆ พระอินทร์ถือเป็นหัวหน้าของเหล่าเทพค่ะ ทีนี้เรื่องราวมันเกิดขึ้นเพราะว่า พระพฤหัสบดีเนี่ยนะคะ มีเมียที่สวยมากๆอยู่คนนึงค่ะ นางคนนั้นก็คือ นางตารา นั่นเอง หรือว่าถ้าจะแปลเป็นภาษาที่เราเข้าใจง่ายๆก็คือ นางดารานะคะ นางดวงดาว อู้หู ผู้หญิงที่ไม่ใช่แค่ชื่อว่าดวงดาว นางเป็นดวงดาวเลยเนี่ย คิดว่าจะสวยขนาดไหนคะ ก็สวยมากๆ และทุกอย่างนี่ดี สมบูรณ์แบบ เพอร์เฟกต์มากๆ ระดับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในเบญจกัลยาณี ก็คือ หนึ่งในหญิงสาวที่งดงามเพียบพร้อมที่สุด 5 นางของวรรณคดีสันสกฤตเลยทีเดียวนะคะ ซึ่งเดี๋ยวถ้ามีโอกาส ตรงนี้เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังทีหลังค่ะ อย่างไรก็ตามนะคะ นางตารานี่เป็นเมียของพระพฤหัสบดี แล้วนึกภาพว่าพระพฤหัสบดีเป็นใคร เป็นฤาษี ทำหน้าที่นักบวช สวดมนต์อะไรต่างๆ ก็คือวันๆก็ไม่ค่อยว่างแล้วก็นิ่งอะ ประมาณว่านิ่งๆ เฉยๆ ผู้หญิงสวยระดับนี้อยู่กับคนที่นิ่งๆก็รู้สึกว่าแบบ ไม่เห็นได้ใส่ใจอะไรฉันเลย คิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นคะ นางตาราก็มีความรู้สึกว่าแบบ เหย เฮ้ย ไม่สนใจฉันเลยอะ อะไรอย่างนี้ แต่ก็ยังอยู่ไปได้เรื่อยๆนะคะ เพราะว่าก็แต่งงานแล้วไง และที่สำคัญนะคะ ในความเชื่อสมัยเก่าแบบเก๊าเก่าเนี่ย ผัวกับเมียถือว่าเป็นคนเดียวกันค่ะ ดังนั้นเวลาพระพฤหัสบดีทำพิธีอะไรต่างๆเนี่ยนะคะ ก็จำเป็นที่จะต้องมีเมียอยู่ในพิธีนั้นด้วยค่ะ ประมาณว่าฤาษีเนี่ยจะไม่สามารถ สวดอะไรแบบศักดิ์สิทธิ์ได้เลย ถ้าสมมติว่าเมียไม่มานั่งอยู่ด้วย ประมาณนั้น คือทำพิธีต้องทำร่วมกัน เพราะว่าถือว่าเป็นคนคนเดียวกันนะคะ อย่างไรก็ตามนะคะ ทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันมาแบบนี้เรื่อยๆค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องราวขึ้น เพราะว่า วันนึงเนี่ยนะคะ พระอินทร์มีการ เรียกชุมนุมเทพต่างๆค่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีท่าไหน พระพฤหัสบดีก็ไม่ว่างนะ ประมาณว่าน่าจะชุมนุมสังสรรค์กันธรรมดา ปาร์ต้งปาร์ตี้อะไรอย่างนี้ ไม่ได้จะทำงานอะไรอย่างนี้นะคะ พระพฤหัสบดีก็เลยไม่มาค่ะ ทิ้งให้นางตาราเนี่ยนั่งอยู่คนเดียว ในบรรดาที่ประชุมเทพนะคะ นั่งไปนั่งมา บังเอิ๊ญบังเอิญ มองไปมองมา ตาประสานตา ไปประสานตากับชายหนุ่มคนนึงค่ะ ชายหนุ่มคนนั้นนะคะก็คือ Chandra หรือว่า Soma นั่นเอง ซึ่งถ้าใครรู้ศัพท์ก็จะรู้ว่า นี่แปลว่า พระจันทร์ นะคะ พระจันทร์กับนางตาราเนี่ย สายตาประสานสายตากันค่ะ เกิดการปิ๊งๆ หลงรักกันตั้งแต่วินาทีแรกเห็น เพราะว่าอะไร นางตาราก็สวย สวยมากๆ แล้วพระจันทร์ พระจันทร์เป็นใคร พระจันทร์เป็นชายหนุ่มที่รูปงาม อันดับต้นๆของวรรณคดีสันสกฤต เอาจริงๆ ถ้าวิวจำไม่ผิดนะทุกคน รู้สึกว่าพระจันทร์เนี่ยจะเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด ไม่อันดับหนึ่งก็อันดับที่สองของวรรณคดีสันสกฤตเนี่ย ดังนั้นผู้ชายที่หล่อมากๆ กับผู้หญิงที่สวยมากๆ และโดนผัวทอดทิ้ง ตาประสานตากันก็เกิดแบบ สปาร์กขึ้นมาซะอย่างนั้น เกิดความรักกันขึ้นมานะคะ ทีนี้พอรักกันขึ้นมาแล้วทำยังไง อะ นางตาราโดนทิ้งๆขว้างๆอยู่แล้วไง ดังนั้นนะคะ หลังจากวันนั้นค่ะ พระจันทร์ก็แอบมาหานางตาราบ่อยมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พระพฤหัสบดีไปทำธุระ ไปสวดมนต์ ไปนู่นไปนี่ ถ้านางตาราไม่ได้ไปด้วย พระจันทร์ก็จะมาหานางตาราตลอดเวลาเลยค่ะ จนกระทั่งวันนึงนะคะ พระจันทร์นี่กำลังโอบกอดนางตาราอยู่ ขณะที่กำลังกอดกันไปกอดกันมา นางตาราเนี่ยเกิดบอกรักพระจันทร์ขึ้นมาค่ะ ประมาณว่าแบบข้ารู้สึกว่า I'm yours ฉันเป็นของเธอ อะไรประมาณนี้ พระจันทร์ก็เลยรู้สึกว่า ไม่ได้การละ นี่มันเมียฉันต่างหาก มันไม่ใช่เมียพระพฤหัสบดี ฉันจะไม่ทนให้ผู้หญิงคนรักของฉัน อยู่กับผู้ชายที่เฉยชาแบบนี้แล้ว ดังนั้นนะคะ พระจันทร์ก็เลยลักพาตัว นางตาราไปเลยซะอย่างนั้นค่ะ ลักพาตัวไปปุ๊บก็ รู้สึกว่าเฮ้ย พระพฤหัสบดีจะต้องไม่แฮปปี้แน่ๆเลย ฉันจะหนีไปคนเดียว ฉันก็ต้องปกป้องตัวเอง ไม่เวิร์กเท่าไหร่ ต้องไปหาคนอยู่ด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ปกป้องฉัน ดังนั้นนะคะ พระจันทร์ก็เลยตัดสินใจ พานางตาราหนีไปที่เมืองอสูรค่ะ ไปถึงก็ไปหากษัตริย์แห่งอสูรนะคะแล้วก็ เข้าไปบอกว่าข้าเนี่ยหนีมา ช่วยปกป้องข้าหน่อย อะไรต่างๆ ขออยู่ด้วย เป็นผู้ลี้ภัย ประมาณนี้เลย ซึ่งตามหลักแบบธรรมะของสันสกฤต คือธรรมะไม่ใช่ธรรมะแบบศาสนาพุทธนะ ธรรมะ แปลว่า หน้าที่ คือในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเนี่ย เขาจะมีการเขียนกัน เรื่องหน้าที่ค่อนข้างเยอะ ประมาณว่า เกิดมาเป็นคนนี้จะต้องมีหน้าที่นี้ แล้วก็ยึดมั่นกับหน้าที่นี้ไปจนตาย เพื่อที่จะได้ไปพบพระเจ้า เพื่อที่จะได้เป็นคนดี นึกออกไหม ถ้าเราไปดูพวกวรรณคดีสันสกฤตต่างๆจะเห็นว่า มันเป็นการเถียงกันที่แบบ ไอ้นี่มันดูบาปมากเลยอะ แต่มันเป็นหน้าที่ก็จะต้องทำ เหมือนกับตอนที่พระกฤษณะเถียงกับอรชุน อรชุนก็จะแบบทำไมฉันต้องฆ่าญาติตัวเองด้วย แต่พระกฤษณะก็จะแบบว่า ก็เธอเป็นนักรบ เธอมีหน้าที่ฆ่า ก็ฆ่าไป มันไม่บาป อะไรอย่างนี้นะคะ อารมณ์นั้นเลย ซึ่งกษัตริย์แห่งอสูรค่ะ มีหน้าที่อะไร กษัตริย์มีหน้าที่ปกป้อง คนที่อยู่ในเมืองของตัวเองค่ะ ใครที่ลี้ภัยมา ใครที่เป็นผู้อ่อนแอ มาแสวงหาการปกป้อง กษัตริย์จะต้องปกป้องนะคะ ดังนั้นกษัตริย์ของอสูรนะคะก็เลย รับพระจันทร์กับนางตารา เข้ามาอยู่ที่เมืองตัวเองค่ะ ตัดภาพกลับไปที่พระพฤหัสบดี เห็นว่าเมียตัวเองหาย หนึ่ง เมียหายโกรธไหม โกรธอยู่แล้วแหละ สอง เป็นปัญหาอีก ทำงานไม่ได้เมียไม่อยู่ อ้าว เกิดปัญหาแล้วนะคะ พระพฤหัสบดีก็เลยต้องการจะ ไปพานางตารากลับมาค่ะ ทีนี้ถามว่ามีแค่พระพฤหัสบดีหรือเปล่า ที่เสียประโยชน์จากการที่นางตาราหายไป บอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ มีอีกคนนึงที่เสียผลประโยชน์หนักมาก คนคนนั้นก็คือพระอินทร์นั่นเอง เพราะอะไร เพราะพระอินทร์จะต้องใช้พิธีต่างๆ ที่พระพฤหัสบดีทำให้ แต่พระพฤหัสบดีทำไม่ได้ เพราะนางตาราไม่อยู่ ดังนั้นนะคะ พระอินทร์ก็เลยมีความแบบ เฮ้ย แกจะไปทวงนางตาราคืนเหรอ เดี๋ยวฉันไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วนะคะ ตอนนั้นเนี่ยพระอินทร์ถือว่า เป็นเพื่อนสนิทกับกษัตริย์แห่งอสูรเลยนะ ก็จะลงไปทวงให้นะคะ แต่ปรากฏว่าส่งสารส่งอะไรไปต่างๆ ก็มี conflict กันเกิดขึ้นค่ะ คือพระอินทร์เนี่ยถือธรรมะที่ว่า เขาเป็นผัวเมียกัน เขาต้องผัวเดียวเมียเดียว เธอจะไปขโมยเมียคนอื่นไม่ได้ ถ้าเธอสนับสนุนการขโมยเมียคนอื่น ฉันก็จะต้องพยายามเอาเมียมาคืนให้ได้ ส่วนฝั่งกษัตริย์ของเหล่าอสูร ก็อย่างที่วิวว่านี่แหละค่ะ ธรรมะเขาคือ ฉันไม่รู้เรื่องราวข้างนอก แต่ไอ้นี่มันหนีร้อนมาพึ่งเย็น ฉันมีหน้าที่ดูแลปกป้องมันให้ถึงที่สุด ดังนั้นนะคะ สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ พระอินทร์กับกษัตริย์ของอสูรก็เลย รบกันซะอย่างนั้นเลยนะคะ ทั้งๆที่ไม่ใ่ชเรื่องของตัวเองเลย ก็รบกันขึ้นมาใหญ่โต เป็นสงคราม ระหว่างเหล่าเทพกับอสูร รบกันอยู่นานมาก สูญเสียกันไปเยอะนะคะ ฝั่งอสูรก็ตายกันไป รวมถึงกษัตริย์แห่งอสูรนี่ก็ตายไปด้วยนะคะ จนทายาทนี่ต้องขึ้นมาปกครองแทน ฝั่งเทวดานี่ก็เรียกได้ว่านองเลือด เรียกได้ว่ารบกันใหญ่มากนะคะ อย่างไรก็ตามค่ะ เรื่องราวก็ไม่จบลงซักที จนกระทั่งสงครามครั้งนี้นะคะ ยิ่งใหญ่ถึงระดับที่แบบ มหาเทพจะต้องลงมาด้วย เช่นแบบพระศิวะอะไรอย่างนี้ ก็มีการลงมาช่วยรบ ลงมาอะไรต่างๆ แล้วก็ลงมาปรามว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ เอาไปเอามา สุดท้ายเนี่ย มันเหมือนยืดเยื้อไม่จบสักที พระจันทร์ก็เริ่มรู้สึกว่าแบบ เออ ฉันก็ลี้ภัย ฉันก็อยู่กับนางตารา แต่นึกสภาพว่าไปไหนไม่ได้อะ ลี้ภัยแล้วก็ต้องอยู่แค่ในเมืองของอสูร ออกไปข้างนอกก็ตาย ก็โดนแยกอะไรต่างๆ สุดท้ายนะคะ พระจันทร์ก็เลยรู้สึกว่า เออ ฉันยอมแพ้ละ สงครามครั้งนี้จะไ้ด้จบซะทีค่ะ พระจันทร์ก็เลยตัดสินใจส่งนางตารา คืนให้พระพฤหัสบดีค่ะ สงครามครั้งนี้ก็เลยจบลงนะคะ แต่เรื่องมันยังไม่จบ ไม่งั้นมันดราม่าไม่พอนะคะ ทุกคนฟังแค่นี้จะแบบ นี่ดราม่าระดับเทพแล้วเหรอ ก็คือ ก็เทพแล้วนะ แค่แย่งเมียชาวบ้านจนเกิดเป็นสงครามใหญ่โตเนี่ย แต่มันยังดราม่าไม่พอค่ะทุกคน ถามว่าทำไมถึงดราม่าไม่พอนะคะ เพราะว่าทันทีที่พระพฤหัสบดี เจอหน้านางตาราเนี่ยนะคะ พระพฤหัสบดีด้วยความที่เป็นนักบวชเนี่ยนะ ก็เริ่มเทศน์นางตาราใหญ่โตเลยค่ะ ประมาณว่าแบบ แก ทำไมแกถึงไม่รักเดียวใจเดียว ทำไมแกไม่รักนวลสงวนตัว ทำไมๆๆๆ ด่าๆๆๆๆ นะคะ ประมาณว่าแกจะไปนอกใจผัวไม่ได้ แกต้องรักษาความบริสุทธิ์ของแกสิ อะไรอย่างนี้นะคะ ซึ่งถามว่านางตารายอมไหม จะนั่งแบบ ฮึก ผัวด่า อะไรอย่างนี้ไหม ไม่นะคะ นางตารานี่ก็ด่าคืน แล้วด่าเจ็บเหมือนกันค่ะ นางตาราก็หันไปหาพระพฤหัสบดีแล้วบอกว่า จำได้ไหม ระหว่างสงครามเนี่ย ท่านทำอะไรไปบ้าง คือในระหว่างสงครามเนี่ยนะคะ มันก็มีรายละเอียดปลีกย่อย มีผู้ที่ทะเลาะกันอะไรต่างๆมากมายใช่ไหม แต่หนึ่งในนั้นค่ะ มีเรื่องราวของนางคนนึงชื่อว่านางตุลสี ถ้าใครเคยฟังคลิปดราม่าระดับเทพของวิวที่พูดถึงว่า ทำไมคนอินเดียถึงไหว้ต้นกะเพราเนี่ยนะ ก็น่าจะรู้จักนางคนนี้ดีนะคะ ก็เป็นที่มาของต้นกะเพรา อย่างไรก็ตาม ถ้าใครไม่เคยฟังกดไปดูได้ตรงนี้ และที่สำคัญ เวอร์ชันนี้ที่วิวจะเล่าเนี่ย เป็นคนละเวอร์ชันกับเวอร์ชันนั้น โอเคนะ ดังนั้นมันไม่เหมือนกันค่ะ นางตุลสีเวอร์ชันนี้นะคะ เป็นเมียของอสูรตนนึงค่ะ ซึ่งเป็นเหมือนแบบนักรบของฝั่งอสูรเลย รบได้แบบเก่งกล้าสามารถมากนะคะ เรียกได้ว่าฝั่งเทพเนี่ยเอาไม่ลง ทำยังไงก็ไม่แพ้ซะที ดังนั้นนะคะ พระพฤหัสบดีค่ะก็เลย ไปร่วมมือกับน้องชายของพระอินทร์ค่ะ เพื่อที่จะทำให้นักรบอสูรตนนี้ยอมแพ้นะคะ ก็เลยให้น้องชายของพระอินทร์เนี่ย แปลงร่างตัวเองค่ะให้เป็นเหมือนกับอสูรตนนี้ แล้วก็เข้าไปหานางตุลสี ซึ่งนางตุลสีเนี่ยเข้าใจว่าอ๋อ นี่คือผัวตัวเอง ก็เลยไปมีอะไรด้วย นึกออกปะ ก็ผัวกลับบ้าน ดังนั้นปรากฏว่าหลังจาก เรื่องราวเฉลยขึ้นมาทั้งหมดค่ะ นางตุลสีด้วยความที่เป็นผู้หญิงที่ดีเลิศมากๆ เป็นผู้หญิงที่แบบรักนวลสงวนตัว เป็นผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียว แล้วก็รู้สึกว่าแบบนี่มันทำให้ฉันอัปยศ ฉันทนไม่ได้ นางตุลสีก็เลยฆ่าตัวตายนะคะ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ พอนางตุลสีฆ่าตัวตาย พระพฤหัสบดีกับพระอินทร์ค่ะ ก็เอาข่าวไปบอกกับแม่ทัพอสูรตนนั้น กลางสนามรบเลยว่าแบบ อ๋อ ฉันไปข่มขืนเมียแกมาอะ แล้วเมียแกก็รู้สึกอัปยศ ก็เลยฆ่าตัวตายไปแล้ว ทำให้แม่ทัพอสูรตนนั้นนะคะหัวใจสลาย แล้วก็โดนฆ่าตายในที่สุด ดังนั้นฝั่งเทพก็เลยชนะสงครามครั้งนั้นไป ซึ่งนางตาราก็ยกตัวอย่างเรื่องนี้ขึ้นมาว่า ไหนบอกว่าต้องรักเดียวใจเดียว ต้องไม่ไปยุ่งกับความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนอื่น จะต้องอะไรต่างๆไง แล้วเอาคนไปข่มขืนตุลสีทำไม ฮะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องนะ ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งการด่าแบบนี้ทำให้พระพฤหัสบดีนะคะ ถึงกับเงียบกริ๊บเลยประมาณว่าแบบ Oops! Oopsie Daisy! ประมาณนั้นนะคะ ก็เลยจบเรื่องราวนี้ไปค่ะ แต่เรื่องราวยังไม่จบ เพราะว่าตอนที่พระจันทร์นะคะ ส่งนางตาราคืนมา เรียกได้ว่าส่งของแถมมาด้วยค่ะ เพราะว่านางตาราไม่ได้มาคนเดียว นางตารามากับลูกในท้องด้วยค่ะ ก็คือท้องขึ้นมาซะอย่างนั้น แน่นอนนะคะว่าพอตาราท้องขึ้นมา พระพฤหัสบดีก็จะต้องสงสัยว่าลูกใคร ลูกฉัน หรือลูกมัน อธิบายมาเดี๋ยวนี้ ตารา ซึ่งนางตาราก็แบบไม่บอก ฉันไม่บอก ใครจะทำไม เรื่องราวก็วุ่นวายขึ้นมาอีกนะคะ จนกระทั่งนางตาราคลอดลูกออกมาค่ะ ทุกคนก็แบบแล้วสรุปพ่อเป็นใคร เด็กคนนี้จะต้องไปอยู่กับใครนะคะ ดังนั้นค่ะ พระอินทร์ก็เลย จัดเหมือนชุมนุมเทวดาขึ้นมาค่ะ แล้วก็ถามนางตาราตรงนั้นว่าแบบ ตารา นี่ลูกใคร ฉันจะต้องเคลียร์ปัญหานี้ให้ได้ นางตาราก็แบบไม่บอก ทำไมฉันจะต้องบอกด้วย เรื่องของฉัน ยุ่งอะไรกับฉันด้วยนะคะ อย่างไรก็ดีค่ะ หลังจากที่คนนั้นคนนี้ถามมามากมาย สุดท้ายคนที่ถามขึ้นมาอีกคนนึงนะคะก็คือ เด็กคนนั้นนั่นเอง ก็ถามว่า แม่ครับ แม่ครับ ผมเป็นลูกใครเหรอครับ ซึ่งบางเวอร์ชันเนี่ยบอกถึงขนาดที่ว่า เด็กคนนี้ไม่ได้ถามตอนที่คลอดออกมานะ แต่ว่าถามมาจากในท้องของนางตาราเลยทีเดียว ซึ่งพระอินทร์นะคะก็เลย อาศัยจังหวะนี้บอกนางตาราว่า จริงๆแล้วตามหน้าที่เนี่ย เจ้าไม่มีสิทธิ์ต้องตอบใครทั้งสิ้น ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร แต่ในฐานะแม่เนี่ยนะ เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธลูก เวลาลูกถามว่าพ่อของเขาเป็นใคร ดังนั้น คายออกมาเดี๋ยวนี้นางตารา ใครเป็นพ่อนะคะ ซึ่งสุดท้ายนางตาราก็เลยจำเป็นจะต้องบอกค่ะว่า อ๋อ พ่อของเด็กคนนี้ไม่ใช่พระพฤหัสบดีหรอก พ่อของเด็กคนนี้ก็คือ พระจันทร์นั่นเองนะคะ สุดท้ายเด็กคนนี้ก็เลยจะต้องไปอยู่กับพระจันทร์ค่ะ ซึ่งเด็กคนนี้ถามว่าเป็นใคร เด็กคนนี้นะคะก็คือ พระพุธ หรือว่าดาวพุธนั่นเอง ซึ่งเป็นดาวที่มีปัญญามากอะไรแบบนี้ แล้วก็เป็นฤาษีเหมือนกันนะคะ ซึ่งถามว่าพระพุธคนนี้จะไปมี วีรกรรมอะไรอีกในอนาคตนะคะ ก็ต้องบอกว่าพระพุธคนนี้นะคะก็จะกลายไปเป็น ผัวของนางอิลา จากอิลราชคำฉันท์ ที่เกิดจากการที่ผู้ชายโดนสาป ให้เป็นผู้หญิง นึกออกไหม และสุดท้ายนะคะ พระพุธคนนี้ก็จะมีลูกกับนางอิลาค่ะ ชื่อว่า ปุรูรวัส นั่นเอง ซึ่งปุรูรวัสเนี่ยนะคะก็จะเป็น ต้นตระกูลของเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายมากมาย ดังนั้นเหล่ากษัตริย์ในอินเดีย ทั้งหลายมากมายเนี่ยนะคะ ซึ่งเป็นทายาทของปุรูรวัสและ ทายาทของพระพุธ ซึ่งเป็นลูกของพระจันทร์ ก็เลยได้ชื่อว่า กษัตริย์จันทรวงศ์ตั้งแต่นั้นมาค่ะ คือถ้าใครรู้จะรู้ว่า กษัตริย์ในอินเดียนี่มี 2 วงศ์ดังๆนะ ก็คือจันทรวงศ์กับสุริยวงศ์ใช่ไหม สุริยวงศ์นี่ก็คือพวกพระราม อะไรอย่างนี้ใช่ไหม เราจะเห็นเวลาเขียนกลอนก็จะแบบ สุริยวงศ์ทรงศร อะไรอย่างนี้ ส่วนจันทรวงศ์นี่ก็คือพวกมหาภารตะ ที่รบๆกันเนี่ยก็คือพวกจันทรวงศ์ รบกันเองทั้งนั้นเลยค่ะ เดี๋ยวเราก็จะไปดูในอนาคตต่อไปนะ ส่วนเรื่องของปุรูรวัสเนี่ยวิวเคยเล่าไว้แล้ว เรื่องของอิลาก็เคยเล่าไว้แล้วเหมือนกัน สามารถกดไปดูได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ถามว่าเรื่องดราม่า ทั้งหมดนี้ตรงนี้จบสิ้นหรือยัง ก็ต้องบอกว่าจริงๆมันยังมี เรื่องราวต่อไปอีกยาวมากนะ ได้แก่ พระจันทร์เนี่ยพอเสียนางตาราไปก็ เสียใจมาก สำมะเลเทเมา ไปมีเมียอีก 27 คน ซึ่งก่อให้เกิดดราม่าอีกก้อนใหญ่ๆก้อนนึง ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกในอนาคตนะคะ ส่วนฝั่งพระพฤหัสบดีนี่ก็เดี๋ยวจะไปมีดราม่าอีกว่า ฉันรับไม่ได้ที่นางตาราไปเป็นเมียคนอื่นมาแล้ว ก็เลยจับนางตาราเผาทิ้ง อะไรแบบนี้ แล้วก็ชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ให้เกิดขึ้นมาใหม่อีกรอบนึง แล้วก็ถือว่าเออ นางกลับมาเป็น สาวบริสุทธิ์อีกรอบนึงแล้ว เพราะว่าผ่านไฟแล้ว ซึ่งไฟเนี่ยถือว่าเป็นอะไรที่แบบ ล้างมลทินได้ ประมาณนั้น ซึ่งก็จะไปเกี่ยวกับเหตุผลเดียวกับ ว่าทำไมนางสีดาต้องลุยไฟ เพราะว่าไฟคือการชำระล้างให้บริสุทธิ์ ประมาณนั้นค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม วิวคิดว่าดราม่าระดับเทพ ในคลิปนี้ยาวพอสมควรแล้วแหละ แล้วก็ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไล่มาตั้งแต่ตอนที่เป็นชู้ ไล่มาจนถึงตอนที่ได้เห็นผลของการเป็นชู้แล้วนะคะ ดังนั้นนะคะ วันนี้คิดว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อะไรยังไงอย่าลืม กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ ส่วนใครอยากเห็นวิวเล่าเรื่องราวอะไรอีกนะคะ ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลย หรือว่าใครเคยฟังเวอร์ชันอื่นอะไรที่ มีตรงไหนแซ่บกว่าก็เสริมมาได้ค่ะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ เป็นไงบ้างทุกคน เรื่องราวในวันนี้ดราม่าสะใจไหมคะ จากดราม่าในครอบครัว ขยายใหญ่เป็น ดราม่าระดับสวรรค์ ระดับโลกเลยทีเดียวนะ ซึ่งในนิทานอินเดียเนี่ย มีเรื่องราวอะไรแบบนี้อีกเยอะมาก ซึ่งเดี๋ยววิวจะค่อยๆทยอย เอามาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ ก็ฝากซีรีส์ดราม่าระดับเทพไว้ให้ทุกคนด้วยค่ะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ